ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ทราบและสัมผัสมา ตัว L-carnitine น่าจะดีที่สุด และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ส่วนปริมาณเท่าไหร่นั้น ตอบไม่ได้ ... แอล คานิทีน จะช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในขณะออกกำลังกายได้ดีขึ้นครับ เลยทำให้กินแล้วรู้สึกมีแรงขึ้น (ดึงเอาพลังงานออกมาใช้ได้ดีขึ้น) มันไม่เหมือนกับพวก คาเฟอีน ที่จะมีฤทธิ์ในการควบคุมการเต้นของหัวใจและระบบประสาทส่วนกลางนะครับ.....พวกนั้นน่าจะช่วยในการเร่งการตื่นตัวของระบบประสาทมากกว่า.... จากคุณ : นั่งดูนกเล่นน้ำ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 11:19:05

ความคิดเห็นที่ 2 กินรวมกันทั้งหมดนั่นนะ ได้ผลเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% หรอก อย่างเก่งก็ราวๆ 5% ของเมตาโบลิซึมที่เพิ่มขึ้น จะคุ้มกับราคาหรือป่าวยังไม่รู้นะ แต่ออกกำลังกายเพิ่ม 30 นาทีนี่ คุ้มค่ากว่าแน่นอน เสียแต่เวลาอย่างเดียว จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 11:36:57

ความคิดเห็นที่ 3 #1 ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ #2 เข้าใจว่าอายุยังน้อยนะครับ ถึงตอบด้วยความหุนหันพลันแล่นอย่างนั้น ทำไมคุณถึงคิดว่าอาหารเสริมมันไปเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมในร่างกายของคุณละครับ ถ้าจะเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม แค่กินน้ำให้มากขึ้น สร้างมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้น มันก็เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมได้แล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาหารเสริมเลย ส่วนที่คุณบอกว่าออกกำลังกายเพิ่ม 30 นาทีนี่คุ้มค่ากว่าแน่นอน ผมก็ย้ำไว้แต่ต้นแล้วครับ ว่าการออกกำลังกายที่เหมาะสม อาหารที่ดี การพักผ่อนเหล่านี้มันเป็นปัจจัยหลักอยู่แล้ว แต่กระทู้นี้กำลังถามถึงการทำงานของอาหารเสริม และประสบการณ์ของผู้ที่เคยทดลองใช้ และการที่ออกกำลังกายเพิ่มมันก็ไม่ใช่ว่าจะส่งผลดีเสมอไป เข้าใจว่าการออกกำลังกายที่คุณพูดคงหมายถึงการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งถ้าคุณคิดแต่ว่าจะลดไขมันกับเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ ทำแบบนั้นก็อาจจะได้ แต่การทำแอโรบิกมากเกินไปมันไปสลายกล้ามเนื้อ ซึ่งคนที่ต้องการรูปร่างที่สวยงามเขาไม่ได้ต้องการให้กล้ามเนื้อสลายไปพร้อมกับไขมันหรอกนะครับ ตรงนี้ที่อาหารเสริมเข้ามามีส่วนสำคัญ ซึ่งการจะใช้หรือไม่ใช้ หรือควรใช้หรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการทำความเข้าใจในการทำงานของมัน ปล. ผมรับได้นะครับกับการโต้เถียงแม้ว่ากระทู้ของผมจะไม่ได้ต้องการมาโต้เถียงกับใครก็เถอะ แต่ช่วยมีองค์ความรู้ใหม่ๆ หรือประสบการณ์อะไรมาแชร์บ้างครับ ไม่ใช่มาแต่อารมณ์ความรู้สึกล้วนๆ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 53 13:14:39 จากคุณ : Pianpat_Pu เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 13:09:43

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าคนอื่นอายุน้อย เราว่าเจ้าของกระทู้แหละ ตอบแบบอายุน้อย เค้าช่วยมาตอบ2บรรทัด เถียงยาวเป็น10บรรทัด เฮ้ออออออออออออ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 15:06:00

ความคิดเห็นที่ 5 ครับ จะว่าผมยังไงก็ได้ครับ แต่ช่วยตอบคำถามผมด้วยได้มั้ยครับ จากคุณ : Pianpat_Pu เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 15:59:17

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.ipst.ac.th/biology/Bio-Articles/mag-content41.html จากคุณ : กินปลากระป๋องมองเครื่องบิน เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 16:05:15

ความคิดเห็นที่ 7 คิดง่ายๆนะครับ ถ้ามันดีจริง โลกนี้จะไม่มีคนรวยที่อ้วนครับ จบ... จากที่อ่านๆดู คุณเข้าใจอะไรผิดๆมาโดยตลอด (และอาจจะทั้งหมด) ครับ คิดว่าอาจเกิดจากการรับสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่ให้ความรู้วิทยาศาสตร์แบบผิดๆมากเกินไป ถามเลย คุณว่าน้ำหนักคนเราลดลงได้ด้วยกระบวนการอะไรบ้าง ดังนั้น ถ้าอาหารเสริมไม่ได้มีกลไกส่งเสริมกระบวนการข้างต้น มันย่อมไม่ช่วยลดน้ำหนักให้คุณหรอกครับ ออกกำลังกาย แล้วกล้ามเนื้อสลาย 55555555555555555555555555555555 งั้นพวกนักกีฬาโอลิมปิกก็พิการแขนขาลีบกันหมดแล้วล่ะครับ คุณจำไว้นะ คนเราจะเอาแหล่งพลังงานในร่างกายมาใช้เรียงตามลำดับ ดังนี้ คาร์โบไฮเดรต --> ไขมัน ---> โปรตีน อธิบายก็คือ 1. คุณต้องทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานหรือออกแรงมากซะจนแป้งและน้ำตาลที่มีอยู่หมด 2. ต่อไปร่างกายจึงจะขยับไปใช้ไขมันที่สะสมในร่างกายเป็นแหล่งพลังงานต่อไป 3. จนกระทั่งคุณไม่เหลือไขมันเลยนั่นแหละ ร่างกายจึงจะไปสลายกล้ามเนื้อเอาโปรตีนมาใช้ ดังนั้นถ้าคุณอยากผอม คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายผ่าน step1 แล้วไปใช้ไขมันใน step2 พุงคุณถึงจะยุบครับ และไม่ต้องห่วงเลยว่ากล้ามเนื้อคุณจะสลาย เพราะคุณคงผอมเพรียวหุ่มสมาร์ท หรือไม่ก็ออกกำลังกายหนักติดต่อกันจนช็อคตายไปซะก่อนแล้วล่ะ ตราบใดที่คุณเห็นคนรวยแล้วลงพุงอยู่ ตราบนั้นก็อย่าหวังว่าจะมี(สิ่งที่เรียกตัวเองว่า)อาหารเสริม ที่ช่วยลดน้ำหนักได้สมราคาคุยหรอกครับ จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 21:58:46

ความคิดเห็นที่ 8 อืม ตอบไปสั้นๆ ก็ไม่คิดหรอกว่าจะเข้าใจ ... แต่ตอบยาวๆ ก็มักมีพวกชอบ แดกดันหาว่าเอาตำราตบหัวสั่งสอนประจำ 1. จุดประสงค์ที่คุณถามคือ "ต้องการลดไขมัน" ซึ่งหมายถึง Subcutaneous fat (ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง) เพื่อให้เห็นกล้ามชัดๆ ไม่ใช่ไขมันในเลือดอย่าง TG, Cholesterol ใช่มั้ยครับ ? 2. ถ้าคุณออกกำลังกาย เล่มกล้าม อะไรของคุณ ... คุณก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือครับว่า ทางเดียวที่จะเอาไขมันออกจากร่างกายคือ ลดแคลอรีที่กินและเพิ่มการใช้ พลังงาน  ที่ผมพูดถูกหรือไม่ครับ ? หรือมีคนบอกว่ามีวิธีอื่น ? 3. คุณไม่ได้ต้องการจำกัดอาหาร ? 4. คุณอยากกินอาหารเสริมเพื่อลดไขมัน เพื่อลดน้ำหนัก หรืออะไรก็ตามแต่ .... แต่สุดท้าย อาหารเสริมทุกชนิดมุ่งเป้าไปที่เดียวกันคือ "ลดแคลอรีที่กินและเพิ่มการใช้พลังงาน" แต่จะด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ชนิดและกลไกของมัน ผมพูดตรงนี้ผิดหรือไม่ครับ ? ถ้าแบบนั้นที่ผมเข้าใจว่า คุณต้องการอาหารเสริมเพื่อช่วยเร่ง เมตาโบลิซึม ผิดตรงไหนครับ ? เพราะคุณเองไม่จำกัดอาหารอยู่แล้ว ? ส่วนการออกกำลังกายแบบไหน ก็ช่วยเพิ่มเมตาโบลิซึมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบ Aerobic, Anaerobic,flexibility ก็ช่วยในการเพิ่ม แต่มีระดับที่ต่างกัน การจะได้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นเห็นชัดเจนเลย สำคัญที่การลดระดับไขมัน ใต้ชั้นผิวหนังลงให้บางที่สุด กล้ามถึงจะเห็นได้ชัด ในบางคนที่กล้ามโตมาก แต่ไขมันก็สูงมากด้วย ทำยังไงก็ไม่เห็นกล้ามเป็นลูกๆ ครับ =============================================== จริงๆ ถ้าสามารถเปิดอ่านผลงานวิจัยได้ ไม่ลองหาอ่าน Clinical Trial หรือ อ่าน Review Article ในพวก Sciencedirect ดูก็ได้นี่ครับ เห็นออกเยอะแยะไป พวกอาหารเสริมหนะ สับกันยิ่งกว่าชาวหว้ากอสับ Fw mail อีก อันนี้เท่าที่ผมมีข้อมูล 1. Hydroxycitric Acid http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/9820262 เป็นการทดลองตีพิมพ์ใน JAMA ที่มี Impact สูงทะลุฟ้า ผลการทดลอง กล่าวโดยสรุปคือ กลุ่มที่กิน HCA ลดน้ำหนักได้ดีกว่า กลุ่มกินยาหลอก 1 กิโล (4 กับ 3 โล) ซึ่งไม่ได้ถือว่าแตกต่างกันมากนักในทางคลินิก แต่คนที่กิน ยาหลอก สามารถลด ไขมันในเลือดได้ดีกว่ากลุ่มที่กิน HCA ดูในนี้เพิ่มด้วยก็ได้เป็น Review ของ HCA ที่ใหม่กว่า แต่การทดลองไม่ค่อยดี http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18084863 ถ้าดูตามข้อมูลนี้ ไม่ถือว่าเป็นยาที่ช่วยลดไขมัน (เพิ่มเมตาโบลิซึม) อย่างใด้ผลครับ 2. L-Carnitine มีเขียนรายงานกันเป็นตำราเลยว่า ไม่มีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพของ นักกีฬาฯ ไม่ว่าจะใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น (ก็เผาผลาญเพิ่มขึ้นหนิ จะไขมันหรือ น้ำตาลก็ต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น) หรือใช้ fat มากขึ้นก็ตาม Hiatt WR. The role of carnitine and carnitine supplementation during exercise in man and in individuals with special needs. J Am Coll Nutr 1998;17:207-15. Supplemental carnitine and exercise. Am J Clin Nutr 2000;72:618S-23S. Carnitine and sports medicine: use or abuse? Ann NY Acad Sci 2004;1033:67-78. 3. ipo 6, cheaters no-xplode ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร หาฉลากมาให้ดูได้มั้ยครับว่า ส่วนประกอบสามัญ (ชื่อทางเคมี) มันคืออะไร ไม่งั้นเดาไม่ถูก ให้มาแต่ยี่ห้อ 4. Caffeine ตัวนี้แหละที่คิดว่าดีทีุ่สุด ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ และ ราคาที่จ่ายไป มีงานวิจัยออกมาว่า ถ้ากินพร้อมแป้ง จะช่วยเสริมสร้างไกลโคเจนได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยในการเล่นกีฬา http://en.wikipedia.org/wiki/Caffeine#Effects_on_exercise_recovery ดู Ref# 126 ประกอบ ส่วนเรื่อง Caffeine ในการช่วย Resistant training นั้น แม้จะมีผลว่าเพิ่มขึ้น เยอะมาก แต่ผลที่เป็น controversy ก็เยอะไม่แพ้กันอ่านดูใน review 2 ฉบับนี้ ละกัน http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19924012 http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19757860 แต่โดยสรุปก็บอกว่า มันไม่ได้แสดงผลอย่างชัดเจนในเรื่องเหล่านี้เลย ... คือทำนองว่า เพิ่มขึ้นจริง แต่เพิ่มขึ้นนิดนึง ... ถ้าต้องซื้อสารสกัดมากิน ในราคาแพงจึงดูไม่คุ้ม ถ้าให้ผมเลือกกิน ผมก็กินคาเฟอีน เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก และให้ความหวังได้ดี ... คือดีกว่าตัวอื่นๆ เพราะยังมีผลวิจัยที่ออกมาบอกว่าได้ผลอยู่บ้าง ... แม้จะเล็กน้อยก็ตาม แต่โดยสรุป ก็ตามที่เขียนไว้ใน คห.2 ไหนๆ ก็เสียเวลาออกกำลังกายแล้ว (อยากได้กล้ามเพิ่มหนิ) เพิ่มขึ้นอีก 30 นาทีจะเป็นไรไป ยกอีก 1-2 เซ็ตเอง แก้ไขจัดหน้าใหม่ ว่าแต่ มีสารอาหารอื่นๆ อีกไหมครับที่นิยม ผมก็กำลังหาดูเหมือนกันว่า คนส่วนใหญ่นิยมกินอะไร เพื่อลดน้ำหนักหรือลดไขมันแบบคุณว่า แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 53 23:48:26 จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 53 23:40:51

ความคิดเห็นที่ 9 อาหารปกติเราๆ กินกัน มีสารเคมีเพิ่มความอยากอาหารใส่อยู่ด้วย ถ้าแค่งดสารนี้ ก็ลดความอ้วนได้แล้วครับ สารนี้ทำงานได้ผลสองเด้ง หนึ่ง  อร่อย สอง  กินแล้วอิ่มช้า หิวเร็ว ไม่อ้วนก็แปลกครับ มันคืออะไรน่ะเหรอ   คุณก็รู้ครับ !! ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ในปริมาณ "มหาศาล" แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 53 13:46:21 จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 13:46:03