ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมต้องทำให้ กระสุนสั้นลงล่ะครับ ขอเหตุผลหน่อย จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 09:39:13

ความคิดเห็นที่ 2 จะได้ดูเท่ๆ เหมือนในหนังมั้ง ในหนังมันทำให้รู้ว่าใครเป็นฝ่ายยิง ใครเป็นฝ่ายถูกยิงมั้ง จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 09:42:32

ความคิดเห็นที่ 3 # 1 ยาวๆ มัน ผลกระทบเยอะ กระมังครับ เพราะ ต้องการปล่อยไป เหมือนกระสุน มากกว่า ดาบ ลำแสง ยาวๆ สั้นๆ เสียพลังงานน้อยกว่า ยิงได้จำนวนมากขึ้น เครื่องจะได้ขนาดเล็กลง พกพาได้ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:07:57

ความคิดเห็นที่ 4 http://en.wikipedia.org/wiki/Raygun อ่านเอาเองละกันนะครับ จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:09:56

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเป็นกระสุนเลเซอร์จริงๆ เราก็คงมองไม่ทันล่ะครับ ว่า ลำแสงมันสั้นหรือยาว จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:10:19

ความคิดเห็นที่ 6 แสงสั้นลง แท้จริงคือคาบเวลาสั้นลง พลังงานก็ลดลง แล้วจะลดไปทำไม จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:14:10

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ามีดาบแบบสตาร์วอร์คงจะเท่ห์ไม่หยอก จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:20:22

ความคิดเห็นที่ 8 # 6 พลังงาน เลเซอร์ ปกติ เป็นลำแสง ยาวต่อเนื่อง เรา แค่ สับ มัน ให้ สั้นลง เพื่อให้มัน เป็นกระสุน ไม่ใช่ ลำแสง ไม่งั้น มันก็กลายเป็น ยิง ลำแสงมากกว่า ยิงกระสุนลำแสงไงครับ แต่ เอา ความ ยาว แค่ 10 ซม ก็ โอเคนะ ผมว่า 1 ซม มัน สั้นไป จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:31:42

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วกระสุนที่ว่า มันดีกว่าลำแสงตรงไหนละ ถ้ากำลังมันเท่ากัน พลังงานรวม กระสุนที่ว่า มันก็น้อยกว่าสำแสงอยู่ดี ถ้าจะตัดให้มันสั้นลงเฉยๆสู้ปรับให้มันอ่อนกำลังลงเท่ากันไปเลยง่ายกว่า กำลัง คือ พลังงานต่อเวลา พลังงาน คือ พลังงานในช่วงคาบเวลา หนึ่งๆ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:39:54

ความคิดเห็นที่ 10 หาก คุณ จะยิง อะไร สักอย่าง การ ปล่อย แสง ยาว ไปต่อเนื่อง หาก เลื่อน มือ ไปแค่ นิด นึง มันจะไปตัดเอาสิ่งอื่นข้างๆด้วย ไง เหตปลที่ต้อง ทำเป้นแบบ กระสนุพลัง เพื่อ ให้ แม่นยำ ต่อเป้ามหาย ครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 10:48:28

ความคิดเห็นที่ 11 ตัดให้สั้นแบบ 0.5 วิได้ แต่เราไม่มีทางเห็นมันวิ่งเป็นลูกๆแน่นอน จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 11:19:39

ความคิดเห็นที่ 12 ปล่อยแบบ pulse กำลังจะน้อยลงมหาศาลเลยครับ... คิดดูสมมติคุณปล่อยเป็น pulse ที่ความถึ่ 300 MHz อย่างที่ว่า จะได้คาบแค่ 3 นาโนวินาทีกว่าๆเองนะครับ... laser มันไม่เหมือน อาวุธปืนทั่วไปนะครับ มันต้องการระยะเวลาช่วงหนึ่ง เพื่อให้เป้าหมายซึมซัมพลังงานได้เต็มที่ ไม่ใช่ว่าโดนนัดเดียวก็เห็นผลเลย... ผมว่าอาวุธ laser ในอนาคตคงมีแน่นอน แต่การใช้งานคงเป็นแบบลำแสงต่อเนื่องครัีบ ไม่ใช่ pulse กระสุนแบบที่เห็นในภาพยนตร์ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 11:34:34

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเป็นดาบแบบเจได ก็คงใช้การรวมแสงให้เข้มข้นด้วยเลนส์ แล้วปล่อย ดับเลเซอร์ให้มีความถี่สูงมากๆสินะ งั้นก็คงต้องใช้หน่วยประมวลผลที่แม่นยำ กับแบตเตอรี่พลังงานสูงๆด้วย จากคุณ : บังเอิญผ่านมา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 11:39:36 A:202.151.6.30 X: TicketID:288702

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ใช่ ปล่อย ที่ความถี่  3 GHz แต่อาจจะเป็น ปล่อย ที่ความถี่  1.5 GHz  เป็นเวลา 1/ 3 G สลับกับหยุด ความถี่  1.5 GHz   เป็นเวลา 1/ 3 G ในโฟโตอิเล็คตริก นับแสงเป็นเม็ดเลย ไม่ใช่หรือ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 11:59:18

ความคิดเห็นที่ 15 # 12 ไม่เชิง เป็นการปล่อย แบบต่อเนื่อง ครับ แค่ จัวหวะ ยิงก็ สร้างลำแสง รอไว้ แล้ว ปล่อย ออกไปด้วย คาบ เวลา สมมุต 30 Mhz ต่อ การยิง 1 นัด จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:00:09

ความคิดเห็นที่ 16 *** ความจริงแล้วถ้าพูดถึงเรื่องดาบลำแสงของเหล่า "อัศวินเจได" นั้น  ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์เราในปัจจุบันการจะสร้างอาวุธที่มีลำแสงเป็นเลเซอร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถครับ  เพียงแต่ปัญหาใหญ่อยู่สามอย่างคือจุดกำเนิดแสง-จุดรับแสง  เทคโนโลยีการฟรีซลำแสง  แหล่งกำเนิดพลังงาน  และเรื่องของความร้อนครับ (จุดกำเนิดแสง-จุดรับแสง)     เป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เรายังแก้ไมไ่ด้ครับและมันจะเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของการ "ฟรีซหรือแช่แข็งลำแสง" ด้วย  กล่าวคือตามปรกติเวลาเรายิงลำแสงเลเซอร์ออกมานั้นลำแสงจะพุ่งออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดใช่มั๊ยครับ  แต่ใน "ลิเกอวกาศสตาร์วอส์" นั้นจะมีการใช้ "เทคโนโลยีฟรีซลำแสง"  กล่าวคือทำให้ลำแสงเมื่อปล่อยออกมาจากต้นกำเนิดแล้วสามารถหยุดอยู่ในระยะความยาวที่ต้องการแลกลายสภาพเป็นใบดาบเลเซอร์ได้       แต่ทว่าในปัจจุบันเรายังไม่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าวได้  จึงทำให้ถ้าคิดจะสร้างดาบไลท์เซเบอร์ขึ้นมาก็จำต้องออกแบบโครงสร้างของอุปกรณ์ในส่วนที่เป็นตัวรับแสงด้วย  นั่นจึงทำให้ลักษณะของตัวดาบที่ทำออกมาจะมีลักษณะคล้ายๆกับ "โดนัท" ดูอุบาทว์มากมายครับ -_-" **โครงสร้างของ "ดาบไลท์เซเบอร์" ในมหากาพย์ลิเกอวกาศครับ ^_^** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:09:35

ความคิดเห็นที่ 17 ^ สมเป็น เจได จริงๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:14:54

ความคิดเห็นที่ 18 (แหล่งกำเนิดพลังงาน)     แน่นอนว่าการจะสร้างลำแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงมากขนาดนั้นได้ก็จำต้องมีอุปกรณ์ให้สามารถกำเนิดพลังงานที่มากพอด้วย  ซึ่งในปัจจุบันอุปกรณ์ที่สามารถสร้างลำแสงเลเซอร์ความร้อนสูงได้  ก็มักจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารจนไม่สามารถย่อส่วนนำมาใช้ทำเป็นดาบขนาดพกพาได้ครับ     แลแม้แต่ในนิยายของสตาร์วอส์ในช่วงEPก็มีการกล่าวกันว่า  ในห้วงแรกที่อัศวินเจไดคิดค้นดาบไลท์เซเบอร์ขึ้นมาได้นั้น  ก็ยังไม่สามารถสร้างอุปกรณ์ให้พลังงานที่มีขนาดเล็กพอครับ  ดังนั้นเจไดในยุคแรกๆจึงจำเป็นต้องพกพาเครื่องสร้างพลังงานที่มีขนาดคล้ายแบตเตอรี่ขนาดเล็กไว้ที่เอว  และต้องจั๊มพ์สายจากเครื่องมายังด้ามดาบทำให้มีความไม่สะดวกเวลาใช้งานเนื่องจากติดขัดเรื่องสายที่ห้อยอยู่ครับ **รูปของไลท์เซเบอร์ในยุคแรกๆจาก "มหากาพย์สตาร์วอส์" ที่ยังต้องพึ่งพาเครื่องสร้างพลังงาน(Power Cell)  โดยดาาบแบบนี้จะถูกเรียกกันว่า "โปรโตไลท์เซเบอร์" ครับ  ส่วนพวก "ซิธ" นั้นในห้วงแรกๆจะไม่นิยมใช้ดาบแบบนี้แต่จะใช้ดาบจริงๆ  ซึ่งถูกตีขึ้นมาจากแร่ธาตุที่สามารถทนทานต่อความร้อนของไลท์เซเบอร์ได้ครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:20:57

ความคิดเห็นที่ 19 (ความร้อน)     ถือเป็นปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งเลยครับเพราะต่อให้สามารถสร้างอุปกรณ์กำเนิดพลังงานขนาดเล็กขึ้นมาได้จริง  แต่ระหว่างที่กลไกทำงานก็ย่อมต้องมีความร้อนแผ่ออกมาจำนวนมาก  ทำให้การจะนำครื่องมือดังกล่าวมาใส่ในด้ามดาบนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  เพราะมือของคนที่จับด้าบดามอาจจะไหม้เกรียมกลายเป็นเนื้อย่างซะก่อน  ดังนั้นปัญหาก็จะมีเพิ่มเข้ามาคือจะใช้วัสดุอะไรที่มีความทนทานและไม่นำพาความร้อนพอที่จะสามารถนำมาทำเป็นด้าบของดาบ  และสมมุติว่าสามารถหาวัสดุเช่นนั้นได้แล้วจะออกแบบเรื่องของระบบการระบายความร้อนเวลาทำงานอย่างไรไม่ให้เป็นปัญหากับผู้ใช้ดาบ     แลนี่ยังรวมถึงความร้อนที่ออกมาจากใบดาบเลเซอร์อีก  เพราะสมมุติว่าเราสามารถแก้ปัญหาต่างๆข้างต้นไปได้จนหมดแล้วแต่เวลาเปิดใช้ดาบเลเซอร์  ความร้อนจากเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นขนาดนั้นย่อมจะแผ่กระจายออกมาในบริเวณโดยรอบแลมีผลกระทบต่อวัตถุใกล้เคียง  ดังนั้นจึงเป็นไปไมไ่ด้เลยที่เราจะสามารถถือดาบเลเซอร์ความร้อนสูงแบบนั้นกวัดแกว่งไปมาแบบดาบทั่วไปได้  เพราะเพียงแค่เปิดกลไกการทำงานความร้อนของตัวดาบก็พอที่จำทำให้ผิวหนังบริเวณมือหรือร่างกายของผู้ที่ถือดาบไหม้เกรียมได้แล้วครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:37:55

ความคิดเห็นที่ 20 ใช้พวก heat pump, peltier ทำให้ด้ามดาบเย็นสิครับ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:43:03

ความคิดเห็นที่ 21 ***     นั่นจึงเป็นคำตอบที่ว่าแม้เราจะสามารถสร้าง "ไลท์เซเบอร์" ขึ้นมาใช้ได้จริงๆ  แต่เวลาจะใช้งานก็จำต้องสวมเครื่องแต่งกายซึ่งสามารถป้องกันความร้อนที่แผ่ออกมาจากใบดาบเลเซอร์ได้  โดยเครื่องแต่งกายประเภทนั้นก็มักจะมีขนาดเทอะทะแลไม่สะดวกต่อการใช้ดาบแน่ๆ  ประกอบกับในยุคที่ "ปืน" ก้าวเข้ามามีมีบทบาทแทนดาบโดยสมบูรณ์แล้ว  การเอาเวลาไปพัฒนา "ปืนเลเซอร์" นั้นคงดูจะเข้าท่าและมีประโยชน์กว่าการมาคิดค้น "ไลท์เซเบอร์" แบบนี้เป็นแน่ ป.ล. ดังนั้นเราจึงอาจจะสรุปได้ว่าในที่สุดเทคโนโลยีของ "ดาบไลท์เซเบอร์" หรือ "ดาบลำแสง" ในภาพยนตร์สตาร์วอส์นั้น  สุดท้ายก็เป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นมาได้จริงด้วยเหตุผลตามที่ "เจไดหนุ่ม" ได้กล่าวไปข้างต้นนั่นเองครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 53 17:26:48 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 12:49:57

ความคิดเห็นที่ 22 คุณเจไดหนุ่มข้อมูลแน่นมาก~* จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 23 อยากจะบอก จขกท. ว่า ไอ้ที่ยิงกันในหนังนั้นไม่ใช่เลเซอร์นะครับ แต่เป็นกระสุนพลาสม่าต่างหากละ จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:02:07

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าแช่งแข็ง ลำแสง เลเซอร์ไม่ได้ เวลาสู้กัน ก็จะเป็นแบบนี้สินะครับ ในภาพ เป็นการสู้กันระหว่าง 2 พ่อลูก แถวๆ ที่มีนบุรี จากคุณ : ผียังงง (tumman) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:09:27

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้า  เจได ภาคต่อไป หันมาใช้ดาบเลเซอร์สองมือ  แบบ นักรบไทยละก็ มันส์แน่ พะยะคะ จากคุณ : PredatorNeverdie เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:11:23

ความคิดเห็นที่ 26 กลับมาอีกที ผมพึ่งคิดได้... เอ่อ... คือไอ้ความถี่ที่คุณเจ้าของกระทู้ว่ามาว่า 300 MHz , 3 GHz เนี่ย... มันไม่เกี่ยวกับความยาวของลำแสงนะครับ... ที่เกี่ยวคือ " คาบ " ต่างหาก... สมมติว่าคุณต้องการ laser ที่มีความยาว 1 ม. คิดแบบลวกๆไปเลย 1 / 3000000000 ก็ประมาณ 3.33 นาโนวินาที ซึ่งช่วงกว้างของ pulse ที่แคบขนาดเนี้ย เราอาจทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ " กำลัง " ต่างหาก... ต่อให้พลังงานมันมากมายมหาศาล แต่ช่วงเวลาแค่เนี้ย มันจะไปยิงใครเขาเป็นอะไรได้ล่ะ ??? ซึ่งคุณ think4223 บอกว่าให้ยิงเป็น pulse ต่อเนื่องด้วยความถี่เป็น MHz , GHz แทน งั้นผมก็ต้่องบอกว่า " แล้วมันจะต่างอะไรกับการยิงแบบ continuous ล่ะ ??? " ช่องว่างระหว่างลำแสง มันก็จิ๊ดเดียว แทบไม่ต่างกับการยิงแบบ continuous wave เลย... ยกเว้นที่ว่า คุณต้องหาแหล่งกำเนิด laser ที่ให้ทั้ง high power แถมยังเป็น pulse ที่ความถี่สูงแบบสุดๆอีกต่างหาก ผมว่าทำได้ไม่ง่ายนะ... จนกว่าจะหา laser ที่พลังงานสูงขนาดยิงไปแค่เสี้ยววินาที ก็ส่งผลทำลายล้างมากมายได้ คือยิงนัดเดียวเล็กๆ ทีเดียวอยู่ไปเลย ไม่ต้องยิงซ้ำ ผมคิดว่า application ของ laser ที่เกี่ยวข้องกับ power ทั้งหลายแหล่ ยังคงต้องใช้แบบ continuous wave เป็นหลักครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:28:09

ความคิดเห็นที่ 27 เว้นแต่ แสงเลเซอร์ที่ผลิตได้จะมีความเข้มข้นสูงมากๆๆๆๆ แบบว่าโดนนิดเดียวก็ทะลุ จึงจะเปลี่ยนมายิงแบบ เป็นนัดๆ เพื่อจะประหยัดพลังงาน และควบคุมความเสียหายได้ดีกว่ายิงแช่ไว้นานๆ จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:39:44

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 10 เป็นเหตุผลที่ สมเหตุสมผลที่จะทำเป็น พัลซ์ หน่อย จะกดให้กีบ แต่ให้ไม่ได้ ไปสมัครอมยิ้มมานะครับ จะได้ให้กีบได้ จริงๆ เหตผลที่ เหมาะที่สุดที่จะ ทำเป็นพัลซ์ ผมนึกออก 2 อย่าง 1 คือเพิ่มความแม่นยำ ด้วย การ โอเวอร์ไดรฟ ถ้าใครเคยทำโรบอทวิ่งตามเส้น น่าจะคุ้นเคยเทคนิกนี้ เพราะใช้กับเซ็นเซอร์แสง ที่จับเส้น จริงแล้ว ก็ใช้ กับ อุปกรณ์อื่นๆได้ รวมถึงเลเซอร์ไดโอด 2 คือเพิ่มกำลังเลเซอร์ ด้วย การสลับหลอดเลเซอร์ ร่วมกับการโอเวอร์ไดรฟ อธิบาย คร่าวๆคือ มี เลเซอร์ไดโอดแรงสูง 6 ตัว ถ้าเปิดพร้อมกันจะได้ 6 ลำ แต่ถ้า เปิด แบบ โอเวอร์ไดรฟทีละตัว แล้ว หมุนสลับตัวใหม่เข้ามาแทนที่ แล้วเปิดใหม่ ไปเรื่อยๆ จะได้ เลเซอร์ 1ลำ ที่มีกำลัง 6 เท่า วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆที่จะเปลี่ยน CD-Writer เก่าๆให้กลายเป็นแสงอันตรายสุดๆ ดังนั้น ขอปกปิดรายละเอียดกันต่อไป นะครับ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 13:40:34

ความคิดเห็นที่ 29 # 26 งั้นเทียบให่คุณ ฟังใหม่ เหมือน คุณ ถือ แป๊บน้ำ ที่ น้ำพร้อมจะพุ่งไปข้างหน้าแบบต่อเนื่อง แต่ คุณเอามือ อุดไว้ และ คุณ เปิดปิด น้ำ ที่ ความเร็ว สมมุต 10 Hz เพื่อให้ได้ท่อน ของน้ำที่ มีควมยาว ระดับนึง แต่เมื่อ น้ำที่ว่าคือแสงเลเซอร์ ที่ หากคุณ เปิด ค้างไว้แค่ 1 วินาที ลำแสงจะยาว ถึง 3 แสน กม คุณ ต้อง เปิดปิด ให้เร็ว ขึ้น เพื่อจะใด้ ขนาด ท่อนลำแสงที่สั้นขึ้น แล้วเราก้ค่อยมาลง detail กัน ว่า ยาวแค่ไหน ถึงยังคง ความแรงของกำลังเลเซอร์ไว้ได้ จะ 1 ซม 10 ซม 1ม 10 ม หรือ 100 ม --> ก็ ว่ากันไป ก่อนอื่นขอยอมรับในหลักการก่อนละกัน จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 14:10:59

ความคิดเห็นที่ 30 1. ไลท์ เซเบอร์ ไม่ใช่ดาบเลเซอร์นะครับ ตัวดาบเองอาจจะขับอนุภาคบางอย่าง หรือเป็นสนามพลังเข้มข้น ที่กระตุ้นอนุภาคในอากาศให้เรืองแสง ซึ่งเป็นแค่ผลพลอยได้ 2. อาวุธที่ใช้ยิงในหนังอวกาศ มักจะไม่ใช่เลเซอร์เช่นกัน มักจะใช้คำว่า Energy Weapon ซึ่งก็คืออาวุธพลังงานครับ เลเซอร์มันมีข้อจำกัดมากมาย ทั้งในแง่การสูญเสียพลังงาน การเดินทางเป็นเส้นตรง ซึ่งจะเสียพลังงานไปในการเผาวัตถุ ที่อยู่ระหว่างแหล่งกำเนิดกับเป้าหมาย และที่สำคัญ การกำเนิดเลเซอร์ มีการสูญเสียพลังงาน ในรูปแบบของความร้อนสูงมาก ปล. แสง สามารถถูกกักเก็บในสนามแม่เหล็กแรงสูงมากๆ ได้นะครับ (ตามทฤษฏี) จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 14:30:11 A:202.57.180.230 X: TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 31 # 30 ปล. แสง สามารถถูกกักเก็บในสนามแม่เหล็กแรงสูงมากๆ ได้นะครับ (ตามทฤษฏี) ปล ผมก็เชื่อ ตามนั้น จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 14:37:57

ความคิดเห็นที่ 32 คุณเจไดหนุ่ม แฟนพันธุ์แท้จริงๆ ให้เดาคงมีความฝันอยากทำมันขึ้นมาจริงๆใช้ไม๊ครับ แล้วพอรู้ว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้รู้สึกผิดหวังในชิวิตป่ะ แปลก กระทู้นี้คุยเรื่องทฤษวิทยาศาสตร์แท้ๆ แต่อ่านไปขำไป สงสัยเราจะใกล้บ้า Hey wait !!! The force be with you. จากคุณ : - NPie - เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 15:56:35

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ think4223 ช่วงนี้ตั้งกระทู้บ่อยจัง อู้งานป่ะเนี่ย จากคุณ : - NPie - เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:00:40

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 31 "ผมก็เชื่อ ตามนั้น" ถ้าเชื่อ "ทฤษฏีนั้น" แปลว่าเข้าใจ ใช่ไหมครับ ว่า"ทฤษฏีนั้น"คืออะไรรายละเอียดเป็นยังไง งั้นก็เล่ามาหน่อยสิ แต่ถ้าเชื่อลอยๆ ก็คงใช้ไม่ได้สำหรับ "หว้ากอ" ล่ะนะ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:10:51

ความคิดเห็นที่ 35 rep 29 หลักๆที่ผมจะบอกคือ จะเปิด - ปิด สลับกัน หรือจะเปิดต่อเนื่องไปเลย มันไม่ค่อยต่างกันหรอกครับ... คุณก็ต้องแช่ไว้ที่เป้าหมายจนกว่ามันจะไหม้อยู่ดี ใช่ปะครับ... แต่ถ้ายิงแว่บเดียวไหม้่เลย... ผมก็ว่าทำแบบนี้อาจน่าสนหน่อย... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:48:05

ความคิดเห็นที่ 36 วิทยาศาสตร์มากๆเลย หัวข้อนี้ จากคุณ : ชีวิตจะรุ่งอย่ามายุ่งกับผม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 16:54:45

ความคิดเห็นที่ 37 ^ # 34 เคยได้ยินการควบคุม การทำ ฟิวชั่นโดยใช้ สนามแม่เหล็ก กักบริเวณของมัน ไหมครับ จัดไป http://www.kbr.be/~capas/Propos/Controlled_Fusion.pdf จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:12:56

ความคิดเห็นที่ 38 ยิงแบบแสงพลังคลื่นเต่าแบบนี้นี่ต้องทำไงอะสงสัยเหมือนกัน ที่มา http://www.pixprosranking.net/picture/display/9_58_1256091504.jpg จากคุณ : aloha_123 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:23:08

ความคิดเห็นที่ 39 ลืมรูป จากคุณ : aloha_123 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:23:50

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบหัวข้อนี้จังเลย อยากให้ห้องหว้ากอมีกระทู้สไตล์นี้เยอะๆ ขอบคุณคุณเจไดหนุ่มมากๆสำหรับข้อมูลเจ๋งๆสมแล้วที่ผ่านเจไดอคาเดมี่มา ตอนเป็น"พาดาวัน"คงทำคะแนนดีน่าดู ปล.ฮารูป#24 จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:28:26

ความคิดเห็นที่ 41 เพื่อ # 34 จัดไป อีก ดอก http://www.crossfirefusion.com/nuclear-fusion-reactor/overview.html จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:52:15

ความคิดเห็นที่ 42 ดูเล่นๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:55:23

ความคิดเห็นที่ 43 ดู มันส์ๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 17:55:58

ความคิดเห็นที่ 44 ใช้เตาปฏิกรณ์อาร์คเป็นแหล่งพลังงานจะดีไหมครับ จากคุณ : Lind L Taylor เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 20:40:04

ความคิดเห็นที่ 45 มันไม่ใช่กระสุนพลาสม่าหรอกหรือ เม็ดเป็นเปลวๆเลยนะครับ จากคุณ : ceteris เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 22:00:15

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 37>>  Magnetic field is used to confine Plasma. จากคุณ : renz เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 02:46:12

ความคิดเห็นที่ 47 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 03:42:45

ความคิดเห็นที่ 48 # 35 มัน ต้องแรง พอ ที่ ยิง นัด นึงไหม้ ครับ ไม่ใช่แช่ ไม่งั้น มันก็กลาย เป็น ดาบ ที่ยาวมาก มากว่าเป็น กระสุน ลำแสง จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 08:38:29

ความคิดเห็นที่ 49 "การทำ ฟิวชั่นโดยใช้ สนามแม่เหล็ก" นั่นมัน อะตอมไฮโดรเจน ในสถานะพลาสม่านะครับ ไม่ใช่แสง มันเป็น ไฮโดรเจน ที่ไม่จับคู่เป็นโมเลกุล เพราะความร้อนและความหนาแน่นสูง ตัว ไฮโดรเจนเอง เป็นแม่เหล็กจิ้วพลังสูงสุดๆอยู่แล้ว จึงตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กเป็นอย่างดี แต่กรณีของแสง น่ากลัวจะต้องเป็นสนามแรงดึงดูดถึงจะกักเอาไว้ได้ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 15:12:00

ความคิดเห็นที่ 50 ขอโทษ ผมอาจเข้าใจผิด เนื่อง จากสถานะพลาสม่าก็ ปล่อยแสง ออกมา เช่นกัน ไม่ได้หมายถึงแสงเพียวๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 15:43:02

ความคิดเห็นที่ 51 ยกไปตั้งกระทู้ใหม่ สิ ดาบพลาสมา กระสุน พลาสมา สร้างได้หรือไม่ ? จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 09:01:05

ความคิดเห็นที่ 52 กลไกการจุดระเบิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน             - เติมเชื้อเพลิงปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันในแคปซูลทรงกลมขนาดเท่าเม็ดถั่ว ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมของดิวเทอเรียมและตริเทียม 150 ไมโครกรัม             - เลเซอร์ถูกกำหนดให้ยิงคลื่นสั้นที่มีความเร็ว 1 ใน 2 หมื่นล้านส่วนของวินาที ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้เกิดกำลังไฟฟ้าสูงถึง 50 ล้านล้านวัตต์ หรือเทียบเท่ากับพลังงานที่ทำให้หลอดไป 100 วัตต์จำนวน 50 ล้านล้านดวงสว่างพร้อมกัน             - กำลังเลเซอร์ทั้งหมดจะโฟกัสไปที่ผิวของแคปซูล โดยที่เชื้อเพลิงภายในจะถูกอัดแน่นให้มีความหนาแน่นมากกว่าตะกั่ว 100 เท่า             - แคปซูลจะถูกให้ความร้อนด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 100 ล้านองศาเซลเซียส ซึ่งภายใต้เงื่อนไขที่สุดขั้วขนาดนี้ จะทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันขึ้น. http://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=956&Itemid=4 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 16:36:51