PANTIP.COM : X9551649 เปลี่ยนล้อแมกซ์จากของเดิมขอบ16เป็นขอบ17จะกินน้ำมันมากขึ้นไม [วิทยาศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 19

ต่อไปนี้คนหลังเขามั่วเรื่อยเปื่อยสุึดชีวิต ห้ามเชื่อโดยเด็ดขาด อิอิ...
=====================================

คิดง่ายๆ อย่างนี้ครับ..

ขอบ 16 ก็คือ 16 นิ้ว ขอบ 17 ก็คือ 17 นิ้ว ดังนั้นค่าเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่ม 1 นิ้วหรือประมาณ 2.54 ซม. หรือถ้าคิดเป็นรัศมีก็เพิ่มประมาณ 1.2ซม.

ส่วนหน้ายางจาก 55 ลดมาเป็น 45 ซึ่งมีหน่วยเป็น มม. หมายความว่าค่ารัศมีลดลง 1ซม.

สรุปก็คือ ระยะห่างจากกลางวงล้อสู่พื้นมีค่าสูงขึ้นเล็กน้อย หมายความว่าที่ความเร็วเท่ากัน ล้อขอบ 17 ในที่นี้จะวิ่งด้วยรอบที่ต่ำกว่า ซึ่งอาจดูว่าน่าจะประหยัดกว่าเพราะที่ความเร็วเท่ากัน ความเร็วรอบเครื่องยนต์น่าจะต่ำกว่า...

แต่ยังมีปัจจัยอื่น นั่นคือความกว้างหน้ายาง จากเดิม 205มม. เปลี่ยนมาเป็น 215 มม. หน้ายางที่กว้าง แม้มีผลต่อการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น แต่ก็จะมีค่าความเสียดทานสูงขึ้น ส่งผลทำให้กินน้ำมันมากขึ้น (สังเกตว่ารถเล็กๆ หน้ายางจะแคบ นอกจากทำให้ราคาถูก ก็ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมัน แต่ก็มีผลต่อการยึดเกาะถนนของยางด้วย)

ปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาคิดอีก นั่นคือแรงบิดที่ส่งลงล้อที่เหมาะสมต่อความเร็วและรอบเครื่อง ที่ความเร็วในระดับที่เท่ากัน รอบเครื่องของล้อ 16นิ้ว ใช้ยาง 55 จะมีรอบที่สูงกว่า พอเรามาใช้ขอบ 17 ยาง 45 จะได้รอบที่ต่ำกว่า ซึ่งรอบที่ต่ำกว่าโดยทั่วไป(ถ้ายังไม่ถึงพีคของกำลัง) กำลังของเครื่องจะมีค่าต่ำกว่า ทำให้เรารู้สึกถึงความ "อืด" ที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์ บวกกับหน้ายางที่กว้างขึ้น ทำให้ความ "อืด" รู้สึกได้มากขึ้น จะส่งผลเชิงจิตวิทยาให้เราเข่นคันเร่งมากขึ้น ส่งผลทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้น... (นอกเรื่อง --- ลักษณะผลเชิงจิตวิทยาทางตรงกันข้ามก็เช่น มีภรรยานั่งไปด้วย และทำตาดุตลอดเวลาถ้าเราจะเหยียบความเร็วเกินแปดเก้าสิบ บ่นไปตลอดทาง หรือมีอุปกรณ์มหัศจรรย์ที่โชว์ LED ให้เห็นในรถ เราอาจจะผ่อนเท้าไม่กล้าเหยียบแรง เพราะกลัวคุณเธอจะตาเขียวใส่ อย่างนี้ก็อาจจะประหยัดน้ำมันมากขึ้นเพราะภรรยา เป็นต้น อิอิ) แต่ในความเร็วปลาย รถจะวิ่งไปได้เร็วกว่าเดิม เพราะล้อยังหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิม แต่ได้ระยะทางมากขึ้น

ส่วนค่ารัศมีที่เพิ่มขึ้น ยังส่งผลต่อเนื่องให้มวลของยาง มีค่าโมเมนตัมเชิงมุมที่สูงขึ้น ทำให้การเร่งและหยุดรถทำได้ยากขึ้นบ้างในเชิงทฤษฎี แต่ทั้งนี้จากข้อมูลที่ให้มา ตัวขอบ 17 น้ำหนักเบากว่า จึงส่งผลในทางตรงกันข้าม คือโมเมนตัมเชิงมุมนั้นจะไม่เพิ่มมากอย่างเป็นสัดส่วน นั่นคือในทางปฏิบัติอาจใช้เบรคชุดเดิมก็น่าจะเพียงพอ...

ปล. อยากให้คุณลองใช้หน้ายางเดิมๆ ขับเทียบ(ตีคู่คนละเลน) กับเพื่อน ดูว่าที่ความเร็วพอๆ กัน รถเพื่อนได้ค่าความเร็วเท่าใด และรถคุณเท่าใด จากนั้นเมื่อเปลี่ยนยางมาเสร็จ เอามาขับเทียบกับเพื่อนอีกครั้ง ดูว่าเพื่อนได้ความเร็วเท่าใด และเราได้ความเร็วเท่าใด จากนั้นก็นำมาทำบัญญัติไำตรยางค์เพื่อดูว่า ความเร็วเราเปลี่ยนไปเท่าใด (พูดง่ายๆ ก็คือ ไมล์เราแข็งขึ้น หรืออ่อนลงจากเดิม)

ผมอนุมานมั่วซั่วอย่างหลังเขา ...ในเบื้องต้นจากข้อมูลว่า
1) เลขไมล์เราจะลดลงจากเดิมเล็กน้อยครับ นั่นคือ แข็งขึ้นเล็กน้อย...
2) การขับในถนนขรุขระ จะรู้สึกสะท้อนมายังตัวเรามากขึ้น เพราะหน้ายางแคบลง
3) ช่วงล่างจะเสื่อมเร็วขึ้น เพราะแรงกระเทือนที่มีมากขึ้น เพลา ระบบเกียร์และเฟืองท้ายก็จะเสื่อมเร็วขึ้น (แต่ก็คงไม่มากหรอกครับ)
4) โอกาสที่แม็กจะดุ้งเพราะไปเหยียบหินหรือลูกระนาดมากขึ้น เพราะระยะจากพื้นถึงขอบแม็กน้อยลง
5) การเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง อาจจะรู้สึกพอๆ กันกับเดิม เพราะหน้ายางที่แคบ ทำให้การบิดตัวของยางมีค่าต่ำกว่า แต่ก็ถูกแก้กลับด้วยความสูงตัวรถที่สูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถสูงมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้รถจะโยกได้มากกว่าเดิม (แต่สองอย่างน่าจะหักล้างกันไปหรือไม่ก็คงต้องลองเองว่าผลอันใดจะมีมากกว่ากัน)
6) การเบรคอาจจะรู้สึกได้ว่าทื่อขึ้นเล็กน้อย การเร่งก็อาจจะรู้สึกว่าอืดเล็กน้อย
7) รถเกาะถนนดีขึ้นอาจจะพอรู้สึกได้
8) ที่ความเร็วปลายน่าจะไหลได้ดีกว่า...

ปล. ผมเคยเปลี่ยนยางรถผมจากหน้า 60 มาเป็น 65 พบว่ารถอืดขึ้นครับ และรถดิ้นมากขึ้นโดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนเลนเร็วๆ นอกจากนี้พวกเพลาและชุดเฟืองท้ายก็จะทำงานหนักขึ้นครับ... (ในกรณีนี้ พวกระบบโช้คอัพและปีกนกจะทำงานเบาลงเพราะการกระแทกเบาลง แต่ระบบขับเคลื่อนจะทำงานหนักขึ้น เพราะค่ารัศมีที่เพิ่มขึ้น ทำให้เพลาต้องเพิ่มแรงบิดที่จะส่งลงล้อและพื้นเพื่อทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า)
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 20:43:37
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 17:14:51
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 53 16:39:37

จากคุณ : ปัจจุบันคนหลังเขา (อดีด...) (คนไทยในลอนดอน)

เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:34:13