ความคิดเห็นที่ 1 อาจกลายเป็นว่า dark energy ที่จริงแล้วมันคือ อะไรที่เป็นตรงกันข้ามกับ big bang..... - Dark Energy เป็น "วัตถุ", พลังงานหรือสิ่งที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร เนื่องจากคำนวณแล้วพบว่ามี แต่ยังหาไม่เจอ ส่วน Big Bang เป็น "เหตุการณ์" ... ดังนั้นเอามาเทียบกันไม่ได้ครับ คนละเรื่องเลย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า great black hole คือ dark energy ที่แท้จริง - Great Black Hole คืออะไรครับ? และ การเิกิด black hole มากขึ้น มากขึ้นซื่งจะไปแทนที่ galaxy นั้นๆ จะทำให้เกิด ปรากฏการ bigbang อีกหรือไม่ เริ่มจาก black hole+black hole ไปเรื่อยๆ แล้ว domino - Black Hole เป็นดาวครับ ดาวกลมๆ นี่ล่ะ แต่มวลสูงมาก เล็กกว่ากาแล็กซี่แบบคนละเรื่อง เหมือนขี้มดกับเรือรบยามาโตะ เพราะ พิสูตรได้ว่า galaxy เครื่อนที่เร็วขึ้น แต่ก็ หาเวคเตร์อแน่นอนไม่ได้ - หาได้ครับ แต่ว่าแต่ละกาแล็กซี่เคลื่อนที่คนละทิศทาง และ ถ้า black hole รวมกันขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่จริง black hole+black hole...n ก็เต็มเป็นเหมือนกัน ถ้า จริง ก็เกิด bigbang ไหม่ได้จริงไม๊ - ไม่จริง แล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกันเลยครับ ิblack hole เต็มเป็นหรือไม่ ก็พิสูตรยังไม่ได้ แล้ว ที่มาของ พลังในการดูดละ แต่เราบอกว่า black hole ทำให้สสารหายไปไม่ได้ เพราะจะขัดกับ สมการทันที - สมการไหนครับ? สมการไอสไตน์บอกว่าสสารสูญหายได้นะ แต่ถ้า สสารมืดหรือที่เรียกว่า dark energy มีที่มาจาก สสารที่ถูก black hole ดูดไปแล้วกลายเป็น สสารมืด ขนาดที่ว่า ทุกๆ electron proton และ neutron ย่อยไปเป็น สสารมืด - Black Hole เป็นดาว ไม่ใช่หลุม, Dark Energy เป็นสสารที่(มืด)แปดด้าน ทั้งสองอย่างถูกนิยามในความหมาย "ดำ" "มืด" "มองไม่เห็น" แต่มันคนละเรื่องเลย แต่ถ้า  black hole ปล่อยสสารมืด ออกมา ก็คงอยู่ที่บริเวณ แกน เหนือ/ใต้ โดยแรงที่ส่งออกมาก็คือ แรงแม่เหล็กของblack holeเอง แต่แล้ว vectorสสารมืดเป็นอย่างไรละ dark matter ต้องมี dark energy ด้วย= สสารมืด ต้องมี พลังงานมืด dark matter มีมวล dark energy มีแรง ผม ชอบ cern มาก เพราะจะเหตุให้มนุษยเรา สามารถมีพลังงานใหม่ในระดับชันสูงได้ โดยไม่ตองมี นิวเครีย กล้าวคือ เราสามารถผลิต dark energy ได้ แต่ ก็อาจข้ามขั้นมากเิกินไป เพราะ เรายังผลิต cold fusion ไม่สำเร็จ  เคยคิดดูว่า หาก dark energy มัน ผ่าได้เหมื่อนฟ้าผ่า อาจเป็นเหตุให้ galaxyเครื่อนที่ ผ่าไปมาระหว่างขั้วของ black hole และสุดท้ายสุดท้าน หากเราควบคุม dark energy ได้ จะใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร เครื่องจัครแบบในเกม.... ยานรบ....... การต่อสู่กับalien..... เพราะ cern ยิ่งพิสูตร ก็ยิ่งถูก ยิ่งพิสูตร ก็ยิ่งเป็นไปตามนี้ใช้หรือไม่ ใน ปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่า จะ มีสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่ อาจมี เพราะเราเองทำวิจัยไปๆมาๆเิกิดอุบัติเหตุ แต่แค่ alien มันฉลาดไวมาก วิวัฒได้ไวมาก เหตุนั้นมาจาก dark energy นั้นเอง แน่นอน dark energy ใชในวงการแพทย์อย่างแน่นอน เพราะ อย่างน้อย มนุษยสามารถผลิตหรือสังเคราะห์dna ได้แล้ว.......เพียงยังขัดจริยะธรรมขัดพวกคลังศาสนาเท่านั้น - ตอบไม่ไหวละครับ ชอบอ่านนิยายวิทยาศาสตร์น่ะดีครับ รู้ชื่อศัพท์บ้างก็ดี แต่รู้แค่งูๆ ปลาๆ รู้แค่ชื่อแต่ไม่เข้าใจความหมาย, แล้วเอาไปมั่วเรื่องกับเกมออนไลน์บ้าง หนังบ้าง แล้วคิดนิยามเอาเองเนี่ย ขอเถอะ ถ้าไม่อยากให้ผู้ใหญ่โทษว่าเป็นเด็กช่วงปิดเทอมอย่างเดียว ก็ต้องพยายามทำตัวไม่ให้เป็นแบบที่เค้าว่านะครับ ผมยอมตอบให้เพราะเชื่อว่าจะเป็นไกด์ในการค้นหาครั้งต่อๆ ไป ดังนั้น จงศึกษา ค้นคว้า อ่านเยอะๆ แล้วถึงจะค่อยรวบรวมความคิดอะไรที่ลึกซึ้งกว่าจะมาคิดเหมาเอาเองนะครับ ส่วนเรื่องสะกดผิด ให้คห. ต่อไปละกัน จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 00:01:39

ความคิดเห็นที่ 2 อื้อ หือ .... จากคุณ : numkow เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 00:09:44

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท รู้จักBlackHoleหรือเปล่า หรือแม้กระทั่ง Big Bang หรือเอาง่ายๆแค่สมการ E = mc^2 หรือรู้จัก แต่ไม่รู้มันคืออะไร เคยดูแต่ในหนัง ปล.สสารหายไม่ได้ครับ แต่มันเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ ตามกฏอนุรักษ์พลังงาน แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 53 00:22:26 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 53 00:18:20 จากคุณ : K.raywind เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 00:16:37

ความคิดเห็นที่ 4 อื้อ หือด้วยคน พิมพ์ผิด อื้อเลย กลับมาแก้ด่วนๆ จากคุณ : ผ้านวมผืนเก่า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 00:27:22

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าผมจำไม่ผิดเนี่ย dark energy เค้าตั้งชื่อไว้ก่อนไม่ใช่หรอครับ สมัยนั้นก็ยังอธิบายอะไรไม่ได้มาก เราไม่ต้องพิสูจน์หรอกว่ามันมีจริงหรือไม่ ตรวจพบยังไง แค่พิสูจน์ว่ามันคืออะไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ซึ่ง Dark Energy อาจจะเกิดจากองค์ประกอบหลายๆอย่าง ก็ได้ สิ่งที่เกิดก่อน bigbang ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพไม่มี เพราะก่อนจะเกิด bigbang มันไม่มีเวลาครับ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 00:34:12

ความคิดเห็นที่ 6 พิสูตร  พิสูจน์ ซื่ง ซึ่ง เครื่อน เคลื่อน เวคเตร์อ เวคเตอร์ ไหม่ ใหม่ ไม๊ ไหม ไม่ตอง ไม่ต้อง มนุษย มนุษย์ นิวเครีย  นิวเคลียส กล้าว กล่าว เหมื่อน เหมือน สุดท้าน สุดท้าย เครื่องจัคร เครื่องจักร gravity foce gravity force วิวัฒ ช่วยพิมพ์เต็ม เป็น วิวัฒนาการ ใช ใช้ dna  กรุณาเป็น DNA จริยะธรรม จริยธรรม คลังศาสนา คลั่งศาสนา เท่าที่เห็นนะครับ จากคุณ : ผ้านวมผืนเก่า เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:14:56

ความคิดเห็นที่ 7 แมคโค เอ้ย แบคโฮล ดูด พลังงานไปเป็นมวล แล้วมวลที่ได้น่าจะเป็นธาตุอะไร ทำไมมันอัดแน่นกันได้มากมหาศาลปานนั้น แล้วกลไกลที่ทำให้การดูดพลังงานดังดำเนินไปได้เรื่อยๆคืออะไร จากคุณ : สงสัยแต่ยังไม่อยากค้นหา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:17:50 A:202.176.106.50 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 8 แบลคโฮล ไม่ได้ดูดพลังงานไปเป็นมวล มวลไม่จำเป็นต้องเป็นธาตุ กลไลคือกราวิตอน จากคุณ : ชาลีฟ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:26:45

ความคิดเห็นที่ 9 หลุมดำเป็นซากที่สิ้นสลายของดาวฤกษ์ที่ถึงอายุขัยแล้ว สสารที่เคยประกอบกันเป็นดาวนั้นได้ถูกอัดตัวด้วยแรงดึงดูดของตนเองจนเหลือเป็นเพียงมวลหนาแน่นที่มีขนาดเล็กยิ่งกว่านิวเคลียสของอะตอมเดียว ซึ่งเรียกว่า เอกภาวะ แต่ อนุภาคเท่านั้น ที่มีมวลใช่ไหม ผมว่า หลุมดำ น่าจะดึงดูพลังงาน ไปสู่อีก มิติ นึงมากกว่า หลุมดำก็คือ สิ่งที่ช่วยถ่ายเทพลังงานระหว่างมิติ จากคุณ : สงสัยแต่ยังไม่อยากค้นหา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:34:24 A:202.176.106.50 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยต่อ พลังงานในหลุมดำ ต้องเปลี่ยนไปเป็นสสารใช่ไหม แล้วเจ้า เอกภาวะเป็นสสารชนิไหน เป็นสาสรที่อยู่ระหว่างสร้าง หรือสร้างเสร็จแล้วและส้รางเกาะกันไว้เรื่อยๆ กลไกการเกิดมันเป็นปฏิกิริยาต่อเนื่องใช่ไหม แล้วอะไรทำให้หรือควบคุม กลไก กราวิตรอนดูดพลังงานไปสร้างสสารนั้น จากคุณ : สงสัยแต่ยังไม่อยากค้นหา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 01:51:26 A:202.176.106.50 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 11 ไปอ่านคร่าวๆ เหมือน หลุมดำ คือพระเจ้าเลยแฮะ เหมือนตรงที่ เป็นคำนิยาม กล่าว อ้างเพื่อ หยุดความสงสัย เมื่อวัตถุเคลื่อนที่เข้าใกล้เอกภาวะมาก ๆ ด้วยแรงไทดัลที่มีค่าอนันต์ ส่วนประกอบทั้งหมดของวัตถุรวมไปถึงอะตอม และอนุภาคขนาดเล็กกว่าอะตอม จะถูกฉีกออกจากกันก่อนที่จะถึงเอกภาวะ โดยที่ไม่สามารถทราบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายในเอกภาวะ แต่เชื่อว่าจากทฤษฎีควอนตัมโน้มถ่วง ต้องการที่จะอธิบายเหตุการณ์บริเวณใกล้เคียง เมื่อวัตถุข้ามผ่านไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ มันจะหายไปจากเอกภพภายนอก ผู้สังเกตการณ์ระยะไกลจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของมวล ประจุ และโมเมนตัมเชิงมุมเล็กน้อย ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านจุดนี้ไปจะไม่สามารถเป็นตัวอย่างศึกษาได้อีกต่อไป จากคุณ : สงสัยแต่ยังไม่อยากค้นหา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:08:27 A:202.176.106.50 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 12 เราแก้คำผิด ตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว มันไม่ขึ้น ครับแต่ก็มีผิดอยู่แก้แล้วไม่ขึ้นจนขี่เกียดแก้แล้วครับ ก็ขอโทษนะครับ คห.1ครับ dark matter คือวัตถุ มืด dark energy คือ พลังงานมืด เราไม่เข้าใจ ว่าทำไม black hole เป็นดาว มีหลาย galaxy ที่ มีลักษณะการเคลื่อนที่แปลก บางอันโคงรัศมีใหญ่มากไป เรื่อง black hole + black hole+n... เราคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นในที่สุดเพราะไม่ว่าดาวตายหรือชนกัน จะเป็น black hole ทั้งสิ้น และเราคิดว่า สุดท้าย black holeจะรวมกัน ดูดกัน... สมการดูได้ที่  wiki นะ และ สสารหายไม่ได้ แต่เปลี่ยนรูปได้ great black hole/massive black hole คือ ตัว ที่ทำให้เกิด galaxy  มันกินและสร้าง galaxy พบ 1995และทำ galaxy ของเราและทั้งหมดเป็นกลุ่มก้อน จากคุณ : moeijoe (moeijoe) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:34:55

ความคิดเห็นที่ 13 ขอเถอะนะ สงสารเด็กรุ่นเดียวกันที่ทำตัวดีๆ แต่ถูกเหมารวมเพราะปลาเน่าไม่กี่ตัวเหอะ... ไปอ่านตรงไหนมาว่าหลุมดำเล็กกว่าอะตอม แถมยังไปก๊อปข้อความมามิกซ์เองอีก "หยุดความสงสัย" นักวิทยาศาสตร์คนไหนห้ามสงสัยหลุมดำ? รู้สึกเสียดายค่าไฟฟ้าแทนพ่อแม่จริงๆ จากคุณ : ก็พอรู้ แต่ยังไม่อยากตอบ (เด็กวัดสะพานใหม่) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:39:54

ความคิดเห็นที่ 14 น้อง คห.12 มาตอบแล้ว ดีใจที่ถามครับ ต้องการข้อมูลก็จะอธิบายครับ dark matter คือวัตถุมืด dark energy คือ พลังงานมืด - นิยามสองข้อนี้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่สามารถค้นพบหรือหาเจอได้จริง จึงให้ชื่อนิยามว่าเป็นวัตถุมืดและพลังงานมืด นักวิทยาศาสตร์จริงๆ แล้วยังเข้าใจความรู้เกี่ยวกับจักรวาลน้อยมาก มีคนเคยให้นิยามว่า การจะเรียนรู้จักรวาล ทั้งๆ ที่ไม่สามารถออกไปค้นหาในสถานที่จริงๆ นั้น เหมือนเราเขียนแผ่นที่โลกทั้งๆ ที่นั่งอยู่ในห้องน่ะแหล่ะ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:43:51

ความคิดเห็นที่ 15 ไปอ่านมา เค้าบอกว่า ดาว neutron ชนิดหนึ่ง ที่มีแม่เหล็กแรงมาก magnetar เราอ่าน เรารู้เลยว่า เรื่อง 2010 นั้น ที่จริงไม่น่าจะมาจากดวงอาทิตของเราตามในหนังเลยแม้แต่น้อย ที่จริงมันคือ ดาว magnetar นี้เองที่ทำให้ 2010 ดวงอาทิตไม่แรงพอ และโจมตี เมกา มาแล้ว จากคุณ : moeijoe (moeijoe) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:47:12

ความคิดเห็นที่ 16 เราไม่เข้าใจ ว่าทำไม black hole เป็นดาว - เป็นนิยามอีกเช่นกันครับ หลุมดำเป็นดาวดวงนึง แต่เนื่องจากมวลของมันมาก ทำให้มีแรงดึงดูดมากตามไปด้วย แต่สมัยนั้นคำนวณแล้วพบว่ามวลของแรงดึงดูดหลุมดำนั้นมากพอจะดูดแม้แต่แสง ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นดาวได้ เนื่องจากไม่มีแสงหลุดรอดมากระทบเลนส์ ปัจจุบัน นักวิทย์ฯ เองรู้แค่ว่าแรงดึงดูดมันสัมพันธ์กับมวล แต่เพราะอะไรนั้นยังไม่รู้ มีการคำนวณแล้วตั้งสมมติฐานว่า มีอนุภาค "สตริง" ที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ไม่อาจพบได้ในโลก 3 มิติ แต่อยู่ในมิติที่ 11 บางคนก็เชื่อว่าจริง บางคนก็บอกว่าไม่จริง การทดลองของเซิร์นจึงมีไว้เพื่อการณ์นี้ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:47:31

ความคิดเห็นที่ 17 มีหลาย galaxy ที่ มีลักษณะการเคลื่อนที่แปลก บางอันโคงรัศมีใหญ่มากไป - อันนี้ไม่ถนัด รอคนอื่น Discuss เรื่อง black hole + black hole+n... เราคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นในที่สุดเพราะไม่ว่าดาวตายหรือชนกัน จะเป็น black hole ทั้งสิ้น และเราคิดว่า สุดท้าย black holeจะรวมกัน ดูดกัน... สมการดูได้ที่  wiki นะ และ สสารหายไม่ได้ แต่เปลี่ยนรูปได้ - อย่าคิดเองครับว่าน่าจะ ควรจะ หากยังไม่ได้มีสมการ และตีความตามนั้น จักรวาลกว้างใหญ่กว่าที่หลุมดำจะส่งแรงถึง และพบว่ากำลังขยายตัวตลอดเวลาอีกต่างหาก great black hole/massive black hole คือ ตัว ที่ทำให้เกิด galaxy  มันกินและสร้าง galaxy พบ 1995และทำ galaxy ของเราและทั้งหมดเป็นกลุ่มก้อน - ไปอ่านต่อครับ อย่าแปลง่ายๆ ด้วยโปรแกรมแปล ค่อยๆ ทำไป ความรู้จะได้จำแม่น ช่วงอายุน้อยๆ นี้ล่ะที่สมองจะจดจำและคิดได้มากกว่าช่วยที่อายุมากขึ้น มีโอกาสก็พัฒนาไปครับ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 02:51:20

ความคิดเห็นที่ 18 เพราะว่า cern ทำเห็นว่า micro black hole นี้แหละ และมันมาพร้อมกัน dark energy เพราะคำถามก็คือ อะไรเป็นแรงให้กับ black hole กันแน่ แล้ว เราใช้ micro black hole แทน neuclear แทนได้ไม๊นาา เรายังไม่เคย พิสูจน์ได้เลยว่าอะไรเป็นแหล่งกำเนิด แรง ของ black hole เราจึง ตั้งไว้ก่อนว่า ธาตุ/สสารนั้นแหล่ะ ถูกย่อย หายไป แล้วกลายเป็น dark ennergy แล้วได้มวล เป็น dark matter และที่จริง black hole มีร้อนกับเย็นหรือไม่ โลกต้องมี micro black hole แน่นอน โดยมีธาตุต่างๆ ที่เสถียร น่าจะต้องมีเครื่องวัด และหา คลื่น dark energy ในการหา มิติ อื่นๆ เราน่าจะ หาตัวแปรให้ได้ก่อนจึงจะรู้ว่ามิติอื่นเป็นอย่างไร และ คิดว่า น่าจะ พิสูจน์มิติที่มากกว่าในปัจจบันได้ เช่น physic+math และ ความใหญ่โตของ black hole นี้ น่าจะทำให้ตารางคำนวน หามิติ แบบเล็กไม่ได้ คิดว่า มิติน่าจะใหญ่ไปสำหรับสมาการ เลยทำให้สมหารไม่สมบูรณ์ สุดท้าย ก็อยู่ที่ dark matter นี้อยู่ดี จากคุณ : moeijoe (moeijoe) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 03:30:32

ความคิดเห็นที่ 19 มึนแทนครับ จขกท เอาหลายๆ ทฤษฏีมามิกซ์กัน เหมือนค็อกเทล ก่อให้เกิด B-52 ในกระทู้ อ่านแล้วมึนเลย 1. สสารที่ถูกแบล็คโฮลดูดเข้าไปสู่ซิงกูราริตี้หายไปไหน กลายเป็นพลังงานหรือไม่ อันนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดครับ ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของเรายังไปไม่ถึง สภาวะในซิงกูราริตี้ ทฤษฏีของเรายังไม่สามารถอธิบายได้ครับ 2. แบล็คโฮล ไม่สามารถดูดกลืนสสารรอบข้างแล้วขยายตัวได้เองนะครับ ยกตัวอย่างเช่น หากดวงอาทิตย์ของเรากลายสภาพเป็นแบล็คโฮล โดยไม่สูญเสียมวลเลย คืออยู่ดีๆ ก็ยุบตัวลงเป็นแบล็คโฮล แรงดึงดูดที่มันกระทำต่อดาวเคราะห์บริวาร เช่นโลก ก็ยังมีอยู่เหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงเดิม เนื่องจากมวลไม่ได้เปลี่ยนไปเลย มันไม่สามารถจะเอื้อมมาดึงดูดโลก ให้เข้าไปรวมกับตัวมันเพื่อเพิ่มมวลได้ แบล็คโฮลจะแสดงอำนาจการดึงดูด ที่ไม่สามารถต่อต้านได้ เมื่อวัตถุใดๆ รวมถึงแสง ผ่านเข้าไปในบริเวณขอบฟ้าเหตุการณ์เท่านั้น ซึ่งรัศมีของขอบฟ้าเหตุการณ์นั้น เล็กกว่าดวงอาทิตย์ดวงเดิมด้วยซ้ำ 3. ขนาดของหลุมดำ เราสามารถประมาณมวลของหลุมดำ ได้จากขนาดของขอบฟ้าเหตุการณ์นี้เอง ซึ่งมวลของหลุมดำ แม้แต่ซูปเปอร์ แมจซีพ แบล็คโฮล ที่เราค้นพบในปุจจุบัน ซึ่งอยู่บริเวณใจกลางของกาแล็คซี่ ก็ยังเป็นสิ่งที่เล็กมากๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับมวลของทั้งกาแล็คซี่ (แบล็คโฮลใหญ่ที่สุด ใจกลางกาแล็คซี่ของเรา มีมวลประมาณ 4.1 ล้านเท่าของระบบสุริยะ ขณะที่ทั้งกาแล็คซี่ มีดาวประมาณ 100,000 - 400,000 ล้านดวง) และกาแล็คซี่เอง ก็ยังเล็กมากๆๆๆๆ เมื่อเทียบกับจักรวาลที่เรารู้จัก (เท่าที่เรารู้ ประมาณว่าทั้งจักรวาล มีกาแล็คซี่ประมาณ 170,000 ล้าน กาแลคซี่) ดังนั้น ณ ตอนนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ ที่หลุมดำ จะสามารถดึงดูดทั้งจักรวาลให้กลับมารวมตัวกัน ก่อเป็นบิ๊กแบงค์ 4. สสารมืด และ พลังงานมืด เป็นทฤษฏี ที่เราตั้งขึ้นมา เนื่องจากความรู้ของเราในปัจจุบันพบว่า เมื่อเทียบกับสภาพทางฟิสิกส์ที่เรารู้จักของมัน มวลของจักรวาลที่เราพบ มีน้อยเกินไป จึงตั้งทฤษฏีว่า มีสสารมืด และ พลังงานมืด ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถค้นพบและพิสูจน์ได้ เป็นตัวยึดโยงจักรวาลไว้ จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 07:40:38 A:202.57.180.245 X: TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 20 ปล. แบล็คโฮล ที่ใหญ่ที่สุดที่เรารู้จักใน Galaxy 0402+379 มีมวลประมาณ 18,000 ล้านเท่าของทั้งระบบสุริยะ เทียบกับดาวฤกษ์ทั้งกาแล็กซี่ 400,000 ล้านดวง จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 07:46:37 A:202.57.180.245 X: TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะฝรั่งดันตั้งชื่อว่า Black Hole ถ้าตั้งว่า Black star sucker ก็จบแ้ล้ว ^^ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 53 10:27:14 จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 10:26:48

ความคิดเห็นที่ 22 #21 ชื่อมันตั้งก่อน ที่นักวิทยาศาสตร์จะเข้าใจว่ามันคืออะไรนี่ครับ มันเป็นชื่อทางการไปแล้ว ไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงไปทำไม ความหมายก็ยังไม่ได้ผิดไปนัก เพราะเรายังมีเรื่องต้องพิสูจน์อีกเยอะ จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 11:31:44

ความคิดเห็นที่ 23 ผมอ่านแล้วรู้สึกว่า จขกท. มั่วเรื่อยๆมาเรียงๆ หรือผมความรู้น้อยไป ? จากคุณ : Fatalbringer เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 11:45:50

ความคิดเห็นที่ 24 แนะนำว่าเวลาจขกท.อ้างทฤษฏี หรือpaperของใคร เอาlinkมาแนบด้วยก็ดีนะครับ มันเริ่มมั่วนิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว จากคุณ : K.raywind เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 12:07:25

ความคิดเห็นที่ 25 หลุมดำ(black hole) คือชะตากรรมสุดท้ายของดาวฤกษ์มวลมากๆเช่นเกิน 3 สุริยะมวล วงจรชีวิต(life cycle)ของดาวฤกษ์(star) มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย คล้ายๆคนนั่นเอง มหาจักรวาล 150-800 ล้านปีหลังบิ๊กแบง(big bang)เข้าสู่ยุคมืด ไร้ดวงดาว ไร้แสงดาว The Dark Ages are currently thought to have lasted between 150 million to 800 million years after the Big Bang. http://en.wikipedia.org/wiki/Timeline_of_the_Big_Bang#Dark_ages ในยุคมืด อตอมเร่ร่อนไปมา ด้วยอำนาจแรงโน้มถ่วงมันจึงค่อยรวมตัวขึ้นจนเป็นดาวฤกษ์ ชะตาชีวิตดาวฤกษ์ กำหนดด้วย 2 แรง แรงโน้มถ่วง-ดูดให้รวมกัน แรงนิวเคลียร์-ผลักออก ฉะนั้นแรงโน้มถ่วงชนะ-ดาวหดเล็ก เช่นช่วง star, white dwarf, black hole แรงนิวเคลียร์ชนะ-ดาวขยายใหญ่ เช่นช่วง red giant, supernova ชะตากรรมสุดท้ายของดาวฤกษ์ กำหนดด้วยขนาดมวล มวล-ที่มาแรงโน้มถ่วง ดาวฤกษ์มวล 1-1.5 สุริยะมวล(solar mass) ช่วงสุดท้ายเป็นแคระดำ( black dwarf) ดาวฤกษ์มวล 1.5-3 สุริยะมวล ช่วงสุดท้ายเป็นดาวนิวตรอน(neutron star) ดาวฤกษ์มวลเกิน 3 สุริยะมวล ช่วงสุดท้ายเป็นหลุมดำ( black hole) จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 12:42:19

ความคิดเห็นที่ 26 พิจารณาแล้วหลุมดำ อาจมิได้มหัศจรรย์ แปลกประหลาด หรือดูดแสงดูดทุกสิ่งอย่างเข้าไป มวลของหลุมดำกำหนดขนาดรัศมี ขอบฟ้าเหตุการณ์(event horizon) http://en.wikipedia.org/wiki/Black_hole#Event_horizon ในขอบฟ้าเหตุการณ์คือ ขอบที่อะไรหลุดเข้าไปจึงถูกหลุมดำดูดเข้าไป แม้แต่แสงก็ตาม ถ้าไม่เข้าขอบฟ้าเหตุการณ์ ทุกอย่างก็หลุดไม่ตกหลุมดำ แม้เป็นยานอวกาศธรรมดา เช่นวัตถุหรือแสงวิ่งเฉียดหลุมดำ 1-2-3 แค่วิถีโค้งไปบ้าง  4 เฉียดใกล้เลยตกหลุม 5-6 วิ่งตกหลุม นั่นคือถ้าวิ่งเร็วพอ-ห่างพอก็ไม่ตกหลุมดำ จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 13:11:57

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วถ้าดาวฤกษ์มวลมาำกแก่พอกลายเป็น หลุมดำ หลุมดำมิอยู่เต็มไปหมดหรอกรึ ถ้าคิดว่าหลุมดำดูดอย่างเดียว ไม่เคยเสียมวล งั้นหลุมดำคงเป็นอมตะ-ไม่ยอมตายซีนะ 1974, Stephen Hawking ว่าหลุมดำไม่ดำสนิทนะเออ แต่เปล่งความร้อนนิ๊ดนิด เสียความร้อน คือเสียมวล หลุมดำจึงหด ค่อยๆระเหยไป หลุมดำจึงมีวันหมดอายุไข หลุมดำ 1 สุริยะมวลคำนวนได้ อุณหภูมิฮอกิ้ง 100 นาโนเคลวิน A stellar black hole of one solar mass has a Hawking temperature of about 100 nanokelvins. http://en.wikipedia.org/wiki/Black_hole#Evaporation อ้อ หลุมดำไม่ 0 K แต่ค่อนข้างเย็นจัด จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 13:47:22

ความคิดเห็นที่ 28 dark energy ไม่จริงเพราะคิดว่า black hole ต่างหากที่ทำให้เกิด bigbang ต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวอาจผิดก็ได้ จักรวาลอยู่ด้วย 2 แรง แรงดูด(แรงโน้มถ่วง)เกิดจากมวล-สสาร(matter) พยายามให้จักรวาลหด แรงผลัก(แรงแยกห่าง)เกิดจากพลังงาน(energy) พยายามให้จักรวาลขยาย black hole เป็นมวลมีแรงโน้มถ่วง(แรงดูด) ทฤษฎีบิ๊กแบงว่าจักรวาลขยายตัว จึงควรเป็นพลังงานมากกว่าที่เป็นตัวผลักให้จักรวาลขยายตัว แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 53 14:12:13 จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 14:09:49

ความคิดเห็นที่ 29 ตบมือ แปะๆ ให้ คุณ ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ จากคุณ : สงสัยแต่ยังไม่อยากค้นหา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 14:27:23 A:202.176.109.46 X: TicketID:284592

ความคิดเห็นที่ 30 คห.24 ผมอ่านจาก paper ของ cern ครับ ก็เพราะตอนนี้ นักวิทเราคิดกันแล้วว่า blackhole นี้แหละ เป็นตังตั้ง แรงดึงดูด แต่ยังไม่สรุปครับ เลย มีcern เป็นแรงที่มนุษยเรายังเรียนแบบไม่ได้ gravity force เราเข้าใจกันว่า แกน ดาวมาจากอะไรกันแล้วจริงหรือ อยากให้พูดตาม คห 19 มาก กว่า เพราะ วิจารณ์ กันเรื่องที่มาของ แรงของตัวblack hole เอง ใช้ครับ black hole + black hole เท่านั้นจึงใหญ่ขึ้นได้ เพราะ black hole + black hole เท่านั้นจึงใหญ่ขึ้นได้ นี้แหละ จึงสงใสว่า จริงๆ black hole มีแรง เป็นอนันได้อย่างไร ขนาดแสงยังถูกดูด เช่น ขนาดกำลัง black hole เป็นเท่าไหร่ หมายความว่า ถ้าไม่ใช่แรง gravity หรือ dark energy หรือ ไม่ก็มีแรงอีกแบบที่ยังไม่พบหรือไม่ และ ยังมี antimatter หรือ ปฏิสสารอีก จากคุณ : moeijoe (moeijoe) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 14:43:49

ความคิดเห็นที่ 31 เจอความเห็น 15 เข้าไป ถึงกับมึนตึบ พูดไม่ออกกันเลยทีเดียว จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 14:57:48

ความคิดเห็นที่ 32 ตาม คห 27 black hole ของ galaxyเราหยุดแล้ว แต่ ยังใหญ่ขึ้นได้อีก หาก galaxyอื่นมาชน เรา ตาม คห28 จักรวาล มันขยาย ใช้ แต่ยังพบอีกว่า มันมี อัตราเร่งความเร็วมันเพิ่มนะสิ แล้วอะไรที่ black hole กินไม่ได้ คิดไปมา ก็คือ neutron star นั้นเอง หรือป่าว พฤติกรรมของ black holeที่ร้อนกับเย็นต่างกันอย่างไร ถ่ามีแต่เย็น ก็หมายความว่า มันดุดความร้อนด้วย แล้วมันดูดตัวมันเองไหม๊นิ๊ ก็เลยคิดเอาน่าจะเป็นว่า มันปล่อย dark matter และ dark energy ออกมาแทน ความร้อนของดวงอาทิตมันยังดูด แต่ตัวมันเองกลับเย็น เลยมี ความคิดที่ว่ามันเป็นมิติ อีีก แต่อะไรให้พลังงานมัน สร้างรูดูดแบบนั้นได้ จากคุณ : moeijoe (moeijoe) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 15:01:52

ความคิดเห็นที่ 33 ผมว่าส่วนใหญ่เค้าแยกนะ Dark energy Dark Metter จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 15:08:00

ความคิดเห็นที่ 34 คห.30 ที่ว่าแรงเป็นอนัน นั้นไม่จิง หรอกครับ ผมเป็นค่าๆหนึ่ง ที่สูงมาก ถึงจะมีดึงดูดมากก็ไม่ได้หมายความว่าจะดูดทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ หรือไกลๆ ออกไปเข้ามา ก็เหมือนกับแม่เหล็ก นั้นล่ะ พอเราเอาเหล็กชิ้นเล็กๆ ค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้ จนถึงจุดหนึ่ง ถึงดูดวืดเข้าไปติด ผมว่า หลุมดำก็ทำงานแบบเดียวกัน และหลุมดำแต่ละดวง ก็จะมีแรงดึงดูดที่แตกต่างกันอีกด้วย แรงดึงดูด ที่ทำให้แสงหักเห ได้ ก็ไม่ได้สูงมากอย่างที่คิด ก็ยังไม่การทดลองกันอยู่ด้วย ในความเห็นของผม แสงที่ถูกดูดกลืนไป น่าจะมีจำนวนน้อยกว่าที่คิด แต่ว่ามีการหักเหไปซะมากกว่า จากคุณ : อิทธิพงษ์ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 20:44:17

ความคิดเห็นที่ 35 # 30 ที่มาแรงของ black hole ... คือแรงโน้มถ่วง เกิดจากมวลนั่นเอง 1915 ไอน์สไตน์เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป อธิบายแรงโน้มถ่วงด้วยเรขาคณิตของ spacetime General relativity is the geometric theory of gravitation http://en.wikipedia.org/wiki/General_relativity Karl Schwarzschild ว่าสูตรนิวตัน escape velocity = sqr(2GM/r) คือความเร็วต่ำสุดที่จะหนีออกจากดาวไป ถ้า c แทน escape velocity c คือความเร็วแสง จะได้ r = 2GM/c^2   r นี้เรียกรัศมี Schwarzschild พิจารณารัศมี Schwarzschild จะเห็นว่า มวลที่บีบอัดเล็กจิ๋วเกิดหลุมดำ บีบโลกให้ได้ 8.86 มม. บีบดวงอาทิตย์ให้ได้ 2.95 กม.จะกลายเป็นหลุมดำ ดาวที่หดต่ำกว่ารัศมีฉวอร์ซไชด์ แสงที่หลุดเข้ารัศมีนี้จะถูกหลุมดำดูดเข้าไป Schwarzschild เสนอว่าอาจมีดาวที่สามารถดูดแสงได้ รัศมีนี้คือขอบฟ้าเหตุการณ์ ไอน์สไตน์ ได้ยินเรื่องนี้แล้วไม่เชื่อ ดาวบ้าอะไรดูดแสงได้ จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 53 22:54:10