ความคิดเห็นที่ 1 ซึ่งทางเว็บไซต์ livescience ก็ได้เผย 11 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับภูเขาไฟไว้ดังนี้ 1. หินพัมมิส (pumice) เป็นหินภูเขาไฟเพียงชนิดเดียว ที่สามารถลอยน้ำได้ ซึ่งมีลักษณะเป็นหินสีเทา และมีรูพรุนจำนวนมาก เกิดจากการที่ก๊าซร้อนไหลผ่านในขณะที่หินหลอมเหลวหรือลาวาภูเขาไฟกำลังเย็นตัวลง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:04:55

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาปาดคนแรกครับ ชะแว๊บ!!   ^^" จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:08:38

ความคิดเห็นที่ 3 หินพัมมิสใช้ทำอะไรได้บ้าง? หินพัมมิส สามารถนำไปใช้ปรับเข้ากับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้หลากหลายแขนง ยกตัวอย่างเช่น: --------  อุตสาหกรรมฟอก เสื้อผ้า และกางเกงยีนส์ ปัจจุบันอุตสาหกรรมฟอก กางเกงยีนส์ และ เสื้อผ้า ได้ใช้หินพัมมิสอย่างแพร่หลายในการฟอก แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 08:23:48 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:23:06

ความคิดเห็นที่ 4 คห3. ฟอกเกงขาดเลย. จากคุณ : คาปูชิน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:25:47

ความคิดเห็นที่ 5 ขอปาดเป็นคนที่ 2 จากคุณ : เต่าหลังอ่อน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:26:57

ความคิดเห็นที่ 6 ------ อุตสาหกรรมเพาะปลูก และไม้ดอก ไม้ประดับ ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมเพาะปลูกไม้ดอก ไม้ประดับในประเทศไทยกำลังรุดหน้าไปอย่างมาก ซึ่งนอกเหนือไปจากพันธุ์ไม้ชั้นดีแล้ว อุปกรณ์การเลี้ยงดู, การเอาใจใส่ และ วัสดุปลูกที่ดี ย่อมมีผลต่อผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งหินภูเขาไฟ หินพัมมิส (pumice)ได้เข้ามามีบทบาทในฐานะของ วัสดุปลูกชนิดใหม่หรือใส่ตกแต่งกระถาง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:35:57

ความคิดเห็นที่ 7 ----------- วัสดุกรองสำหรับบ่อกรองปลา สำหรับการเพาะพันธุ์ปลาสวยงาม ประเภทต่างๆ โดยเฉพาะ ปลาคาร์พ หรือ Koi, หินพัมมิสนับได้ว่าเป็นก้าวใหม่ ที่จะเข้ามาเป็นวัสดุกรองแห่งอนาคต แทนที่ปะการัง ภายใต้ชื่อ สมาร์ทพอนด์ (Smart Pond) ผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ และเป็นบันไดขั้นใหม่ไปสู่การเลี้ยงปลาในอนาคต จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:49:49

ความคิดเห็นที่ 8 ---------- วัสดุสำหรับเตาย่าง, เตาเผา, หรือเตาบาร์บิคิว ต้นกำเนิดของหินภูเขาไฟนั้น มาจากหินหลอมเหลวที่มีอุณหภูมิสูง ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า หินภูเขาไฟ สามารถใช้เป็นวัสดุเพิ่มความร้อน และช่วยเก็บกักความร้อน สำหรับใช้ในเตาย่าง, เตาเผา, หรือเตาบาร์บิคิว ได้เป็นอย่างดีหรือเป็นวัสดุในการเก็บความร้อนสำหรับในการย่างอาหารได้เป็นอย่างดี จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 08:57:58

ความคิดเห็นที่ 9 2. ภูเขาไฟที่อันตรายที่สุด เรียกว่า Super Volcanoes หรือ ภูเขาไฟยักษ์ โดยการระเบิดของภูเขาไฟยักษ์นี้ สามารถทำให้เกิดฝนเพลิงไหลไปทั่วอาณาเขตพันไมล์รอบ ๆ ภูเขาไฟได้ และยังส่งผลให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก เช่น ทำให้อากาศมีอุณหภูมิต่ำลง จากการที่เถ้าภูเขาไฟฟุ้งกระจายออกมาปกคลุมชั้นบรรยากาศ ซึ่งกรณีเช่นนี้เป็นแสน ๆ ปีถึงจะปรากฎสักครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุว่า ภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาติเยลโล สโตน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มจะปะทุในอีกไม่นาน (จากในรูปเห็นปากปล่อง) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:10:45

ความคิดเห็นที่ 10 3. การระเบิดของภูเขาแทมโบรา (Mount Tambora) บนเกาะซัมบาวา (Sumbawa) ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.1815 (พ.ศ.2358) เป็นการระเบิดของภูเขาไฟครั้งรุนแรงที่สุดในโลก โดยคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 1 แสนคน ซึ่งตามรายงานของ U.S. Geological Survey ระบุไว้ว่า ประเทศอินโดนีเซียนั้น เป็นประเทศที่มีเคยเกิดภูเขาไฟระเบิดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือทั้งหมดรวม 76 ครั้ง (ปากปล่องภูเขาไฟMount Tambora) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:15:00

ความคิดเห็นที่ 11 4. ส่วนใหญ่แล้วภูเขาไฟมักเกิดขึ้นบริเวณใกล้กับรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก และแผ่นทวีป แต่ก็ยังมีภูเขาไฟอีกประเภท ที่เกิดขึ้นจากแมกมาไหลลงไปรวมตัวกันใต้พื้นโลก ซึ่งเรียกว่า "Hot Spot" เช่น ภูเขาไฟยักษ์ในอุทยานแห่งชาติเยลโล สโตน ประเทศสหรัฐอเมริกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:25:43

ความคิดเห็นที่ 12 5. ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง เพราะด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศที่ตั้งอยู่บนส่วนยอดของแนวสันภูเขาไฟ ที่จมอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก และล่าสุดก็ได้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟเอยาฟจาลาโยคูลล์ (Eyjafjallajokull) ขึ้น ซึ่งความรุนแรงของการระเบิดครั้งนี้ เทียบเท่าได้กับการระเบิดของภูเขาไฟสแคปตาร์ (Mount Skaptar) ในปี ค.ศ.1783 (พ.ศ.2326) ที่ได้ทำลายพื้นที่ทำการเกษตร และพื้นที่การทำประมงของประเทศไอซ์แลนด์ไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง จนคร่าชีวิตชาวไอซ์แลนด์ไปถึง 1 ใน 5 ของประเทศ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:32:46

ความคิดเห็นที่ 13 6. หน่วยสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การระเบิดของภูเขาไฟพินาตูโบ (Pinatubo) ในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี ค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) ถือเป็นการระเบิดของภูเขาไฟครั้งที่เลวร้ายที่สุด เพราะได้ปลดปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศของโลกมากถึง 22 ล้านตัน ซึ่งทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลดลงอย่างน้อย 0.5 องศาเซลเซียส (ปากปล่องภูเขาไฟปินาตูโบ) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:42:45

ความคิดเห็นที่ 14 ติดตามๆ จากคุณ : กระดาษเกาเหลา เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:44:30

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพกลุ่มควันจากการระเบิดของภูเขาไฟปินาตูโบ พ.ศ.2534 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 09:51:53 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 09:51:25

ความคิดเห็นที่ 16 7. ภูเขาไฟสามารถขยายขนาดได้ เพราะมีการสะสมของลาวา และเถ้าถ่านจากภูเขาไฟ ที่ทำให้ผิวของภูเขาไฟหนาและสูงขึ้น และนี่ก็คือลักษณะการเกิดของภูเขาแบบหนึ่งนั่นเอง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:10:24

ความคิดเห็นที่ 17 8. ภูเขาไฟสามารถดับสูญได้ ถ้านักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ภูเขาไฟลูกนั้นจะไม่สามารถปะทุขึ้นมาได้อีก ก็จะถูกกำหนดให้เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว แต่หากเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในตอนนี้ แต่ยังมีแนวโน้มที่จะปะทุขึ้นมาได้อีกในอนาคต จะเรียกว่า ภูเขาไฟที่สงบนิ่งอยู่ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:17:24

ความคิดเห็นที่ 18 9. ภูเขาไฟที่มีการระเบิดอย่างรุนแรง สามารถทำให้ปากปล่องภูเขาไฟพังทลายลงได้ จนเกิดเป็นหลุมรูปชามขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า แคลเดร่า (Caldera) จากภาพเป็นหลุมรูปชามขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่า แคลเดร่า (Caldera)ของ เมาท์ เเคทไมย์Mount Katmai ที่ตอนใต้ของรัฐอลาสก้าAlaska ของอเมริกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:27:09

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพนี้เป็นหลุมรูปชามขนาดใหญ่ แคลเดร่า (Caldera)ของภูเขาไฟบริเวณเทือกเขาแอนดิส  ของประเทศเอกัวดอร์( Ecuadorian Andes) จนกลายเป็นทะเลสาบชื่อควิลโลตัว(Quilotoa ) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:45:19

ความคิดเห็นที่ 20 10. ภูเขาเมานา โลอา (Mauna Loa) ในฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูงถึง 13,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ทั้งนี้เกาะฮาวายถือเป็นเกาะที่เกิดจากการรวมตัวกันของภูเขาไฟถึง 5 ลูก จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:53:20

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพภูเขาเมานา โลอา (Mauna Loa)เมื่อตอนเกิดปะทุเมื่อปี1984 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 10:56:34

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพท้องฟ้าเหนือภูเขาไฟเมานา โลอา (Mauna Loa)ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:06:45

ความคิดเห็นที่ 23 11. ภูเขาไฟสามารถทำให้ดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า มีหลากหลายสีสัน อย่างเช่น การระเบิดของภูเขาไฟที่เกาะคาซาโตชิ (Kasatochi) ในอลาสกา ของอเมริกาเมื่อปี ค.ศ 2008 (พ.ศ.2551) คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับแสงสีส้มในยามดวงอาทิตย์ตก และมีเลื่อมปะการังหลากสีสะท้อนออกมาที่ดูแปลกตา ซึ่งปรากฎการณ์นี้เกิดจากอนุภาคขนาดเล็กของเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ลอยปะปนอยู่ในชั้นบรรยากาศ ไปทำให้รังสีของดวงอาทิตย์หักเห และสะท้อนแสงสีสันสวยงามออกมา (แผนที่เกาะคาซาโตชิ) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:14:13

ความคิดเห็นที่ 24 ยิ่งใหญ่ และน่าสะพรึง จริง ๆ เลยค่ะ ?? จากคุณ : กุ๊กไก่ไม่ขันมาหาฉันจะกระต๊าก เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:19:21 A:223.206.197.201 X: TicketID:191399

ความคิดเห็นที่ 25 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : PLMyTime เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:21:25

ความคิดเห็นที่ 26 ภูเขาไฟที่เกาะคาซาโตชิ (Kasatochi) ในอลาสกา ของอเมริกา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:22:23

ความคิดเห็นที่ 27 ตามมาอ่าน จากคุณ : ละอ่อนชายแดน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:22:25

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพปรากฎการณ์นี้เกิดจากอนุภาคขนาดเล็กของเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ลอยปะปนอยู่ในชั้นบรรยากาศ ไปทำให้รังสีของดวงอาทิตย์หักเห และสะท้อนแสงสีสันสวยงามออกมา จากการระเบิดของภูเขาไฟที่เกาะคาซาโตชิ ปี ค.ศ.2008 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:27:25

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพนี้สีม่วงสีน้ำเงินหลากสีจากการระเบิดของภูเขาไฟ เอยาฟจาลาโยคูลล์ (Eyjafjallajokull)ประเทศไอซ์แลนด์ ในค.ห 4 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:39:21

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพนี้เช่นกันสีสะท้อนแสงจากการระเบิดของภูเขาเอยาฟจาลาโยคูลล์ (Eyjafjallajokull)ประเทศไอซ์แลนด์ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:42:18

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedea เวปไซต์ livescience http://www.srilava.com/Productt.html http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1290776/Northern-Lights-erupting-Icelandic-volcano.html ภาพประกอบบางส่วนจากgoogle จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 11:58:21

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ รูปสวย ๆ ค่ะ คห.29-30 เหมือนแสงออโรร่าเลย^^ (หรือมันคือออโรร่าจริง ๆ ?) จากคุณ : มิเธเธล เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 12:22:08

ความคิดเห็นที่ 33 อยากใให้ทำทู้พิเศษของเหตุการณ์ล่าสุดที่ ไอซ์แลนด์จ่ายหนี้เป็น เถ้าภูเขาไฟฟจัง (Spend Cash return Ash) จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 12:42:25

ความคิดเห็นที่ 34 ค.ห 32  เข้าใจถูกต้องแล้วครับภาพในคห.29-30 เป็นช่วงเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ภูเขาไฟระเบิด พร้อมกับการเกิดแสงออโรร่า Aurora(เกิดเฉพาะแถบขั้วโลกที่มีอากาศหนาวเย็น) ถ้าเกิดขั้วโลกเหนือ เรียกว่า Northern lights (เกิดแถบขั้วโลกเหนือ)ถ้าเกิดขั้วโลกใต้  Southern lights (เกิดแถบขั้วโลกใต้) (ภาพนี้ไม่เกี่ยวกับภูเขาไฟแต่เป็นการเกิดปรากฏการณ์แสงออโรร่าBorealisที่ทะเลสาบแบร์ (Bear Lake รัฐอลาสก้า  ของอเมริกา) http://www.todaysphoto.org/potd/aurora-alaska.html แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 13:01:45 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 12:59:01 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 12:50:38

ความคิดเห็นที่ 35 ง่า ปาดไม่ทัน  แต่ก็ขอบคุณมากครับ จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 12:54:03

ความคิดเห็นที่ 36 สุโค่ยยย ขอบคุณครับ จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 13:42:04

ความคิดเห็นที่ 37 ติดตามคุณ jayaus มาหลายกระทู้แล้วค่ะ ขอบคุณที่นำความรู้ดีๆ บวกกับภาพสวยๆ มาแบ่งปันกัน ^^ เห็นแล้วรู้ซึ้งเลยค่ะ ว่าถึงอย่างไร ธรรมชาติก็ยิ่งใหญ่เสมอ ได้ดูภูเขา ดูทะเลสาบแล้ว อยากรีเควสแนวปะการังบ้างจังค่ะ ฮ่าๆ (มาเนียน) จากคุณ : หอยน้อยในโคลนตม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 13:46:42

ความคิดเห็นที่ 38 ค.ห..37..ผมกำลังคิดอยู่เหมือนกันเดี๋ยวรอความเห็นต่อไปครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:10:27

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณจากใจอีกครั้งคับผม จากคุณ : maodarifto เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:16:24

ความคิดเห็นที่ 40 ตามอ่านมาตั้งแต่ความเห็นแรกๆ แต่ไม่กล้าปาด จากคุณ : lucifer777 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:53:41

ความคิดเห็นที่ 41 ปาดได้ครับ..กระทู้ผมไม่ซีเรียสครับ..เห็นมีคนเอาไปตั้งกระทู้แล้วเรื่องปาด .....ว่างๆผมจะตั้งกระทู้เรื่องปาดเหมือนกัน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:28:14

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ และรูปสวยๆเสมอค่ะ จากคุณ : m-o-o-k-i เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 16:02:51

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆและภาพสวยๆนะคะ เสียดายที่โหวตให้ไม่ได้ จากคุณ : หนูปิงลูกป๋าช่วง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 16:04:21

ความคิดเห็นที่ 44 เซฟรูปเก็บแบบมันส์มือ ภาพสวยมากๆค่ะ ^ ^ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 16:27:58

ความคิดเห็นที่ 45 ในความอันตราย ก็ยังมีความสวยงามซ่อนอยู่อย่างไม่น่าเชื่อเนอะ จากคุณ : คุณอ่อง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:19:11

ความคิดเห็นที่ 46 ดีใจบ้านเราไม่มีภูเขาไฟที่จะระเบิด แบบนี้ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:21:29

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามายินยอมเสียกิฟ เห็นควรด้วยว่า เอาแนวปะการังมาลง อิอิ   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : วัตถุต้องสงสัย เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:25:44

ความคิดเห็นที่ 48 อารมณ์เหมือนเป็นสิวอักเสบ พอมันแตกก็เป็นแบบนั้น ที่ฮาวายแย่หน่อย สิวอักเสบห้าสิวมารวมกัน เจ็บปวดอย่าบอกใคร จากคุณ : ด๋อยด๋อย เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:46:37

ความคิดเห็นที่ 49 โอเคครับผมก็บ้ายอเป็นนะ..รอแนวปะการังกระทู้หน้าเร็วๆนี้...ตอนนี้เตรียมข้อมูลอยู่ครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:22:18

ความคิดเห็นที่ 50 อยากจะลองเอามือไปจับลาวาสักครั้ง.. ถ้าได้จับ ก็คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจริงๆแหละนะ ^0^ ขอบคุณสำหรับภาพ และความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : Assorted เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:30:21

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบ รูป ที่ ความคิดเห็นที่ 9 ค่ะ สวยดี จากคุณ : ทุ่งข้าวเขียวขจี (MajestyLove) เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:15:37

ความคิดเห็นที่ 52 อยู่สงขลาค่ะ ตอนปินาตูโบระเบิด เถ้ามันลอยมาถึงเลย ชายหาดก็มีหินภูเขาไฟ (เล็กบ้างใหญ่บ้าง) ลอยมาเต็ม หมอกจากเถ้าปกคลุมอยู่นานมาก จากคุณ : น้ำเต้าหู้ห้าถุง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:22:19

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณจากใจ จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:02:40

ความคิดเห็นที่ 54 ภาพสวย เนื้อหาดีครับ ปล. เพิ่มเติมนะครับ เดี๋ยวนี้การทำ pumish polishing บนผ้า denim ด้วยหินพิวมิสนั้นลดลงมากแล้วครับ เพราะว่ามันก่อความเสียหายให้กับชิ้นวัสดุ และเครื่องจักรได้ครับ ดังนั้นจึงมีการนำ Cellulase enzyme เข้ามาทำการขัดยีนส์ที่เป็นผ้า denim ร่วมด้วยครับ ทำให้ลดปริมาณการใช้งานหินพิวมิสลงในอุตสาหกรรมการฟอกยีนส์ซึ่งประมาณการได้ 50-75% เลยครับ ซึ่งกระบวนการที่ใช้ cellulase enzyme มาทดแทนหินพิวมิสว่า "Biopolising" ครับ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:22:09

ความคิดเห็นที่ 55 ภาพสวยค่ะ โดยเฉพาะคห.34 รอติดตามepisodeต่อไปอยู่นะคะ จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:39:29

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 11:01:52

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จากคุณ : Kaoru_LH เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:55:34

ความคิดเห็นที่ 58 อยากบอกว่าปกติไม่ได้เล่นห้องนี้ แต่เข้ามาอ่านช่วงที่มีข่าวเรื่องคนงานเหมืองที่ชิลี มีอยู่วันนึงเปิดเข้ามาเจอกระทู้ของคุณ jayaus เป็นกระทู้แนะนำ เราก็เข้าไปอ่านและก็ตามอ่านมาเรื่อยๆ แค่ดูรูปที่คุณ jayaus เอามาลงก็ตื่นตาตื่นใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ และก็เห็นด้วยกับความเห็นบนๆที่อยากดูแนวปะการังบ้าง ความจริงคืออยากเห็นแนวๆใต้ท้องทะเล รอยแยกทะเลอะไรประมาณนั้นด้วย อิอิ อ่าน+ดูภาพตามแล้วสนุกมากค่ะ หลายๆอย่างไม่เคยรู้มาก่อนเลย ^^ จากคุณ : นางสาวต้องมนต์ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:50:33

ความคิดเห็นที่ 59 เยี่ยมเลยครับ จากคุณ : สาเล็ก เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:59:15

ความคิดเห็นที่ 60 ตามมาดู จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 18:21:08

ความคิดเห็นที่ 61 . . . WOWWWWWWWWWWWWWWWWWWW   ^^ . . . จากคุณ : Monkey@CNX เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:06:10

ความคิดเห็นที่ 62 ผมก็ตามมาจาก ภูเขาไฟ มหันตภัย มหัศจรรย์เช่นกันครับ   ^ ^ สำหรับข้อมูลเรื่องหินพัมมิส(ตอนแรกผมก็ไม่กล้าเรียกนะว่ามันหินพัมมิสหรือภูไมซ์)สำหรับระบบกรองตู้ปลานั้นไม่ได้เป็นวัสดุกรองแห่งอนาคตแล้วครับ   แต่ปัจจุบันนี้ก็ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งตู้ที่ห้องผมด้วยครับ   ^ ^ จากคุณ : siLvan เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:27:12

ความคิดเห็นที่ 63 ทำไมมันเวลาระเบิด ต้องเกิดฟ้าผ่าด้วย จากคุณ : 4 NOBLE THUST เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:40:07

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณที่เอาความรู้มาแบ่งปันครับ ทะเลสาบที่เกิดบนปากปล่องภูเขาไฟ คงไม่มีสัตว์น้ำหรอกใช่มั้ย จากคุณ : มนุษย์เพลิง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:09:36

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณทุก ค.ห.นะครับ..จะพยายามหาเรื่องที่น่าสนใจมานำเสนอครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:25:15

ความคิดเห็นที่ 66 จะรออ่านกระทู้ต่อไปครับ จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:33:12

ความคิดเห็นที่ 67 มาเสริมเรื่อง หินพัมมิส (pumice) ครับ หินชนิดนี้นักเลี้ยงไม้น้ำ จะรู้จักเป็นอย่างดี และดีที่สุด ^^ หลายท่านเคยเลี้ยงปลา ที่มัน กินแล้วก็ต้อง ขี้ ซึ่ง นักเลี้ยงไม้น้ำ จะมีปัญหามากเมื่อน้ำสกปรก แล้วอะไรละที่จะช่วยให้น้ำสะอาด ปลากินขี้ปลาหรอ ให้ตายเหอะมันไม่มีหลอกครับ ให้เราๆท่านๆไปกินขี้ใครมันจะกิน ปลาที่เรานึกว่าจะกินขี้ที่จริงมันกินเศษอาหารที่ปลาเรากินไม่หมดตะหาก แล้วอะไรที่จะกินขี้ปลาละ มีครับ แบคทีเรียงัย ^^ แล้วหินพัมมิสเนี้ยแหละ มันจะมีรูพรุนเยอะมาก เหมาะให้แบคทีเรียตัวน้อยนิดอาศัย และกำจัดของเสียในตู้ปลา จากคุณ : Nioka เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:57:57

ความคิดเห็นที่ 68 ตามมาจากกระทู้แรก อิอิ จากคุณ : Paranoid Android เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 00:13:53

ความคิดเห็นที่ 69 เยี่ยมมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : oro เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 20:10:01

ความคิดเห็นที่ 70 ของไทยก็มีครับ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งไงครับ http://maps.google.com/maps?t=h&q=14.531389,102.942222&ie=UTF8&ll=14.535733,102.947388&spn=0.040129,0.084543&z=14 จากคุณ : joejo99 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 00:38:38

ความคิดเห็นที่ 71 ผมเพิ่งตั้งกระทู้ใหม่ใครยังไม่อ่านเเวะเข้าไปเยี่ยมได้ครับเรื่องอะไรลองตามไปดูกัน http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9855904/X9855904.html แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 05:17:20 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 05:16:40

ความคิดเห็นที่ 72 ธรรมชาตินี่น่ากลัวนะคะ  เราเป็นผู้อาศัยธรรมชาติเท่านั้นเอง ขอบคุณ จขกท ค่ะ  ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : Sunday_Time เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 18:31:19

ความคิดเห็นที่ 73 #29 Windows กับ Mac ขั้นกลางด้วยภูเขาไฟนี่เอง จากคุณ : Zerael เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 01:24:30

ความคิดเห็นที่ 74 เป็นกระทู้ ที่ทำให้ผมรู้ว่า โลกเรากว้างจริงๆครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : thecanx เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 03:24:30

ความคิดเห็นที่ 75 เข้ามาขอบคุณ..ทุก ค.ห.อีกทีที่เข้าชมและแสดงความคิดเห็นต่อยอดและมีสาระในหลายๆอย่าง....ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะหาเรื่องราวที่มีประโยชน์ และน่าสนใจมานำเสนอ.. แต่ขอแจ้งความเคลื่อนไหวส่วนตัวนิดนะครับอีก 2 อาทิตย์ผมจะไปพักร้อนเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย(พักผ่อนเที่ยวด้วย)เกือบ2เดือนก็อาจจะห่างหายไปสักระยะ..ช่วงนี้มีเวลาก็เลยรีบปั่นกระทู้..แต่ก็รีบไม่ได้หรอกเพราะเวลาตั้งกระทู้แล้ว..ข้อมูลเนื้อหาและภาพประกอบมันเพิ่มมาทุกที.เพราะส่วนมากผมจะหามาจากเวปของฝรั่งซึ่งเป็นเวปที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกแล้วมาแปลอีกทีมันก็ต้องใช้เวลาหลายขั้นตอน(ของไทยเราก็ดีนะครับไม่ได้ยกย่องฝรั่งทุกเรื่อง).อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้ทั้งความรู้และเพลิดเพลินที่สำคัญคือความถูกต้องเที่ยงตรง ...ใครทำพวกนิตยสารหรือหนังสือสนใจอยากรับผมทำงานหรือเป็นConnectionด้วยบอกนะครับ.(ไม่ซีเรียสนะถ้ามีก็ดี).แต่ขออนุญาตทำจากออสเตรเลียนะครับ... แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 11:54:32 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 04:57:11

ความคิดเห็นที่ 76 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 21:12:55