ความคิดเห็นที่ 1 บทที่ 0: ความเข้าใจพื้นฐาน 0.0: แฮกเกอร์จะเจาะระบบคอมพิวเตอร์และขโมยความลับของบริษัทหรือไม่? ไม่ แตกต่างจากที่สื่อรายงานแบบผิดๆ พวกที่เจาะคอมพิวเตอร์นั้นเรียกว่าแครกเกอร์ แฮกเกอร์ เป็นแค่คนที่ชอบเล่นคอมพิวเตอร์เท่านั้น แฮกเกอร์อาจไปยุ่งกับระบบความปลอดภัยเล็กๆน้อยๆ แต่นั่นไม่ใช่เจตนาร้าย โดยมากที่ทำไปก็เพราะเขารู้สึกว่ามันเกะกะ หรือไม่ก็เพราะอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นเอง 0.1: แล้วจ้างแฮกเกอร์นี่คิดถูกหรือคิดผิด? มันขึ้นกับประเภทงาน แฮกเกอร์อาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคนทั่วไปอย่างทาบไม่ติด หรือน้อยกว่าอย่างเทียบไม่ได้ ก็ได้ทั้งนั้น งานที่แฮกเกอร์ทำได้ดีคือ Systems administration Programming Design และงานที่แฮกเกอร์ห่วยได้แบบมหัศจรรย์คือ Data entry หลักง่ายๆคือ งานที่ต้องการความเร็ว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง ต้องการทักษะระดับสูง และไม่ซ้ำซาก เป็นงานที่แฮกเกอร์ทำได้ดี งานที่ทำซ้ำๆ แต่ง่ายๆ เป็นงานที่น่าเสียดายที่จะให้แฮกเกอร์ทำ ที่สำคัญมันยังทำให้เขาเบื่อ และ หงุดหงิดอย่างรุนแรง ไม่มีใครทำงานได้ดีเวลาเบื่อ และ หงุดหงิดหรอกนะ ข่าวดีคือ ถ้าคุณโยนแฮกเกอร์เข้าไปในงานที่เขาชอบ บ่อยครั้งคุณจะเห็นประสิทธิภาพ 5-10 เท่าของคนปกติ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้สม่ำเสมอ อย่าคาดฝันว่าจะเห็นสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง โดยเฉพาะในงานยากๆ 0.2: แล้วจะดูแลพวกแฮกเกอร์ยังไงดี? ด้วยวิธีเดียวกับเลี้ยงแมว นี่อาจจะชวนสับสนหน่อย เพราะไม่เหมือนกับการดูแลพนักงานอื่นทั่วไป แต่อย่าห่วงเลย แฮกเกอร์นั้นยินดีที่จะให้คำตอบเสมอ ถ้าถามนะ โดยทั่วไปแล้วแฮกเกอร์ดูแลตัวเองได้ 0.3: เดี๋ยวๆๆๆ คุณบอกว่า "สิบเท่า" นั่นมันล้อเล่นละมั้ง? ใช่ ผมพูดจริงๆว่า สิบเท่า และใช่ นั่นผมพูดจริงๆ แฮกเกอร์เวลาไฟลุก อาจจะปั่นอะไรบางอย่างออกมาได้ในเวลาสองสามเดือน ในขณะที่ทีมงานเล็กๆ(ขนาด 7-8 คน) อาจต้องใช้เวลาตลอดปี หรือทำไม่ได้เลย IBM เคยรายงานว่า โปรแกรมเมอร์บางคน มีผลงานดีกว่าคนอื่นๆในหลัก 100 เท่าหรือมากกว่า เหตุการณ์แบบนี้เป็นไปได้ 0.4: ไม่เห็นเข้าใจเลย นี่ชักจะไปกันใหญ่แล้ว มีหนังสือเรื่องนี้ไหม? ตอนนี้ยัง แต่ลอง The New Hacker's Dictionary (รู้จักในอีกชื่อว่า  "the jargon file"), ในนั้นเต็มไปด้วยคำจำกัดความ และ รายละเอียดว่าแฮกเกอร์คิดอย่างไร จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:30:19

ความคิดเห็นที่ 2 บทที่ 1: ประเด็นทางสังคม 1.0: แฮกเกอร์ของผม เข้ากันไม่ได้กับวัฒนธรรมองค์กร เธอทำงานได้ดี แต่ไม่มีเพื่อนเลย นี่เป็นเรื่องปกติ แฮกเกอร์ของคุณแค่ไม่สามารถหาคนรอบตัวที่เข้ากับแฮกเกอร์ได้ คุณอาจจะพิจารณาที่จะติดต่อกับเธอทางโทรศัพท์ หรือ ให้เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น(เช่นตอนกลางคืน) ซึ่งเผลอๆจะทำให้เธอทำงานได้ดีขึ้นไปอีก อีกทางเลือก คือหนีไปจ้างคนอื่น 1.1: พวกนี้แต่งตัวแปลกๆ ไม่มีทางทำให้พวกนี้เข้าใจความสำคัญของภาพลักษณ์องค์กรรึไง? พวกนี้เข้าใจดีสุดๆเลย เขาเข้าใจว่าการแต่ตัวไม่ได้ทำให้งานเสร็จ IBM, Ford, Microsoft ต่างรู้ว่า คนพวกนี้ทำงานได้ดีกว่า ถ้าได้แต่ตัวตามที่ชอบ คุณสามารถขอร้องให้แต่งตัวดีสำหรับโอกาสพิเศษบางครั้งได้ และโดยส่วนใหญ่ แฮกเกอร์ยินดีจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ไม่มีรูได้ ถ้าแจ้งให้ทราบ 1.2: พวกนี้ไม่มีมารยาท ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่! แฺฮกเกอร์ไม่สนใจยศ พวกเขาไม่เคยคิดว่าฝ่ายบริหารอยู่สูงกว่าฝ่ายวิศวกรรม แต่ทั้งสองฝ่ายแค่ทำงานที่แตกต่างกันเท่านั้น และหลายครั้ง เขายังพูดเหมือนกับว่า ฝ่ายบริหารอยู่ต่ำกว่าอีกด้วย นี่ก็แฟร์ดี เพราะคำถามนี้แสดงว่าคุณมองว่าฝ่ายวิศวกรรมอยู่ต่ำกว่าคุณ มองเขาอย่างเท่าเทียม แล้วเขาจะเห็นคุณเท่าเทียมเช่นกัน ง่ายๆแค่นี้เอง 1.3: :-)! วันๆเอาแต่จับผิดงานคนอื่น กันเขาออกมาข้างนอก แล้วถามรายละเอียดว่างานพวกนั้นมีปัญหายังไง มันน่าจะมีอะไรผิดๆอยู่ในนั้น อย่าให้ภาพลวงตาว่ามันทำงานได้หลอกคุณ เขาอาจจะหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ หรือเรื่องอื่นๆ นี่มีค่าควรแก่การพิจารณา คุณอาจจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาสุภาพหน่อย แต่ถ้านี่มีปัญหามากจริงๆ เป็นไปได้ว่าคนอื่นนั้นความสามารถไม่พอ นี่ต้องเน้นไว้หน่อยว่า ปกติแล้วแฮกเกอร์มีมาตรฐานเรื่องความสามารถผิดไปจากชาวบ้าน(สูงกว่าปกติ) จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:30:39

ความคิดเห็นที่ 3 บทที่ 2:ประสิทธิผล 2.0: มันเล่นเกมในเวลางาน!!!!!!!!!!!!!! แฮกเกอร์ นักเขียน แล้วก็ จืตรกร ล้วนแล้วแต่ต้องการเวลาจะ "ร่อน" ทำอะไรอย่างอื่นไปเรื่อยๆ ในขณะที่จิตใต้สำนึกกำลังทำงานไปเรื่อยๆ เขาอาจจะกำลังเจอปัญหาบางอย่างที่ยากมาก อย่าไปสนใจมากก็พอ 2.1: แต่นี่มันสองอาทิตย์แล้วที่ไม่เห็นอะไรคืบหน้าซักอย่าง! เขากำลังทำงาน อาจจะคนเดียว โดยเฉพาะโครงการยักษ์ที่พึ่งเริ่ม เธออาจกำลังพยายามหารายละเอียดต่างๆล่วงหน้า ถามเธอว่าเป็นไงมั่ง แล้วถ้าได้ประโยคยาวๆ ที่ขัดกันเองเช่น "เอ๊ เดี๋ยว" "อ๊ะ อย่างนี้ไม่เวิร์ค"  นั่นล่ะ แปลว่างานกำลังไปด้วยดี 2.2: แน่ใจนะว่างานจะเสร็จ? แฮกเกอร์จำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และคิดในหลายแง่มุม งานจะออกมาดีกว่าในแง่นั้น และเขาก็รักงานที่ทำด้วย อย่าไปสนอะไรมาก ถ้างานเสร็จทันเวลาในคุณภาพที่ดี 2.3: พวกนี้ชอบทำงานนอกเหนือหน้าที่ แล้วมันจำเป็นต้องทำรึเปล่า? มีแฮกเกอร์น้อยมาก ที่จะทนไม่แก้ปัญหา ที่เขาคิดว่าแก้ได้ แถมยังไม่มีคนยอมแก้มันอีก แล้วงานของเขาเสร็จรึเปล่า? ถ้ามันเสร็จก็มองอย่างอื่นที่เขาทำเป็นของแถมก็แล้วกัน อาจจะช่วยให้ึคุณรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ถ้าคิดแบบนี้ 2.4: แฮกเกอร์เขียนหนังสือ เล่นเน็ต เล่นเกม คุยโทรศัพท์ สร้างโมเดล และทั้งหมดนี่ในเวลางาน! เฮ้ นั่นดูเขามีความสุขทีเดียว โดยทั่วไปอาการแบบนี้บ่งชี้ว่า 1. งานที่เขารับผิดชอบมาเป็นช่วงๆ(งานเอกสาร/งานซัพพอร์ตทางโทรศัพท์) และตอนนี้เขาว่างงาน 2. เขาชนปัญหายากๆ ที่ยังแก้ไม่ได้ 3. เขาเบื่องานมาก และพยายามกล่อมตัวเองอยู่ คุณควรพิจารณามอบงานที่ยากขึ้นให้ได้แล้ว ในสามอย่างนี้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น โดยทั่วไป ถ้างานท้าทาย และมันเสร็จ ลืมๆระหว่างทางไปบ้างเถอะ คุณอาจร้องให้เขาเขียนชื่อบริษัทคุณลงเครดิตหนังสือก็ได้ 2.5: เฮ้ แต่นี่ทำให้คนงานอื่นๆไม่พอใจ และทำให้พวกเขาประสิทธิภาพตก คุณอยากได้ใครระหว่างคนที่จะทำให้งานเสร็ จกับคนที่ทำมันเสร็จไปแล้ว? อัตตาเป็นเรื่องงี่เง่าในที่ทำงาน ถ้าพวกนั้นทำงานสู้ไม่ได้ ก็ย้ายไปทำอย่างอื่นซะ! จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:30:52

ความคิดเห็นที่ 4 Section 3: แรงกระตุ้นและการตอบสนอง 3.0: แฮกเกอร์ของผมทำผลงานได้ดีมาก และผมอยากให้รางวัลเขา เจ๋ง นี่เป็นลิสต์ที่แฮกเกอร์อยากได้ เพื่อแลกกับงานของเขา ความเคารพ ความชื่นชม คำชม ความเข้าใจ ส่วนลดสำหรับของเล่นราคาแพง เงิน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาตามลำดับ ความเข้าใจนั้นได้มายากยิ่ง ระลึกถึงยามที่เขาทำได้ดี เวลาคุณจับได้ว่าเขาแอบเอาเวลางานไปเล่นเกม แทนที่จะบ่นเกี่ยวกับเมื่อไหร่งานจะเสร็จ จดมันเก็บไว้แล้วถือว่ามันเป็นโบนัสล่วงหน้าสำหรับเวลางานเสร็จ อย่าคิดมาก แฮกเกอร์เป็นพวกเบื่อง่าย เวลาไม่ได้ทำงาน 3.1: เขาทำตัวแย่มาก และผมต้องการลงโทษ อย่า. การวิจัยตลอดสามสืบปี แสดงให้เห็นว่า การลงโทษมีผลที่ไม่น่าพอใจในระยะยาว แฮกเกอร์ไม่ใช่หนูทดลอง! ถ้าคุณไม่ชอบสิ่งที่เขาทำ อธิบายให้เขาฟังชัดๆว่าทำไมคุณถึงไม่ชอบพฤติกรรมนั้น   เตรียมตัวสำหรับการโต้เถียง แฮกเกอร์เป็นพวกเหตุผลนิยม และมันมีเหตุผลในการกระทำ อย่าบีบคอเขาเร็วไปนัก เหตุผลของเขาอาจฟังขึ้น อย่ากลัวที่จะขอโทษถ้าคุณผิด ถ้าแฮกเกอร์ยอมรับว่าเขาผิด ก็อย่าเรียกร้องคำขอโทษ ตราบเท่าที่แฮกเกอร์ยอมรับว่าตัวเองผิด นั่นเป็นคำขอโทษกลายๆแล้ว 3.2: ผมไม่เข้าใจ ผมเสนอตำแหน่งใหม่ใหญ่กว่าเดิม แต่เขาไม่รับ แถมโกรธอีก ตำแหน่งที่สูงขึ้น มักมากับการต้องนั่งฟังว่าชาวบ้านทำงานอะไรมากกว่า การได้เล่นกับคอมพิวเตอร์  แฮกเกอร์รักงานของเขา หากอยากให้รางวัล คุณอาจมอบชื่อตำแหน่งใหม่ เพิ่มเงินเดือน หรือ ให้คำชม ตราบเท่าที่แฮกเกอร์รู้ว่าคุณพอใจผลงานของเขา นั่นพอแล้ว 3.3: นโยบายบริษัทไม่อนุญาตให้ขึ้นเงินเดือนให้มากนัก ถ้าไม่ใข่ตำแหน่งบริหาร ช่างเป็นนโยบายที่งี่เง่า แฮกเกอร์เก่งๆหาเงินได้ชั่วโมงละ 200 เหรียญหรือมากกว่าโดยการเป็นที่ปรึกษา คุณอาจเสนอแฮกเกอร์ให้รับตำแหน่งที่ปรึกษาโดยมีสวัสดิการพิเศษ หรือช่องว่างอื่นๆที่คุณมีปัญญาหา ไม่งั้นก็หาของแถมให้ซักหน่อย  แฮกเกอร์ไม่มีปัญหาถ้าจะรับสิทธิในการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิคในราคาลดพิเศษ 3.4: ผมไม่เชื่อว่าพวกนี้จะมีค่าขนาดนั้น ถามคนอื่นในแผนกสิ ว่าเขาคิดยังไง มีความเป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์ตอบคำถามยากๆบางข้อที่อาจจะแพงมาก ถ้าต้องจ้างที่ปรึกษาพิเศษ เขาอาจจะยังทำงานอื่นๆของบริษัทในเวลาว่าง มีแฮกเกอร์น้อยมากที่ไม่คุ้มค่าเงิน ส่วนใหญ่พวกนี้รักที่จะทำงานยากๆ และเพิ่มประสิทธิภาพของงานอื่นๆ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:31:48

ความคิดเห็นที่ 5 บทที่ 4: นั่นหมายความว่าไง 4.0: แฮกเกอร์ไม่พูดภาษาไทย อย่างน้อยผมก็คิดอย่างนั้น แฮกเกอร์เป็นช่างเทคนิค ถ้าเป็นไปได้คุณควรหาThe New Hacker's Dictionary ซักเล่ม.โดยโหลดได้จาก http://catb.org/esr/jargon หรือร้านหนังสือดีๆซักแห่ง ถ้าคุณยังมีปัญหา ลองถามให้แฮกเกอร์ช่วยอธิบายให้คุณฟัง แฮกเกอร์ชอบที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว เตรียมใจไว้สำหรับการกริยาว่าคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่ไม่ใช่การสบประมาท แต่ถ้าคุณไม่รู้ศัพท์ เธอก็จำเป็นต้องเริ่มใหม่แต่ต้น เพื่อจะได้อธิบายง่ายๆ ศัพท์พวกนี้ยาก มีเยอะ และใช้ในสถานการณ์เจาะจง แฮกเกอร์ชอบเล่นคำเสมอแหละ 4.1: แฮกเกอร์ไม่ยอมประเมินเวลาว่างานจะเสร็จเมื่อไหร่ แฮกเกอร์ไม่รู้ว่างานนี้ยากขนาดไหน ต่างจากคนทั่วๆไป แฮกเกอร์จะพยายามสุดชีวิตที่จะให้ค่าประมาณจนกว่าเขาจะเข้าใจปัญหา นั่นอาจรวมถึงต้องเข้าใจวิธีที่จะแก้มันก่อนด้วย ไม่มีวิศวกร คนไหนมั่นใจเกินไปกว่า  95%  และแฮกเกอร์ก็เป็นวิศกรที่ดี ถ้าคุณบอกว่า คุณจะไม่หักคอเขากับเดดไลน์นั้น(และทำตามนั้นจริงๆ) ก็เป็นไปได้มากที่จะคุณจะได้คำตอบ มันอาจฟังสูงเวอร์ หรือต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แต่นั่นคือค่าประมาณ และก็คือสิ่งที่คุณร้องขอ 4.2: พวกนี้เล่นมุกที่ไม่ขำซักนิด ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าคุณกล้าพอ ลองขอให้เขาอธิบาย มันอาจต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะเก็ต แต่มันน่าสนใจนะ 4.3: แฮกเกอร์เริ่มนับจากเลข 0 คุณอาจไม่รู้ แต่คอมก็นับแบบนั้น  และก็เป็นธรรมชาติของแฮกเกอร์ไปแล้วด้วย จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 22:32:15

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านแล้วจับประเด็นได้ว่า . . . . . . . . . . . . . . . ชาตินี้อย่าหาสามีเป็นแฮกเกอร์!!!! จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:33:11

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัยจริงๆ ว่าทำไมตรงชีวิตตัวเองเลย ตกลงนี่ผมเป็น Hacker หรือเนี่ย.... ไม่นะ! จากคุณ : jaaetubu เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:34:59

ความคิดเห็นที่ 8 555  สุดๆ จริงๆ       เห็นหลายคน (ในหนังซีรีย์) ค่อนข้างจะ เอาใจยา่กมาก   จากคุณ : U4st33A เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:35:40

ความคิดเห็นที่ 9 อืมยังดี hacker บางคน ทำตัวเหมือนพวกไร้บ้าน  นึกงานไม่ออก เล่นไปเดินโต๋เต๋อยู่แถวหน้าเซเว่น จากคุณ : อย่ารู้เลยว่าฉันเป็นใคร เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 23:42:27

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตครับ แต่ผมไม่ใช่แฮกเกอร์หรืออัจฉริยะนะ จากคุณ : CloudColorOfSound เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 00:06:23

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วเสียวๆ แฮะ... เหมือนจะเขียนเข้าข้างว่า ห้ามแตะต้องแฮกเกอร์ด้วยกรณีใดๆ แต่ถ้าผมเป็นคนจ้าง จะรู้ได้ไงว่าแฮกเกอร์คนนั้นเก่งจริงหรือดีแต่ปาก? จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 01:22:20

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้เป็นแฮกเกอร์ เป็นนักเขียน แล้วรู้สึกว่าตัวเองและเพื่อนร่วมงานโชคดีมากที่ไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดในบริษัทตั้งคำถามเหล่านี้ ถึงจะไส้แห้ง เงินเดือนน้อย ไร้โบนัส แต่ขอให้เข้าใจธรรมชาติของนักเขียน-ซึ่งคิดว่าคล้ายคลึงกับแฮ็กเกอร์ที่ว่ามานี้ ก็ถือว่าเอาความสุขจากการทำงานมาทดแทนกันได้แหละนะ จากคุณ : ส้มซ่าน้อยตัวใหญ่ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 02:29:48

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ ^ ของจริง เค้าไม่มีความคิดแบบคุณไง คนเก่งจริง มันมีผลงาน มาอธิบายในตัวของมัน ออฟชั่นรถบ่งบอกราคา ถ้ามีแต่ราคาคุย มันก็แค่ออฟชั่นจอมปลอม จากคุณ : ^Ai^ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 02:37:56 A:183.89.59.156 X: TicketID:280139

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่เห็นมีอะไรแปลก  คนทั่วไปก็เป็นอย่างนั้น (คิดว่านะ) จากคุณ : tikstt (tikstt) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 02:39:51

ความคิดเห็นที่ 15 คห.11 ไม่ยากเลยครับ มอบหมายงานยากๆให้เขาทำดูสิ เทียบกับการจ้างคนปกติทำ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าของจริงหรือเปล่า เออ ต้องเป็นงานที่ ยาก จริงๆนะ ไม่ใช่ เยอะ จนขี้เกียจทำ จากคุณ : TamanXZG เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 05:24:22

ความคิดเห็นที่ 16 อ่าว นึกว่ามีฝีมือระดับแฮกเกอร์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกจ้างแล้ว จากคุณ : นักวิจัยฝุ่น เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 07:05:01 A:202.176.109.15 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วรู้สึกว่า ทำไมมันตรงกับตัวเองยังไงก็ไม่รู้สิ จากคุณ : lucifer777 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 09:07:34

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้นี้มีสาระมากเลยค่ะ อ่านแล้วตรงกับตัวเองยังไงก็ไม่รู้ จากคุณ : lizard8 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 09:18:31

ความคิดเห็นที่ 19 คนที่เก่งๆ แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเองสูง เห็นค่าของตัวเอง ก็คงเป็นอย่างนี้ทุกคนมั้งครับ จากคุณ : vermillion เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 10:04:08

ความคิดเห็นที่ 20 มันเหมือนกับลักษณะของพวกอัฉริยะในกระทู้ต้นเรื่องจริงๆแฮะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 10:20:08

ความคิดเห็นที่ 21 ดูเหมือนเราจะมีนิสัยเหมือนแฮกเกอร์แฮะ ติดอย่างนึงคือ ผมไม่เก่งเท่าคนพวกนั้น T^T จากคุณ : Sleeper MoNKeY 2nd เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 10:22:58

ความคิดเห็นที่ 22 เพื่อให้ดูเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นนิดนึง สมองของไอน์สไตน์ที่ถูกเอามาตรวจสอบก็พบว่ามันมีขนาดไม่ใหญ่แถมออกจะเล็กกว่าค่าเฉลี่ยปรกติด้วยซ้ำ หรือความเป็นอัฉริยะก็ Pack อยู่ในก้อนไขมันขนาดเท่าๆกันกับคนทั่วไป การพัฒนาด้านหนึ่งในปริมาตรจำกัดก็อาจไปกินปริมาตร หรือพื้นที่ หรือศักยภาพส่วนอื่น และถ้าส่วนอื่นที่ว่าเป็นส่วนที่มีการใช้เยอะในสังคมปรกตินั่นก็น่าจะเป็นความผิดปรกติได้ หรือบางทีมันอาจแค่ไม่สมดุลกันเฉยๆ ถ้าคิดว่าที่มีการพัฒนามากขึ้นมันก็แค่รอยหยักไม่ได้ไปกินปริมาตรส่วนอื่นก็เป็นได้ ผมไม่รู้ เพราะไม่ใช่ Neurologist บทความาเกี่ยวกับสมองของไอนสไตน์ให้อ่านเล่นครับ http://faculty.washington.edu/chudler/ein.html จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:09:08

ความคิดเห็นที่ 23 คห. 11 ผมว่าบทความมันบอกเป็นนัยๆแล้วว่าวัดกันที่ผลงานนี่นา ? - ประสิทธิภาพมากกว่าหลายเท่า - งานเสร็จก่อนชาวบ้านแล้วมานั่งเล่น   อันนี้วัดได้ เวลาคุณวางแผนงานไว้ "ตัวคุณ" เองก็ต้องรู้ว่างานยากขนาดไหนใช่มั้ย ?  ถ้าเกิดว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานก็แสดงว่าเก่ง    ก็แค่นั้น แต่ถ้าตัวคุณเองไม่รู้ว่างานที่ให้ไปยากขนาดไหน ประเมินไม่เป็นนี่เตรียมตัวเสียลูกน้องเก่งๆได้เลย - จับผิดชาวบ้านได้ แสดงว่าใส่ใจและมีความรู้เรื่องนี้ดี - แต่ไอ้ประเมินเวลางานไม่เป็นนี่ผมว่าไม่เวิร์ก จากคุณ : Munch เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:12:28

ความคิดเห็นที่ 24 #16 แฮกเกอร์ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างแหละครับ ปกติคนกลุ่มนี้มีปัญหากับทักษะบริหาร/บริการ ทำให้ค่อนข้างยากที่จะออกไปเป็นเจ้าของกิจการ น้อยรายที่จะมีทักษะครบถ้วน(เกตต์ กับ ซูเคอร์เบิร์ก เป็นข้อยกเว้นพิเศษ) #20 ผมว่ามันเป็น stereotype ของพวกฝีมือดีๆในวงการนี้นะ Steve Mcconnel เคยเขียนเรื่องการจำแนกบุคลิกภาพตามแบบ Myer-Brigg พบว่า 25-40% ของโปรแกรมเมอร์มีบุคลิกภาพแบบ ISTJ ในขณะที่บุคลิกภาพแบบนี้มีในประชากรแค่ 8% พอแยกย่อยตามรายการก็พบว่ามีการกระจุกตัวของบุคลิกอื่นๆแบบมีนัยยะ อีกต่างหาก จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:15:22

ความคิดเห็นที่ 25 #23 ตอนนี้ที่ออฟฟิศใช้วิธีนี้ครับ 1. ประเมินงานหยาบๆ จากหัวข้อ ตัวเลขที่ได้จะแกว่งมากๆ 2. ทีมบริหารเอาตัวเลขหยาบไปวางแผนงานสำหรับสองเดือนถัดไป 3. ทีมซัพพอร์ต เริ่มทำสเป็ค ลงรายละเอียด เริ่มคุยกับวิศวกร ในเคสเจาะลึก 4. วิศวกร ให้ตัวเลขประเมินใหม่ อิงตามสเป็คใน 3 5. ทีมบริหาร จัดทำไฟนอลแพลน จากตัวเลขประเมินล่าสุด 6. Kick - off ปกติแล้ว โปรแกรมเมอร์ไม่ค่อยอยากให้เวลาประมาณหรอกครับ ถ้าสเป็คไม่เสร็จ แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีเวลาประเมินเลย ทีมบริหารก็คงไม่รู้จะเอาอะไรไปคุยกับลูกค้า ตอนนี้ก็เลยเจอกันตรงกลางแบบนี้ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:24:40

ความคิดเห็นที่ 26 อาร์ทตัวพ่อ ทั้งนั้น!!! จากคุณ : คุณชายจับกัง เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 15:29:06

ความคิดเห็นที่ 27 มาลงชื่อครับ จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 16:17:55

ความคิดเห็นที่ 28 ความอาร์ตไม่เข้าขั้นแฮะ จากคุณ : ShAdOw's Panda เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:39:37

ความคิดเห็นที่ 29 ตรง 80% แต่ผมไม่ได้เขียนโปรแกรมนะ จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:13:39

ความคิดเห็นที่ 30 1.2: พวกนี้ไม่มีมารยาท ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่! แฺฮกเกอร์ไม่สนใจยศ พวกเขาไม่เคยคิดว่าฝ่ายบริหารอยู่สูงกว่าฝ่ายวิศวกรรม แต่ทั้งสองฝ่ายแค่ทำงานที่แตกต่างกันเท่านั้น และหลายครั้ง เขายังพูดเหมือนกับว่า ฝ่ายบริหารอยู่ต่ำกว่าอีกด้วย นี่ก็แฟร์ดี เพราะคำถามนี้แสดงว่าคุณมองว่าฝ่ายวิศวกรรมอยู่ต่ำกว่าคุณ มองเขาอย่างเท่าเทียม แล้วเขาจะเห็นคุณเท่าเทียมเช่นกัน ง่ายๆแค่นี้เอง แล้ว ฝ่ายบริหารสูงว่าฝ่ายอื่นยังไงครับ ผมไม่เคยเข้าใจจุดนี้ ทุกๆคนก็ทำงานเหมือน เพียงแต่ต่างหน้าที่กันเท่านั้น จากคุณ : npn เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 21:21:21

ความคิดเห็นที่ 31 นี่มันแฮกเกอร์หรือว่าอาร์ตตัวพ่อกันแน่ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 00:45:16

ความคิดเห็นที่ 32 การแฮกเป็นศิลปะ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันจะต้องเกิดจากความคิดแผลงๆ และการมองนอกกรอบ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขามักจะมีอารมณ์ติส และทำอะไรๆด้วยพฤติกรรมเหล่านั้น มันก็เหมือนจ้างอาร์ตได หรือพวกตัดต่อ บางทีมันก็ชอบหายไปไหนของมันบ่อย ทำงานแบบใช้เวลายืดเยื้อ ไม่ค่อยตรงตามกำหนดเวลา หรือชนเพดานพอดีดิบๆ เพราะมันต้องไปหาไอเดียและวิธีนำเสนอไอเดีย และถ้าคุณเร่ง คุณมักจะได้งานที่จืดสนิท มันจึงเหมือนคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมโปรแกรมเมอร์มักจะหาปัญหาได้ยากกว่าที่แฮกเกอร์เห็นปัญหา เพราะโปรแกรมเมอร์ต้องมีกรอบ ทั้งสโคปงาน ทั้งเวลาที่บริษัทวางแผนไว้ ในขณะที่แฮกเกอร์ มันมองๆ จิ้มๆ จนเจอ และถ้าอยากให้พวกเขามีหน้าที่ในการแก้ปัญหา ก็ต้องให้เวลาเขา trial ด้วย ซึ่งมันก็ยากพอๆกับการที่คุณโยนโปรเจคใหม่ๆให้โปรแกรมเมอร์นั่นแหล่ะ จากคุณ : kmon2000x เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 09:05:55

ความคิดเห็นที่ 33 ตามมาจากกระทู้อัจริยะ กระทู้นี้ก็สนุกดีแฮะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 09:15:20 A:10.0.100.250 X:58.9.141.57 TicketID:163756

ความคิดเห็นที่ 34 สนุกกว่า มีสาระกว่า และไม่มี drama ด้วย จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 09:47:20

ความคิดเห็นที่ 35 เราเป็นพวกเวลามีงานไม่ชอบทำเพราะว่าขี้เกียจ ชอบรอให้ใกล้ d/L แล้วค่อยทำ มันตื่นเต้นดี อิอิ ใครเป็นบ้างเนี่ย จากคุณ : ROBOTหุ่นยนต์ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 15:26:06

ความคิดเห็นที่ 36 คนที่เป็นของจริง มันต้องเริ่มจากพื้นฐานด้วยครับ ถ้าพื้นฐานด้าน technical แน่นๆ (ย้ำว่าแน่นจริงๆ) การที่คนๆนั้นจะต่อยอดอะไร จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ (แต่พื้นฐานต้องเคลียร์  แบบ...เคลียร์มากๆ) บางคนก็เป็นปมด้อย คืออยาจะทำตัวติสๆเท่ๆแต่ฝีมือไม่มี ก็มีเหมือนกันนะครับคนแบบนี้ ถ้าในมุมมองระดับเดียวกัน ผมอยากมองว่า พวกนี้มันพัฒนาตัวเองยังไง จะได้ทำตามบ้าง ถ้ามองในมุมมองเจ้าของกิจการ ก็คือ จะเก็บพวกนี้และใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ยังไง จากคุณ : sillygang เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 18:47:03

ความคิดเห็นที่ 37 อ้าว ผมนึกว่าคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ซะอีก แย่ละ จากคุณ : Pramed เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 22:55:54

ความคิดเห็นที่ 38 ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานซินะ จะอาร์ต จะติสท์ ถ้างานดี งานเดิน งานออกมาเยี่ยมและส่งผลดีต่อบริษัท ต่อให้ตีลังกาทำงานก็คงมีคนรับ ได้ยินว่า คนที่คิดเรื่องเกมส์นินเทนโด้ บริษัทเขาห้ามบอกเรื่องงานอดิเรกให้ใครก่อนเลยมั้ง เพราะพี่แกเล่นเอางานอดิเรกของตัวเองมาทำเป็นเกมส์ แล้วก็ดันฮิตซะด้วยนี่ซิ ทำยอดถล่มทลายเลย จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 22:56:40

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่าน่าจะเข้ากับคำว่า Geek ด้วยนะ 5 เหตุผลที่คุณควรออกเดทกับ Geek 1. พวกเขาจริงใจ - Geek ส่วนใหญ่ใช้เวลาเล่นเกมส์มากกว่าจะมาเล่นสงครามประสาทกับคุณ ถึงพวกเขาจะเป็นพวกที่ไม่ช่ำชองเรื่องการออกเดทซักเท่าไหร่ แต่ถ้าตัดสินใจจะออกเดทกับใครก็แปลว่าเค้าพร้อมจะมีคุณเข้ามาในชีวิตของเขา 2. พวกเขาจัดการอุปกรณ์ได้ทุกชนิด - อยู่ดีๆ Wifi ก็ใช้ไม่ได้ ? หรือถ้าคุณฝันอยากนอนดูทีวีกับโฮมเธียเตอร์ดีๆ ซักชุดแต่สายไฟหลายสิบเส้นทำให้คุณกลัว พวกเขาช่วยคุณได้ 3. พวกเขาซ่อมคอมพิวเตอร์ให้คุณได้ - ไม่ต้องไปเสียเวลารอสายจากฝ่ายบริการลูกค้า หรือไปต่อคิวยาวเหยียดในร้านซ่อมคอมพิวเตอร์อีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะยังซ่อมให้คุณในตอนนี้ไม่ได้ แต่เขาก็จะไปค้นหาวิธีมาทำให้จงได้เอง 4. พวกเขาช่วยเปิดโลกให้คุณ - การใช้เวลากับ Geek จะช่วยให้คุณรู้ว่าโลกเทคโนโลยีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และข้อดีของพวกเขาคือถ้ารู้อะไรดีๆ เขาจะมาแชร์ให้คุณฟังแน่นอน 5. พวกเขาหาอะไรก็ได้ในอินเทอร์เน็ต - พวกเขาเป็นสุดยอดแห่งการใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าหากคุณอยากจะวางแผนพักผ่อนในช่วงวันหยุด จองที่พัก หาร้านดินเนอร์ดีๆ ซักแห่ง เขาจัดการทั้งหมดให้คุณได้ โรแมนติคไหมล่ะ http://www.blognone.com/news/19513 จากคุณ : PanJ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 23:29:48

ความคิดเห็นที่ 40 อ่อ เรื่องฝ่ายบริหาร หลักอาวุโสทางสายงานหรืออะไรทำนองนี้มักจะใช้ไม่ค่อยได้ เพราะพวกนี้มักจะเคารพด้วยฝีมือน่ะครับ ถึงอายุน้อยกว่าแต่ฝีมือระดับขั้นเทพก็เป็นที่นิยมชมชอบในกลุ่มได้ ดังนั้นพวกที่ทำงานไปวัน ๆ แก่กะโหลกกะลาถึงเวลาก็ลำดับขั้นไปเรื่อยมักจะไม่เข้าใจว่าทำไม ว่าทำไมเค้าถึงไม่เคารพนับถือตัวเอง จริง ๆ แล้วคืออยู่นอกสายตาครับ ไม่ได้อยู่ในมุมที่คนกลุ่มนี้จะต้องใส่ใจ คือเมินไปเฉย ๆ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 23:40:46

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วก็งงว่า แฮกเกอร์ คือ คำอธิบายนิสัยของคน หรือ อธิบายอาชีพของคน เพราะผมว่า มีแฮกเกอร์หลายคนที่ไม่ได้มีนิสัยอย่างที่บอก และก็มีหลายคนที่นิสัยแบบที่บอกมา แต่ไม่ได้เป็นแฮกเกอร์ จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 23:48:17

ความคิดเห็นที่ 42 การทำงานก็ต้องมีกฏระเบียบในสังคมงาน ถ้าแหกกฏกรูจะทำตามใจกรู เบื่อๆก็ไม่อยากทำงาน ก็น่าจะไปนอนอยู่บ้านดีกว่า แนวคิดที่กล่าวมาใช้ได้กับเมืองฝรั่งเท่านั้น ใช้กับเอเซียไม่ได้.... มันจะเป็นกระต่ายกับเต่า เก่งมาก จนหลงระเริงตัว พลาดขึ้นมาที ถึงตาย... จากคุณ : นั่งดูนกเล่นน้ำ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 23:53:41

ความคิดเห็นที่ 43 #42 ผมคิดว่า เขาไม่ได้คิดว่าจะแหกกฎยังไงก็ได้ หรือสักแต่ว่าจะทำอะไรตามใจหรอกนะครับ แต่มุมมองความคิดของเขา จะต่างกับคนทั่วไปค่อนข้างมาก ทำให้ความสนใจ และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ต่างจากคนทั่วไป (ผมคิดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้คนทั่วไปเรียกพวกนี้ว่า "เพี้ยน" ครับ) การจะอยู่ร่วมกับคนพวกนี้ หรือต้องการงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากคนพวกนี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจแนวคิดของพวกเขา หรือถ้าไม่เข้าใจก็ต้องปล่อยเขาไปโดยไม่เอากรอบเราไปกั้นครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 01:39:24

ความคิดเห็นที่ 44 #42 คุณจับกระต่ายมาวิ่งไปพร้อมๆ กับเต่าได้ในเอเชียเหรอครับ เพราะพยายามทำอย่างนั้นเอเชียเลยไม่ค่อยมีกระต่ายที่สำเร็จเท่าไหร่ล่ะมั้ง จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 02:35:54

ความคิดเห็นที่ 45 เหอ เหอ ทำไมเหมือนผมเลยล่ะ แต่ผมเป็นคนเขียนโปรแกรมได้เท่านั้นนะครับ จากคุณ : นายก้อนหิน เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 07:21:05

ความคิดเห็นที่ 46 5. พวกเขาหาอะไรก็ได้ในอินเทอร์เน็ต - พวกเขาเป็นสุดยอดแห่งการใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าหากคุณอยากจะวางแผนพักผ่อนในช่วงวันหยุด จองที่พัก หาร้านดินเนอร์ดีๆ ซักแห่ง เขาจัดการทั้งหมดให้คุณได้ โรแมนติคไหมล่ะ มีเพื่อนเคยหา เรื่องพวกนี้ทาง google เอาไปใช้ "วิธีการบอกรักสาว" , "ร้านอาหารค่ำสุดโรแมนติค" , "สถานที่พักสุดประทับใจ" การคบกับพวก geek ดีอีกอย่าง คือ เขาสามารถใช้ google ช่วยให้ คุณประทับใจเสมอ ... หมายเหตุ ระวัง hacker subtype โอตาคุ จากคุณ : the_architect เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 08:49:57

ความคิดเห็นที่ 47 Hacker ควรจะมี IQ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนปกติ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกถ้า EQ ของคนพวกนี้จะไม่เหมือนคนปรกติด้วย เพราะEQ ที่สูงหรือปรกติ เอามาจากคนปรกติ แต่ Hacker ไม่ใช่คนปรกติ จริงๆแล้วไม่ต้อง Hacker หรอกครับ ผมว่าใช้คำว่าอัจฉริยะง่ายกว่า จากคุณ : Fatalbringer เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 09:09:54

ความคิดเห็นที่ 48 ผมคิดเหมือน #21 จากคุณ : gorpor เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 09:24:11

ความคิดเห็นที่ 49 ก็ไม่แปลกที่บางคนเหมือน hacker แต่ไม่ได้เป็น hacker เราเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวนะ เช่น บางคนเล่นดนตรีเก่ง เล่นกีฬาเก่ง คิดเลขเก่ง เล่นรูบิค อะไรแบบนี้ เขาจะหมกมุ่นกับเรื่องที่เขาชอบอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ แล้วก็จะมีนิสัยคล้ายๆ hacker นี่แหละ ใครที่ยังไม่เจอ ลองพยายามหาดู เราอาจจะได้ค้นพบอัจฉริยะคนใหม่ ส่วนเราเป็นเป็ด ลองทำมาหลายอย่างละ ดนตรีพอได้ กีฬานิดหน่อย เกมพวกใช้สมอง สุดท้าย เขียนโปรแกรมนี่แหละดีสุด อิอิ จากคุณ : หลงชัวร์ทัวร์ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 10:33:53

ความคิดเห็นที่ 50 โดน จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 10:38:10

ความคิดเห็นที่ 51 โดนเต็มดอกทุกข้อ =W= จากคุณ : babu_radio เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 10:44:00

ความคิดเห็นที่ 52 ผมเป็นแฮกเกอร์ด้วยนี่เอง!!! จากคุณ : Shiroi Tsuki เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 11:31:50

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเป็น Creative/Graphic/Designer (ตอนนี้โดนบังคับให้เป็น โฟแมนกะ อินทีเรีย อ่า) แต่ผมก็เป็นแบบนี้ เรื่องเงิน นี้อยากได้นะ แต่บางทีเงินก็ไม่ใช้คำตอบสุดท้ายของการทำงาน เพราะ บางทีเราต้องการการยอมรับ กับความเข้าใจมากกว่าครับ(เหมือนคนมีปมด้อย) อย่างผมเคยยอมลดเงินเดือนลง 1000 เพื่อได้ หยุด เสาร์ อาทิต นะ ยอมโดนหักเงิน ถ้าหยุดงานเพราะเบื่อ ยอมทำงานฟรีถ้า ถูกใจ(สาวๆได้งานฟรีไปเยอะ) และเบื่ออะไรง่ายถ้ามันดูแล้วไม่มีประโบชน์ที่จะทำ(หมายถึงประโยชน์จริงๆและ ความสนุก) แต่Geek นี้ใช้เลย 555+ บ้านผม น้องๆผมก็ทำงานสาย นี้ น้องผมเป้น SLR(ทำ งาน3D ทำหน้าที่เรนเดองาน) อีกคนทำเว็บ แฟนผมจบ ทีวี โรค เย้ย โลก ส่วนตัวสูงมาก ต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยยุ่งกัน แถว ไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วย เวลาเจอกันคุยแต่อะไรแปลก เถียงกันทุกที แต่เถียงเอา เหตุผลนะ ด้วยผมเป้นคนใต้ด้วย เวลาเถียงกันที คนนึกว่าจะฆ่ากัน 55 จากคุณ : กล้วยไข่น้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 11:46:27

ความคิดเห็นที่ 54 อันนี้มันเป็นบุคคลิกของคนที่ทำงานเกี่ยวกับ การเขียน program computer หนิครับ พวกนี้อยู่กับการเขียน program มากจนระบบความคิด วิธีคิด ขั้นตอนการคิด มันเหมือน computer ไม่มีคำว่า อาจจะ,น่าจะ มีแต่ ใช่, ไม่ใช่, โอกาส, ความเป็นไปได้ ระบบการคิดของคนพวกนี้ผมว่าเป็นระบบคิดที่เป็นได้คำตอบเป็นกลางที่สุดแล้วครับ เพราะคนพวกนี้เวลาคิดจะไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เหมือน computer และถึงคุณ ลูกเป็ดขี้เกียจ ถ้าคุณอยากได้ผู้ชายจริงใจ100%เป็นสามีก็ให้หาคนที่เป็น Hacker นี่ล่ะครับ เพราะ computer มันโกหกไม่เป็นทำไมได้ก็บอกว่าไม่ได้ ไม่มีก็บอกไม่มี ทำได้ก็ทำเต็มที่ตาม spec คนพวกนี้ถ้าผู้หญิงเปิดทางให้หน่อยคุณจะพบว่าเขาเอาใจใส่คุณอย่างเหลือเชื่อ แต่ถ้าอยากได้แบบที่ผมบอกคนนั้นต้องมีบุคคลิกแบบเจ้าของกระทู้บอกนะครับ มันหาไม่ยากเลยครับคนแบบนี้ เพราะแหล่งหามันมีน้อย จากคุณ : งูงูปลาปลา เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 12:33:32 A:58.136.5.206 X: TicketID:223219

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 25 คุณต้องสอนให้เขารู้จักความสำคัญของ Project management ครับ เพราะคนพวกนี้ที่จริงเขาสามารถ กะ้เวลาการทำงานเขาได้นะครับ แต่เขาไม่ชอบ เนื่องจากเขาไม่ชอบทำงานภายใต้สภาวะกดดันเรื่องเวลา ถ้าคุณสอนเรื่องการ manage กับการ communicate ให้เขาได้คุณจะได้ System analyst หรือ Project manager เก่งๆอีกคนเลยทีเดียว ถ้าถามว่าผมรู้ได้ไงก็เพราะว่า บุคคลิกผมเหมือนกับที่ เจ้าของกระทู้เอามาบอก เกือบ 100% แต่ผมกะเวลาการทำงานผมได้เพราะมีคนสอนให้น่ะครับ จากคุณ : งูงูปลาปลา เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 12:50:03 A:61.90.25.235 X: TicketID:223219

ความคิดเห็นที่ 56 ในส่วนของ hacker ไม่มีข้อตรงกับผมสักข้อเลย แต่พอเลื่อนลงมาอ่านที่ #39 นี่...... ตรงกับผมเป๊ะๆ ทั้ง 5 ข้อเลยล่ะ (ยกเว้นเรื่องแฟน) ผมเองก็จริงใจไม่จิงโจ้, อุปกรณ์ตัวไหนเสียก็ผมมั่นใจเกิน 80% ว่า "ซ่อมได้", คอมเจ๊งต้องซ่อมใหม่ก็ทำเป็นประจำ, เปิดโลกเทคโนโลยีให้คนอื่นฟังผมก็ทำได้ทุกเมื่อ และ เรื่องอินเตอร์เน็ตผมก็บอกได้ว่าอยากหาอะไรผมก็หาได้ทุกอย่างจริงๆ (ยกเว้น ถ้ามันไม่มีจริงๆ) สรุปแล้วนี่ผมเป็นพวก GEEK ใช่มั้ยเนี่ย..... จากคุณ : I'AM เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 13:09:30

ความคิดเห็นที่ 57 #24 ผมก็ programmer แต่เคยทำได้ INTJ (Mastermind) สงสัยจะไม่เข้าโซนแฮกเกอร์ 55+ จากคุณ : Go-Kung เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 13:26:27

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่ใช่แฮคเกอร์ แต่อ่านแล้วมันใช่!!! ขอแค่เข้าใจ และไม่วุ่นวาย แค่นี้ ก็พอใจแล้ว :) จากคุณ : LittleSister เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 13:34:31

ความคิดเห็นที่ 59 ถูกใจตรงข้อ 0.2 เลี้ยงแบบแมว จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 14:14:43

ความคิดเห็นที่ 60 Hacker สงสัยจะเป็นยากเพราะทุกวันนี้เครื่องตัวเองยังโดนไวรัสอยู่เลย จากคุณ : b+b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 61 #57 ไทป์เดียวกันครับ ข้อมูลเพิ่มเติม โปรแกรมเมอร์มี I ประมาณ 75-80% มี S/N พอๆกัน N มีแนวโน้มจะเป็น System designer ที่ดีในอนาคต ส่วน S นี่จะลุยๆได้ดีกว่า ร้อยละ 90 เป็น T ส่วน J นี่จำไม่ได้ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 19:45:38

ความคิดเห็นที่ 62 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 20:45:47

ความคิดเห็นที่ 63 110011100100110001100001001111000000110 จากคุณ : แมงปอซ่า เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 21:06:40

ความคิดเห็นที่ 64 มีความใกล้เคียงกันในระดับหนึ่งระหว่าว แฮกเกอร์ กับ โอตาคุ นะผมว่า ก็ผมเองยังเป็นโอตาคุ ถึงจะเป็นชนชั้นที่ต่ำของเหล่าโอตาคุขั้นเทพคนอื่นๆก็ตาม แต่ลักษณะนิสัยและพฤติการณ์ก็ถือว่าเหมือนผมนะ แต่มั่นใจได้เลยว่า พวกเขาอัจฉริยะแน่ๆ ลองอ่านเรื่องแฮกเกอร์มาบ้างเพราะมันเป็นความฝันตอนมัธยม แค่ครึ่งเล่มก็ท้อใจจนลาขาด เรามันไม่ใช่อัจฉริยะนิ แต่ก็ยังอยู่ในวงการคอมอยู่บ้าง แล้วก็กลายเป็นโอตาคุชนชั้นสามัญไปโดยปริยาย ถ้าผมได้เป็นเจ้าของบริษัทผมว่าผมเข้าใจบรรดาแฮกเกอร์เขานะ แถมเป็นกลางระหว่างทั้ง สองฝ่ายด้วย อยากพูดคุยกับแฮกเกอร์ตัวเป็นๆจังคงเป็นเพื่อนกันไม่ยากนะ IP ผมหรอ 127.0.0.1 ฮุๆๆ จากคุณ : Celes'Being (chocoray) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 53 23:47:04

ความคิดเห็นที่ 65 #30 ความรับผิดชอบสูงกว่ากันไงครับ ลูกน้องในแผนกคนหนึ่งทำผิด ก็อาจจะทำให้ลูกน้องคนนั้นถูกไล่ออก แต่ถ้าผู้บริหารในแผนกหนึ่งทำผิด ก็อาจจะทำให้ลูกน้องในแผนกนั้น ๆ ถูกเลิกจ้างได้ครับ (ซวยคนอื่นได้อีก) หรือกระทบทั้งบริษัทก็เป็นไปได้ และยิ่งตำแหน่งบริหารสูง ๆ ขึ้นไป ภาระความรับผิดชอบก็มากขึ้นไปอีกครับ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 13:08:34

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเป็นเกมดีไซเนอร์ คุณสามารถเอาคำว่าเกมดีไซเนอร์ไปใส่แทนคำว่าแฮกเกอร์ในบทความได้เลย 555 จากคุณ : CARAGIO เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 13:27:33

ความคิดเห็นที่ 67 ผมไม่ใช่ Hacker แถมยังตรงข้ามกับ Hacker เลย เพราะผมชอบเขียนโปรแกรมแล้วแถม Bug จากคุณ : ชื่อสำรองที่ 1 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 15:26:38

ความคิดเห็นที่ 68 แบบนี้แน่เลย http://www.youtube.com/watch?v=z1_qIL_5Hjk อิอิ จากคุณ : NuTKunG_NaKruB เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 16:10:51

ความคิดเห็นที่ 69 กระทู้แนะนำ จากคุณ : ป๊อปปูล่า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 18:08:32

ความคิดเห็นที่ 70 ผมคิดว่า ใครๆในกระทู้ ที่ชอบบอกว่าตรงกับตัวเอง อยากรู้ว่าความสามารถถึงครึ่งนึงของพวก Hacker พวก Geek มั้ยครับ จากคุณ : กุกลาบดำ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:38:06 A:125.26.37.157 X: TicketID:166876

ความคิดเห็นที่ 71 หลาย ๆ คนคิดว่าซ่อมคอมเก่งก้เป็น Geek กับ Nerd ได้แล้วแต่จริง ๆ มันไม่ใช่หรอก Nerd กับ Geek ต้องมากกว่านั้น พวกนี้เก็บตัว แต่งตัวไม่เป็นใส่เสื้อผ้าพื้น ๆ ไม่เข้ากัน Nerd กับ Geek ชอบศึกษาบางสิ่งบางอย่างที่คนปกติเขาไม่สนใจ เช่นเหลี่ยมของโต๊ะหรือบานพับประตู จนไปถึงยานอวกาศ คอมพิวเตอร์เป็นเพื่อนและอุปกรณ์สื่อสารกับคนภายนอกอย่างเดียวที่เขามี ^^ จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:20:57

ความคิดเห็นที่ 72 ผมยอมร่วมงานกับคนนิสัยดี เห็นอกเห็นใจคนอื่นดีกว่า แม้จะไม่เก่งเท่า จากคุณ : Little Brother เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:43:55

ความคิดเห็นที่ 73 เราคงไม่ใช่หรอกเนอะ เพราะเราไม่ชอบทำเอกสาร :P จากคุณ : หนอนคอม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:50:36 A:124.121.4.179 X: TicketID:165396