ความคิดเห็นที่ 1   โดมิคุ่ม??? จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:42:53 A:124.122.164.201 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 2 คิดว่าที่สมองไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกน่ะ เลยไม่รู้สึกเจ็บ จากคุณ : MoMelyz เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:43:10

ความคิดเห็นที่ 3   โดมิคุ่ม??? http://en.wikipedia.org/wiki/Midazolam จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:44:42 A:124.122.164.201 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 4 ตามนั้น สมองไม่มีเส้นประสาท เลยไม่รู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอย่างนี้ทุกกรณีนะ จากคุณ : ย้ายมาอยู่ที่นี่ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:11:06

ความคิดเห็นที่ 5   ผ่าสมองไม่เจ็บอยู่แล้วครับเรื่องธรรมดา(ตัวเนื้อสมองไม่เจ็บ) เค้าวางยาชาเฉพาะที่ ให้ตั้งแต่กะโหลกไล่ไปถึงผิวหนังบนหัวไม่เจ็บ ส่วนการที่วางยาสลบพลาดทำให้รู้สึกตัวระหว่างผ่าตัดแต่ขยัยไม่ได้ ก็ดูจากช่องDiscovery น่ะแหละครับว่ามีจริง แต่เดียวนี้ระบบของ สหรัฐมีการปรับปรุง ทำให้กรณีแบบนี้แทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นแล้ว จากคุณ : NOVA เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:11:13 A:110.164.241.5 X: TicketID:237558

ความคิดเห็นที่ 6 ภาวะการรู้สึกตัวของคนไข้ที่ได้รับยาสลบเหมือนในหนัง AWAKE  เรียกว่า Anesthesia awareness ค่ะ ...ซึ่งแม้ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ก็ยังพบได้เป็นหมื่นๆ รายต่อปีค่ะ สำหรับในบ้านเรานั้นก็พบได้ 1 ถึง 2 ราย ต่อคนไข้ 1000 คน ที่มาดมยาสลบค่ะ สำหรับเคสที่เสี่ยงจะเกิดภาวะ awareness นี้  อันดับต้นๆเลย คือ เคสคุณแม่ที่มาผ่าคลอด ( cesarean section) เคสที่ผ่าตัดหัวใจค่ะ เดี๋ยวจะอธิบายว่าทำไมถึงเกิดได้มากกว่าปกติ เวลาดมยาสลบแล้ว step ทั่วไปตามมาตรฐานจะมีสามขั้นค่ะ step แรก คือการเหนี่ยวนำให้คนไข้สลบ หรือเรียกว่าการ inductionค่ะ  โดยทั่วไปในผู้ใหญ่ก็จะฉีดยาเข้าทางเส้นน้ำเกลือให้หลับ แล้วใส่ท่อช่วยหายใจ ในเด็กที่ไม่ร่วมมือให้แทงน้ำเกลือก็จะให้ดม gas ให้ไม่รู้สึกตัวก่อนค่ะ แล้วค่อยแทงน้ำเกลือ ให้ยา step 2 คือ ช่วง maintenance คือการรักษาความลึกของการสลบไว้ ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่หมอผ่าตัดทำการผ่าตัดนั้นเองค่ะ เวลาคนไข้สลบเราจะ balance กันระหว่าง 1. unconciousness คือภาวะที่คนไข้หลับลึก ไม่รู้สึกตัว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมให้ gas สลบค่ะ ( gas มาจากเครื่องดมยาสลบที่ต่อกับท่อช่วยหายใจ) 2. analgesia คือ คนไข้ไม่ปวด โดยการให้ยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟีนค่ะ 3. relaxation คือ การหย่อนกล้ามเนื้อ เพื่อให้การผ่าตัดดำเนินไปด้วยความสะดวก แน่นอนว่าต้องให้ยาหย่อนกล้ามเนื้อ (  muscle relaxant ) step 3  คือ การแก้ฤทธิ์ยาสลบให้คนไข้ตื่น เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้น   การ เลือกใช้ยาทั้งสามกลุ่มนี้ต้องปรับให้พอเหมาะพอดีค่ะ เช่น ถ้าให้  gas มากเกินไป จะมีภาวะ ความดันโลหิตตก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ให้ยาหย่อนกล้ามเนื้อมาก หลังผ่าตัดก็จะหายใจเองไม่ไหว จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:20:05

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไข้หลับจริงๆ หมอดมยาจะคำนวนยาตามน้ำหนักตัวคนไข้ค่ะ จากนั้นเมื่ออยู่ในช่วงผ่าตัด ก็จะมีการวัดสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง ถ้าคนไข้หลับลึก หัวใจจะเต้นปกติไม่เร็วรัว ความดันไม่ขึ้นสูง นอกจากนี้ยังดูสัญญาณกายอื่นๆ เช่น รูม่านตาไม่ขยาย ไม่มีน้ำตาไหล ไม่หายใจเอง ไม่ขยับ แต่จริงๆแล้ว การจะดูว่าคนไข้หลับลึกจริงๆหรือเปล่าต้องดูจากคลื่นไปฟ้าสมอง ( EEG ) หรืออาจใช้เครื่อง Bispectral index (BIS) (คล้ายๆกับคลื่นสมอง แต่บอกค่ารวมๆ) ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว ไม่ได้วัดทุกรายค่ะ เพราะเครื่องมือไม่พอ ยุ่งยากในการปฏิบัติ และอื่นๆนอกจากโรงเรียนแพทย์  หรือโรงพยาบาลใหญ่จริงๆ แล้วคนไข้เกิด awareness ได้อย่างไร? ก็มักจะเกิดจากการให้ยาไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็น gas หรือยาแก้ปวด   ส่วนเจ้ายาหย่อนกล้ามเนื้อเนี่ยไม่ได้ทำให้ลดอุบัติการณ์นี้นะคะ ทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ เพราะตัวนี้มันทำให้เป็นอัมพาต แต่ยังรู้ตัวค่ะ ซ้ำร้ายไปบดบังอาการที่คนไข้จะตื่นหรือขยับตัวด้วยค่ะ   ซึ่งจริงๆแล้วถ้าทำ step ตามมาตรฐาน อย่างที่กล่าวไปแล้ว โอกาสเกิด awareness แทบเป็นศูนย์ก็ว่าได้ค่ะ เพราะคนไข้จะหลับลึกพอ แต่จะมีบางเคสที่การดมยาไม่เป็นไปตามนี้ค่ะ ตัวอย่างเลย การผ่าคลอด ปกติแล้วในเคสทั่วไป เราจะทำให้คนไข้สลบก่อน จากนั้นก่อนจะผ่าตัดจะมีการฟอกน้ำยา ปูผ้าสะอาด ซึ่งกินเวลาหลายนาที ทำให้ยาสลบมีเวลาจะออกฤทธิ์เต็มที่  ( อย่าง gas การออกฤทธิ์คือการสูดเข้าไปในปอด ไปเส้นเลือดที่ปอด ไปเส้นเลืดที่สมอง ออกฤทธิ์ที่สมองทำให้ไม่รู้ตัว) คนไข้จึงหลับลึกพอ แต่ในการผ่าคลอด เราอยากให้ยาที่ฉีดไปที่แม่มีผลต่อลูกน้อยที่สุด ดังนั้น( เป็นมาตรฐานทั่วโลก) จะทำการฟอกน้ำยาปูผ้าก่อน แล้วจึงฉีดยาให้คุณแม่หลับ ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ยาหย่อนกล้ามเนื้อ จากนั้นหมอผ่าตัดจะลงมีดเอาลูกออกมาเลย อย่างยาแก้ปวด หรือยาตัวอื่นๆเช่น Dormicum จะให้หลังคลอดลูก เพราะมีฤทธิ์กดหายใจค่ะ ดังนั้นคุณแม่ผ่าคลอดมักเกิด awareness ได้บ่อยกว่าปกติ เพราะยังสลบลึกไม่พอ ส่วนการผ่าตัดหัวใจ นั้นจะมีช่วงหนึ่งที่ arrested heart คือการทำให้หัวใจหยุดเต้นโดยใช้เครื่องปอด-หัวใจเทียม (เพื่อสะดวกต่อการผ่าตัด)  รวมทั้งปอดก็หยุดแลกเปลี่ยนกาซด้วย เลยทำให้คนไข้ไม่ได้รับยาสลบช่วงนี้ค่ะ ส่วนอื่นๆนั้นก็อย่างที่ กล่าวมาแล้ว เช่น อาจเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องมือ เช่น เครื่องให้ยาสลบให้ gas ออกมาน้อยกว่าปกติ ภาวะที่คนไข้มีการทำลายยามากกว่าปกติ เช่น คนไข้ที่ใช้ยาเสพติดเป็นประจำ เป็นต้นค่ะ การเกิด awareness นั้นถือเป็นฝันร้ายของทั้งคนไข้และวิสัญญีแพทย์ทีเดียวค่ะ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่บางทีก็สุดวิสัยจริงๆ ดังนั้นอย่างในอเมริกา บางที่จะติด BIS ทุกราย เพราะเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องมากค่ะ ส่วนการเกิด awareness นั้น ก็มีทั้งจำได้ (recall ) และจำไม่ได้ค่ะ ในบางเคสที่จำไม่ได้ คนไข้อาจจะมีอาการฝันร้าย พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ส่วน ในเคสที่จำได้นั้น ก็จะมีตั้งแต่ไม่เจ็บเลย จนถึงเจ็บมากค่ะ ซึ่งน่าสงสารคนไข้มากๆที่เดียว บางรายเป็นมากถึงขนาดต้องรักษากับจิตแพทย์ค่ะ เพราะมีทั้งอาการ ซึมเศร้า ฝันร้าย กลัวการผ่าตัดขนาดหนัก แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 53 23:52:49 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 53 23:24:22 จากคุณ : หมอดมยา (หมูเหมียว) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:21:17

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนการผ่าตัดสมองโดยที่คนไข้ยังตื่นอยู่นั้น เรียกว่า "awake craniotomy" จะทำในกรณีที่ตำแหน่งของเนื้องอกที่จะผ่าตัดอยู่ใกล้ส่วนสำคัญ เช่น ส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว สามารถทำได้โดยการฉีดยาชา ร่วมกับใช้ยาแก้ปวด+ยานอนหลับ หรือจะให้คนไข้สลบในช่วงที่ลงมีดที่หนังศีรษะ กระโหลกศีรษะ แล้วค่อยปลุกตื่นตอนผ่าตัดที่เนื้อสมองก็ได้ค่ะ เพราะตรงสมองคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บแล้ว โดยคนไข้จะสามารถพูดคุย ทำตามคำสั่งได้ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:22:16

ความคิดเห็นที่ 9 มีกรณีฟื้นขึ้นมาแล้วโกรธแค้นถึงขั้นทำร้ายแพทย์ไหมครับ แล้วถ้าเกิดในเมืองไทยฟ้องแพทย์ได้ไหมครับ แล้วสามารถจงใจทำให้คนไข้เกิดแบบนี้ขึ้นได้ไหมเอ่ย จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:33:31

ความคิดเห็นที่ 10 บอกได้คำเดียวว่าน่ากลัว จากคุณ : jib_ak เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:43:25

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่น่าจะฟ้องได้ เพราะเป็นการพ้นวิสัย และหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำโดยประมาท จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:52:54

ความคิดเห็นที่ 12 การฟ้องแพทย์สามารถฟ้องได้ทุกกรณีอยู่แล้วครับ ส่วนศาลจะรับฟ้องหรือไม่ จะชนะคดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศาลครับ จงใจทำได้หรือไม่ตอบว่าทำได้ แต่ยุ่งยากกว่าให้สลบไปเลยมาก และเรื่องนี้คงไม่มีใครต้องการให้เกิดแน่ๆ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:54:15

ความคิดเห็นที่ 13 ^อื่ม ผมใช้คำผิด ฟ้องได้ครับ แต่จะตัดสินยังไงขึ้นอยู่กับศาล จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:59:20

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 9 มีกรณีฟื้นขึ้นมาแล้วโกรธแค้นถึงขั้นทำร้ายแพทย์ไหมครับ -โกรธน่ะ ต้องโกรธแน่นอน แต่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายไหม? ยังไม่เคยอ่านเจอนะคะ แล้วถ้าเกิดในเมืองไทยฟ้องแพทย์ได้ไหมครับ -ได้ค่ะ แต่ต้องมีการพิสูจน์ว่าคนไข้เกิด awareness จริงไหม ? เกิดขึ้นโดยความประมาทเลินเล่อหรือเป็นเหตุสุดวสัยจริงๆ ...  ในต่างประเทศพบว่ามีเคสที่พยายามร้องเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าตัวเองรู้สึกตัวช่วงผ่าตัด ซึ่งก็ต้องมาดูกันทั้งเหตุการณ์ พยานต่างๆ แล้วสามารถจงใจทำให้คนไข้เกิดแบบนี้ขึ้นได้ไหมเอ่ย -ได้ค่ะ อย่างถ้าให้ยาหย่อนกล้ามเนื้ออย่างเดียว ไม่ให้ยาอย่างอื่นเลย ... คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น .. แต่คงไม่มีหมอคนไหนทำหรอกนะคะ อย่างตอนนี้ต้องดมยาเคสผ่าตัดหัวใจ ก็ระวังมากจริงๆที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็ใช้เครื่อง Bispectral index (BIS) ติดดูว่าคนไข้หลับลึกหรือเปล่าทุกราย   Dormicum นี่ใช้เยอะมาก ไม่อยากให้มีแม้แต่เคสเดียวจริงๆ รูป heart - lung machine  ที่ใช้ในช่วงผ่าตัดหัวใจ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 00:04:07 จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:02:30

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่ตอบครับ พอดีเคยไปแย่งจีบสาวกับหมอผ่าตัดเลยกลัวน่ะครับ ค่อยสบายใจหน่อย(ไหมเนี่ย) จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:11:33

ความคิดเห็นที่ 16 คุณหนูเหมียว รู้สึกว่าจะมีแพทย์ที่ตั้งใจผ่าตัดโดยไม่ยอมวางยาให้นะ ก็หมอญี่ปุ่นที่ทำกับเชลยจีนตอนสงครามโลกไง เช่น ไปผ่าท้องผู้หญิงท้องแล้วเอาทารกออกมา เออใช่ พวกหมอนาซีที่น่าจะโหดน้อยกว่าหมอญี่ปุ่น เค้าจะวางยาสลบเชลยยิวก่อนผ่าตัดมั้ยอ่ะ อย่างเช่นการทดลองที่ไปตัดขาเชลยยิวมาลองแปะกับคนขาขาดอะไรแบบนี้น่ะ ปล. ที่คิดว่าทหารนาซีใจดีกว่าทหารญี่ปุ่น เพราะแม้แต่นาซีเองก็ยังรับความทารุณกรรมที่ทหารญี่ปุ่นทำกับคนจีนไม่ได้ จนต้องช่วยคนจีนให้มาอยู่ในเขตปลอดภัย (จากทหารญี่ปุ่น) จากคุณ : ก็อดแฮนด์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:24:11

ความคิดเห็นที่ 17 อย่างอื่นไม่รู้ รู้แต่เคยโดนบล็อคหลังฝ่าตัดเกี่ยวกับระบบทางเดินบางอย่าง ก็ขยับตัวไม่ได้เลย แต่ประสาทหู+ตา...ปกติ แต่หมอดันมีผ้าบังไม่ให้เห็นสิ่งที่ผ่า เสียดายจัง? จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 01:07:18

ความคิดเห็นที่ 18 เคยดูเหมือนกันเรื่องนี้หนังดีๆ จากคุณ : PoonfaH เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 01:50:10

ความคิดเห็นที่ 19   จำได้ว่าเคยผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง สามสิบกว่าปีแล้วมั้ง  หลังจากที่วิสัญญี ให้ยา ก็เริ่มรู้สึกมึนๆเห็นภาพเบลอๆ(เป็นเงาๆ ขาวดำแทนเห็นภาพปกติ)คล้ายๆตอนหน้ามืดเป็นลมแต่ยังเห็นว่าใครทำอะไร  หมอเริ่มลงมือผ่าไปได้สักพักแล้ว(เกือบครึ่งชั่วโมงได้มั้ง) พยาบาลถึงได้หันมาเห็นว่ายังลืมตาอยู่ จึงได้เอานิ้วเขี่ยหนังตาให้ปิดหลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรเท่าไรแล้ว แต่ยังรู้สึกได้ว่ามีการเข็นรถเอาเราไปพักไว้ตรงข้างทางเดิน ดังนั้นเชื่อว่า น่าจะมีจริงและน่าจะมีบ่อยด้วย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 03:14:00 จากคุณ : อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 03:13:15

ความคิดเห็นที่ 20 awake นี่หลังๆ ยังกะหนังผี จากคุณ : archdrea เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:38:34

ความคิดเห็นที่ 21 # 16 การทดลองของทหารญี่ปุ่นกับเชลยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (Unit 731)  กับ  Nazi Experiments นั้น มีการผ่าตัดมนุษย์ที่ยังรู้สึกตัวเพื่อการทดลองเป็นจำนวนมากค่ะ ซึ่งนับว่าเลวร้ายสุดๆ  คณ กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เคยเล่ารเองการทดลองของหมอนาซีไว้ตามนี้  สยองมากๆ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9332913/X9332913.html # 19 ยังดีที่รู้สึกตัวแต่ไม่เจ็บใช่ไหมคะ ? เราเคยเขียนกระทู้เรื่องนี้ในห้องชานเรือน แล้วพบว่ามีคุณแม่ท้องหลายคนที่ผ่าตัดแล้วรู้สึกตัวค่ะ เลยแนะนำไปเสมอว่า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผ่าตัดคลอดนี่บล็อคหลังจะดีที่สุด ... จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:45:11

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนที่ย่าผ่าตัดสมัยเด็กๆ ย่าเคยเล่าให้ฟังว่ารู้สึกนะว่ามีคนมามุงอยู่ รู้ว่าเค้ามาทำอะไรกับตัวเรา เข็นเตียงไปห้อง แต่ไม่เจ็บ จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:23:06

ความคิดเห็นที่ 23 น่ากลัวนะเนี่ย  เลยไม่ดูหนังเรื่องนี้เลย  -*- จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:18:12

ความคิดเห็นที่ 24 คือเราก็รู้สึกตัวตอนผ่าเหมือนกัน  เจ็บมาก ได้ยินเสียงหมอคุยกัน แต่ฟังไม่รู้เรื่อง แยกไม่ออกว่าเค้าคุยอะไร รู้สึกว่ามีคนมาแบะปาก (กรามล่างหัก) โอ๊ย เหมือนปากจะฉีก อยากตื่นมากๆ อยากจะพูดก็ไม่มีเสียง ขยับตัวก็ไม่ได้ แต่รู้สึกน้ำตาไหล พอฟื้นมารู้สึกเหนือยมาก (อยู่ห้องพักฟื้นแล้ว)ภาพเบลอไปหมด น้ำตาไหล ได้ยินเสียงตัวเองอู้อี้ๆ เหมือนจิตกระเจิง 555 สักพักประมาณครึ่งชั่วโมง ค่อยดีขึ้นหน่อย นอนนิ้งๆ น้ำตาไม่ไหลแล้ว รู้สึกแย่มาก เหมือนฝันร้ายที่เจ็บจริงๆ T T นึกว่าใครๆก็เป็นกันนะเนี่ย - - แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 15:16:56 จากคุณ : ไข่เจียวชุบชะอม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 15:11:54

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ^ เพิ่มเติมข้อความนิดนึง ไปถามแม่มา แม่ก็บอกว่าตอนผ่าคลอดเราก็รู้สึกมีคนมาทำอะไรกับร่างกายเหมือนกัน จากคุณ : ไข่เจียวชุบชะอม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 15:14:28

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ^ นี่คุณไข่เจียว ถ้ารู้สึกเจ็บนี่ไม่ใช่แล้วล่ะ ต้องไม่รู้สึกเจ็บสิ ผมเคยถูกรผ่าตัดแต่ยังรู้สึกตัวอยู่ พูดคุยกับหมอได้ แค่ชาตรงที่ถูกผ่าตัด ไม่เจ็บนะ แปลว่าหมอคุณพลาดแล้วล่ะ คิดว่านะ จากคุณ : ก็อดแฮนด์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:07:08

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็เคยดมแก็สนะ  ยังไม่ทันจะหลับดีเลย มีดก็กรีดเข้าไปที่แขนแล้ว 2 วินาที 2 จึก กริ๊ดดดดดด ลั่นห้องผ่าตัด หมอเลยรมควันเข้าไปอีก นอนฝันสบายเลย 55555 จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 17:11:20

ความคิดเห็นที่ 28 ทำหมัน วางยาสลบได้ไหมครับ น่าจะเป็นเรื่องที่เสียวที่สุดในชีวิตของผม.. จากคุณ : zenzen เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 17:29:22