|
ความคิดเห็นที่ 40 |
ก่อนอื่น ต้องขอบคุณทุกๆท่านเลยค่ะ ที่มาช่วยแนะนำและให้ความรู้ (ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้รับน้ำใจ และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากโลกไซเบอร์) ยิ่งทำให้ตอกย้ำความรู้สึกว่า นี่แหล่ะคือเอกลักษณ์ของความเป็นไทยอย่าแท้จริง (อย่าหาว่าดราม่าเลยนะคะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)
ขอบคุณ คุณ Ph มากๆค่ะ ที่ช่วยทดลองให้เห็นเป็นตัวอย่าง(ซาบซึ้งใจจริงๆ) ขอบคุณ คุณ ekkie ที่คอยเข้ามาแนะนำเทคนิค และวิธีการทางวิศวกรรมให้สาวนักการตลาดคนนี่เข้าใจได้ง่ายๆ ขอบคุณ คุณ Professor ที่คอยเข้ามาดูและ และเป็นกำลังใจให้เป็นระยะๆ และขอบคุณอีกหลายๆท่าน ที่เราไม่ได้เอ่ยชื่อ อาทิ คุณวิศนเสนา คุณmonsungja คุณกล่องออมสิน คุณ--> (::neo::) คุณฉงฉัย คุณAo+ คุณลิงจุ่น คุณ...(ถ้าไม่ได้เอ่ยถึงท่านใดอย่าโกรธกันนะคะ เค้าไม่เคยตั้งกระทู้แล้วมีคนมาช่วยตอบเยอะอย่างนี้มาก่อน ตั้งตัวไม่ทันค่ะ)
คือเราเข้าใจในทุกท่านนะคะ ที่แนะนำให้เราลองหาที่ขายแล้วขอเสียบปลั๊กไฟก่อน จะง่ายกว่าและไม่ต้องเสียเงินเยอะ แต่เรื่องมันประมาณนี่ค่ะ เคยลองไปสืบๆดูแล้ว 1.บางทำเลก็ไม่มีที่ว่างให้ขาย แม่ค้ามากมาย 2.มี่ที่ให้ขาย แต่ค่าเช่าก็ 5,000-8,000 บาท บางที่ก็เป็นหมื่น แล้วยังมีค่าประกัน ค่ามัดจำล่วงหน้าอีก โน่นนี่นี่นั่น เฮ้อ..อ 3.บางที่ก็มีเจ้าที่เค้าขายอยู่แล้ว เดี๋ยวเค้าจะหาว่าไปแย่งลูกค้าเค้า 4.บางที่ ที่จะขอเสียบไฟ เค้าก็จะโขกราคา ประมาณว่าจ่ายเป็นรายเดือนไปเลย เกือนละกี่พันว่าไป เพราะถือว่าไปบังหน้าร้านเค้าด้วย T_T และอีกสาระพัด สาระเพปัญหาจุกจิกหน่ะค่ะ
เราก็เลยอยากตัดปัญหาให้เป็นเอกเทศไปเลยหน่ะค่ะ พอดีว่าบ้านเราอยู่แถวปทุม ซึ่งข้ามจากสะพานนวลฉวี เข้าเส้น345 ที่จะไปบางบัวทอง สุพรรณบุรี เราเห็นว่าถนนนี้รถเยอะ แล้วไม่ค่อยมีร้าน หรือมีปั้มน้ำมันมากนัก เลยคิดเอาว่าบางท่านขับรถ ร้อนๆ เหนื่อยๆ ถ้ามีร้านน้ำก็คงจะแวะซื้อกันบ้าง (ซึ่งเราไม่เสียค่าที่ และไม่มีคู่แข่งเลย :) หรือถ้าเริ่มเจ๋งแล้วอาจจะแวะเวียนไปจอดใกล้ๆแถวตลาดนัด หรือตามงานเทศกาลแถวนนท์ หรือปทุมฯ
ในเบื้องต้นคิดเอาว่า ถ้าวันนึงขายได้แบบต่ำมากๆๆๆ สัก 50แก้ว แก้วละ 20 บาท ก็ได้ 1,000 บาท กำไรประมาณครึ่งนึง คือ 500 บาท (ซึ่งจากการคิดหาต้นทุนแล้ว กำไรน่าจะสัก 60-70% แต่ตีต่ำๆไว้ก่อนค่ะ) ซึ่งอันนี้เคยมีพี่คนรู้จักคนนึง เค้าเคยขายน้ำตาลสดแบบรับเค้ามา ถังละประมาณ 8-900 บาท เค้าขายช่วงเช้าถึง 3-4 โมง เค้าบอกว่า เค้าได้เงิน 1800-1900 บาท ขายข้างถนนนี่แหล่ะค่ะ มีรถมาแวะจอดซื้อ (แต่ตอนนี้เค้าเลิกขายไปแล้ว กลับไปทำนาที่บ้าน เพราะรายได้ไม่พอ ค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายที่กรุงเทพ กับผ่อนรถกะบะ และส่งลูกเรียนอีก ย้ายกลับไปทั้งลูกทั้งเมียเลยค่ะ)
ส่วนเรื่องการลงทุนซื้อรถตู้ พอดีรถคันนี้ซื้อมาได้ในราคาถูก รวมซ่อมแซม เล็กน้อยก็ตกประมาณ 140,000 บาท ราคาขายตอนนี้ประมาณ 15-160,000 บาทค่ะ ถ้าเกิดว่าอีก 6 เดือน เรามีจ๊อบเข้ามาหรือเกิดปีหน้า ขายไม่ดี เราขายรถทิ้งก็อาจจะเท่าทุน หรือถ้าบางทีขายทั้งสภาพนี้เลย อาจจะอัพราคาค่าอุปกรณ์ พร้อมสูตรการทำได้เลย อาจจะทำให้ได้ราคามากขึ้น (แฮะๆๆ..อย่าว่าเขี้ยวเลยนะคะ สาวการตลาด โทบัญชี ก็อย่างงี้ แหล่ะค่ะ คิดถึงเรื่องจุดคุ้มทุนตลอดเวลา) หรือว่าถ้าเราเซทระบบภายในได้คงที่แล้ว มันคือร้านค้าย่อมๆแล้ว ขายน้ำปั่นไม่เวิร์ค เราก็เปลี่ยนไปขายอย่างอื่นๆได้อีก ตามแต่ฤดูกาลของเมืองไทย ซึ่งเราว่ามันก็คงจะมีแต่หน้าร้อน ร้อนมาก ร้อนจะตาย เท่านั้นแหล่ะค่ะ
อีกอย่าง เรามานั่งคิดถึงว่า อย่างสมมุติเวลาพาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็เอารถไป พอถึงที่ก็เปิดขายไปเลยได้เงินค่าน้ำมันรถนิดหน่อย ก็คงจะดีไม่น้อย (เขี้ยวจริงๆใช่ไหมคะ ลองคิดเล่นๆหน่ะค่ะ แต่ทำได้ก็จะดี :) )
สรุปว่า เราต้องซื้อแบตแบบ Deep cycle 1 ลูก ,inverter และเครื่องชาร์ตใช่ไหมคะ จะดีกว่าการซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช่ไหมคะ?? แต่เครื่องปั่นไฟ ถ้าอนาคตเราไม่ได้ขายของแล้ว เราขายเป็นมือสอง กับส่งให้ลุงที่ บ้านนอกใช้ในทุ่งได้ จะดีกว่ากันหรือไม่อ่ะคะ (อย่าว่าโง้นงี้ เรื่องมากเลย นะคะ เป็นผู้หญิงชอบคิดเผื่อ หรืองกขึ้นสมองหน่ค่ะ)
งั้นแค่นี้ก่อนละกันนะคะ กลัวทุกท่านจะรำคาญ ว่าเข้ามาแนะนำแล้วเรา เรื่องมาก และขี้งก เดี๋ยวจะไม่เข้ามาแนะนำอีก แย่แน่เลย T_T งั้นเดี๋ยวจะลองไปประเมินงบประมาณ และไปสืบราคาอุปกรณ์ ที่ตลาดพูนทรัพย์ กับร้านอมรที่เซียร์รังสิตก่อนนะคะแล้วจะมารายงานผลค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะคะ ถ้ามีคนที่เค้าอยากประกอบอาชีพ แบบเรา แล้วเค้ามาถามวิธีการ เราขอสัญญว่าจะแนะนำเค้าแบบไม่กั๊กเลยค่ะ พร้อมกับบอกว่ารถคันนี้สำเร็จได้เพราะคนในพันทิปช่วยกันนนนน :)
จากคุณ |
:
Pattanipa
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มิ.ย. 53 02:49:21
|
|
|
|
|