ความคิดเห็นที่ 1 ผมมั่นใจว่ามนุษย์คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ พลาสติกก็เป็นธรรมชาติ เพียงแต่เราไปกำหนดเองว่า อันนี้ธรรมชาติสร้าง อันนี้มนุษย์สร้า ก็มนุษย์เกิดมาจากธรรมชาติ เมื่อมนุษย์ทำอะไรก็ตาม มันก็คือธรรมชาติ และสุดท้ายก็ไม่มีใครหนีกฏธรรมชาติพ้น จบข่าว แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 21:13:40 จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:02:03

ความคิดเห็นที่ 2 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:03:14

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามนุษย์อยู่ภายใต้หลักของธรรมชาติชีวิตบนโลกซึ่งคือหลักชีววิทยา และอยู่ภายใต้หลักกายภาพของโลกของหลักสสารพลังงานในจักรวาลตามขอบข่ายที่ศึกษาได้  ย่อมกล่าวได้ว่ามนุษย์อยู่ภายใต้ธรรมชาติหรือเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าความมีอยู่และเป็นไปของมนุษย์ไม่เป็นไปตามหลักข้อเท็จจริงข้างต้น ถึงจะเรียกว่าผิดธรรมชาติบนโลกน่ะเจ้า ลึกซึ้งตั้งแต่ คห.แรก เลยนะ   จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:13:01

ความคิดเห็นที่ 4   เรื่องของการบันทึกนั้น ผมพูดเอง ในที่นี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงแนวคิดของตนเองมิใช่หรอครับ ในเมื่อผมเห็นว่า ผิดธรรมชาติ ถ้าเรานับคำว่า Majority  มีสัตว์ตนใดในธรรมชาติมี Diary มีการบันทึกความรู้ของสัตว์รุ่นก่อนๆ บ้าง มีเพียงมนุษย์นี่ละครับ ที่รู้จักการส่งต่อความรู้นั้นๆมาสู่คนรุ่นหลัง  ถ้าไม่มีการส่งต่อมาให้คนรุ่นหลัง ตายก็ตาย เกิดก็เกิด ไม่มีประเทศ ไม่มีองค์ความรู้อะไรเลย แบบสัตว์ทั่วไป เราจะเรียกตัวเองให้ผิดแผกไปจากสัตว์อื่นว่า สัตว์ประเสริฐ รึครับ นี่คือการมองแบบ มนุษย์คือสิ่งที่ไม่เข้าพวกกับสิ่งที่มีอยู่ส่วนใหญ่ ผิดธรรมชาติไม๊ครับ  นี่คือสิ่งที่ผมคิดครับ เพิ่มเติม  ถ้ามองในมุมของศาสนา  เกิดแก่เจ็บตาย เกิดมาตั้งอยู่ดับไป ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้หลุดพ้นจากตรงนั้นไปได้ นั้นคือ ธรรมชาติในทางศาสนา แต่ถ้ามีคนที่เกิดมา ไม่เคยเจ็บป่วยเลยแล้วตาย แบบนี้เรียกว่าผิดธรรมชาติได้รึไม่ ขอแก้นิดนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่กล้ามาตอบ ต้องหลังไมค์ 555+ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 21:53:31 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 21:50:33 จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:47:54

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าก็ไม่เชิงผิดธรรมชาตินะ เพราะสิ่งที่มนุษย์ใช้คือ"วิทยาศาสตร์"ไม่ใช่พลังเวทย์มนอะไรพวนักสักหน่อย วิทยาศาสตร์มันก็คือการยืมพลังของธรรมชาติมาใช้ เราออกไปนอกอวกาศได้ บินบนฟ้าได้ ก็อาศัยหลักหลักกลศาสตร์ ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติ หรืออย่างสารเคมี ก็อย่างที่คห.1 ว่า พลาสติดเราบอกไม่ธรรมชาติ แล้วพลาสติกทำจากอะไรล่ะ วัตถุดิบสารเคมีเหล่านั้นมาจากไหน ไม่ใช่เอาสารนู่นนี่นั่นในธรรมชาติมาผลิตเหรอ พลาสติกหลักๆ ก็มาจากปิโตเลี่ยม ซึ่งปิโตเลี่ยมก็มาจากซอสซิลทับถมตัวกันใต้ดิน ไม่ได้มาจากต่างมิติสักหน่อย(ต่อให้มาจากต่างมิติจริง ถ้ามิติอื่นมีจริงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สารเคมีจากต่างมิติก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอยู่ดีแหละ) ความเห็นแบบงูๆ ปลาๆ ของคนที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์นะครับ แต่ที่คุณ  CitizenShip ว่าไว้ก็น่าคิดแฮะ สัตว์ชนิดื่อนคงไม่คิดที่จะออกไปนอกอวกาศ ไม่คิดจะอยู่ตรงที่ตัวเองอยู่ไม่ได้ หรืออะไรอย่างนั้นหรอกมั๊ง แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 22:19:15 จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:16:53

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวผม(ผู้เขียน) คือธรรมชาติที่สุด   คือสิ่งที่รับรองความมีอยู่จริงของมนุษย์เช่นคุณ หากไม่มีผม(ผู้เขียนกระทู้) มนุษย์ก็ไม่มี เพราะไม่มีอะไรรับรองการมีอยู๋ ของคุณๆ IThinkThereforIam IThinkThereforYOuare จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:34:41

ความคิดเห็นที่ 7 มนุษย์เป็นสิ่งที่ดำรงคู่กับธรรมชาตินั่นแหละครับ เพียงแต่มนุษย์ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆก็พยายามฝืนธรรมชาติให้ตัวเองเสียชีวิตช้าลงหรือเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง ทำให้บางครั้งเรามองเป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรอยู่กับธรรมชาติ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ตักตวงผลประโยชน์จากโลกนี้มากกว่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ จากคุณ : b_b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:07:22

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าอย่างนั้น พวกฟองน้ำ จะมองว่า พวกสัตว์มีกระดูกสันหลัง เป็นพวกผิดธรรมชาติ เหมือนกับที่ พวกสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่นๆ มองว่า มนุษย์ ผิดธรรมชาติ รึเปล่า? คืออะไรมีวิวัฒนาการสูงและซับซ้อนกว่าตัวเอง ก็บอกว่าเป็นพวกผิดธรรมชาติ? จริงๆ ไม่มีอะไรอยู่เหนือธรรมชาติ คนที่มองว่ามนุษย์ผิดธรรมชาติ จริงๆก็แค่ยอมรับไม่ได้ว่า มนุษย์ไม่ใช่ free will และทุกการเคลื่อนไหว คิด หรือทำ ล้วนมีเหตุปัจจัย ตามกฏธรรมชาติทั้งสิ้น หรือก็คือ คนที่มองว่ามนุษย์เป็นอะไรต่างหากแยกจากธรรมชาติ เขาไม่สามารถมองก้าวข้ามกำแพงของความเป็น ตัวตน เข้าไปถึงสัจธรรมของธรรมชาติ ที่แจ้งชัดว่าสิ่งต่างๆนั้น ล้วนไม่มีความเป็นตัวตนจริง อยู่เลย และเมื่อ กระบวนวิธีแบบวิทยาศาสตร์ ทำให้ก้าวข้ามจุดนั้นไปได้ ความเข้าใจธรรมชาติต่างๆก็เพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว และลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ตามที่เป็นในปัจจุบัน จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:21:28

ความคิดเห็นที่ 9 มนุษย์เป็นนักล่าที่อยู่เหนือสัตว์ใดๆในห่วงโซ่อาหาร จากคุณ : PredatorNeverdie เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:46:14

ความคิดเห็นที่ 10   ผมล่ะงง พวกที่บอกว่ามนุษย์แตกต่าง ............................................... นกสร้างรัง บอกเป็นธรรมชาติ ปลวกสร้างจอมปลวก ก็บอกเป็นธรรมชาติ มนุษย์สร้างบ้านสร้างตึก ผิดธรรมชาติ ............................................... เสือสอนลูกล่าเหยื่อ เป็นธรรมชาติ นกสอนลูกบินเป็นธรรมชาติ มนุษย์สอนหนังสือผิดธรรมชาติ .......................................... ตัวนากรู้จักเอาหอยไปทุบหินเป็นธรรมชาติ ลิงรู้จักใช้เครื่องมือง่ายๆ เป็นธรรมชาติ มนุษย์ใช้เครื่องมือผิดธรรมชาติ ................................................... ชิมแปนซี ยกพวกตีกันฆ่าล้างกลุ่มอื่น เป็นเรื่องธรรมชาติ มดฆ่าล้างรังอื่นเป็นเรื่องธรรมชาติ มนุษย์ก่อสงครามผิดธรรมชาติ ......................................... มดหลายชนิด รู้จักทำไร่ สัตว์หลายชนิดสร้างกับดักเพื่อล่าสัตว์อื่น (เคยเห็นสารคดี ที่มีฝูงมดเอาอะไรที่คล้ายๆเศษไม้มาสานสร้างกับดักไว้ดักแมลงตัวใหญ่) เป็นเรื่องธรรมชาติ มนุษย์ทำไร่ล่าสัตว์ผิดธรรมชาติ .......................................... จากเส้นทางวิวัฒนาการ การเกิดขึ้นของสัตว์หลายชนิดทำให้สัตว์อื่นๆสูนย์พันธุ์ หลายชนิดทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยน (เช่นการเกิดขึ้นของพวกที่สังเคราะห์ด้วยแสงได้ ทำให้จุลชีพ ยุคก่อนหน้านั้น ที่ทนO2ไม่ได้ จำนวนมากสูนย์พันธุ์) .................................................... มนุษย์ก็เหมือนสัตว์อื่นๆ ที่ดิ้นรนเพื่อการดำรงอยู่ของตัวเอง เพื่อความต้องการของตัวเอง เพื่อความสบายของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง เพื่อรักษาอาณาเขต เพื่อรักษาอำนาจในฝูง (แม้แต่ระบบที่คล้ายๆประชาธิปไตย ก็มีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นที่ทำได้) ไม่เห็นต่างจากสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติตรงไหน ปล.แค่มนุษย์แพร่พันธุ์ได้ดี จนสมดุลธรรมชาติเปลี่ยนระบบ ส่งผลชีวิตอื่นๆเดือดร้อน และ ความเดือดร้อนนั้นเริ่มย้อนหาตัวเอง จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:47:21 A:110.164.162.46 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 11 มนุษย์ไม่ผิดธรรมชาติหรอก สร้างบ้านได้ เหมือนนก หรือ มด ปลวก สร้างรังได้ มีสถาปัตย์การออกแบบและวัตถุที่สร้างด้วย มีความพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดเหมือนๆ กันหมด จากคุณ : Zeve เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:47:34

ความคิดเห็นที่ 12 อ่า มาขำ คห. 10(ตอนผมโพส คห.11 ยังไม่มีคห.10 โพสหลังกันนิดเดียว) ที่แปลกเพราะสัตว์ต่างๆ ที่ยกตัวอย่างมามีความสามารถแค่อย่างเดียว แต่มนุษย์ รวมทุกความสามารถต่างๆ ของสัตว์ไว้ในหนึ่งเดียว จากคุณ : Zeve เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:51:53

ความคิดเห็นที่ 13   คุณ Nova งงหรอครับ คุณไปเทียบพฤติกรรมว่าเหมือน การสร้างบ้านอะไรพวกนี้ แล้วบอกว่า มนุษย์ก็เหมือนสัตว์ในธรรมชาติ ถ้าผมบอกว่ามันคือพฤติกรรมเลียนแบบธรรมชาติละครับ ผมบอกแล้วไงว่า ชนกลุ่มใหญ่ในโลกนี้ แมลง สัตว์อื่นๆ ไม่ได้ทำตัวเหมือนมนุษย์เลย มนุษย์จึงเป้นเผ่าพันธ์เดียวที่สืบทอดต่อๆกันมา  เป็นชนกลุ่มน้อยเพียงแต่แพร่พันธ์ไปได้เยอะ ต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอดในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าจะต้องฝืนธรรมชาติก็ตามที แต่การอยู่รอดเหล่านั้นถ้าไม่มีการสืบทอดต่อๆกันมา ก็คงสูญพันธ์ไปเหมือนกัน มีมีตำรารักษาโรค ไม่มีตำราเรียน ไม่มีการห้ามต่างๆ ไม่มีขนบธรรมเนียมประเพณี แต่มนุษย์ตีความว่านี่ คือ ธรรมชาติของมนุษย์ Ideal นี้ก็สืบทอดกันมาเรื่อยๆ พอมีคนมาถามว่า  มนุษย์คืออะไร ผมก็ตอบ ว่า คือสิ่งที่ผิดธรรมชาติไงครับ เพราะธรรมชาติมันมีหลายแบบและทั่วไป ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติของมนุษย์เท่านั้น และถ้านับส่วนใหญ่ จะเห็นได้ชัดเจน หัวโด่เด่ออกมาเลยทีเดียวว่า มนุษย์นี่ละ ที่ผิดกว่าสัตว์ร่วมโลกอื่นๆ   เหมือน คุณเองกล่องดินสอสีมากล่องนึงแล้วใส่ปากกาลงไปแท่งนึง ปากกาแท่งนั้น ทำได้เหมือนดินสอสี เขียนได้เหมือนกัน แต่ คุณสมบัติต่างกัน ถามว่า มันไปเข้าพวกกับดินสอสีไม๊ครับ เมื่อมันไม่เข้าพวก มันก็ผิดธรรมชาติของตัวมันเอง แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 08:02:29 จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:01:56

ความคิดเห็นที่ 14   คห13 มันคือพฤติกรรมการดิ้นรนและการแก้ปัญหาครับ สัตว์ต่างๆก็มีการพยายามแก้ปัญหาและการดิ้นรนในรูปแบบต่างๆวิธีการต่างๆ มีการเรียนรู้และการสอนและถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบของตัวเอง มนุษย์ยุคแรกสุดต่างจากลิงตรงไหน คุณมองแต่ ณ ปัจจุบัน โดยไม่ได้มองถึงต้นตอ ว่ามันค่อยมีพัฒนาการมาเรื่อยๆ จะมดปลวกหรือใยแมลงมุมก็ค่อยๆมีการปรับปรุงและพัฒนาของมันมา ผมพยายามชี้ว่าคุณเอาเกณท์อะไรมาวัดว่า ซับซ้อนแค่ไหนถึงเป็นธรรมชาติถ้าซับซ้อนมากกว่านั้นผิดธรรมชาติ มนุษย์เราไม่ได้โผล่มาก็เป็นแบบปัจจุบันเลยซะหน่อย แรกเริ่มก็แค่ฝูงลิง สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีเส้นทางวิวัฒนาการที่ต่างกันไป ยืนยันได้จากDNA ที่มนุษย์กับลิงยังต่างกันไม่ถึง3% เรียกได้ว่าถ้าเทียบเป็นดินสออย่างที่คุณว่า สัตว์แต่ละชนิดคือ ดินสอที่มีความเข้มสีต่างกัน ยี่ห้อต่างกัน โดยมนุษย์เป็นความเข้มสีหนึ่ง ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีคนนิยมใช้มากจนแทบจะผูกขาดตลาด ถ้าคุณจะเทียบว่าเป็นดินสอกับปากกา ต้นไม้กับสัตว์ยังต่างกันไม่ถึงขั้นนั้นเลย บางชนิดพัฒนาปีก บางชนิดมีเขี้ยวเล็บ บ้างก็พละกำลังไม่ก็ความเร็ว มีสัตว์หลายชนิดที่มีเอกลักษณ์แบบที่หาสัตว์อื่นเทียบไม่ได้ ก็แค่มันไม่ประสบความสำเร็จ แค่มนุษย์พัฒนาสมองขึ้นมาแทนที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพ มนุษย์ยุคแรกสุดสมัยที่ยังอยู่ที่แอฟริกา เป็นอะไรที่ถ้าให้คุณวางเดิมพันว่า พวกนี้ จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่รอดรึเปล่า คุณคงไม่กล้าวางเดิมพันแน่ๆ แล้วมนุษย์เราก็แตกแขนงทางวิวัฒนาการออกเป็นสายพันธุ์จำนวนมาก ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดนึงที่แตกแขนงออกไปตามเส้นทางวิวัฒนาการ ซึ่งสายพันธุ์อื่นๆของมนุษย์ก็ได้ล้มหายตายจากสูนย์พันธุ์ไป คุณคิดว่ามันต่างจากเส้นทางวิวัฒนาการของสัตว์ตามปรกติยังไง จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:47:40 A:110.164.162.46 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 15 มาสนับสนุนตา Nova ถ้าผมเขียนก็เขียนแบบเดียวกัน การบังคับมองว่ามันจริงของมนุษย์ว่ามีลักษณะการทำลายเอาใส่ตัวของ จขกท ผมเห็นว่าเป็นการบีบกระทู้ให้ไปในทิศทางบังคับสรุปว่ามนุษย์ผิดธรรมชาติ ธรรมชาติมันก็มีการวิวัฒนาการของมันไปเรื่อย อันไหนเหมาะสมก็รอด ไม่เหมาะก็ตาย ถ้ากรณีที่มีมากเข้าสมดุลเสียมันก็ตายกันล็อตใหญ่สักทีหนึ่ง อันนี้แหละคือกลไกวิวัฒนาการ ชีวิตทุกชีวิตมันก็ต้องมีจุดต่างจากชีวิตอื่นๆบ้างละ เหมือนกล่องดินสอเหมือนกัน บางคนมีปากกาสีน้ำเงิน บางคนสีแดง บางคนใช้แค่ดินสอ แต่มันก็เป็นกล่องดินสอเหมือนกัน ถ้าเทียบกับสัตว์บางชนิด มีงวงไว้จับมีงาไว้แทงใหญ่โตเป็นจุดเด่น บางชนิดตัวเล็กรวดเร็วปราดเปรียวแต่ก็ไม่มีอาวุธไว้ป้องกันตัวอื่น บางชนิดมีพิษเป็นพิเศษไว้ป้องกันหรือใช้ล่า บางชนิดรวมเป็นกลุ่มทำงานร่วมกันเล็กตายง่ายแต่ก็รวมกลุ่มกันเป็นล้าน บางชนิดฉลาดเป็นกรด อาวุธเป็นฟันแหลมคม สมองทั้งหมดพัฒนาเพื่อการล่าอย่างเดียว ก็วิวัฒนาตรงนี้ มันก็ต่างกันหมดนั่นแหละ การคิดว่ามนุษย์มันไม่ต่างอะไรในสาระกับสัตว์อื่นๆ อาจทำได้ยาก เพราะมันรู้สึกขัดกับความเป็นอัตตาว่ามนุษย์ต้องต่างจากธรรมชาติอื่นๆ ไม่มีคำตอบที่ถูกกับคำถามนี้ แต่ถ้าคำตอบนั้นจะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้มันก็โอเคพอแหละนะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:50:54

ความคิดเห็นที่ 16   คุณเห็นว่า มนุษย์นี่คือธรรมชาติ เป็นส่วนนึงในธรรมชาติ เพราะมีการวิวัฒนาการตามขั้นตอนของธรรมชาติ มีการวิวัฒนาการทางสมองแทนทางร่างกาย สัตว์อื่นก็มีการพัฒนาการทางสมอง? เหมือนมนุษย์ นี่คือจุดที่ให้มอง ผมไม่ได้มองว่าในอดีตเหมือนลิงไม๊ ถ้าไม่มีการส่งต่อความรู้ผมว่าก็คงเหมือนลิงนั้นละครับ จุดต่าง มันเลยไปอยู่ที่เรื่องของ การเขียน การบันทึก การส่งต่อความรู้ ตรงนี้เราเริ่มต่างจากสัตว์ คุณมองว่า มันเรื่องปกตินี่ วิวัฒนาการแบบธรรมชาตินี่นา แต่ วิถีทั่วไปของสัตว์ที่มาพร้อมๆกันกับเราละครับ เริ่มแยกออกไป คุณจะมองว่ามันเรื่องของการวิวัฒนาการทางธรรมชาติอีกก็ได้ แต่ผมไม่มองแบบนั้น นี่คือจุดต่างระหว่างคุณกับผม ผมคิดว่า การที่คนเราวิวัฒนาการผิดไปจากสิ่งๆอื่นๆ นี่ สิ่งที่เราควรเรียนรู้ และรักษาไว้ ซึ่งมันก็แตกต่าง "การคิดว่ามนุษย์มันไม่ต่างอะไรในสาระกับสัตว์อื่นๆ อาจทำได้ยาก เพราะมันรู้สึกขัดกับความเป็นอัตตาว่ามนุษย์ต้องต่างจากธรรมชาติอื่นๆ"  ขอQuoteคำพูดนะครับ และแปลแบบง่ายๆว่า   ทำใจไม่ได้หรอกรึที่จะต้องเหมือนกันสัตว์อื่นๆหนะ เพราะเราไม่เหมือนสิครับ จึงต้องรักษาในสิ่งที่ไม่เหมือนไว้ แต่คนเราทุกวันนี้กระทำตัวเยี่ยงสัตว์ เห็นแก่ชิงดีชิงเด่น แย่งกันล่าเหยื่อ ไปเลียนแบบพฤติกรรมของสัตว์ ไม่มีความอาย ความรู้สึกรู้สาใดๆ ฆ่ากันเอง ไม่ต่างอะไรกับ สัตว์เลย รึว่าเพราะมันคือ ธรรมชาติของมนุษย์ด้วยครับ จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:47:23

ความคิดเห็นที่ 17   คห16 จะพฤติกรรมไหนก็เป็นแบบสัตว์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะรักกันหรือจะฆ่ากัน มนุษย์เป็นสัตว์สังคมการรวมฝูงและรักษาพวกพ้องเป็นเรื่องตามธรรมชาติ และการกำจัดฝูงอื่นที่มาขัดกับฝูงของตนเองเป็นเรื่องธรรมชาติ มีจ่าฝูงหลายตัวอยู่ในพื้นที่เดียวกันก็ต้องตีกันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในธรรมชาติก็มีกรณีที่หลายฝูงดันอยู่ร่วมกันได้ซะอย่างนั้น ประนีประนอมใช้อาณาเขตร่วมกันก็เห็นได้ในหลายเผ่าพันธุ์ (หมากับแมวมันยังอยู่ด้วยกันได้เลย) ปัญหามันเกิดเพราะแต่ละกลุ่มดันไม่คิดว่าประเทศอื่นหรือกลุ่มอื่นเป็นฝูงเดียวกับตัวเองและมองว่าจะมาแย่งผลประโยชน์จากฝูงของตัวเอง แทนที่จะมองว่าทั้งโลกเป็นฝูงเดียวกัน มนุษย์ไม่เคยไปเลียนแบบพฤติกรรมสัตว์ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ พฤติกรรมของสัตว์ก็ยังคงอยู่ในตัวของมนุษย์ คุณรู้สึกว่าตัวเองต่างจากสัตว์ มันก็เป็นแค่ระบบกลไกในการพยายามสร้างความเป็นปัจเจก คุณสามารถคิดได้ว่ามนุษย์แตกต่างกับสัตว์อื่นเพราะบนโลกไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นให้เปรียบเทียบ ถ้าตามแนวคิดแบบคุณสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาทุกชนิดในจักรวาลคือสิ่งผิดธรรมชาติหรืออย่างไร ถ้ามีเอเลี่ยน ที่มีเทคโนโลยีระดับเดินทางข้ามกาแล๊กซี่ได้ง่ายราวกับ โบกแท๊กซี่ มาเจอมนุษย์พวกนั้นก็คงมองว่ามนุษย์ปัจจุบันไม่ต่างจากลิงฝูงหนึ่ง อีกนัยนึง คุณต้องรอให้พบสิ่งมีชีวิตทรง๓ูมิปัญญาอื่นๆก่อนหรืออย่างไรถึงจะยอมรับได้ว่ามนุษย์เป็นธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มีดาษดื่นในจักรวาล จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 10:15:49 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 18   - - ไปมะนาวต่างดุดเลยนั้น 555+ คุณเทียบกับพฤติกรรมของสัตว์ มีจ่าฝูง มีนั้นมีนี่ นี่คือธรรมชาติในสายตาคุณ ผมไม่ได้มองแบบนั้น แล้วทำไมผมต้องมองแบบคุณครับ เพราะผมคือ ปัจเจกบุคคล ไม่จำเป็นต้องคิดแบบเดียวกับคุณ ถึงแม้ว่าความคิดคุณกับคนหมู่มากจะเหมือนกัน การที่ผมบอกว่า มนุษย์คือสิ่งที่ผิดธรรมชาติ ผมก็บอกนี่ไงก็ผมคิดง่ายๆนะ มันอาจจะผิดในสายตาคุณ ที่ยอมรับไม่ได้ที่จะต้องแตกต่างไปจากธรรมชาติรึเปล่าครับ มองมุมกลับกันนะ มันไม่มีระบบกลไกอะไรหรอกครับ ก็แค่มองง่ายๆ สิ่งที่แตกต่างก็คือสิ่งที่แตกต่างวันยังค่ำ มองยังไงก็ไม่เหมือนกับสิ่งอื่นๆในธรรมชาติ เอากล่องดินสอมาเทียบกับปากกา เขียนก็ชือไม่เหมือนกัน อรรถประโยชน์ก็ไม่เหมือนกันแล้วมาบอกผมว่า นี่มันพวกเดียวกันนี่ ไม่ต่างเลย เอาไว้เขียน ผมบอกแล้ว ผมมองไม่ได้มองแบบที่คุณมอง มองในแบบที่ สัตว์อื่นๆทั้งหมด ไม่ว่าจะ 4ขา 2ขา ไม่มีขา หลายๆขา คือ กลุ่มเดียวกัน แต่สิ่งที่โดดเด่นออกมามากที่สุดคือมนุษย์ และไม่มีสิ่งใดที่จะเทียบเท่าได้ สิ่งนั้นคือผิดธรรมชาติในสายตาผม ประเด็นผมมีง่ายๆแค่นี้ และ สิ่งที่ทำให้แตกต่างคืออะไรผมก็บอกไปแล้ว แล้วสิ่งที่ผมจะสือคืออะไร ผมก็บอกไปแล้ว ยังไปโยงถึงมะนาวต่างดุด ไอ้นั้นมันของนอกโลก แต่จะว่า ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะ สิ่งที่เทียบเท่ามนุษย์ในโลกไม่มี บางทีผมอาจยอมรับก้อได้ ถ้ามีมะนาวต่างดุดมาจริงๆ 5555+   ยอมรับว่า เห้ยนี่ละ ใช่เลย มันผิดธรรมชาติแน่นอน คอนเฟิร์ม ขอต่ออีกนิดก่อนจะจากลากันไป คุณมองว่า ธรรมชาติ คือการอยู่ร่วมกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในโลกนี่ คือธรรมชาติ ไม่ว่าจะ กฎใดๆรึว่าใครก็ตาม   ผมไม่ได้มองแบบนั้น ผมมองว่า ธรรมชาติคือการที่เป็นไปตามเวลาของมัน โดยที่สิ่งในธรรมชาตินั้นๆ ไม่ได้ฝืนกฎ ไม่ได้กระทำอะไรเลย เป็นไปตามเวลาของมัน และมีเพียงสิ่งเดียวที่ชอบท้าทายกฎธรรมชาติ คือ มนุษย์ และทำได้สำเร็จบ้าง ในของบางอย่าง เพื่อตอบสนองความต้องการ ถ้าต้นกำเนิดของสัตว์ทั้งปวงคือ สิ่งมีชีวิตเซลเดียว  มนุษย์นี่คือการ mutation ที่ผ่าเหล่าผ่ากอออกไปมากๆ ถ้าการผ่าเหล่าผ่ากอก็คือธรรมชาติ จะไม่มีคำว่าผิดธรรมชาติเลย ไม่มีอะไรในโลกนี้ผิดธรรมชาติเลย มีอะไรบ้างที่ผิดธรรมชาติ None ไม่มีครับ ไม่มีอะไรผิดธรรรมชาติ? มันฟังแปลกๆไม๊ครับ นิยาม คำว่าผิดธรรมชาติผมกับคุณอาจไม่เหมือนกัน นิยามผม ผมก็ยกตัวอย่าง เช่นมนุษย์นี่ละผิดธรรมชาติ นิยามคุณละครับ? แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 11:05:17 จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 10:43:09

ความคิดเห็นที่ 19   คห18 ผมเทียบกับเอเลี่ยนเพราะเท่าที่ผมดู คุณมองว่ามนุษย์ผิดธรรมชาติ เพราะบนโลกมีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาชนิดเดียว คุณจึงมองว่ามนุษย์นั้นพิเศษ และผมก็ใช้คำว่า ถ้า ซึ่งมันเป็นคำถามที่ผมต้องการจะยืนยันแนวคิดของคุณ ก็คล้ายๆกับพวกที่บอกว่าโลกนี้พิเศษเพราะมีสิ่งมีชีวิต แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าโลกไม่ได้พิเศษ เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เยอะแยะ ผมจึงต้องการจะสื่อว่า มนุษย์ก็ไม่ได้พิเศษเพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีสิ่งมีชีวิตแบบมนุษย์เราอยู่เยอะแยะในจักรวาล และผมก็แค่พยายามจะเปรียบเทียบ ให้เห็นภาพว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างเพราะคุณมองว่าตัวเองเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งผมก็เปรียบเทียบว่าสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าก็จะมองว่ามนุษย์นั้นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ใช่ครับคุณเป็นปัจเจกคุณจะคิดอย่างไรก็ได้ ผมก็แค่แย้งแนวคิดของคุณด้วยหลักฐานและตัวอย่างจากธรรมชาติ โดยที่หลักฐานเหล่านี้ก็ล้วนสนับสนุนว่ามนุษย์เป็นแค่สัตว์ ซึ่งคุณยังคงเชื่อในทัศนะคติ และมุมมองส่วนตนมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณผมคงไปก้าวก่ายไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 10:59:43 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 20   โพสเสร็จเพิ่งเห็น ว่ามาโพสต่อ ครับ แก้นิดครับ ผมไม่ได้มองว่า มนุษย์พิเศษครับ แค่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ทำให้ต่างกับสัตว์ชนิดอื่นๆในธรรมชาติมากๆ ส่วนเรื่อง Alien นั้นผมไม่ออกความเห็นนะครับ เพราะมันไม่มีหลักฐานว่ามีอยู่จริง จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:09:00

ความคิดเห็นที่ 21 จุดอ่อนอีกอย่างของมนุษย์คือ การพยายามจุดนิ่งๆในสิ่งที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งความจริงแล้ว จุดนิ่งๆนั้นเป็นผู้ให้กำเนิด สิ่งที่เคลื่อนไหว เราไปเพ่งในสิ่งที่เคลื่อนไหวตลอด ไม่ได้มองกลับไปยังที่มาของสิ่งที่เคลื่อนไหวเราจึงหาคำตอบไม่เจอ ทุกอย่างทุกความคิดเห็นทั้งจาก2กระทู้คือ สิ่งที่เคลื่อนไหว ส่วนจุดนิ่งๆก็คือ ส่วนที่ท่านสัมผัสได้จากตัวท่าน ชีวิต แล้ว พิมพ์ความคิดเห็นออกมา ตัวท่านคือ ชีวิต ส่วนทุกอย่างที่อธิบายเป็นตัวหนังสือได้ หรือคำพูดได้ คือผลผลิตอีกที ต้องตลบหลังถึงจะรู้คำตอบ มันทำงานวนลูบไปมาแบบนี้ จากคุณ : ชื่ออะไรดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:09:20

ความคิดเห็นที่ 22 คุณสามารถหาคำตอบได้ว่าคุณคือใคร โดยการแอบเข้าไปดูการทำงาน การผลิต ของ จุดที่นิ่งๆ กับ สิ่งที่เคลื่อนไหว มันง่ายมาก จนผมอยากจะร้องไห้ เพราะคงไม่มีใครเชื่อผม จากคุณ : ชื่ออะไรดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:17:15

ความคิดเห็นที่ 23   รับทราบคำแย้งครับ แต่คำแย้งก็ยังไม่ทำให้ผมเปลี่ยนใจไปจาก มนุษย์คือสิ่งที่ผิดธรรมชาติไปได้ ก็ขอบคุณครับที่ได้คุยด้วย เหตุผลที่ยังไม่เปลี่ยนใจ คือ ถ้าธรรมชาติ มันคลุมไปหมดก็จะไม่มีสิ่งที่ผิดธรรมชาติ พวก paranormal ทั้งหลายก็คือ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ ถ้าตีความว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากธรรมชาติ นั้นถูกต้องครับ แต่เมือเกิดมาแล้วทำตัวขวางธรรมชาติ ผมเรียกว่า ผิดธรรมชาติ จากคุณ : CitizenShip เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:18:52

ความคิดเห็นที่ 24   เพิ่มเติมเพราะ คห18 edit "ธรรมชาติคือการที่เป็นไปตามเวลาของมัน โดยที่สิ่งในธรรมชาตินั้นๆ ไม่ได้ฝืนกฎ ไม่ได้กระทำอะไรเลย เป็นไปตามเวลาของมัน" อะไรคือเป็นไปตามเวลา? อะไรคือกฏ? สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่อสู้ดิ้นรนปรับตัวและพยายาม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่อยู่นิ่งหรือปล่อยสิ่งต่างๆให้ผ่านไป ธรรมชาติไม่ได้มีกฏในการดำรงอยู่(ไม่นับกฏฟิสิกส์) มีแต่คุณที่ไปสร้างกฏให้มัน และบอกว่าสิ่งใดอยู่และไม่อยู่ในกฏ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนแต่พยายามต่อสู้กับสิ่งรอบๆตัวด้วยวิธีการต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์แต่มนุษย์ทำได้ดีกว่า มนุษย์ผ่าเหล่าผ่ากองั้นหรือ ต่างจากลิงแค่ไม่ถึง3%เนี่ยนะครับ? การวิวัฒนาการก็คือการ Mutation ถ้าไม่เกิดการกลายพันธุ์ก็ไม่เกิดการคัดเลือกทางธรรมชาติ ผมถึงได้บอกว่าคุณกำหนดกฏในการมองขึ้นมาเอง คุณมองว่าการวิวัฒนาการร่างกายเป็นธรรมชาติ แต่วิวัฒนาการสมองผิดธรรมชาติ มุมมองความผิดธรรมชาติของผมงั้นหรือ? ถ้าอยู่บนหลักการพื้นฐานเดียวกัน มันก็อยู่บนระบบเดียวกัน ดั่งเปรียบเทียบว่าชิ้นตัวต่อเลโก้ คือชิ้นส่วนตัวแทนระบบของธรรมชาติ ไม่ว่าจะต่อเป็นบ้านหลังเล็กๆแบบง่ายๆ หรือต่อเป็นหุ่นยนต์สูงเท่าบ้าน2ชั้นขยับได้ ไม่ว่าจะใหญ่โตหรือซับซ้อนแค่ไหนทั้งหมดนั้นมันก็ยังอยู่บนสาระบบของเลโก้ (ธรรมชาติ) แต่ถ้ามีสิ่งที่ไม่ได้ประกอบด้วยชิ้นเลโก้โผล่มานั่นแหละคือผิดธรรมชาติ เช่น ถ้ามีโมเดลกันดั้มมาตั้งอยู่ ถึงจะตัวเล็กนิดเดียวและโครงสร้างง่ายเหลือเกิน มันก็อยู่นอกเหนือสาระบบของเลโก้ จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:29:52 A:192.168.93.174 X:58.137.21.42 TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 25 สิ่งมีชีวิตอื่นๆ เขาจะเหมือนมนุษย์ไหม มดทำรัง รังเดียวอยู่ได้เป็นฝูง แต่มนุษย์คนเดียว (แค่บางคน) กลับมีบ้านตั้งหลายหลัง บางคนอาณาบริเวณบ้าน ก็ใหญ่เกินตัวไปด้วยซ้ำ เทียบกับบางคน ไม่มีที่อยู่อาศัยด้วยซ้ำไป แต่สัตว์กลับมีชีวิตอยู่รังตัวเอง ตั้งแต่เกิดจนตายไป ถ้ารังไม่ถูกทำลายเสียก่อน ก็ขยายรังให้เพียงพอกับจำนวนที่เพิ่ม แต่เห็นมนุษย์บางคนมีบ้าน 7-8 หลัง มีบ้าน มีที่หากินไปทั่วโลกก็ยังมี ก็เลยไม่เข้าใจ... จากคุณ : teaspoonful เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:54:19

ความคิดเห็นที่ 26 Everything has its own nature !! จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:03:31

ความคิดเห็นที่ 27   ก็ไม่เห็นแปลกเลยมันเป็นธรรมชาติของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์นิ่(เรียกโดยมนุษย์) อย่าหลงตัวเองนักเลยมนุษย์เอ๋ย ก็เป็นแค่สัตว์ตัวเล็กๆบนโลกใบเล็กๆในจักรวาลนี้แหละ เหอๆ จากคุณ : แมว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:27:10 A:125.24.30.151 X: TicketID:261906

ความคิดเห็นที่ 28 ก็เพราะมันเป็น "ธรรมชาติของมนุษย์" มั๊งครับ จากคุณ : mrspy เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:20:06

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าลืมว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และทำให้ธรรมชาติอื่นๆ นอกจากตัวเอง ดีขึ้นได้เหมือนกัน อย่าใช้วิถีธรรมชาติของตัวเอง เอาตัวรอดเพียงอย่างเดียว ให้คืนกลับสู่ส่วนอื่นบ้าง เท่านี้แหละ ด้วยความเคารพ จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:54:27

ความคิดเห็นที่ 30 ยูต้องดีฟายก่อนว่า ทำมชาดคือไร  ................. ผิดทมาชาด ความหมายคือ "แตกต่าง"ไปจากทำมชาด ใช่หรือไม่ใช่ -------- ถ้าดีฟายว่า ทำมะชาด คือ 1. 2. 3. ยู้ก้อต้องมาดูว่ามานุ้ด "แตกต่าง" ในข้อคุนสมบัดไหน     และคุนสมบัดนั้น มีเอกลักออย่างไร ---- เช่น ทำมชาด คือ   เกิดแล้วต้องตายแน่ๆ แมวเกิดแล้วตาย ก้อคือไม่แตกต่างไปจากทำมชาด นกเกิดแล้วตาย ก้อคือไม่แตกต่างไปจากทำมชาด แรดเกิดแล้วตาย ก้อคือไม่แตกต่างไปจากทำมชาด คนเกิดแล้วตาย ก้อคือไม่แตกต่างไปจากทำมชาด สาวสวยหมวยเอ๊กเกิดแล้วตาย ก้อคือไม่แตกต่างไปจากทำมชาด ถ้าเกิดมีชีวิตพันุ์ใหม่ เรียกชื่อย่อว่า เมสสี เกิดแล้วไม่มีวันตาย อยู่ไปได้เรื่อยๆ โลกแตก พระอาทิดดับ ก้อชิวๆ รอกาแลกซีใหม่ ยังงี้มีข้อแตกต่างคือ เกิดมาแลล้วตาย / เกิดแล้วไม่มีตาย ยังงี้ถึงจาสุปได้ ถ้าอยากคุยกานต่อ ไปดีฟาย มาให้ชัดๆก่อน ไม่งั้นเถียงไม่จบ เพราะความหมายคนละย่าง ปล.ลองพิมพ์แบบภาษาวัยรุ่นดู จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 15:41:07