ความคิดเห็นที่ 1 เอาอะไรกับโฆษณาครับ... ท้าพิสูจน์? ท้าให้ลอง? ลองแล้วได้อะไร ก็ได้ซื้อ ได้เสียเงิน... เพราะเขาคงคิดไว้แล้วล่ะ ว่าคงไม่มีใคร ซักผ้าไม่ขาว แล้วจะไปแจ้ง สคบ อย่างที่ว่าผ้าหอมนาน 7 วันเนี่ย อยากรู้จริงๆใครจะใส่ซ้ำ 7 วัดรวด... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 23:47:21

ความคิดเห็นที่ 2 พี่ๆๆ อยากขาวไช่มั้ย ไปซื้อ สารเรืองแสงที่ร้าน ฮงฮวด วัดตึกอ่ะครับ ซื้อมาขีดนึง ไม่ถึงห้าสิบบาทมั้ง ลักษณะ เป็นผงละเอียดสีเหลืองคล้ายกำมะถัน  ผสมในน้ำซักผ้า เสื้อพี่จ่ะ ขาวโบ้ะ มากๆๆๆๆ จริงพวกที่ทำเสื้อเชิ้ต ขายอ่ะ ชุบตัวนี้ทั้งนั้น ขาวโบ้ะๆๆๆ จากคุณ : วิศวเสนา เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 23:59:43

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่งรู้นะเนี๊ย ว่าเสื้อใหม่ๆที่ขาวเวอร์แบบนั้นเขาชุบสารเรืองแสง - -* จากคุณ : sexybodylove เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:11:48

ความคิดเห็นที่ 4 เงื่อนไขคือ ไม่ใช้ไฮเตอร์ครับ เพราะใช้แล้วหมองเร็วแน่นอน มันกัดสีผ้า(ขาว) กับการสารที่ช่วยให้สีติดออกไป และต่อให้ใช้ผงซักฟอกมันก็ไม่ได้ขาวเจิดจรัสแบบนั้นด้วย จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:20:03

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ได้อยากให้ขาวเจิดจรัสแบบโฆษณาอ่ะครับหมอแมว แค่อยากให้มันขาวเหมือนใหม่าได้สัก ร้อยละ ๘๐ ก็ยังดี ตอนนี้มันจะกลายเป็นสีน้ำตาลแล้ว เสื้อขาวผม -*- จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:21:24

ความคิดเห็นที่ 6 วิลลี่ สตรอ กาละแม ก็สตรอ ซักได้ไม่เท่าโฆษณา ยิ่งซักกลางคืน ไม่ง้อแดดยิ่งแล้วใหญ่ เซ็งจริงๆ จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:32:42

ความคิดเห็นที่ 7   ครามค่ะ ดูขาวแท้แน่นอน (สมัยนี้ยังมีใครใช้อยู่ไหมคะนี่ ??) จากคุณ : กุ๊กไก่ไม่ขันมาหาฉันจะกระต๊าก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 01:20:29 A:112.142.106.116 X: TicketID:191399

ความคิดเห็นที่ 8   ถ้ามีมันจะขายสินค้าตัวต่อไปได้หรือครับ ? เลิกขายกันพอดี จากคุณ : นั่งดูนกเล่นน้ำ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 01:46:11

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพนี้ใช้ประกอบการโฆษณาเท่านั้น ไม่รู้ว่ามีตัวเล็ก ๆ เท่าแบคทีเรียอยู่มุมจอหรือเปล่า อิอิ จากคุณ : mello man เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 02:43:28

ความคิดเห็นที่ 10 เคยเห็นข้างล่างๆของโฆษณา แวปหนี่ง *...... เงื่อนไขเยอะมาก อ่านไม่ทัน จากคุณ : Pai_and_May เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 04:14:50

ความคิดเห็นที่ 11 มีอยู่โฆษณานึง เด็กหัดยิมนาสติก ล้มกระแทก แม่ถลาเข้าไป ไม่ห่วงลูกเลย กลัวแต่เสื้อหมอง -*- จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:10:09

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำที่ใช้ซักก็มีส่วนนะครับ โดยเฉพาะถ้าใช้น้ำบาดาลที่มีแร่เหล็กอยู่เยอะ สังเกตุง่ายๆ น้ำนั้นจะมีกลิ่นของสนิม มากน้อยขึ้นกับความเข้มข้นของเหล็กที่ละลายอยู่ในน้ำ ถ้าเอาไปซักผ้าขาว ผ้านั้นจะหมองอย่างรวดเร็วกลายเป็นสีสนิมจางๆ ----------------------------------------------- ปกติแล้ว Fe ที่ละลายในน้ำบาดาลจะอยู่ในรูป Fe2+ ถ้าเข็มข้นมากๆสีจะเขียวๆ เมื่อเจือจางมันจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อมันออกมาสัมผัสกับ O2 มันจะกลายเป็น Fe3+ซึ่งตัวนี้ จะไม่ละลายน้ำและมันคือสนิมนั่นเอง จากคุณ : Dare More เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:30:18

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเลยชอบเสื้อดำไง ใส่เสื้อขาวต้องเปลี่ยนบ่อย อีกอย่างใส่เสื้อขาวเพื่อนชอบทักว่าเป็นนักศึกษา -*- จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:57:07

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยว่าน้ำที่ซักก็มีส่วนสำคัญ จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 10:08:54

ความคิดเห็นที่ 15 ผมซื้อไปซัก แล้วหาวิธีดึงคราบความหมอง แบบที่เขากระชากทิ้งในโคดสะนา ไม่ได้ครับ ใครรู้ ช่วยบอกทีครับ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 10:17:16

ความคิดเห็นที่ 16 ของวิลลี่ ไม่เท่าไหร่ เเต่กาละแม สิ เอาชาวบ้าน มามุงๆ ดุเเล้วก็  เย้ๆๆๆๆๆๆๆ -*-  หน้าม้าหลอกลวงชัดๆ จากคุณ : palovema เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:07:23

ความคิดเห็นที่ 17 คุณภาพน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับคุณภาพผงซักฟอกครับ.... คุณภาพที่ว่า....ที่จะทำให้ผงซักฟอกทำงานได้เต็มที่อย่างโฆษณา.... 1. ความกระด้างไม่ควรเกิน 150 ppm CaCO3 ครับ เพราะถ้ากระด้างมากกว่านี้สารฟอสเฟตจะจับเหล็กในน้ำไม่ได้เลย ดังนั้นผ้าต้องเหลืองขึ้นแน่นอน 2. ปริมาณเหล็กไม่ควรเกิน 0.1 ppm Fe3+ ครับ เพราะถ้ามีเหล็ก ผ้าต้องเหลืองอยู่แล้ว อย่างที่คุณ Daremore พูดตะกี๊ เพราะเกิดสนิมเหล็ก และเป็น photocatalytic fading สำหรับสารเรืองแสงด้วย 3. ท่อน้ำบ้านคุณ เป็นสาเหตุที่ทำให้เหล็กเจือปนในน้ำได้ ลองเช็คสนิมที่ขึ้นในท่อน้ำรึยังครับ? 4. สารเรืองแสงช่วยให้ขาวโอโมก็จริง แต่มี optimum นะครับ ถ้าเกิน 0.5 % ต่อน้ำหนักผ้า ความขาวจะลดลงกลายเป็นเหลืองเลย ดังนั้นถ้าผ้าสะอาดแล้ว ปริมาณสารเรืองแสงที่อยู่บนผ้าเพียง 0.0001% ของน้ำหนักผ้าก็ให้ความขาวที่โอโมเว่อร์ๆได้แล้วครับ 5. เชื่อมั้ยว่า ถ้าคุณใช้น้ำกลั่นซักผ้าขาวคุณ ผงซักฟอกที่คุณภาพเยี่ยม, น้ำยาล้างจาน หรือ สบู่ถูตัว ก็ให้คุณภาพเท่าเทียมกันครับ 6. ยังมีสาเหตุอีกมากมาย ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ผ้าเหลืองที่ไม่สามารถคาดเดาได้ 7. ก่อนซักผ้า ถ้าบ้านคุณมีปัญหานี้ คุณลองใช้ Soda ash ละลายน้ำที่ซักผ้าซัก 1-3 % แล้วปล่อยให้ตะกอนความกระด้างตกลง แล้วเอาน้ำใสมาใช้ดิครับ รับรองผ้าเหลืองเพราะสนิมนี่หายเป็นปลิดทิ้งครับ ปล. รักคนอ่านนะครับ... เอ้ย ป่าวๆๆๆ พูดเล่น 5555 จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:14:37

ความคิดเห็นที่ 18 มาดูกันทำไมถึงขาว จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:38:31

ความคิดเห็นที่ 19 3 ปัจจัยที่ทำให้เราเห็นสี หรือ ว่าขาว สัมพันธ์กันดังนี้ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:39:49

ความคิดเห็นที่ 20 มองเห็นเป็นสีขาว ก็แสดงว่าแสงที่ส่องไปก็ต้องเป็นแสงขาวที่มีองค์ประกอบของแสงครับ 7 สี แล้วมันก็ต้องสะท้อนทุกช่วงคลื่นออกมาอย่างละเท่าๆกัน จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:41:44

ความคิดเห็นที่ 21 *1  ที่ว่าหอมนาน7วันเนี่ย เขาหมายถึงซักไว้เอาเก็บเข้าตู้แล้วหอมนานถึง7วัน อย่างงี้รึเปล่า  ไม่ใช่ให้ใส่ได้ถึง7วัน จากคุณ : Nattyam เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:42:27

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าเห็นสีดำ วัตถุนั้นจะดูดกลืนแสงหมด ไม่สะท้อนออกมา หรือ สะท้อนน้อยที่สุด จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:43:24

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าส่องแสงไปครบ 7 สี แล้ววัตถุปล่อยแสงสีแดงออกมา ก็เห็นวัตถุนั้นเป็นสีแดง อ้าว! ถ้าวัตถุนั้นมีสีแดงแล้วเราส่องแสงสีเขียว น้ำเงินลงไป มันก็ไม่มีสีแดงไว้สะท้อนอ่ะดิ....ครับแน่นอนวัสดุนั้น เราก็จะไม่เห็นว่ามันเป็นสีแดง เพราะไม่มีแสงแดงไว้สะท้อนเข้าตา....ผลก็ดำมืดสนิทดิครับ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:47:59

ความคิดเห็นที่ 24 งื่อนไขคือ ไม่ใช้ไฮเตอร์ครับ เพราะใช้แล้วหมองเร็วแน่นอน มันกัดสีผ้า(ขาว) กับการสารที่ช่วยให้สีติดออกไป และต่อให้ใช้ผงซักฟอกมันก็ไม่ได้ขาวเจิดจรัสแบบนั้นด้วย จากคุณ : หมอแมว + ขอแย้งก่อนครับ ไฮเตอร์กัดสีผ้าครับ แต่ไม่กัดสีขาว หรือ สารเรืองแสงครับ เพราะโครงสร้างของสารเรืองแสงต้านสารออกซิไดซ์ได้ดีครับ เนื่องจากว่า การทำงานของสารเรืองแสงนั้นเกิดจากการดูดกลืน UV แล้วคายแสงออกมาในช่วงคลื่นแสงที่ยาวขึ้นครับ แสง UV มีพลังงานมากกว่าแสงที่มองเห็นได้ครับ...ดังนั้นสารเรืองแสงจึงมีโครงสร้างทางเคมีที่เสถียรกว่าสีย้อมที่ดูดกลืนแสงที่ตามองเห็นเท่านั้น ก็เท่ากับสมบัติการต้านสารออกซิไดส์ดีกว่ามากครับ.... แตที่เหลืองจากไฮเตอร์ เพราะคราบโปรตีนหรือสารที่มีหมู่ -NH2 ที่ตกค้างหรือเป็นตัวเนื้อผ้าที่มี -NH2 ในโครงสร้าง เช่น ขนสัตว์ ไหม ไนลอน มันทำปฏิกิิริยากับ available chlorine เป็น Chloramine (-NHCl)ซึ่งมีสีเหลืองเข้มครับ... ดังนั้นการป้องกันการเหลืองวิธีนี้ จึงมักใช้สารประกอบที่ให้ active oxygen เป็น oxidising agent ครัับ เช่น Sodium percarbonate (ใน Varnish O2 หรือ บลาๆๆๆ) หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ล้างแผลครับ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 11:57:57

ความคิดเห็นที่ 25 ผ้าที่ทำความสะอาดดีแล้ว แต่ก็ยังเหลืองอยู่ เนื่องจากแสงสีน้ำเงินซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นถูกดูดกลืนไปบางส่วน จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:06:35

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าจะไม่ให้เหลือง โดยใช้กลไกทางแสงก็มีหลายวิธี นี่ก็เป็นวิธีแรก จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:07:51

ความคิดเห็นที่ 27 แต่วิธีแรก เป็นการเพิ่มการดูดกลืนแสง ดังนั้นถ้าใช้เป็นวิธีกู้ UV (ที่ตามองไม่เห็น) ให้เป็นแสงสีน้ำเงินที่ตามองเห็น ท่าจะเวอร์คกว่า จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:09:42

ความคิดเห็นที่ 28 การทำงานของสารเรืองแสง ในเชิงแสง โดยการดูดกลืนแสงที่ตามองไม่เห็น (UV) แล้วคายแสงที่มีความยาวคลื่นมากขึ้น (หรือพลังงานลดลง) ความแตกต่างของความยาวคลื่นของแสงที่ดูดซึมเข้าไป และสะท้อนออกมา เรียกว่า stroke's shift จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:14:17

ความคิดเห็นที่ 29 สารเรืองแสงที่ว่า มักนิยมเรียกว่า OBA หรือ Optical brightening agent ช่วยเพิ่มความขาวในแสงแดดได้ดี เพราะ UV เยอะ ส่วนในแสงไฟธรรมดาน่ะเหรอ ชิล ชิล เพราะไม่ค่อยมี UV ให้กู้มาทำเป็นแสงสีน้ำเงิน 5555 จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:18:24

ความคิดเห็นที่ 30 ปัจจัยที่มีผลต่อความขาว จะเห็นว่าไม่ได้มีสารเรืองแสงเพียงแค่อย่างเดียว ความขาวของพื้นวัสดุ สีคราม เช่น น้ำเงิน ม่วง ก็มีส่วนในการเพิ่มความขาว จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:22:45

ความคิดเห็นที่ 31 เราใช้clorox ฺbleach Sodium Hypochlorite 6% Bleachจะไม่ได้ใช้กับผ้าได้ทุกชนิดนะคะ ห้ามใช้ร่วมกันกับแอมโมเนีย กรด(อย่างน้ำส้มสายชู) ห้ามใช้กับผ้าไหม ขนสัตว์ ฝ้ายผสมขนแกะ หนัง สแปนเด็กซ์ ถ้าเสื้อขาวล้วนแล้วไม่เป็นข้อยกเว้นก็แช่ทั้งตัวเลยค่ะ  ขาวแจ่มๆทุกที แต่ถุงเท้า แช่น้ำส้มสายชูค่ะ มันจะผ่องๆนิดหน่อย(แต่ตรงฝ่าเท้าก็สีเข้มๆตามความซนของลูกนะคะ) ส่วนคำถามจขกท..เราท้าให้กาละแมร์หรือวิลลี่มาซักผ้าที่บ้านเลย แค่แช่ๆ เอาผ้าถูไปมาแบบพริ้วๆในโฆษณา ไม่มีทางสะอาดหรือกำจัดรอยเปื้อนได้ แต่โฆษณาที่มีแม่บ้านหน้ายายถึกคนนึงออกแรงขยี้เหมือนจะฆ่าผ้า กะแม่บ้านหน้าแฉล้มที่ใช้ผงซักฟอกเทพ เพียงช้อนเดียวแล้วผ้าสะอาด บอกได้เลยว่า แม่บ้านถึกนางนั้น บอกความจริงกับคุณค่ะ ส่วนนังปลวกหน้าสวยที่พยายามบอกคุณว่าคุณต้องฉลาดโดยใช้ผงซักฟอกเทพของหล่อนแล้วไม่ต้องออกแรง หล่อนโกหก เราทดลองมาทุกยี่ห้อ เพราะวิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์(เอาของแถมตอนเขามาโปรโมท  ก่อนตัดสินใจซื้อ)  ตอนนี้ อะไรลดราคาก็ซื้อยี่ห้อนั้น เพราะชั้นจะเสียเงินมากไปทำไม  ยังไงก็ต้องออกแรง แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 12:25:26 จากคุณ : anavrin เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:23:59

ความคิดเห็นที่ 32 แต่การใช้สารเรืองแสง ไม่ไ้ด้ให้ความขาวแปรผันตรงตามปริมาณการใช้งานครับ จะมีเพียงปริมาณการใช้งานที่เหมาะสม มากเกินไป ผ้าจะเริ่มเหลืงเป็นสีผงมันน่ะแหละ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:26:31

ความคิดเห็นที่ 33 ก๊ากๆๆๆ คคห. 31 นังปลวกหน้าสวย จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:28:07

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาขำนังปลวกหน้าสวย 555 จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:39:29

ความคิดเห็นที่ 35 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 12:42:12 จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:40:47

ความคิดเห็นที่ 36 การรีดด้วยไฟแรงเกินไป ก็ยิ่งส่งผลให้ความเหลืองมากขึ้น จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:41:50

ความคิดเห็นที่ 37 พอละ เริ่มหนัก และข้ามประเด็นไปเยอะแล้ว 5555 จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 12:48:24

ความคิดเห็นที่ 38 แจ่มเลย   เก็บเข้าคลังโลด จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 13:04:21

ความคิดเห็นที่ 39 พอๆ กับเจ้าพวกครีม whitening ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่จริงตามที่แอบอ้าง ทำไมถึงยังโฆษณาอยู่ได้ แล้วสามารถฟ้องร้องผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้หรือเปล่า จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 14:38:46

ความคิดเห็นที่ 40   สงสัย ต้องไปถาม นธอ เข้าจะบอกว่า มันเทพพพพพพพพพพพพพพพพพพพพ จากคุณ : ^Ai^ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 15:00:27 A:183.89.26.53 X: TicketID:280139

ความคิดเห็นที่ 41 หุ หุ สงสัยมุกแป๊ก จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 18:29:56