ความคิดเห็นที่ 1 ตระกูลของช้าง ช้างในโลกนี้มีตระกูลใหญ่อยู่ 2 ตระกูล คือช้างเอเชีย และช้างแอฟริกา ช้างเอเชีย ได้แก่ ช้างที่ช้างอาศัยอยู่ตามป่าในประเทศไทย อินเดีย พม่า มอญ กัมพูชา ศรีลังกา และมาเลเซีย เป็นต้น ช้างแอฟริกา ช้างในทวีปแอฟริกา เป็นช้างที่มีความฉลาดน้อยกว่าช้างเอเชียและดุร้าย ยังไม่มีผู้ใดนำมาฝึกใช้งานหรือฝึกเพื่อการแสดง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:50:19

ความคิดเห็นที่ 2 ลักษณะของช้างเอเชีย ศีรษะจะกว้าง มี 2 โหนกหรือลอน ส่วนช้างแอฟริกาจะแหลมเล็กและมีโหนกหรือลอนเดียว จะเรียกโหนกนี้ว่า “โหนกน้ำเต้า” มีมันสมองเล็กเมื่อเทียบกับขนาดตัว ความฉลาดของช้างไม่ได้สัมพันธ์กับขนาดของศีรษะหรือสมอง ช้างมีศีรษะใหญ่เพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้นที่เกิดจากการออกแรงของงวง กรามและงา ศีรษะกับงวงสัมพันธ์กันคือ ถ้าศีรษะใหญ่งวงก็ใหญ่ด้วย ช้างที่มีศีรษะที่ใหญ่โตถือเป็นลักษณะอุตมะ เป็นมงคล เป็นลักษณะดีในตัวช้าง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:51:47

ความคิดเห็นที่ 3 สุกรอาจจะถือได้ว่าเป็นสัตว์ ที่มีความฉลาดเป็นอันดับที่สี่ รองมาจากคน สัตว์พวกลิง ปลาวาฬและปลาโลมา (จาก Veggie Singles News, 1996)   http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/article/swinen.htm จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:52:37

ความคิดเห็นที่ 4 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:53:03

ความคิดเห็นที่ 5 หู ขอบปลายหูส่วนล่างซึ่งบางที่สุด มีลักษณะขาดเว้าๆ แหว่งๆ กะรุ่งกะริ่ง ลักษณะเช่นนี้สามารถบอกได้ว่าช้างมีอายุมากหรือน้อย ปกติช้างจะโบกหูไปมาเพื่อรับรู้เสียงต่างๆ ถ้าใบหูกางนิ่งแสดงว่ากำลังชั่งใจ แต่ถ้าหูลู่เข้าหาลำคอแสดงว่าช้างกำลังจะโถมเข้าใส่ ช้างเอเชียจะมีขนาดเล็กกว่าช้างแอฟริกา และขอบบนของใบหูช้างเอเชียจะอยู่สูงไม่พ้นระดับหัว สำหรับช้างแอฟริกา ขอบใบหูจะอยู่สูงกว่าระดับหัว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:53:42

ความคิดเห็นที่ 6 ตา ช้างจะมีตาขนาดเล็ก มีขนตาค่อนข้างยาว แต่มีสายตาไม่ค่อยดีระยะแค่ 15-20 เมตร ก็อาจมองไม่ค่อยเห็นศัตรูหรือสิ่งแปลกปลอมแล้ว อาศัยที่มีจมูกดีใช้ในการดมกลิ่นแทน  เลนซ์ตาของช้างเป็นเลนซ์นูน ทำให้ช้างมองเห็นสิ่งต่างๆ ค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นช้างจึงเห็นควาญโตกว่าความเป็นจริง คนเราจึงสามารถควบคุมช้างได้  มีผู้ศึกษาว่าช้างเอเชียมอง เห็นสีแดง เหลือง ขาวได้ดีกว่าสีเขียวหรือน้ำเงิน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:56:19

ความคิดเห็นที่ 7 งวง เป็นส่วนที่เจริญมาจากจมูกและริมฝีปากบน ที่ปลายงวงของช้างเอเชียมีจงอยเดียวต่างจากช้างแอฟริกาที่มี 2 จงอยและมีรูจมูก 2 รู งวงทำหน้าที่เป็นทั้งจมูกและมือใช้หายใจ ดมกลิ่น ดูดน้ำ หยิบจับสิ่งของงวงประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 100,000 มัด สามารถงอและบิดได้ทุกทิศทาง เพราะไม่มีกระดูก จงอยทำหน้าที่แทนนิ้วมือ หยิบหรือคีบของเล็กๆ ได้ ช้างใช้งวงดูดน้ำพ่นน้ำเข้าปาก พ่นใส่ตัวเองเพื่อระบายความร้อน ช้างสามารถดูดหรือพ่นน้ำได้โดยไม่สำลักเพราะมีระบบปิด เปิดที่โคนงวงที่มีประสิทธิภาพ งวงยังเป็นเรด้ารับรู้กลิ่นได้ไกลถึง 50 เมตรด้วยการส่ายงวงหาตำแหน่งที่มาของกลิ่น ประสาทสัมผัสของช้างมีสัดส่วนระหว่างกลิ่น : เสียง : ภาพ = 60 : 30 : 10 แสดงว่าการได้กลิ่นดีกว่าการมองเห็น เมื่อยามมีภัยอันตรายช้างจะใช้งวงเคาะพื้นเพื่อส่งสัญญาณระแวงภัยแก่ลูกโขลง หรือบอกเจ้าของในการเดินทางค่ำคืนว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว งวงยังช่วยตรวจสอบพื้นที่ๆ จะเหยียบว่าสามารถเหยียบได้หรือไม่ เมื่อถูกแมลงรบกวนจะใช้งวงพ่นทรายใส่ จงอยที่ยื่นออกมาจากช้างแอฟริกา (หมายเลข 1) จะมี 2 อันอยู่ในตำแหน่งบนและล่าง ส่วนในช้างเอเชีย (หมายเลข 2) จะมีจงอยยื่นมาเพียง 1 อันจากด้านบน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:57:14

ความคิดเห็นที่ 8 งา เป็นส่วนของฟันตัดที่พัฒนาเจริญงอกยาวออกมาจากขากรรไกรบนมี 2 กิ่งอยู่ตรงมุมปาก 2 ข้าง ช้างเอเชียมีเฉพาะในช้างเพศผู้ ช้างเพศผู้ ที่มีงาเรียก “ช้างพลาย” ช้างเพศผู้ที่ไม่มีงาเรียก “ช้างสีดอ” ช้างพังหรือช้างเพศเมียจะมีงาที่ไม่พัฒนางอกออกมาพ้นริมฝีปากหรือออกมาสั้น ประมาณ 10-15 เซนติเมตร เรียกว่า “ขนาย” ดังนั้นช้างสีดอและช้างพังจึงถือว่าไม่มีงา งาส่วนที่โผล่ออกมาเป็น 2/3 ของงาทั้งหมด อีก 1/3 จะฝังอยู่ในกะโหลกส่วนนี้กลวงมีเส้นประสาทและ เลือดมาเลี้ยง เส้นประสาทนี้ไปสิ้นสุดที่ปลายงา งาจึงมีความรู้สึกเหมือนกับฟันของคน งาช้างเอเชียหนักประมาณ 45-50 กิโลกรัม ยาวประมาณ 9 ฟุต ส่วนงาช้างอาฟริกาหนัก ประมาณ 100 กิโลกรัม ยาวประมาณ 10 ฟุต งาจะเจริญในอัตรา 17 เซนติเมตรต่อปี งามีคุณสมบัติแข็งแรงมาก ไม่ไหม้ไฟ ซึมน้ำเล็กน้อยและเปลี่ยนสีน้อย อีกอย่างสามารถใช้ทดสอบอาหารที่มีพิษได้ โดยงาจะเปลี่ยนเป็นสีดำถ้าอาหารนั้นมีพิษ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:57:47

ความคิดเห็นที่ 9 ฟัน ช้างมีฟันทั้งหมด 6 ชุด เป็นฟันน้ำนม 3 ชุด ฟันแท้ 3 ชุด  ฟันชุดสุดท้ายหลุดหมดเมื่อ ใด ช้างจะกินอาหารไม่ได้ ร่างกายจะซูบผอมอ่อนแอและตายในที่สุด จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:58:11

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อมน้ำมัน เรียกว่า Temporal gland อยู่บริเวณขมับระหว่างตากับรูหูข้างละต่อม จะมีทั้งในช้างเพศผู้และเพศเมีย ช่วงที่ช้างกำลังจะเริ่มมีอาการตกมันต่อมนี้จะบวมใหญ่ขึ้น ขนาดผลมะนาว มีรูเปิดให้น้ำมันไหลออกมา เมื่อช้างแสดงอาการตกมันน้ำมันมีกลิ่นเหม็นแรงมากลักษณะคล้ายน้ำมันหมูข้นๆ ควาญจะต้องนำช้าง แยกออกไปอยู่ไกลๆ จากช้างตัวอื่นๆ ให้ข้างอยู่ในที่เงียบสงบและล่ามโซ่เส้นใหญ่ ควาญจะก่อกองไฟเพื่อกลบกลิ่นป้องกันช้างตัวอื่นเข้าไปทำร้ายช้างที่ตกมัน หากน้ำมันไหลเข้าปากช้างที่กำลังตกมัน ช้างจะยิ่งแสดงอาการดุร้ายยิ่งขึ้น ช้างพลายและช้างพังที่เจริญเติบโตเต็มที่และร่างกายสมบูรณ์ อายุอยู่ในเกณฑ์ที่จะผสมพันธุ์ได้ จะตกมันทั้งสิ้น จะตกมันเฉลี่ยปีละ 1 ครั้ง ครั้งหนึ่งนานประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช้างที่อ่อนแอเป็นโรค จะไม่ตกมันเลย การตกมันเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:59:22

ความคิดเห็นที่ 11 ช้าง 5 ขา จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 19:59:57

ความคิดเห็นที่ 12 สัตว์โลกไม่น่ารักแล้ว ตอน "ช้างกินคน" จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:00:51

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดี คุณทาสฯ ช้างเมื่อจะผสมพันธุ์จะขึ้นทับกัน เช่นเดียวกับสัตว์ป่าอื่นๆ ช้างจะตั้งท้องนานประมาณ 17-24 เดือน จึงคลอดลูก มักมีตัวเดียว น้อยครั้งที่คลอดลูกแฝด จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:01:49

ความคิดเห็นที่ 14 รูปร่าง ช้างเอเชียมีรูปร่างอ้วนป้อม หลังจะโค้งเป็นรูปโดมตรงกลาง ช้างเอเชียเพศผู้ที่โตเต็มที่จะมีความสูงเฉลี่ย 2.4-2.9 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 3,500-4,500 กิโลกรัม ช้างเพศเมียที่โตเต็มที่มีความสูงประมาณ 2.1-2.4 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 2,300-3,700 กิโลกรัม ความยาวของลำตัววัดจากหัวจรดหางประมาณ 4 เมตร   หลังของช้างแอฟริกาจะเว้าลง (รูป 1) แต่หลังของช้างเอเชียจะนูนขึ้น (รูป 2) จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:02:27

ความคิดเห็นที่ 15 ผิวหนัง ลักษณะผิวหนังมีรอยย่นคล้าย ผิวน้อยหน่าและมีความไวต่อการสัมผัสทุกจุด ต่อมเหงื่อตามผิวหนังขนาดเล็กมากซึ่งขับเหงื่อออกมาเพียงเล็กน้อยจะพบเห็น ชัดบริเวณโคนเล็บโดยสังเกตจากรอยเปียกที่มีฝุ่นเกาะอยู่ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:03:05

ความคิดเห็นที่ 16 ขา ช้างมีขาที่ใหญ่ ตรงคล้ายต้นเสา ขาหน้าจะรับน้ำหนักมากเพราะมีส่วนหัวอยู่ อุ้งเท้ามีหมอนรองเหมือนซ่นรองเท้า ช้างจึงเดินเงียบและสามารถเดินบนถนนที่แข็งแรงหรือพื้นทรายหรือผิวถนนขณะแดดร้อนจัดได้ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:03:43

ความคิดเห็นที่ 17 สัตว์โลกไม่น่ารักอีกแล้ว ตอน "ช้างกินมอไซค์" จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:04:32

ความคิดเห็นที่ 18 หาง ช้างจะมีโคนหางใหญ่ มีกระดูกหางอยู่ภายใน ลูกช้างที่เกิดใหม่จะมีหางยาวละพื้นเมื่อโตขึ้นหางจะอยู่ระดับข้อเท้าหลัง   รูปนี้ขอเป็นช้างแอฟริกานะ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:05:08

ความคิดเห็นที่ 19 5555 สงสารเจ้าของมอเตอร์ไซค์ ธรรมชาติชองช้างเอเชีย ช้างเป็นสัตว์สังคม หากินเป็นฝูง ซึ่งเรียกว่า “โขลง”   โขลงหนึ่งจะมีช้างประมาณ 10-20 ตัว หรือ 30-50 ตัว ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม น้ำ และอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ในโขลงช้างหนึ่งๆ นั้น จะมีช้างพังหรือช้างเพศเมียที่อายุมากซึ่งเรียกกันว่า แม่แปรก(ปะแหรก) เป็นตัวนำฝูงท่องเที่ยวหากิน หลบภัย เลือกหาที่หลับนอน ส่วนช้างในโขลงจะเป็นช้างพังหรือช้างตัวเมียและช้างพลายหรือช้างตัวผุ้อายุน้อยยังไม่มีงา หรือมีก็ยังสั้นยาวพ้นริมฝีปากเพียงเล็กน้อยประมาณ 10-20 เซนติเมตร นอกจากนี้ภายในโขลงอาจจะมีช้างพลายหรือช้างตัวผู้หนุ่มกระทงงายาวพ้นริม ฝีปากประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่วนช้างพลายหรือช้างตัวผู้ขนาดใหญ่ที่โตเต็มที่แล้วไม่ว่าจะเป็นช้างสีดอ หรือช้างพลายงายาวพ้นริมฝีปาก 50 เซนติเมตรขึ้นไป มักจะแยกตัวออกไปหากินเฉพาะกับช้างพลายหรือช้างตัวผู้ด้วยกัน 2-3 ตัว แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 09:57:15 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:06:36

ความคิดเห็นที่ 20 ช้างป่าที่หากินอยู่ตัวเดียว ถ้าไม่ใช่ช้างแก่ที่เดินตามฝูงไม่ทัน มักจะเป็นช้างเกเรที่ถูกขับออกจากฝูง เรียกว่า “ช้างโทน”   ช้างโทนมีนิสัยดุร้าย  จะมีทั้งช้างกลางวัยและช้างแก่ จะท่องเที่ยวไปตัวเดียวโดดเดี่ยว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:07:05

ความคิดเห็นที่ 21 ช้างป่าชอบหากินกลางคืน และนอนกลางวัน ออกหากินราวๆ 4 โมงเย็นหากินเรื่อยๆ จนสว่าง พอแดดเริ่มขึ้นช้างจะกลับไปเข้าป่าหาที่ร่มเย็นและครึ้มเพื่อนอนต่อไป การนอนของ ช้างเวลานอนมักจะยืนหลับ ตัวจะโยกเยกไปมา บางครั้งจะนอนตะแคงกับพื้นดิน ช้างที่มีงา งาจะวางราบลงบนพื้นเช่นกัน เวลาขยับหัว งาจะขูดลากเป็นรอยบนพื้นดิน พรานป่าพอเห็นรอยก็สันนิษฐานได้ว่างายาวขนาดไหน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:07:27

ความคิดเห็นที่ 22 ช้างเอเชียชอบอากาศเย็น จึงมักอยู่ตามป่าละเมาะที่มีห้วยและลำธารเพราะช้างชอบลงเล่นน้ำบ่อยๆ ช้างว่ายน้ำเก่ง ถ้าอากาศร้อนและไม่มีแหล่งน้ำ ช้างจะเอางวงใส่เข้าปากลึกๆ เพื่อดูดน้ำจากกระเพาะแล้วพ่นน้ำตามไหล่หลัง คอและหัวเพื่อให้ผิวหนังเปียกและเย็น ช้างที่ทำงานมากจะดื่มน้ำวันละประมาณ 60 แกลลอนหรือ 15 ปีบ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:07:54

ความคิดเห็นที่ 23 ช้างสามารถ ว่ายน้ำได้เก่งทุกตัวโดยไม่ต้องหัด สามารถว่ายได้ทน โดยเท้าไม่แตะพื้นประมาณ 6 ชั่วโมง หรือกว่านั้น ช้างสามารถดำน้ำได้นานและจะชูงวงขึ้นพ้นน้ำมาหายใจทีหนึ่ง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:09:19

ความคิดเห็นที่ 24 ช้างไม่วิ่งแบบสัตว์อื่นเพราะมีน้ำหนักตัวมาก กำลังข้อและขาไม่สามารถยกตัวของมันให้วิ่งลอยได้ และช้างก็ไม่สามารถกระโดดข้ามได้ ช้างวิ่งได้ช้ากว่าคน การวิ่งของช้างคือการเดินให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง ช้างสามารถ ไต่เขาชันๆ ได้  ช้างเวลาจะข้ามสะพานหรือที่ดินซุยบางแห่งที่มันกลัวว่าจะเป็นหลุม ช้างจะใช้เท้าหน้าเขี่ยหรือลงเหยียบดูว่าสะพานจะไม่หักหรือไม่มีหลุม จึงจะเดินต่อไป จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:10:06

ความคิดเห็นที่ 25 เสียงร้องของช้างมีหลายเสียงแตกต่างกันตามความรู้สึก การติดต่อของช้างที่อยู่ห่างกัน เกิดจากการทำคลื่นเสียงชนิดที่มีความถี่ต่ำที่เรียกว่า “Infrasound” จากการถูหรือบิดงวงของช้างซึ่งบางครั้งสามารถติดต่อกันได้ในระยะทางประมาณ 0.96-4.8 กิโลเมตร จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:10:40

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.vet.ku.ac.th/library-homepage/article/exoticn.htm ที่มา : ความรู้เรื่องช้าง เล่ม 1 และ 2 , กลุ่มงานโรคสัตว์ใหญ่ กองสัตวรักษ์ สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ กรมปศุสัตว์ , 2543. จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:11:28

ความคิดเห็นที่ 27 ช้างเผือก คำว่า ช้างเผือก เป็นคำสามัญที่คนทั่วไปเรียกช้าง ซึ่งมีผิวหนังเป็นสีชมพูแกมเทา อันเป็นสีที่ผิดแปลกไปจากสีของผิวหนังช้างธรรมดา (ปกติเป็นสีเทาแกมดำ) โดยไม่คำนึงถึงลักษณะอื่น ๆ ประกอบด้วย ฉะนั้นคำว่าช้างเผือกตามความหมายที่เราเข้าใจกันจึงอาจจะเป็นทั้งช้างซึ่งมีมงคลลักษณะครบหรือไม่ครบก็ได้ เพื่อมิให้เกิดความสับสนในเรื่องนี้ ทางราชการจึงได้กำหนดศัพท์ที่ใช้เรียกชื่อช้างซึ่งมีลักษณะพิเศษขึ้นใหม่ ตามพระราชบัญญัติรักษาช้างป่า พุทธศักราช ๒๔๖๕ (ราช กิจจานุเบกษา เล่ม ๓๘ หน้า ๗๕ วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๖๔) มาตรา ๔ โดยระบุไว้ว่า "ช้างสำคัญ" ให้พึงเข้าใจว่า ช้างที่มีมงคลลักษณะ ๗ ประการ คือ ตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขน ขาว พื้นหนังขาว (หรือสีคล้ายหม้อใหม่) ขนหางยาว อัณฑะโกศขาว (หรือสีคล้ายหม้อใหม่) ส่วน "ช้างสีประหลาด ให้พึงเข้าใจว่า ช้างที่มีมงคลลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน ๗ อย่าง ที่กล่าวไว้ในเรื่องช้างสำคัญจากความ หมายตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ ชี้ให้เห็นชัดว่า "ช้างสำคัญ" คือ ช้างเผือกที่มีลักษณะครบถ้วน สำหรับช้างเผือกตามความหมายของคนทั่ว ๆ ไป ซึ่งส่วนใหญ่สังเกตจากลักษณะสีของผิวหนังนั้น อาจไม่ใช่ช้างสำคัญหรือช้างเผือกที่มี ลักษณะครบถ้วนก็ได้ เพราะสีของช้างเป็นแต่เพียงมงคลลักษณะข้อ ๑ ในจำนวนมงคลลักษณะ ๗ ข้อ ซึ่งเข้าเกณฑ์ที่เรียกว่า "ช้างสีประหลาด" เท่านั้น ลักษณะสำคัญของช้างเผือก เป็นช้างพลายรูปงาม งาขวา - ซ้ายเรียวงาม กายสีดอกบัวแดง ขนตัวขุมละสองเส้น ขนโขมด สีน้ำผึ้งโปร่ง ขนบรรทัดหลังสีน้ำ ผึ้งโปร่งเจือแดง ขนหูสีขาว ขนหางสีน้ำผึ้งเจือแดงแก่ ตาขาวเจือเหลือง เพดานปากขาวเจือชมพู อัณฑะโกศขาวเจือชมพู เล็บขาว เจือเหลืองอ่อน หูและหางงามพร้อม เสียงเป็นศัพท์แตรงอน http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK3/chapter10/t3-10-l1.htm#sect1 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:12:53

ความคิดเห็นที่ 28 ปิดท้ายกระทู้ด้วยพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นพระยาช้างเผือกประจำรัชกาลที่ 9 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:13:31

ความคิดเห็นที่ 29 ได้รับพระราชทานนามเต็มว่า พระเศวตอดุลยเดชพาหน ภูมิพลนามนาคบารมี ทุติยเศวตกรีกมุทพรรโณภาส บรมกทลาสนวิศุทธวงศ์ สรรพ มงคลลักษณคเชนทรชาต สยามราษฎรสวัสดิประสิทธิ์ รัตนกุญชรนิมิตบุญญาธิการ ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 53 12:03:29 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:14:56

ความคิดเห็นที่ 30 จบแล้ว จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:15:28

ความคิดเห็นที่ 31 เซ็ตสัตว์โลกไม่น่ารักอีกแล้ว ฮามากกก จากคุณ : SnowierLilas เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:22:43

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตให้แล้วเ้ด้อ จากคุณ : loofsipitnap เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:25:24

ความคิดเห็นที่ 33 โพสซัก 2 รูป (1) จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:35:05

ความคิดเห็นที่ 34 (2) จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:35:28

ความคิดเห็นที่ 35 ^ นั่งดูกระดูกเท้าช้าง ... อืม มันคงไม่มี arch of foot .... ที่ชอบที่สุดในตัวช้าง คือ ความมหัศจรรย์ของ ฟันช้าง ที่มันจะเลื่อน ชุดใหม่ มาดันชุดเก่าออกไป ในแนวนอน (อ่านตามที่คุณแทนไท เคยบอก) สนุกจัง คุณลาบ เอาอีกๆ อังกอร์ๆ V V ถามว่า "อังกอร์ หมายถึงอะไร มีที่มาคำนี้จากอะไร" ใช่มั๊ยครับ?? (หรือว่าไม่ได้ถามอย่างนี้หว่า?) อังกอร์ มาจาก encore หมายถึง ย้ำให้หนักขึ้น พูดง่ายๆ ว่า เอาอีก นั่นแหละครับ ก็ชอบกระทู้คุณลาบนี่ครับ อยากให้ลงอีกเยอะๆ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 09:59:39 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 20:49:50

ความคิดเห็นที่ 36 ทำไมต้อง อังกอร์ๆ จากคุณ : pojako เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 21:29:08

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับความรู้เกี่ยวกับช้างครับ ขอเอารูปช้างเผือกมาลงเป็นการตอบแทน จากคุณ : กุมารสยาม เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 21:35:52

ความคิดเห็นที่ 38 ฝากช้างอ้วนอารมณ์ดีด้วย จากคุณ : เวตรา เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 22:09:35

ความคิดเห็นที่ 39 เคยไปช่วยเลี้ยงช้างที่บ้านช.ช้างชราที่จ.กาญจนบุรีกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมาครับ ช้างน่ารักครับ เชื่องมากๆ ตอนกลางคืนก็กางเต้นท์นอนข้างๆมันนั่นแหละ... ได้ไปอาบน้ำในแม่น้ำกับช้างด้วย สนุกมาก ไว้จะหาโอกาสไปอีกครั้ง จากคุณ : ดอกไม้ไฟสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 22:52:13

ความคิดเห็นที่ 40 อิอิ จากคุณ : ดอกไม้ไฟสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 22:52:51

ความคิดเห็นที่ 41   อยากทราบเรื่องสุสานช้างน่ะค่ะ เคยได้ยินว่าช้างจะไปตายในที่เดียวกันที่จริงไหมคะ จากคุณ : Love,Reba เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 23:00:23

ความคิดเห็นที่ 42 แล้วนี่พันธ์อะไรอ่ะครับคุณลาบ?? จากคุณ : amplify love เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 23:13:15

ความคิดเห็นที่ 43 ขอถามเป็นความรู้หน่อยครับ เคยมีใคร หรือสวนสัตว์ไหนเอาช้างเอเชีย กับช้างแอฟริกามาผสมพันธุ์กันไหมครับ และถ้าไม่ อยากทราบว่าการผสมพันธุ์ระหว่าง 2 สายพันธุ์นี้เป็นไปได้ไหมครับ จากคุณ : Turandot เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 53 23:29:57

ความคิดเห็นที่ 45   44ระวังโดนลบไอดีนะครับเอาออกเห่อ จากคุณ : รอมาสิบปีแล้วสินะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 00:28:19

ความคิดเห็นที่ 46 ยสตน!! จากคุณ : riwjin เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 47 44 ระวังโดนยึดอมยิ้มนะจ๊ะ จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 01:34:09

ความคิดเห็นที่ 48 เล่ามั่งเล่ามั่ง... ตอนมาเมกาใหม่ ๆ มีเพื่อนเมกันจาก Wyoming ถามว่า  เวลาไปโรงเรียนขี่ช้างไปไหม  อิฉันนิ่งไปพักนึง  แล้วก็ปล่อยก๊ากกกกก  ตอบไปว่า ต้องคนรวยมาก ๆ ถึงขี่ช้างไปไหนมาไหนได้  เพราะค่าเลี้ยงช้างแพง  ต้องมีที่ดินมาก ๆ ค่าอาหารก็เยอะ  สรุปต้องรวยจัดถึงทำงั้นได้   จนเวลาผ่านไปสักหลายเดือน  โดนเพื่อนคนนี้แหละ  เข็กกะโหลกเพราะเพิ่งรู้ว่า  เมืองไทยทันสมัยขนาดไหนแล้ว   คนไทยโชคดี  ได้จับช้างตัวจริงเสียงจริง  เห็นบ่อยจนชิน   ที่แอลเอ/ออร์เรจ  จะได้เห็นช้าง ได้นั่งช้างก็ตอนมีงานแฟร์  ปีละหน สองงานก็เป็นสองหน   แม่เจ้าประคุณเอ๋ย  กรี้ดกร้าดได้น่ารักจริง ๆ ลูกเด็กเล็กแดงเข้าแถวรอขี่ช้าง  ต่อคนต่อรอบผู้ใหญ่ 20 เหรียญ เด็ก 10  เห็นแล้วอยากพาช้างไทยมา  หน้าตาใจดีกว่าเยอะ   เฮ้อ....คิดถึงเมืองไทยชมัด ขอบคุณคะ  ชอบกระทู้แบบนี้มากเลย จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 07:08:45

ความคิดเห็นที่ 49 #๒๙ ไอ้ตรงท้ายนั้น ไม่ใช่ ฯ ใช่ไหมครับ เพราะเห็นมันยาวจน ไม่น่าจะย่อแล้ว อ๋อ สรรพนาม ช้างป่า เรียก ตัว ช้างบ้านเรียก เชือก ช้างหลวง เรียก ช้าง ครับ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 08:12:21

ความคิดเห็นที่ 50 พูดถึง ช้าง ทำให้ผมนึกถึง โครงการต่างๆ เกี่ยวกับช้างในไทย ผมอยากจะเสนอ มูลนิธิ คืนช้างสู่ธรรมชาติ ครับ ลโกน "เปลี่ยนเชือกเป็นตัว" http://www.elephantreintroduction.org เป็นมูลนิธิในสมเด็จราชิณีของเรา ลักษณะโครงการของมูลนิธินี้ ต่างจากหน่วยงานอื่นๆ คือ พาช้างเข้าป่าจริงๆครับ มีการปรับพฤติกรรม ก่อนปล่อยเข้าป่า ผมติดตามไปครั้งสองครั้ง เดินป่าสนุกดี ช้างเด็กๆ เล็กก็ก็ซนน่ารัก แต่ช้างที่อยู่นานๆ จะยิ่งไกล้ไม่ได้ กิจกรรมปัจจุบันครับ http://elephantreintroduction.บล๊อกสปอต.com/ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 08:53:20

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณ ครับ ไปนั่งช้างมารอบนึ่ง มันเชื่องและก็ฉลาดมากๆ เลยนะฮะ ปล. ช้างวนี้ดีนะครับ ไม่ต้องไปสร้างห้องแอร์ให้มันอยุ๋ด้วย จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 09:58:11

ความคิดเห็นที่ 52   ฮา คห.3 ตัดมาเรื่องหมูได้ไง 555 จากคุณ : ปลาวาฬพ่นน้ำ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 10:02:45

ความคิดเห็นที่ 53 ช้างเผือกคห.28 มันต่างจากช้างธรรมดายังไงหรือคะ เราดูแล้วแยกไม่ออกอะค่ะ ใครรู้ช่วยอธิบายเพิ่มให้หน่อยนะคะ ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 10:28:41

ความคิดเห็นที่ 54 เจ้าเของมอไซค์ก็ไม่รู้อยู่ไหนนะครับ ถ้าเดาไม่ผิด ภาพนั้นเป็ฯเหตุการณ์ฟื้นฟูหลังสึนามิ ครับ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 10:53:46

ความคิดเห็นที่ 55 พี่กุมารคห37ช้างเผือกคือตัวใหน ตัวที่หันก้นให้ หรือตัวที่กำลังชูงวงมองกล้องอยู่ข้างหน้าอะ จากคุณ : ช้างนาโน เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 11:02:44

ความคิดเห็นที่ 56   ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ....^^" ช้างว่ายน้ำได้จริงๆด้วย ตอนแรกนึกว่า เป็นภาพที่ทำขึ้น น่ารักจังเลย ^____^ จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 11:22:54

ความคิดเห็นที่ 57 โรงเรียนผม คนอื่นเค้าคิดว่าเป็นโรงเรียนฝึกช้างอ่ะ แต่ว่ามันก็อยู่ติดกับ ศูนย์คชศึกษา นี่เนอะ ปล.เกี่ยวกันไหมนิ จากคุณ : รักคนที่ชอบแมว เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 11:48:38

ความคิดเห็นที่ 58 ยืนยันว่าเชื่อง และใจดีมากมาย จากคุณ : ไผ่พริ้วลิ่วลม เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 12:29:47

ความคิดเห็นที่ 59 นึกถึงไอ้แหว่งกะไอ้ด้วนเลย หุหุ จากคุณ : La Divinite เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 13:46:16

ความคิดเห็นที่ 60 ขอถามว่า ช้างกลัวอะไรบ้างครับ... จากคุณ : D-FUJIMA เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 15:04:14

ความคิดเห็นที่ 61   60 ช้างกลัวฉิ่ง จากคุณ : อุอุ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 15:36:11 A:183.89.113.163 X: TicketID:252134

ความคิดเห็นที่ 62 ลูกช้างน่ารัก ^ ^ จากคุณ : มหาโจรแห่งบ้านลี้ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 15:44:10

ความคิดเห็นที่ 63 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไม่ทัน มาช้า ยังดีกว่าไม่มา จากคุณ : วัตถุต้องสงสัย เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 15:59:58

ความคิดเห็นที่ 64 61 ทำไมกลัวฉิ่งอ่ะ จากคุณ : หนึ่งหยดน้ำหลับไหลในสายน้ำ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 16:08:17

ความคิดเห็นที่ 65 ฉ ฉิ่งตีดัง ช ช้างวิ่งหนี จากคุณ : ไผ่พริ้วลิ่วลม เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 16:18:57

ความคิดเห็นที่ 66 #61 , #65 "ตรึ่ง โป๊ะ!!" จากคุณ : sutja เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:32:15

ความคิดเห็นที่ 67 ช้างแคระบอร์เนียว (Borneo Pygmy Elephant) น่ารักดี จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:27:51

ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อช้างแปลงกาย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:29:00

ความคิดเห็นที่ 69 อย่างเนียน จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:31:24

ความคิดเห็นที่ 70 นั่งชักโครกได้ด้วย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:40:37

ความคิดเห็นที่ 71 เอ่อ..... จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:41:43

ความคิดเห็นที่ 72 โปโล เจ๋ง จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:43:08

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:44:32

ความคิดเห็นที่ 74 ปล. ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:49:43

ความคิดเห็นที่ 75 ^O^ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 22:46:07 จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 22:36:00

ความคิดเห็นที่ 76 ฝันดีคุณลาบ จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 22:41:45

ความคิดเห็นที่ 77 ปรมินทรบพิตรสารศักดิเลิศฟ้า ๚ ......หมายความว่ายังมีต่ออีกหรือไม่ครับ....สงสัยเฉยๆ จากคุณ : iamsohungry99 เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 23:28:20

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่มีต่อท้าย มีแต่ชื่อนำยาวมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : หนึ่งหยดน้ำหลับไหลในสายน้ำ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 10:23:40

ความคิดเห็นที่ 79 ^ ขอบคุณครับ >.< จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 12:03:02

ความคิดเห็นที่ 80   น้องหมูน่าร้ากกกกกก เห็นแล้วไม่อยากกินหมูอีกเลย จากคุณ : obrigada เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 14:45:33

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณกระทู้ดีๆ  ช้างน่ารักมากมาย จากคุณ : kanchanok เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 17:56:22

ความคิดเห็นที่ 82 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 13:18:26

ความคิดเห็นที่ 83 หงายเงิบ เครดิต : ใครไม่รู้ จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 13:37:00

ความคิดเห็นที่ 84 กลัวช้างมากกกกกกกกกก เห็นแล้วแทบหยุดหายใจ ไม่รู้ทำไม มากพอๆกับกลัวหนอน เคยบอกแม่ถ้าหนอนขี่ช้างมานี่เอาปืนมายิงให้ตายเลยดีกว่า เวลาช้างเดินมาหน้าบ้านเราต้องปิดประตู เรากลัวมันเดินเข้ามาในบ้าน ทั้งๆที่มันเป็นทาวน์เฮ้าส์ ก็ไม่รู้จะกลัวอะไรขนาดนั้นเหมือนกัน แต่ลูกเราชอบช้างมากนะ จากคุณ : ทิโมธี เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 19:28:36

ความคิดเห็นที่ 85 จาก สวนนงนุช น่าร๊ากกเชียวว ดูคุณเค้าทำบริหารให้ซ่ะงั้น พลาดมาเนี้ย ใครรับผิดชอบหวา ^*^ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 53 11:28:35 จากคุณ : You Much เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 11:25:12

ความคิดเห็นที่ 86 เพิ่งอ่านเพชรพระอุมาภาค 2 จบอีกรอบ เห็นกระทู้นี้นึกถึงเจ้าด้วน จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 16:57:21

ความคิดเห็นที่ 87 รูปขี่กันเยอะจังนะ ^o^ จากคุณ : ฟูฟ่องล่องลอย เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 17:47:35

ความคิดเห็นที่ 88 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 19:36:07