ความคิดเห็นที่ 1   กรรม วิศวกรณ์สร้างตึก แล้วสถาปนิกเขาจะตกแต่งห้องให้ครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:43:18

ความคิดเห็นที่ 2 สถาปนิกก็ออกแบบ และคำนวณความเป็นไปได้ในการสร้างจริงร่วมกับวิศวกรตลอด จนกระทั่งการเขียนพิมพ์เขียวเสร็จสิ้น เพราะบางครั้งสถาปนิกออกแบบสวยหรู แต่สร้างยาก เกินงบ ก็ต้องมาคุยกับวิศวกรเพื่อปรับแก้แบบใหม่ จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:44:44

ความคิดเห็นที่ 3   Architect - Structural Design Typical Question - What should the form be? - What are the structural elements? - How do the elements fit and work together? Engineer - Structural Analysis Typical Question -How big do the structural elements need to be? -What grade of material do we use? -How strong do the connectors need to be? จากคุณ : *-* เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:47:46 A:58.9.110.55 X: TicketID:214406

ความคิดเห็นที่ 4 ออกแบบ วิศวกรก็จะออกแบบคำนวณรายการต่างๆเพื่อให้สิ่งที่สถาปนิกออกแบบมาสามารถ ก่อสร้างได้(คงอยู่ได้โดยไม่วิบัติ(พัง)ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน) และประหยัด การทำฝันให้เป็นจริง ทั้งในส่วนที่เป็นการอำนวยการก่อสร้างเช่น ต้องดำเนินก่อสร้า้งส่วนนี้ก่อนหรือหลัง จากดำเนินการส่วนนี้เป็นต้น(การวางแผนงานก่อสร้างในส่วนของการดำเนินงานก่อสร้างและบริหารงานเน้นกำไรขาดทุนและความปลอดภัยเป็นสำคัญ) จากคุณ : sutad23 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:50:44

ความคิดเห็นที่ 5   เคยคุยกับสถาปนิก เค้าว่าตอนออกแบบต้องด้วยนึกการสภาพการใช้งานห้อง นึกถึงสภาพแวดล้อมแถวนั้นเช่นทางลมเป็นยังไง แดดส่องมาทางไหน หน้าต่างควรจะอยู่สูงจากพื้นแค่ไหน จากคุณ : บุคคลทั่วไป 1 คน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:55:04

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้างานของวิศวะคือความปลอดภัย งานของสถาปนิก  น่าจะเป็นประโยชน์ใช้สอย จากคุณ : นางสเตนเลส เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:00:34

ความคิดเห็นที่ 7 สมมติอย่างสะพานข้ามแม่น้ำ สะพานขึงกับสะพานแขวน ใครเป็นคนเลือกก่อนอ่ะ จากคุณ : ไฟลามทุ่ง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:08:25

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้างานยิ่งขนาดใหญ่ สัดส่วนของวิศวกรโครงสร้างจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆผกผันกันกับสถาปนิกครับ เช่น เขื่อน สะพาน ถนน เรือ พวกนี้ วิศวกร นำสถาปนิก อาคารขนาดใหญ่ คอนโด สนามกีฬา ศูนย์ประชุม สถานีรถไฟ และอื่นๆ อันนี้ พอๆกัน แล้วแต่เป้าหมายของงาน บ้าน รีสอร์ท โรงแรม โรงพยาบาล สถานที่สัญลักษณ์สำคัญ ศาสนสถาน อนุสรณ์สถาน และอื่นๆ อันนี้สถาปนิกนำวิศวกร วิศวกร จะเป็นผู้คำนวนโจทย์ที่สถาปนิกออกแบบมา ส่วนสถาปนิกเป็นคนเลือกว่าจะทำอะไร แบบไหน ยังไง เป็นคนกำหนดทั้งหมด คนทั่วไปจะเข้าใจว่าสถาปนิกแค่นึกเพ้อๆสวยๆงามๆก็พอ จริงๆแล้วเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ ในทางโครงสร้างแล้ว ผู้ที่จะตัดสินใจว่าจะใช้โครงสร้าง"แบบไหน" "อย่างไร" "ทำจากอะไร" ล้วนเป็นหน้าที่สถาปนิกทั้งสิ้น หน้าที่ของวิสวกรคือหาว่าไอ้ที่คิดมาต้องใช้"เท่าไหร่"เป็นตัวเลขออกมาและ "ถ้าไม่สามารถทำได้ ต้องปรับแก้ตรงไหน" โดยเนื้อแท้แล้ว ต่างกันเพียงชื่อวิชาและความถนัดเท่านั้น ปลายทางของยอดสถาปนิกนั้นย่อมต้องเชี่ยวชาญวิศวกรรม และปลายทางของยอดวิศวกรโครงสร้างย่อมต้องเชี่ยวชาญพฤติกรรมมนุษย์ เปรียบไปก็เหมือน รถถังที่มีพลขับกับพลยิง บางเหตุการณ์ต้องเชื่อพลยิง บางเหตุการณ์ต้องเชื่อพลขับ และในสถาณการณ์ฉุกเฉิน พลขับก็อาจจะต้องไปยิง พลยิงก็อาจจะต้องลงมาขับ ปล.สมัยเรียนเคยได้ยินคนชอบพูดว่า สถาปนิกกับวิศวกรโครงสร้างจะทะเลาะกัน แต่เอาจริงๆ ไม่เคยเห็นเลยครับเพราะจริงๆแล้วก็พูดภาษาเดียวกัน เรียนวิชาสายเดียวกัน เห็นมีแต่ทะเลาะกับซินแส หมอดู หมอผี แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 00:27:47 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 00:23:47 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 00:23:11 จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:20:21

ความคิดเห็นที่ 9 งานสะพาน ถนน พวกนี้สถาปนิค จะไม่ค่อยมีผลงานเท่าไหร่ครับ เพราะพวกนั้น span สำคัญ การเลือกใช้ประเภทของ สะพาน จึงเป็นหน้าที่ของวิศวกร ส่วนอาคาร การเลือกรูปแบบจะเป็นสถาปนิก ส่วนคำถามของ จขกท เข้าใจว่าสถาปนิก ก็คำนวณคร่าวๆ เป็นนะครับ แต่เนื่องด้วยตอนเรียน อาจจะเห็นว่าไม่สำคัญกันมั้ง เลยไม่ค่อยมีคนสนใจ ดูได้จาก อ คณะ สถาปัตย์ ชอบมาบ่นกับวิศวกรโครงสร้าง ว่า โปรเจ็คของ เด็กสถาปัตย์ มาเป็นไอเดียที่น่าสนใจ แต่ทำจริงไม่ได้ เช่นพวก อาคารไม่มีเสาให้ เพดานลอยๆ อะไรแบบนี้ หรือสอนไปว่า อัตราส่วนของ span ควรเป็นเท่านั้นเท่านี้ก็มาแบบ เพี้ยนๆไปหมด เลยพอสรุปได้ว่า สถาปัตย์ ก็มีเรียนครับ แต่ คงไม่ได้สนใจกันเท่าไหร่ เลยเป็นหน้าที่ของวิศวกร ส่วนวิศวกรต้องทำอะไรกับแบบของสถาปนิกมั่งก็(โครงสร้างนะ) 1.เอาแบบมาศึกษา ถึึงระบบโครงสร้าง ว่าควรจะเป็นอะไร 2.ดูฟังก์ชั่นการใช้งานว่าตรงไหนเป็นอะไรเพื่อกำหนด load ของอาคาร 3.ประมาณขนาดชิ้นส่วนของอาคาร ว่าควรจะประมาณเท่าไหร่ เพื่อคุยกับ สถาปนิกเพื่อ แก้ไขในส่วนที่ทำไม่ได้ 4.คำนวณ แรงต่างๆ ตามข้อกำหนด ตามกฏหมาย ต่างๆ ที่ใช้ในพื้นที่ของอาคารนั้น 5.ออกแบบ องค์อาคารต่างๆ ตามแรงที่ได้จากกาวิเคราะห์ 6.ทำแบบ โครงสร้าง 7.ส่งแบบเพื่อขออณุญาติ คร่าวๆก็ประมาณนี้อะครับ จากคุณ : วัยละอ่อน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:25:17

ความคิดเห็นที่ 10 คห 7 วิศวกรครับ เลือกรูปแบบสะพานก่อน ในงานก่อสร้างจะมีสองลักษณะ คืองานก่อสร้างอาคารลักษณะหนึ่งและ งานก่อสร้างทางโยธาอีกลักษณะหนึ่งครับ ที่ คห7 ก็คืองานก่อสร้างทางโยธา เพราะฉะนั้นงานนี้วิศวกรเป็นคนกำหนดว่าจะทำสะพานรูปแบบไหน จากคุณ : sutad23 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:26:57

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งก่อสร้างหลายๆอย่าง วิศวกรสร้างเองคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องใช้สถาปนิก แต่สถาปนิกจะช่วยทำให้มันสวย และ ดูเป็น"สถาปัตยกรรม"มากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่"อาคาร" แล้วสถาปนิกก็จะช่วยดูเรื่องการใช้สอย การตอบรับกับสิ่งแวดล้อม เช่น ทิศทางแดด ลม อันนี้ก็ช่วยประหยัดพลังงานได้นะ จากคุณ : tooyoo เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 00:29:26

ความคิดเห็นที่ 12 #1 นั่นเค้าเรียกว่ามัณฑนากรครับ ถ้าจะบอกง่าย ๆ ก็คงบอกว่า งานออกแบบเพื่อให้คนไปใช้งานเป็นหลัก ก็จะเป็นงานที่ต้องการสถาปนิกล่ะครับ ที่คุณ ๆ บอกกันว่างานสร้างเขื่อนสร้างสะพาน สถาปนิกไม่จำเป็น เห็นจะไม่ใช่ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 01:10:19 จากคุณ : simulate_sky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 01:03:15

ความคิดเห็นที่ 13 millau viaduct โดย sir norman foster ครับ จากคุณ : simulate_sky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 01:13:00

ความคิดเห็นที่ 14 eramus bridge โดย UNstudio ครับ จากคุณ : simulate_sky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 01:13:46

ความคิดเห็นที่ 15 สะพานนี้โดย santiago calatrava ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้ครับ จากคุณ : simulate_sky เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 01:16:52

ความคิดเห็นที่ 16 สถาปนิกนาจะเข้าข่าย "คนช่วยแนะนำว่าควรสร้างยังไง" ส่วนวิศวกรจะเข้าข่าย "คนช่วยกำหนดว่าต้องสร้างแบบไหน" โดยสถาปนิกจะเป็นคนที่พูดในภาพรวมมากกว่า เช่นเรื่องของการเริ่มต้นโครงการ ว่าโครงการเป็นไปได้ไหม รวมรวบหาข้อมูลของโครงการว่ามีคู่แข่งแค่ไหน กลุ่มลูกค้าเท่าไหร่ (อันนี้สายอื่นก็ทำได้ แต่บางทีสถาปนิกก็ทำได้ด้วย) กำหนดกระแสเงินสดโดยว่าต้องกู้ยืมมาเท่าไหร่เริ่มตอนไหนเสร็จตอนไหน (อันนี้สายอื่นก็ทำได้ แต่บางทีสถาปนิกก็ทำได้ด้วย) เช็คกฎหมายผังเมือง ออกแบบอาคารพร้อมกับดูกฎหมายก่อสร้าง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องว่าจะสร้างยังไงให้เขตอนุมัติผ่าน (อันนี้วิศวกรบางคนก็ทำได้ แต่สถาปนิกก็ต้องควรจะทำได้ด้วย) ออกแบบธีมของโครงการ ว่าจะให้อาคารออกมาในรูปแบบไหน (อันนี้สถาปนิกเหมือนจะทำ แต่เอาเข้าจริงหลายครั้งเจ้าของมักจะโชว์ภูมิเหนือสถาปนิก จนแบบถูกดัดแปลงจนเป็นออริจินัลของเจ้าของ กรณีนี้มักเกิดกับเจ้าของที่ไม่รู้จักและเข้าใจขอบเขตการทำงานของสถาปนิกจริง ๆ) ออกแบบอาคารในภาพรวม สเป็กส่วนที่เป็นหน้าตาของอาคาร กำหนดระบบสาธารณูปโภคคร่าว ๆ กำหนดพื้นที่ขาย (เรื่องพื้นที่ขายสำคัญ เพราะ 1% ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้เจ้าของได้กำไรเพิ่มเป็นล้านได้ ซึ่งเรื่องนี้คนที่ทำได้แถมยังรักษาคุณภาพในด้านอื่นไปพร้อมกันได้มีแต่สถาปนิกเท่านั้น) ปรับแบบ แก้ไข เปลี่ยนวัสดุ เช่นวัสดุพื้นควรจะใช้อย่างนี้เพื่อให้เข้าธีมโครงการ ใช้แบบนี้เวลาฝนตกจะได้ไม่ลื่น งบเกินให้เปลี่ยนเป็นวัสดุนี้ จะได้ประหยัดเงิน เป็นต้น ส่วนวิศวกร... ในช่วงออกแบบ จะเป็นที่ปรึกษาของสถาปนิก ว่าโครงสร้างแบบนี้จะทำได้จริงไหม บางครั้งหวือหวามากไปจนต้องมาปรึกษาวิศวกรว่าทำยังไงให้สร้างได้จริง (สถาปนิกก็พอทำได้ แต่เวลาเซ็นแบบต้องให้วิศวกรเซ็นเท่านั้น) เวลาก่อสร้าง ทำหน้าที่คอยตรวจสอบและดูแลการก่อสร้าง (สถาปนิกก็ทำได้ และควรให้สถาปนิกทำหน้าที่นี้ด้วยอีกคน เพราะบางทีวิศวกรจะเป็นคนของผู้รับเหมา ซึ่งฮั้วกันได้ แต่สถาปนิกเป็นคนของเจ้าของ จึงเป็นคนคอยตรวจสอบให้เจ้าของอีกที) ดังนั้นสรุปได้ว่า สถาปนิกทำครอบจักรวาล แต่ไม่สามารถคำนวณงานโครงสร้างได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นในส่วนที่ปรับเปลี่ยนได้ และไม่จำเป็นต้องทำตาม ส่วนวิศวกร คำนวณโครงสร้าง และคุมงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องทำตาม ปรับเปลี่ยนได้ แต่ต้องมาปรึกษาทุกครั้ง วิศวกร ต้องเชื่อเพื่อให้สร้างแล้วใช้ได้จริง สถาปนิก ฟังแล้วควรทำตามเพราะมันจะคุ้ม แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 01:28:37 จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 01:22:26

ความคิดเห็นที่ 17 สถาปนิกดูแลเรื่อง ความงาม ความทันสมัย สัดส่วนและและฟังก์ชั่นการใช้งานของอาคาร ให้เข้ากับวิถีชีวิตของมนุษย์ วิศวกรดูแลเรื่องความมั่นคง แข็งแรง และความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง จากคุณ : pichet31 (pichet31) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 02:09:49

ความคิดเห็นที่ 18 ....      ในรูปแบบที่เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ สถาปนิกจะทำสัญญากับเจ้าของโครงการ(Owner) โดยรับหน้าที่เป็นผู้ให้บริการวิชาชีพ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้าง ผ่านทางการออกแบบ(Building Design) และการทำแเบบก่อสร้าง(Construction Document) สถาปนิกจะมีที่ปรึกษาผู้ให้คำแนะนำในเรื่องเทคนิคระดับซับซ้อนคือ วิศวกร ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละแขนงเกี่ยวกับการก่อสร้าง โดยทั่วไปสำหรับโครงการขนาดกลาง วิศวกรเหล่านี้จะประกอบด้วย วิศวกรโครงสร้าง (Structural Engineer) วิศวกรโยธา (Civil Engineer) วิศวกรไฟฟ้า (Electrical Engineer) และ วิศวกรเครื่องกล (Mechanical Engineer) นอกจากนี้อาจจะมีที่ปรึกษาอื่นๆที่สำคัญ เช่น มัณฑนากร(Interior Designer) และ ภูมิสถาปนิก (Landscape Architect)เป็นต้น นักวิชาชีพทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกันเป็นทีม ผ่านการประสานงานของสถาปนิก ซึ่งเป็นผู้นำของทีม (Team Leader)และผู้ติดต่อประสานงานระหว่างทีม(Coordinator)เพราะที่ปรึกษาอื่นๆ จะไม่มีใครเข้าใจภาพรวมของโครงการเท่าสถาปนิก ด้วยสาเหตุของความเข้าใจในโครงการที่มากกว่าสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ทำให้สถาปนิกเป็นผู้ที่ติดต่อกับเจ้าของโดยตรงในการทำโครงการ นักวิชาชีพในทีมคนอื่นๆ ที่ต้องการติดต่อกับเจ้าของมักจะทำผ่านสถาปนิก หรือในบางกรณีสถาปนิกจะไม่อนุญาตให้สมาชิกในทีมคนอื่นๆ ติดต่อกับเจ้าของโดยตรงเลย เพราะจะเป็นการเกิดความสับสนในระบบการประสานงานและปฏิบัติการ ถ้านักวิชาชีพเหล่านี้ทำสัญญาการว่าจ้างกับสถาปนิก สถาปนิกจะมีสถาณภาพเป็นผู้นำของทีมออกแบบ (Leader) แต่ถ้านักวิชาชีพเหล่านี้ทำสัญญาโดยตรงกับเจ้าของ สถาปนิกจะมีสภาณภาพเป็นผู้ประสานงาน (Coordinator) โดยส่วนใหญ่สถาปนิกจะทำสัญญาว่าจ้างกับนักวิชาชีพเหล่านี้เพื่อจะได้เกิดการควบคุมคุณภาพและสั่งการโครงการได้สะดวก แต่ในบางกรณี สถาปนิกอาจจะต้องการหลีกเลี่ยงการทำสัญญากับนักวิชาชีพเหล่านี้ โดยเฉพาะถ้าเป็นโครงการที่ใหญ่เป็นพิเศษที่สถาปนิกต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก อาจเกิดความเสี่ยงต่อการรับผิดชอบความเสียหาย (Liability)มากจนไม่คุ้มกับค่าบริการวิชาชีพที่จะได้รับ สถาปนิกจะแนะนำให้เจ้าของโครงการทำสัญญาโดยตรงกับนักวิชาชีพเหล่านั้น อีกด้านหนึ่ง เจ้าของโครงการ (Owner) จะทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้าง (Contractor) เพื่อให้ทำการก่อสร้าง ตามแบบก่อสร้าง (Construction Documents)และ รายการประกอบแบบ (Specification) ที่สถาปนิกและทีมผู้ช่วยทั้งหลายได้ทำการออกแบบ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 07:19:50

ความคิดเห็นที่ 19 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:27:45

ความคิดเห็นที่ 20 ทั้งสอง วิศวกร และ สถาปนิก ต้องทำงานคู่กันไปเสมอ ในเรื่องการก่อสร้าง สถาปนิกดูเรื่องความสวยงาม ความละเอียดในมุมมองต่างๆที่คิดว่าควรจะมี วิศวกรดูเรื่อง ความแข็งแรง ปลอดภัย หากต้องการสิ่งก่อสร้างที่คงทนสวยงามแปลกตา ต้องใช้ท่านทั้งสองนี่แหละค่ะ จากคุณ : szs เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:32:02

ความคิดเห็นที่ 21 สถาปนิกรังสรรค์สิ่งใหม่ๆทางด้านการออกแบบ โดยมีวิศวกรที่เก่งและใจกว้าง ช่วยคำนวนหาทางก่อสร้างให้สิ่งนั้นๆเป็นจริงขึ้นมา ความเห็นส่วนตนนะกั๊บ จากคุณ : ฟ้าใสดีจังวันนี้ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:15:57

ความคิดเห็นที่ 22 สถาปนิกที่รู้จักเห็นบ่นแต่ฟังก์ชั่นๆกับพรบ. 555 จากคุณ : เอบ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:55:05

ความคิดเห็นที่ 23 ออกแบบทั้ง 2 คน แต่ออกแบบคนละ ด้าน สถาปนิก- ออกแบบเรื่องประโยชน์ใช้สอยและหน้าตาอาคาร วิศวกร- ออกแบบเรื่องโครงสร้าง เรื่อง ความแข็งแรง มั่นคง ปลอดภัย ครับ จากคุณ : s_thipeye (s_thipeye) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:30:59

ความคิดเห็นที่ 24 จำง่ายๆ  คือออกแบบทั้ง 2 คน แต่คนละด้าน สถาปนิก- ออกแบบด้านประโยชน์ใช้สอยและหน้าตาอาคาร วิศวกร- ออกแบบด้านความแข็งแรง มั่นคงและปลอดภัย จากคุณ : s_thipeye (s_thipeye) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:36:02

ความคิดเห็นที่ 25 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 13:13:21 จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:07:38

ความคิดเห็นที่ 26 ลองเปรียบเทียบการสร้างอาคาร กับ การปั้นหุ่น รูป คน ดูแต่ละหน้าที่ การกำหนดขนาดหุ่น ลักษณะของหุ่น เช่นอ้วน ผอม สูงเตี้ย ไทยหรือเทศ เพศ อะไร ----หน้าที่ สถาปัตย์ กำหนดโครงกระดูก ข้อต่อ ขนาดกรุะดูก เพื่อ ทำให้เคลื่อนไหว ---นี่คือหน้าที่ วิศวกร โครงสร้าง กำหนด เส้นสายประสาทในร่างกาย เส้นเลือด -----นี่คือหน้าที่ วิศวกร งานระบบ ไฟฟ้า ประปา แอร์ ต่อมา กำหนด เนื้อปิดโครงกระดูก ลักษณะหน้าตา สีผิว แขนขา เล็บ -----นี่คือหน้าที่ สถาปัตย์ พอได้หุ่นคน ออกมาแล้ว ก็ตกแต่งเสื้อผ้า หน้าผม ทาปาก ทาเล็บ ใส่เสื้อ แฟชั่นแบบไหน -----นี่คือหน้าที่มัณฑณากร หรือ ตกแต่งภายใน จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:08:01

ความคิดเห็นที่ 27   สถาปนิกต้องคิดโครงกระดูกด้วยครับ เหมือนคนจะรูปร่างสวยได้ต้องสวยตั้งแต่โครงกระดูกนั่นแหละ ถ้าโครงสร้างมันเน่าปะยังไงก็ไม่สวย แต่วิศวะโยธาคือคิดว่ากระดูกต้องหนาเท่าไร เสริมเหล็กเท่าไร จากคุณ : *-* เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 18:53:06 A:58.11.45.4 X: TicketID:214406