ความคิดเห็นที่ 1 ไอโอดีน เกี่ยวอะไรกับร่างกายมนุษย์ ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุตัวหนึ่งที่ร่างกายคนเราจำเป็นต้องใช้เพื่อสร้างฮอร์โมนที่มีชื่อว่า ไทรอยด์ฮอร์โมน ครับ ฮอร์โมนตัวนี้สร้างจากต่อมไทรอยด์ที่อยู่ตรงลูกกระเดือกของเรา ... ถ้าดูตามรูปจะเห็นว่าส่วนประกอบของมันมีไอโอดีนครับ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 20:54:17 จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 20:54:04

ความคิดเห็นที่ 2 ร่างกายของคนเราเมื่อได้รับไอโอดีนแล้ว ก็จะดักจับไอโอดีนที่ต่อมไทรอยด์ จากนั้นก็เอาไปสร้างเป็นฮอร์โมนเอาไว้ใช้ในร่างกาย ประเด็นคือ ฮอร์โมนตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่สำคัญมากในร่างกายครับ เพราะมันควบคุมระบบการทำงานของร่างกายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไป การเผาผลาญพลังงาน การสร้างและเจริญเติบโตของเซลล์หลายๆอย่าง ดังนั้นโรคที่เราได้ยินบ่อยๆเช่น ไทรอยด์เป็นพิษ อาการของคนไข้ก็คือ มีการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายมากผิดปกติ มีมือสั่น เหงื่อออกมาก น้ำหนักลด ท้องเสียง่าย ในทางกลับกัน คนที่มีไทรอยด์ต่ำ การทำงานของระบบต่างๆของร่างกายก็จะน้อยลงผิดปกติ เช่น เฉื่อยชา คิดช้า ท้องผูก ปัญหาที่ว่านี้ผมกำลังพูดถึงคนปกติที่โตมาแล้วมาขาดหรือเกินในภายหลัง ...ซึ่งมักจะไปเด่นเรื่องการเผาผลาญพลังงาน แต่ปัญหานี้จะเปลี่ยนไปถ้าหากไปเกิดในเด็กครับ ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าหน้าที่อีกตัวของฮอร์โมนไทรอยด์ในคนก็คือควบคุมการสร้างการเติบโตของเซลล์ในร่างกายครับ และในเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนกระทั่งช่วง5ปีแรกของชีวิต คือช่วงที่สมองมีพัฒนาการมากที่สุด ในมนุษย์ ฮอร์โมนไทรอยด์จะมีหน้าที่สำคัญต่อพัฒนาการของส่วนที่เรียกว่าNeocortexและCerebellum โดยมีผลต่อลักษณะและการทำงานของเซลล์สมองในช่วงพัฒนาการ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 20:55:43

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าขาดฮอร์โมนตัวนี้ ผลที่มีตามมาก็คือ - เซลล์ประสาทจะมีรูปร่างผิดปกติไป ทั้งในส่วนรับสัญญาณประสาท ส่วนส่งสัญญาณ และส่วนปลายเชื่อมต่อ - การเคลื่อนที่ของเซลล์ประสาทเพื่อไปเจริญในตำแหน่งที่เหมาะสมลดลง - คุณภาพของเซลล์ประสาทสมองในการนำกระแสประสาทแย่ลง - การตายของเซลล์สมองเกิดง่ายขึ้นกว่าปกติ - เซลล์สมองชนิดGlial cellเพิ่มมากขึ้น (เซลล์ตัวนี้เป็นเซลล์สนับสนุน คอยให้น้ำให้อาหารเซลล์สมองส่วนที่ทำงานคิดโน่นคิดนี่ เราไม่ได้ใช้มันในการคิด) สรุปง่ายๆคือ ถ้าหากขาดฮอร์โมนตัวนี้ในช่วงที่สมองกำลังโตอยู่ การเจริญของระบบประสาทในสมองก็จะไม่สมบูรณ์ และปัญหาที่สำคัญคือโดยระบบร่างกายมนุษย์ การเจริญของสมองเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่ปฏิสนธิไปจนถึงช่วงขวบปีแรกมากที่สุด หลังจากนั้นก็จะค่อยๆลดลงมาตามลำดับ   ... ซึ่งเมื่อการพัฒนานั้นเริ่มลดลงแล้ว การไปเสริมหรือบำรุงในภายหลังก็มักจะไม่ได้ผล ดังนั้น ถ้าหากมารดาขาดไอโอดีนและมีฮอร์โมนต่ำ เด็กก็จะมีการพัฒนาของระบบประสาทผิดปกติตั้งแต่ในท้อง พอเกิดมาก็จะเป็นโรคเอ๋อ แต่ถ้ามารดาคนนั้นอาจจะขาดบ้างเล็กน้อยแต่ร่างกายยังผลิตออกมาได้พอกับลูกในท้อง พอเด็กเกิดมาแล้วปรากฎว่าได้ไอโอดีนไม่พอ เด็กในตอนแรกสมองอาจจะปกติ แต่พอนานๆไปพัฒนาการของเซลล์สมองก็จะช้าลงครับ สรุปมาถึงตอนนี้ก็ได้ออกมาว่า ฮอร์โมนไทรอยด์มีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของสมองในมนุษย์ และไอโอดีนนั้นสำคัญต่อการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ และการขาดฮอร์โมนตัวนี้ก็จะทำให้ไอคิวต่ำได้ แล้วขาดไอโอดีนทำให้โง่จริงหรือไม่ บางคนบอกว่า ถึงฮอร์โมนตัวนี้มันลดลง เซลล์ประสาทมันลดลง แล้วจะทำไม ... ถ้าเราให้การศึกษาที่ดีก็ต้องช่วยได้สิ ดูอย่างไอน์สไตน์เองตอนเด็กก็โง่เลขพอโตมาพ่อแม่เลี้ยงดูดีก็กลายเป็นอัจฉริยะได้ คำตอบคือ - ไอน์สไตน์ได้Topเลขตั้งแต่เด็กครับ - การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเรื่องนี้คือการลดไอคิวเด็กตั้งแต่ก่อนไปเรียน จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 20:56:34

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งนี้เราจะมาดูงานวิจัยตั้งแต่อดีตมาครับ ซึ่งงานวิจัยนี้ตอบคำถามว่า - เราควรจะให้ไอโอดีนตั้งแต่ตอนไหน - แล้วถ้าขาดไอโอดีนจะโง่จริงหรือไม่ เราควรจะให้เสริมไอโอดีนตั้งแต่ตอนไหน เพราะสมัยก่อนมีปัญหาว่าในพื้นที่ที่มีการขาดไอโอดีนจนเกิดคอหอยพอก ก็จะพบเด็กที่เกิดมาเป็นโรคเอ๋อกันมาก มีความพยายามเสริมไอโอดีนเข้าไปในเกลือกิน แต่ยังติดปัญหาเรื่องความทั่วถึงของเกลือที่แจกจ่ายเข้าไป เวลานั้นเรายังไม่รู้ว่าจะให้ช่วงไหนดี ให้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ให้ตอนที่รู้ว่าตั้งครรภ์ หรือให้ตอนที่ตั้งครรภ์ไปแล้วสักระยะหนึ่งตอนไหนก็ได้ ในงานวิจัยใน Lancetปี 1971มีรายงานการวิจัย โดยเข้าไปฉีดไอโอดีนให้กับผุ้หญิง ไอโอดีนตัวที่ว่านี้สามารถอยู่ในร่างกายได้นานเป็นเดือนๆ ปรากฎว่าผลวิจัยออกมา พบว่าเด็กที่เกิดจากหญิงที่ไม่ได้ฉีด เป็นโรคเอ๋อ 4.8% ส่วนเด็กที่เกิดจากหญิงที่ฉีดไอโอดีน เป็นโรคเอ๋อ 1.4% ฟังดูเหมือนไม่ต่างกัน แต่พอไปดูข้อมูลก็พบว่า ในกลุ่มที่เป็นฉีดแล้วก็ยังเป็นโรคเอ๋อนั้น มาฉีดหลังจากตั้งท้องไปแล้วเสียส่วนใหญ่ครับ ถ้าเอาเฉพาะคนที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์แล้วมานับ จะพบว่าเด็กที่เกิดจากผู้หญิงที่ฉีดไอโอดีนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เป็นโรคเอ๋อ 0.2% (เอกสารอ่านเพิ่มเติมที่ท้ายบทความ) แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 20:58:10 จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 20:57:29

ความคิดเห็นที่ 5 อ้าว ดันเอ๋อลืมรูป จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 20:59:22

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วถ้าขาดไอโอดีนจะโง่จริงหรือไม่ จบจากเรื่องเด็กที่เป็นโรคเอ๋อไปแล้ว ก็มีคนสนใจว่าถ้าเด็กเกิดมาแล้วไม่เป็น การขาดไอโอดีนจะทำให้เกิดผลเสียต่อเด็กหรือไม่ ปัญหานี้มีคนสนใจเพราะว่าบางคนก็คิดว่าถ้าพ้นช่วงในท้องมาได้ก็คงไม่ต่างกัน ... และถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็แค่ฉีดให้แม่ตอนท้อง หลังจากนั้นก็ปล่อยไปไม่ต้องทำอะไรก็ได้ งานวิจัยในปี1994 สรุปประเมินออกมาได้ว่า เด็กที่อาศัยในพื้นที่ที่ขาดไอโอดีนจะมีไอคิวโดยรวมต่ำกว่าเด็กปกติ 13.5 งานวิจัยในปี2005 จากเมืองจีนได้่ผลว่า เด็กที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ขาดไอโอดีนหรืออยู่ในที่ที่ขาดแต่ว่าเกิดหลังจากมีการเสริมไอโอดีนในพื้นที่ จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่อยู่ในพื้นที่ที่ขาดไอโอดีน ประมาณ 12 อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในงานวิจัยนี้คือ พบว่าเด็กที่เกิดในพื้นที่ที่ขาดไอโอดีน แต่มาได้รับการเสริมภายหลัง ... มีไอคิวต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ขาด 8 และมากกว่ากลุ่มที่ขาด 4 ขอสรุปเอาเองสั้นๆง่ายๆให้เข้าใจ ถ้าหากเสริมไอโอดีนแต่แรก ดี ... แต่ถ้าไม่เสริมหรือมารอให้ขาดแล้วค่อยเสริม ไม่ดีครับ จริงๆมีงานวิจัยอีกมากมายได้ผลเหมือนกันครับ ... ดังนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์ไปแล้วว่าขาดไอโอดีนแล้วทำให้เด็กโง่กว่าปกติ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:07:55

ความคิดเห็นที่ 7 เสริมนิดนึงก่อนที่จะงงว่าไอคิวต่ำกว่าปกติ 13จุด มันเท่าไหร่ ระดับของIQได้มาจากการเอาคนจำนวนมากๆมาคละกัน เรียงลำดับความสามารถจากแบบทดสอบ ...จากนั้นเอาค่าตรงกลางคือ 100 ดังนั้นIQ100ก็คือคนที่มีIQอยู่ตรงกลางของประชากร ถ้ามี100คน ก็อยู่ที่อันดับ50 คนที่มีIQสูง จะได้เปรียบกว่าคนที่มีIQต่ำ เพราะว่าจะสามารถทำงานที่มีความสลับซับซ้อนได้เร็วกว่าและง่ายกว่าคนที่มีIQต่ำกว่า (โดยที่ใช้ความพยายามพอๆกัน) ถ้าดูตามตารางIQของคนในสาขาอาชีพต่างๆ  พวกด๊อกเตอร์ อาจารย์มหาลัย วิศวกร นักกฎหมาย มักมีไอคิวเฉลี่ยประมาณ 115-120 เซลล์ขายของ คนงานทั่้วไป ช่างยนต์ มีไอคิวเฉลี่ยประมาณ100 คำตอบที่ออกมาในนี้ ไอคิว 13จุดที่หายไป อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวๆนึงไปเลยก็ได้ (สังเกตดีๆ คนกวาดขยะ ภารโรง ช่างไม้บางคน ไอคิวสูงกว่าหมอ ดังนั้นIQไม่ได้กำหนดทุกอย่าง ) จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:08:55

ความคิดเห็นที่ 8 การแก้ปัญหาล่ะต้องทำอย่างไร เรามีข้อมูลตั้งต้นอยู่แล้วว่า 1. ไม่มีไอโอดีน = ไม่มีฮอร์โมนไทรอยด์ = ระบบประสาทแย่กว่าปกติ 2. การเสริมไอโอดีน ต้องทำตั้งแต่ก่อนท้อง 3. การเสริมไอโอดีน ต้องทำหลังจากคลอดด้วย คำตอบก็คือ เราต้องเสริมไอโอดีนอย่างไรก็ได้ ที่มารดาต้องได้ตั้งแต่ก่อนท้อง จะมารอให้รู้ตัวว่าท้องแล้วค่อยกินไม่ได้ ... นอกจากนี้ เมื่อเด็กเกิดออกมาแล้ว เค้าก็ต้องได้รับไอโอดีนอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งโต Solutionที่เรามีมาตั้งแต่อดีตก็คือ 1. ฉีด ... แบบในงานวิจัย ... ปัญหาคือ โรคขาดไอโอดีนไม่ใช่โรคที่เห็นผลทันที กว่าจะรู้ตัวก็โน่น เป็นปีๆ ... ดังนั้นการฉีดคงทำได้ไม่นาน (ใครจะไปฉีดได้ทุกเดือน) 2. ยาเม็ดไอโอดีน โดยให้ยานี้ไปในพื้นที่ที่ขาด แล้วก็กินเป็นระยะ ... ปัญหาก็คือ กินเกินก็อันตราย ... แล้วยาที่ต้องกินเดือนละครั้งจะมีคนกินได้สม่ำเสมอสักกี่คน 3. เอาสารละลายไอโอดีนเข้มข้นไปผสมในน้ำ ...วิธีนี้คือวิธีที่นิยมใช้กันพอสมควรครับ เพราะวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนกินน้ำจากที่เก็บน้ำในบ้าน ก็จะผสมไอโอดีนเข้มข้น(1000ไมโครกรัม/หยด)ลงไปในน้ำ ในอัตราส่วนที่ให้น้ำ1ลิตรมีไอโอดีน200ไมโครกรัม หรือในกรณีที่ทำอาหารเองที่บ้าน ก็ผสมไปในน้ำปลาที่บ้าน 4. ใส่ลงไปในเกลือแกงถุงๆ แต่ก่อนวิธีที่3คือหลักๆเลยครับ จนกระทั่งเมื่อสัก10-20ปีก่อน ปัญหาหลายอย่างที่ตามมา เช่น การผสมสารละลายไม่ถูกส่วน บางคนเผลอเอาสารละลายเข้มข้นไปกินก็อาจถึงตาย  หรือง่ายๆ ผ่านไปนานๆขี้เกียจผสมก็หยุดผสมไอโอดีน ประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปคนเรานิยมกินอาหารที่สำเร็จรูปมากขึ้น การเดินทางไปได้ทั่วถึงมากขึ้น ระบบการผลิตก็ดีขึ้น การผสมไอโอดีนในอาหารต่างๆง่ายกว่าแต่ก่อนมากดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนจากที่เดิมใช้น้ำเสริมไอโอดีน มาเป็นการเสริมไอโอดีนในอาหารที่เรากินกันประจำวันเช่น ในน้ำปลา ในเกลือ ในซีอิ๊วขาว เป้าหมายของทั่วโลกคือ ผลิตภัณฑ์ทั้งหลายพวกที่มีเกลือๆเค็มๆ ควรผสมไอโอดีน และเพื่อให้ครอบคลุมที่สุดเกลือแกงที่ใช้ตามบ้านต้องผสมไอโอดีนทั้ง100% ดังนั้นเมื่อ10ปีก่อนเป็นต้นมา เราจะได้เห็นโฆษณาเกลือที่ผสมไอโอดีนจนชินตา ซึ่งเท่ากับว่า เมืองไทยจะเป็นเขตที่ปลอดจากการขาดไอโอดีนจากอาหาร และต่อจากนั้นไม่ควรมีเด็กที่โง่หรือIQต่ำ จากการขาดไอโอดีน (พูดง่ายๆ เราจะโทษการศึกษาและการเลี้ยงดูได้เต็มที่) ปัญหามีอยู่ดังนี้ครับ เมื่อ  10 ปีก่อน เราบอกว่าเรามีการผสมไอโอดีนในเกลือแกงทำอาหาร เกลือหลายๆยี่ห้อระบุว่าผสมไอโอดีน แต่ปรากฎว่าเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้ผสมครับ! มันไม่ผสมไอโอดีน แต่ดันโกหกว่าผสม ตอนปีที่ผมเรียนหมอยังไม่จบ อาจารย์บอกให้ฟังคร่าวๆในชั่วโมงไอโอดีน ว่าที่ตรวจๆมามีไอโอดีนต่ำกว่าเกณฑ์หรือไม่มีทั้งที่ระบุว่ามี "มากกว่า50%" จนล่าสุดปีนี้ WHO ก็มาพบว่าเกลือของเรามีไอโอดีนถึงเกณฑ์แค่ "60%"ของผลิตภัณฑ์เกลือที่วางขายในท้องตลาด หมายความว่าอะไร หมายความง่ายๆว่า ความเห็นแก่ตัว/มักง่าย/ไม่รู้ของคนบางคน ทำให้มีเด็กที่จะไอคิวต่ำลงโดยป้องกันได้ 40% หมายความว่า ความเห็นแก่ตัว/มักง่าย/ไม่รู้ของคนบางคน ทำให้เกิดภาวะขาดไอโอดีน เกิดโรคที่ป้องกันได้ 40% เท่ากับว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา  เด็กหลายคนอาจจะมีไอคิวต่ำทั้งที่เค้าควรจะมีไอคิวที่ดีกว่านี้ ดังนั้นการรณรงค์ของกระทรวงสาธารณสุขนั้นถูกต้องแล้วครับ เราต้องครอบคลุมเรื่องนี้ให้ได้ เพราะมันคือโรคที่ป้องกันได้ มันคือความฉลาดที่เราสร้างได้ และสร้างได้แบบมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน ชัดเจนกว่าการซื้อเพลงซิมโฟนีมาเปิดให้ลูกในท้องฟัง  ชัดเจนกว่าการซื้อนมเทพมาให้เด็กกินแต่เล็ก ชัดเจนกว่าการซื้อของเล่นกระตุ้นพัฒนาการให้เด็ก แค่ใส่ไอโอดีนลงไปในเกลือตามข้อกำหนดเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 21:17:58 จากคุณ : เสียดายไม่มีคนชื่อIodine (หมอแมว) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:16:16

ความคิดเห็นที่ 9 เอกสารอ่านเพิ่มเติม 1. Pharoah P.O.D., Buttfield I. H., Hetzel B. S. Neurological damage to the fetus resulting from severe iodine deficiency during pregnancy. Lancet 1971;1:308-310 2. Bleichrodt, N & Born, MP. A metaanalysis of research on iodine and its relationship to cognitive development. In: , Stanbury, JB, ed. The damaged brain of iodine deficiency. New York, NY: Cognizant Communications, 1994:195–200. 3. Qian, M. Wang, D Watkins, WE Gebski, V Yan, YQ Li, M Chen, ZP. The effects of iodine on intelligence in children: a meta-analysis of studies conducted in China. Asia Pac J Clin Nutr 2005;14:32–42. 4. ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน : สารไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์ ปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย  2552 อนึ่ง หากจะมีประโยชน์ใดๆเกิดขึ้นจากการเขียนบทความนี้ ก็คงเป็นคุณความดีของอาจารย์ที่สั่งสอนมา โดยเฉพาะอาจารย์ท่านหนึ่งที่ตึกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่ริมน้ำครับ เพราะวันนั้นเลคเชอร์ไอโอดีนเต็มๆ(และรู้สึกจะไม่ได้เจออาจารย์อีกเลย) จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:22:49

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเป็นให้ชั่วคราวละกัน... จากคุณ : I2 (haman_zaa) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:24:57

ความคิดเห็นที่ 11 โหวดโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขอบคุณหมอ แมวครับ ^^ จากคุณ : โลกต้องตะลึง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:25:32

ความคิดเห็นที่ 12 เด็กไทยขาดไอโอดีนจริงหรือเปล่าครับ? จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:35:53

ความคิดเห็นที่ 13 อืม ... ปัญหาคือ ถ้าจะสำรวจว่าขาดจริงหรือไม่ ต้องตรวจกันทั่วประเทศ ปัญหาคือ เรารู้แน่ๆว่า ถ้าไม่เสริมไอโอดีนเข้าไปในอาหารที่กินกันประจำวันให้ทั่วถึง ในพื้นที่ที่ขาดจะมีการขาดไอโอดีนอย่างแน่นอน ปัญหาคือ ถ้าเรารู้ว่าขาด เราก็ต้องเสริม หรือต่อให้ไม่ขาดก็ต้องเสริมเพราะว่ามีโอกาสที่จะขาดในอนาคต เพราะถ้าวันนี้ไม่ขาด แต่ต่อไปเกลือไม่เติมไอโอดีน เด็กรุ่นต่อไปก็ขาดและจะIQต่ะกว่าอย่างแน่นอน กรณีนี้ไม่ต่างอะไรกับการเอาสารตะกั่วออกจากน้ำมันรถครับ ตอนที่เอาออกก็มีคนต่อต้าน เช่นว่า สารตะกั่วมีผลจริงหรือ สารตะกั่วในคนไทยทั่วๆไปสูงเกินไปจริงหรือ ในเมื่อเรามีหนทางป้องกันโรคที่เกิดได้แน่ๆ เรามีข้อมูลแน่ชัดว่าถ้าไม่เสริม ก็ขาดแน่ๆ และถ้าขาด โง่แน่ๆ ทั่วโลกจึงกำหนดว่าต้องเสริมครับ และเมื่อเสริมครบทั้ง100% เราจะได้โทษระบบการศึกษาได้เต็มๆปากแบบที่เถียงไม่ได้ครับ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:44:02

ความคิดเห็นที่ 14 รอบนี้ เครียด นะฮะ หมอแมว อิอิ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:47:44

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแก้ไขค่ะ ไม่อยากให้ คห. นี้ ส่งผลต่อกระทู้ของคุณหมอ เนื่องจากเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาสาระ มาก และไม่อยากให้เกิดความรู้สึกไม่ดีแก่บุคคลอื่นที่เข้ามาอ่านต่อไป--- การที่รัฐบาลส่งเสริมให้กินเกลือเสริมไอโอดีน อาจเป็นเพราะทั่วทุกภาคอาจ จะไม่ได้รับอย่างทั่วถึง อย่างที่บอกค่ะ ระดับ IQ ของคนขึ้นอยู่กับหลาย ปัจจัย แม้คนใต้จะมีโพลออกมาว่า IQ ต่ำสุด แต่มีปัจจัยอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยน่ะค่ะ บางจังหวัดยังมีการศึกษาเพิ่มเติมจากหลักสูตรสามัญด้วย ซึ่งต้องแบ่ง เวลาในส่วนนี้ไป และยังมีปัจจัยอื่นมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงค่ะ และเป็นไปได้ว่า เกลือเสริมไอโอดีน อาจจะราคาถูก และสามารถเสริมได้ ง่าย ไม่เหมือนอาหารชนิดอื่นที่อาจจะมีราคาแพง หาซื้อได้ยาก ไม่อยาก พาดพิงถึงการเมืองค่ะ บางครั้ง positive thinking ทำให้โลกสดใสขึ้นเยอะค่ะ --- แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 23:41:58 จากคุณ : You Much เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:55:57

ความคิดเห็นที่ 17 กีบสุดท้ายของเดือนถูกดูดไปแล้ว ขอบคุณสำหรับกระทู้ ปล ผมว่าผมเห็นคนขาดไอโอดีนมาหัวเราะแถวๆนี้แฮะ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 22:00:42 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 21:58:11

ความคิดเห็นที่ 18   #16 ช่ายแล้ว ผมเพิ่งนึกได้ เคบมีการสำรวจไอคิวเด้กๆจากทั่วประเทศ แบ่งตามภาคต่างๆ ปรากฏว่าภาคกลางไอคิวสูงสุด ส่วนภาคที่ไอคิวต่ำสุดคือ ภาคใต้ครับ อันนี้เปนผลเฉลี่ยนะครับ ทำสำรวจระดับประเทศ ฉะนั้นมันไม่เกี่ยว กับการขาดไอโอดีนหรอก มันเกี่ยวกับการดูแลช่วงแรกสำคัญมากที่สุด นับจากการฝากครรถ์น่านแร่ะ จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:01:14

ความคิดเห็นที่ 19 ผมกำลังรอมุกอยู่นะครับ จากคุณ : Shineokung เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:03:18

ความคิดเห็นที่ 20   ลองอ่านนี้ดู สำรวจพบว่าไอคิวและอีคิวในเด็กวัยเรียนมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในภาคใต้มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=371757 จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:03:47

ความคิดเห็นที่ 21   นี่อีกอัน เอแบคโพลล์เผยเด็กใต้ "โง่สุด" http://www.gimyong.com/webboard/index.php?topic=2362.0;wap2 จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:05:16

ความคิดเห็นที่ 23   เด็กใต้อยู่กับไอโอดีนแท้ๆ แล้วมันไอคิวต่ำเพราะขาดไอโอดีนหรือเปล่าล่ะ จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:07:59

ความคิดเห็นที่ 24 การศึกษาสภาพการขาดไอโอดีนของไทยมีมาค่อนข้างนาน และก็พบปัญหามายาวนานต่อเนื่อง http://advisor.anamai.moph.go.th/factsheet/health1-5_en.htm http://www.childinfo.org/idd_profiles.php http://www.unicef.org/infobycountry/media_39098.html แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ มนุษย์ ที่ไร้สามัญสำนึก เอาประเด็นปัญหานี้ไปมั่วถั่ว แค่เพื่อ Discredit การเมือง อย่างน้อยก็น่าจะทำไปในแนวว่า "รู้ว่าปัญหามียาวนาน ทำไมยังไม่รีบแก้ ถ้ารัฐบาลท่านเหลี่ยมป่านนี้ทำเสร็จไปแล้ว" อย่างนี้ยังจะเรียกว่าแถการเมืองเพื่อสร้างสรรค์ แก้ๆๆ โอ๊ะ ลืมไป สมัยท่านเหลี่ยม ปัญหานี้ก็ยังอยู่นี่เนาะ คริๆๆ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 22:12:06 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:10:43

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วตอนเด็กๆ ที่มีพวกสาธามาหยอดไอโอดีนรสชาติแย่ๆ ใส่ปากนี่คือไอโอดีนเข้มข้นปะครับ มีผลเสียอะไรป่าว จากคุณ : ERWA เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:12:49

ความคิดเห็นที่ 26 edit: ขอยุติเพียงเท่านี้ เดี๋ยวจะทำให้กระทู้เปลี่ยนประเด็นไป ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ ที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน ขอบคุณคุณ siambinary ด้วยค่ะ ที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ และได้ทราบถึงทรรศนะคติมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 09:23:50 จากคุณ : You Much เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:16:13

ความคิดเห็นที่ 27 ผมก็ว่าเด็กไทยไม่ได้ไอคิวต่ำจากไอโอดีนอย่างเดียวครับ(ไม่เคยบอกด้วย) ต้องมีเหตุอื่นด้วยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันเป็นเหตุที่ป้องกันได้ และจะแย่มากถ้าหากไม่ป้องกัน เพราะการป้องกันนั้นราคาถูกและทำได้ง่ายๆ ที่สำคัญคือ เวลาขาด ก็มักจะไม่รู้ตัวกัน ถ้าขาดในเด็กเล็กๆ ต่อให้สร้างเสริมพัฒนาการด้วยวิธีอื่น การกินเกลือแกงที่ทำจากทะเลก็อาจมีไอโอดีนไม่เพียงพอ (อันนี้ก็ความรู้เก่าตอนเรียน ตอนนั้นก็เข้าใจผิดคิดว่าเกลือจากทะเลก็พอ) ความเข้าใจผิดที่หลายคนเข้าใจผิดคือ ใกล้ทะเลปลอดภัยจากการขาดไอโอดีน ... ปรากฎว่าเข้าใจผิดครับ หนังสือเรียนเขียนให้เราเข้าใจอย่างนั้น แต่ภาคใต้ก็ยังปรากฎคนเป็นโรคคอพอกนะครับ! ในบางพื้นที่อย่างกระบี่ก็ยังปรากฎอยู่ (จังหวัดกระบี่น่าจะอยู่ลำดับกลางๆของจังหวัดที่ขาดไอโอดีนถ้าเทียบทั่วประเทศ) ผมเชื่อว่าการศึกษาไทยมีปัญหาครับ และเราไม่ได้มีหนทางวิเศษอย่างเดียวที่จะแก้ไขมันได้ เราต้องแก้ไปทุกทางครับ เสริมไอโอดีนให้ตาย ถ้าการศึกษาโหลยโท่ย เด็กก็ไม่ฉลาด การศึกษาดีขั้นเทพ แต่เด็กไทยยังผจญกับบุหรี่ สุรา ยาเสพติด การพนัน ไอคิวก็ไม่มีทางขึ้น ทุกคนมีหน้าที่ของแต่ละคนครับ รมต.สาธารณสุข ก็มีหน้าที่ของท่าน ปัญหาที่ผมสงสัย (ไม่การเมืองนะ) ปัญหาIQแท้ๆ รมต.ศึกษาไปไหน? จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:17:49

ความคิดเห็นที่ 28 ขาด ไอโอดีนทำให้ IQ ต่ำ แต่ IQ ต่ำมีได้หลายเหตุ จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:22:35

ความคิดเห็นที่ 29 ยินดีด้วยกับรางวัลนะ จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:25:04

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องภาคใต้มีประเด็นหลายอย่าง อย่างในตัวรูปแบบการวัด IQ ก็อาจเกี่ยวอย่างตามข่าว "จากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า เด็กภาคใต้จะเก่งคณิตศาสตร์ แต่อาจจะไม่เก่งด้านภาษา เมื่อวัดผลหลายด้านทำให้มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าภาคอื่น" http://www.iqeqdekthai.com/doc/doc6-50-5.html แน่นอน สาเหตุมีได้มากกว่าแค่ไอโอดีน ยังมี ทั้งกรรมพันธุ์ โภชนาการ การศึกษา (จะมีใครเล่นบ้างไหมเรื่องเด็กไทยยิ่งเรียนยิ่งโง่) มันถึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่าการศึกษาวิจัยอย่างไรล่ะ ว่าอะไรเป็นปัญหาหลัก แต่บ้านเรามีวัฒนธรรม นั่งเทียนเชื่อ FWD Mail ครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:29:42

ความคิดเห็นที่ 31 เขาอุตส่าห์เขียนไว้ตัวใหญ่ๆในภาพแรก... "หมอแมวไม่ดราม่า!!!!" แต่ดันมีคนอื่นจะสร้างดราม่าซะงั้น -*- จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:32:40

ความคิดเห็นที่ 32 ปูนนี้แล้ว  ไปหาไอโอดีนมาเสริมไม่ทันแล้วสิเรา T^T จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:38:29

ความคิดเห็นที่ 33 #30 เออ อันนี้น่าสนใจ เพื่อนสนิทผมเด็กใต้เยอะมาก(วิศวะล้วน) และเก่งๆทั้งนั้น ถ้าบอกเด็กใต้โง่ ผมคงต้องตั้งข้อสงสัยว่าพวกมันปลอมที่อยู่เพื่อก่อการร้าย - - จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:39:00

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ กีบหมดจะให้นายบ้าน อืมม์ สมมุติฐานนี้ เขียนเป็นบทความลงไร้สาระนุกรมได้เลยนะนั่น จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:45:48

ความคิดเห็นที่ 35 ผมให้กิฟท์นายบ้านแทนละกัน จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 23:01:33

ความคิดเห็นที่ 36 เด็กที่3จังหวัดชายแดนใต้ดึงคะแนนเด็กใต้เยอะครับ เพราะภาษาไทยอ่อนมากๆทำให้วิชาอื่นๆแย่ไปด้วย ต้องเอาเวลาไปเรียนศาสนาอีกเกือบครึ่งหนึ่งของเวลาเรียนวิชาสามัญด้วย จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 23:12:46

ความคิดเห็นที่ 37 มันจะกลายเป็นกระทู้มาม่าใส่ไอโอดีนไหมละนี่ มีแววเหลือเกิน จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:05:57

ความคิดเห็นที่ 38   จะมาบอกว่า ภาคไหน ใครเก่งกว่ากันได้อย่างไร ใช้อะไรวัด ใช้อะไร ทดสอบไม่เห็นมีกล่าวถึง ข้อสอบแต่ละโรงเรียนยังไม่เหมือนกันเลย วัฒนธรรม ประเพณี จารีต เหนือ ใต้ ออก ตก มันต่างกัน ต้องกับไปดูว่าที่ไหน ทาแป้งให้ต้นไม้มั่ง จากคุณ : แล้วจะได้คำตอบ (ทามาก็อดอุนจิ) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 02:34:31

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไม่ได้เข้าหว้ากอหลายวัน เดี๋ยวนี้ทำไมเจอแทรกการเมือง ปล.ขอบคุณข้อมูลกระทู้นี้ของหมอแมวนะครับ โหวตให้แล้ว แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 15:56:12 จากคุณ : toon26 (แจ๊คเก็ตบลู) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 02:48:26

ความคิดเห็นที่ 40 หลายๆความเห็นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ปัญหาการขาดไอโอดีนมีมาตั้งแต่โบราณ จนถึงปัจจุบันจริงๆ ไอคิวไม่สูงก็คงคิดไม่ได้ ถ้าเสริมไอคิวเด็กไทยสูงขึ้นได้ 12 จุด บ้านเมืองเราอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ เยอะเลย เข้าประเด็นหน่อยดีกว่า กินปลาทะเล (เช่นปลาทู) เยอะๆจะช่วยได้ไหมครับ แล้วถ้าพวกกุ้ง หอบ ปู ปลา ทะเลนำมาปิ้งย่างมันจะเสียคุณค่าไอโอดีนมากกว่าต้ม นึ่ง อะไรแบบนี้หรือเปล่า? จากคุณ : TamanXZG เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 04:53:04

ความคิดเห็นที่ 41   ขาดไอโอดีน + การศึกษาแย่ = โง่บัดซบ(โอกาสฉลาด ไปคอขวดที่การขาดไอโอดีน เรียนเสริมก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก การศึกษาก็ดันวิบัติอีก) ขาดไอโอดีน + การศึกษาดี = ไม่ค่อยฉลาด(ฉลาดกว่าข้อ 1 ไปคอขวดที่การขาดไอโอดีน ) ไม่ขาดไอโอดีน + การศึกษาแย่ = ไม่ค่อยฉลาด(แต่ยังมีโอกาสฉลาดขึ้นหากไปเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง เพราะไม่ติดเรื่องขาดสารไอโอดีน ดังนั้น ศึกษาเท่าไร  ได้เท่านั้น ) ไม่ขาดไอโอดีน + การศึกษาดี = ฉลาดสุดๆ(แต่ยังมีโอกาสฉลาดขึ้นหากไปเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง เพราะไม่ติดเรื่องขาดสารไอโอดีน) ผมว่า  นักการเมืองจะโกงหรือไม่  อันนี้คงไม่ต้องคิด(มันคงโกงอยู่แล้ว) แต่โกงแล้วผมได้กินไอโอดีนทุกมื้อ ไม่ขาดไอโอดีน  ถือว่ายังแบ่งประโยชน์ให้ผมบ้าง  พอรับได้  ดีกว่าไม่โกง  แล้วไม่ทำประโยชน์อะไรเลย จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 06:19:44

ความคิดเห็นที่ 42 ได้คำตอบซะที เวลาซื้อเกลือ  จะมีสองพวกให้เลือกคือ iodized กับพวก plain salt ยืนเล็ง ๆ อยู่ซื้อไรดี  สุดท้ายก็เลือก iodized เพราะคิดว่า เกลือกระปุกไม่ถึงเหรียญผสม iodine ด้วย (45%) คงคุ้มกว่า  555  ประมาณงก ขอบคุณค่ะคุณหมอ..(แมว) จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 06:32:25

ความคิดเห็นที่ 43   เออ.........โทษนะแคร่บบ มีใครบอกได้ไหมว่าคนไทยควรกินหรือได้รับไอโอดีนวันละเท่าไรเหรอ มันถึงจะเพียงพอที่จะฉลาดรู้เท่าทัน กลโกงของผู้คนสมัยนี้ ผมบอกตรงๆว่าไม่เชื่อแล้วว่ามีคนไทยยุคนี้ยังขาดไอโอดีนอยู่ ความเชื่อแบบเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกับความเชื่อแบบหลงๆของคนไทย ที่ยังมีคนเชื่อว่า ไทยเรามีรายได้หลักสำคัญของชาติมาจาก การส่งออกข้าว/ไม้สัก/ยางพารา /แร่ดีบุก .........55555+ ย้อนยุคดีแท้ๆ จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 06:41:37

ความคิดเห็นที่ 44 เลิกก่อดราม่าซะทีเหอะ -''- จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:05:39

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องไม่เชื่อว่าคนไทยขาดไอโอดีนเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจครับ เพราะว่าเราเสริมไอโอดีนได้พอสมควรในระดับที่เจอคนเป็นจนออกอาการน้อยลงมาก แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็มีเหตุผลอันควรที่ทำให้เราจำเป็นต้องได้ไอโอดีนเสริม และถ้าหยุดเสริมเมื่อไหร่เกิดเรื่องแน่นอน เพียงแต่ว่าไม่ได้อธิบายในกระทู้นี้เพราะว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน โรคนี้ต่างจากโรคขาดสารอาหารอื่นๆครับ เพราะว่าไม่ว่าบ้านเมืองจะเจริญแค่ไหน แต่พื้นที่ในประเทศตามตำแหน่งต่างๆก็จะขาดไอโอดีนเท่าๆเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ถ้าเกิดต่อไปเกิดมีคนอุตริหยุดใส่ไอโอดีนลงไปในอาหารสำเร็จรูปและเกลือแกงทุกชนิด เวลาผ่านไปสัก10ปี เราก็จะมีคนเป็นโรคเอ๋อเพิ่มขึ้น เวลาผ่านไปสัก20ปี เราก็จะพบว่าไอคิวเด็กโดยรวมลดลงชัดเจน พื้นที่ที่ขาดไอโอดีนตามธรรมชาติ ก็จะมีคนที่แสดงอาการมากกว่าพื้นที่ที่ไม่ขาด จังหวัดกระบี่ ที่เป็นแชมป์ภาตใต้ ก็คงมีคนที่ป่วยขาดไอโอดีนเพิ่มขึ้นให้เห็นเด่นชัดเหมือนในอดีตในยุดที่เราไม่เสริมไอโอดีนในอาหารครับ โรคพวกนี้คือสิ่งที่เราใช้ระบบของระบาดวิทยาประกอบกับความรู้ทั่วๆไปทางการแพทย์ครับ ไม่ใช้เรื่องความรู้สึก ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าพื้นที่ที่ขาด ไม่ว่าโลกจะก้าวหน้าไปแค่ไหน มันก็จะยังขาดต่อไป เราก็ประมาณการณ์ได้ว่า ถ้าไม่สามารถเสริมให้ถึง100% ก็จะมีคนที่ขาดอยู่นั่นเอง รวมไปถึงการประมาณได้ว่า ถ้ามีคนที่ป่วยเป็นคอหอยพอกรายใหม่สักคนในพื้นที่ ก็แปลว่าจะมีคนที่ขาดอย่างรุนแรงจำนวนนึง และจะมีอีกกลุ่มใหญ่ที่ขาดบ้าง แต่ทั้งหมดจะมีอาการไม่มากพอที่จะทำให้เค้าสงสัยจนต้องไปรพ. เรื่องนี้ก็เหมือนความเชื่อความรู้สึกที่ว่า คนที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ไม่ขาดอาหาร ก็ไม่เป็นโรคโลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก ... ซึ่งคนที่กินอาหารอย่างสมบูรณ์ดีอ้วนท้วนดีหลายคนก็ยังขาด พยาธิตัวตืดขึ้นสมอง คงไม่มีแล้ว ... ก็ยังเห็นประปราย (พวกนี้มากับผักสดซะส่วนใหญ่ ถ้ามีก็น่าสงสัยว่าเอาอะไรมารดผัก) ประเทศไทยไม่น่ามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เพราะว่าในหนังสือเรียนสอนว่าให้ปิดปากจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และให้ล้างมือก่อนจับโน่นนี่ ถ้าไม่สบายไม่ควรไปทำงานหรือมาโรงเรียน ... แต่ผมก็ยังเห็นมีการระบาด และพอข่าวซาก็ไม่เห็นมีใครใส่ผ้าปิดปากกันอยู่ดี ปล. ตามที่ถามมา ไอโอดีนที่ควรได้ในแต่ละวันก็ประมาณ 200 ไมโครกรัมครับ ส่วนในเกลือทะเลธรรมชาติที่ไม่ผสมไอโอดีน เท่าที่จำได้จากสมัยเรียน อาจจะต้องกินวันละ10กรัม ส่วนในมาม่าก็ห่อละ 50ไมโครกรัม ส่วนถ้าเป็นดราม่า ก็ตัวใครตัวมันครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 08:08:29 จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:05:50

ความคิดเห็นที่ 46   ข้อมูลเรื่องไอคิวกับอาชีพ น่าสนใจจริงๆครับ จากคุณ : Mr.Feynman เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:22:13

ความคิดเห็นที่ 47 Iodine เกี่ยวข้องโดยตรงกับ IQ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับ Attitude ครับ ประเด็นที่หมอแมวต้องการจะสื่อคือ (ในมุมมองของผมคือ) ให้ไอโอดีนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะป้องกันปัญหาเด็กไอคิวต่ำ ไม่ใช่ว่ามันจะขาดหรือไม่ขาดนะ แต่ว่าไม่ขาดมันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ อันนี้คือประเด็น ส่วนเรื่องการพัฒนาไอคิว ในส่วนอื่นๆ ก็ค่อยว่ากัน อันนั้นก็ตามบุญของแต่ละคนล่ะครับ ว่าอยู่ในครอบครัวระดับไหน พ่อแม่ช่วยเหลือได้แค่ไหน กรรมพันธ์  ก็ว่ากันไป อันนั้นมันเป็นตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ แต่เรื่องไอโอดีนมันควบคุมได้ และได้ง่ายด้วย จากคุณ : NO one see ME เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:26:42

ความคิดเห็นที่ 48 ประโยชน์ยอดเยี่ยมครับ ปัญหาหญ้าปากคอก ที่ละเลยกันอย่างไม่น่าให้อภัยของผู้เกี่ยวข้อง จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 09:01:38

ความคิดเห็นที่ 49 เเคยได้ยินมาว่าอาหารบางอย่างมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของไอโอดีน เช่น กะหล่ำปลีสด แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ถึงขั้นเกิดภาวะขาดไอโอดีนมั้ย ใครทราบรายละเอียดเรื่องนี้ช่วยชี้แจงด้วย จากคุณ : Nocturne เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 10:39:40

ความคิดเห็นที่ 50 กรรมแล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะว่าเราขาดไอโอดีนไหม- -* กำลังตั้งครรภ์อยู่หน่ะค่ะ จากคุณ : pojako เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:23:00

ความคิดเห็นที่ 51 เหมือนเคยอ่านจาก update เมื่อนานมาแล้วว่าการกินผัก"สด"บางชนิด เช่นกระหล่ำปลี จะทำให้ได้รับสารอะไรบางอย่าง ที่ไปบล๊อคการดูดซึมไอโอดีน นำไปสู่การเกิดคอหอยพอกได้ 1. จริงหรือไม่ครับ 2. นอกจากกระหล่ำปลีสดแล้วยังมีผักอะไรอีกบ้างครับ ปล. ขาดไอโอดีน ทำให้เกิด X แต่การเกิด X จำเป็นว่าต้องเป็นเพราะขาดไอโอดีนอย่างเดียวเหรอ งงแฮะว่าทำไมบางคนคิดแบบนั้น แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 11:28:20 จากคุณ : Capo เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:26:08

ความคิดเห็นที่ 52 บ้านผมไม่ใช้เกลือไอโอดีน  ใช้เกลือทะเลเม็ตโตๆ แต่อาหารทะเลไม่มีขาดงับ!..   อิอิ จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:39:09

ความคิดเห็นที่ 53 มากดกีฟซ้อนไว้ใต้ชื่อหมอแมวอันที่ว่างๆให้ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:59:33

ความคิดเห็นที่ 54 แรงบันดาลใจของผมที่ศิริราชคือไปว่ายน้ำแล้วเจอนศ.แพทย์ พยาบาลสาวๆครับ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 13:38:59

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณ จขกท มากๆ ลึก กว้าง ละเอียด จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 15:12:25

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณหมอแมวครับ จริงๆ ผมก็เคยเรียนกับท่านนะ(ท่านอาจารย์ของหมอแมวนั่นแหละ) จำได้ว่าเอาเกลือมา 8 ยี่ห้อที่ขายๆ อยู่กันเลย ท่านซื้อมาแล้วแบ่งเด็กเป็นกลุ่มๆ ให้กลุ่มละถุงทุกยี่ห้อ แล้วให้ทำการทดสอบโดยการหยดน้ำแป้ง รู้สึกว่า 4 ถุง สีน้ำแป้งไม่เปลี่ยนแปลงเลย จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 15:33:44

ความคิดเห็นที่ 57 #43 ครับ ประมาณนี้ครับ www.fda.moph.go.th จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:01:41

ความคิดเห็นที่ 58   ความเชื่อของผมมีที่มา ในเมื่อเรื่องไอคิวหรืออีคิวมีหลายปัจจัยที่จะไปสรุปเรื่องขาดสารอาหาร อย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมไม่ใช่แน่ๆ ในเมื่อมีข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่าการขาดสารไอโอดีนทำให้เกิดโรคคอหอยพอก จึงอยากถามคุรหมอแมวหรือท่านอื่นๆในที่นี้ว่า ปัจจุบันท่านเคยพบเห็นผู้ที่มีอาการคอพอกบ้างพรือไม่ คุณหมอเจ้าของกระทู้ทำงานด้านนี้อยู่แล้ว อยากทราบว่า ท่านพบเจอผู้ป่วยที่เปนโรคคอหอยพอกครั้งสุดท้ายเมื่อไร หรือเคยมีใครพบเจอผู้ป่วยที่คอหอยพอกในปัจจุบันบ้าง ผมเองขอสารภาพว่า ตั้งแต่เกิดมาเคยพบอยู่ 1 ท่านเท่านั้นสมัยเด้กๆ ปัจจุบันท่านที่เปนโรคนี้ก้เสียชีวิตไปแล้ว นั่นก็ กว่า 20 ปีมาแล้ว แต่ปัจจุบัน ผมไม่เชื่อว่าจะมีคนเปนโรคนี้เยอะมากมายจนต้องเปนประเด็น ไปถึงเกี่ยวกับเรื่องเด็กไทยสมัยนี้ขาดไอโอดีน มันไม่มีหลักฐาน อย่างน้อยที่ระบุว่า ผู้ป่วยต่อประชากรแสนคนจะมีสักกี่คน ใครมีที่มาของจ้อมูลพวกนี้ก็ อยากรับฟังไว้ประดับปัญญาสักน้อย จากคุณ : siambinary เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:05:34

ความคิดเห็นที่ 59 และจาก http://nutrition.anamai.moph.go.th/newpage42.htm ทำให้ทราบว่า การศึกษาปริมาณสารไอโอดีนในอาหาร มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบถึง ปริมาณสารไอโอดีน ที่มีอยู่ในพืชผัก เนื้อสัตว์และ อาหารทะเลบางชนิด ที่ประชาชนนิยม รับประทาน โดยสุ่มเก็บตัวอย่าง จาก  8 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน น่าน สุรินทร์ นครพนม พระนครศรีอยุธยา จันทบุรี นครศรีอยุธยา และ นราธิวาส จากการศึกษา พบว่า ปริมาณ ไอโอดีน ในผักสด มีค่า ตั้งแต่ 1.4 - 21.9 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ไข่ไก่สด มีค่าเฉลี่ย 44.4 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ไข่เป็ด มีค่าเฉลี่ย 52.1 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ในเนื้อสัตว์ที่ลวก สุกแล้ว 3 ชนิด คือ ไก่ หมู และ วัว มีปริมาณ ไอโอดีน ใกล้เคียงกัน คือ 16.8 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ในอาหารทะเล โดยเฉพาะ ปูมีไอโอดีน ค่อนข้างสูง ในเนื้อปูม้า นึ่งแล้ว 100 กรัม   มีปริมาณไอโอดีน ถึง 158 ไมโครกรัม ส่วนในกุ้งสด มีค่า 37 - 128 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม และ ในปลาทะเล มีค่า 20 - 128 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ขณะที่ปลาหมึกสด มีปริมาณไอโอดีน เพียง 15 - 24 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:06:42

ความคิดเห็นที่ 60 จากข้อมูลที่นำเสนอ สามารถประมาณได้ว่า ถ้ากินข้าวครบสามมื้อในปริมาณที่พอเพียง (ทานเนื้อสัตว์ตามปกติ) ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขาดไอโอดีนครับ จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:08:23

ความคิดเห็นที่ 61 #18 ถูกต้องครับผมก็เด็กภาคใต้ ผมไม่ได้เคืองข้อมูลตรงนี้นะ แต่ถ้าคุณลองลงมาที่ภาคใต้ซิการศึกษาการเรียนการสอนแย่ๆสุดๆ ตอนมัธยมผมอยู่จังหวัดบ๊วยสุดในประเทศ พอเข้ามหาลัยมาอยู่เชียงใหม่ เห็นการเรียนการสอนที่นี่ แทบอยากจะก่ายหน้าผากเพราะการเรียนการสอนบ้านเกิดตัวเองไม่ค่อยพัฒนา คำตอบนี้ดีสุดสำหรับนักการเมืองนะครับ ปล IQ อยู่ที่การฝึกฝน + การบำรุงร่างกายด้วยธาตุอาหารที่ร่างกายจำเป็นเช่นไอโอดีน ถ้ามีแต่ไอโอดีน ก็ไม่ช่วยอะไร จากคุณ : ชายหกน้ำตกเนื้อ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:10:36

ความคิดเห็นที่ 62 อนึ่ง Thai RDI (Thai Recommended Daily Intakes) หมายถึง ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน สำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี โดยมีเกณฑ์ ดังนี้ ไขมันทั้งหมด น้อยกว่า 65 กรัม กรดไขมันอิ่มตัว น้อยกว่า 20 กรัม คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม ใยอาหาร 25 กรัม โซเดียม น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม (http://th.wikipedia.org/wiki/Thai_RDI) จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:11:02

ความคิดเห็นที่ 63 ขวางทางเจริญ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 16:17:15

ความคิดเห็นที่ 65 ได้ยินคำว่า การศึกษาไม่ช่วยอะไร... นึกถึงรายการนึงที่นำเสนอเรื่อง IQ เด็กอนุบาลเทียบกับเด็กประถม ปรากฎว่า... IQ เด็กอนุบาล สูงกว่า เด็กประถม เรื่องจริงนะเนี่ย... การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไร จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 17:20:45

ความคิดเห็นที่ 66 อยากรู้อีกอย่างอะค่ะ ระหว่างการเป็นเกลือทะเลโดยกำเนิด กับเป็นเกลือสินเธาว์แล้วศัลยฯ(เติม)ด้วยไอโอดีนทีหลัง จะมีผลกับโภชนาการที่มนุษย์จะได้แตกต่างกันหรือเปล่า แรงบันดาลใจคำถามมาจากเหลือบไปมองเกลือฝาน้ำเงิน เขาบอกว่าผลิตจากเกลือ99.9% บวกกะไอโอดีนอีก0.005% เกลือ ฉึก ฉึก! จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 17:33:37

ความคิดเห็นที่ 67 ขอเสนอคุณเฮียมี่ครับ ปกติแล้วแต่ละวันเรากินเนื้อสัตว์กันได้พอสมควรครับ เพราะเรามีเงินพอที่จะซื้อเนื้อสัตว์ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีเงินมากมาย เนื้อสัตว์ในแต่ละวันของเขามีไม่มากมาย มื้อๆหนึ่งเรากินเนื้อจะถึงขีดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นในแต่ละวันถ้าเราไม่มีอาหารพวกอาหารทะเล และไม่มีการเสริมไอโอดีน ก็ยากที่วันนึงจะได้ถึงกำหนดครับ ลองดูที่ผักสิครับ ถ้ามองจากพื้นที่ที่มีค่าต่ำสุด มันมีไอโอดีนอยู่แค่ 1-23 ต่อร้อยกรัม ถ้าคนสักครอบครัวนึงไม่มีเงินมากมาย เค้าต้องกินผักแทบทุกมื้อ มีเนื้อสัตว์ไม่มากนัก ไข่รถถังฟองละสามบาททอดไข่เจียวแบ่งกันกินกัน เด็กๆในครอบครัวนี้จะเป็นอย่างไร ปัญหาขาดไอโอดีนไม่ใช่ปัญหาของคนภาคกลางครับ ไม่ใช่ปัญหาของคนในเมืองใหญ่ แต่เป็นปัญหาของคนยากจน การเสริมไอโอดีนนี้ เป็นเพียงแค่การบังคับให้มีการปรับปรุงคุณภาพอาหารให้ได้มาตรฐาน เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกเค้าทำกันครับ ไม่ใช่สธ.ไทยมากำหนด ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เป็นมาตรฐานที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงคนทุกคนโดยเฉพาะคนที่มีโอกาสน้อยทางสังคมครับ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ส่วนที่ถามเรื่องคอหอยพอก จะบอกว่าผมเพิ่งเจอคนนึงเมื่อวันอังคารหรือพุธที่ผ่านมาเองครับ พอเจอก็เลยนึกได้แล้วก็มาเขียนนี่แหละ แต่ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวกันครับ คนเป็นคอหอยพอกนั้นพอได้พอแล้วก็ใช้เวลาอีกนานหลายปีกว่าจะกลับลงมา ดังนั้นการเจอก็ไม่ได้แปลว่าตอนนี้มีการขาด แต่ถ้าจะว่ากันตรงๆ ระหว่างทำงานผมก็เคยเจอคนที่เป็ฯเด็กวันรุ่นแล้วเป็นคอหอยพอกแบบน้อยๆ ถ้าว่ากันตามระบาดวิทยา การเจอคอหอยพอกมีค่าเท่ากับการขาดไอโอดีนอย่างรุนแรง เทียบเท่าโรคเอ๋อแต่มาเกิดในผู้ใหญ่ ถ้าเจอคอหอยพอกหนึ่งคน ก็แปลว่าต้องมีคนที่มีภาวะขาดอยู่อีกจำนวนมากเป็นร้อยๆคน ภาวะนี้ป้องกันได้ ต้องป้องกัน ถ้าไม่ป้องกันจะมีคนเป็นโรคแน่นอน การป้องกันมีราคาถูกกว่าการไปตรวจหาว่ามีการขาดหรือไม่ ดังนั้นทั่วโลกเค้าก็เลยมีแต่การป้ิองกันร่วมกับการตรวจหาไอโอดีนในอาหารแทนที่จะไปตรวจการขาดไอโอดีนครับ เพราะตรวจแล้วไม่ขาด เราก็ต้องเสริมอยู่ดี ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เกลือสินเธาว์เสริมไอโอดีน ไม่ต่างกับเกลือทะเลเสริมไอโอดีนครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 17:59:18 จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 17:56:28

ความคิดเห็นที่ 68 แปลกใจนิดหน่อย ที่บางคนพยายามตั้งแง่ว่า IQ ต่ำไม่ได้เกิดจากการขาด Iodine อย่างเดียว ผมเห็นด้วยนะครับว่า IQ ต่ำมีได้หลายปัจจัย แต่ถ้าเราป้องกันได้สักปัจจัย เราก็ควรจะทำนี่ครับ สมมุติผมบอกว่า โอกาสที่น้ำจะท่วมบ้านคุณมีได้ หลายอย่าง - ท่อระบายน้ำตัน - ลืมปิดก๊อกน้ำ - พายุเข้า - ประเทศไทยจม เราก็ควรจะป้องกัน กรณีที่ 1-2 เอาไว้ใช่มั๊ยครับ แม้ว่ากรณีที่ 3-4 จะแก้ยาก ป้องกันยาก แต่เราก็สามารถลดโอกาสลงไปได้ 2 กรณีเชียวนะ จริงป่ะครับ ฉึกๆ จากคุณ : BLiNDiNG เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 21:53:13

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับบทความดีดีครับ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 11:38:11

ความคิดเห็นที่ 70 ผมก็เรียนวิชาโภชนาการ(เรียนอยู่ตอนนี้)มา แต่คงไม่สูงและลึกมากเท่าหลาย  ๆ ท่านนะครับ แต่ขอแสดงความคิดเห็นว่า สมองก็เหมือนส่วนอื่น ถ้าไม่ได้ใช้ก็ฝ่อ ส่วนตัวคิดว่าความฉลาดมันขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมและปัจจัยส่วนตัวหลายอย่างจริง ๆ (ของเด็ก) พ่อแม่มีส่วน ด้านการส่งเสริม การปลูกฝังทัศนคติเกี่ยวกับการศึกษาเรียนรู้ การเลี้ยงดู ตัวเด็กเองก็มีส่วน การเลือกกิจกรรมที่ทำ ถ้ากินไอโอดีนแล้วเล่นเกมทั้งวันตั้งแต่เด็กนี่ จะเอาความรู้ วิธีคิด วิธีคำนวนมากจากไหน? อาจารย์ที่สอนวิชาโภชนาการผมก็พูดเรื่องนี้เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเหมือนกันว่า มันมีส่วนน้อยมาก (ส่วนตัว ผมคิดว่าต้องขาดหนักมาก ถึงขนาดเป็นคอพอกหรือเกือบเป็นนั่นแหล่ะครับ) อาจารย์ท่านยังบอกอีกว่า การมีกระแสแบบนี้ออกมาทำให้ผู้ปกครองเข้าใจผิดไปอีก เพราะทำให้คิดว่าสาเหตุที่ลูกไม่ฉลาด หรือไม่เก่ง คือ "ไอโอดีน" จากนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครองจะหาอาหารที่เสริมไอโอดีนมาให้ลูกกิน แล้วก็สบายใจได้แล้ว (ก็ไม่ฉลาดเพราะไอโอดีนนี่?) hxxp://th.wikipedia.org/wiki/ระดับเชาวน์ปัญญา จากคุณ : pizad_sura เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:21:53

ความคิดเห็นที่ 71 ไอสไตน์ไม่ได้ท้อปเลขครับ สมการคณิตศาสตร์ของเขา เป็นผลงานที่เพื่อนนักคณิตศาสตร์ช่วยให้คำปรึกษา จากคุณ : navalsamurai เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 15:40:12

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเห็นทุกอย่างจะเสริมไอโอดีนไปหมด พอดีแฟนผมเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ หมอให้กินยามา 2 ปีกว่าแล้ว ยังไม่ได้เลือกว่าจะผ่าหรือกลืนแร่ดี หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงไอโอดีน ถ้าอาหารหลาย ๆ อย่างใส่เกลือไอโอดีนไปหมด มันจะส่งผลต่อคนเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์มากน้อยแค่ไหนครับ จากคุณ : X-Sy เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 17:19:59

ความคิดเห็นที่ 73   ตอนเด็กๆ ก็เคยเห็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแจกชาวบ้านอยู่นะครับ ไม่คิดว่าโรคเหล่านี้จะกลับมาระบาดอีก จากคุณ : ผมไม่เกี่ยวผมมาซื้อลูกชิ้น เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 00:52:33

ความคิดเห็นที่ 74   ครับเป็นบทความที่ดีครับ แม่ผมก็เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ด้วย ทานแร่ไปตั้งแต่สมัยแรกๆ(20กว่าปีก่อน) ครับ ผมเข้าใจที่คุณหมอแมว พยายามสื่อนะครับ การเรียนรู้ในสังคมต้องพร้อมทั้งร่างกายและการเรียนรู้ ถ้าร่างกายไม่พร้อม ก็สามารถมีอาการเอ๋อ เน้นการเรียนรู้อย่างไรก็ตามก็ไม่ไหว จากที่เคยไปอยู่ในหมู่บ้านกันดาร อาหารชาวบ้านเขาใช้เกลือกับกระปิ เนื้อสัตว์กินตั้งแต่ลูกอ๊อดยันสัตว์ที่ล่ามาได้ โอกาสที่จะได้สารอาหารครบยากครับ อาหารปกติก็น้ำพริกผักจิ้มไม่มีเนื้อสัตว์ การที่ให้เสริมไอโอดีนก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ไม่เข้าใจทำไมต้องการเมืองและมาดร่าม่ากันด้วย จากคุณ : datasim เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 04:48:18

ความคิดเห็นที่ 75 ชอบ #9 มากเลยครับ การสำนึกในบุญคุณ ของอาจารย์ที่สอนความรู้ให้กับเรา นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆเลยครับ จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 11:23:20

ความคิดเห็นที่ 76 สงสัยผมขาดไอโอดีน จากคุณ : พ่อมดกระป๋อง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 11:58:23

ความคิดเห็นที่ 77 ท่าทางตัวผมก็ขาดเหมือนกันนะ ^_^ จากคุณ : Iodine Man เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 12:44:29

ความคิดเห็นที่ 78 จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:13:59

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณครับ 3 กีบแบบไม่ต้องคิด จากคุณ : Pu'Chew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:45:05

ความคิดเห็นที่ 80   ขอแก้ไขความรู้เรื่องไอโอดีน ที่โรงเรียนแพย์สอนกันผิดมาตลอด ความรู้เรื่องไอโอดีนยุคใหม่เปลี่ยนไปแล้วครับ...คุณหมอ - โรค hyperthyroid และ autoimmune disease ไม่ได้เกิดจากกินไอโอดีนเกิน แต่ เกิดจากขาดไอโอดีน หรือ ซิลิเนียม อย่างใดอย่างหนึ่ง When there's not enough iodine to bind with cell membranes, it allows enzymes called peroxidases (which can damage those membranes) to wreak havoc and cause autoimmune disease, such as thyroiditis (Hashimoto's or Grave's). While iodine will help the thyroid increase the production of hormone where necessary, it also inhibits over-release from the gland by giving thyroid enzymes what they want. These iodine-seeking enzymes that attack thyroid membranes can be normalized when they get the iodine they need. This old information is terrific news for the many people (usually women) who have been told to have their thyroid removed to end hyperthyroidism. - เกลือเสริมไอโอดีน เมื่อเปิดฝาใช้แล้ว ไอโอดีนจะระเหยหมดไปภายใน 1 เดือน  นอกจากนี้ ยังมีผู้ผลิตเกลือไอโอดีนกว่าครึ่ง ที่เติมไอโอดีนลงไปน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด จากคุณ : เรย์ (กัปตันเรย์) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 17:27:09

ความคิดเห็นที่ 81 ปัจจุบันแหล่งผลิตเกลือที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สำหรับป้อนโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศอยู่ที่ภาคอีสานครับ ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆใช้เกลือกันเยอะนะครับ ซึ่งเกลือที่ว่าก็เกลือสินเธาว์นีแหละครับและอานิสงของการผลิตเกลือกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันก็คือ มีเกลือสินเธาว์ออกมาเยอะแยะจนเหลือมากพอที่จะเอาไปทำเป็นผลิตภัณเกลือแกง(เหยาะไอโอดีนกันนิดหน่อยส่งตรวจผ่านอย.ก็ขายได้แล้ว หึหึ)ขายแจกจ่ายไปตามครัวเรือนได้ทั่วประเทศกันเลยทีเดียว ซึ่งจากความรู้สมัยชั้นประถมแหล่งอาหารจากทะเลจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไอโอดีนป้องกันโรคเอ๋อปัญญาอ่อน ชาวบ้านตามดอยถึงมีเกลือภูเขา(เกลือสินเธาว์)กินกันให้เค็มๆก็ยังมีปัญหาโรคเอ๋อและคอพอก ต้องกินเกลือทะเล และทานอาหารทะเลด้วยเพื่อป้องกันการขาดไอโอดีน เพราะเราจะหวังพึงปริมาณไอโอดีนจากสิ่งที่ส่งเข้าปากแล้วรู้สึกเค็มไม่ได้หรอก แต่สมัยนี้ยุคเกลือสินเธาว์ครองเมืองครับ ผมไปบ้านเพื่อนบ้านคนรู้จักหากเข้าครัวก็มักจะหยิบเกลือมาดูก็เกลือสินเธาว์กันทุกบ้านนั่นแหละ(รวมถึงโรงงานน้ำปลาซีอิ๊วเครื่องหมักปลาดองของเค็มต่างๆด้วย) แถมได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านด้วย ออกมาโปรโมทสนับสนุนเกลือ(ผสม)ไอโอดีนกันสุดๆ แต่ถามว่าควบคุมปริมาณการผสมไอโอดีกันได้มั้ยแล้วท่านๆที่สนับสนุนเคยตามดูปริมาณไอโอดีนในเกลือกันกี่มากน้อย!!! รวมถึงเครื่องปรุงอาหารกระปิน้ำปลาซีอิ๊วต่างๆด้วย ถามว่าจะมีซักกี่คนที่สนใจเกลือหรือของเค็มที่เราๆท่านๆรับเข้าร่างกายกันทุกวันๆบ้างว่ามาจากเกลือสมุทรเกลือทะเลหรือเกลือจากอีสาน(บ้านเฮา)!! แล้วไอโอดีนล่ะเรารับกันยังไงปริมาณเท่าไหร่ สิบกว่าปีมานี่ผมตามดูเรื่องเกลือและเกลือผสมไอโอดีนมาตลอดว่าจะมีใครออกมาพูดหรือให้ความกระจ่างกันบ้างเรื่องปริมาณไอโอดีนในเกลือสมุทรและเกลือสินเธาว์ เห็นมีก็แต่คุณหมอ(บางท่าน)ที่ออกมาสนับสนุนผลิตภัณเกลือ(ผสม)ไอโอดีนจากแหล่งเกลือสินเธาว์(โรงงานขนาดใหญ่) โดยส่วนตัวแล้วผมมักคอยดูและเตือนญาติโยมที่สนิทกันบ่อยๆว่าให้สนใจเกลือและอาหารที่มีไอโอดีนกันบ้าง และดูเรื่องอาหารให้มีอาหารทะเลอย่าให้ขาดเพื่อป้องกันการขาดไอโอดีน ในกระบวนการผลิตเกลือระหว่างเกลือสมุทรแบบบ้านๆกับโรงงานเกลือขนาดยักษ์ๆ ทั้งต้นทุนการผลิตและความรวดเร็วในการผลิตต่างกันลิบทำให้ราคาขายถึงโรงงานอาหารแปรรูปต่างกันไปด้วย แล้วผู้ผลิตอาหารเจ้าไหนเขาจะมาใส่ใจกับปริมาณไอโอดีนในเกลือกันให้เมื่อยตุ้มละครับ หุหุ ผมรอมานานกับการสนใจอย่างจริงๆจังๆจากภาครัฐและภาคสังคมเรื่องไอโอดีนและระดับสติปัญญาของเด็กและผู้ใหญ่ในประเทศนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 53 17:49:59 จากคุณ : คุณพ่อน้องจุ้นแซ่จ้าน (mang+por) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 17:38:57

ความคิดเห็นที่ 82   เด็กใต้ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ซึ่งไม่ค่อยอยากรับการศึกษาไทยเท่าไรครับ ตอนเรียนเขาก็จะเน้นด้านศาสนา เน้นด้านการปฏิบัติตัวและ ภาษาอิสลามมากกว่า ซึ่งเขายังมีการจะให้ทำการเรียนด้วยภาษาอิสลามเลย อาจารย์ส่วนใหญ่ เป็น อิสลาม เขาจึงเน้นด้านศาสนา และส่วนด้วยภาษาทางบ้านเขา ดังนั้นการศึกษา ก็มีส่วน หากขาดไอโอดีนก็มีส่วนครับ และทางใต้ใช่ว่าทุกคนจะไม่ขาดไอโอดีน อย่าคิดว่าปลาที่จับในทะเล ส่วนใหญ่พวกทำการประปงเขาทำเสร็จส่วนใหญ่ ส่งนอก ส่งเข้าภาคกลาง ราคาสูงๆทั้งนั้น คนที่จนๆ เขาก็ไม่มีโอกาสได้กินกันหรอกครับ คิดว่าอะนะ ปล.ไม่ได้ดูถูก ศาสนาอิสลามนะครับ หากท่านใดเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วย เพราะต้องการให้มองถึงปัญหา การศึกษาที่ภาคใต้ได้รับมันน้อยก็เท่านั้น จริงๆ ถ้าวัดไอคิวด้วยภาษาอิสลาม หรือทางการศึกษาที่ทางเด็กใต้ได้รับ รับรอง ภาคอื่นๆ สู้ภาคนี้ไม่ได้แน่ ดังนั้นไอ้พวก โพล ต่างๆ อย่าไปเชื่อให้มาก เพราะมันใช้วัดไม่ได้เสมอไป เพราะเกณฑ์ ในการวัดอาจไม่เป็นธรรมต่อบางภาค จากคุณ : คนเดินผ่านทาง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 10:51:19 A:203.144.220.241 X: TicketID:261619

ความคิดเห็นที่ 83 ขอแย้ง #82 ครับ เด็กใต้ส่วนใหญ่เป็นคนพุทธ ครับ ถ้าคนใต้แถบแนวชายแดน มีมุสลิมเยอะครับ แต่อาจไม่ใช่ส่วนใหญ่ หรือท่านต้องการสื่อสารว่า เด็กใต้ที่เป็นมุสลิม ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับการศึกษาไทย ยิ่งอ่านยิ่งงง ภาคใต้ไม่ใช่มีแค่ยะลา ปัตตานี นราธิวาสนะครับ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 13:08:34

ความคิดเห็นที่ 84 มาม่า ฉึก ๆ จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 13:25:29

ความคิดเห็นที่ 85 เคยมีเพื่อนลิ้นเทวดา บอกผมว่าเกลือใส่ไอโอดีน ขม ไม่อร่อย แต่ผมลิ้นจระเข้ แยกไม่ได้ T_T เคยกินเกลือที่เอาขึ้นจากนาเกลือใหม่ๆ ขม แต่เกลือทะเลเก่าๆ ในโกดังไม่ขม ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับไอโอดีนหรือเปล่าหรือ จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 13:42:42

ความคิดเห็นที่ 86   จาก#59 ปริมาณ ไอโอดีน ในผักสด มีค่า ตั้งแต่ 1.4 - 21.9 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ไข่ไก่สด มีค่าเฉลี่ย 44.4 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ในเนื้อสัตว์ที่ลวก สุกแล้ว 3 ชนิด คือ ไก่ หมู และ วัว มีปริมาณ ไอโอดีน ใกล้เคียงกัน คือ 16.8 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม วันนี้มื้อเ้ช้ากิน ข้าวมันไก่ มีเนื้อไก่ประมาณ100กรัม มีแตงกวาอยู่3ชิ้น -*- กลางวันกินกระเพราหมูกรอบไข่ดาว เนื้อหมูประมาณ 100กรัม ไข่อีก50กรัม มีถั่วฝักยาวอีกประมาณ 7 8 ชิ้น มื้อเย็นคิดว่าจะกินข้าวเหนียวหมูย่าง เนื้อหมูประมาณ 100 กรัม ประมาณว่าวันนี้กินผักหนัก 30g คิดคร่าวๆไม่รวมเครื่องปรุงรส ผักวันนี้ได้ I 0.47-7.3 ไมโครกรัม ไก่เมื่อเช้าได้ 16.8 ไมโครกรัม หมูกับไข่มื้อกลางวันได้ 16.8 กับ 22.2 ไมโครกรัม หมูย่างเย็นนี้น่าจะได้ 16.8 ไมโครกรัม รวมๆได้ 73.3 ถึง 79.9 ไมโครกรัม เครื่องปรุงและอื่นๆจะได้ถึง 70.1 - 76.7ไมโครกรัมมั้ยนะ จากคุณ : Gonzales69th (Gonzales69th) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 14:34:30

ความคิดเห็นที่ 87   วันก่อนไปประชุมเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเกลือมา เท่าที่เจอมานะครับปัญหาหลักคือเกลือที่ขายทุกวันนี้มันมีปริมาณไอโอดีนไม่ผ่านมาตรฐานครับ อย่าง สสจ.หรือ อย.เองที่ควบคุมเรื่องนี้อยู่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ผู้ผลิตเกลือรายใหญ่ ก็เส้นใหญ่ด้วย เคยไปตรวจโรงงานที่ไม่ผ่านมาตรฐานแล้วไม่เซ็นต์ผ่านให้เพราะมันไม่ผ่านจริงๆ กลับมายังไม่ถึงทีทำงานเลย มีผู้ใหญ่ในศาลากลางจังหวัดโทรมาบอกว่ายังไงต้องให้ผ่านไม่งั้นมีเรื่องแน่ๆ แล้วข้าราชการผู้น้อยอย่างเราจะทำอะไรได้ล่ะครับ รณรงค์การกินเกลือไปเหอะ รณรงค์ให้ตายก็ไม่มีผลเพราะเกลือที่ขายมันไม่มีไอโอดีนที่อยู่ในเกณฑ์ไงครับ อย่างบางจังหวัดที่ภาคเหนือ ( ไม่ระบุนะ ) ผลการตรวจพบว่ามีแค่ประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์เองที่ผ่านมาตรฐานปริมาณไอโอดีน จากคุณ : คนทำงานด้าน คบส. (aeerx) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 09:52:27

ความคิดเห็นที่ 88 แล้วคนขาดสารไอโอดีนคนอื่นๆ  เค้ามีความสุขกับคุณด้วยหรือเปล่า จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 16:07:24

ความคิดเห็นที่ 89 เคยได้รู้มาว่า ไอโอดีน ใช้เป็นยาสลบ รึ ไม่ก็ยาพิษ อย่างปลาหมึกบางพันธุ์ เวลาโดนโจมตี จะฉีดหมึกออกมาเพื่อทำร้ายหรือพรางตัวจากศัตรู ประมาณนี้นะครับ นานมาก ผมจำไม่ได้แน่ชัด จากคุณ : kongp (kongp) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 16:20:55

ความคิดเห็นที่ 90 ยกตัวอย่างอีก ก็ทิงเจอร์ไอโอดีน ใส่แผลก็แสบใช่มั้ยครับ ผมคิดว่าหากทานเกลือไอโอดีน จะมีปริมาณไอโอดีนต่ำๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นร่างกาย ซึ่งอาจกำจัดเชื้อโรคบางตัวในร่างกายเราได้ด้วย ส่วนผลเสียไม่แน่ใจนักครับ จากคุณ : kongp (kongp) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 16:25:13

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ คุณหมอ... จากคุณ : boyd_cm เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 16:06:19

ความคิดเห็นที่ 92 ตามที่คุณกัปตันเรย์กรุณาบอกมา ขอแก้ไขความรู้เรื่องไอโอดีน ที่โรงเรียนแพย์สอนกันผิดมาตลอด ความรู้เรื่องไอโอดีนยุคใหม่เปลี่ยนไปแล้วครับ...คุณหมอ - โรค hyperthyroid และ autoimmune disease ไม่ได้เกิดจากกินไอโอดีนเกิน แต่ เกิดจากขาดไอโอดีน หรือ ซิลิเนียม อย่างใดอย่างหนึ่ง - เกลือเสริมไอโอดีน เมื่อเปิดฝาใช้แล้ว ไอโอดีนจะระเหยหมดไปภายใน 1 เดือน  นอกจากนี้ ยังมีผู้ผลิตเกลือไอโอดีนกว่าครึ่ง ที่เติมไอโอดีนลงไปน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ประการแรก ไอโอดีนเกินมีผลทำให้เกิดได้ทั้งภาวะhypoและhyperthyroid แล้วแต่กลไกและการรับเข้าไป กลไกที่ว่าผมว่าโรงเรียนแพทย์สอนกันถูกต้องแล้วครับ ประการที่สอง เรื่องผู้ผลิตเกลือไอโอดีนใส่ไอโอดีนน้อยกว่าที่กำหนด คือประเด็นที่โรงเรียนแพทย์ก็สอน และเป็นประเด็นในนี้แหละครับ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 21:55:16

ความคิดเห็นที่ 93 ถามหมอ   เกลือไอโอดีน กับ ทิงเจอร์ไอโอดีนใส่แผล เหมือนกันไหม จากคุณ : old popeye เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 22:45:40

ความคิดเห็นที่ 94 คนยากจนอย่าว่าแต่ขาดไอโอดีนเลย มีอีกหลายธาตุที่ขาด มีปัญหาก็ต้องแก้กันไป... จากคุณ : ROBOTหุ่นยนต์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 22:08:28

ความคิดเห็นที่ 95 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 53 20:34:56