 |
ความคิดเห็นที่ 28 |
สภาพสังคมวัตถุนิยมทำให้ "ค่าตอบแทน" เป็นปัจจัยแรกในการพิจารณาอาชีพของคนไทย เด็กมัธยมยุคนี้ที่ตั้งเป้าหมายชีิวิตเป็นโตพอจะเลือกทางเดินชีิวิตของตัวเองได้ ต่างจากสมัยก่อนที่พ่อแม่ขีดเส้นไว้ให้เดิน
อาชีพแพทย์ที่เดินสายรักษาหลาย รพ. ตกเย็นเปิดคลีนิค รายได้ต่อเดือนบางท่านเป็นล้าน มีรถเบนซ์ขับ มีเมียพยาบาลสวยๆ หรือ พนักงานบริษัทหลักทรัพย์เอกชนรายได้ต่อเดือนระดับแสนบาท จูงใจให้เด็กเลือกแนวทางนี้มากกว่าที่จะไปทนรับราชการทหารตำรวจ 20 ปี แต่เงินเดือนมาตันที่ 33,500 ด้วยยศพันโท ถึงจะเก่งกาจเพียงใดถ้าไม่มีเส้นสายก็แหงกอยู่อย่างนี้จนเกษียณ
สภาพ ศก. ก็มีผลถ้า ศก.ตกต่ำอาชีพเงินเดือนสูงเลิกจ้างตกงาน ข้าราชการที่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลและเงินเดือนมั่นคงกว่า จะขายดีในช่วงนั้น
สภาพการเมืองก็มีผล หลังพฤษภาทมิฬปี 35 ภาพพจน์ทหารตกต่ำ โรงเรียนนายร้อย 4 เหล่า เปิดรับสมัครนักเรียนปี 1 ในห้วงเวลาเท่ากัน โรงเรียนนายร้อยตำรวจปิดรับสมัคร 1 หมื่นกว่าคน แต่เหล่าอื่นสมัครน้อยโดยเฉพาะ จปร. แค่ 3 พัน ต้องขยายเวลารับสมัครเพิ่ม เป็นต้น
ดังนั้นเรื่องแฟนๆ ก็เป็นธรรมดา คำขวัญ เป็นเมียทหารนับขวด เป็นเมียตำรวจนับแบงค์ คงต้องเปลี่ยนใหม่
เป็นเมียทหารตำรวจนับขวด เป็นเมียหมอช่างตรวจนับแบงค์
(แค่นี้ผมจะโดนยึดอมยิ้มไม๊ครับ ... น้าพร)
จากคุณ |
:
ไตรตรึงษ์สวรรค์
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ส.ค. 53 21:50:28
|
|
|
|
 |