ความคิดเห็นที่ 1 ***    ผมว่าประสิทธิภาพของหุ่นยนตร์แบบนั้นคงจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีสองตาหรือตาเดียวหรอกครับ  เพราะยังไงๆภาพที่ส่งมาได้นั้นก็จะต้องมาปรากฏอยู่ที่จอมอนิเตอร์อยู่แล้ว  ดังนั้นถ้ามีสองตาแล้วช่วยให้สามารถมองภาพได้ในมุมกว้างขึ้นก็จะดี  หรือถ้ามีตาเดียวแต่กล้องสามารถมองภาพได้ในมุมกว้างได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีสองตาครับ      แต่ทว่าการที่หุ่นยนตร์ในสื่อบันเทิงนั้นมักจะถูกจินตนาการให้มีสองตาก็เพราะว่า  มันใช้หลักสรีระศาสตร์ของมนุษย์ในการออกแบบไงครับ  กล่าวคือมีศรีษะ ร่างกาย สองมือ สองขา  ดังนั้นถ้าจะมีสองตาด้วยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 21:21:50

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะ ในการ์ตูน มันมีคนขับข้างใน เล่นใช้กล้องตัวเดียวถ่ายภาพไปที่คนขับก็พอ ถ้าดูถึงประโยชน์จริงๆ ตายิ่งเยอะยิ่งดี อย่างแมลงวัน มองได้รอบทิศ ในหุ่นยนต์ มีตามากกว่า1 จะสามารถคำนวณระยะใกล้ไกลของวัตถุได้ อย่างในคลิป นาทีที่1กว่าๆ จากคุณ : ฐฐ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 22:05:04

ความคิดเห็นที่ 3   จริงๆแล้ว ตาของกันดั้ม ไม่ใช่ระบบรับภาพของหุ่นที่ส่งไปยังcockpit ให้นักบินดูนะครับ... Monitorรับภาพของกันดั้มจริงๆแล้วเรียกว่า Main Camera อยู่บริเวณ"สัน"ที่อยู่กลางระหว่างเสาอากาศ(เขา)  ส่วนตานั้นผมจำไม่ได้แน่ชัดแต่เหมือนๆว่าจะเป็นsensorอีกประเภทที่ใช้วัดระยะต่างๆ(อาจเสริมให้ระบบรับภาพทำงานดีขึ้นก็ได้แต่ไม่แน่ใจ) ส่วนตาของZakuนั้น หากจขกท.เคยดูAnimationจะพบว่ามันกลอกไปซ้ายขวาได้นะครับ เหมือนการ"เลื่อนกล้อง"ไปมา นั่นเอง ก็เป็นแบบที#1ว่านั่นแลครับ จากคุณ : Schweissnaht เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 23:15:11

ความคิดเห็นที่ 4   ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตาของหุ่นในเรื่องมันอะไรยังไง แต่ตัวหุ่นน่าจะติดกล้องไว้ทุกด้านนี่ครับไม่งั้นจะมีค๊อกพิทแบบมองได้รอบตัวเหมือนในภาคเซต้าได้ยังไง? จากคุณ : painful_truth เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 00:37:59

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้สองกล้องน่าจะมีประโยชน์กว่านะครับ สามารถระบุระยะวัตถุด้วย Stereo vision ได้ จริง ๆ มนุษย์ก็อาศัยสองตาช่วยในการกะระยะเหมือนกันครับ แต่ถ้ามีคนนั่งอยู่ข้างใน การตัดสินใจหลักไม่น่าจะเป็นหุ่นยนต์ครับ กล้องก็แค่มอนิเตอร์ให้คนตัดสินใจเฉย ๆ แต่สมัยนี้ถ้าจะทำขึ้นมาจริง ๆ สองกล้องได้ประโยชน์มากกว่าเห็น ๆ ครับ จากคุณ : tuinui98 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 02:05:25

ความคิดเห็นที่ 6   ระบบของกันดั้มเรียกว่า chain eyes ครับ เข้าใจว่าใช้การประมวลภาพร่วมจากหลายตา ทำให้มุมมองดีกว่า มีมิติมากกว่าโดยเฉพาะเรื่องความชัดลึก ต่อมาเมื่อมีการผลิต mass product แพงและมันไม่จำเป็นเลยตัดออก (ถ้าจำเป็นจริง ผลิตจำนวนมากราคาก็น่าจะลด) จากคุณ : ลองถาม บ.อนาไฮม์ดู เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 05:23:54 A:204.124.182.189 X: TicketID:276906

ความคิดเห็นที่ 7 มีตาเดียว แต่มีเลเซอร์วัดระยะ ตาที่สองก็อาจเป็นได้แค่ตาสำรอง จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:01:43

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวอย่างของการคิดแบบในกรอบมากเกินไป ถ้าทำหุ่นแมลงปอ คิดว่าต้องทำตาอีกอัน ลองคิดดูเล่นๆ จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 08:55:48

ความคิดเห็นที่ 9 #1 คุณเจไดครับ ขอ keyword ของรูปภาพด้วยครับ ตอบ จขกท. การมีสองตา ถ้าไม่ใช้ประโยชน์ในเรื่องประมวลผลภาพแบบ 3D ก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ยกเว้นเอาไว้สำรองใช้เวลาอีกตัวเสียครับ จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 12:57:08

ความคิดเห็นที่ 10   ตาในกันดั้มผมว่ามันเป็นช่องบอกท่าไม้ตายมากกว่านะ เวลารับคำสั่งทีไรกระพริบทุกที จากคุณ : devil amature2 เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 22:38:17

ความคิดเห็นที่ 11 คห.1 ขอชื่อนางแบบหน่อยสิ หรือว่ามาจากหนังหว่า จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 00:53:54

ความคิดเห็นที่ 12 main camera ของกันดั้มก็มีตาเดียว คือตาตรงสันบนหัว ที่เห็น สองตาน่ะมันสติ้กเกอร์แปะไว้กับพลาสติกตันๆเฉยๆ จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 01:42:13

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องราวมันเริ่มมากจาก ในยุคของศักราชU.C.(Universal Century)หลังจากที่มีการแพร่หลายของเตาปฏิกรณ์ที่ผลิตอนุภาคไมนอฟสกี้ ทำให้สมรภูมิในยุคU.C.นั้นเต็มไปด้วยอนุภาคไมนอฟสกี้ โดยอนุภาคนี้มีคุณสมบัติดูดซับคลื่นวิทยุและเรดาห์ ทำให้อาวุธประเภทนำวิถีต่างๆที่ต้องอาศัยเรดาห์ในการชี้ตำแหน่งหมดความหมายลงไป รูปแบบสงครามจึงกลับไปสู่การรบแบบ........ http://www.toyssquarethailand.com/smf/index.php?topic=5994.0 จากคุณ : Sudjarid_sai เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 53 13:06:28