ความคิดเห็นที่ 1 หากเราเอาไดโอดมาต่ออนุกรมแบบนี้ จะทำให้หลอดกินไฟแค่ 30 W รึปล่าวครับ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:09:36

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะเดิมไฟสลับเป็นแบบนี้ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:10:39

ความคิดเห็นที่ 3 พอใส่ไดโอดเข้าไปก็เป็นแบบนี้ หายไปครึ่งนึงเลย จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:11:34

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกคลื่นหายไปครึ่งหนึ่ง ทำให้มีคาบเวลาที่หลอดไฟดับนานขึ้น พลังงานที่ใช้จะลดลง เหลือ 30 W ใช่หรือไม่ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:18:51

ความคิดเห็นที่ 5   ไดโอด ไว้เรียงกระเเสจากสลับให้เป็นกระเเสตรง จากคุณ : Aizen เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:57:40 A:118.173.98.204 X: TicketID:256457

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็จะสว่างน้อยลงด้วยครับ จากคุณ : p_chusak (p_chusak2007) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 18:05:11

ความคิดเห็นที่ 7   ทางทฤษฎีถูกต้องครับ แต่ไม่รู้มิเตอร์การไฟฟ้า มันจะลดค่าไฟไปครึ่งหนึ่งหรือเปล่า จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 18:14:30

ความคิดเห็นที่ 8 กำลังไฟไม่ใช่เหลือครึ่ง แต่จะเหลือแค่ 1/4 คิดดูดีๆครับ  และในระบบแสงสว่างบางงานก็มีการต่อไดโอดแบบนี้ ซึ่งจุดประสงค์ไม่ใช่การลดค่าไฟเป็นหลัก แต่เพื่อการยึดระยะอายุไส้หลอด เช่นไฟสนาม ทางเดิน ประดับสวน แต่ถ้าสังเกตหน่อยจะพบว่าแสงไฟจากหลอดจะกระพริบทั้งนี้เนื่องจากลูกคลื่นมันห่างขึ้นกว่าเดิม แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 18:34:04 จากคุณ : rdo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 18:28:01

ความคิดเห็นที่ 9 แรงดันเฉลี่ยหายไปครึ่งนึง ประหยัดไฟกว่าแน่นอนค่ะ แต่ความสว่างก็ลดลง และอาจเกิดการกระพริบด้วย ปิดไฟเมื่อเลิกใช้ ประหยัดสุดเจ้าค่ะ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 18:36:24

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้ผมทำใช้อยู่พักนึงครับ ในห้องน้ำที่บ้าน เพราะรำคาญที่หลอดตะเกียบประหยัดไฟมันเสียบ่อยเพราะความชื้นสูง ก็เอาหลอด100w ทำแบบนี้เลย แสงสว่างน้อยลงเยอะครับ คงประหยัดไฟแน่ๆละเพราะไฟหายไปครึ่ง ผลพลอยได้คือ หลอดทนนนนนนนน...มากกกกกกกกก...ที่สุดครับ 10ปียังไม่เสีย โดนถอดทิ้งในที่สุด...555 จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 18:37:54

ความคิดเห็นที่ 11   แรงดันเท่าเดิมแต่กระแสลดหายไปครึ่งหนึ่งครับ ประหยัดไฟไปครึ่งนึงแต่ความสว่างก็ลดลงมาก อาจต่อกับสวิทช์สองจังหวะ เมื่อไม่มีคนอยู่ก็ลดกำลังลง เมื่อต้องการแสงสว่างเต็มที่ก็บิดไปอีกจังหว่ะนึง เคยใช้หลักการนี้กับหัวแร้งแช่ ทำที่แขวนหัวแร้งด้วยไมโครสวิทช์ พอเอาหัวแร้งมาแขวนก็จะลดกำลังไฟลงพอยกหัวแร้งขึ้นใช้งานก็จะเพิ่มไฟเต็มกำลังโดยอัตโนมัติ จากคุณ : ลิงจุ่น เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:15:01

ความคิดเห็นที่ 12   ^ ^ ปกติหัวแร้ง ข้างในมันก็มี ไดโอดอยู่ตัวนึงนิครับ พอเวลา เร่ง ก็มีสวิส ทำให้ไฟ ไม่ผ่านไดโอด เป็นการเร่ง ชี้แนะด้วยครับ จากคุณ : มอส เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:34:03 A:124.121.73.61 X: TicketID:263557

ความคิดเห็นที่ 13 ประหยัดทำได้ ประสิทธิภาพทำไม่ได้ การประหยัดต้องหาจุดระหว่างประหยัดและประสิทธิภาพมาชนกันให้ได้ จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:48:12

ความคิดเห็นที่ 14   #12 หัวแร้งแช่บางรุ่นปรับความร้อนไม่ได้ครับมีขดความร้อนอย่างเดียวเคยทำแบบ#11 เหมือนกัน  หัวแร้งบางรุ่นที่ดีหน่อยจะมีขดลวดความร้อน 2 ชุดคือ 30วัตต์และ 100วัตต์ อยู่ในแกนเดียวกัน(แกนเซรามิค) คือเสียบปลั้ก จะเป็น 30 วัตต์ กดปุ่มจะกลายเป็น 100 วัตต์ จากคุณ : นอนยัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 21:10:18

ความคิดเห็นที่ 15 ไดโอดตัดลูกคลื่นไปหนึ่งซีกเท่ากับแรงดันหายไปครึ่งหนึ่ง กำลังไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 1/4 เท่า  แต่เสียงส่วนใหญ่ที่นี่บอกว่าหายไป 1/2 เท่า ถ้าเป็นประชาธิปไตยก็ถือว่าผมแพ้เสียงข้างมาก  แต่มีบางท่านยังบอกว่าแรงดันเท่าเดิม  เกี่ยวกับเรื่องนี้ เชิญชวนให้แตกประเด็นไหมครับ  จะมีคนรับคำท้าไหมน่ะ จากคุณ : rdo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 22:08:16

ความคิดเห็นที่ 16 แรงดันเฉลี่ยลดลงครึ่งหนึ่ง.... ในขณะที่ Power  แปรผันตรงกับ ค่ากำลังสองของแรงดัน... P = V^2/R ให้ความต้านทานของหลอดไฟคงที่... เอาไดโอดไปต่อไว้ ทำให้กำลังไฟตกลงเหลือ 1/4 ครับ ====================== แต่จากการกดเครื่องคิดเลข... มันได้ 1/5 อ่ะครับ - - เพราะพอทำ half-wave rectify แล้ว V เฉลี่ย มันก็ไม่ได้ตกลงมา ครึ่งนึง เป๊ะๆ... ไว้ต้องลองใช้ power meter วัดกันสดๆซะแล้วสิ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 23:22:56 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 23:22:30 จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:13:32

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องคิดแบบ AC ซิ ลองแจ้งแถลงใขมาเลยว่ามันได้ 1/4 ได้อย่างไร อยากรู้ว่ามีวิธีคิดอย่างไร จากสมการไหน ผมลองอินทีเีกรดดูมันได้ 1/2 เอง หรือนิยาม power ของผมผิด พรุ่งนี้จะลองหา power มิเตอร์มาวัดดู จากคุณ : p_chusak (p_chusak2007) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:42:48

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้โหลดเป็น R   จากนิยามของ power  เฉลี่ย คือผลรวมของ ผลคูณของ กระแสและแรงดันใน 1 คาบ โดย ในที่นี้กระแสและแรงดันมีเฟสเดียวกันตลอดเวลา เมื่อไม่มีแรงดันที่ครึ่งหลังของคาบ ผลรวมของครึ่งหลังก็เป็น 0 ตลอด ซึ่งหากไม่มี diode ผมรวมของครึ่งแรกกับครึ่งหลังมันต้องเท่ากัน เครื่องหมายเดียวกันด้วย  แล้วมันได้ 1/4 ได้อย่างไร อย่าบอกนะว่าเอาไปปนกับวงจรเรกติฟาย ในวงจรไม่มี C นะ   เอาเป็นว่าผมท้าให้พิสูจน์ในกระทู้นี้แหละว่าได้ 1/4 ได้อย่างไรอยากรู้วิธีคิด แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 00:03:28 จากคุณ : p_chusak2007 เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:50:40

ความคิดเห็นที่ 19 RMS จากคุณ : juti เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 02:08:02

ความคิดเห็นที่ 20 ซื้อหลอดกินกำลังต่ำมาใช้เล้ยยย จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 07:25:39

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าท่านจะคำนวณจากค่าเฉลี่ยในคาบเวลา ท่านคงจะต้องไปคิดค้นหาสูตรอื่นแล้วล่ะครับ ส่วนสูตร P=V^2*R   นั้นท่าน juti ก็ได้มาเฉลยแบบสั้นๆ ให้แล้ว จากคุณ : rdo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 08:56:48

ความคิดเห็นที่ 22 มีคำถาม ในสูตรที่ยกมา V ของท่านคือเท่าไร ระหว่าง 2 วงจร นี่วงจร AC นะครับ POWER ของวงจรใด ก็ต้องเอา VI คูณกันจากนั้นจะเอามาทำ RMS หรือ ทำ Average ก็ค่อยว่ากัน นี่วงจร AC ก็ต้องคิด 1 คาบ จะเอาสูตรสำเร็จของวงจร DC แบบข้างบนมาคิดไม่ได้นา จากคุณ : p_chusak (p_chusak2007) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 09:12:08

ความคิดเห็นที่ 23 1/2 ครับ Vp มันเท่าเดิม ปล 220 เป็น Vrms แต่ Vp มัน 310 ครับ ทั้งหมดใน AC ไม่ใช้ V เฉยๆ กัน จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 15:18:24

ความคิดเห็นที่ 24 สงสัยจะต้องกลับไปเผาตำราเสียแล้ว รู้มากก็ยากนานแท้ จากคุณ : rdo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 15:55:44

ความคิดเห็นที่ 25 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 17:03:07

ความคิดเห็นที่ 26 POWER ของวงจรใด ก็ต้องเอา VI คูณกันจากนั้นจะเอามาทำ RMS หรือ ทำ Average ก็ค่อยว่ากัน นี่วงจร AC ก็ต้องคิด 1 คาบ จะเอาสูตรสำเร็จของวงจร DC แบบข้างบนมาคิดไม่ได้นา ู^ ^ ^ คิด VI ก่อนแล้วค่อยทำ RMS ... มันแปลกๆมั้ยครับ - - ถ้าไม่งั้นผมก็คิดผิดไปเอง วงจร AC แต่พอใส่ไดโอดมันก็เหลือเป็น DC pulse ... แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 20:09:53 จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 20:08:24

ความคิดเห็นที่ 27 1/2 ทั้งจากการวัด และคำนวณ ( คิดแรงดันตกคล่อมไดโอดน้อยมาก) คนที่คิดได้ 1/4 แสดงว่าเอาวงจร DC มาจับแพะชนแกะ วงจรลักษณะนี้ต้องใช้นิยาม คือ เอา P=sum(VkIk)/N    โดย k=1 ถึง N หรือจะ อินทีเกรดเอาก็ตามแต่ V ไม่ได้ลด I ไม่ได้ลด แต่ หายครับ หายไปเลย ย้ำว่า วงจรที่มีรูปคลื่นไม่้ตายตัว เวลาจะคิดอะไรต้องใช้นิยามหลักมาจับครับ คุณไม่ต้องเผาตำรา แต่หยิบมาใช้ให้ถูก สูตรที่เอามาอ้างนั้นมันไม่ได้ใช้กับวงจรแบบนี้ครับ  ผมพยายามคิดว่าทำไมคิดได้ 1/4 จึงทราบว่าท่านใช้หลักวงจรผิด มอง V เป็น Vdc แต่นี่มันเป็นวงจรกระแสไม่ต่อเนื่อง รูปคลื่นมาในรูปแบบ function ก็ต้องคิด ตามรูปคลื่นที่มันออกมาจริง  ถ้าอยู่ดีๆมาบอกว่า V ลดไปครึ่งหนึ่ง ก็ผิดแล้วครับ กรณีนี้ V ไม่ได้ลด แอมปลิจูดเท่าเดิม รูปคลื่นของทั้ง V และ I ยังเหมือนเดิม เพียงแต่หายไป ครึ่งคาบครับ หายครับ ไม่ได้ลด  ยังไงลองฝากไปดูนิยามของ Power ไฟฟ้าครับ มันมาจาก V*I   เมื่อเจอปัญหาของรูปคลื่นไ่ม่ปกติ ต้องใช้หลักนี้เข้าไปจับ จะอินทีเกรด หรือ ซัมเอาแบบ digital ก็ได้ จากคุณ : p_chusak (p_chusak2007) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 09:19:43

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าหลอดไฟมีค่าความต้านทานคงที่ จะคำนวณกำลังไฟฟ้าลดลงครึ่งหนึ่งพอดี (Ideal Diode) แต่ในความเป็นจริง ค่าความต้านทานจะลดลงจากเดิมเนื่องจากอุณหภูมิของใส้หลอดไฟจะน้อยกว่าเดิม ทำให้กระแสในช่วงครึ่งบวกมากขึ้นเล็กน้อย ทำให้กำลังน่าจะมากกว่า 1/2 เล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงแรงดันตกคร่อมหลอดไฟที่ลดลงเนื่องจาก เกิดแรงดันตกคร่อมใน Diode ก็คงชดเชยกันพอดี จากคุณ : j (HogHeaven) เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 11:03:34