ความคิดเห็นที่ 1 เดี๋ยวนี้ทำไมครับล่ะ แซวเล่นนะอิอิ จากคุณ : ninejpv46 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 21:56:06

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเชื่อว่าทำอย่างไรได้อย่างนั้น มันก็สะท้อนออกให้เห็นในคำตอบเดียวกัน ดังนั้นผมผมตอบว่าเป็นจริงครับ ปล. ความเห็นส่วนตัว จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 21:59:03

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีพระท่านหนึ่งบอกว่าอย่าไปคิดว่าทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว แต่ให้คิดว่า ทำดี คือดี  ทำชั่ว คือชั่ว คืออย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับผลอะไร รู้แต่ว่าอะไรดีก็ดีวันยังค่ำ อะไรชั่วก็ชั่ววันยังค่ำ จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:02:38

ความคิดเห็นที่ 4   จริง ตามสเกลหยาบ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:08:27 A:116.58.239.251 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ได้เห็น คุณซัมซุง ในห้องหลักนานมาก - - ตอบกระทู้ เหมือนหลักการ มีเหตุก็ต้องมีผล ละมั้งครับ ต่างสิ่งต่างเชื่อมโยงกัน จากคุณ : Lord BoBo Of Sarkhanland เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:09:58

ความคิดเห็นที่ 6   action = reaction ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ action ดี = reaction ดี ได้มากกว่าหรือน้อยกว่า action หรือ ยาวนาน เท่าไหร่ที่จะได้ reaction ดี นั้น มันก็มีตัแปร x อยู่ หลายตัวอยู่ แต่ให้เชื่อมั่น ในกฏ ฟิสิกส์ และ กฏ แห่งการกระทำหรือ กฏแห่ง กรรม ครับ take action ด้วย คิดดีพูดดีทำดี เท่านี้ ความรู้สึกดีๆ ก็ reaction ขึ้นในใจเรา ด้วยความเร็วแสงแล้วละ อิๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:10:01

ความคิดเห็นที่ 7 ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นหลักการทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักที่มีเหตุ มีผล คือ เพราะคุณทำอย่างนั้น คุณจึงได้อย่างนั้น เช่น คุณไปชกต่อยเขา  วันหนึี่ง เขาก็มาชกต่อยคุณ เอาคืนบ้าง ถ้าคุณพูดดีๆ แก่เขา เขาก็จะพูดดีๆ แก่คุณเหมือนกัน นี่ล่ะ ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น จากคุณ : รามณรงค์ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:12:40

ความคิดเห็นที่ 8   ก็ถ้าทำดีกัน คนอื่นก็สบาย พอสบาย ก้รู้สึกอยากช่วยเหลือกันเป้นทอดๆ ทำดีได้ดีแน่นอน แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าคนอื่นจะได้รับผลดีด้วย ไม่งั้นจะกลายเป้นทำคุณบูชาโทษ จากคุณ : The four sight เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:18:59

ความคิดเห็นที่ 9 ทำดี แล้วรู้สึกสบายใจ ก็ได้ดีแล้วครับ ทำชั่ว แล้วรู้สึกไม่สบายใจที่หลัง ก็ถือว่าได้ชั่วแล้วครับสำหรับผม จากคุณ : scmage เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:20:38

ความคิดเห็นที่ 10 #1 - ปกติก็ ครับ นาาา =A= #5 - พึ่งเข้าปี 1 จ้า  งานเยอะมากมาย TTwTT จากคุณ : คุณซัมซุง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:23:40

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่จริงครับ เพราะก็เห็นๆ กันอยู่ว่าสังคมบ้านเราเป็นอย่างไร จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:26:48

ความคิดเห็นที่ 12 ดีแต่ละคนไม่เท่ากัน ชั่วแต่ละคนไม่เท่ากัน ของที่ไม่มีเครื่องมือวัดมาตรฐาน พิสูจน์ยาก โดยส่วนตัวเชื่อว่า Action=Reaction จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:29:47

ความคิดเห็นที่ 13   ในทางวิทยาศาสตร์ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น กระจายตัวตามNormal Distribution Curve ครับ จะทำดี หรือไม่ดี ผลที่ได้รับ ก็มาจากตัวแปรนับไม่ถ้วน ก็สุ่มอยู่ดี จากคุณ : Schweissnaht (Schweissnaht) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:30:30

ความคิดเห็นที่ 14 เราจะรู้ว่า เป็นจริง ต้องดูบริบทคำเกี่ยวข้องและคำเปรียบเทียบครับ ประโยคเต็มๆของบทนี้คือ ปลูกพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ทำกรรมดีย่อมได้ดี ทำกรรมชั่วย่อมได้ชั่ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า พุทธสุภาษิตบทนี้ มีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ในตัวอยู่แล้ว และในบางกรณียังมีความซื่อตรงต่อธรรมชาติยิ่งกว่าวิทยาศาสตร์ เพราะไม่ไปตัดต่อและตกแต่งพันธุกรรม... จากคุณ : tiger18 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:32:52

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่านิยามของทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วนั้น ถ้ามองอย่างง่าย ก็เช่น เราต่อยเขา เขาต่อยเรา ซึ่งพอคิดแบบนี้ บางคนก็บอกว่าไม่เห็นจะจริง ยื่นเงินให้ขอทาน ไม่เห็นมีใครเคยมาให้เงินเราบ้าง? ถ้ามองให้ลึกอีกแบบ มันไม่ใช่แค่แบบ ทำA ได้A ทำBได้B แต่ผมคิดว่า การกระทำสิ่งหนึ่งย่อมเกิดผล ซึ่งผลนั้น เกี่ยวกับการกระทำที่เคยทำมา ไม่ว่าด้านไหน เราอ้วนวันนี้ เพราะเรากินมาก เรากินมากเพราะบ้านเรามีตังค์ บ้านเรามีตังค์เราจึงไม่ค่อยได้ออกแรง อะไรแบบนั้นมากกว่า ผมว่านะครับ คือทำดี ก็ได้ความดี ทำชั่วก็ได้ความชั่ว ทำกลางๆก็ได้ความกลางๆ ไม่ใช่ให้เงินขอทาน5บาทแล้วหวังจะเดินไปเจอเพชรร้อยล้าน อันนั้นไม่น่าใช่ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 22:37:00 จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:35:23

ความคิดเห็นที่ 16 อาจารย์ผมไม่เคยสอนว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ท่านสอนแต่ว่า ทำดี ผลดีเกิด ทำชั่ว ผลชั่วเกิด ครับ ขอกิ๊ฟด้วย จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:50:58

ความคิดเห็นที่ 17   # 14 ทำให้ผมนึก เรื่องนี้ได้ ปลูกอะไรได้อย่างนั้น แต่ทำไมปลูก ถั่วเขียวได้ถั่วงอก 55+ แต่ เมื่อสุท้าย ของ สุดท้าย ถั่วงอกจะ กลายเป็นต้น ถั่วเขี่ยว และผลิต ถั่วเขียว ตามที่เราตั้งใจ นี่อธิบายได้ถึง ว่า การทำอะไร ดี หรือ ชั่ว ไม่ใช่ จะได้ผลนั้นๆทันทีแบบ แรงทาง ฟิสิกส์ ที่กระทำระหว่างกัน แต่ มันมีตัวแปร คั่นกลาง และ ตัวแปร เหล่านี้ ก็อาจจะมากน้อย ทำให้ได้ผล ของ การกระทำ กลับคืนมา เร็วช้าไม่เหมือนกัน เช่น ปลูก ถั่วเขียวแค่เม็ดเดียว แต่ได้ต้นถั่วเขียวแล้วได้เมล็ดถั่วเขียวเพิ่มขึ้นมากมาย หรือ หากปลูกถั่เขียวแล้ว มีเหตให้ถั่วงอก หรือต้นถั่วเขียว ล้มตาย หรือ โตไม่เต็มที่ก็อาจไม่ได้ ถั่วเขียวคืนเลยหรือได้คืนน้อย นั่นเอง แต่สุดท้าย กฏแห่ง กรรม ก็จะเป็นจริง ไม่ช้าก็เร็ว ทำดี แม้ไม่มีใคร รู้แต่เรา รู้...จงภูมิใจที่ได้ทำดี จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 22:55:14

ความคิดเห็นที่ 18 ว่าตามสถิติหรือตรรกกะล่ะ ถ้าสถิติผมว่าจริง ถ้าตรรกกะผมว่าไม่จริง เพราะหากมีคนทำดีได้ชั่วหรือทำชั่วได้ดีซัก 1 กรณี คำกล่าวนั้นก็เป็นเท็จแล้ว มองตามสถิติดีกว่า ใช้ตรรกะมากบางทีโลกก็ไม่น่าอยู่ :P จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:17:29

ความคิดเห็นที่ 19   ให้เงินขอทาน 5 บาทอาจจะได้เพชร 100 ล้านได้คับ... ถึงแม้ว่ากฏแห่งกรรมจะเป็นกฏเหล็กที่ไม่อาจจะสั่นคลอนได้ของจักรวาลถึงขนาดที่ว่าปัญหา "ไม่ทำบุญแต่ได้บุญ" นี้เป็นปัญหาที่ยากที่สุดจักรวาลเลยทีเดียว แต่กฏแห่งกรรมนี้ก็กำหนดไว้เพียงแค่ว่าจะต้องทำบุญถึงจะได้บุญเท่านั้น ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำมากทำน้อยแต่อย่างใดเลย ถ้ามีบุญพอที่จะได้รับผลบุญใดๆก็จะได้รับผลบุญนั้นๆไปทันทีโดยที่ขั้นตอนวิธีการที่ได้บุญมานั้นไม่ได้นำมาคิด จะทำมากทำน้อยยังไงถ้าได้บุญเท่ากันผลของบุญมันก็จะเป็นอันเดียวกัน ตัวอย่างเรื่องนี้มีอยู่ชัดเจนมากๆ ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องกรรมที่เป็นอนันต์หรืออนันตริยกรรมกันทุกคนแล้วนะคับ ซึ่งกรรมที่ให้ผลเป็นอนันต์นั้นมีอยู่จิง และในทางตรงกันข้ามบุญที่ให้ผลเป็นอนันต์นั้นก็มีอยู่จิงด้วย ซึ่งผมจำไม่ได้ละว่ามีอะไรบ้างแต่จำได้ว่าหนึ่งในนั้นจะมี "ทำบุญกับผู้ที่จะบรรลุโสดาบัน" รู้สึกว่าบุญอันนี้ทำนิดเดียวแต่ให้ผลมหาศาลมากเพราะบุญนี้จะทำให้คุณบรรลุอรหันต์ได้เลย... ส่วนหัวข้อกระทู้นั้นทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วแน่นอนหายห่วง เพราะว่าจักรวาลนี้กำหนดให้ความดีนั้นจะต้องถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างเท่านั้น จะไม่มีความดีใดๆที่สามารถเกิดขึ้นเองได้นอกเหนือจากผู้สร้างอีกแล้ว และเมื่อความดีจะต้องเกิดจากผู้สร้าง บุญก็หมายถึงการประพฤติตามน้ำพระทัยของพระเจ้า และถ้าหากว่าคุณไม่ประพฤติตามน้ำพระทัยของพระเจ้าก็แน่นอนว่าคุณจะต้องไม่ได้ความดีหรือคุณจะต้องได้รับสิ่งไม่ดีเพราะว่าคุณไม่สามารถแสวงหาความดีใดๆในจักรวาลนี้ได้ที่ไหนอีกแล้วนอกจากพระเจ้า ดังนั้นบาปก็จะหมายถึงการไม่ประพฤติตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เพราะฉนั้นถ้าทำความดีก็จะต้องได้บุญแน่นอนเพราะพระเจ้าได้สร้างบุญไว้ให้ผู้ที่ทำความดีอยู่แล้ว และถ้าทำความชั่ว (หรือทรยศต่อพระเจ้า) ก็จะต้องได้บาปแน่นอนเพราะไม่มีบุญที่ไหนในจักรวาลอีกแล้วนอกจากที่ๆคุณได้ทรยศไปแล้ว... -_-" จากคุณ : Catwater เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:21:23 A:222.123.210.116 X: TicketID:258544

ความคิดเห็นที่ 20 ทำดีหวังผลชาติหน้า เสนอหน้าได้ผลชาตินี้ครับ .. !! จากคุณ : ฟ้าสรร สวรรค์สร้าง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:32:25

ความคิดเห็นที่ 21   ไม่จริงครับ ไม่งั้นคนเราคงไม่ต้องสร้างกฏหมายกับคุกขึ้นมา จากคุณ : painful_truth เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:38:40

ความคิดเห็นที่ 22 จริง แน่นอน จากคุณ : lyonheartz เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:39:52

ความคิดเห็นที่ 23 คิดว่า... ทำดีได้ดีในจิตใจอย่างแน่นอน มั่นใจมากๆ ส่วนในรูปธรรมที่เกิดขึ้น ให้เห็นเป็นประจักษ์ทั่วๆไปนั้น ต้องควบคุมปัจจัยที่สำคัญและควบคุมได้ให้ดี ไม่ประมาทด้วย อย่างไรก็ดี หลายกรณีมีปัจจัยที่เหนือการควบคุมอยู่ด้วย ออกแนวคนมาก-เรื่องเยอะ อย่างไรก็ตามไม่พ้นความสามารถของคน ได้ดี สำเร็จแน่...อยู่ที่เวลาเท่านั้น ถ้าทำดี ส่วนทำชั่วได้ชั่วในจิตใจ จะมากสักหน่อยสำหรับคนดี และจะน้อยสำหรับคนที่ไม่ได้ รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีพอในวัยเด็ก ไม่มีความละอายในการเอาเปรียบผู้อื่น ในรูปธรรม หรือที่เห็นๆกัน จะดูเหมือนทำชั่วเช่นเบียดเบียนผู้อื่น อาจฆ่าชิงทรัพย์ จะได้ดีเพราะได้ทรัพย์มาใช้จ่าย ฆ่าคนตายก็ไม่มีความผิด มีผู้คนยกย่องว่าเก่งกาจ ทว่า...โลกได้ตั้งกฎให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ทำชั่วได้ชั่วไว้แล้ว มีผู้คนที่เข้าใจการใช้ กฎนี้มากมายในโลกพยายามทำให้กฎเกณฑ์นี้เป็นจริง เพื่อให้เราอยู่กันอย่างสันติสุข เหมือนเดิม อยู่ที่เวลา นอกจากว่า...เราจะฝืนธรรมชาติกัน ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป เรื่องกฎที่คนเราสร้างขึ้นให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เป็นวิทย์หรือไม่ ไม่แน่ใจว่าคนส่วนใหญ่ คิดอย่างไร โดยส่วนตนเองมองทุกเรื่องเป็นเรื่องเดียวกันเสมอ เห็นเหมือนกันว่าปนๆกันเสมอ เข้ามาดูว่าแอนนี่บุกห้องว่ากอหรือยัง เดาๆว่าคนหว้ากอน่าจะอยากให้ตรวจ dna หรือไง อยากรู้ว่าเด็กวิทย์ คิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องจิตใจ เห็นกระทู้น่าตอบก็เอาซะหน่อย สมองจะได้ทำงาน ไปและ จากคุณ : SS เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:43:39

ความคิดเห็นที่ 24   # 21 คนเก็บของได้แล้วเอาไปคืน ได้เงินค่าคืนได้คำยกย่อง มีบังคับในกฏหมายมั้ยครับ การทำดีไม่ต้องมีบัญญัติในกฏหมาย แต่ กฏหมาย มีบทบัญญัติว่าอะไรคือผิดและต้องได้รับโทษอย่างไร เป็นการควบคุม ไม่ให้สังคม มันเน่า เพราะ มีคน ไม่เชื่อในหลักทำดีได้ดีครับ กฏหมาย ศาล พยาน หลัก ฐาน มีไว้เพื่อ ลงโทษ คนที่ทำผิด จริงๆ ที่ พิสูจน์ได้ แต่ หากเป็น แพะ ก็เพราะการสืบสวน หลักฐานไม่พอหรือหนักพอที่จะเอา โทษ คนผิดจริงๆได้ ครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 23:53:51 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 23:47:01

ความคิดเห็นที่ 25 ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น     ชัดเจนอยู่แล้วนิ จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 00:31:51

ความคิดเห็นที่ 26   #24 บางทีเอาไปคืนก็โดนหาว่าเป็นขโมยซะเองก็มีนะครับ ผมถึงบอกว่าไม่จริงไง ถ้ากฏใดๆมันจะเป็นจริงมันต้องเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอนครับ ถ้าคุณปล่อยของลงพื้นบนโลกถ้าไม่มีแรงต้านอากาศมันจะตกลงพื้นด้วยความเร่ง g ทุกครั้ง ดังนั้นไอ้คำว่า ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เนี่ย ยังห่างไกลครับ จากคุณ : painful_truth เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 13:44:44