ความคิดเห็นที่ 1 ลองถามที่ Dr. เขาเอามาบอกสิครับว่าเอาข้อมูลมากจากไหน เท่าที่ีผมทราบไม่มี จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 02:57:32

ความคิดเห็นที่ 2 การออกมาเตือนผู้คนเป็นสิ่งที่ดี แต่การออกมาเตือนโดยไร้ข้อมูลหลักฐานแนวความคิดวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือปราศจากข้อ- เท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากหมอดูหมอเดาที่อ้างฟ้าดินดวงดาวทำนายทายทักไปเรื่อยเปื่อย การทายถูก ครั้งเดียวแต่ทายผิดนับร้อยครั้งจะมาอ้างว่าตัวเองน่าเชื่อถือไม่ได้ หลายครั้งแล้วกับคนๆ นี้ที่ออกมาเตือนซึ่งนับวันยิ่งจะเข้า ใจเจตนาที่ออกมายากขึ้นทุกทีว่าต้องการอะไร หากท่านรู้ ท่านคากการณื ท่านทำนายสิ่งใดได้ ให้นำออกมาตีแผ่เผยแพร่ เลยขี้คร้านจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมแวดวงวิทยาศาสตร์และอาจจะถึงขั้นเป็นประโยชน์ต่อสังคมโลกอีกด้วย ทำไมต้องถึงจะ อมพะนำกำความลับในการทำนายเอาไว้ หรือว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เลยนั่งเทียนเขียนมั่วไป อย่างนั้นเอง จากคุณ : axquest เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 03:04:31

ความคิดเห็นที่ 3 ปัญหารถติด ส่วนใหญ่ ต้นตอมาจาก ความเจริญไม่กระจาย คนเยอะ พื้นที่น้อย ยังไงก็แก้ไขได้ยาก จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 03:06:51

ความคิดเห็นที่ 4 ปัจจุบันผมฟังท่าน ในฐานะหมอดูคนหนึ่งครับ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 03:26:41

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นซิครับ เคยคิดจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน เห็นสื่อประโคมข่าวราวกับว่าจะต้องเกิดขึ้นจริง จากคุณ : Mr. k เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 03:54:53 A:58.11.38.179 X: TicketID:115608

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าไม่อ้างหลักฐานวิทยาศาสตร์อันน่าเชื่อถือ ก็เป็นได้แค่หมอดูเท่านั้นแหละครับ ส่วนจะออกมาพูดเพราะหวังดี หรือหวังดัง ก็พิจารณาเอาเอง นักวิทยาศาสตร์ไม่จำเป็นต้องทายถูกทุกครั้ง ที่จริงไม่จำเป็นต้องทายถูกเลยก็ได้ แต่ต้องอธิบายได้ว่ามันถูก หรือผิดเพราะอะไร ส่วนหมอดูอาศัยทายเยอะๆ เข้าไว้ ถูกแค่ครั้งเดียวก็ดังแล้ว เพราะคนจะไม่จำส่วนที่ทายผิด หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต้องใช้ บอกแค่ว่าเป็นความลับสวรรค์ เอ๊ย ความลับของนาซ่า นี่ผมอุตส่าห์เอามาเปิดเผยนี่หวังดีนะเนี่ย ถ้าทายผิดก็เงียบๆ ไว้ เดี๋ยวคนก็ลืมไปเอง ถ้ามันฟลุ๊กถูกก็ให้สัมภาษณ์ประโคมข่าวไปเยอะๆ ไตร่ตรองเอาตามหลักการครับ ว่าคนพูดเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือหมอดู จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 04:11:18

ความคิดเห็นที่ 7 ความน่าจะเป็น โอกาสที่จะเกิดขึ้น ตามข้อมูลที่ได้รับมา อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ วิเคราะห์ตามข้อมูล ถ้าป้องกันไว้แล้วก็ไม่เกิด จากคุณ : โฟมน่ารัก เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 07:22:03

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ความลับสวรรค์กับความลับของนาซ่า สลับที่กันรึเปล่า ^_^ คำทำนายแผ่นดินไหว 8-9 ริกเตอร์ ที่มีคนบอกว่าจะเกิดวันที่ 7 ตุลาคม ผมไม่ลืมนะ จากคุณ : แมวสีหมอก เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 07:25:21

ความคิดเห็นที่ 9 ทะยอยสร้างกระแสไม่ให้คนลืม รับรองได้ว่า หากต่อไปเกิดเหตุเภทภัยอะไรสักอย่างปั๊บ พี่แกจะออกมาตีปี๊บขนานใหญ่ เห็นมั้ย..ผมบอกแล้ว จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 07:55:40

ความคิดเห็นที่ 10 กรุงเทพฯก็เพิ่งจะเป็นพื้นที่พ้นผิวน้ำมาไม่นาน โอกาสที่จะจมน้ำในบางฤดูกาล คงมีความเป็นไปได้สูง ท่านก็ทำนายตามข้อมูลและความน่าจะเป็น เราก็เอามาเป็นหลักในการก่อสร้าง ยกสูง ป้องกันน้ำท่วมไว้ ก็เป็นเรื่องดี จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 08:13:56

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นตอนนั้นบอกสตอร์มเซิรสไม่เห็นมีอะไร อาผมทำงานอยู่โรงเรียนอยู่ใกล้ๆทะเลแถวบางขุนเทียน สมุทรปราการก่อนปิดเทอมระดมพลเก็บหนังสือทุกอย่างขึ้นไว้ชั้น3 ผมยังขำไม่หาย จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 08:20:46

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ย้ายไปเกิดที่ โคราชแทน ;P จากคุณ : rbko เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 09:11:01

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท โปรดบอกด้วยว่า ดร. ไหน ... อย่ากล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้สับสนกันว่า ดร. คนไหนควรฟังหูซ้ายทะลุหูขวา หรือ ดร. คนไหนควรฟังหูไว้หู หรือ ดร. คนไหนควรจะฟังหูผึ่ง จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 10:42:25

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ เอาตัวย่อก็พอได้ใช่ไหมครับ(กำลังอินเทรนด์) ตัวเต็มเกรงจะไม่ดี ^ ^" จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 10:50:49

ความคิดเห็นที่ 15 หมอดูวิทยาศาสตร์เยอะแยะไปครับ อาจถูก หรือไม่ถูกก็ได้ เพราะก็อาศัยจากการดูทิศทางลม อุณหภูมิ ทิศทางกระแสน้ำในมหาสมุทร และข้อมูลอื่นๆ มากมาย แล้วนำมาเทียบกับบันทึกในอดีต จับมาขยำๆๆ  รวมๆ กัน ออกมาเป็นคำทำนาย แล้วที่ออกมาบอกปาวๆ ว่าไม่เชื่อน่ะ มีหลักฐานอะไรครับ ? เอามาโชวหน่อยซิ แล้วคนที่เชื่อน่ะ เอาหลักฐานมาดูหน่อย ว่าทำไมจึงเชื่อ มีหลักฐานอะไร เอามาโชว์หน่อย ออกมาเกรียนโดยไม่มีหลักฐาน แถวนี้เขาไม่เรียกว่าเป็นวิทยาศาสตร์ !!!! จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 11:10:51

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าจมนะ แต่อีกหลายร้อยหรือพันปี หรือมากกว่านั้น จากคุณ : 000 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 11:12:18 A:124.120.99.102 X: TicketID:129362

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าท่วมก็ดีครับ จะได้เห็น นักการเมือง นั่งเรือ เข้าสภา ปล.จริงๆไม่มีใครยอมให้ท่วมหรอกครับ ลำบากครับ เพราะถ้าท่วม อัมพาตหนักแน่นอน ครับ   ตามตรรกะ เค้าจะยอมให้จังหวัดอื่นรับน้ำไปแทน เพื่อป้องกันเมืองหลวงซึ่ง เป็นศูนย์กลางการาบริหารทั้งหมด เพราะว่า ถ้า เกิดเมืองหลวงเป็นอัมพาต ราชการส่วนกลางทั้งหมดจะมีปัญหาครับ ปล2.แต่คิดอีกทาง (คิดแบบสั้นๆโง่ๆ) ดีนะ ไม่มีตำรวจตั้งด่าน เพราะให้ใบสั่งไมไ่ด้ ขับรถไม่ได้ ได้แต่ขับเรือ (พาย) ฮ่ะๆๆ จากคุณ : darkness2 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 11:34:25

ความคิดเห็นที่ 18 เพราะมันไม่มีหลักฐานยังไงครับเลยไม่เชื่อ เรื่องง่ายๆยังไม่อย่าทำให้เข้าใจยากสิ ถ้ามันมีหลักฐานก็เชื่อไปแล้วสิ เหมือนเรื่องแผ่นดินไหวที่เกิดจากดาวเรียงตัว Solar Flare อะไรนั่นอ่ะ ถ้ามีหลักฐานผมก็เชื่อไปแล้ว แต่มันไม่มีนี่สิ เรื่องน้ำท่วมกทม(แบบฉับพลัน)แล้ว กทม จมน้ำเลย เึคยมีหลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์ไหม ไม่ต้องเอาของประเทศไทย เอาของโลกเลยก็ได้ ข้อมูลอันเดียวที่ผมนึกออกเกี่ยวกับน้ำท่วมแผ่นดินผืนใหญ่ๆในเวลาไม่ถึง 2 ปีก็คือน้ำท่วมโลก อ้าว ไม่ใช่หลักฐานทางประวัติศาสตร์เรอะ แถมยังไม่ได้จมน้ำอีกแค่น้ำท่วม นึกออกอีกอันเป็นของไทยเราเองมีตำนานเมืองโยนก บันทึกว่าจมลงไปกับทะเลสาปเนื่องจากแผ่นดินไหว ถ้าแค่น้ำท่วม กทม มันก็เป็นปกติอยู่แล้ว ท่วมกันมาหลายสิบปีแล้ว จะท่วมมากท่วมน้อยเท่านั้นเอง ก็ กทม มันเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำนี่นา จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 11:48:01

ความคิดเห็นที่ 19 หากน้ำทะเลเซาะฝั่งให้ดินทรุดไปเรื่อยๆ และตลอดทางจากจีนลงไทย มีแต่ดินทรุด ประกอบกับพื้นที่จีนสูงกว่าไทย เหมือนถนนที่เส้นไหน พื้นที่ต่ำ ก็มีโอกาสน้ำท่วมขัง เพราะน้ำย่อมไหลจากที่สูงลงต่ำ ความแรงของการการลงของน้ำจากที่สูงลงต่ำไม่สอดคล้องกับความเร็วของการระบายน้ำ และพยายามไม่ให้ท่วมกรุงเทพแบบนี้ อืม...ผมว่าน้ำท่วมนะ จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 12:35:55

ความคิดเห็นที่ 20 มันต้องกำหนด Scale ว่าท่วมแค่ไหน และช่วง ระยะเวลา ที่จะเกิดด้วย ครับ ว่า ภายในอีกนานแค่ไหน ถ้าเอาแบบท่วมกทม.จมใต้น้ำอย่างที่ กลัวกันว่าต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ภายในช่วงชีวิต DR ผมว่า ไม่เกิด อ่ะ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 12:56:08

ความคิดเห็นที่ 21 http://km.dmcr.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=108:2009-04-30-07-49-26&catid=96:2009-02-16-08-38-41&Itemid=28 จากคุณ : โรม ฤทธิไกร เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 15:03:35 A:115.87.235.75 X: TicketID:251871

ความคิดเห็นที่ 23 ลองบริหารความเสี่ยงกันดูนะครับ อาจให้น้ำหนักซัก 5:95 แบบขำ ๆ ถ้า 5 ส่วนนั้นเกิดเป็นจริงขึ้นมา ถ้า 5 ส่วนนั้นเป็นความลับสวรรค์จริง ๆ ถ้า 5 ส่วนนั้นนาซ่าปกปิดไว้ไม่ยอมบอก เราจะบริหารเหตุการณ์ที่มีโอกาสเพียง 5 ส่วนใน 100 ส่วนได้ยังไงครับ ป.ล. ล่าสุดได้ยินแว่ว ๆ มาว่าอีกไม่เกิน 3 ปีครับ ส่วนสาเหตุและหลักฐานทางวิทย์ฯ.....ไม่ทราบครับ จากคุณ : SausageBunn เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 15:13:45

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท ต้องระวังในการตั้งกระทู้หน่อยครับ อย่าทำให้สับสน ถ้าตั้งอย่างที่เขียนตอนแรก (แบบไม่ได้ให้ข้อมูลชื่อคน และจำนวนปีที่คาดว่าน้ำจะท่วม) คนที่โต๊ะนี้จะคิดถึงพวกลวงโลก พยากรณ์เดาๆ หรือไปปนกับเรื่อง 2012 พิบัติภัย ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่ถ้าเป็นเรื่องอีก 50-100 ปีข้างหน้า นั่นก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นไปได้ ขออ้างความเห็นของ ดร.อานนท์ ผู้เชี่ยวชาญของทางจุฬาฯ ครับ -------------------------------------------------------------------- ขณะที่ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์ วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า โดยปกติทุกปีและในอดีตน้ำก็ท่วมพื้นที่ กทม.บางส่วนอยู่แล้ว หากจะกล่าวถึงน้ำท่วม กทม.แบบถาวรทั้ง 365 วัน คาดว่าคงไม่ใช่ใน 8-10 ปีข้างหน้านี้ แต่คาดว่าน่าจะอีก 50-80 ปีข้างหน้า อาจเกิดน้ำท่วมพื้นที่ กทม. บางส่วนอย่างถาวร โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดกับชายทะเล จึงควรมีแผนในการป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวและน้ำท่วมถาวรได้แล้ว ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่า การสร้างเขื่อนสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นทางออกหนึ่งที่พยายามต่อสู้ แต่ไม่ใช่ตัวเลือกเพียงข้อเดียว ควรใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน อย่างการวางแผนหนีหรืออพยพเมืองหลวงไปอยู่ที่อื่น ซึ่งพื้นที่ กทม.อาจใช้เป็นที่ตั้งบ้านเรือนได้ แต่ไม่ควรจะเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ อาจย้ายเมืองหลวงไปอยู่พิษณุโลกหรือลพบุรีก็แล้วแต่ ควรเริ่มต้นวางแผนกันแต่เนิ่นๆ เพราะเราไม่สามารถย้ายเมืองหลวงได้อย่างรวดเร็วเหมือนประเทศพม่า และอยากให้ดูตัวอย่างความล่าช้าในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ "เราเหลือเวลาอีก 50 ปี ซึ่งไม่ได้ยาวนานมากนัก ในการเตรียมรับมือป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ต้องมีการปรับตัวเปลี่ยนถนนหรือเส้นทางที่น้ำท่วมทุกปีเป็นเส้นทางเรือ หรือให้ช่วงที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปีเป็นช่วงวันหยุดประจำปี ซึ่งการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม กทม.ต้องร่วมกันคิดทุกๆ หน่วยงาน และไม่ควรเป็นการตัดสินใจของใครเพียงคนใดคนหนึ่ง แต่การเป็นการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วม" ดร.อานนท์ กล่าวทิ้งท้าย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 19:44:55

ความคิดเห็นที่ 25 รุ่นลูกผมพอดีเลย แบบนี้ไม่มีลูกดีกว่า อนาคตลูกลำบาก จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 22:41:11