Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ในที่สุดเราก็มี "กะเพราศักดิ์สิทธิ์"  

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าวการค้นพบพรรณไม้ใหม่ของโลกในประเทศไทย ว่า ขณะนี้มีเรื่องที่น่ายินดีเมี่อคณะสำรวจพรรณไม้ของกรมอุทยานแห่งชาตินำโดย ดร.สมราน สุดดี ผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้วงศ์กะเพราของไทยได้สำรวจพบกะเพราชนิดใหม่ของโลก วงศ์ Labiatae ที่บริเวณเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว จ.หนองคาย โดยขึ้นอยู่บนดินตื้นๆ บนภูเขาหินทรายตามป่าเต็งรัง ลำต้นเป็นเหลี่ยม สูงประมาณ 50 - 60 ซม. กิ่งมีขนสั้น นุ่ม ใบเดี่ยวเรียงตรงสลับตั้งฉาก ยาว 0.4 - 1 ซม. แผ่นใบมีขนสากด้านบน ยาวประมาณ 20 ซม.ออกดอกและติดผลเดือน ต.ค. - ธ.ค. ส่วนกลิ่นไม่รุนแรงเหมือนกะเพราบ้าน ส่วนจะรับประทานเป็นอาหารได้หรือไม่ ยังไม่ได้ทำการทดลอง เพราะอยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมตีพิมพ์ประกาศให้เป็นพืชชนิดใหม่ของโลก ในวารสาร Thai Forest Bulletin ( Botany )เล่มที่ 38 ภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่ใช้เวลาในการตรวจสอบกับตัวอย่างพรรณไม้ต่างๆ ที่ใกล้เคียงในหอพรรณไม้ต่างๆ ทั่วโลก และไม่พบว่ากะเพราพันธุ์ใหม่ของไทยไปซ้ำหรือใกล้เคียงกับของประเทศอื่น ดังนั้นจึงเ เป็นกะเพราชนิดใหม่ของโลก
   อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยได้สูญเสียทรัพยากรบุคคลสำคัญทาง ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคือนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดทส.ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคปอเตอร์ตกที่จ.น่าน และเพิ่งมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นกรมอุทยานฯและคณะนักสำรวจ จึงได้ตั้งชื่อว่า “ กะเพราศักดิ์สิทธิ์ ” Platostoma tridechii Suddee เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและคุณูปการแก่นายศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้ทำหน้าที่ปกป้อง ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติอย่างบเต็มกำลังความสามารถ จนจบชีวิตในขณะปฎิบัติหน้าที่
   “ การตั้งชื่อกะเพราพันธุ์ใหม่ของโลกชื่อกะเพราศักดิ์สิทธิ์ น่าจะเหมาะสม เพราะนายศักดิ์สิทธิ์ ชอบทานผัดกะเพรามาก และกะเพราชนิดใหม่ของโลกนี้ ยังพบเพียงแห่งเดียวคือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ในภาคตะ วันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นท้องถิ่นบ้านเกิดของปลัดศักดิ์สิทธิ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักอนุกรมวิธาน เตรียมเข้าไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม และจะประสานกับนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านการเพาะขยายพันธุ์ เพราะจัดเป็นพืชหายากใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ” อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=465809

ถ้าไม่บอกที่มาชาวบ้านคงแห่ไปไหว้กันแน่ๆ

จากคุณ : Blackion
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 21:13:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com