ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ใช่ใครทำหล่นนะครับ มันกำลังกระดึ๊บไปจริงๆ จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:14:21

ความคิดเห็นที่ 2 มันข้ามมาจากฝั่งนี้ครับ อาจจะเป็นเพราะน้ำตื้น ต้นข้าวเยอะ หรืออย่างไรไม่ทราบได้ จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:15:26

ความคิดเห็นที่ 3 และกำลังจะข้ามไปยังหนองน้ำอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งน้ำลึกกว่า มีบัวด้วย ไม่รู้ว่ามันวัดดวงมา หรือว่ามันรู้แน่ๆ ว่าข้างหน้าจะมีน้ำ ประเด็นนี้ก็เป็นที่น่าสงสัยมาก เหลือระยะทางอีกไม่มากก็จะถึงแล้ว ผมก็เลยช่วงสงเคราะห์ให้ จับโยนลงน้ำไปเลย (ตัวมันเล็กไป ไม่งั้นคงช่วยสงเคราะห์ด้วยวิธีอื่น อิอิ) จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:18:42

ความคิดเห็นที่ 4 งงไปเลย จากคุณ : หิวข้าวแล้ว เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:45:18

ความคิดเห็นที่ 5 เคยลองขุดตรงที่เป็นแอ่งน้ำสุดท้ายของลำคลอง หรือสระน้ำมั้ยครับ ขุดลงไปประมาณ 50-70 ซ.ม. คุณทาสพิศวงอาจจะเจอกับ ปลาช่อน หัวโต ก็ได้ จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:45:55

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ผมเคยขุดค้าบ ได้หัวโตๆ ตัวลีบ นิ่มๆ เอาไปแกงมีแต่ไขมัน ไม่อร่อยเลย ทั้งที่เป็นปลาช่อน แต่บางตัวก็หร่อย ^^ จากคุณ : ถุนคุง เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:52:35

ความคิดเห็นที่ 7 ปลามันมีเซนส์ครับ รู้ว่าตรงไหนมีน้ำ สมัยก่อนพ่อเล่าให้ฟังว่า เวลา ไปทุ่งนาหน้าแล้ง จะหิ้วถังน้ำฝนที่บ้านไปหนึ่งถัง แล้วทำรางน้ำ เล็กๆ ไปยังแอ่งน้ำที่มีปลา แล้วขุดหลุมไว้อีกฝั่งของรางน้ำ จากนั้น เอาน้ำเทใส่ไปตามราง ปลาในบ่อก็จะว่าย ตามรางน้ำ มาเข้าในหลุม ที่ขุดไว้ ไม่ต้องลงไปจับให้เหนื่อย พ่อบอกว่า ปลามันได้กลิ่นน้ำฝน เลยคิดว่า ข้างหน้ามีบ่อน้ำใหญ่ เลยพากันว่ายมา ล้ำเลิศมากกก อิอิ จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:27:50

ความคิดเห็นที่ 8 ปลาหมออึดมากขอแค่ตัวเปียกๆชื้นๆก็อยู่ได้แล้ว เคยเจอตามถนนใกล้บึงไม่รู้จะคลานไปไหนเพราะแถวนั้นไม่มีแหล่งน้ำอื่น มันคงวัดดวงมากกว่า จากคุณ : FlyingChicken เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:29:49

ความคิดเห็นที่ 9 ของธรรมดาของบ้านนอก ก็กลายเป็นของประหลาดของคนเมือง จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:33:17

ความคิดเห็นที่ 10 สัตว์มันกำลังจะตาย มันก็ต้องหาที่ไป ดีกว่าอยู่เฉยๆรอความตาย จากคุณ : KPBoong เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:40:47

ความคิดเห็นที่ 11 น่ารักดีค่ะ จากคุณ : โมจิโมชิ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 21:54:10

ความคิดเห็นที่ 12 สงสัยปลาช่อนหัวโต เป็นยังไงไม่เคยเห็น จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:00:38

ความคิดเห็นที่ 13 อ่าวววว แล้วทำไมคุณทาสไม่ช่วยมันข้ามล่ะคะ ใจร้ายยยยยยยยยยยนิ จากคุณ : วัตถุต้องสงสัย เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:05:13

ความคิดเห็นที่ 14 ปลาค้อก้าง (บ้านนอกวุ้ย - -*) ตามทางน้ำไหลนี่แต่ก่อนไม่ต้องไปจับเลยครับเอาตาข่ายไปกางรอเดี๋ยวมันก็กระโดดเข้าเองนั่งรอเก็บอย่างเดียว จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:09:11

ความคิดเห็นที่ 15 คห.10  ปลาไม่ได้หนีตายหรอกครับ  เป็นธรรมชาติที่ปลาในแอ่งหนึ่ง  จะไปหาแอ่งใหม่เพื่อจับคู่ผสมพันธ์ุใหม่ครับ  บางทีแอ่งใหม่ที่มันไป แอ่งเล็กกว่าแอ่งเก่าที่อยู่อีก  แต่แบบว่า  ไปหาของใหม่เอาดาบหน้าดีกว่า  เบื่อของเก่าอะครับ จากคุณ : แว่นใสใจดี เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:16:41

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยก่อน ตอนผมเด็กๆ อยู่ในกทมเนี่ยแหละครับ  ในหมู่บ้าแถวบึงกุ่ม (แต่ก่อนเรียกคลองกุ่ม) หมู่บ้านนี้ เขาเป็นที่จัดสรร แต่เจ้าของดันขุดดินไปขาย เลยเป็นบ่อสองข้างทางถนนเลย เวลาฝนตกทีนึง ปลาช่อน ขึ้นมาบนถนนเต็มไปหมด บางบ้าน เอารถวิ่งเก็บปลา ได้เป็นโอ่งเลยครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:37:11

ความคิดเห็นที่ 17 ปลามันเจ๋ง ขึ้นบันไดสูง ๆ ก็ได้นะเออ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:39:18

ความคิดเห็นที่ 18 เจ้าปลาช่อนนี้มันสามารถคืบคลานไปบนบกเพื่อหาที่อยู่ใหม่ได้ค่ะ ตอนเด็กๆเคยเห็นสักราวๆปลายฝนต้นหนาว ประมาณตุลานี่แหละค่ะ พอน้ำในนาแห้ง ต้นข้าวออกรวง มันจะคืบคลานผ่านคันนาไปหาแหล่งน้ำอยู่ใหม่ค่ะ  มันสามารถหลบอยู่ใต้ดินชื้นๆ รอฝนมาได้เป็นแรมเดือน โดยสะสมพลังงานและไขมันไว้ เป็น"ปลาช่อนจำศีล"ด้วยค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอารูปมาให้ชม ไม่ได้เห็นนับสิบปีแล้วค่ะ ^ ^ (เด็กบ้านนอกขนานแท้) จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:51:11

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าปลาช่อนนี้จะมีอวัยวะพิเศษเป็นตะปุ่มตะป่ำเหมือนปะการัง  อยู่ติดกับเหงือก เรียกว่า diverticula หรือบางทีเรียก suprabronchial organ  ทำให้มันทนต่อการอยู่บนบกได้นาน รวมทั้งการจำศีลด้วยค่ะ  เมื่อใกล้ฤดูแล้งมันจะกินอาหารมากๆเพื่อสะสมพลังงาน  แล้วมุดไปอยู่ใต้โคลนก่อนที่น้ำจะแห้ง และจะมีการขับเมือกออกมาทำให้อวัยวะที่เหมือนปะการังนี้ชุ่มชื้นตลอดเวลา ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจน รอฤดูน้ำหลากมาใหม่ได้ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:58:40

ความคิดเห็นที่ 20 กลายเป็นที่มาของ... ปลาช่อนลุยสวน!! จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 23:06:08

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ฮ่าๆๆๆ น่ากิน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 00:20:44

ความคิดเห็นที่ 22 ผมก็เคยเจอครับ เมื่อก่อนบ้านผมอยู่ริมถนน หลังบ้านเป็นแม่น้ำ ไม่ใช่แค่ปลาช่อนพากันข้ามถนน มีทั้ง กบนา ปูนา ทั้งๆที่บ้านผมห่างจากนา 1.5กม.! ตอนเด็กๆชอบมานั้งรอ ตอนฝนตก ว่าวันนี้จะพากันมาข้ามกี่ตัว - - จากคุณ : Samkung (Samkung) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 01:02:06

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นตั้งแต่เด็กๆ รู้แม้กระทั่งทางที่มันจะมา ขุดหลุมเอาไหฝังไว้ ตอนเช้ามาเก็บ ไปต้มใส่ใบมะขามอ่อน แซ่บ จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 01:26:13

ความคิดเห็นที่ 24 เคยเจอกรณีคล้ายๆกันแต่เป็นเต่า ตอนนั้นฝนตกเลยจับได้บนถนนหน้าบ้าน วันรุ่งขึ้นอาเอาไปปล่อยลงท่าน้ำวัดใกล้ๆ สบายใจ เพิ่งมารู้เมื่อไม่นานนี้เองว่ามันเป็นเต่าบก - - จากคุณ : ร่มแดง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 05:08:01

ความคิดเห็นที่ 25 ความรู้ใหม่เลยนะเนี้ยยยยย !!! จากคุณ : Dr.Answer เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 05:08:22

ความคิดเห็นที่ 26 อ่อ ผมบ้านนอก มันจะมาตอนเช้ามืด ถ้าตัวใหนข้ามถนนแล้วมันไปตกหลุม ตายลูกเดียวครับ เช้าช่วงหน้าหนาว ตอนข้าวออกรวง ปลามันจะหนีน้ำเข้าคลอง ปลาใหญ่ เวลาไปออกจากคลองมันจะพอจำทางได้...ไม่ใช่แค่ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาดุก ปลาไหล ก็ออก ปลายิ่งตัวใหญ่ยิ่งอึด สามารถอยุ่บนบกได้เป็นชั่วโมงๆ ผมปั่นจักรยานไปโรงเรียน เก็บปลาพวกนี้ได้มาก จะเอากลับบ้านก้ไกลแล้ว กลางทาง เลยเอาไปให้ครูทำแกงส้มซะเลย ปลามันมาก พุงย้อย.. บ้านผมเรียกปลาพวกนี้ว่าปลาหนีหนาว... อีกแบบนึงคือ ถ้าทางน้ำในนาเริ่มไหลเอื่อยๆ ปลามันจะ หาทางกลับคลอง...วึ่งมันก้ช่วงเข้าหน้าหนาวนี่หละ ช่วงนี้ ดักลอบดักไซ ได้เป็นถุงปุ๋ยในบางวัน...วึ่งสวนทางน้ำฝนตกใหม่ ปลามันจะออกคลอง บางตัว ก็ขึ้นถนนแบบนี้แหละ...ช่วงน้ำใหม่ดักปลาได้เยอะเหมือนกัน ... จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 09:05:44

ความคิดเห็นที่ 27 เคยได้ยินตั้งแต่เด็กๆแล้วครับเพิ่งเคยเห็น แต่สงสัยว่ามันรู้ได้ไงว่าอีกฝั่งจะมีน้ำมากกว่า จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 09:49:38

ความคิดเห็นที่ 28 นั่นแหละครับจะบอกวิธีหาปลาง่ายๆให้ครับ คุณลองไปขุดหลุมไว้ที่ฝั่งน้ำที่ปลาขึ้นมาไว้ครับ เอาใกล้ๆน้ำให้ปากหลุมห่างจากน้ำสักฝ่ามือ แล้วคุณเอาเลนจากฝั่งน้ำอีกฝั่งที่ปลาจะไป ไปทาไว้ที่ปากหลุมนะครับ ให้ดีเอาน้ำไปใส่ไว้ที่หลุมสักหน่อย มันจะมีปลาโดดลงหลุมครับ ----------------------------------- ปล. เคยเจอเต่าข้ามถนนอยู่ด้วยความสงสารเลยช่วยจับไปส่งอีกฝั่ง วันต่อมาก็เจออีก เลยลองสั่งเกตุว่า เราจับมันไปปล่อยผิดฝั่ง ดันจับไปปล่อยฝั่งที่มันจากมา  ทำให้มันเสียเวลาไปอีก  กรรม จากคุณ : ขอชื่อที่รักจ๋า ณ พันทิป เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 10:24:08

ความคิดเห็นที่ 29 ปลาช่อนจอมอึด.... วันก่อนไปตลาด สั่งให้เพชรฆาตประหาร ทุบหัว ขอดเกล็ด ตัดครีบ เจาะท้องควักดีออก สองตัว สองกิโลกว่า มาทำขนมจีนน้ำยาอันแสนโอชะ ให้ตายเถอะ....พอเทใส่กาละมังเล็กล้างน้ำ มันเจือกว่ายน้ำด๊อกแด๊กไปมา จนต้องหลับตา เอาสันมีดอีโต้ฟาดอีกที ปลาช่อนเป็นปลาพื้นเมืองของไทยและภูมิภาคนี้ อึดและกินทุกอย่างแม้แต่พวกเดียวกันเอง เหยื่อปลาช่อนต้องเป็นเหยื่อเป็น ที่เคยจับได้โดยเบ็ดเหยื่อก็จะมีใส้เดือน เขียด ลูกกบ ลูกอ๊อด ปลาหมอตัวเล็ก ที่เคยเจอก็มีกินสี่ต่อ เช่น ใส้เดือนเกี่ยวเบ็ด ปลาหมอมากินติดเบ็ด ปลาช่อนมากินต่อ ตามด้วยปูนากินปลาช่อน พอเก็บเบ็ดก็เจอแต่หัวปลาช่อนคาบปลาหมอ ซึ่งชาวบ้านเขามีเคล็ดว่าถ้าร้อนในให้กินปลาหมอในท้องปลาช่อนแล้วจะหาย ผมจึงเอาปลาหมอในท้องปลาช่อน เอ๊ยในหัวปลาช่อนไปให้คนแ่ก่ประจำ ก็บรรดาญาติทั้งหลายนั่นแหละ ที่ไม่พึงประสงค์ก็คือ ตอนใช้เบ็ดเกี่ยวลูกกบเพื่อล่อปลาช่อน มักจะได้งูเสมอ หยึ๋ยส์ งูกินลูกกบเป็นงูชนิดหนึ่งไม่มีพิษ เจอแบบนี้ต้องฟาดให้ตายแล้วก็จับปากงูง้างเอาเบ็ดออก ส่วนการใช้ใส้เดือนก็เสี่ยงเหมือนกัน เนื่องจากญาติก็เลี้ยงเป็ด แถมปล่อยให้หากินเอง มันจึงมีอาณาบริเวณการหากินใกลไปในทุ่งนา ตอนเด็กๆ การได้ยินเสียงโครมครามตรงจุดปักคันเบ็ดเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ ต้องวิ่งแ่ข่งกันไปเพื่อให้ถึงจุดหมายก่อนใครๆ ยิ่งเจอนกน้ำติดเบ็ดก็ยินดีปรีดามากๆ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่แทบจะไม่เคยได้พบ แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือเป็ดของน้านั่นเอง วันนั้นกลุ่มเด็กๆ เราจึงแอบย่างเป็ดของน้ากินที่กลางทุ่งนา เป็ดกินเบ็ดมันลึกเข้าไปในคอ ออกไม่ได้ต้องทำให้ตายลูกเดียว กลัวความผิดจึงต้องทำแบบนี้ และน้าก็มาบอกข่าวในวันหลังว่า ไปทุ่งนากันให้ดูเป็ดของน้าด้วย เพราะมีหมามาไล่กินเป็ดน้าตายไปหนึ่งตัว ขนกระจายอยู่กลางทุ่ง น่าจะเป็นหมาหิวเร่ร่อน แถวบ้านนอกมีเยอะ อืม......คดีหลุด ฮ่า มีน้ำที่ไหนต้องมีปลาช่อน มันมาได้ทุกที่กระดืบๆ มาตามที่ชุ่มชื้น ที่น่าพิศวงคือมันฝังตัวอยู่ในแอ่งน้ำที่แห้งผากตอนหน้าแล้ง พอหน้าฝนมันก็ดันดินโคลนที่นุ่มแล้วขึ้นมาหาน้ำ สุดยอด ลองไปขุดดู ตามบ่อน้ำแห้งแถวบ้านนอกหน้าแล้ง จะต้องเจอ แต่.......ช้าไปต๋อย มันสูญพันธุ์ก่อนน้ำแห้งด้วยซ้ำไป อิอิ วิธีที่หลอกมันได้แจ่มมั๊กๆ คือ นำไหไปฝังระหว่างบ่อสองบ่อ ที่ใกล้ๆ กัน หรือบ่อกับทุ่งนาก็ได้ และนานั้นน้ำต้องแห้งในอนาคต ปลาช่อนจะรีบไปหาแหล่งน้ำอาศัยใหม่ แกล้งมันหน่อย ฝังไหเสร็จทำทางน้ำเล็กๆ มาหาไห ทีเด็ดคือดำน้ำโกยโคลนที่อยู่ใต้บ่อมาลาด โคลนนี้จะทำให้ปลาช่อนเข้าใจผิดคิดว่ามีบ่อน้ำลึกอยู่ตรงนั้น ลาดมาหาไห มันก็ดีใจมากรีบกระดืบๆๆๆๆ มาทันที และตกตุ๋มลงไปในไห จากไหก็เป็นข้อง เป็นชาม หม้อ จานและอิ่ม อิอิ จากคุณ : chem chem เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 10:36:29

ความคิดเห็นที่ 30   เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะ  และได้เห็นจากในรูปนี่ล่ะ  สุดอึดเลยเนอะ เห็นสภาพแล้วสงสารปนน้ำลายไหลจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 11:05:34

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าคลานข้ามถนนบ่อยๆก็ปลาหมอ เจอประจำ เคยเจอปลาช่อนมีกระดูกงูทั้งตัวในท้องเหมือนกัน พ่อครัวไม่บอกใคร กลัวเพื่อนไม่กิน ปลาช่อนฝังตัวไม่เคยเจอเพราะพอน้ำเริ่มงวดพอที่จะโกยดินโคลนกั้นเป็นคันวิดน้ำออกได้ ก็โดนเด็กกั้นวิดไปเรื่อยๆตลอดคลอง คงไม่มีรอดไปได้ ถึงผมจะเด็กบ้านนอกแต่ก็เคยงงมากๆเมื่อไปเขตทุ่งกุลา เช้าวันนั้นเห็นเขาเอาผ้ามุ้งเขียวลากอยู่กลางทุ่ง แถบนั้นแล้งมากห่างจากแหล่งน้ำใหญ่และฝนก็เพิ่งมา เขาลากจับอะไรกันวุ้ย? อ้อ เขาลาก"อีฮวก"กัน แถวบ้านผมทางเหนือกินแต่กบตัวโต ไม่กินตัวเล็ก โรงเรียนผมตอนเด็กอยู่ข้างทุ่งนา พอหน้าฝนลูกกบจากทุ่งนา สนามฟุตบอล ขึ้นมาเต็มไปหมด จนถึงพื้นอาคารชั้นล่าง ที่ว่าเต็มไปหมดนั้น เต็มจริงๆครับ โดนเหยียบตายเต็มพื้น จำได้ว่าตอนนั้นไม่เดินหลบมันเลย เหยียบก็เหยียบไป ก็มันมากจนไม่รู้จะหลบยังไง อาจารย์คณะประมงผมเคยเล่าให้ฟังว่าตอนสร้างเขื่อนเจ้าพระยาเสร็จใหม่ กุ้งก้ามกรามคลานข้ามถนนเขื่อนให้ชาวบ้านจับจับมาเผาขายข้างทางกันเลย ปล.กุ้งก้ามกรามซึ่งอาศัยในน้ำจืดแต่ต้องไปออกลูกวางไข่ที่ทะเลแล้วจึงจะกลับมาโตในน้ำจืดอีกครั้ง การสร้างเขื่อนกั้นจึงทำให้กุ้งก้ามกรามที่แพร่พันธุ์ตามธรรมชาติเหนือเขื่อนหมดไป จะเหลือแต่กุ้งที่กรมประมงเอาลูกกุ้งไปปล่อย จากคุณ : คนรักดาบไทย เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:51:07

ความคิดเห็นที่ 32 #7   เป็นที่มาของคำว่า  "ขุดบ่อล่อปลา"  นี่เอง จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:12:45

ความคิดเห็นที่ 33 ปลาบืน ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : in-situ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:27:16

ความคิดเห็นที่ 34 เคยเลี้ยงครับปลาช่อน ใส่ตู้ไว้ ตอนเช้าวันหนึ่งมาดู มันหายไปจากตู้ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนบ่ายๆ นั่งเล่นแล้วเจอก้อนอะไรไม่รู้อยู่ข้างบ้านนึกว่าขี้หมา ดูีดีๆ อ้าวปลาช่อนนี่หว่ามาถึงนี้ได้ไง มันมีอิฐสูงสักฟุตกั้นไว้ด้วยไม่รู้โดดข้ามมาได้ไง แต่มันยังไม่ตายนะ ตัวแห้งหมดแล้ว จับใส่ตู้ก็ว่ายได้ปกติ มันอึดมากจริงๆเลย จากคุณ : Mr.Submarine เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:39:33

ความคิดเห็นที่ 35 ปลานอกจากข้ามถนนได้แล้วยังดำดินได้ด้วยค่ะ สมัยก่อนบ้านขุดบ่อปลา ปลาเต็มบ่อเลย พอวิดน้ำออกเพื่อจะจับปลาออกไปบ้าง หายโหม้ด พอน้ำเต็ม ... มันก็เต็มบ่ออีกตามเดิม จากคุณ : คุณอ่อง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 17:04:16

ความคิดเห็นที่ 36 #7 ผมเคยทำครับ อิอิ ตอนนั้นพ่อพาไป ขุดหลุมดักปลาแบบนี้แหละ แล้วไปเอาน้ำ เอาโคลนจากอีกที่มาใส่ แล้วตอนเช้ามาดู ก็เจอปลาเต็มบ่อ ตอนนั้นขุดไว้หลายบ่อ นับปลาที่ได้ทั้งหมด ประมาณ 70 ตัว จากคุณ : iStylez เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 17:06:19

ความคิดเห็นที่ 37 อุ้ยปลาบืนน ปลาหมอก็บืนได้นะครับ ปล.ตามทุ่งนาหน้าฝน เดินตามคันนา ไม่ระวังตกหลุมล่อปลาได้นะครับ บางทีก็เอาบี๊บไปวาง จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 17:10:01

ความคิดเห็นที่ 38 กว่าจะได้กินปลาช่อนลุยสวนก็ยากเหมือนกันนี่นา จากคุณ : civic coupe (punkskate208) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 18:22:22

ความคิดเห็นที่ 39 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:06:48

ความคิดเห็นที่ 40 มาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำแล้ว  งั้นจานนี้ให้คุณทาสฯฉลอง ปล. ถ่ายรูปมาให้ดูอีกเยอะ ๆ นะ ชอบครับ ปล.2 ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:20:51

ความคิดเห็นที่ 41 เด็กตึกแถวสุขุมวิท เข้ามาในกระทู้นี้แล้วได้กลิ่นหญ้าผสมกลิ่นบึง อิจฉามาก จากคุณ : ใหญ่ล่ำดำถึกแต่_สวย เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:49:14

ความคิดเห็นที่ 42 คิดถึงสมัยเด็ก แต่ปลาช่อนผมต่างจากข้างบน เพราะปลาช่อนบ้านผมจะเป็นปลาชอนอยู่น้ำกร่อย อยู่ป่าโกงกาง บ้านผมไม่มีนา วิธีตกก็ง่าย ๆ เอาลูกปลาหมอมาเกี่ยวเบ็ดด้านหลัง ปักเบ็ดในลักษณะให้ปลาหมอวายอยู่เหนือน้ำนิดหน่อย หรืออีกวิธีก็แบบน้าข้างบนว่า เกี่ยวเบ็ดด้วยใส้เดือนให้ปลาหมอมากินแล้วก็ทิ้งไว้  1 คืน ตื่นเช้ามาเบ็ดพร้อมไม้ไผ่จะอยู่กลางบอ 100% ได้ปลาช่อนชัวร์ จากคุณ : Nioka เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:12:54

ความคิดเห็นที่ 43 ผมคิดไปถึงเรื่องน้ำท่วม การจำศีลของปลาช่อน จะเป็นการบอกอย่างนึงหรือไม่ว่า พื้นที่ลุ่มน้ำของไทยทั้งหมดที่มีปลาช่อนอยู่ เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมถึงทุกปี จึงทำให้เกิดวิวัฒนาการการจำศีลของปลาช่อนเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ ที่แห้งในฤดูร้อน และท่วมในฤดูฝน ดังนั้น เรื่องน้ำท่วมจึงเป้นเรื่องปกติของประเทศไทย การแก้ปัญหาจึงไม่ใช่แค่การสร้างเขื่อน การทำแก้มลิง แต่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยให้อยู่กับน้ำ อย่างคนสมัยก่อนที่มีใต้ถุนสูง ถนนที่ยกสูง เพื่อให้ใช้ได้ทุกฤดู ควรมีการทำจุดระบายน้ำอย่างพอเพียง ให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกที่สุด และอาจจะถึงกับต้องทำเป็นถนนลอยสูงจากพื้นเหมือนสะพานเลยก็ได้ ถ้านอกเรื่องไปก็ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:25:21

ความคิดเห็นที่ 44 ปลาช่อนมันชอบฝังตัวด้วยค่ะ ที่บ้านเรามีบ่อเลี้ยงปลาจะสูบน้ำในบ่อออกจับปลาทุกปี เจ้าปลาช่อนนี้มันจะฝังตัวอยู่ในโคลนค่ะ อยู่ลึกด้วย มีแต่โคลนก็อยู่ได้ แทบจะไม่มีน้ำ เลย ต้องแหวกโคลนแล้วควานหาเอา ตัวใหญ่มาก แถวบ้านเรียกว่า ''แม่ราง'' ตัวที่ใหญ่ มากๆ เค้าก็จะไม่เอาเพื่อเอาไว้ขยายพันธ์ต่อค่ะ อีกอย่างตัวยิ่งใหญ่เค้าว่าเหมือนเจ้าที่ เฝ้าบ่อ ไม่มีคนกล้ากิน แต่เนื้อมันคาวมาก กินไม่ค่อยลงเลย... จากคุณ : You Much เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:25:33

ความคิดเห็นที่ 45 บ้านเราก็มี  บ่อน้ำข้างบ้านอ่ะ พอฝนตกหนักๆน้ำมันระบายไม่ทัน  น้ำท่วมไหลไปตามทาง แล้วทันใด ปลาช่อน ลูกปลาช่อน ปลาหมอ  พาเหรดมาจากไหนไม่รู้เต็มไปโหม้ดดดดดด ปีนึงมันจะมีเยอะๆประมาณ 2-3 ครั้ง ที่ว่าเยอะนี่ คือ เยอะจริงๆนะ  แบบว่าทั้งครอกเลยอ่ะ ลูกปลาช่อนอ่ะ จับไปขายคงได้หลายตังค์อยู่  แต่ที่บ้านเอาไปปล่อยคลองหมด จากคุณ : Serefim เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:41:15

ความคิดเห็นที่ 46 ห๊วย หน้าข้าวใกล้สุกน้ำลด พากันไปขุดหลุมตั้ว  ฮ่าๆๆ  ปลามันได้กลิ่นโคลนกลิ่นน้ำครับ  ปลามันรู้ว่าน้ำลดแล้วต้องไปหาที่อยู่ใหม่  สมัยเป็นเด็กน้อย ไปขุดหลุมตามคันนา  ไปหมุดเอาโคลนในสระน้ำมาทาๆที่ทางขึ้นหน้าหลุม  เอาใบตาลมาบังไว้ไม่ให้ปลากระโดดออก  แต่ครั้งหนึ่งมันจะข้ามจากนาไปบ่อ ตัวใหญ่มากประมาณ 8 กิโลได้อยู่บนคันบ่อรีบวิ่งตะครุบเลย  เสร็จเราฮ่าๆ วันนั้นนั่งรอได้มาอีกตัว แต่ตัวหลังแค่ 5 กิโล น่าจะเป็นคู่กัน สุดท้ายได้เป็นปลาคู่ในหม้อ  เวลาน้ำลดถ้าเราเปิดทางน้ำระบายจากนาปลาตัวใหญ่ส่วนมากจะไม่ไปตามน้ำ  จะชอบคลานตามมุมนา ตามพื้นหญ้าเตี้ยๆ  ไซ่ที่ดักได้แต่ปลาหม้อตัวเล็กเต็มไซ่ยกแทบไม่ขึ้น ข้างๆขุดหลุมดัก (เกิดจากการบอกเล่าของปู่ย่าตายาย แล้วจากการสั่งเกิดรอยคลานจนสึก) เต็มหลุมครับอิอิ  แต่ต้องไปเก็บแต่เช้าน่ะ ตีห้าเลย  ไปส่ายๆปลาจะตายเอา เพราะโดนแดด พฤติกรรมปลาจะคลานย้ายน้ำจะทำในวันที่เดือนมืด ลมแรง ครับ  เพราะมืดศัตรูจะมองไม่ค่อยเห็น  ลมจะช่วยในการคลานได้เร็วขึ้น เวลากระโดดจะกระโดได้ไกล และทำให้มีความชื้นปลาจะไม่ตัวแห้งตัวจะลื่น กระดึ๊บๆ ง่าย อิอิ   กลางวันปลาก็ขึ้นนะครับแต่ว่าต้องเป็นที่ลมแรงและเงียบ หึหึ ปลาที่จขกท เอามาให้ดูน่าจะเกินวันแล้วที่คลานมา  ดูจากดินโคลนที่เกาะแห้งมากแล้ว  อันนี้จากประสบการณ์นั่งดูตอนปลาโดดและคลาน สุดท้ายลงหม้อหมด เคยได้ปลาเข้าหลุมเป็นกระสอบๆมาแล้ว   ปลาไหลยังเข้าเลย - -* เด็กบ้านนอกก็งี้แหละครับ หาปูหาปลาตามมีตามเกิด หากินใช้พ่อแม่สมัยเด็กๆ ไม่ได้วิ่งเล่นสนุกสนานแบบเด็กทุกวันนี้เท่าไหร่ แมวที่บ้านไปคาบมาตลอดเลย หน้านี่ ส่วนใหญ่จะได้ตัวเท่าข้อเท้า กัดกินแต่แถวกลางตัว T_T ปลาแบบนี้แซ๊บครับพี่น้อง  เอาไปปิ้งน่ะ  หรือต้มใส่ใบแขยงอร่อยยยหลายๆ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 22:28:11 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 22:09:17 จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:07:48

ความคิดเห็นที่ 47 ปูนาเจอบ่อยค่ะ เดินเปะปะไปทั่ว จากคุณ : Pride เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:10:05

ความคิดเห็นที่ 48 # 9 # 23  # 26  ฮู๊ยยยยยยยยยยยยเด็กบ้านนอกพวกเรา เรื่องทางปลานี้เด็กบ้านนอกประสบการณ์สูงเท่านั้น  ทางสึกนั้นละ ฮ่าๆๆ  ขุดหลุมแล้วไปดำเอาโคลนในบ่อน้ำไปทากับว่านน่ำ  เอาถังไปใส่บ่ได้เด่ซุกมื้อนี่ ต้องด่างเขียวเท่านั้น  กลับบ้านเก็บผักแขยงโป๊ะนำปลาจะได้ฮ่มๆบ่ตายไว เอาไว้ใส่ต้มได้หน้ำ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 22:33:28 จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:16:06

ความคิดเห็นที่ 49 สงสารก็สงสารนะ แต่ก็จะกินให้หมดไม่ให้เหลือแล้วกันนะ อ่านไปอ่านมา สยิวอ่ะ กลัวกบ จากคุณ : Dreadnought เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:35:35

ความคิดเห็นที่ 50 # 49  หน้านี่เขาก็ใส่เบ็ดกบกันน๊า อิอิ ปลายฝนจะใส่เบ็ดกบ กบหน้านี้อาหย่อยย กว่าหน้าฝนเยอะ จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:39:10

ความคิดเห็นที่ 51 คห.49  ต้มกบใส่ผักขแยง  แซบหลายเด๊ะ ชิมไหม^^ จากคุณ : กันติมา เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:45:54

ความคิดเห็นที่ 52 เหมือนกระทู้ เช็ค เด็กเมือง กับ เด็ก ต่าง จังหวัดเลย อิอิ จากคุณ : SenSiTivE_mAn เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:55:15

ความคิดเห็นที่ 53 ปลาหลิมหัวมน มีขนตางเก๊า จากคุณ : หมาไฟ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 23:01:56

ความคิดเห็นที่ 54 เอ่อ..กระทู้นี้ เช็คได้หลายอย่างแฮะ เช่น -เช็คเรทอายุ -เช็ควีรกรรมตอนเด็กๆ ถูกใจที่สุด...   ผมเองก็เด็กบ้านนอกนะ อิอิ จากคุณ : คุณชายธนกวี เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 23:21:52

ความคิดเห็นที่ 55 ผมเด็กบ้านนอก จับมาหมดแระ ปลาพวกนี้ อิอิ ปลามันก็มีสัญชาติญาณตามธรรมชาติ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 23:34:08

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่รู้ทำไมอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกดีจัง :) จากคุณ : EKP เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 23:40:14

ความคิดเห็นที่ 57 Snakehead fish ปลาหัวงู มันกำลังจะข้ามถนนไปหาชู้ จากคุณ : darkjunk เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 23:51:42

ความคิดเห็นที่ 58 สะพานลอยไหมปลา จากคุณ : yongiee เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 00:16:50

ความคิดเห็นที่ 59 อ่ากระทู้นี้แล้วอยากกินปลาช่อนตัวโตๆ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 00:41:07

ความคิดเห็นที่ 60 เคยได้ยินสำนวนแถวบ้านผมมั้ย   เค้ามีสำนวนว่า   "แถกเหงือก"  ครับ   มีที่มาจากปลาพวกนี้แหละครับ  ที่มันแถกไปอีกฝั่ง   ถ้ามันดีก็ดีไป   ถ้ามันพลาดก็ลงหม้อ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 00:54:56

ความคิดเห็นที่ 61 สมัยก่อนจะนิยมใช้ไห  ปลาเต็มแล้วเติมเกลือปิดสนิท  บรื้มกลายเป็น.... จากคุณ : หัวปลาทู เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 02:39:34

ความคิดเห็นที่ 62 ปกติเราก็กินปลาไม่ค่อยลงอยู่แล้ว (ไม่ค่อยชอบเดินตลาดสดตรงมีปลา เพราะไม่ชอบดูแม่ค้าทุบหัวปลา) อ่านกระทู้นี้ ยิ่งกินไม่ลงไปใหญ่เลย = =" สงสาร พอนึกว่ามันอุตส่าห์กระดึ๊บๆมาหาน้ำ แล้วโดนจับกิน หรือโดนล่อลวงไปกินแล้ว ยิ่งสลดใหญ่ (ไม่ได้ว่าคนกินนะ เราก็กิน แต่อธิบายความรู้สึกไม่ถูก คือไม่ชอบเวลาเห็นสัตว์โดนฆ่าตั้งนานแล้ว) ว่าแล้วกินเจดีกว่า เหอๆ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 02:59:28

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องพฤติกรรมของปลา ไม่ค่อยรู้ครับ กินเป็นอย่างเดียว 55+ จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 03:57:29

ความคิดเห็นที่ 64 สมัยก่อนจะนิยมใช้ไห  ปลาเต็มแล้วเติมเกลือปิดสนิท  บรื้มกลายเป็น....   ^ ^ โกโกครันช์ จากคุณ : Amperage เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 04:13:23

ความคิดเห็นที่ 65 ไหนๆก็แสดงตัวเป็นเด็กบ้านนอกแล้วพูดเรื่องตกกบอีกหน่อย ตอนเด็กมีคนงานจากอิสานไปเที่ยวตกปลาด้วยกัน แกมีวิธีตกกบแปลกดี แกใช้ดอกชบาเกี่ยวกับเบ็ดคันยาวๆ แล้วแกว่งดอกชบาที่ผิวน้ำไปมา สักพักมีกบลอยคอขึ้นมาผิวน้ำ แกก็เอาเบ็ดกลับมาเปลี่ยนเหยื่อเล็กที่กบงับง่ายๆ กบมันก็รอวุ้ย พอแกว่งเบ็ดไปแถวหน้ากบเท่านั้นแหละ มันกระโดดงับเลย พอจับได้ ถึงตรงนี้ใครขี้สงสารผ่านไปก็ได้นะครับ เขาจับกบหักขาหลังเลย บอกว่าถ้าไม่หักมันจะเจาะถุงพลาสติกที่ใส่หนีได้ จากคุณ : คนรักดาบไทย เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 05:50:38

ความคิดเห็นที่ 66 อ่านเพลินเลยค่ะ จากคุณ : เป็ดชบา เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 07:02:31

ความคิดเห็นที่ 67 มันคนละปลาช่อนที่อาว์กังฟูเอามาลงบ่อยๆใช่ไหมครับ - -' จากคุณ : เบรคสะบัดคลัทช์เสียเกียร์หลุด เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 07:21:48

ความคิดเห็นที่ 68 โห ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องแปลกเลยนะครับ แถวบ้านผมมีเยอะ แต่ส่วนมากกลางคืนมันค่อยออกมากันอะครับ จากคุณ : foxaon1 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 08:39:02

ความคิดเห็นที่ 69  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด  คุณทาส  งี้ต้องฉลองด้วยนะ ชอบกระทู้นี้อ่ะ  เพราะไม่เคยรู้และไม่เคยพบกับตัวเองเล้ยยยย ป.ล.ดูขนาดของปลาแล้วทำพอจะทำแกงส้มได้นะ จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 08:54:58

ความคิดเห็นที่ 70 มีใครคิดเหมือนผมมั้ย ดูรูปแรกแล้วนึกว่ากระทู้เรท จากคุณ : เจ้าชายฤดูฝน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 09:04:58

ความคิดเห็นที่ 71 ที่มาของ "หวังน้ำบ่อหน้า"...สินะคะ จากคุณ : Madame Bovary เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 10:41:55

ความคิดเห็นที่ 72 น่าเอ็นดู จากคุณ : Natthanuch1 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:18:44

ความคิดเห็นที่ 73 นี่กระทู้ผมได้เป็นกระทู้แนะนำเหรอครับ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (แต๋วแตกเล็กน้อย) จุดพลุฉลองอีกแล้ว ดีใจสุดๆ เลยครับ จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:22:56

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบพระคุณทุกเสียงโหวดครับ ปล่อยโคมด้วย ฉลองออกพรรษาไปด้วยเลย จากคุณ : MysteriousSlave เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:25:18

ความคิดเห็นที่ 75 หวัดดีครับ ไม่ได้เจอะ คุณทาสเสียนานเลยเชียว ป้อนไข่ ฉลอง ด้วย จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:44:34

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่กินปลาน้ำจืดหลายชนิดเพราะมันอึดนี่แหละค่ะ ไม่เหมือนปลาทะเลใจเสาะมาก จากคุณ : Fuangfu เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:49:02

ความคิดเห็นที่ 77 555 จากคุณ : nasaseria เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 11:52:26

ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พาที่รัก ^^v ไปนั่งคุยกับน้องสาวเค้าที่หมู้บ้านแถวเทพารักษ์ ก็หมู่บ้านจัดสรรธรรมดาๆ บ้านเรียงกันเป็นพรืดนี่แหละ นั่งคุยกันตรงม้าหินหน้าบ้านอยู่ดีๆ ผมเผอิญก้มลงไปเห็นตัวอะไรยุกยิกๆ อยู่ใกล้ๆเท้าผม ...กุ้งฝอย (แบบที่เอาไปทำกุ้งเต้นนั่นแหละ) หลงมาจากใหนก็ไม่รู้ เดินอยู่บนพื้นคอนกรีตตรงนั้น ตัวเดียวโดดๆเลย งงกันทั้งโต๊ะ จะปล่อยไปเฉยๆก็กระไรอยู่ ก็เลยหยิบไปใส่อ่างบัวที่อยู่หน้าบ้านเค้าพอดี หลังจากนั้นก็ไม่รู้เป็นไงแล้ว ปอลอ จนถึงตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี ว่าอยู่ดีๆ กุ้งฝอยตัวเดียว จะหลงมาเดินอยู่บนถนนซีเมนต์แห้งๆตัวเดียวได้ไง สืบมาแล้ว ในช่วงนั้น บ้านใกล้เรื่อนเคียง ไม่มีบ้านใหนทำกุ้งเต้นซักหลังซะด้วยสิ เป็นงง --a จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 12:17:31

ความคิดเห็นที่ 79 ปลาบ้านหนูก็ข้ามถนน T^T ถนนหน้าบ้านกลายเป็นคลองไปแล้ววว ว่ายกันเต็มเลย มาเป็นฝูงด้วยเหอๆ เฮ้อ บ้านน้ำท่วมนี่เซ็งอย่างเดียว จะบ้าคาคอมอยู่แล้ว จากคุณ : บาร์ข้าว เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 12:21:03

ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อก่อนแถวบ้านผมเจอเยอะแยะเลย ในลำคลองก็มีเยอะเพราะอยู่ติดตลาด แต่เดี๋ยวนี้....T^T จากคุณ : PaND@_BIG เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 12:25:19

ความคิดเห็นที่ 81 รู้สึกเหมือนจะเป็นกระทุ้รำลึกความหลังนะ lolz จากคุณ : lด็กเ[ก]รีElน เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 12:37:49 A:202.28.45.25 X: TicketID:167218

ความคิดเห็นที่ 82 ห่อหมกปลาช่อนใส่ใบยอ แซ่บหลาย  ยิ่งปลาช่อนตัวเท่าน่องน่ะโหย อย่างแซ่บ จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 12:45:49

ความคิดเห็นที่ 83 เอาดีปลาช่อนทาแผล แล้วจะไม่เป็นแผลเป็นนะครับ จากคุณ : ปอมปอม มิยาโตวิช เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 13:45:39

ความคิดเห็นที่ 84 ขุดดินเอาไหดักไว้ระหว่างบ่อ แถวบ้านผมเรียก"หลุมโจร" ครับ จากคุณ : กลิ่นหญ้า เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 13:54:16

ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อก่อนเจอบ่อยค่ะ ปลาหมอ จะเถือกไปบนถนนเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง มันมักจะขึ้นมาตอนฝนตกค่ะ เหมือนดีใจเจอน้ำเลยจะข้ามไปหาแหล่งน้ำที่ใหญ่กว่า เราไม่ได้ลงไปช่วยนะเพราะฝนตกหนักมาก มองเห็นจากในรถอ่ะค่ะ ปล บ้านน๊อกบ้านนอกแถวๆ บางบัวทองเมื่อก่อนนี้ค่ะ จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 14:52:17

ความคิดเห็นที่ 86 ปลาหนีน้ำทีไร เจ้าบางแก้วที่บ้านคาบมาให้ทำกับข้าวทุกที จากคุณ : เซนทาโร่ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 15:05:26

ความคิดเห็นที่ 87 ผมอยากเอาปลาช่อนมากดน้ำ กับวางไว้บนบก อยากรู้ว่าตัวไหนจะตายก่อนกัน เพราะเคยได้ยินคนเล่ามาว่าจับปลาช่อนกดน้ำกับเป็ด ปลาช่อนตายก่อน ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า จากคุณ : La Divinite เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 15:32:27

ความคิดเห็นที่ 88 เคยเจอเหมือนกันครับ มันพากันข้ามถนน 7 ตัว รีบวิ่งไปเอาถังน้ำที่บ้านมาจับ เอาไปปล่อยที่แม่น้ำ จากคุณ : TAKASILA เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 15:43:00

ความคิดเห็นที่ 89 มีใครเล่น "ปลาไหลต้มเปรต" ไปยัง ~ จากคุณ : Cocopok เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 16:22:02

ความคิดเห็นที่ 90 มาฮากับแต่ละความเห็น เสียไปแล้วเรียบร้อย 4 กิ๊ฟ จากคุณ : jigabelle เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 17:11:27

ความคิดเห็นที่ 91 ดู #19 แล้ว มีความเห็นเพิ่มว่า นี่มัน วิวัฒนาการคู่ขนาน กับ การเกิดปอด เป็นไปได้ไหม จากคุณ : Prof.Sirius เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 19:55:38

ความคิดเห็นที่ 92 หากินยากปลาช่อนนา จากคุณ : ratmo_11 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 21:38:13

ความคิดเห็นที่ 93 ใครอ่านแล้วหิว มั่งอ่ะ - _, - จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 22:19:16

ความคิดเห็นที่ 94 หิวง่ะ เด็กบ้านนอกเหมือนกัน ทำไมไม่เคยเจอ TAT อิจฉาาาา หรือเพราะบ้านเรามันไม่ติดคลองกันนะ จากคุณ : เด็กน้อยบ่มีอ่หยั่ง เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 01:13:53

ความคิดเห็นที่ 95 ในทักษะสัมพันธ์ หนังสือเรียนภาษาไทยชั้น ม.ต้นก็มี 'ชีวิตปลาช่อน' จากคุณ : โคอีสีอิฐ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 01:52:24

ความคิดเห็นที่ 96 อยากกินปลาช่อนน้ำตก กันเลยทีเดียว จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 02:07:55

ความคิดเห็นที่ 97 กระทู้นี้ดีจัง เราก็คนบ้านนอกนะ แต่ไม่รู้เรื่องพวกนี้อ่ะ เหมือนอ่านเมื่อคุณตาคุณยายยังเด็กเลย สนุกจังค่ะ จากคุณ : bridesmaid เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 06:35:03

ความคิดเห็นที่ 98 มนุษย์นี่เป็นสัตว์ที่ ... จากคุณ : fdX3S เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 08:23:30

ความคิดเห็นที่ 99 รู้ได้ไงครับว่ามันจะไปอีกฝั่งนึง มันอาจจะข้ามมาจากที่ จขกท โยนมันลงบ่อก็ได้ อุตส่าห์เดินมาขนาดนี้ ดันโดนโยนกลับที่เดิม  อิอิ จากคุณ : คุณชายไข่เจียว เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 09:35:21

ความคิดเห็นที่ 100 กรี๊ด ถ้าชาวมังสวิรัติมาก่อนคงจะเป็นลม T T กรรมวิธีฆาตกรรมปลาและเป็ด จากคุณ : uka04 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 12:05:58

ความคิดเห็นที่ 101 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 12:46:18

ความคิดเห็นที่ 102 อยากกินปลาช่อนครับ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 13:04:26

ความคิดเห็นที่ 103 ฮาแบบมีสาระ จากคุณ : Pu'Chew เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 13:08:08

ความคิดเห็นที่ 104 ที่บ้านก็เป็นทุ่งนาและติดคลอง แต่อยู่ในกรุงเทพ(ชานเมือง)นะคะ ตอนเด็กเรื่องหาปลาตามธรรมชาตินั้นง่ายมาค่ะ อยากกินปลา หย่อนเบ็ดแป๊บๆ เดี๋ยวก็ได้แล้ว กุ้งฝอยๆนี่ ช่วงน้ำหลากคืนเดือนเพ็ญ เตรียมสวิงช้อนกันได้เป็นกะละมัง คิดถึงตอนเด็กๆแล้ว ชีวิตบ้านนาสนุกมาก แต่แค่ผ่านไปสิบกว่าปี ตอนนี้ขนาดลงตาข่ายทิ้งไว้ ปลาเล็กๆยังไม่มีมาติดเลยค่ะ เคยคุยกับที่บ้านและพวกลุงๆที่หาปลาแถวนั้น เค้าว่าสาเหตุน่าจะมาจากการใช้สารเคมีในนาข้าว พวกปุ๋ยและที่สำคัญคือยาฆ่าหอยเชอรี่ และก็พวกทำบ่อกุ้งไม่บำบัดน้ำ ส่วนตัวก็เชื่ออย่างนั้น แต่ก็คิดว่าอาจเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของหมู่บ้านจัดสรรตามชานเมืองด้วยค่ะ ถึงไม่รู้สาเหตุที่แน่นอน แต่ก็อยากให้ทุกคนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงธรรมชาติกันไว้นะคะ ชีวิตพอเพียงตามธรรมชาติ มันมีความสุขจริงๆค่ะ จากคุณ : busajula เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 14:08:45

ความคิดเห็นที่ 105 มันไม่ได้ไปแบบ มั่วๆ ครับ มันไปโดยสัญชาตญาณ ในการเอาชีวิตรอด ตอนช่วง หน้าฝน ปลาขึ้น มันจะว่ายสู้น้ำ เวลา น้ำไหล ปลามันจะ ว่ายทวนกระแสน้ำ ขึ้นไป เพื่อ วางไข่ เพราะมันรู้ ว่า น้ำไหล มาจากแหล่ง น้ำที่ ใหญ่กว่า ปลาหน้านี้ จะมีไข่ แต่ไม่อร่อย มีคาว มาก แต่ พอเข้า หน้าหนาว ปลาลง จะว่ายตามน้ำ เพราะมัน ทราบว่า น้ำกำลังจะแห้ง และ ไหลไปรวมกันที่ แอ่งน้ำ   ถ้าตัวใหนไปถึง ก็มีโอกาส รอหน้าฝนมาเยือเพื่อวางไข่ ขายยพันธ์ ต่อไป ส่วนตัวใหน ที่ไปไม่ถึง ก้ไม่มีโอกาส ขยายพันธ์ เป็นการ คัดพันธ์ โดยธรรมชาติ ที่ผู้ที่แข็งแรง จะคงอยู่เพื่อ ถ่ายทอด สายพันธ์ สืบต่อไป  ปลาหน้านี้อหร่อย ครับ เพราะมัน สะสมไขมันใว้ ต่อสู้กับหน้าแล้ง ที่กำลังมาเยือน ปล ตาม  ความคิดเห็นที่ 7  เขาเรียกว่าการวางหลุม  ถ้าจะหลอกให้ เนียน ๆ ต้องไป เอาโคลนจาก บ่อปลา เก่าๆ มันจะมีกลิ่นเฉพาะ หลอกปลาได้ ดีนักแล   ของธรรมดาของบ้านนอก ก็กลายเป็นของประหลาดของคนเมือง บ่งบอกถึง ช่องว่างระหว่าง สังคม ที่นับวัน ยิงห่างออกไปทุกทีๆ แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 14:17:06 จากคุณ : mangginoon เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 14:14:48

ความคิดเห็นที่ 106 จริง ๆ ไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างบ้านนอกกับคนเมืองหรอก แต่เป็นคนสมัยเก่า กับคนสมัยใหม่มากกว่า จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 19:47:57

ความคิดเห็นที่ 107 คห.9 ว่าขโมยซีนแล้ว คห.20 นี่ขั้นเทพ !!!!! ข้าน้อยขอคารวะ จากคุณ : กระต่ายน้อยเล่นโยคะ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 19:52:25

ความคิดเห็นที่ 108 5555555555 จากคุณ : gtuwara เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 02:02:35

ความคิดเห็นที่ 109 กระทู้ปลาๆ นี่เป็นที่น่าสนใจของคนเมืองมาก เห็นแล้วหิวน่ามาทำแกงส้มปลาช่อนทอด จากคุณ : แกงส้มไข่เจียว เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 11:00:30

ความคิดเห็นที่ 110 wow ขอบคุณนะคะ ไม่เคยรู้เลย ว่าปลาบางชนิดก็ขึ้นมาบนบกแล้วไปหาที่อยู่ใหม่ได้ด้วย มหัศจรรย์มากกกเลย ตอนแรกที่เข้ามานึกว่าปลาตี น   ซะอีก อยากไปเห็นบ้างจัง จากคุณ : blissfully cherry blossoms เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 13:59:43

ความคิดเห็นที่ 111 เพิ่งเห็นกระทู้นี้อ่ะ ตอนเด็กๆเคยเห็นที่บึงหน้าสวนของแม่   ทั้งปลาช่อน ปลากระดี่   ปลากระดี่ย้ายบึงนี่หาดูได้ตอนฝนหยุดตกใหม่ๆ จากคุณ : ศศิวิมล เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 14:07:00

ความคิดเห็นที่ 112 ยืนยันว่าปลาหรือสัตว์ทั้งหลายมีสัญชาติญาณ  คนก็มี .. เราก็เคยได้กลิ่นดิน กลิ่นฝน  กลิ่นฝนเพิ่งหยุดตก เขาถึงเรียกว่า อุ่นไอดิน กลิ่นแหล่งน้ำ กลิ่นแล้ง กลิ่นหญ้าเขียวๆ หรือหญ้าตรงนี้มีน้ำแฉะๆ ยังแยกแยะได้เลย ใครไม่เคยอยู่ต่างจังหวัดคงไม่เชื่อว่ามันมีกลิ่นจริงๆนะ เพราะดมแต่กลิ่นควันรถ อันนี้แซวเล่นนะ จากคุณ : Choco-Mix เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 14:44:50

ความคิดเห็นที่ 113 อีกเรื่องอันนี้ไม่ได้ทำเอง ฟังพี่ที่อยู่บางบอนเล่ามา ไม่อยากบอกอายุพี่เขาเลย เดี๋ยวรู้อายุผมหมด ตอนไปกาฬสินธุ์ เลยหิ้วปลาบู่ตัวเกือบสองโลไปฝากพี่เขาที่ร้อยเอ็ด พี่เขาบอกคนที่บ้านเขา(บางบอน)ไม่กินปลาบู่เพราะนิยายปลาบู่ทอง พอหั่นเป็นชิ้นทาเกลือทอดเสร็จ พี่เขาฟังเราว่าอร่อยอดลองชิมไม่ได้ พอชิมไปเท่านั้นแหละ ร้องเสียดายมาก ตอนเด็กไม่กินจับได้ปล่อยหมด วิธีจับปลาของพี่เขาก็แปลกดี แกว่าง่ายมาก แค่เดินลงไปในร่องสวนสักสิบก้าว จากนั้นก็ดำน้ำลงไปงมปลาในรอยเท้าของแกนั้นแกละครับ ปลาที่ได้เป็นปลาช่อนกับปลาบู่ แกเอาแต่ปลาช่อน ปลาบู่ปล่อยหมด เพราะกลัวเป็นแม่นางเอื้อยมาเกิด ชาวบ้านว่างั้น แต่ในกระบวนจับปลาที่พิสดาร ผมยังมีที่พิศดารกว่างมปลาในรอยเท้า วันหนึ่ง(สมัยเป็นหนุ่มน้อย)พี่ที่หอพักวิ่งขึ้นห้องตอนค่ำพร้อมกับปลาช่อนตัวใหญ่ ถามว่าจับมาได้ไง เห็นพี่เขาแต่งชุดกีฬาฟุตบอล ไม่มีเครื่องมือสักอย่าง เขาว่าตอนกลับจากซ้อมผ่านคลองข้างหอ เห็นมันลอยตัวขึ้นมาผิวน้ำริมคลอง ก็เลยเข้าชู๊ตเต็มเหนี่ยว เจ้าปลาเคราะห์ร้ายก็ปลิวตามตินขึ้นบกให้จับ จากคุณ : คนรักดาบไทย เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 21:06:37

ความคิดเห็นที่ 114 บ้านเป็นสวนเก่าค่ะ เมื่อก่อนน้ำท่วมใต้ถุนบ้านและเชื่อมกับร่องสวน ต่อมาเทปูน ตัดทางเชื่อม แต่น้ำก็ยังเจิ่งๆ อยู่ใต้ถุนน่ะนะ.... ผ่านมา 10 ปีค่ะ เมื่อเดือนก่อน เหม็นเน่ามาก บริเวณหน้าบ้าน ก็นึกว่าหนูตาย แต่กลิ่นไม่ใช่หนูอะ ไปถามพี่ชาย พี่ชายบอก "ปลาดุก" ฮะ...มันมาจากไหนวะ "ใต้ถุนไง กระโดดขึ้นมาฆ่าตัวตาย" พอเดินไปดู แม่เจ้าโว้ย ปลาดุกตัวเท่าแขนผู้ชาย (แบบไม่ลีบและไม่เพาะกล้าม) มันอยู่มาได้ไงตั้งหลายปี orz ....เหม็นนานด้วย จากคุณ : shakri เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 22:36:34

ความคิดเห็นที่ 115 รวมพลคนบ้านนอก สงสัยต้องไปชุบตัวที่ลอนด้อน จากคุณ : sabtoat เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 09:26:31