ความคิดเห็นที่ 1 เด๋วNgoก้ออกมาดิ้นรับงาน จากคุณ : UNUbon221 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:16:20

ความคิดเห็นที่ 2 เขื่อนไม่ใช่ทางออกเดียวในการแก้ปัญหาครับ การแก้ปัญหาเรื่องน้ำยังทำได้อีกหลายทาง จำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ประกอบ ทั้งการสร้างเขื่อนยังเป็นสาเหตุหนึ่งของการทำลายป่าต้นน้ำในอีกทางหนึ่งด้วยครับ จากคุณ : ใช่ครับ ผมเป็นNGO (Bugbear) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:22:57

ความคิดเห็นที่ 3 เหรียญมีสองด้าน ทุกอย่างก็ได้อย่างเสียอย่าง มีอ่างเก็บน้ำ มีเขื่อน มีระบบชลประทาน ก็ต้องแลกกับสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบ ปากท้อง vs ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกแตกสำหรับประเทศไทย พวกจะเอาเศรษฐกิจเข้าว่า ก็สนใจแต่ปากท้องตัวเอง ไม่คำนึงถึงผู้รับผลกระทบ พวกจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มันมีอยู่ทุกวินาทีในทุกแห่งหนทุกพื้นที่ในโลก แต่ถ้าทุกฝ่ายมีความเอื้ออาทรเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันกับเพื่อนร่วมประเทศ หันหน้าเข้าหากัน เธอถอยก้าว ฉันถอยก้าว สมานฉันท์เกิด ทุกคนสบายใจ เธอสร้างเขื่อนได้ แต่ไม่ maximize profit ได้มั้ย เพื่่อให้ผลกระทบน้อยลง และหากมีผลกระทบเกิดขึ้นแม้ว่าได้พยายามป้องกันแล้ว เธอผู้มี profit ก็ต้องรับผิดชอบดูแลนะ แค่นี้ก็จบข่าว ว่าแต่มันมีด้วยหรือ ความเอื้ออาทรเห็นอกเห็นใจกันและกันในประเทศไทยในวันนี้ จากคุณ : vandyman เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:29:55

ความคิดเห็นที่ 4 "จริงไม้ครับ" ขอตอบว่า "ไม่จริงครับ" จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:44:17

ความคิดเห็นที่ 5   เขื่อนอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในปัจจุบัน ถ้าจะสร้างสถานที่ผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งที ควรมองถึงอนาคตด้วย ยกตัวอย่างเขื่อนภูมิพล เริ่มสร้างเมื่อปี 2496 เริ่มผลิตไฟฟ้าปี 2507 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2504 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเขื่อน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2507 ณ เวลานี้ การใช้พลังงาน nuclear น่าจะเริ่มสร้างได้แล้ว ใช้เวลาสร้าง 10 ปี และให้พลังงานได้อีก 50-80 ปี หาสถานที่ดีๆ ที่เป็นหุบเขาปิด ถ้ารังสีรั่ว จะได้ไม่ไหลไปไหน เขาหัวโล้น ป่าร้าง ดินแตกระแหง ทำเกษตรกรรมไม่ได้ ที่ดินแบบนี้เยอะแยะไปในเมืองไทย เทียบกับการสร้างเขื่อน ที่ต้องใช้พื้นที่สมบูรณ์ มีแหล่งน้ำ (มีน้ำย่อมทำเกษตรได้) และเปลี่ยนทางน้ำไหล การหาพื้นที่แย่ๆ แล้วทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แล้วปรับภูมิสภาพรอบๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และ ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเขื่อนแน่นอน ถ้าจะแย้ง กรุณาใช้วิทยาศาสตร์ ไม่เอา การเมือง: โกงกิน เดี๋ยวโรงไฟฟ้าระเบิด ไม่เอา NGO: สิ่งแวดล้อมเสีย วันๆ จะเอาแต่สิ่งแวดล้อม ไม่คิด ROI (มันก็พอๆ กับระเบิดเขื่อนแหละน่า) ต่อให้ทำไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ พลังลม ถ้าจะสร้างให้เพียงพอกับ ปริมาณการใช้ไฟในกรุงเทพ และรองรับได้อีก 30-50 ปีข้างหน้า พื้นที่ที่ต้องใช้ มันจะมากขนาดไหน จะต้องทำลาย นา ป่า เท่าไร เคยคิดบ้างไหม จากคุณ : คนธรรมดาที่เสียภาษี เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:52:37 A:58.136.51.203 X: TicketID:208322

ความคิดเห็นที่ 6   ทำไมต้องทำเขื่อน? มีเขื่อนแล้ว ช่วยได้? ช่วยยังไง? บอกผมทีนะ ถือว่าสงสารคนไม่รู้ก็แล้วกัน อิอิ ไม่คิดจะสอนคนปลายให้ใช้น้ำอย่างมีคุณภาพ สร้างไปอีก 10 เขื่อน มันก็ไม่พออยู่ดี จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:53:59

ความคิดเห็นที่ 7 "จริงไม้ครับ" จริงหรือไม่ ป้าก็ยังตอบไม่ได้(อันนี้ต้องมีข้อมูล..รอผู้รู้นะจ๊ะ) แต่ชอบ กระทู้แบบนี้ เห็นอะไรน่าคิดน่าทำมาแสดงความคิดเห็นกัน อ่านคห.บางกระทู้ข้างล่าง พบว่า บางท่านเห็นว่า ขุดหรือสร้างเขื่อนก็เท่านั้น ถ้าขาดแคลนไม่มีน้ำให้เก็บ อันนี้ป้าว่า เราดูได้ไหมว่าที่ประตูน้ำที่กั้นน้ำทะเลกับน้ำในเมือง แต่ละเดือนน้ำไหลลงทะเลมากน้อยแค่ไหน ถ้ามียังปริมาณน้ำจืดไหลลงทะเล แสดงว่าเราควรเพิ่มเติมทำการเก็บกักน้ำ การเก็บกักน้ำไม่ต้องทำเป็นเขื่อนใหญ่ ๆ ก็ได้ (ถ้าสร้างเขื่อนก็ต้องให้มีประโยชน์มากว่าแค่เก็บน้ำ เช่นสร้างพลังงานหรืออื่นๆ)  อาจทำเป็นแหล่งน้ำขนาดย่อม ๆ กระจายให้ทั่วประเทศ ควรมีระบบชลประทานที่ทั่วถึง เรื่องนี้รัฐบาลควรทำ... แต่ไม่ต้องไม่สรรหาป่าเขามาทำลายนะ ...พอได้แล้ว!   ทำแหล่งเก็บกักน้ำในที่ที่มีประชาชนอาศัยและแหล่งเกษตรกรรมจะดีกว่า ถ้าหาพื้นที่ไม่ได้ รัฐต้องลงทุนหน่อยหาเช่าพื้นที่เก็บกักน้ำ จะทำเป็นหนองน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำเล็ก ๆ ก็ได้  กระจายทั่วทุกพื้นที่ มีระบบชลประทานสามารถรับน้ำจากแหล่งน้ำใหญ่มาเก็บไว้ และส่งให้ประชาชนนำไปใช้ได้ ประเทศจะได้มีที่ตุนน้ำมาขึ้น...ทำได้แล้ว จากคุณ : modi เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 13:55:53

ความคิดเห็นที่ 8   เขื่อนมันสร้างไม่ตรงจุดนะซิ ที่อยากไห้สร้างไม่สร้าง ไปสร้างที่ต้นไม้เยอะซะได้ พอจะสร้างเขื่อน เอ็นจีโอนักสิทย์ธิ บลาๆๆ มันจะค้านไห้ควักเลย จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 14:07:19

ความคิดเห็นที่ 9 ปลูกป่าดีกว่าครับ ที่นารกร้างก็เอามาปลูกเป็นป่าให้หมด จากคุณ : deemakak เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 14:20:22

ความคิดเห็นที่ 10 จะให้ม๊อบมันมาอีกเหรอ จากคุณ : HS9YLO เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 15:06:41

ความคิดเห็นที่ 11 สร้างเขื่อน แต่ไม่มีน้ำให้เก็บ สร้างไปทำไม ต่อให้มีน้ำให้เก็บ อัตราการระเหยก็มหาศาล จากคุณ : ชาลีฟ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 15:17:30

ความคิดเห็นที่ 12   ปลูกป่าดีกว่า เขื่อนมันแก้ปัญหาระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 5 ปีได้ดี แต่จากนั้นล่ะ มีน้ำแต่ไม่มีป่าค่อยเติมน้ำก็เท่านั้นเหมือนไปทะเลทรายเอาแทงค์น้ำใหญ่ ๆ ให้คนใช้ได้ 2 ปี สบาย ๆ แต่อยากอยู่ยาว ๆ ก็ต้องขับรถเติมน้ำหรือต่อท่อไป ทีนี้เขื่อนใหญ่ ๆ ทำแบบนั้นไม่ได้แน่ อีกทางคือปลูกป่าดีกว่า จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 15:18:55

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นบางชุมชนเค้าแค่ทำแหล่งเก็บน้ำประจำชุมชน น้ำก็พอใช้เหลือๆ ละครับ ถ้าทำเป็นแหล่งเก็บน้ำย่อยๆ ทุกชุมชน น่าจะมีปัญหาน้อยกว่าสร้างเขื่อนใหญ่ๆ ผ่านยากละครับ จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 17:20:18

ความคิดเห็นที่ 14   ทำยังกับสร้างเขื่อนแล้วมันจะมีน้ำโผล่ขึ้นมา ถ้ายังงี้สร้างเขื่อนในทะเลทรายคงจะเวิร์ค คห.5 ท่าจะไม่รู้เรื่องเอาจริงๆ นิวเคลียร์อะไรอยู่ได้ 50 ปี ปกติ ไม่เกิน25ปี ก็ต้องปิดโรงงานทิ้งหนีกันแล้ว ชิ้นส่วนหลายชิ้นมันบำรุงรักษาได้ แต่เปลี่ยนไม่ได้ มัน critical ทำยังกะนิวเคลียร์เป็นของเด็กเล่น จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 20:09:37 A:210.246.64.235 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 15 แหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนนี่คงสร้างไม่ได้แล้วล่ะครับ ถ้าจะทำเพิ่มน่าจะเป็นพวกอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง-เล็ก โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคอีสานทั้งหมด สร้างซัก 1 อ่าง 1 หมู่บ้าน แล้วทำระบบท่อเชื่อมถึงกันทั้งหมดเป็นเครือข่าย แค่นี้น่าจะช่วยได้เยอะแล้วครับ จากคุณ : เตยทะเล เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 20:29:26

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมไม่ทำฝายทดน้ำ หรือฝายน้ำล้น ในแม่น้ำสายหลัก ๆ เช่น ปิง วัง ยม น่าน ป่าสัก เจ้าพระยา เป็นช่วง ๆ เพื่อสามารถบริหารน้ำได้ในแต่ละช่วง (NGO คงจะมาคัดค้านเรื่องปลาวางไข่ไม่ได้แน่ ๆ ) ช่วงน้ำมาก ๆ ก็เล่นปล่อยน้ำเพื่อเร่งปั่นไฟฟ้า ปล่อยให้น้ำไหลลงมาสู่คลองประปา เพื่อให้น้ำประปาพอใช้กับคนเมือง เมื่อน้ำล้นคลองประปาก็ปล่อยลงสู่ทะเลซะหมด แล้วเมื่อน้ำจากข้างบนมีน้อย ฝนไม่ตก ก็แล้งอย่างนี้ละครับ... การทำเขื่อนไหญ่ ๆ ต้องใช้งบประมาณสูง และเสียพื้นที่ป่า พื้นที่ทำกินไปไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะครับ แม้จะมีเขื่อนเยอะ ๆ แต่ถ้าบริหารจัดการน้ำไม่ได้ เน้นแต่จะผลิตไฟฟ้า ผันมาทำน้ำประปาให้กับกรุงเทพ ซึ่งเป็นจังหวัดใต้ลำน้ำของประเทศ มีกี่เขื่อนน้ำก็ไม่พอครับ... จากคุณ : หม่าเด่น เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 23:05:50

ความคิดเห็นที่ 17 ขุดบ่อ จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 00:02:54

ความคิดเห็นที่ 18   #16 ก็คงเมาเอาจริงๆแหล่ะ ปริมาณการใช้น้ำสูงสุดของประเทศคือภาคการเกษตร เทียบกับพวกน้ำใช้ในเมืองไม่ได้หรอก ต่างกันเป็นพันเป็นหมื่นเท่าเลย แล้วที่เค้าปล่อยน้ำ ดันคิดว่ามาล้นคลองประปา ดูขนาดคลองประปาดิ มีขนาดเท่าไหร่ โคตระจิ๊บจ๋อย แถมเป็นคลองตัน คือปลายเป็นโรงกรองน้ำ ไอ้ที่เค้าต้องปล่อยน้ำลงมาบ้าง ก็เพื่อไล่น้ำเค็มจากทะเลไม่ให้เข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา ปกติช่วงน้ำขึ้นในหน้าแล้งนี่ น้ำเค็มก็แทบจะเลยนนทบุรีอยู่แล้ว ขืนไม่ปล่อยลงมายันไว้ นาข้าวแถวปทุม อยุธยา สิงหบุรี ภาคกลางตอนล่างตายห่หมด จากคุณ : มันคิดได้แค่นี้จริงๆ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 03:05:05 A:210.246.64.235 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 19   เวลาแล้ง ขาดน้ำ ไม่เห็นหัวหรอกครับพวก เอ็นจีโอน่ะ เช่นกัน เวลาน้ำท่วมก็ไม่ออกมาแจกของ...เห็นหน้าตอน มีแนวคิดสร้างเขื่อนนั่นล่ะ  ไม่รู้มาจากไหน รู้ดีมาก  แจกแจงได้สารพัดเรื่อง  สงสารประเทศไทย... จากคุณ : พิราบเขียวแห่งที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:38:07

ความคิดเห็นที่ 20   ตอบคำถาม #14 Reference: http://en.wikipedia.org/wiki/Nuclear_power หัวข้อ Future of the industry (แล้วไปที่ย่อหน้าที่ 4) while in the US the licenses of almost half its reactors have already been extended to 60 years,[40] ไปดูที่ ref#40 โรงไฟฟ้าใน US ใช้ได้ถึง 60 ปี (ประเมิน safety แล้ว) Further, the U.S. NRC and the U.S. Department of Energy have initiated research into Light water reactor sustainability which is hoped will lead to allowing extensions of reactor licenses beyond 60 years, in increments of 20 years, provided that safety can be maintained แล้วถ้า research เรื่อง Light water reactor sustainbility สำเร็จ จะทำให้ใช้เครื่องได้นานขึ้นอีก 20 ปี (รวมเป็น 80 ปี) ข้อมูลว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีอายุแค่ 25 ปี นั่นไม่ update แล้วครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ จากคุณ : คนธรรมดาที่เสียภาษี เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 10:49:07 A:58.136.51.29 X: TicketID:208322

ความคิดเห็นที่ 21 คนเยอะ น้ำไม่พอ สร้างเขื่อน คนเยอะขึ้นอีก น้ำไม่พออีก สร้างเขื่อนอีก วนไปวนมาไม่จบสิ้นครับ สุดท้ายจะอยู่กันอย่างไร (ป่าไทยปัจจุบันเหลือแค่ 20%) ผมว่า ควรมองไปที่ การจำกัดปริมาณการใช้น้ำ ประหยัดมันทุกทาง รักษาแหล่งน้ำที่มีให้สะอาดไม่ใช่เน่าเฟะ การเพิ่มพื่นที่สีเขียวซึ่งช่วยเหนี่ยวนำฝน  มีเืขื่อนเยอะแยะ ฝนดันไม่ตก หรือแม้กระทั่ง จำกัดปริมาณคน ให้ไม่มากไปกว่านี้ มีลูกสองคนไรงี้แบบที่จีนพบว่าคนในประเทศมากไป ออกกฏมีลูกได้คนเดียวเพื่อลดคน เราพลาดหลายอย่าง เช่นเมืองหลวง ตึกทั้งหลาย มาอยู่กันแออัดในภาคกลาง ทั้งที่มันเหมาะจะทำการเกษตรเพราะมีน้ำมาก มีฝนด้วย แต่เราทำเกษตรในที่ไม่เหมาะเท่า ทำให้ต้องหาวิธีพัฒนาไปแก้ปัญนั้นและเสียค่าใช้จ่ายสูงด้วย จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 19:01:34