ความคิดเห็นที่ 1   อาหารเสริมในประเทศไทย แค่เขียนตัวเล็กๆเท่าขี้มด แอบไว้ตรงมุมที่ไม่ค่อยมีคนอ่าน ว่า "ไม่มีผลในการป้องกันและรักษาโรค" จะโม้ทะลุจักรวาลแค่ไหน ก็ไม่มีใครว่าครับ OMG !!! จากคุณ : a1255 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 17:32:32

ความคิดเห็นที่ 2 หมอหน่อง (อาจารย์หมอธีระวัฒน์) ยังเขียนประชดประชันได้สุดยอดเหมือนเดิม แทบจะนับได้ว่าเป็นหมอคนเดียวในวงการแล้วที่คอยต่อต้านอาหารเสริมต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รับแรงสนับสนุนเท่าไหร่เลย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 19:02:12

ความคิดเห็นที่ 3 งานวิจัยเค้าก็เจ๋งจริงๆ นะ เอาไปเทียบกับน้ำ แล้วพบว่าสมองกระปรี๊กระเปร่ากว่าการกินน้ำเฉยๆ (ไม่ใช่ว่าสมองมันตื่นเพราะรสชาติห่วยแตกหรอกเรอะ) ใครคนไหน อยากได้หัวข้อวิทยานิพนธ์ ลองเทียบของพวกนี้กับนมบ้างสิ รับรองหักหน้ากันสนุกสนานแน่ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 19:12:05

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านหัวกระทู้ตอนแรก ตกใจ  ไม่อยากเชื่อ  ....นึกว่าอาจารย์ธีระวัฒน์จะส่งเสริมให้กินอาหารเสริม อ่านจบถึงได้เข้าใจว่า.....เป็นบทความของอาจารย์ ที่ anti พวกอาหารเสริม สมัยนี้มันโฆษณาเกินจริงเต็มไปหมดครับ  โดยเฉพาะไอ้พวก บิวตี้ดริ้งอะไรนั่นน่ะ  ขายตามเซเว่น คนซื้อดื่มกันโครมๆเพราะนึกว่ากินแล้วจะบิวตี้ฟูล.....แต่ขอโทษที  ให้แดรกกันเป็นไหก็ยังอั๊กลี่อยู่เหมือนเดิมหละว๊า  โดนโฆษณาหลอกยังไม่รู้ตัวอีกน่ะ ล่าสุดคลินิกอะไรนั่นก็ยังทำเครื่องดื่มประเภทนี้ออกมาขายในเซเว่นซะอีก...อันนี้หมอขอล่อเองเลยเว้ย เอากันเข้าไป  ประเทศไทย จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 19:19:47

ความคิดเห็นที่ 5 หมดแรงจะต่อต้านครับ เหนื่อย !!! จากคุณ : กระต่ายน้อยเล่นโยคะ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 19:57:21

ความคิดเห็นที่ 6 มีคนบอกว่าคลอโรฟิลช่วยลดภูมิแพ้ กินมาสิบกว่ายี่ห้อ ไม่เห็นได้เรื่องเลย เออแต่แปลก มันมียี่ห้อนึงได้ผลจริง ไม่ได้หายขาดนะ แต่อาการแพ้น้อยลงมากๆ แต่หยุดกินก็กลับมาเป้นอยู่ดี มันก็ขึ้นกับว่าใครถูกกับอะไรนะครับ บางคนก็กล่อมตัวเอง ผมเองว่าอาหารเสริมก็คือ เสริมสารอาหารที่เราขาดไป เพราะกินข้าวที่มีธรรมดามันอาจจะไม่พอ รวมถึงเราไม่ได้กินครบห้าหมู่ทุกมื้อด้วย มันทำให้แข็งแรงขึ้น แต่ไม่น่าจะดีเวอร์จนใช้แทนยาได้ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 20:12:47

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆมันผิดตั้งแต่ชื่อเรียกแล้ว อาหารเสริม กับ ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร สำหรับผู้ขาดสารอาหาร จริงๆแล้ว มันเป็น "ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร สำหรับผู้ขาดสารอาหาร" เคยดู วิดิทัศ ของ นิว กับ เฮิร์บ 2 ยี่ห้อ ชัดเจนว่า มันคือ "ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร สำหรับผู้ขาดสารอาหาร" แต่ความรู้ความเข้าใจ ของประชาชนทั่วไปมันน้อยมาก ขนาดน้ำส้วมยังวิเศษ นับประสาอะไร ถ้า "ผลิตภัณฑ์ เสริมสารอาหาร สำหรับผู้ขาดสารอาหาร"จะกลายเป็น ยาวิเศษ (อย่างน้อยก็ดีกว่าน้ำส้วมละฟระ) ที่น่าสลดคือภาครัฐเอง ไม่รู้ว่าเพิกเฉย หรือว่า ภาครัฐก็ไม่เข้าใจกันแน่ ปล. เดี่ยวต้องมีคนที่มีทัศนะไม่ดีต่ออาหารพวกนี้ เข้ามาเถียงประมาณว่ามันเหมือนอาหารขยะราคาแพงแน่ๆ คอยดูสิ ผมขอสรุปสั้นๆ ว่า มันคือ "ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร สำหรับผู้ขาดสารอาหาร" ครับ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 09:26:22

ความคิดเห็นที่ 8   อาหารเสริมคงมีคุณประโยชน์ ถ้าผู้ผลิตทำอย่างถูกต้องและซื่อสัตย์ จริง ๆ แล้ว ถ้าคนเราได้อาหารปกติ ได้ครบถ้วน และร่างกายไม่ได้อยู่ในภาวะผิดปกติ หรือไม่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้อาหารเสริม แต่การได้อาหารตามปกติ ต้องมีความรู้ที่ถูกต้องด้วย ปัจจุบันนี้มึความรู้ที่ไม่น่าถูกต้องไม่น้อยที่แพร่หลายอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่น่าห่วง ไม่น้อยไปกว่า คนจนที่คิดว่าต้องหาอาหารเสริมสุขภาพ ยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่กระตุ้นให้เศรษฐกิจให้รุ่งเรืองอย่างนายกรัฐมนตรีที่มีความสุขอยู่ ณ ต่างประเทศอยู่ในขณะนี้ ท่านทำให้ผู้คนมีการเสพความสุขได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ทีเดียว จากคุณ : swathcu@yahoo.com เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 10:24:11 A:122.154.3.81 X: TicketID:281681

ความคิดเห็นที่ 9 ให้ผู้บริโภคตัดสินเองดีกว่าไหม? ถ้ารัฐจะช่วยก็จัดให้มีช่องทางที่ให้ผู้บริโภคได้คุยกันเองว่าดีไม่ดียังไง ไอ้อาหารพวกนี้ก็ไม่เป็นพิษก็ไม่ต้องไปห้าม ถ้ามันแพงคนก็ไม่ซื้อมากินกันเอง จากคุณ : Jc2000 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 10:40:52

ความคิดเห็นที่ 10   ผมก็ขาดสารอาหารครับ ด้วยการใช้ชีวิตในสังคมเมือง แค่โปรตีนยังกินได้ไม่เท่าที่กำหนดเลยครับ แต่กินแป้งกับไขมันเกินนี่สิครับ ใครไม่ขาดไม่เกินเสนอเมนูประจำสัปดาห์ที่กินมาให้ดูหน่อยสิครับ หลายคนว่าไ่ม่ขาดสารอาหาร แล้วทำไมคุณยังเป็นหวัดล่ะครับ? ผมเสริมแล้วไม่เป็นหวัดมาตั้งแต่ตอนที่กินเสริมนั่นแหละ แล้วที่ว่า "อาหารเสริม    ซึ่งถ้าดีตามที่ปรากฏ    ก็น่าจะขึ้นทะเบียนเป็นยาให้รู้แล้วรู้รอดไป" ก็มันไม่ใช่ยาไงครับ แบบเดียวกับที่ "กินข้าวกล้องดีมั้ย ถ้าดีทำไมไม่ขึ้นทะเบียนยาไปเลยล่ะ" ส่วนที่ขึ้นทะเบียนยาก็มีครับ VitaminC 250mgขึ้นไป ส่วนไอ้น้ำรสห่วยๆนั่นผมก็แอนตี้เหมือนกันครับ ส่วนเด็กๆถ้าไม่มีตังกินอย่างอื่นกินนมไปก็ได้ครับถูกดี แม้จะเป็นสาเหตุภูมิแพ้ก็ช่างมัน เด็กๆสมัยนี้สูงใหญ่แต่เป็นภูมิแพ้กันแทบทุกคน ขอโทษด้วยถ้าอาหารเสริมในความคิดผมกับอาหารเสริมที่ถูกกล่าวโจมตีเป็นคนละอย่างกัน จากคุณ : Gonzales69th เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 13:08:37

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ เอาตรงไหนมาบอกว่า ชีวิตในสังคมเมืองขาดสารอาหาร โดยเฉพาะขาดโปรตีน ... เราแทบไม่พบคนเป็น โรคขาดโปรตีนในกทม เลยด้วยซ้ำไป ... ยกเว้นในคนอ้วน ... ขาดสารอาหารแล้วเป็นหวัด มันไม่ตรงตามตรรกะ กินสารอาหารให้ครบถ้วนก็เป็นหวัดได้ หวัดเกิดจากเชื้อไวรัส สารอาหารแค่ทำให้ภูมิต้านทานทำงานได้เต็มที่ ป้องกันเชื้อได้เต็มที่แต่ไม่ได้แปลว่าต้องป้องกันได้ 100% แล้วถ้ามันไม่ใช่ยา ไม่ได้มีผลในการรักษาจะมาอ้างว่าช่วยนั่นช่วยนี้ได้อย่างไร นมเป็นสาเหตให้เกิดภูมิแพ้ ? !!! ? เด็กเป็นภูมิแพ้เพราะนม หรือ เป็นภูมิแพ้เพราะผู้เป็นแม่พยายามให้่ลูกกินอย่างอื่นก่อนนม หรือ เพราะผู้เป็นแม่นิยมให้ลูกกินอาหารเสริมก่อนลูกจะมีอายุได้ 6 เดือนตามคำแนะนำของ องค์การอนามัยโลก ? จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 15:25:10

ความคิดเห็นที่ 12 เอ่อ ที่บ้านผมบ้านนอก ตอนเด็ก ไม่มีคนหอบตระก้าเอาอาหารเสริมเข้าไปขายนะครับ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 23:33:17

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 09:30:52

ความคิดเห็นที่ 14 ผมได้ดูรายการสุขภาพของญี่ปุ่น ก็เลยรู้มาว่า ทำไมได้ซุปไก่มันขายได้ขายดี แม้คนขับรถกลางคืนยังยืนยันว่าดีกว่ากระทิงแดง(คนขับนี้ยืนยันกับผมโดยตรง ไม่ได้ฟังเขาว่ามา) แม้มันจะทดสอบแล้วว่าไม่มีสารอาหารพื้นๆ ใดๆ เลย   ห่วยยกว่ากินไข่หนึ่งฟอง หรือนมหนึ่งถ้วย แต่ในเนื้อไก่มันมีเปปไทด์ตัวนึง จำชื่อไม่ได้ ญี่ปุ่นมันเอาไปวิจัยว่ามันช่วยลดความอ่อนเพลียช่วยให้กระปรี้กระเปร่าได้   ในรายการสุขภาพนี้ อ้างถึงสถาบันวิจัยแห่งหนุ่งในญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับซุปไก่ และไม่ได้มีสปอนเซอร์เป็นซุปไก่ แต่ที่แน่ๆ การกินไก่ ช่วยได้จริงๆ และหวังว่ามันคงมีในซุปไก่ด้วยนะ  ถ้ามันมี หมายความว่ามันได้ผลจริง แต่ที่เราไม่รู้กันนั้นเพราะการนำมาวิเคราะห์นั้น มันหยาบมากๆๆๆ  หยาบเกินไป ยกตัวอย่างนะครับ เกลือทะเลยี่ห้อหนึ่ง มันจะแปะป้ายสารอาหารมาทำไม ทั้งๆ ที่มันตรวจหาพวกโปรตีน วิตะิมินสองสามตัว ไขมัน คาร์โบไฮเดรท  ผลมันก็คือ ศูนย์รวด ไม่รู้จะแปะป้ายแบบนี้ทำแมวน้ำอะำไร สู้แปะป้ายระบุเลยว่ามันมีแร่ธาตุอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไรจะดีกว่า อาหารหลายอย่าง แปะป้ายสารอาหารที่ไม่เหมาะกับตัวสินค้าเอง อ่านไปก็ไร้ค่า เปลืองพื้นที่ข้างหีบห่อเปล่าๆ โง่ป่าววะ  เห็นแล้วรู้สึกว่าป้ายพวกนี้มันน่าไปอยู่ในเว็บ Fail มากกว่า ส่วนพวกอาหารเสริมต่างๆ นั้น ใช่ว่าจะไร้ค่า เพียงแต่ มันถูกโฆษณาเกินกว่าเหตุจนทำให้มันไร้ค่า กลายเป็นสินค้าหลอกลวงไป ยกตัวอย่างต่างประเทศ ที่เขาเจอปัญหาอาหารเสริมงี่เง่าก่อนเรา เขาเข้มงวดมากจนกระทั่งผู้ปลูกบลูเบอรี่ ไม่สามารถอ้างผลการวิจัยคุณประโยชน์ของบลูเบอรี่ได้ เพราะผลบลูเบอรี่มิใช่ยา ไม่สามารถเคลมผลทางสุขภาพของอาหารนั้นได้ ปัญหาของอาหารเสริม ไม่ใช่ตัวสินค้าเอง  ตัวสินค้านั้นมีคุณค่าตามจริงของมันอยู่เสมอ แต่ปัญหาคือ ความโลภของมนุษย์ ที่บดบังคุณค่าของสินค้านั้นเสียเอง แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 12:11:55 จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 12:09:52

ความคิดเห็นที่ 15 ปล.  ผมคนกรุงนะแบ๊งค์ แต่ผมขาดวิตะมินบางตัว   จะว่าไปคนกรุงขาดสารอาหารก็มีนะครับ แต่ที่ไม่เคยขาดคือไขมันกับคาร์โบไฮเดรท จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 12:17:45

ความคิดเห็นที่ 16 ใช่ครับพี่เกลือ คนกรุงที่เจอประจำคือ ขาดวิตามิน และเกลือแร่ ในเด็กเล็กๆ ก็มักเป็น Ca, Mg, P นี่แหละ ถ้ามาตรวจเจอตูดแดง มือแดง หน้าแดง ก็ใส่ 3 ตัวนี้ก่อนเลย คนโดยมากมักไม่รู้ว่า การเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือควบคุมน้ำหนัก มักจะทำให้ขาด วิตามินบีโดยเฉพาะกลุ่มบี 1-2 คนอ้วนหลายคนมักจะมีอาการสะดุ้งและ ตะคริวขึ้นเวลานอน สามารถลดอาการตรงนี้ลงได้ด้วยการลดน้ำหนักและเสริมวิตามินบี 1-2 ส่วน โปรตีน นั้นถ้าคิดตาม requirement แล้วไม่ขาดในคนส่วนใหญ่ครับ แม้แต่ในนักกีฬา ก็ยังไม่เห็นขาด (ขนาดกินแต่ส้มตำ ก็ยังแข่งจนได้เหรียญ) ไขมันกับคาร์บ เกินเป็นปรกติในสังคมเมืองครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 23:43:02

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ที่เราไม่รู้กันนั้นเพราะการนำมาวิเคราะห์นั้น มันหยาบมากๆๆๆ  หยาบเกินไป ยก ตัวอย่างนะครับ เกลือทะเลยี่ห้อหนึ่ง มันจะแปะป้ายสารอาหารมาทำไม ทั้งๆ ที่มันตรวจหาพวกโปรตีน วิตะิมินสองสามตัว ไขมัน คาร์โบไฮเดรท  ผลมันก็คือ ศูนย์รวด ไม่รู้จะแปะป้ายแบบนี้ทำแมวน้ำอะำไร สู้แปะป้ายระบุเลยว่ามันมีแร่ธาตุอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไรจะดีกว่า อาหาร หลายอย่าง แปะป้ายสารอาหารที่ไม่เหมาะกับตัวสินค้าเอง อ่านไปก็ไร้ค่า เปลืองพื้นที่ข้างหีบห่อเปล่าๆ โง่ป่าววะ  เห็นแล้วรู้สึกว่าป้ายพวกนี้มันน่าไปอยู่ในเว็บ Fail มากกว่า จริงๆ ผลวิเคราัะห์มันไม่ได้หยาบเลยนะพี่เกลือ แต่ว่าในการระบุในฉลากโภชนาการ มันจะมีกฏกระทรวงเขียนไว้เลยว่า ถ้าน้อยกว่า 2% Requirement ให้ตัดเป็น 0 ได้เลย และในผลการวิเคราัะห์ ใช้น้ำหนักที่หน่วยบริโภค (ซึ่งมาจากปริมาณที่นิยมกิน หรือกินหมดในคราวเดียว) ก็เลยยิ่งน้อยไปใหญ่ ถ้าอะไรที่มากเกิน 100 กรัม ก็ให้ัตัดที่ 100 กรัมทำนองนี้ สารอาหารหลายตัวเลยมักจะไม่เจอ ซึ่งมันก็สมเหตสมผลกันดีนะครับ เพราะหลายคนก็กินแค่ 1 หน่วยต่อวัน แต่ในบางคนที่กินมากกว่า 1 หน่วยนี่แหละคือปัญหาโดยเฉพาะ ไอ้พวกตัวเลวๆ ทั้งหลายอย่าง Trans-fat กับ ไขมันอิ่มตัว 0% ซึ่งไม่ได้ 0 จริงๆ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 23:48:16

ความคิดเห็นที่ 18 เออ นั่นสิ ผมก็ได้ยินมาว่า มันมีพวกปัดเศษด้วย ตัวร้ายนั้นจำเป็นต้องระบุให้ใส่ ไม่ว่ามันจะน้อยแคไหน ส่วนตัวอื่นๆ จะปัดก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ทำไมมันออกกฏให้ปัดศูนย์ตัวร้ายได้ฟระ อเมริกาก็ทำแบบนี้ บ้านเราก็ตามตูดอเมริกา เออ โง่ตามไกันไป อ้อ ไม่สิ  ฉลาดถึงจะถูก ฉลาดในการหาเงินเข้ากระเป๋าของนักกินเมือง จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 53 13:41:11

ความคิดเห็นที่ 19   ผมว่าอาจารย์หมอธีระวัฒน์ ท่านเป็นหมอได้ เป็นศจ. ได้ คงไม่ใช่อาศัยอาหารเสริมแบบนี้แน่ นึกถึงสมัยก่อนที่อาจารย์จะเรียนหมอ คงไม่มีอาหารเสริมแบบนี้ให้กิน ก็สามารถเรียนหมอได้ น่าจะพรีเซ๊นต์ตัวเองว่าเป็นหมอได้เพราะอะไร รับรองเด็กๆแห่กันเอาอย่าง เพราะเด็กก็อยากจะเป็นแบบอาจารย์เยอะ ไม่งั้นเด็กๆและผู้ปกครองเด็กคงไม่ไปเร่ง กินอาหารเสริมที่ว่าแน่เลย จากคุณ : gsdza เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 12:08:17