ความคิดเห็นที่ 1 ขุดคลองไทยแล้วประเทศไทยจะได้อะไร เขียนโดย รศ.ดร. สถาพร เขียววิมล BSIE. (University of Oklahoma) MSIE. (New Jersey Institute of Technology) Dr.Ing. (Universite De Nice) France คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขุดคอคอดกระ วุฒิสภา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ยุติธรรม และ สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา คลองไทยเกิดขึ้นเมื่อใดจะเป็นคลองเดินเรือหลักของโลก คลองไทยจะเป็นธงนำเศรษฐกิจของประเทศที่มั่นคง ประเทศไทยตั้ง อยู่บนทวีปเอเชียอาคเนย์ อยู่ระหว่างกลางของประเทศต่างๆ ที่มีประชากรมากที่สุด ทวีปเอเชียมีประชากรมากถึง 2 ใน 3 ของโลก จากประชากรทั้ง โลกมีประมาณ 6,200 ล้านคน จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 13:49:22

ความคิดเห็นที่ 2 โดยทำเลที่ตั้ง ของประเทศไทยมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ตั้ง อยู่บนแนวเส้นทางเดินเรือของโลก เรือขนส่ง สินค้าต่างๆ ที่มาจากทางทิศตะวันตกทางฝั่งอันดามัน เป็นเรือจากประเทศในทวีปยุโรป และประเทศทาง ตะวันออกกลางที่จะเดินทางไปยังประเทศทางทิศตะวันออกทางด้านฝั่งอ่าวไทย เช่น ประเทศเขมร ประเทศเวียดนาม ประเทศจีน ประเทศฮ่องกง ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี และประเทศไต้หวัน หากมีคลองไทย เรือเหล่านี้จะไม่ต้อง แล่นเรืออ้อมไปถึงประเทศสิงคโปร์ ไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา และยังสามารถย่นระยะทางได้ 1,000 - 1,400 กิโลเมตร หรือย่นระยะเวลาได้ 2-3 วัน ดังนั้น ถ้าหากประเทศไทยจะใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในทางภูมิศาสตร์ ของประเทศ คลองไทยจะเป็นเส้นทางลัดของการเดินเรือจากทั่วโลก จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินเรือทั้ง หมด ที่มาผ่านคลองไทยแต่ละปีหลายแสนล้านบาท ผลดีเมื่อเรือมาใช้เส้นทางเดินเรือผ่านคลองไทย จะเป็นการช่วยลดการใช้นำ้ มันสำรองของโลกลงได้หลายหมื่นล้านบาร์เรลต่อปี นอกจากนี ้ ยังเป็นการช่วยลดมลภาวะอากาศเสียของ โลกลงได้อย่างมาก เป็นผลดีต่อการลดภัยพิบัติทางธรรมชาติจากปัญหาสภาวะเรือนกระจก (Green House Effect) จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 13:50:34

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่2ยุติ ไทยรับเงื่อนไขของอังกฤษที่จะไม่ขุดคอคอดกระ สนธิสัญญากับอังกฤษหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชื่อว่าความตกลงสมบูรณ์แบบ เพื่อยุติภาวะสงครามระหว่างสยาม อังกฤษ และอินเดีย (Formal Agreement for the Termination of the State of War between Siam and Great Britain and India) ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2489 โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญดังนี้คือ1. ไทยจะต้องคืนดินแดนทั้ง 4 รัฐในมลายู คือ กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปะลิส2. ไทยรับรองว่าจะไม่ขุดคอคอดกระเพื่อเชื่อมมหาสมุทอินเดียวกับไทย โดยมิได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอังกฤษ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 14:30:19 จากคุณ : ป้าหนูดา เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 13:59:12

ความคิดเห็นที่ 4 ความได้เปรียบในทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่บนทำเลทองของโลก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศ สิงคโปร์ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กแล้ว ประเทศไทยยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่เหนือกว่าประเทศสิงคโปร์มาก จากความ ได้เปรียบของประเทศไทยที่อยู่ในแนวเส้นทางเดินเรือของโลก ทำให้เรือที่ผ่านคลองไทยย่นระยะเวลาได้ถึง 2 - 3 วัน แต่ด้วยความชาญฉลาดของประเทศสิงคโปร์ และมีผู้นำที่เสียสละ มีความสามารถทำให้ประเทศ สิงคโปร์ร่ำรวยได้จากการใช้ทำเลที่ตัง้ ของประเทศสร้างผลประโยชน์ เมื่อเรือผ่านช่องแคบมะละกา จะต้องแวะใช้ บริการที่ท่าเรือของประเทศสิงคโปร์ สร้างความร่ำรวยมากมายให้กับประเทศสิงคโปร์อยู่ในทุกวันนี ้ ปัจจุบันคน สิงคโปร์ 1 คนมีรายได้เท่ากับคนไทย 10 คน ประเทศไทยขุดคลองไทยได้สำเร็จเมื่อใด ก็จะสร้างผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจต่อประเทศได้อย่าง มหาศาล ถึงแม้น้ำ มันของโลกจะหมดไปก็ตาม แต่การขนส่งสินค้าทางเรือก็จะยังคงความสำคัญ ต่อการขนส่ง สินค้าของทุกประเทศทั่วโลก หากคลองไทยเกิดขึน้ บริเวณพืน้ ที่บนสองฝั่งคลองไทยก็จะกลาย เป็นเมืองเศรษฐกิจบนเส้ นทางเดินเรือของโลก กระแสการเงินจากเงินตราต่างๆ จากประเทศทั่วโลก จะหมุนเวียนสะพัดและไหลเข้าประเทศไทยมากมาย เช่นเดียว กับเมืองท่าที่สำคัญต่างๆ ของโลก คลองไทยจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทางภาคเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่าง มหาศาล ทันทีที่ประเทศไทยสร้างคลองไทยได้สำเร็จ จะมีการสร้างงานที่ยั่งยืนตามมามากกว่า 2 ถึง 3 ล้านงานได้ อย่างถาวร จะก่อผลประโยชน์มากมายถึงลูกถึงหลานของไทยนานเท่านานตลอดไป กลุ่มประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ จะได้รับผลประโยขน์จากคลองไทยยังปลอดภัยจากปัญหาโจรสลัด เพราะไม่ต้องอ้อมผ่านเข้าช่องแคบมะละกา จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:00:58

ความคิดเห็นที่ 5 แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 14:01:55 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:01:09

ความคิดเห็นที่ 6 หากประเทศไทยสร้างโครงการคลองไทย ได้สำเร็จจะทำให้เกิดเส้นทางเดินเรือโลกใหม่ เรือต่างๆ จาก ประเทศในทวีปยุโรปและจากทางประเทศตะวันออกกลางจะแล่นตรงมายังฝั่งอันดามัน ข้ามคลองไทยมายังฝั่งอ่าว ไทยที่จะไปยังประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไต้หวัน ประเทศเกาหลีใต้ ฯลฯ ได้โดยไม่ต้องอ้อมไปยังช่องแคบทั้ง3 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:03:07

ความคิดเห็นที่ 7 จากเหตุผลหลายอย่าง เรือขนส่งสินค้าต่างๆ จากประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะเรือที่วิ่งระหว่างมหาสมุทร อินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก จะต้องการนำเรือผ่านคลองไทย เพราะประหยัด ปลอดภัย เจ้าของบริษัทเดินเรือต่างก็ ต้องการลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด ยกเว้นบริษัทเดินเรือของประเทศสิงคโปร์เท่านัน้ (มิตรประเทศเพื่อนบ้าน) เพราะ เรือที่มาผ่านคลองไทยมีแต่ได้ไม่มีเสีย เรือขนาด 200,000 DWT (DWT คือนำ้ หนักเรือเปล่าหน่วยเป็นเมตริก) จ่าย ค่าผ่านคลองไทยครัง้ ละ 20 ล้านบาท ประหยัดกว่าเส้นทางเดิม 2 - 5 เท่าในแต่ละเที่ยว บริษัทเดินเรือพร้อมจ่ายอยู่ แล้ว ดังนัน้ ความสงสัยที่ว่า เมื่อประเทศไทยขุดคลองไทยสำเร็จแล้ว จะมีเรือเรือจากต่างประเทศมาใช้คลองไทยหรือ ไม่ มีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว สำหรับบรรดาผู้เป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือทั่วโลก จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:16:31

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงวันนี้ ไม่คุ้มโดยสิ้นเชิงแล้ว ไม่ต้องอ้างสิงค์โปร์อะไรหรอกนะ แต่ขุดปั๊บ คนถูกหวย กลายเป็นโฮจิมินห์ ทันที จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:18:57

ความคิดเห็นที่ 9 บริเวณช่องแคบมะละกา มีปัญหาอุบัติเหตุและปัญหาโจรสลัด จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:19:36

ความคิดเห็นที่ 10 คลองไทยจะเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักให้กับประเทศไทย คลองไทยจะส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้เป็นรายได้หลักของประเทศเหมือนประเทศอียิปต์ที่มีคลองสุเอช ประเทศปานามามีคลองปานามา คลองไทยมีศักยภาพให้เรือผ่านได้มากที่สุดในโลก ปัจจุบันมีเรือที่มีขนาดใหญ่ กว่า 500 WDT (DWT คือ นำ้ หนักเรือเปล่าหน่วยเป็นเมตริก) ขึน้ ไปมีประมาณกว่า 30,000 ลำ ใช้บริการขนส่งใน ท้องทะเลระหว่างประเทศทั่วโลก สำหรับในปัจจุบันมีคลองที่เรือระหว่างประเทศทั่วโลกใช้ผ่านได้ ขณะนีมี้อยู่ ประมาณ 22 คลอง คลองที่หลายท่านรู้จักกันมากที่สุดคือ คลองสุเอชและคลองปานามา จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:22:06

ความคิดเห็นที่ 11 แนวคลองไทยและรูปแบบ มีลักษณะเป็นคลองคู่ขนาน สำหรับคลองไทยแนวคลอง 9A ความยาวคลอง 120 - 130 กิโลเมตร คลองไม่มีระบบประตูนำh ปิดเปิดแบบ คลองสุเอช จากการคำนวณคลองไทยจะสามารถรองรับเรือได้ประมาณวันละ 400 ถึง 450 ลำต่อวันในทางทฤษฎี ส่วนในทางด้านปฏิบัติจริง ผมคาดว่าคลองไทยให้บริการได้ประมาณวันละ 300 -350 ลำต่อวัน คลองไทยก็มากแล้ว ส่วนรูปแบบของคลองไทยจะเป็นคลองคู่ขนาน โดยกำหนดให้คลองหนึ่งเป็นคลองสำหรับเรือแล่นเที่ยวขาไป และอีก คลองหนึ่งแล่นเที่ยวขากลับ คลองไทยสามารถให้เรือผ่านได้มากกว่าจำนวนเรือที่ผ่านคลองสุเอชรวมกับคลอง ปานามาประมาณ3 เท่าต่อวัน จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:22:53

ความคิดเห็นที่ 12 แสดงลักษณะภูมิประเทศของคลองปานามา ประเทศปานามา จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:24:28

ความคิดเห็นที่ 13 แสดงลักษณะภูมิประเทศของคลองสุเอช ประเทศอียิปต์ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:25:50

ความคิดเห็นที่ 14 เส้นทางเดินเรือของไทย จากฝั่งอ่าวไทยไปยังฝั่งอันดามันปัจจุบัน จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:30:59

ความคิดเห็นที่ 15 คลองไทยขยายโอกาสทางด้านการประมงไทย คลองไทยจะขยายโอกาสให้ชาวเรือประมงไทยมีท้องทะเลหาปลาได้มากขึน้ ที่ได้ประโยชน์จากน่านนำ้ สากล ของไทยE EZ2 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:32:13

ความคิดเห็นที่ 16 คลองไทยจะนำความเจริญสู่ภาคใต้ และแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบยั่งยืน สองฝั่งคลองไทยจะกลายเป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองเศรษฐกิจจะมีประชาชนจากทั่วประเทศเป็นล้านคนไป ทำงานที่นั่น เหมือนเมืองท่าที่สำคัญหลายๆ แห่งทั่วโลก ด้วยในศักยภาพของทำเลที่ตัง้ ทางภูมิศาสตร์ของคลองไทยที่ อยู่ในแนวเส้นทางเดินเรือโลก หากรัฐมีนโยบายให้เป็นพืน้ ที่เพื่อพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่างประเทศจีนจะ ยิ่งเร่งความเจริญเหมือนเมือง Pudong เมื่อประมาณปี พ .ศ. 2530 ยังมีสภาพเป็นท้องนา ใช้เวลาพัฒนาจากท้องนา ประมาณ 15 ปี คลองไทยจะเป็นแหล่งสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในพืน้ ที่ และคนไทยทัง้ ประเทศได้อย่างมากมายมหาศาล บริเวณสองฝั่งคลองไทยจะกลายเป็นเมืองใหญ่ทำให้คนไทยทั่วทัง้ ประเทศไม่น้อย กว่า 3 - 4 ล้านคน ไปทำงานสร้างความเจริญให้กับภาคใต้ คนไทยเหล่านีจ้ ะเป็นรัว้ ปกป้ องคุ้มครองแผ่นดินไทยได้ เป็นอย่างดี โดยจะไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดๆ ที่จะสามารถต้านทานยับยัง้ ได้ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:34:56

ความคิดเห็นที่ 17 ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาของสิ่งแวดล้อมความสำคัญอยู่ที่การบริหารการจัดการ ปัญหาที่จะเกิดจากเรือต่างๆ ที่มาผ่านคลอง เราสามารถวางมาตรการควบคุมเรือที่จะมาใช้คลองไทย เพื่อป้ องกันของเสียจากเรือที่มาใช้คลองไทยได้มากกว่า การ เกิดปัญหาจากสิ่งแวดล้อมของเมืองที่จะตามมาซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องนำมาพิจารณาพร้อมกับการดำเนินโครงการ คลองไทยโดยมีการวางผังเมืองที่สมบูรณ์แบบวางผังเมืองเชิงป้ องกันปัญหา ที่ป้ องกันได้ เช่น ระบบสาธารณูปโภคต่างๆการวางผังเมืองแบบพัฒนาดำเนินไปคู่ขนานกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในทางปฎิบัติจริงสามารถศึกษาของ จริงจากเมืองสำคัญได้ทั่วโลก *การระมัดระวังปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าหลงประเด็นจนทำให้ ประเทศชาติต้องเสียหายหรือเสียโอกาส จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:35:59

ความคิดเห็นที่ 18 แสดงตำแหน่งคลองหลักของโลก คลองสุเอช คลองปานามา และคลองไทย จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:37:19

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปขุดคลองไทยแล้วประเทศไทยจะได้อะไร 1. คลองไทยจะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก 2. คลองไทยจะสามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. คลองไทยจะเป็นเสมือนสายธารขนาดใหญ่เชื่อมสองฝั่งทะเลไทย 4. ด้านความมั่นคงของประเทศคลองไทยจะเสริมสมุททานุภาพ 5. ทางด้านการประมงจะขยายโอกาสทำให้เรือประมงไทย 6. คลองไทยลดพื้นที่ยากจน 7.คลองไทยจะเพิ่มบทบาทให้กับประเทศไทยได้รับประโยชน์ 8. ประเทศไทยจะผลิตน้ำ มันโดยมีต้นทุนถูกกว่าประเทศสิงคโปร์ 9. คลองไทยจะช่วยประหยัดค่าขนส่งสินค้าทางเรือ 10. คลองไทยจะทำให้ประเทศไทยมีบทบาทที่สำคัญ 11. คลองไทยจะช่วยลดปัญหาเรือนกระจก ย่นระยะทางการเดินเรือ 12. เศรษฐกิจไทยยุคไร้พรมแดน จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:38:05

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อประมาณ 20 กว่าปี ที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้านของเราหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศอินเดีย ประเทศเกาหลีใต้ เคยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทย แต่ตอนนี้กำลังจะกลายมาเป็นพ่อค้ารายใหญ่ของไทย ต่อไปอาจ จะเป็นประเทศเวียดนาม ประเทศเขมร ประเทศลาว หรือประเทศพม่า เพราะประเทศดังกล่าวยังมีต้นทุนด้านแรงงาน ต่ำและทรัพยากรทางธรรมชาติยังมีอยู่มาก ซึ่งตอนนี้มีประเทศบางประเทศที่ร่ำรวยแต่ไม่มีทรัพยากรในประเทศมาก นัก ได้ไปลงทุนผลิตสินค้าทางด้านการเกษตรใน 4 ประเทศดังกล่าว ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมาผลิตสินค้าด้าน เกษตร (GMO) ขายแข่งกับประเทศไทยต่อไปก็ได้ แต่สำหรับประเทศมาเลเซียตอนนี้ความเจริญแซงหน้าประเทศไทย ไปนานแล้ว จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:39:38

ความคิดเห็นที่ 21 ดังนั้น โครงการคลองไทยจึงเป็นความหวังและโอกาสของประเทศที่จะใช้เป็นธงนำสร้างความ เข้มแข็งทาง เศรษฐกิจและทางการเมืองของไทยได้ เป็นบุญของแผ่นดินไทยจริงๆ ที่มีทำเลที่วิเศษ เป็นทรัพยากรที่ใช้ไม่มีวัน หมด ณ วันนี้ถึงเวลาหรือยังที่เราน่าจะให้ข้อมูลดังกล่าวกับประชาชน ได้มีส่วนร่วมรับรู้ รับทราบ และ มีส่วนร่วม ในการตัดสินใจกับโครงการนี้กันเสียทีว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะก่อให้เกิดประโยชน์หรือความเสียหายมากกว่ากัน ****************************************************** ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=10513 http://www.khlong-u-taphao.com/index.php?file=topic&forum_id=news&cat_id=07&obj=forum.view(cat_id=07,id=88) http://www.ninekidd.com/index.php?mo=3&art=287244 จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:41:14

ความคิดเห็นที่ 22 โครงการนี้คงถูกแทนที่ด้วย 'แลนด์บริดจ์' ไปแล้วครับ เพราะอาจไม่มีความจำเป็นจะต้องขุดคลองอีกแล้ว ลองหาดูข้อมูล โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ได้ครับ จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:46:54

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้ของผม จะได้เห็นไหม? จากคุณ : สองแสนทองสิบบาท เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:48:16

ความคิดเห็นที่ 24 แนวทางเลือกทางรถไฟเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือน้ำลึกปากบารากับท่าเรือสงขลา 2 สำหรับทั้ง 4 แนวทางเลือกเส้นทางรถไฟดังกล่าว ประกอบด้วย (ดูแผนที่ประกอบ) แนวเส้นทางเลือกที่ 1 : ปากบารา – รัตภูมิ – ควนเนียง – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ระยะทาง 107.4 กิโลเมตร เขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ระยะทาง 53.2 กิโลเมตร ระยะทางรวม 160.6 กิโลเมตร แนวเส้นทางเลือกที่ 2 : ปากบารา – รัตภูมิ – หาดใหญ่ – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ระยะทาง 112.6 กิโลเมตร เขตทางรถไฟเดิมของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ระยะทาง 26.5 กิโลเมตร ระยะทางรวม 139.1 กิโลเมตร แนวเส้นทางเลือกที่ 3 : ปากบารา – ควนกาหลง – คลองหอยโข่ง - บ้านพรุ – จะนะ โดยเป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินทั้งหมด ระยะทาง 133.3 กิโลเมตร แต่ต้องมีการขุดอุโมงค์ลอดเทือกเขาบรรทัด ระยะทาง 8 กิโลเมตร แนวเส้นทางเลือกที่ 4 : ปากบารา – ควนกาหลง – สะเดา – จะนะ เป็นเขตทางรถไฟใหม่ที่ต้องมีการเวนคืนที่ดินทั้งหมดเช่นกัน ระยะทาง 131.9 กิโลเมตร แต่ต้องมีการขุดอุโมงค์ลอดเทือกเขาบรรทัด ระยะทาง 8 กิโลเมตร จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:49:14

ความคิดเห็นที่ 25 แผนที่แสดงความเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำ จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:50:42

ความคิดเห็นที่ 26 อย่าขุดเลย ทำรถไฟ หรือถนนดีกว่า จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:51:45

ความคิดเห็นที่ 27 รอคนรุ่นใหม่ มาเป็นนักการเมือง ใกล้แล้ว ใกล้วิบัติ จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:53:10

ความคิดเห็นที่ 28 # 24 ผมว่าไอ้โครงการ'แลนด์บริดจ์' น่าจะให้เงินลงทุนสูงกว่ามากครับ ไหนจะเจอะอุโมงลอดเขาอีก แล้วไหนยังต้องเสียเวลาเอาสินค้าลงจากเรือใส่รถไฟซึ่งก็รับน้ำหนักได้จำกัดอีก ค่าระวางคงแพงกว่าเอาเรือแล่นผ่านคลองเป็นแน่แท้ จากคุณ : DEVIL PHOENIX เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:54:23

ความคิดเห็นที่ 29 แนวทางการพัฒนาถนนเชื่อมโยงกับท่าเรือปากบารา จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:54:43

ความคิดเห็นที่ 30 คห.28  เห็นในข่าวบอกว่า ระยะที่ 1 (2553-2558) มูลค่า 1.14 หมื่นล้านบาท ครับ (น่าจะเฉพาะตัวท่าเรือ) จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 14:58:13

ความคิดเห็นที่ 31 ทั้งโครงการมี 3 เฟส จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:02:28

ความคิดเห็นที่ 32 ทางเข้าท่าเรือ จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:03:00

ความคิดเห็นที่ 33 ตัวท่าเรือ จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:03:21

ความคิดเห็นที่ 34 ลืมรูป จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:03:50

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อ จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:04:21

ความคิดเห็นที่ 36 ต่อ 2 จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:04:49

ความคิดเห็นที่ 37 ที่มา http://www.oknation.net/blog/independentbai/2010/06 http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=966644 จากคุณ : -=นามไร้ชื่อ=- เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:06:36

ความคิดเห็นที่ 39 ลง ทุนน้อยกว่าไหม ถ้าลงทุน ระบบ รางเชื่อมสองทะเล จากคุณ : โลกต้องตะลึง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 15:37:48

ความคิดเห็นที่ 40 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:01:49

ความคิดเห็นที่ 41 1. ปานามา หรืออียิปต์ มีสภาพเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศไทยหรือ? 2. มีใครซักกี่คนรู้ว่า บริเวณคาบสมุทรไทยมีความสำคัญด้านนิเวศวิทยาระดับภูมิภาค เป็นจุดเชื่อมของระบบนิเวศอินโดจีน และซุนดา บริเวณฝั่งอันดามันเพิ่งมีการค้นพบปรากฏการณ์กำแพงกั้นระบบนิเวศทางน้ำ ทำให้สิ่งมีชีวิตอันดามันเหนือและอันดามันใต้เป็นคนละกลุ่มกัน เหล่านี้ยังรอการศึกษาอีกมาก 3. การขุดคลองทำให้เกิดกรเปลี่ยนแปลงกระแสน้ำแน่นอน ถ้าไม่ศึกษาให้ดี กรุงเทพฯอาจจมเร็วกว่านี้เนื่องจากกระแสน้ำเซาะฝั่ง 4. ภูเก็ตเป็นจังหวัดเดียวใน Top10 จังหวัดที่มีผลผลิตต่อหัวสูงสุด ที่ไม่ใช่จังหวัดอุตสาหกรรม คงบอกได้ถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวอันดามัน มองกลับไปในอดีตที่มีการทำเหมืองแร่ดีบุก หาดทรายฝั่งตะวันออกของภูเก็ตพังไม่เหลือเลย เพราะผลของตะกอน ลองนึกภาพตะกอนที่เป็นผลมาจากการขุดและการเดินเรือดู 5. สิ่งมีชีวิตในทะเลเมดิเตอเรเนียนสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 100 ชนิด หลังโดนสิ่งมีชีวิตจากทะเลแดงรุกราน สิ่งที่ประเทศไทยได้จากการขุดคลอง อาจประเมินเป็นตัวเลขได้ แต่สิ่งที่จะเสียนี่สิ ประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้หรือเปล่า จากคุณ : ชาลีฟ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:04:50

ความคิดเห็นที่ 42 เสียใจด้วย โครงการแลนด์บริดจ์ โดย NGO ต่อต้านเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รัฐบาลตัดสินใจไม่สร้างแล้ว จากคุณ : 532 (hoopo) เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:25:40

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่า Land Bridge ก็ดีนะครับ อย่างน้อย ๆ โครงการต่าง ๆ ก็ถูกขัดขวางได้น้อยกว่า เพราะประเทศเพื่อนบ้านก็ยังคงมีผลประโยชน์อยู่ ถึงจะมากมากเหมือนเดิมก็เหอะ  เพราะหากว่าเป็นเรือสินค้าที่ไม่ต้องการความรวดเร็ว ก็ให้ไปอ้อมที่สิงคโปรก็ได้ แล้วอีกอย่าง รถไฟก็เดินทางได้เร็วกว่าเรือครับ สำหรับคลองเรือวิ่ง มันคงซิ่งไม่ได้เป็นแน่แท้ ถ้าทำระบบถนนเชื่อมสองฝั่งทะเลชนาดหลาย ๆ เลน เอาประมาณว่า ข้างละ 6 เลนก็โอเคนะครับ (แต่ทางวิ่งต้องได้มาตรฐานนะครับ ไม่ใช่วิ่ง ๆ ไปถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็แย่กันพอดี มีระบบรางเป็นรถไฟแบบ Heavy Duty แล้วมีระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสองฝั่งทะเล สำหรับนักท่องเที่ยว ลูกเรือ นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปใช้บริการ มีรถทัวร์เป็นทางเลือกในการเดินทาง คิดดูว่าโหลดสินค้าฝั่งไทย ลงรถไฟ หรือรถบรรทุก กว่าจะยกของเสร็จ อย่างน้อย ๆ ก็ขายของให้ลูกเรือ กัปตัน และนักธุรกิจได้แล้ว แถมหากว่าเส้นทางการเดินเรือของแต่ละบริษัทมีหลาย ๆ เส้นทาง ก็ขนของลงแล้วก็ใส่เรือเส้นทางอื่น ๆ ไปได้อีก สมมติว่า ผมมีเส้นทางส่งของจากเวียดนามไปอินเดีย ถ้าเมื่อก่อนผมต้องไปแวะที่สิงคโปรก่อน แล้วถึงไปอินเดียได้ แต่ตอนนี้ผมก็เอาของมาโหลดที่ไทย แล้ววิ่งข้ามฝั่งไปขึ้นเรือที่จะไปอินเดียก็ได้ หรือหากมีสินค้าอื่น ๆ ก็ไปโหลดขึ้นเรือลำอื่น ๆ (บริษัทอื่น ๆ ที่ทำสัญญาไว้) เช่น ออสซี่ หรือจะให้วิ่งข้ามฝั่งไป แล้วไปต่อเรือไปยังประเทศอื่น ๆ อีกก็ได้ เช่นอินโดนีเซีย นาธาน...เอ๊ยโอมาน หรือประเทศทางตะวันออกกลางได้หลายประเทศ พูดง่าย ๆ ว่าเหมือนป้ายรถเมล์เอาไว้ต่อรถแหล่ะครับ ผมไม่จำเป็นต้องมีเส้นทางของตัวเอง แต่สามารถเซ็นสัญญากับพันธมิตร (ไม่ใช่เสื้อเหลืองนะ) เพื่อเพิ่มเส้นทางการเดินเรือได้อีกโข แล้วไม่ต้องกลัวโจรสลัดด้วย ประโยชน์เยอะแยะไปหมด แต่เมื่อประโยชน์เยอะ ความเห็นแก่ตัวของคนมีเงินก็มาก ดังนั้น...รอต่อไป จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:25:58

ความคิดเห็นที่ 44 NGO มีทั้งที่ดี และไม่ดี แต่ปัจจุบัน มีแต่ NGO รับจ้างทั้งนั้น ดีแต่ค้าน แต่ไม่หาทางออกร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรดี มีแต่ชั่งน้ำหนักว่า ที่เขาคิดมา กับผลเสียที่ได้รับอันไหนมากกว่า แต่ไม่เสนอวิธีแก้ไขให้ปัญหามันน้อยลง หรือได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่าไหร่ จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:29:10

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าขุดแล้วมันทำให้ชิวิตความเป็นอยูดีขึ้นก็ขุดไปเถอะ ตัวอะไรมันจะสูญพันธุ์ไปบ้างก็ช่างมันเหอะ กินก็ไม่ได้ จะดูแต่ละทีก็ลำบาก แลกผลประโยชน์ระดับแสนล้านมองเหลี่ยมไหนก็คุ้ม ด้านความมั่นคง สมัยนี้เค้าก็รบกันด้วยเศรษฐกิจแล้ว แทบไม่มีโอกาสจะมาจับปืนยิงกันจริงๆจังหรอกมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง จากคุณ : สกัดดาวรุ่ง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:39:03

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่า ขุดยากครับ land bridge ง่ายกว่า เพราะการขุดมีกลุ่มประเทศเสียผลประโยชน์มากครับ และอาจจะเป็นต้นเหตุการก่อการร้ายภาคใต้ด้วยครับ จากคุณ : zerothorder เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:40:29

ความคิดเห็นที่ 47 ขุดคลองล้าสมัยแล้ว เอา landbridge กับรถไฟความเร๋วสูงดีกว่า  เดี๋ยวนี้ ระบบขนส่งทางบกไปไกลแล้ววว ทำได้เร็วและง่ายกว่าเยอะ  ขุดคลองยังไงก็แพง ระดับน้ำไม่เท่ากันต้องมาทำประตูน้ำให้อีก จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 17:54:11

ความคิดเห็นที่ 48 ขอรายงานความคุ้มค่าทางเศษรฐกิจหน่อยสิ อ่านที่เขาวิเคราะห์ ก็บอกว่าไม่คุ้ม เดินเรืออ้อมสิงคโปร์ เสียน้ำมันเท่าไหร่ เสียเวลากี่วัน ถ้าขุดคลอง ถามว่าลงทุนเท่าไหร่ แล้วเก็บค่าผ่านทางเท่าไหร่ จะคุ้มทุนหรือขาดทุน เก็บแพง เขาก็อ้อม เก็บถูกก็เจ๊ง อย่าทำเหมือนตอนต้มยำกุ้งเลย ไม่ศึกษาความเป็นไปได้ของเงินลงทุน ทำตึกมาเป็นสิบเป็นร้อย แล้วก็เจ๊งกันไปทั่วหน้า ถ้าขุดแล้วขาดทุน ใคร เป็นคนจ่าย คนสนับสนุนจะควักกระเป๋ามาจ่ายหรือเปล่า?? มีวิศวกรต่าง ประเทศคนหนึ่งบอกว่า อยากทำอะไรก็ทำได้หมด แต่ต้องคิดให้ดีว่ามัน คุ้มในการลงทุนหรือเปล่า จะว่าไปแล้วเหมือนกับที่ข้างบนกล่าว อียิป กะปานามา เป็นอย่างไร ร่ำรวยไหม? คนที่สนับสนุน เพราะว่ามีผลประโยชน์อยู่ในวงการก่อ สร้างหรือเปล่า? จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:11:13

ความคิดเห็นที่ 49 แล้วแกมาทำอะไรเอาป่านนี้ว่ะ..... จากคุณ : dragon alone เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:34:01

ความคิดเห็นที่ 50 เรือขนาด 200,000 DWT (DWT คือนำ้ หนักเรือเปล่าหน่วยเป็นเมตริก) จ่ายค่าผ่านคลองไทยครัง้ละ 20 ล้านบาท ประหยัดกว่าเส้นทางเดิม 2 - 5 เท่าในแต่ละเที่ยว บริษัทเดินเรือพร้อมจ่ายอยู่แล้ว ---------------------------------- จริงหรือ? จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:37:31

ความคิดเห็นที่ 51 เดี๋ยวก็รู้ จากคุณ : ฉันยังอยู่ได้..คนดี เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:39:07

ความคิดเห็นที่ 52 เดินเรือครั้งหนึ่งใช้เงินเป็นร้อยล้านเลยเหรอ จากคุณ : lovenatural เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:46:09

ความคิดเห็นที่ 53 คลองไทยให้บริการได้ประมาณวันละ 300 -350 ลำต่อวัน แล้วคลองปานามากับคลองสุเอซมีเรือใช้บริการกี่ลำต่อวันครับ จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:46:26

ความคิดเห็นที่ 54 #17 พอเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมก็ทำเป็นข้ามเลยนะครับ ไม่ลองบอกหน่อยหรือครับว่าสถานที่ท่องเทีย่วทางทะเลฝั่งอันดามันกับอ่าวไทยได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ทำรายได้ปีละเท่าไหร่ หลังได้รับผลกระทบคาดการว่าจะทำรายได้ปีละเท่าไหร่ ถ้าเอาเส้นทาง 9A กระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 19:14:14 จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:52:16

ความคิดเห็นที่ 55 จะวิ่งตามโลก หรือจะอยู่อย่างเข้าใจโลก จากคุณ : ลูกจ๊อก เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 19:01:28 A:110.169.3.83 X: TicketID:216612

ความคิดเห็นที่ 56 ถึงป่านนี้ ไม่ต้องขุดแล้วก็ได้ครับ เห็นด้วยว่าหาช่องอื่นดีกว่า เอาแค่ส่วนแบ่งมาก็พอ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 19:40:11

ความคิดเห็นที่ 57 ข้อมูลจำนวนเรือที่ผ่านคลองสุเอซ Year No ( Vessel ) Tolls ( Million $ ) 2009 17,228 4,289.50 2008 21,415 5,381.90 2007 20,384 4,601.70 2006 18,664 3,815.80 2005 18,224 3,453.70 2004 16,850 3,077.50 2003 15,667 2,576.20 2002 13,447 1,947.70 2001 13,986 1,897.30 2000 14,142 1,926.90 http://www.suezcanal.gov.eg/TRstat.aspx?reportId=4 จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 19:43:46

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ู^ ราว ๆ 30-50 ลำต่อวัน - -* จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 19:59:43

ความคิดเห็นที่ 59 ผมมองไปถึงเอเชียเลยนะ ทั้งเอเชียจะพุ่งพรวดยิ่งกว่าเดิมอีก ไทยจะมีญาติเยอะขึ้น ทั้งดี ไม่ดี หยิ่งได้อะไรได้อีก ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : {M}-มดนะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 20:16:55

ความคิดเห็นที่ 60 อยู่ไปอย่างนี้แหละดีแล้ว อย่าไปคิดมากอะไรเลย อย่าไปทำอะไร จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 20:27:22

ความคิดเห็นที่ 61 ความมั่นคง ต้องทำรั้วรอบคลอง รั้วรอบรางรถไฟ ทำสะพาน ทำอุโมงค์ลอดคลอง ----------------------- หรือจะเอาสินค้าจากเรือขึ้นรถไฟที่อันดามัน แล้วทำรางคู่ วิ่งขึ้นเหนือไปจีน พม่า กับเลี้ยวขวาเข้าอิสานออกลาว เวียดนาม เขมร อีกเส้นก็ลงใต้เข้ามาเลย์ อีกเส้นก็มาอ่าวไทย จากคุณ : ตะอีโม่ง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 20:35:55 A:112.142.160.253 X: TicketID:160546

ความคิดเห็นที่ 62 ค่าขุดคลองแพงกว่ามากแน่นอนครับ เท่าที่เคยประเมินกันในสมัยนายก สรยุทธ คือประมาณ 1 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า 2-3 ของงบประมาณชาติไทยในแต่ละปีครับ ในขณะที่แลนด์บริจช์ใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ราคานี้คือค่าเส้นทางอย่างเดียวนะครับ ยังไม่รวมสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ต้องสร้างมารองรับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 20:48:17

ความคิดเห็นที่ 63 #45 คิดด้วยสิครับว่า ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจประมงไทย มูลค่ารวมกันอาจจะมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้จากคอคอดกระ ถ้าระบบนิเวศน์เสีย ถ้าธุรกิจเหล่านี้เสียหาย ผลได้ผลเสียอาจจะไม่เท่ากัน ต่อให้ขุดคลองเพิ่มรายได้ประเทศมากกว่าท่้องเที่ยวบวกประมง แต่ถามว่าจำนวนตำแหน่งงานที่เกิดกับคอคอดกระ กับตำแหน่งงานในภาคธุรกิจทั้งสอง อันไหนจะมากกว่ากัน ประเทศ(และนักการเมือง)รวยขึ้น แต่ประชาชนกลุ่ม ใหญ่่ๆ จนลง จะเอาอย่างงั้นไหมครับ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 20:59:02

ความคิดเห็นที่ 64 .................... แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 21:07:29 จากคุณ : masueoh เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:03:46

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่รู้ว่ารายได้ประเทศจากการท่องเที่ยวอันดามัน กับรายได้ประเทศจากโครงการ Land Bridge อันไหนมีผลประโยชน์ต่อประเทศมากกว่ากันครับ แล้วที่กำลังจะเสนออุทยานแห่ชาติทางทะเลฝั่งอันดามันเป็นมรดกโลกนี่ เจอ Land Bridge เข้าไป ถึงกับเบรคเลยหรือเปล่าครับ ไม่รู้ว่าห่างกันแค่ไหน จากคุณ : masueoh เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:03:57

ความคิดเห็นที่ 66 เข้าใจว่า โครงการเหล่านี้จะต้องมีการทำ รายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และก็การทำประชาพิจารณ์ด้วยใช่ไหมครับ หากจะมีการนำเสนอจริงๆ ตัวเลขทางเศรษฐกิจอาจมากขึ้น ความเจริญทางวัตถุอาจมากขึ้น แต่ความเสียหายทางธรรมชาติจะประเมินเป็นตัวเลขคงทำไม่ได้ ทะเลอันดามันสวยนะครับ ติดอันดับแหล่งดำน้ำของโลกเลยทีเดียว ผมล่ะกลัวจริงๆ ว่าหากมันได้รับผลกระทบไป เราคงเสียอะไรดีๆ ไปอย่างเรียกกลับไม่ได้อีก จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:10:08

ความคิดเห็นที่ 67 #7 "ค่าผ่านคลองไทยครัง้ ละ 20 ล้านบาท ประหยัดกว่าเส้นทางเดิม 2 - 5 เท่าในแต่ละเที่ยว บริษัทเดินเรือพร้อม" คลองสุเอซ ช่วยร่นระยะทาง ไม่ต้องออ้มผ่านแอฟริกาทั้งทวีป เค้ายังไม่กล้าเก็บตังค์ค่าผ่านคลองขนาดที่พี่ว่าเลยน่ะ แล้วนี่แค่อ้อมสิงค์โปร์เสียเวลาไม่เกิน 2 วัน นับค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ค่าแรงลูกเรือ ยังไงมันก็ไง่มันก็ไล่ไม่ถึง 20 ล้านอย่างที่พี่ว่าซักทีน่ะ จากคุณ : x เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:34:36 A:210.246.73.115 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 68 4. ภูเก็ตเป็นจังหวัดเดียวใน Top10 จังหวัดที่มีผลผลิตต่อหัวสูงสุด ที่ไม่ใช่จังหวัดอุตสาหกรรม คงบอกได้ถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวอันดามัน มองกลับไปในอดีตที่มีการทำเหมืองแร่ดีบุก หาดทรายฝั่งตะวันออกของภูเก็ตพังไม่เหลือเลย เพราะผลของตะกอน ลองนึกภาพตะกอนที่เป็นผลมาจากการขุดและการเดินเรือดู ^ ^ คิดอยู่นานว่าจะ comment คห.41 ดีไม๊ เพราะกีปเยอะเหลือเกิน แต่กลัวคนอื่นจะเข้าใจไปผิด ๆ เอาหน่อยแล้วกัน เอาแค่ประเด็นเรื่อง "หาดทรายฝั่งตะวันออก" นะครับ เรื่องอื่นผมไม่ติดใจ เรื่องหาดทรายฝั่งตะวันออกของภูเก็ต จริง ๆ แล้วด้วยสภาพภูมิประเทศมันไม่มีหาดอยู่แล้วครับ เพราะด้านนั้นเป็นฝั่งอับลม กระแสลมและน้ำจะถูกตัวเกาะบังไว้หมด อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมของตะกอนที่ไหลมาจากคลองต่าง ๆ ทั้งในภูเก็ตเอง พังงา และกระบี่ ทำให้สภาพภูมิประเทศแถบนั้นมีแต่โคลนและป่าโกงกางครับ (อ่าวปอ เกาะสิเหร่ และหาดเล็ก ๆ อื่น ๆ ด้านนั้นผมไม่เรียกว่ามันเป็นหาดนะครับ คือสภาพมันเป็นทรายดำ ๆ น้ำขุ่น ๆ อย่างงั้นมาอยู่ก่อนแล้ว) เรื่องตะกอนที่เกิดจากการทำเหมือง การทำเหมืองดีบุกทั้งบนบกและในทะเล ทำให้เกิดตะกอนฟุ้งกระจายมากมายครับ แต่การทำเหมืองในภูเก็ตไม่ได้จำกัดแค่ฝั่งตะวันออกของเกาะอย่างเดียว แต่กระจายไปทั่วทั้งเกาะ ขุดกันจนพรุนไปทั้งเกาะ ทั้งบนบกและในน้ำเป็นร้อย ๆ แห่ง ถ้าเคยไปเที่ยวหาดด้านตะวันตกจะเห็นลากูนเกือบทุกหาด ใหญ่เล็กจำนวนมากน้อยต่างกัน ลากูนพวกนี้แทบจะไม่มีอันไหนเลยที่เกิดโดยธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะเป็นขุมเหมืองเก่าแทบทั้งนั้น ตะกอนที่เกิดจากการทำเหมืองจะทำให้น้ำทะเลขุ่นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง  แต่ตะกอนก็จะถูกพัดพาไปที่อื่นโดยกระแสน้ำครับ ตะกอนมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของประการังและสัตว์ทะเลแน่นอน ขอเล่าให้ฟังอีกนิดนึงครับ สมัยก่อนตอนเค้าทำเหมือง ไม่มีใคนสนใจอนุรักษ์ประการังซักเท่าไหร่ ตอนขุดเรือขุดแร่มันก็ขุดเอาประการังออกไปด้วย คนสมัยก่อนออกจะไม่ค่อยชอบประการังเอาด้วยซ้ำ เพราะเป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของเค้า จังหวัดภูเก็ตหยุดการทำเหมืองดีบุกมาได้เกือบ 30 ปีแล้วครับ ที่สภาพทะเลทั้งสองฝั่งแตกต่างกัน การที่น้ำทะเลฝั่งตะวันตกของเกาะใสกว่าด้านตะวันออก เป็นปัจจัยด้านภูมิประเทศมากกว่ากิจกรรมของมนุษย์ครับ ปล. ข้ออื่นผมไม่สันทัด ขอข้ามครับ ส่วนเรื่องขุดคลองต้องเอาตัวเลขและผลกระทบหลาย ๆ ด้านมาวิเคราะห์ดูครับ ผมยังไม่ปักใจเชื่อด้านใดด้านหนึ่ง จากคุณ : เตยทะเล เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 21:38:02

ความคิดเห็นที่ 69 Land Bridge เป็นโปรเจ็คต์เหนือเมฆครับ เห็นเทคนิคในการทำโครงการนี้แล้วจะทึ่ง NGO ตามไม่ทันหรอก ไปยับยั้งได้แต่ภาพรวม แต่ส่วนย่อยเค้าทำกันไปจะเสร็จแล้ว ใช้วิธีแตกโปรเจ็คท์เป็น โครงการเล็กโครงการน้อย ที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน หลายสิบโครงการ ไม่ได้ทำเป็นเรื่องเดียวใหญ่ๆ เหมือนมาบตาพุดเมื่อก่อนนี้ จิ๊กซอว์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะต่อกันเป็นภาพใหญ่ ทีนี้ NGO ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว การศึกษาขุดคลองมีผลการศึกษา 4 ฉบับครับ จากรัฐ จากเอกชน จากจุฬา สรุปเหมือนกันหมด ไปหาอ่านเอาเอง จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:29:10

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าขุดแล้วจะมีผลกับพายุไหมครับ กระแสน้ำจะเปลี่ยนไหมถ้าเปลี่ยนอุณหภูมิจะเปลี่ยนตามไหมสภาพอากาศจะเปลี่ยนมากน้อยขนาดไหน แล้วถ้าเกิดเรือขนน้ำมันหรือสารเคมีหรืออะไรใหญ่ๆมาล่มกลางคลอง จะเกิดผลกระทบกับธรรมชาติมากไหมกี่ปีถึงจะทำให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้ จากคุณ : WizardOnWeb เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:31:59

ความคิดเห็นที่ 71 เห็นหลาย คห แล้วอยากบอกว่า อย่าห่วงแต่ ตัวเอง และ เงิน ครับ และงานแบบนี้ควรดูให้รอบคอบ ไม่ใช่คิดแต่จะหาทางแถ ให้คนอื่นจับหางไม่ทัน จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 22:41:48

ความคิดเห็นที่ 72 ผมมองแบบเด็กๆ นะครับ ผมว่าประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่มีปัญหาที่คนถือเงิน (ของประชาชน) หามาได้เท่าไรก็จมลงอย่างเดียว จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:13:45

ความคิดเห็นที่ 73 คห 68 ถ้าเป็นคนในพื้นที่คงรู้จักอ่าวมะขาม และแหลมพันวา แต่ก่อนอ่าวมะขามซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของภูเก็ตเป็นแหล่งปะการังเขากวางที่สมบูรณ์มาก แต่ทุกวันนี้ไม่เหลือแล้ว ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ค้นเปเปอร์โดยใช้คำว่า phuket + dredging จากคุณ : ชาลีฟ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:36:35

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยกับ 72 มาก ถึงมากที่สุดครับ ยกให้เป็นประโยคโดนใจแห่งปีเลย "ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินครับ  แต่มีปัญหาเรื่องคนที่ถือเงิน" จริงๆผมเห็นด้วย แล้วก็เชียร์มานานแล้วเรื่องการขุดคอคอด  แต่พอมานั่งนึกๆดู ใช่ว่าประเทศเราจะอดอยากปากแห้งขนาดต้อง เชือดทรัพยากรบางส่วนทิ้ง เพื่อทำคอนี้เลยเหรอ  แล้วจำนวนเงินที่ได้จากการขุดคอนี้ มันจะช่วยประเทศเราได้จริงเหรอ ? ผมไม่ได้บอกว่าทำแล้วมันจะขาดทุน หรือได้กำไรน้อยนะครับ ผมว่ามีลุ้นเลยทีเดียว จากตามตำรา โลเคชั่น สถานที่ อะไรก็ว่าไป   แต่ที่คิดถึงก็คือเงินที่ได้มาหน่ะ มันจะเอามาช่วยประเทศยังไง ?  ตราบใดที่คนถือเงินยังมึนๆ ยังโกงๆกันอยู่ คนที่ได้ประโยชน์ก็แค่ส่วนเดียว ก็พวกที่ได้สัมปทาน พวกที่ได้งานที่เกี่ยวข้อง ป้าขายข้าวมันไก่หน้าบ้านผม ก็ยังจนเหมือนเดิมอยู่ดี จากคุณ : Navyblue1990 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 11:14:41

ความคิดเห็นที่ 75 ผลดีต่อการประมง ??? เรือประมงไทยมีเงินจ่ายค่าผ่านคลองเหรอครับ เหอ เหอ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:43:40

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ว่าจะเป็นโครงการไหน ใครๆก็พอจะรู้อยู่ว่ามันให้ประโยชน์มาก เพียงแต่การจะก่อสร้างมันมีอุปสรรคใหญ่จากประเทศ(คนที่คุณก็รู้ว่าใคร(เอ้ะ! หรือไม่รู้)) เขาคงจะยอมหรอก มันทำให้พวกเขาเหล่านั้นเสียผลประโยชน์ไปมหาศาลมาก มากกว่าที่บิลเกตมีซะอีกใครจะยอมล่ะ เพราะงั้นอย่าได้คาดหวัง เพราะพี่ไทยเองไม่สามารถ อย่างแรง ตั้งแต่อดีตมาก็ไม่ค่อยมีคนอยากจะพูดถึงเรื่องนี้นัก มันไม่มีหวัง แต่ก็มีคนเอามากล่าวเป็นแลนด์บริดที่ว่าให้ถกกันอีกรอบ แล้วก็ถูกสกัดอีก วันข้างหน้าคงไม่มีใครคิดทำอุโมงใต้น้ำสำหรับเรือดำน้ำขึ้นมาให้ถกอีกนะ มันจะมีหวังสักนิดมั้ยนะนั่น มีก็ีสิแปลกดี โครงการข้ามชาติเลย (ชาตินี้ไม่ได้ก็จะเอาชาติหน้า ชาติหน้าไม่ได้ก็จะเอาชาติต่อๆไปซะเลย) จากคุณ : Celes'Being (chocoray) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:52:29

ความคิดเห็นที่ 77 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:17:28

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดหนู เเนะนำได้ หนูเคยไปคลองปานามามาเเล้ว ถ้าเทียบคลองปานามาเเละคลองสุเอด มันคนละเรื่อง ระยะทางที่ประหยัดก็คนละเรื่องเลย สมมุติว่า ถ้ามีเรือที่ต้องผ่านคลองที่เราขุด มันก็ต้องใช้เวลาเป็นวันเหมือนกันไม่รวมค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมค่าใต้โต๊ะอีก วิ่งทางเดิมดีกว่า ผ่านทางสิงคโปร์ สบายใจกว่า  ทำให้เชื่อว่าถ้าขุด อาจจะมีเรือใช้น้อย เวลาคิดความคุ้มค่าอย่านำเรือทั้งหมดที่ผ่านช่องเเคบมาลายูมาคิด ไม่มีทางที่จะใช้ทั้งหมดหรอก เพื่อให้เห็นภาพ ถ้าเราจะผ่านคลองปานามา ต้องรอคิวในการเข้าตอนนั้นรอ ประมาณครึ่งวัน  เเล้วจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาเพื่อนำทาง กว่าจะวิ่งผ่านต้องผ่านประตูเปิดปิด  ถ้าจำไม่ผิด ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง กว่าจะผ่านได้ ถามว่าต้องผ่านคลองนี้ไหม ต้องผ่านเพราะถ้าไม่ผ่าน ต้องอ้อมใต้ของอเมริกาใต้ ยังไงก็คุ้ม ทั้งค่าใช้จ่ายเเล้วเวลา ถ้าอยากรวย กำจัดคอรัปชั่น นักการเมืองขี้โกงก่อนดีกว่าไหม รวยก็เยะเลย เ จากคุณ : Ploychat เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:26:17

ความคิดเห็นที่ 79 ลำพังทรัพยากรธรรมชาติ ที่บรรพบรุษหลงเหลือไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว  ทำรายได้ปีละเป็นแสนล้าน ลงทุนก้อไม่ต้องลงทุน  ยังไม่มีปัญญาทำให้ชาติพัฒนาได้เหมือนที่ควรจะเป็นเล้ยย นี่กะจะลงทุนเป็นล้านล้าน หวังรายได้ต่อปีเท่านั้น    กล้าคิดเนาะ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:43:06

ความคิดเห็นที่ 80 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 16:25:26 จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 16:20:54

ความคิดเห็นที่ 81 ปัญหาความมั่นคงหากขุดคลอง ถ้าเกิดสงครามในระแวกนี้หรือสงครามโลก มันคงมาบุกยึดประเทศไทยเป็นประเทศแรก จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 16:23:25

ความคิดเห็นที่ 82 เรื่องความมั่นคงนี่มีตัวอย่างจากคลองปานามาครับ เริ่มแรกอเมริกาเข้ามา่เจรจาขอขุดคลองกับรัฐบาลโคลัมเบียพอตกลงกันไม่ได้ อเมริกาก็สนับสนุนให้ปานามาประกาศตัวเป็นเอกราชพร้อมเซ็นรับรองทันที ประเทศปานามาก็ถือกำเนิดขึ้น ถ้าไทยจะขุดคลองไทยไม่คิดว่าเคสแบบนี้จะเกิดขึ้นหรือครับ ปัญหาไม่ใช่แค่เดินข้ามคลองจะแยกได้ยังไง แต่ปัญหาคือ เวลาเขาแบ่งแยกแล้วจะมีคนวิ่งเข้ามารับรองทันทีต่างหาก ส่วนเรื่องความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ก็ยังเป็นทีี่ถกเถียงกันอยู่ ว่างบประมาณขนาด นั้นเอาไปทำอย่างอื่นมันจะคุ้มกว่าไหม แค่อ้อมแหลมนะครับไม่ใช่อ้อมทวีป ทำ Land bridge ต่อรถไฟขึ้นไปจีนเลยหรือจากจีนลงมา ไม่คิดหรือครับว่ามันจะคุ้มกว่า จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 17:23:59

ความคิดเห็นที่ 83 มีมั่งไหม ที่ เน้น แต่ เหต ผล แล้วไม่ใช้ อารมร์ มาเกี่ยวข้อง ในการตอบ กระทู้ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 18:08:54

ความคิดเห็นที่ 84 สร้างเถอะ ผมขอร้อง... พวก NGO ที่มาต่อต้าน เป็นแค่คนงานรับจ้างทรราชประเทศชาติ รับเงินจากประเทศที่เสียผลประโยชน์ อย่างสิงคโปร์หรืออินโดฯ เพราะถ้าสร้างได้ ช่องแคบมะละกา เงียบแน่ๆ ลองคิดค่าผ่านทางของเรือดู ผมว่าเค้ายอมเสียเงินค่าผ่านทาง เพื่อซื้อเวลา และลดค่าใช้จ่ายน้ำมัน ในการอ้อมไปช่องแคบมะละกาที่แสนไกลแน่นอน ปล. 1.สำหรับคนที่บอกว่า ถ้าสร้างจะทำให้เวลาเกิดสงครามเราจะเสียเปรียบ...(คิดได้แค่นี้หรือ?) 2.ไปเปรียบคลองปานามา (คนละที่ คนละภูมิประเทศ คิดได้แค่นี้หรือ?) จากคุณ : LILBAZZO เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 18:35:33

ความคิดเห็นที่ 85 ใหน ๆ ภาคใต้ ก็ไม่สงบอยู่แล้ว สร้างประชดแม่มเลย จากคุณ : BigMooHuHu เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 18:54:58

ความคิดเห็นที่ 86 ผมเห็นคนที่เชียร์ให้ขุดนี่มีแต่แนว "คิดว่า" "เชื่อว่า" แล้วก็ด่าคนอื่น อืม . . . . จากคุณ : Hippokib เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 19:03:36

ความคิดเห็นที่ 87 คห.๕๕ ขอเลือกอยู่อย่างเข้าใจโลกดีกว่า แต่ถ้าLandBridgeไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็น่าสน จากคุณ : ElinTyne เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:24:19

ความคิดเห็นที่ 88 ผมเรียนทางด้านโลจิสติกส์ และได้ศึกษา และวิจัยรายงานเรื่องนี้อยู่พอสมควร โครงการนี้นี้ดีมากๆครับ ทั้งเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ จริงๆแล้วผมอยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆ มันสร้างประโยชน์มากกว่าผลเสีย แต่ถึงอย่างไร เราต้องคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม ชาวบ้านที่อยู่ ณ จุดนั้น จริงๆ       ปล.กว่าโครงการนี้จะเกิดอีกนานครับ จากคุณ : NP_Wirat เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:51:16

ความคิดเห็นที่ 89 สร้างเลยๆๆๆๆๆ ลูกหลานจะได้เห็นคุณงามความดี ของเราบ้างเมื่อยามตายไป ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ดอกผลก็จะยิ่ง ทบทวีคูณ จากคุณ : icon เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:15:02 A:119.42.125.24 X: TicketID:206093

ความคิดเห็นที่ 90 อย่าหาว่าผมหัวโบราณนะครับ     แต่คำพูดของท่านหนึ่ง(ผมจำไม่ได้ว่าใคร)ที่ตรัสไว้ว่า"ใครที่ทำให้ประเทศแยก  ขอให้มันไม่ได้...(ทำอะไรซักอย่างนี่แหละ  ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด หรือให้มีแต่ความไม่เจริญในชีวิตนี่แหละ  จำไม่ได้จริง ๆ) อันนี้ข้อแรกนะครับ ข้อสองคนไทยซื้อง่ายครับ   สิงค์โปร์จอดเรือทีเงินทุกหน่วยทุกยูนิตเข้าประเทศทั้งหมด แต่พี่ไทยเราเรือแค่โยน Black ให้ลังนึง  จอด 2 ชั่วโมงก็ให้บอกว่าจอดแค่ชั่วโมงเดียว(เซฟค่าจอดได้เยอะ)  คุณว่าประเทศจะได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือ?    เป็นไปได้หรือ? และจากที่ได้อ่านข้อมูลของ จขกท. ผมก็รู้สึกทะแม่ม ๆ ตรง:- สรุปขุดคลองไทยแล้วประเทศไทยจะได้อะไร 1. คลองไทยจะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก                  - อันนี้โอเค 2. คลองไทยจะสามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้                  - จริงเหรอครับ    ยังไงหล่ะ เหตุผลที่ให้มามันดูไม่ค่อยขึ้นอ่ะ 3. คลองไทยจะเป็นเสมือนสายธารขนาดใหญ่เชื่อมสองฝั่งทะเลไทย                  - อืม.. ใช่  อันนี้โอเค 4. ด้านความมั่นคงของประเทศคลองไทยจะเสริมสมุททานุภาพ                  -  ... 5. ทางด้านการประมงจะขยายโอกาสทำให้เรือประมงไทย(ผมขอเติมว่าลืมตาอ้าปากนะครับ)                  - อืม..  มันจะไม่แย่งกันมั่วซั่วหรือครับ  ลองมองภาพรถตู้ไม่มีวินคุมสิ   ผมว่ารถตู้มีข่าวยิงกันตายทุกวันอ่ะ   >>กรุจะวิ่งเส้นนี้ครายมีไรมะ 6. คลองไทยลดพื้นที่ยากจน                  - อย่างที่บอก  คนไทยซื้อง่าย  ลดพื้นที่ยากจนแต่จะมีคนเข้ามาหาผลประโยชน์จากโครงการ  กินกันไม่หวาดไม่ไหว 7.คลองไทยจะเพิ่มบทบาทให้กับประเทศไทยได้รับประโยชน์                  - เพิ่มบทบาทครับ..    แต่ผมก็พอมองภาพออกว่าคนถูกหวยคือโฮจิมินท์ 8. ประเทศไทยจะผลิตน้ำ มันโดยมีต้นทุนถูกกว่าประเทศสิงคโปร์                  - no comment 9. คลองไทยจะช่วยประหยัดค่าขนส่งสินค้าทางเรือ                  - อันนี้พอดูได้   โอเคครับ 10. คลองไทยจะทำให้ประเทศไทยมีบทบาทที่สำคัญ                  - อืม..  ใช่ 11. คลองไทยจะช่วยลดปัญหาเรือนกระจก ย่นระยะทางการเดินเรือ                  - เอ่อ..    คือ..   เอ่อ..    มาแนวโลกร้อน  คุคุ 12. เศรษฐกิจไทยยุคไร้พรมแดน                  - ไร้ก็ไรครับ     ซึ่งจากที่ดู ๆ ข้อดีมาผมก็เห็นด้วยในบางเรื่อง  และอีกหลายเรื่องมันยังทะแม่ม ๆ อยู่ ------------------------------------------- อ่อ.. เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นพวก NGO(ถ้าอ่านแบบไทย ๆ ก็อ่านว่าโง่ครับ)ซะก่อน  คอยที่จะค้านมันทุกเรื่อง   เรียกว่าค้านไว้ก่อนอ่ะ  ใครจะทำอะไรกุไม่สน  ขอค้านไว้ก่อนไม่งั้นนอนไม่หลับ   ไม่คิดจะหาทางช่วยกันออกความเห็น แนะนำอะไรต่าง ๆ ซะนะครับ   ผมเห็นว่า Land bridge น่าสนใจมากกว่าตรงที่ไม่ต้องขุดดินให้ประเทศไทยแยกจากกัน(เฮ้อ.. หัวโบราณอีกละ) แต่มันจะมีความยุ่งยากตรงที่ต้องโหลดของขึ้น-ลงมันน่าจะเสียเวลาเยอะนะแล้วก็ของบางอย่างผมว่าการยักย้ายถ่ายเทบ่อย ๆ จะทำให้เกิดความบอบช้ำขึ้นนะ   เช่นอย่างเรือของบริษัท ก.ไก่  ปกติแล้วเค้าเดินทางมาจากอินเดียจะมาส่งของที่แหลมฉบังเค้าก็โหลดสินค้าที่นุ่นเดินเรือมา   มาถึงที่แหลมฉบังรวดเดียวเลย  โหลดของทีเดียวแล้วเรือก็เป็นของบริษัท ก.ไก่ด้วยทำให้มีความมั่นใจมากกว่า(ฤ เปล่า)  แต่ถ้าทำ Land bridge จะต้องโหลดของลงที่ฝั่งอันดามันก่อน  แล้วก็ต้องขนส่ง(น่าจะเป็นทางราง)มาฝั่งอ่าวไทยอีกแล้วจากนั้นก็ต้องโหลดของขึ้นเรืออีกรอบ  ซึ่งคราวนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เรือลำเดิมที่ออกมาจากอินเดียแน่  อาจจะเป็นเรื่องของ ข.ไข่ก็ได้  มันจะมีปัญหาตรงนี้หรือเปล่าครับ เพราะฉะนั้นทางออกที่ผมคิดคือสร้างโครงการยกเรือทั้งลำขึ้นเลยครับ   ยกมันข้ามฝั่งเลย(ดังรูป)   และแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการทำสายพานลำเลียงเรือนี่น่าจะสูงกว่าทำ Land bridge แต่คงไม่ถึงกับขุดคลองนะครับ  อีกอย่างจะได้ไม่ต้องโหลดของขึ้นทีลงที ลดความเสียหายแก่สินค้า และเรื่องของหายระหว่างโหลดขึ้นลง(ซึ่งมันน่าจะมีโอกาสเกิดอยู่แล้ว) และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันผมว่าทำระบบรองรับน้ำหนักเรือทั้งลำ การประคองเรือไม่ให้พลิกเมื่อกำลังขึ้นจากน้ำ ประคองไปตลอดทางและขนส่งลำเลียงด้วย จะทำให้สมูทตลอดทางไม่น่ายาก ทำได้อยู่แล้วครับ   แต่ผมไม่ทราบว่าการยกเรือทั้งลำขึ้นมาจากน้ำจะมีผลทางด้านโครงสร้างเรือหรือเปล่านะครับ ก็เป็นความคิดเห็นของผมครับ     แต่ก็เอาเถอนะ(ขอเปลี่ยนเรื่องนิด)โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์บ้านเราเอาให้เป็นขวัญตาซักโรงเถอะ  อยากเห็น Cooling tower ตัวโต ๆ สูง ๆ เร็ว ๆ จริงเทียว (editคำผิด - -') แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 20:50:46 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 22:40:31 จากคุณ : siLvan เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:38:16

ความคิดเห็นที่ 91 ผมขอถามแบบโง่ๆนะครับ  คือผมไม่เข้าใจว่า  ถ้ามีคลองไทยแล้วทำไมคนถูกหวยคือโฮจิมินท์ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : วิทยุสีฟ้า เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:53:01

ความคิดเห็นที่ 92 ขุดไม่ได้ก็สร้างคลองคอนกรีตบนดินแม่มเลย.... จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:54:23

ความคิดเห็นที่ 93 สมมติว่าถ้าจะขุดคลองแล้ว นอกจากขุดคลอง ถ้าจะให้ได้ดีจริง ๆ เราต้องพัฒนาพื้นที่แถวนั้น ในวงกว้างด้วย ด้วยงบมากกว่าขุดคลองอีกนะครับ เพื่อแย่งความเป็น HUB จากสิงคโปร์ ที่เป็นฮับมาหลายร้อยปีแล้ว จากคุณ : งงงันวูบ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:58:50

ความคิดเห็นที่ 94 ทำอะไรได้ก็ทำไปเหอคับ อย่าไปสนใจใคร ถ้าเราได้สำรวจ ความคิดเห็นและผลกระทบมา เรียบร้อยแล้ว แต่........................................................... แค่ 3G ยังผลักดันไม่ได้ แล้วจะมีปัญญาทำ Mega Project แบบนี้หรอ ? ปล. ขออภัยที่นอกเรื่องแต่ มันทำให้คิด ><" จากคุณ : thikonw เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 23:16:15

ความคิดเห็นที่ 95 #91 เท่าที่ดูตามแผนที่นะคับ จะสังเกตได้ ว่า ระยะทางจาก คลองไทย ไปยัง โฮจิมิน มันใกล้กว่า แหล่มฉบัง มากคับ  เค้าเลยเรียก ว่า ถูกหวย ... รอความเห็นท่านอื่นอีกทีนะคับ จากคุณ : thikonw เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 23:20:07

ความคิดเห็นที่ 96 ในเมื่อ คนที่มีอำนาจ "คิดแต่ผลประโยชน์ตัวเอง ขัดขากันไปมา จ้างให้ประเทศไทยก็ยังไม่พัฒนาไปใหน" เราก็ได้แต่ฝัน และ เรียนความน่าจะเป็นไปเรื่อยๆ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 23:22:04

ความคิดเห็นที่ 97 -- เรียนเจ้าของกระทู้ คุณ jiks2006 --- ผมอ่านบทความที่คุณคัดลอกมาแล้ว  เห็นว่ามีทั้งการตัดตอน ลดทอนเนื้อหาบางส่วน  ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง   โดยเฉพาะ ตั้งแต่ความเห็นที่ 1 ลงมา  ในเมื่อเอาชื่อเจ้าของบทความเค้ามาอ้างอย่างนั้นแล้ว  กลับไปตัดทอนเนื้อหาบทความออกไปอีกหลายส่วน ตัวจริงอยู่ที่นี่ http://www.thai-canal.org/New%20sea%20route%20T1.htm เช่น ค.ห. 17 มีการกล่าวถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ แต่กลับไปตัดออกโดยพลการและไม่แจ้งหมายเหตุ   เป็นเหตุให้เพื่อนสมาชิกความคิดเห็นที่ 54  ออกมาตำหนิด้วยความเข้าใจผิด ในความคิดเห็นที่ 19 ซึ่งเป็นบทสรุป  ก็ตัดทอนเนื้อหาคำอธิบายออกไปทั้งหมด จนเหลือแต่หัวข้อสั้นๆ   จนเป็นเหตุให้ ความคิดเห็นที่ 90  ออกมาแสดงอาการงงๆ ถ้าอาจารย์เจ้าของบทความได้มาอ่านเข้า  จะรู้สึกอย่างไร  ที่คุณทำตัวเป็นฤาษีแปลงสารเช่นนี้ ยังดีที่คุณให้ข้อมูลอ้างอิงมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่คัดลอกต่อมาจากต้นฉบับ http://www.thai-canal.org/ นี้ทั้งสิ้น   แล้วทำไมไม่อ้างอิงจากตรงนี้ไปเลย  คนอ่านควรจะได้รับข้อมูลได้มากกว่านี้ ส่วนในความเห็นที่ 0   คุณก็เล่นไปตัดบทความเดิมของเขาซะจนสารที่บทความนั้นต้องการจะสื่อกลับเพี้ยนไปซะ แล้วก็เอาเห็นของคุณมาต่อซะเฉยๆ บทความเดิมเป็นของหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02inv05270749&day=2006/07/27 ซึ่งตอนนี้สามารถไปอ่านได้ที่นี่ http://www.skyscrapercity.com/archive/index.php/t-119763.html ชื่อกระทู้ From "KRA CANAL" to the *"LAND-BRIDGE" reality*  อ่านแล้วได้ความรู้มากมายครับ เนื้อหาบทความเดิมคือ "วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 พลิกฟื้นตำนานเชื่อม 2 สมุทร เส้นทาง 9 A "ลันตา-หัวไทร" ขุดคลองไทยระยะทาง 120 กิโลเมตร โครงการขุดคอคอดกระ" อภิมหา อมตะโครงการที่เป็นโจทย์คู่กับประเทศไทยมานานกาล จัดเป็นโครงการขุดคลองเพื่อเชื่อมเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลฝั่งอ่าวไทย ไปสู่ทะเลฝั่งอันดามัน เพื่อสร้างโอกาสการเป็นศูนย์กลางเดินเรือในภูมิภาคเอเชีย สร้างมูลค่าเพิ่มกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเส้นทาง ขุดคลองกระ จะผ่านช่วงที่แคบที่สุดในประเทศไทยคือ จังหวัดระนองและชุมพร ระยะความยาวของคลอง 80 กิโลเมตร จากเหตุผลที่ว่า โครงการดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ประกอบกับเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ นำมาสู่ข้อสรุปที่ว่า พื้นที่การขุดคลองที่คอคอดกระ "ไม่เหมาะสม" จากการศึกษาพบว่า ผู้เป็นเจ้าของเส้นทางขุดคลองคือ ประเทศไทย ได้รับประโยชน์น้อยกว่าพม่าที่มีชายแดนติดต่อกัน หากมีการรุกล้ำหรือเกิดความวุ่นวาย กองกำลังทหารเรือไทยจะเดินทางเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ทันการ จนโครงการ ดังกล่าวถูก "เก็บพับ" ไปในที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ความใฝ่ฝันที่จะขุดคลองข้ามสมุทรจะถูกยกเลิกตามโครงการคอคอดกระตามไปด้วย เพราะในปี 2544 วุฒิสภา นำโดย นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสิงห์บุรีได้ "รื้อฟื้น" โครงการขุดคลองข้ามสมุทรขึ้นมาใหม่ ในครั้งนี้ได้พิจารณาเปรียบเทียบเส้นทางการขุดคลองที่เคยศึกษาไว้ 13 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง 1, 2, 2A จากจังหวัดระนองถึงชุมพร ระยะทาง 80 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการคอคอดกระเดิม, เส้นทาง 3, 3A, 3C จากกระบี่-พังงาถึงสุราษฎร์ธานี ระยะทาง 180 กิโลเมตร, เส้นทาง 4 จากกระบี่ถึงนครศรีธรรมราช ระยะทาง 200 กิโลเมตร, เส้นทาง 5, 5A, 6 จากจังหวัดสตูลถึงสงขลา ระยะทาง 102 กิโลเมตร และเส้นทาง 7, 7A จากจังหวัดตรัง พัทลุง ถึงสงขลา ระยะทาง 100 กิโลเมตร พอศึกษาเข้าจริง คณะทำงานกลับพบว่า เส้นทางการขุดคลองที่เหมาะสมและมีปัญหาน้อยที่สุดก็คือ "เส้นทาง 9A" ซึ่งตัดผ่าน 5 จังหวัด คือ กระบี่-ตรัง-พัทลุง-นครศรีธรรมราช และ สงขลา ระยะทาง 120 กิโลเมตร โดยใช้ชื่อเรียกเส้นทางนี้ว่า "คลองไทย" ขณะที่วุฒิสภาเองก็เห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้ขุดคลองไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2548" (ยังมีต่อ แต่ผมขอตัดจบแค่นี้ เพราะเนื้อหาที่เหลือก็คือสรุปย่อของบทความ "ขุดคลองไทยแล้วประเทศไทยจะได้อะไร" นั่นเอง ที่ผมออกมาตำหนิตรงๆ แบบนี้  เจตนาจะติเพื่อก่อ มิได้บั่นทอนกำลังใจกัน  เพื่อให้ข้อมูลที่คุณอุตส่าห์ตั้งใจหามาแบ่งปันกันนั้น  มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นครับ ในความเห็นส่วนตัวของผม  โครงการขุดคลองกระ หรือในชื่อใหม่ว่า คลองไทย  ไม่ได้มีผลกระทบเพียงแค่ธรรมขาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่มีผลกระทบก้าวไกลไปถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของโลก   อย่างน้อย ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบกับเพื่อนบ้านเราอีกหลายประเทศ   ความเห็นที่ยังไม่ได้เสพข้อมูลจากรอบด้าน ก็จะกลายเป็นชนวนให้เกิดวิวาทะกันได้ง่ายๆ โครงการคลองไทย เป็นโครงการขนาดใหญ่ยักษ์ที่มหาอำนาจต่างก็จับตามองอยู่ เพราะมันหมายถึงการโคลนนิ่งช่องแคบมะละกาและสิงคโปร์ มาไว้ในดินแดนไทย แต่โดยลำพังประเทศไทยเอง ก็ขาดทั้งความสามารถในการก่อสร้าง การจัดการ รวมถึงเงินทุน   ต่างชาติที่จะมาร่วมทุนมารับสัมปทาน ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น  รวมถึงสิงคโปร์เอง ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ดูแล้วคงเกิดได้ยาก  อีกอย่าง ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเลยว่าทำไม คณะอนุกรรมการศึกษาฯ ถึงได้ตั้งชื่อเส้นทางที่ถูกเลือกเอาไว้ว่า "เส้นทาง 9A " ข้อสังเกตหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ  ในช่วงไม่กี่ปีมานี้  สิงคโปร์  ร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมากมาก รวมถึง มาเลเซีย ที่อยู่ติดกัน  ก็ล้วนมีรายได้หลักมาจากโลจิสติกส์ทางเรือกันทั้งนั้น โครงการสะพานเศรษฐกิจ หรือแลนด์บริดจ์  จากที่มีข่าวในตอนแรกว่าจีนสนใจจะมาลงทุนตรงนี้ให้ ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคงทางพลังงานของจีนเอง (ตอนนี้จีนบริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับสอง ญี่ปุ่นเป็นอันดับสาม) ซึ่งในภาพรวมก็เหมือนกับการยกเอาท่าเรือแหลมฉบัง และนิคมอุคสาหกรรมมาบตาพุดมารวมกันเอาไว้ที่ภาคใต้   แต่ตอนหลังท่าทีจีนก็เงียบๆ ไป  หลังจากภัยพิบัติซึนามิ และเพราะกำลังพิจารณาตัวเลือกอื่นอยู่ เช่นน้ำมันจากไซบีเรีย หรือคาซักสถาน แทนจากแหล่งตะวันออกกลาง เอาเป็นว่า  ผมขอศึกษารวบรวมข้อมูลไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 00:30:21

ความคิดเห็นที่ 98 #91 เวียดนามถูกหวยแหละครับ เพราะสามารถสร้างจุดพักเรือระหว่างรอคิวได้ที่แหลมญวนตรงจังหวัดก่าเมา ห่างจากคลองไทยประมาณ 500 กม เอง ขณะที่แหลมฉบังประมาณ 550 กม จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 00:31:32

ความคิดเห็นที่ 99 #97 ไม่เข้าใจผิดหรอกครับ เพราะผมก็อ่านมาเต็ม ๆ แล้ว - ทำไมถึงยกปานามามาเทียบอย่างเดียว แต่ไม่ยกปัญหาที่พบจากคลองสุเอซมาด้วย - ยกเรื่องน้ำทะเลทางฝั่งอันดามันช่วยทำให้น้ำทะเลในฝั่งอ่าวไทยให้สะอาดขึ้น แต่ไม่ยกเรื่องน้ำทะเลในฝั่งอ่าวไทยทำให้น้ำทะเลทางฝั่งอันดามันสกปรกขึ้น ผมถึงได้ถามผลกระทบไงครับ รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีไม่ใช่หรือครับ น่าจะแสดงให้เห็นหน่อย ไม่ใช่อ้างแต่ประเทศชาติต้องเสียหายหรือเสียโอกาส แต่ไอ้คนท้องถิ่นจะเป็นยังไงช่างหัวมัน รายได้จากการท่องเที่ยวมันน้อยนักหรือไงถึงได้ไม่สนใจ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 00:59:03 จากคุณ : silverspider เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 00:56:24

ความคิดเห็นที่ 100 การสร้างแลนด์บริดจ์นั้นคุ้มหรือครับ ผมเคยไปดูงานที่ท่าเรือแหลมฉบัง พี่ที่ทำงานที่นั่นเค้า้บอกว่า มันอาจจะไม่คุ้ม คนอาจจะไม่ใช้เพราะ ไอ้ค่ายกขึ้นลงจาก เรือ - รถไฟ หรือรถบรรทุก จากฝั่งนึงไปอีกฝึ่งนึงเนี่ย มันไม่คุ้ม จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 01:23:44

ความคิดเห็นที่ 101 ทำรางขึ้นไปจีนยังงี้ได้ไหมครับ จะส่งอะไรกันก็ส่งกันตรงนี้เลยไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเล แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 02:23:35 จากคุณ : toronado เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 02:21:29

ความคิดเห็นที่ 102 อ่านเฉย ๆ ดู ๆ ไปตอนนี้ ก็ดูเหมือนสาย จากคุณ : กุ๊กไก่ไม่ขันมาหาฉันจะกระต๊าก เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 03:23:32 A:223.207.110.193 X: TicketID:191399

ความคิดเห็นที่ 103 เฮ่อ... ค้านไว้ก่อน ไม่งั้นนอนไม่หลับ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 07:46:29

ความคิดเห็นที่ 104 ถ้าจะให้แลกระบบนิเวศน์ กับ เศรษฐกิจ ผมเลือกระบบนิเวศน์ครับ ผมรักธรรมชาติ มากกว่าสิ่งใดในโลกนี้.... จากคุณ : โออ๊ะปะ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:44:56

ความคิดเห็นที่ 105 โครงการเชื่อมโยง Asean + 4 เป็นการขนส่งทางบกครับ เชื่อมโยงไปจีนเป็นหลักผ่านเส้นทางต่างๆที่เรียกว่า "Corridor" ซึ่ง ณ ขณะนี้ล่าสุดเส้นทางเชื่อมโยงไทยลาวเพื่อเชื่อมต่อไปจีนนั้นเริ่มสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่สาม ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย แล้ว และที่ เชียงของ และ เชียงแสน นั้นก็มีท่าเรือของการท่าเรือไปตั้งเพื่อรองรับสินค้าจากทางน้ำที่มาจากแม่น้ำโขงแล้ว สิ่งเหล่านั้นที่กล่าวมาจำพวกถนน แม่น้ำ ท่าเรือ อื่นๆ จะเรียกกันว่า Inlfastrutor ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีพร้อมกันหมดแล้ว แต่ยังติดในเรื่องข้อตกลงต่างๆและกฏระเบียบต่างๆ เช่น - เมื่อขนส่งสินค้าจากไทยผ่านไปลาว แล้วจะต้องเปลี่ยนคนขับเพราะใบอนุญาตไทยไม่มีผลใช้ในลาว จึงต้องใช้คนขับของทางลาวออกไปยังเวียตนามหรือจีน - ระเบียบต่างๆที่ยังใช้ของแต่ละประเทศอยู่ ไม่ได้ใช้แบบที่เป็นสากล คือ ผ่านประเทศไหนก็ตรวจประเทศนั้น ไม่ได้มีมาตรฐานรองรับจากต้นทางเพียงจุดเดียว ฉะนั้นในภูมิภาค SEA เนี่ย การเชื่อมโยงกับจีนไม่น่ามีปัญหาครับ... ส่วนประเด็น "คลองไทย" กับ "แลนด์บริดจ์" นั้นก็ตามที่หลายๆท่านบอกมีผลดีต่อเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมแน่นอน แต่ก็มีผลเสียต่อเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน กระแสน้ำเปลี่ยน , ระบบนิเวศน์ถูกรบกวน , ทะเลอันดามันและอ่าวไทย ต้องรับขยะจากเรือสินค้า ทั้งคราบน้ำมันและคราบสนิท เศษฝุ่นต่างๆอีกมากมาย... เรื่องที่ต่างประเทศจะเข้ามาในไทย เขาเข้ามาแน่ๆครับ รักประเทศไทยมากๆด้วยที่เปิดโอกาสให้เขามาโกยตังแทนที่จะเก็บไว้โกยเอง เขาไม่มีอะไรต้องเสีย มาลงทุน คืนทุน ถอนทุน แล้วก็ไป สุดท้ายจะเหลือแต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ และใครกันที่จะต้องรับผิดชอบ มันก็เหมือนงานในไทยกันเอง จบงาน หมดประโยชน์ ก็เหลือแต่กองขยะล้นงานนั่นหละ... จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:48:02