ความคิดเห็นที่ 1 ไม่เคยเห็นนะครับ มีแต่พุทธพจน์ที่กล่าวว่า ประโยชน์ย่อมผ่านเลยแก่ผู้ที่เชื่อถือโชคยาม ป.ล.นี่วิทยาศาสตร์ปล่าว จากคุณ : nant (นฤมลประการ) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:41:58

ความคิดเห็นที่ 2   ^ตอบอันบน อภิปรัชญา ได้แยกออกเป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศาสนา คำถามนี้ไม่ไช่วิทยาศาสต์แน่ๆๆครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 20:46:12

ความคิดเห็นที่ 3   สุปุพพัณหสูตร ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้าก็เป็นเวลา เช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วย วาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดีของ สัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่า นั้น สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็น ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี ในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย กายกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา วจีกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา มโนกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา ความปรารถนาของท่านเป็นส่วนเบื้องขวา สัตว์ทั้งหลายทำ กรรมอันเป็นส่วนเบื้องขวาแล้ว ย่อมได้ผลประโยชน์อัน เป็นส่วนเบื้องขวา ท่านเหล่านั้นได้ประโยชน์แล้ว จงได้รับ ความสุข จงงอกงามในพระพุทธศาสนา จงไม่มีโรค ถึง ความสุข พร้อมด้วยญาติทั้งมวล ฯ จากคุณ : kkk เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:25:14 A:118.172.17.110 X: TicketID:249000

ความคิดเห็นที่ 4   อรรถกถา นักขัตตชาดก ว่าด้วย ประโยชน์คือฤกษ์ พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอาชีวกคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ เป็นอาทิ. ได้ยินว่า กุลบุตรชาวบ้านนอกผู้หนึ่ง ไปขอกุลธิดานางหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี ให้แก่ลูกชายของตน นัดหมายวันกันว่า ในวันโน้น จักมารับเอาตัวไป. ครั้นถึงวันนัด จึงถามอาชีวก ผู้เข้าไปสู่ตระกูลของตน ว่า พระคุณเจ้าผู้เจริญ วันนี้ พวกผมจักทำมงคลอย่างหนึ่ง ฤกษ์ดีไหมครับ. อาชีวกนั้นโกรธอยู่แล้วว่า คนผู้นี้ ครั้งแรกไม่ถามเราเลย บัดนี้ เลยวันไปแล้ว กลับมาถามเรา เอาเถิด จักต้องสั่งสอนเขาเสียบ้าง. จึงพูดว่า วันนี้ ฤกษ์ไม่ดี พวกท่านอย่ากระทำการมงคล ในวันนี้เลย ถ้าขืนทำจักพินาศใหญ่. พวกมนุษย์ในตระกูลพากันเชื่ออาชีวกนั้น ไม่ไปรับตัวในวันนั้น. ฝ่ายพวกชาวเมืองจัดการมงคลไว้พร้อมแล้ว ไม่เห็นพวกนั้นมา ก็กล่าวว่า พวกนั้นกำหนดไว้วันนี้ แล้วก็ไม่มา แม้การงานของพวกเรา ก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว เรื่องอะไรจักต้องไปคอยพวกนั้น จักยกธิดาของเราให้คนอื่นไป แล้วก็ยกธิดาให้แก่ตระกูลอื่นไป ด้วยการมงคลที่เตรียมไว้ นั้นแหละ. จากคุณ : kkk เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:26:36 A:118.172.17.110 X: TicketID:249000

ความคิดเห็นที่ 5   กระทู้ 2 ยาวไป ไม่ต่อก็แล้วกัน เอาบทสรูปก็แล้วกันนะครับ “ ประโยชน์ผ่านพ้นคนโง่ ผู้มัวคอยฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวทั้งหลาย จักทำอะไรได้ ” บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปฏิมาเนนฺตํ ความว่า ผู้คอยดูอยู่ อธิบายว่า มัวรอคอยอยู่ว่า ฤกษ์จะมีในบัดนี้ จักมีในบัดนี้. บทว่า อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา ความว่า ประโยชน์ กล่าวคือการได้เจ้าสาว ผ่านพ้นคนโง่ผู้เป็นชาวเมืองนี้. บทว่า อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ ความว่า บุคคลเที่ยวแสวงหาประโยชน์ใด ประโยชน์ที่เขาได้แล้วนั่นแหละ ชื่อว่าเป็นฤกษ์ของประโยชน์. บทว่า กึ กริสฺสนฺติ ตารกา ความว่า ก็ดวงดาวทั้งหลายในอากาศนอกจากนี้ จักยังประโยชน์เช่นไรให้สำเร็จได้. พวกชาวเมืองทะเลาะกับพวกนั้นแล้ว ก็ไม่ได้เจ้าสาวอยู่นั่นเอง เลยพากันไป. แม้พระบรมศาสดาก็ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่อาชีวกนั้นทำการขัดขวางงานมงคลของตระกูลนั้น ถึงในครั้งก่อน ก็ได้กระทำแล้วเหมือนกัน. ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาตรัสแล้ว ทรงสืบอนุสนธิ ประชุมชาดก ว่า อาชีวกในครั้งนั้น ได้มาเป็นอาชีวกในครั้งนี้ แม้ตระกูลทั้งนั้นในครั้งนั้น ก็ได้มาเป็นตระกูลในครั้งนี้ "ส่วนบุรุษผู้เป็นบัณฑิต ผู้ยืนกล่าวคาถา ได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.... เอว้ง. จากคุณ : kkk เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:36:18 A:118.172.17.110 X: TicketID:249000

ความคิดเห็นที่ 6   ไม่ใช่แค่คนไทยหรอกครับ คนทั่วโลกก็เป็นกัน ฝรั่งยังมองหา Sign from God ก่อนจะลงมือทำอะไรบางอย่างพิเศษ พอเกิดข้อขัดข้องเล็กๆน้อยๆ ก็มองเป็น Bad Omen พาลเลิก ก็มีเยอะแยะ มนุษย์เราชอบควบคุมครับ อะไรที่เราควบคุมไม่ได้เราไม่ชอบ ดังนั้นการทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า"เราได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้" แล้ว มันจะรู้สึกดีครับ พวกเซียนเล่นหุ้น วิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยเทคนิค อ่านรายงานจากหน่วยวิจัยของธนาคาร...หลังจากทำทุกอย่างแล้วก็....ไปหาซินแส และหมอดูต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อขาย จากคุณ : หก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 21:43:48 A:110.49.70.105 X: TicketID:264403

ความคิดเห็นที่ 7 ฤกษ์ โบราณคงบันทึกเป็นสถิติไว้ ว่าช่วงไหนมีสภาพอากาศดี สมควรแก่การประกอบพิธีกลางแจ้ง คนรุ่นต่อๆมา  ไม่เข้าใจ นัยยะสำคัญ ก็ยึดถือแต่ ตัวเลขบอกวันเดือนปี ซึ่งคลาดเคลื่อน จากแหล่งบันทึกไปแล้ว แต่ในทางจิตวิทยา เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และถือเป็นพิธีการศักดิ์สิทธิ์ เป็นเช่นนี้แล จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:06:26

ความคิดเห็นที่ 8   ขอบคุณ คุณ kkk มากครับ บ้านเราช่วงนี้เกิดการ สับสนทางความคิดกันเยอะ อยากไห้หาที่ยึดเหนี่ยวดีดีจัง จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:07:21

ความคิดเห็นที่ 9 ก็ดวงดาวทั้งหลายในอากาศนอกจากนี้ จักยังประโยชน์เช่นไรให้สำเร็จได้. ตรงเป้า แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 22:27:09 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:26:53

ความคิดเห็นที่ 10 อภริยา ปรมา ลาภา ความไม่มีเมีย เป็นลาภอันประเสริฐ จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 22:34:11

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ระวังคนใกล้ตัวมาอ่านเจอนะคะคุณ ตอบคำถามก่อนดีกว่า.. เรื่องฤกษ์ยามเนี่ย มันเป็นสถิติที่มีการเก็บบันทึกอย่างต่อเนื่องมานาน ด้วยความเจริญทางวัตถุ เทคโนโลยี ทำให้สภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนไปจากที่เคย ดังนั้นเรื่องฤกษ์ยามจึงไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องกับยุคปัจจุบันค่ะ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 01:15:21

ความคิดเห็นที่ 12 วันที่ดีที่สุดคือ  วันนี้ครับ  ... ใช่แล้วพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ยึดถือฤกษ์ยามครับ แต่การทำโดยไม่เตรียมให้พร้อมก็ไม่ดี   คนสมัยก่อนคิดว่า ต้องมีอะไรเป็นการนัดให้พร้อมกัน  ต้องดูเวลาเคลื่อนของฟ้า นก  มากำหนดเวลา เท่านั้นเอง แต่พอเอาเรื่องนิยายเทพ มาแต่งใส่เพิ่มความขลัง หรือทำให้ คนรู้สึกว่า  มีผู้รู้ความลับฟ้า  ก็ทำให้หากินได้  หลอกคนให้เชื่อ กลายเป็นว่า ต้องมีหมอดู ฤกษ์ยาม  ที่จริงงานพวกนี้นับเป็น เดรัจฉานวิชา  ที่พระพุทธเจ้าห้าม พระสงฆ์องค์เจ้า ทำขาย หลอกชาวบ้าน จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 05:05:49

ความคิดเห็นที่ 13 ท่านบอกประโยคที่มีความหมายแบบนี้จริงๆครับ หรือเรียกอีกอย่างว่า "ฤกษ์สะดวก" คือพร้อมที่จะทำเมื่อไหร่ก็ให้ทำได้เลย ไม่ต้องรอดูโน่นดูนี่ เพราะถ้ามัวแต่รอโน่นรอนี่สุดท้ายโอกาสก็จะผ่านไปเสียเปล่าๆ พระอาจารย์ที่ผมนับถือท่านก็ใช้ฤกษ์นี้เหมือนกัน ตอนที่ผมบวชพ่อผมถามพระอาจารย์ว่าเวลาบวชต้องมีฤกษ์อะไรไหม พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า "มี ฤกษ์สะดวกไง พร้อมเมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้น" บางครั้งมีคนมาถามพระอาจารย์ว่าถ้าท่านจะทำอะไรต้องดูฤกษ์ยามก่อนหรือไม่ ท่านก็บอกว่า "อาตมาถือตามพระพุทธเจ้า คือหากสะดวกและพร้อมเมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้น" ตั้งแต่นั้นมา ตัวผมเองเวลาจะทำอะไรก็ดูว่าพร้อมหรือไม่ ถ้าพร้อมก็ทำเลยเช่นกัน ไม่สนใจเรื่องฤกษ์ยาม แต่บางครั้งมีงานอะไร พวกผู้ใหญ่เขาก็มาจัดการดูเรื่องฤกษ์กัน ผมก็ไม่ว่าอะไร แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 08:50:01 จากคุณ : Kudo Kai เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 08:48:32

ความคิดเห็นที่ 14 ...ลองเอาไปตั้งในห้องศาสนาดูครับ น่าจะได้คำตอบที่กระจ่างกว่านี้... จากคุณ : gunpen2010 เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 11:48:40

ความคิดเห็นที่ 15 สุนักขัตตัง สุมังคะลัง : เวลาที่สัตว์ประพฤติชอบ ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง : สว่างดี รุ่งดี จากคุณ : andyslam เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 12:58:27

ความคิดเห็นที่ 16 คห. 14 อย่าเอาเข้าไปถามเลยครับ เพราะจะได้คำตอบยาวเป็นหางว่าว ทั้งที่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง บางทีก็คัดลอกมาจากเว็บมาวางแปะไว้ ==" จากคุณ : นาฬิกาปลาดาว เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 02:57:02

ความคิดเห็นที่ 17   ^ ^ เมื่อแสวงหาคำตอบ ได้คำตอบยาว-สั้น หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ มันก็คือคำตอบละครับ   ที่หว้ากอเองก็ไม่เห็นจะต่างกัน ลอกมาแปะก็ไม่น้อย รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็แลกเปลี่ยนกันไป จะไปว่ากระทบเขาทำไม จากคุณ : ลิงจุ่น เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 08:48:20

ความคิดเห็นที่ 18 #17 ผมไม่ได้ว่ากระทบใครหรอครับ ผมไม่ได้ต่อว่า ขอโทษที่ใช่คำประโยคไม่ชัดเจน ทำให้ประโยคอาจดูเป็นการต่อว่า สิ่งที่ได้ตรงกับคำถามมันคือคำตอบ ถ้าเอามาแปะตรงกับคำถาม นั้นก็คำตอบเช่นกัน ่เอามาแปะแบบ ไม่ตรงคำถาม มันจะได้อะไรบ้างครับ บางครั้งการใส่ใจกับการตอบมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำใช่ไหมครับ จากคุณ : นาฬิกาปลาดาว เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 18:01:57

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องฤกษ์นี่ ถ้าถามผม ผมว่ามันคือ  กาลที่เหมาะสมครับ ไม่ได้มีผลต่อความสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ดีหรือไม่ดี แต่มีผลต่อความ สะดวก ลุล่วง หรือ ฉุกละหุก ห่วงหน้าพะวงหลัง ซึ่งเรื่องหรือกิจที่จะทำต่างกัน ฤกษ์ที่เหมาะก็ต่างกัน ตัวอย่าง เช่น ที่7# ได้ว่าไว้ เรื่องฝนกับงานพิธี หรืออย่างสมัยก่อน จะไปตีเมืองก็ต้องดูฤกษ์ครับผม ไปตอนกลางวันแดดร้อน ทหารเหนื่อย ศัตรูเห็น ก็จบครับ จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 18:43:50

ความคิดเห็นที่ 20 ฤกษ์ของพระพุทธเจ้าดีกว่า ไม่ต้องไปสนใจดูฤกษ์ยามจากหมอดูคนไหน ฤกษ์จากปุถุชน ไหนจะมาสู้ ฤกษ์ของ "พระพทธเจ้า" ไปได้ครับ ก่อนอื่น... ตั้งนะโม ๓ จบ ภาวนาว่า "นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา" ท่องคำแปลด้วย "ประโยชน์ ได้ผ่านเลยซึ่งคนเขลา ผู้เชื่อถือฤกษ์ยามอยู่, วันที่ดี(สะดวก)ที่สุด มันเป็นฤกษ์ที่ดีที่สุดในตัวอยู่แล้ว ดวงดาวจะมาทำอะไรได้" (โพธิสตฺต)ขุ.ชา.เอก.๒๗/๑๖ จากคุณ : เภตรวรดิตถ์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 03:24:25

ความคิดเห็นที่ 21 ฤกษ์ดี อยู่ที่ความพร้อมครับ แปลเอาความแค่สั้นๆ ง่ายๆ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:37:15