ความคิดเห็นที่ 1 ข้าวปลอดสารพิษ ลงทุนน้อย ผลผลิตต่ำ กำไรสูง เพราะจำหน่ายได้ในราคาที่แพงกว่า เนื่องจากจับตลาดพรีเมี่ยม ยิ่งข้าวทั่วไปราคาพุ่ง ข้าวอินทรีย์ของ 'บ้านนาวิลิต' ก็ยิ่งขายดี เพราะราคาใกล้เคียง หรือบางทีขายในราคาต่ำกว่าข้าวขาวธรรมดา คนหันมาซื้อหาเพราะกลายเป็นข้าวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและดีต่อสิ่งแวดล้อม แถมราคาไม่แพง (โดยเปรียบเทียบ) วิลิต ชี้ว่าคำตอบอยู่ที่ 'พันธุ์ข้าว' เพราะข้าวที่เขาปลูกคือข้าวพันธุ์พื้นเมือง ที่ชาวนาในอดีตปลูกและพัฒนาพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแต่ละพื้นที่ "ตัวที่หลอกเราคือพันธุ์ข้าว พันธุ์ข้าว กข.ทั้งหมดที่กรมการข้าวนำมา มันมาพร้อมกับการต้องใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง เป้าหมายเพื่อให้ได้ผลผลิตสูง จากที่เคยได้ 60-70 ถัง พอใช้ปุ๋ยใช้ยา อาจได้ถึง 100-120 ถัง ดูน่าตื่นเต้น" แต่สิ่งที่ตามมาคือต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ เพราะพื้นดินที่เสื่อมทรามลง กับโรคแมลงต่างๆ ที่พัฒนาตัวสู้กับยา ยิ่งทำให้เกษตรกรต้องหาซื้อปุ๋ยและยาฆ่าแมลงมาใช้ในไร่นาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนชาวนาพากันจมกองหนี้ จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 20:40:14

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบมาก จากคุณ : plan two เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 20:55:59

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นผมก็ไม่บอกใครหรอกว่าผมขาดทุน จากคุณ : aiwonsi เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 20:57:30

ความคิดเห็นที่ 4 ผมบอกมาสามกระทู้เเล้วว่าให้ลูกชาวนาไปเรียนให้จบตรี เดี๋ยวเค้าเรียนจบ เค้าหาทางของเค้าเองได้ครับ จากคุณ : iamsohungry99 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:01:20

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนเปิดโออิชิวันแรก ผมซ่อมก๊อกน้ำอยู่ในห้องน้ำ จะเห็นว่า 2-3 ปีแรกผมไม่เคยออกข่าว เป็นคนที่ดูแลงานเบื้องหลังมากกว่า คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เขาเล่าให้ฟังว่า เจอผมครั้งแรกเห็นผมใส่ขาสั้นเช็ดโต๊ะอยู่ในร้าน ตอนนี้ไม่มี เวลาไปทำแล้ว ถึงไปทำก็ไม่มีประโยชน์เพราะมีคนทำอยู่แล้ว แต่ผมต้องพร้อมที่จะทำได้ เราบอกว่าห้องน้ำเหม็นใช่ไหม เราชี้ให้คนอื่นทำ ถ้าเรายังรู้สึกรังเกียจ เราจะไปเรียกให้คนอื่นทำไม่ได้หรอก ถ้าเรากล้าที่จะล้างห้องน้ำ ไม่มีใครไม่กล้าไม่ทำหรอก สมัยก่อนผมจะทำบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องทำ แต่ผมพร้อมจะทำ ผมทำให้ได้ จากคุณ : โลกร้อน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:10:35 A:58.8.36.52 X: TicketID:216158

ความคิดเห็นที่ 7 ทุกชีวิต ล้วนมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี ทุกอาชีพ ล้วนน่าชื่นชม สังเกตุได้เลยว่า บุคคลเหล่านี้ มักจะ .......ไม่เรียกร้องเพื่อตนเอง................ไม่เห็นแก่ตัว.......ไม่สร้า้งม๊อบ.... มักจะ........ให้แก่สังคม.....................ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี......ขยันทำงาน.... คุณตันผ่านการทำงานมาหลายอย่าง การที่ไม่มีความรู้ทำให้ผมต้องทำทุกอย่าง ช่วงแรก ๆ ผมใช้แรงงานเป็นหลัก เป็นพนักงานแบกของ ส่งของ ผมไม่ได้ทำเพื่อเงินอย่างเดียว ทำเพราะถือว่าทำมากได้ประสบการณ์มาก ผม เริ่มต้นการทำงานด้วยเงินเดือน 700 บาท ทำงานส่งของ แบกของมาเรื่อย ๆ จนมีโอกาสได้เป็นพนักงานขาย... พอผมออกจากการเป็นพนักงาน ธุรกิจแรกที่ผมเริ่มเอง คือแผงขายหนังสือพิมพ์ ช่วงแรก ๆ เหนื่อย เพราะเราแลกด้วยเหงื่อ เราไม่มีทุน พอออกมาเปิดแผงขายหนังสือ ผมนำเงินไปซื้อหนังสือรอบแรก หมดตัวตั้งแต่ 5 หมื่นแรกเลย เพราะฝนตกหนังสือเปียกน้ำทั้งหมด เจ๊งตั้งแต่วันที่ยังไม่เปิดร้าน แต่ผมไม่ยอมแพ้ เอาใหม่ ผมอยู่ได้ด้วยการทำงานมากกว่าคนอื่น ร้านขายหนังสือซ้ายขวาขายหนังสือน้อยกว่าผมเยอะ เขาขาย 8 ชั่วโมง ผมขาย 18 ชั่วโมง เขาตื่น 7 โมงเช้า แต่ตี 5 ผมตื่นมาขายแล้ว คุณปิด 2 ทุ่ม ผมปิดตี 2 ปิดแค่ 3 ชั่วโมง ลูกค้ามาผมก็ขาย ลูกค้าไม่มาผมเดินไปหาลูกค้า...หนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จผมต้องทำงาน ให้มากกว่าคนอื่น เพราะความสำเร็จไม่ได้หล่นลงมาจากฟ้าแล้วเราออกไปเก็บได้ จากคุณ : โลกร้อน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:15:19 A:58.8.36.52 X: TicketID:216158

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบ 6 กับ 7 จัง จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:17:25

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะทำมากกว่าคนอื่น ทำให้เป็นเจ้าของธุรกิจได้เร็ว ผมเขยิบมาเปิดร้าน กิ๊ฟช็อป ร้านกาแฟ ร้านอาหาร แล้วก็มาทำธุรกิจเรียลเอสเตท...กำลังจะมีเงิน 100-200 ล้านบาท พอรัฐบาลประกาศค่าเงินบาทลอยตัว กลายเป็นผมมีหนี้ร้อยกว่าล้าน ตายตอนปี 2539 แต่ผมพยายามแก้ปัญหา ผมมีทั้งหนี้ธนาคารและหนี้นอกระบบ ค่อย ๆ แก้วิกฤต เจรจาประนอมหนี้ ค่อย ๆ ใช้หนี้ไป ผมเริ่มต้นใหม่ ผมว่าทุก ๆ ช่วงของชีวิตเหมือนฟ้าทดสอบเรา หรือถ้าพูดอีกแบบชีวิตมันมีวิกฤตอยู่ ว่าแต่จะเจอตอนไหน แล้วคุณจะยอมแพ้หรือเปล่า ...................................... ไม่ว่าจะทำ....เกษตร หรือ...ทำธุรกิจ เมื่อตั้งใจจริง.....ซื่อสัตย์.....ย่อมน่าชื่นชม จากคุณ : โลกร้อน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:18:23 A:58.8.36.52 X: TicketID:216158

ความคิดเห็นที่ 10 ฟังดูดี แต่อุดมคติมาก เหมือนไม่ใช่สังคมที่อยู่กันทุกวันเลย วาสนาคนเรามันแข่งกันไม่ได้จริงๆ จากคุณ : Sci-six เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:22:45

ความคิดเห็นที่ 11 จะทำอะไรขอให้มีความสุขกับชีวิตก็พอ ทำอย่างเขาไม่ได้ ก็ให้ทำอย่างที่เราทำได้ ไม่ใช่ทำอย่างเขาไม่ได้ แ้ล้วไปดูแคลนเคียดแค้นตำหนิเขา เพราะอิจฉา ทั้งที่ใจเราอยากจะเป็นบ้าง : ) จากคุณ : SuicideJumper เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:41:00

ความคิดเห็นที่ 12 ลูกคนรวยทำอะไรก็ไม่ต้องเสี่ยงไงครับ คือมันจะมีความรู้สึกอยู่ลึกๆว่า ถึงจะเจ๊งก็ไม่อดตาย เลยกล้าที่จะลุย กล้าที่จะเสี่ยงลงทุนในแบบที่คนธรรมดาทั่วไปไม่มีวันทำได้ (เพราะไม่มีเงินทุนสนับสนุนมากแบบนั้น) ส่วนตลาดข้าวพรีเมียม ถ้าไม่มีสายป่านยาวๆ ไม่มีเงินทุนไปโปรโมท ก็ยากที่คนทั่วไปจะมีช่องทางจัดจำหน่ายได้นะครับ ลองถามตัวคุณเองว่า ทุกวันนี้คุณซื้อข้าวเกรดอะไรกิน และเคยเห็นข้าวเกรดพรีเมียมขายที่ไหนบ้าง? #4 เพื่อนผมลูกชาวนาหลายคน เรียนจบป.ตรีกัน มีวิศวะก็ไม่น้อย(แต่เป็นส่วนน้อยในหมู่ลูกชาวนาที่มีโอกาสได้เรียนถึงขั้นนี้นะ เพราะประมาณครึ่งนึงไม่ได้เรียนต่อม.ปลายด้วยซ้ำ) แต่ไม่มีคนไหนคิดกลับไปทำนาเลยครับ สิ่งหนึ่งที่เขาพูดมา ก็คือเขาลำบากตั้งแต่เกิดยันโต ทนเห็นพ่อแม่และน้องๆลำบากแสนสาหัสหาเงินส่งเขาเรียนมามากแล้ว เงินทุนก็ไม่ได้มีล้นเหลือ กู้bankก็ไม่ได้เพราะไม่มีเครดิต ที่ดินก็ไม่ได้มีมากมาย(ชาวนาทั่วไปที่ระดับส่งลูกเรียนจบป.ตรีได้ ก็มีที่นาเฉลี่ยที่แถวๆสิบไร่ ส่วนคนที่รับจ้างหรือเช่าที่นาคนอื่น มีโอกาส่งลูกเรียนจบน้อยมาก)เลยหางานที่มั่นคง รายได้พอประมาณ เลี้ยงพ่อแม่ดีกว่าไปเสี่ยง ทำนาโดยที่ไม่มีทุนครับ แม้จะมีความรู้เยอะ แต่ไม่มีทุนก็จบเช่นกัน เป็นคุณจะเสี่ยงไหมเมื่อเทียบกับรายได้มั่นคงแน่นอนด้วยการเป็นพนักงานบ.ธรรมดา? เราจึงเห็นแต่ข่าว ชาวนาลูกlandlordมีที่ดิน 50-60ไร่ขึ้นไป หรืออดีตคนรายได้สูงๆ หันไปทำนาทำไร่แล้วประสบความสำเร็จ มาลงข่าวกัน มีน้อยที่เริ่มจากศูนย์จริงๆครับ ทางออกอยู่ที่ผมเีคยบอกไปหลายกระทู้เช่นกัน รัฐต้องลงมือช่วยเหลือโดยตรง ทั้งทางเทคโนโลยีและองค์ความรู้ แบบเกษตรอำเภอในประเทศที่เจริญแล้วครับ ไม่ใช่เอานิยายขายฝันชนชั้นกลางมาเป็นโมเดล แล้วก็บอกว่า นี่ไง เขายังทำสำเร็จได้เลย โดยที่ไม่เคยออกไปดู condition จริงๆว่าชาวนาส่วนใหญ่ในประเทศนั้นมีโอกาสที่จะำทำได้หรือเปล่า? แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 53 21:50:56 จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 21:47:15

ความคิดเห็นที่ 13 ... ชื่นชมในด้านความตั้งใจครับ ... จากคุณ : First In, Last Out เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:29:33

ความคิดเห็นที่ 14 เจอหัวข้อแบบนี้ไม่แจมได้ใง          ผมฟันธงเลย ชาวนาแบบเดิมๆที่มีนาเป็นของตัวเอง สิบยี่สิบไร่จะหมดไปจากประเทศไทยในอีกไม่เกินร้อยปี ชาวนาแถวบ้านผมเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบ ทุกวันนี้หากินไปว้นๆ เมื่่อต้องการใช้เงินก้อนใหญ่เช่นแต่งงานลูก หรือมีคดี หรือปลูกบ้านก็ใช้วิธีขายที่ จะได้เงินก้อน พร้อมกับปลดหนี้สะสมที่ขาดทุนจากการทำนาให้คนกินเป็นเวลาสิบยี่สิบปี จากนั้นก็รับจ้างเขากิน อย่างพ่อแม่ผม เหล้าไม่กินประพฤติตัวเป็นคนดีและไม่เอาเปรียบใคร แต่พอผมเรียนจบมาปรากฎว่าโฉนดทุกใบไปอยู่กับคนจีนในตัวอำเภอหมด ดอกเบี้ยก็ไม่เคยส่ง นี่ขนาดตอนเรียนผมได้ทุนเรียนตั้งแต่มัฐยมจนถึงมหาลัยนะเนี่ย ผมต้องทำงานเก็บเงินนานกว่าจะไถ่โฉนดมาได้หมด โชคดีที่ผมได้งานราชการที่ดี แต่กับครอบครัวอื่นไม่โชคดีอย่างผม สำหรับพวกเขาการหลุดจากสภาวะนั้นมีไม่กี่ทางที่เป็นไปได้ ได้แก่ ให้ลูกชายไปขายแรงงานเมืองนอก หรือให้ลูกสาวหาสามีฝรั่ง และหรือการแทงหวย ทุกวันนี้เวลาผมผ่านโกดังเก็บข้าวของพ่อค้าข้าว ผมจะนึกเสมอว่าทำไมหนอคนที่เขาล่องเรือข้ามน้ำข้ามทะเลมาแบบเสื่อผืนหมอนใบ เขาถึงได้ร่ำรวยตั้งตัวใด้ภายในแค่หนี่งชั่วอายุคน แต่เราชาวพื้นเมืองมีแต่สาละวันเตี้ยลง และผมก็สรุปว่ามาจากสมองและการสั่งสอนที่แตกต่างกันนั่นเอง สักวันเราจะเป็นเหมือนหมูกระโดนที่รอวันแต่จะสูญพันธุ์ เนื่องจากลักษณะไม่เหมาะกับโลกที่เน้นการค้าขาย จากคุณ : precham เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:37:20

ความคิดเห็นที่ 15 ผมนี่แหละลูกชาวนา.............แต่ตอนนี้ไม่มีนาให้ทำ  เลยมารับราชการแทน จากคุณ : HEAVEN_NIN18 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 53 22:38:38

ความคิดเห็นที่ 16 คห3 คิดคนละอย่างกับผมเลยครับ เป็นผม ผมจะไม่บอกใครๆหรอกว่าผมกำไร ไหนจะภาษี ไหนจะเวลาเอาของไปขาย ขืนบอกว่าผมกำไรๆๆ ผมรวย ใครที่ไหนมันจะซื้อของผม เห็นคนค้าขายไหนๆ ถ้าไม่ใช่กับลูกกับหลาน เค้าก็พูดแต่ว่า "ไม่ได้กำไรเลยๆๆๆๆ"กันทุกคน จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 02:29:22

ความคิดเห็นที่ 17 ทางออกอยู่ที่ผมเีคยบอกไปหลายกระทู้เช่นกัน รัฐต้องลงมือช่วยเหลือโดยตรง ทั้งทางเทคโนโลยีและองค์ความรู้ แบบเกษตรอำเภอในประเทศที่เจริญแล้วครับ ไม่ใช่เอานิยายขายฝันชนชั้นกลางมาเป็นโมเดล แล้วก็บอกว่า นี่ไง เขายังทำสำเร็จได้เลย โดยที่ไม่เคยออกไปดู condition จริงๆว่าชาวนาส่วนใหญ่ในประเทศนั้นมีโอกาสที่จะำทำได้หรือเปล่า?...#12 ู^ กรณีกท. ให้คิดซะว่า  เป็นแนวทางเลือกหนึ่ง กรณีที่ไปมองแทนเกษตรกรส่วนใหญ่  แล้่วเห็นทางออกแบบระเบิดนาปาล์มหรือเกษตรเชิงเดี่ยว หรือไล่ตามกระแสโลก  อันนั้นก็ว่ากันไป ขอรับ    การบริหารจัดการทรัพยากรทางสังคมดีขึ้นเมื่อไร ก็ถือว่าโชคดีไป คำตอบของจิตสำนึกเกษตรกรยุคสมัย  น่าจะเป็นที่  พร้อมพึ่งตนเองขณะเปิดใจรับการช่วยเหลือ..อยู่แล้ว(มั้ง) จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 53 07:13:16

ความคิดเห็นที่ 18 คนค้าขายไม่ได้สอนให้ลูกโกหกว่า "ไม่ได้กำไรเลย" หรอกนะคะ (อย่างน้อยก็บ้านเราแหละ) เวลาเราขายของแล้วลูกค้าต่อ อะไรลดให้ได้เราก็ลดให้ แต่บางคนต่อซะต่ำกว่าทุนเนี่ย เราก็กวนกลับเหมือนกัน บ้านเราขายเสื้อผ้า มักเจอลูกค้าพูดใส่ว่า "ขายแพงจัง ไปซื้อที่สำเพ็งถูกกว่านี้อีก" เวลาไปซื้อสำเพ็งราคาปลีกก็เท่าเราขายนั่นแหละ ต้องซื้อเป็นโหล (แบบเดียวกัน) ถึงจะได้ราคาส่ง ของบางชิ้นต้นทุนมา 80 เราขาย 99 บาท เจอลูกค้างี่เง่าต่อเหลือ 70 เอง เราเลยบอกว่า.. ถ้าพี่ซื้อราคานี้ได้จริง ฝากซื้อด้วย 200 ชิ้น พี่จะไปวันไหนก็บอกละกัน จะได้กดเงินมารอ ของดีราคาถูก มันไม่มีในโลกหรอกนะ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 00:20:37

ความคิดเห็นที่ 19 มีฟูกรองอยู่ข้างหลัง เป็นผมอาจจะลุยได้ยิ่งๆ กว่านี้อีก (แต่อาจไม่ประสบความสำเร็จหรอกนะ) จากคุณ : สันป่าตอง เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 12:37:27

ความคิดเห็นที่ 20 แต่อย่างน้อยเขาก็ลงมือทำจริงนะครับ จากคุณ : ปู (ปูม้า_16) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 03:33:23