ความคิดเห็นที่ 1 Sturmabteilung (Storm trooper) หรือ Brown shirt เป็นกองกำลังติดอาวุธ หรือ paramilitary ของพรรคนาซีที่เอามาใช้ข่มขู่พวกที่ต่อต้านนาซีตอนก่อนฮิตเลอร์รวบอำนาจ โดยเฉพาะพวกคอมมิวนิสต์ และพวกเสรีนิยม (ตอนนั้น เยอร์มันถูกจำกัดขนาดกองทัพโดยสนธิสัญญาแวร์ซาย ทำให้นาซีเลี่ยงบาลีไปใช้กองกำลัง paramilitary แทน ประมาณบ้านเราใช้ตชด. หรือไม่ก็อาสาสมัครทหารพรานไปคุมชายแดนแทนทหารประจำการนั่นแหละ) ในช่วงนั้น storm trooper ก็แข็งแกร่งขึ้นมาก จนเริ่มเป็นเสี้ยนหนามต่อฮิตเลอร์เอง ฮิตเลอร์เลยจัดตั้งหน่วย SS เป็นกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อฮิตเลอร์ กับ Gestapo กองตำรวจลับ เพื่อใช้เป็นแขนขา หลังจากฮิตเลอร์ได้เป็น Chancellor และมีอำนาจเต็มที่่  ก็เลยใช้หน่วย SS กับ gestapo สลายหน่วย storm trooper นี้ซะ โดยการฆ่าทิ้ง กับจับขัง แล้วให้ SS กับ gestapo มีอำนาจขึ้นมาแทน เก็บความจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Sturmabteilung หนัง starwar เอาชื่อมาใช้กับไอ้หน่วยชุดเกราะขาวที่ไม่รู้จะใส่เกราะทำแมวอะไร กันอะไรก็ไม่ได้ ทำซะ storm trooper เป็นตัวกระจอกเลย ปล. อ้าว เพิ่งเห็นว่า จขกท.พูดถึง WWI ไอ้กระผมก็พล่ามเรื่อง WWII ซะฟุ้งเชียว ="=' แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 53 16:25:40 จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 16:23:56

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ^ ที่เพื่อนสมาชิก "alan the lamb" พูดมาก็ถูกต้องนะครับ  เพียงแต่นั่นเป็นเรื่องราวของกองกำลังหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่1สงบแล้ว  ซึ่งความจริงแล้วเรื่องราวของ "กองพันพายุ" นั้นเราสามารถกล่าวได้2ช่วงครับคือ  ตอนปลายสงครามโลกครั้งที่1กับระหว่างที่พรรคนาซีกำลังเถลิงอำนาจ  ซึ่งวันนี้ "เจไดหนุ่ม" จะขอพูดถึงเหตุการณ์ช่วงหลังครับ  ส่วนตอนปลายสงครามโลกนั้นถ้ามีโอกาสผมจะนำมาตั้งเป็นกระทู้ให้เพื่อนๆสมาชิกได้อ่านกันครับ    โดยในห้วงเวลาที่ "ฮิตเลอร์" แลพลพรรคนาซีเริ่มจะกระโจนเข้าสู่แวดวงการเมืองใหม่ๆนั้น  พวกเขาได้มีนโยบายจัดหา "กองกำลังองครักษ์" เพื่อใช้ในการดำเนินการด้านต่างๆแลคุ้มครองบุคคลสำคัญของพรรคนาซีครับ  ดังนั้นผู้กอง "เออร์เนสต์ โรหม์" ซึ่งเป็นนานทหารผ่านศึกสงครามโลกที่ได้ร่วมมือกับฮิตเลอร์แลที่ปรึกษาสำคัญๆมาตั้งแต่ต้น  จึงได้ทำการคัดเลือกคนหนุ่มมาฝึกให้กลายเป็นกองกำลัง "SA" ซึ่งจะกลายเป็นมือเท้าที่สำคัญของพรรคนาซีในเวลาต่อไป      โดยสมาชิกของกองกำลังSAในช่วงแรกๆนั้นหลายคนมักเคยเป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่1และเคยประจำอยู่หน่วยสตอร์มทรูปเปอร์มาก่อน(ภาษาเยอรมันอ่านว่า "สตวมอับไทลุงค์")  ซึ่งถ้าจะว่ากันแล้วพวก "สตวมอับไทลุงค์"  ก็มีฐานะแลรูปแบบไม่ต่างจากกองกำลังทหารประจำการดีๆนั่นเอง ป.ล. ต้องบอกก่อนเผื่อสับสนนะครับว่า  กองพันพายุที่เยอรมันนำมาใช้ในสงครามสนามเพลาะตอนปลายสงครามโลก  กับหน่วยSAของพรรคนาซีนั้นเป็นคนละหน่วยกันนะครับ  และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันแต่ประการใด  และสมาชิกSAก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเคยสังกัดกองพันพายุที่รบตอนปลายสงครามมาก่อนเสมอไปนะครับ (รูปของ "เออร์เนสต์ โรหม์" บุคคลสำคัญที่มีส่วนในการก่อตั้งแลเป็นผู้นำของกองกำลังSAครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 18:45:59

ความคิดเห็นที่ 3 ***    แลเราอาจกล่าวได้ว่าหน่วยSAนั้นอาจจะเป็นบันไดสู่การเถลิงอำนาจของฮิตเลอร์ในยุคแรกๆเลยก็ว่าได้ครับ  เพราะSAนั้นนอกจากพิทักษ์พรรคนาซีแล้วยังคอยกำจัด ปั่นป่วน ก่อกวนพลพรคคคอมมิวนิสต์แลชาวยิวในเยอรมัน  รวมทั้งยังกำจัดเสี้ยนหนามที่สำคัญของฮิตเลอร์ด้วย  แต่ทว่าเมื่อเกิดการปฏิวัติในปี1923และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์แลพรรคนาซี  สมาชิกพรรคในระดับต่างๆจึงต้องหลบหนีกระจายออกไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง      กระทั่ง "ฮิตเลอร์" ได้หวนกลับมายังเวทีการเมืองอีกหลังติดคุกอยู่9เดือน  เขาจึงตั้งกองกำลังSAขึ้นมาอีกครั้งแลเชิญ "โรหม์" ให้มาเป็นผู้นำของSA  ซึ่งคราวนี้โรหม์ยังได้ชักชวนนายทหารในกองทัพเยอรมันจำนวนมากที่เป็นสหายของตนมาร่วมในหน่วยSAนี้ด้วย  แลนั่นจึงทำให้ตั้งแต่ปีค.ศ.1929-1933เป็นต้นมากองกำลังSAจึงได้ขยายตัวมากขึ้นจนมีกำลังพลเป็นล้านนาย  ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่โตกว่ากองทัพบกเยอรมันในยุคดังกล่าวเสียอีก (ตอนนั้นเยอรมันโดนจำกัดขนาดกองทัพด้วย "สนธิสัญญาแวร์ซาย" ครับ  จึงทำให้มีกำลังทหารประจำการได้ไม่เกิน1แสนคน)    กระทั่งฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีฮินเด็นเบิร์ก  พลพรรคSAจึงเริ่มมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตัวผู้นำกองกำลังอย่าง "เออร์เนส โรหม์" แลเหล่านายทหารคนสนิทของเขา  โดย "โรหม์" นั้นสนิทชิดเชื้อกับ "ฮิตเลอร์" มากถึงขนาดที่ว่าเขาเป็นหนึ่งในบุคคลเพียงสองคนของพรรคนาซี  ที่สามารถเรียกชื่อ "ฮิตเลอร์" ได้ตรงๆโดยไม่ต้องใช้คำแทนว่า"ท่านฟือเรอห์"  (อีกคนหนึ่งคือ "เฮอร์มาน เกอริ่ง" เสืออากาศแห่งกองทัพเยอรมันซึ่งร่วมหัวหกก้นขวิดกับ "ฮิตเลอร์" และ "โรหม์" มาตั้งแต่ต้นเช่นกัน) **รูปพลพรรคSAในชุดอันเป็นเอกลักษณ์  คือเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลกับหมวกทรงหม้อครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 18:49:16

ความคิดเห็นที่ 4 ***        กระทั่งในปี1934ฮิตเลอร์และพรรคนาซีก็เริ่มก้าวเข้ามามีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเยอรมนีและเริ่มใช้นโยบายอันโหดเหี้ยมในการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม  ซึ่งเหตุการณ์ที่โด่งดังและกลายเป็นประวัติศาสตร์ก็คือการเผารัฐสภาเยอรมัน(ไรสท์ตาก) และช่วงเหตุการณ์ "Night of the Long Knives" (เหตุการณ์คืนแห่งมีดยาว) ที่ทางหน่วย "SS" แล "เกสตาโป" ได้ออกทำการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามของพรรคนาซี  แลสังหารหรือจับกุมผู้นำสำคัญของหน่วยSAด้วย  โดยแม้กระทั่ง "เออร์เนสต์ โรหม์" ที่เป็นผู้นำของSAเองก็ถูกจับด้วยขณะกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านพักตากอากาศพร้อมกับหนุ่มคู่ขา (โรห์มเป็นเกย์ครับ)    ซึ่งเรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือเพื่อนๆหลายท่านอาจจะมีคำถามว่า  ทำไม "ฮิตเลอร์" ถึงต้องกำจัด "เออร์เนสต์ โรหม์" และยุบพลพรรคSAทิ้งไป  ทั้งๆที่SAก็เป็นกองกำลังที่ทำงานรับใช้เป็นมือเป็นขามาให้ "ฮิตเลอร์" มาเป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น  จนอาจกล่าวได้ว่าถ้าขาดซึ่งทหารจากกองพันพายุของหน่วยเอสเอแล้วฮิตเลอร์อาจจะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของเยอรมันได้โดยง่ายดายนัก    แต่สาเหตุจริงๆนั้นก็คือในห้วงเวลาดังกล่าวกองกำลังSAมีบทบาทเด่นมากในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองของเยอรมัน  และเป็นกองกำลังที่มีลักษณะการฝึกฝนเหมือกับกองทัพทุกประการ  นี่นจึงทำให้เกิดการแอนตี้กองกำลังSAจากฝ่าย "กองทัพบก" ทันทีที่ฮิตเลอร์เริ่มขึ้นมามีอำนาจ  และฮิตเลอร์เองก็รู้ดีว่าการจะสร้างฐานอำนาจให้เข้มแข็งนั้นจำต้องมี "กองทัพบกเยอรมัน" หนุนหลัง  ประกอบกับการที่ "โรหม์" ได้มาขอให้ฮิตเลอร์ทำการผนวกกองกำลังSAเข้าไปกับกองทัพบกแลมอบอำนาจทางการทหารสูงสุดให้เขา   **รูปป้ายโฆษณาชวนเชื่อของSAครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 18:55:06

ความคิดเห็นที่ 5 ***    ซึ่งฮิตเลอร์และที่ปรึกษาทุกคนต่างไม่มีใครเห็นด้วย  เพราะรู้ดีว่าถ้าSAถูกผนวกเข้ากับกองทัพบกเมื่อไหร่  มันจะสร้างความไม่พอใจให้แก่บรรดานายทหารระดับสูงในกองทัพทันที  อีกทั้งฮิตเลอร์แลที่ปรึกษายังมองว่าSAเป็นกองกำลังทหารยุคเก่าซึ่งคร่ำครึล้าสมัยแลยังยึดมั่นอยู่กับยุทธวิธีแบบเดิมๆ  ดังนั้นถ้าให้SAกลายเป็นกองกำลังหลักของประเทศก็คงจะก่อให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพขึ้นในกองทัพแน่นอน    ดังนั้นก่อนที่จะเกิด "เหตุการณ์กวาดล้างในคืนแห่งมีดยาว" ฮิตเลอร์จึงได้เรียก "โรหม์" มาปรึกษาในฐานะเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานมนาน  โดยฮิตเลอร์ได้ขอร้องให้โรหม์ยุบกองกำลังSAลงและถอนตัวออกไปจากแวดวงการทหารเสีย  ซึ่งข้อนั้น "โรหม์" ยอมรับไม่ได้เพราะเขาได้ลั่นวาจาไปกับบรรดานายทหารของเขาแล้วว่าSAจะต้องเป็นกองกำลังหลักของประเทศ  นั่นจึงทำให้เกิดข่าวลือที่ว่าทั้งคู่เกิดความขัดแย้งจน "โรหม์" แอบทำการคัดเลือกทหารSAมือดีไว้เพื่อกระทำภารกิจสังหารฮิตเลอร์  จนในที่สุดเหตุการณ์จึงบานปลายไปสู่ช่วง "การกวาดล้างในคืนแห่งมีด" ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของSAนั่นเอง    และแม้กระทั่งตอนที่ "เออร์เนส โรหม์" ได้ถูกทหารเอสเอสจับคุมขังคุกแล้ว  ฮิตเลอร์เองก็ยังตัดสินใจไม่ขาดว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายทหารผู้ซึ่งเคยเป็นเพื่อนเก่าและฝ่าฝันความยากลำบากมาด้วยกัน  ถึงขนาดที่ "โจเซฟ เกบเบิ้ล" ที่ปรึกษาคนสนิทของฮิตเลอร์ต้องเข้าไปขอคำอนุมัติจากฮิตเลอร์อยู่หลายครั้งทีเดียวว่า  จะดำเนินการเช่นใดกับ "โรหม์" ที่ถูกทหารเอสเอสจับกุมอยู่  (ตอนเอสเอสบุกเข้าไปจับตัวโรห์มที่บ้านพักตากอากาศนั้น  ฮิตเลอร์เองก็เดินทางไปพร้อมกับทหารเอสเอสหน่วยนี้ด้วยครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 18:59:41

ความคิดเห็นที่ 6 ***    ที่สุดแล้ว "ฮิตเลอร์" จึงมีคำสั่งให้เอาปืนลูเกอร์บรรจุกระสุนเต็มแม็กยื่นให้ "โรหม์" โดยหวังว่าเขาจะยิงตัวตายในคุกแบบชายชาติทหาร  แต่จนแล้วจนรอดผโรหม์ก็ไม่ยอมแตะต้องปืนดังกล่าว  จนในที่สุด "ทหารเอสเอส" จึงต้องเข้ามาในห้องขังและชักปืนยิงใส่ "โรหม์" หลายนัดจนสิ้นใจ  โดยก่อนที่จะถูกยิงนั้นมีการบันทึกว่า "เออร์เนสต์ โรหม์" ได้ลุกขึ้นมายืนกระทำท่า "วันธยาหัตถ์นาซี" พร้อมเปล่งเสียงกระทำความเคารพฮิตเลอร์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่กระสุนจากปืนลูเกอร์จะถูกระดมยิงใส่ร่าง  อันเป็นการจบชีวิตของผู้นำหน่วยSAตลอดไป    และหลังจากที่โรหม์ตายลงแล้วฮิตเลอร์ได้ป่าวประกาศต่อพลพรรคSAที่เหลือว่า "โรหม์" ได้ทรยศพรรคนาซีแลวางแผนจะลอบสังหารตัวเขา  ก่อนที่ฮิตเลอร์จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆลงได้นั่นก็คือการยุบกองกำลังSAแล้วผนวกทหารในกองกำลังดังกล่าวไปอยู่ในกองทัพบกเยอรมันเสีย  ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ "เออ เนสต์โรหม์" เคยร้องขอต่อฮิตเลอร์มาตลอด  แต่เขาก็ไม่มีวันได้เห็นเรื่องดังกล่าวด้วยตาตนเองแม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตนั้นเอง    และเมื่อกองกำลังSAถูกยุบแล้วจึงนับเป็นการปิดฉากความเกรียงไกรของหน่วยสตรอทม์ทรูปเปอร์(สตวมอัพไทลุงค์)ลงอย่างถาวร  เหลือไว้แต่เพียงตำนานแลความเก่งกล้าจงรักภักดีของพวกเขาทั้งในทางที่ดีระหว่างช่วงสงครามและทางที่เลวทรามต่ำช้าในช่วงเป็นเบี้ยของพลพรรคนาซีเท่านั้น  ที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติสาสตร์จวบจนถึงปัจจุบันครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 19:01:48

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างเศร้าแหะ... แต่ดูไปดูมา ฮิตเลอร์ ก็คล้ายๆ โจโฉ... "ผู้นำที่ดี ต้องเด็ดขาด" จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 19:51:44

ความคิดเห็นที่ 8 มันจะมีหนังนะผมจำไม่ได้ ว่าชื่ออะไรแต่เรื่องจะเกี่ยวกับ ฮิตเลอร์ตั้งแต่เด็ก จนตายปี 1945 เรื่องจะไม่ได้เน้นไปที่ฉากสงคราม แต่จะเน้นไปที่ว่า ฮิตเลอร์ โตมายังไง จากคุณ : Napoleonic เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 21:18:11

ความคิดเห็นที่ 9 หุหุ คุณเจไดนี่เจ๋งจริง ดูรูปนาซีทีไร ทำไมมันไพล่ไปนึกถึงลัทธิจานบินทุกทีเลยแฮะ จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 53 16:47:28