ความคิดเห็นที่ 1 อุณหภูมิของโลกที่แตกต่างในภูมิอากาศเขตร้อน เขตอบอุ่น และ เขตหนาว เกิดจากสัดส่วนพลังงานจากแสงอาทิตย์ต่อพื้นที่ๆไม่เท่ากัน สมมุติถ้าเราแบ่งซีกโลกเหนือเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน เราจะได้พื้นที่ผิวในแต่ละส่วน 85,000,000 ตารางกิโลเมตร โดยประมาณ ตาม รูปที่ 1 รูปที่ 1: โลก แบ่งส่วนตามเขตภูมิอากาศ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 12:58:07 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 12:57:16

ความคิดเห็นที่ 2 แสงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลก มีความเข้มข้นพลังงาน 1,400 W/m2 แต่ความเข้มแสงนั้นเป็นไปตามพื้นที่หน้าตัดขวาง พื้นที่หน้าตัดขวางที่รับแสงจากดวงอาทิตย์ในแต่ละส่วนนั้นก็ไม่เท่ากัน ซึ่งจะเป็นตัวที่ทำให้บริเวณต่างๆของโลกมีอุณหภูมิไม่เท่ากัน สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้วิชาเรขาคณิต อาจข้ามไปอ่านต่อที่ คห 5 ได้เลยครับ รูปที่ 2-1: การประกอบรูปทรงเรขาคณิตเป็นพื้นที่รับแสง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 14:03:29 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:00:23

ความคิดเห็นที่ 3 รูปที่ 2-2: การประกอบรูปทรงเรขาคณิตเป็นพื้นที่รับแสงส่วนวงรี จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:02:39

ความคิดเห็นที่ 4 รูปที่ 2-3: การประกอบรูปทรงเรขาคณิตเป็นพื้นที่รับแสง ส่วนของทรงกลม จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:04:10

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเราเอาความเข้มแสง คูณเข้ากับพื้นที่หน้าตัดแสง แล้วหารด้วยพื้นที่ผิวของแต่ละส่วนของโลก เราจะได้ความเข้มแสงตามตารางข้างล่าง สังเกตว่าสัดส่วนแสงที่กระจายลงสู่แต่ละพื้นที่นั้นไม่เท่ากัน ตารางที่ 1: Flux รังสีจากดวงอาทิตย์เฉลี่ยตามเขตภูมิอากาศโลก จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:05:42

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะพื้นที่ตอนบน  หน้าตัดรับแสงน้อยกว่าพื้นที่ตอนล่าง ความเข้มแสงเฉลี่ยต่อพื้นที่ผิวโลกจะมีอยู่น้อยกว่า อุณหภูมิพื้นผิวใดๆ ของวัตถุ สามารถคำนวณได้จากกฏของ Stefan Boltzmann ว่าด้วยการแผ่รังสี หลักการคือ รังสีเข้าจากดวงอาทิตย์ = รังสีความร้อนแผ่ออกจากโลก และ อัตราการแผ่รังสีขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ หรือพื้นผิวโลกจะร้อนขึ้นจนกว่าค่าการแผ่รังสีออกจากโลกจะเท่ากับค่าพลังงานเข้าจากดวงอาทิตย์ รูปที่ 3: Black Body Radiation จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:06:51

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อแทนค่า heat flux จากดวงอาทิตย์ต่อพื้นที่ผิวโลกในแต่ละส่วนลงในสมการของ Stefan-Boltzmann เราก็จะพบว่า อุณหภูมิของโลก ณ ส่วนต่างๆ และฤดูกาลต่างๆจะได้ประมาณนี้ ตารางที่ 2: คำนวณอุณหภูมิโลกตาม Flux ความร้อนจากดวงอาทิตย์เฉลี่ยที่สัดส่วนพื้นที่หน้าตัดแสงต่อพื้นผิวโลกต่างกัน จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:12:50

ความคิดเห็นที่ 8 อธิบาย ตา่มท่าน Darth เพราะโลกเอียง แต่ดาวเทียมเขาไม่ได้เอียง ล็อคเป้านิ่งอยู่ ณ เวลา บ่ายโมง จะเห็นว่า ที่ Long. เส้นเดียวกัน  ซีกโลกใต้ สว่างเยอะกว่าซีกโลกเหนือ ถ้าโลกไม่เอียง ความสว่างกับความมืดจะเท่ากัน โลกก็จะไม่มีฤดูกาล ปล. เรื่องของเรื่องคือ แอบปาด แบบเนียนๆ นั่นแหละ :P แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 13:23:46 จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:21:24

ความคิดเห็นที่ 9 การคำนวณโดยใช้แค่ Black Body Radiation จะไม่แม่นยำเท่าไรนัก เพราะโลกเรายังมีองค์ประกอบอื่นๆที่สำคัญคือก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยกักความร้อนเอาไว้ ทั้งนี้ ผมเคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับการสร้างโมเดลภาวะโลกร้อนไว้ ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกนั้นมีผลสูงขึ้นจากก๊าซเรือนกระจก เรื่องโมเดลก๊าซเรือนกระจก ศึกษาดูได้จากลิงค์หว้ากอ หรือสามารถหาอ่านได้ในบทความ Facobook ของผมเช่นกัน http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/04/X9132979/X9132979.html เมื่อนำผลจากก๊าซเรือนกระจกเข้ามาร่วมคำนวณ อุณหภูมิโดยรวมก็จะสูงขึ้น ตามสัดส่วน อย่างเราที่อยู่เขตร้อน อุณหภูมิหน้าร้อนก็เฉลี่ย 38 oC หน้าหนาวก็ 19 oC แต่ทั้งนี้ โมเดลยังไม่ครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงของกลางวันและกลางคืน รวมไปถึงยังไม่ครอบคลุมถึงผลจากการเคลื่อนไหวของกระแสลมที่เป็นตัวพากระจายอุณหภูมิด้านล่างไปสู่ด้านบน ส่วนที่อาจแปลกใจที่สุดน่าจะเป็นพื้นที่โซนอบอุ่น และโซนหนาวที่ช่วงอุณหภูมิสูงและต่ำสุดต่างกันได้ขนาดนั้น พื้นที่โซนอบอุ่นและโซนหนาวได้รับอิทธิพลจากกระแสลม กระแสน้ำที่ทำให้อุณหภูมิไม่ขึ้นสูงขนาดที่ทำนาย รวมไปถึงการสะสมของความความเย็นในพื้นที่เองด้วย ไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าในสภาพที่เกิด Wind Stagnant หรือภาวะที่ลมไม่เคลื่อนไหว ยุโรปจึงมีอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 40 oC ได้อย่างง่ายดาย อ่านข่าวประกอบ http://www.spiegel.de/international/europe/0,1518,705963,00.html http://www.msnbc.msn.com/id/38263883/ รูปที่ 4 คำนวณอุณหภูมิโลก โดยใช้ Green House Effect Model จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:25:13

ความคิดเห็นที่ 10 ทั้งนี้จากรูปที่ 4 และตารางที่ 2 ที่แสดงข้างบน น่าจะมีข้อสังเกตกันได้บ้างว่า เวลาที่มีคนพูดถึงน้ำแข็งขั้วโลกละลาย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1-2 oC ที่เขตร้อนกับอุณหภูมิที่จะเพิ่มที่เขตหนาวมันจะเป็นคนละเรื่องกัน แถมเพราะหน้าร้อนและหน้าหนาว อุณหภูมิสัมผัสของแสงอาทิตย์ต่างกันได้มาก มันจะต้องมีน้ำแข็งละลายตามฤดูกาลและน้ำแข็งเกิดใหม่ตามฤดูกาล การใช้แค่ภาพถ่ายน้ำแข็งละลาย มีสิทธิ์เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเอาง่ายๆ และถ้าพิจารณาอุณหภูมิเฉลี่ย ยิ่งสูงอุณหภูมิเฉลี่ยยิ่งต่ำ การเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกแค่ 1-2 oC ยังไม่พอจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของเขตหนาวบริเวณขั้วโลกสูงกว่า 0 oC ตลอดรอบปี (การจำลองผลที่เฉลี่ย 2 องศานั้นเพราะแบ่งเฉลี่ยที่ประมาณเส้น 60o องศาเหนือ ถ้าสูงกว่านั้นมันก็จะมีส่วนที่อุณหภูมิเฉลี่ยติดลบตลอดปี เช่นที่ขั้วโลกอุณหภูมิเฉลี่ยจริงๆเกิอบ -40 oC ผลกระทบการละลายมีได้แต่จะไม่มีทางละลายจนหมด ถ้าน้ำแข็งจะละลายหมดโลก (หรือใกล้เคียง) อุณหภูมิเฉลี่ยน่าจะต้องสูงไปกว่า 11 oC โดยประมาณ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แถมอีกนิด เรื่องเกี่ยวกับวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ เรามักพูดกันว่าเราโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรี จนถึงกับมีบางคนเชื่อว่าฤดูกาลเกิดจากโลกเข้าใกล้และออกห่างจากดวงอาทิตย์ แต่วงโคจรที่ว่ารีมันก็ไม่ได้รีเสียขนาดนั้น ดูตามรูปที่ 5 ความแตกต่างของ Flux แสงอาทิตย์ช่วงใกล้กับช่วงไกลดวงอาทิตย์นั้น 1414 W/m2 เทียบกับ 1322 W/m2 มีส่วนต่างกันอยู่ 5.6% ถ้าคำนวณเป็นอุณหภูมิ Black body เทียบพื้นผิวโลกกับพื้นที่หน้าตัดแสงอาทิตย์ ก็จะเทียบเป็นค่าเฉลี่ยพลังงานที่ 353 W/m2 ณ ช่วงใกล้ และ 330 W/m2 ที่ช่วงไกลจากดวงอาทิตย์ ซึ่งมันก็จะต่างกันได้ 4.7 oC ยิ่งถ้าเรื่องอธิบายไปว่า แกนโลกหันเข้าหันออกแล้ว เข้าใกล้ดวงอาทิตย์มันก็ร้อน ออกห่างมันก็หนาว ด้วยรัศมีของโลกแค่ 6,000 กิโลเมตรกว่าๆนี่อุณหภูมิส่วนต่างก็จะแค่ 0.000005 oC เท่านั้นครับ รูปที่ 5 วงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:28:21

ความคิดเห็นที่ 11 ปกติชอบมากๆ กรุะทู้ที่มีภาพประกอบ มันคือกระทู้แรกที่เห็นภาพแล้วอยากปิดหนี เห็นสูตรคำนวณแล้วเมา แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 13:29:37 จากคุณ : aekerteam เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:28:45

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพหลุด โว๊ะ เนตเน่านี่มันเหลือเกินจริงๆ ภาพที่ 5 กันใหม่ สังเกตนะครับ เส้นสีขาวเป็นวงกลมจริงๆ ส่วนสีแดงคือที่เราบอกว่าวงโคจรโลกเป็นวงรี มันรีแค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ เหลื่อมเส้นสีขาวก็นิดเดียว แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 14:21:41 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:29:00

ความคิดเห็นที่ 13 และทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่โลกของเรานั้นมีเขตภูมิอากาศที่ต่างกัน โลกกลมทำให้เกิดภูมิอากาศ และเพราะแกนโลกเอียงเราจึงมีฤดูกาล อ้างอิง [1]http://en.wikipedia.org/wiki/Trigonometry [2]http://en.wikipedia.org/wiki/Stefan%E2%80%93Boltzmann_law [3]http://en.wikipedia.org/wiki/Earth [4]http://en.wikipedia.org/wiki/Sun เสียดายจริงๆ เนตเน่าทำให้เสียม้าโดนตาบิ๊กปาดจนได้ ทั้งๆที่แอบไปโพสในห้องนอกเรื่องจับเวลาเป็นอย่างดีแล้ว ฮือๆๆ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:31:50

ความคิดเห็นที่ 14 หัวข้อกระทู้น่าสนใจมาก อ่านแล้วต้องกินยาแก้แพ้สูตร พอจะมีบทสรุปที่เข้าใจง่ายๆมั้ยเอ๋ย จากคุณ : โง่เขลา เบาปํญญา (icker) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:40:46

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้นี้คิดเสียว่าเป็นการทบทวนเรขาคณิตเล็กๆน้อยๆนะครับ ก็ เผื่อมีคนถามว่าเรขาคณิตใช้อะไรได้บ้าง มันก็ใช้หาคำตอบของคำถามทางวิทยาศาสตร์เรื่องฤดูกาลพรรค์ฉะนี้น่ะแหละ ตอนตั้งกระทู้นี่ก็มึนอยู่ว่ามันควรไปอยู่คณิตศาสตร์ไหม เพราะมันสรรพศาสตร์เหลือเกิน รูปที่ตาบิ๊กโพส ทำให้คิดได้ว่าน่าจะเพิ่มอะไรแปลกๆให้ดูอีกอย่าง Concept เรื่อง Solar Flare ที่ว่ามันจะพุ่งมาโดนโลกได้ ก็เป็นเพราะภาพจำลองที่บิดเบือนมุมมองเพื่อทำให้เข้าใจได้ง่าย โดยทำให้สัดส่วนขนาดดวงดาวผิดไปมหาศาล อย่างในรูป ที่ 5 ตรง คห 12 จุดนั่นเป็นขนาดดวงอาทิตย์ตามสัดส่วนจริง แต่ขนาดของโลกมันเล็กกว่าที่ Pixel จะแสดงออกมาได้ แต่เราก็มักเข้าใจว่า ขนาดดวงดาวมันเป็นอย่างนี้ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:41:12

ความคิดเห็นที่ 16 หนูงง จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 13:58:11

ความคิดเห็นที่ 17 หนูงงกว่า จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:03:55

ความคิดเห็นที่ 18 ... จากคุณ : pisity เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:23:11

ความคิดเห็นที่ 19 หนูไม่งง แต่หนูมึน... จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:25:31

ความคิดเห็นที่ 20 คห16 น่าจะเรียกแมวงงนะครับ จากคุณ : ตามหาในนิยาย เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:35:30

ความคิดเห็นที่ 21 หยิบเครื่องคิดเลขมาจิ้มๆกันซร้า เรขาคณิตเรียนกันมาแล้วทุกคนแหงๆ โดยเฉพาะพวกวิดสิวะกลอน จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 14:38:12

ความคิดเห็นที่ 22 หวาวววววววววว จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:14:59

ความคิดเห็นที่ 23 ... จึงเป็นเรื่องประหลาดที่ธรรมชาติสร้างทุกอย่างมาลงตัว amazing ครับ จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:20:51

ความคิดเห็นที่ 24 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:43:34

ความคิดเห็นที่ 25 พยายามอ่านสมการ....มึน @.@ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:54:41

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นสูตรแล้ววิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม เห็นส่วนประกอบต่างๆ ของโลกแล้วตัวแปรมันเยอะเหลือเกินกว่าจะกลายเป็นโลกที่เราอยู่กันทุกวัน จนแอบคิดไม่ได้ว่าทั่วทั้งจักรวาลจะมีโอกาสเกิดแบบนี้ได้อีกรึเปล่า จากคุณ : Steyr Commando เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 15:59:40

ความคิดเห็นที่ 27 ...กระทู้นี้ เยี่ยมจริงๆ            เพลงประกอบตอนจบก็เยี่ยม ฟังแล้วเหงาจับใจจริงๆ Four seasons in one day Llying in the depths of your imagination Worlds above and worlds below Sun shine's on the black clouds hanging over the domain Even when your feeling warm The temperature could drop away Like four seasons in one day Smiling as the shit comes down You can tell a man from what he has to say Everything gets turned around And I will risk my neck again, again You can take me where you will Up the creek and through the mill Like all the things you can't explain Four seasons in one day Blood dries up Like rain, like rain Fills my cup Like four seasons in one day Doesn't pay to make predictions Sleeping on an un-made bed Finding out wherever there is comfort there is pain Only one step away Like four seasons in one day Blood dries up Like rain, like rain Fills my cup Like four seasons in one day                                                                           จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:03:38

ความคิดเห็นที่ 28 ตัวแปรและสมการที่เกี่ยวกับโลกย่อมมากกว่าการจะพูดง่ายๆว่าปรากฏการณ์ใดปรากฏการหนึ่งเกิดขึ้นแค่มีเธน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ถึงจะเห็นตัวแปรเยอะเพียงใด มันก็ไม่เกินวิสัยมนุษย์จะทำความเข้าใจมันนะครับนะ มีคนรู้จักเพลงนี้ด้วยอีกนะครับนะ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:18:08

ความคิดเห็นที่ 29 ตกลงโลกเรานี่หันตูดโดนแดด หรือหันหัวโดนแดด กันแน่ครับ แล้วทางไหนโดนแดดมากกว่ากัน จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:20:59

ความคิดเห็นที่ 30 ไอ้กระผมก็หลงเข้าใจผิดมานาน......นึกว่าที่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เป็นเพราะ...หมีคั่วโลก ซะอีก....หึหึ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:29:38

ความคิดเห็นที่ 31 สลับกันโดนดูด เอ๊ยโดนแดดพอๆกัน เรื่องการละลาย มี 1 การละลายตามปรกติเพราะโลกเอียง 2 การเปลี่ยนของสมดุลตามธรรมชาติ 3 การเปลี่ยนของสมดุลผิดธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องแค่ละลายเพราะโลกร้อน มันมีประเด็นมากไปกว่านั้นกับคำว่าฤดูกาลครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 16:37:38 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:33:47

ความคิดเห็นที่ 32 โอ้ เยี่ยมครับๆ เคยเรียนมาใน Physics atmosphere ตอนนี้เอาความรู้ตรงนั้นไปใช้สร้างสภาพภูมิอากาศของดาวเคราะห์ทำเองในนิยายด้วยล่ะ ฮา จากคุณ : ECOS เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 16:54:19 A:27.130.192.75 X: TicketID:253885

ความคิดเห็นที่ 33 แหม .. เดี๋ยวนี้มีเพลงประกอบกระทู้แล้วฤาคะ //me แบมือเก็บค่าลิกขสิทธิ์ จากคุณ : โอ้ละหนอ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 17:35:33

ความคิดเห็นที่ 34 เพลงประกอบกระทู้ได้เปล่าครับ เนื้อหาเศร้าหน่อยเพลงโปรดเลย  Seasons In The Sun แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 18:59:47 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 18:56:18

ความคิดเห็นที่ 35 คลิปครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 18:59:54

ความคิดเห็นที่ 36 ได้ความรู้ดีครับ จากคุณ : Mr.Feynman เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 20:40:58

ความคิดเห็นที่ 37 ถึงแมวโอ้ละหนอ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แง่ง แปะเพลงแอบๆวิทย์กันนิดนะครับเดี๋ยวกระมู้กลายพันธุ์เกิน แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 53 21:10:00 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 21:08:49

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากครับ สุดยอดเลย จากคุณ : รบมิพัก รักมิยั้ง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 22:44:32

ความคิดเห็นที่ 39 ยากครับ เกินจะอ่านไหว 555 จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 23:11:34

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นสมการแล้วเกิดความรู้สึกทดท้อในจิตใจ + มึนงงเล็กน้อย (หัวเราะ) ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ดีๆ //me    กลับขึ้นไปอ่านซ้ำอีกรอบ ^__^ จากคุณ : starlight_da-o เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 23:51:19

ความคิดเห็นที่ 41 สรุป ปัจจัยหลัก ไม่ได้อยู่ที่ใกล้ไกลแสง แต่อยู่ที่โดนแดด เต็มๆ หรือ โดนแดดแบบหลบๆ เอียงๆ ใช่ป่าวครับ ปัจจัยที่ทำให้มันไม่กระทบจากแดด รุนแรงมาก คือ กระแสลม และ ชั้นบรรยากาศ ของโลก ที่เป็นตัวกลางคอยกระจายอุณหภูมิ ทำให้ร้อนมากก็ระบายไปที่ร้อนน้อย หนาวมากก็ระบายไปที่หนาวน้อย ผมเข้าใจถูกป่าวหว่า ถามต่อว่า ฤดู ซีกโลกใต้กับซีกโลกเหนือ จะสลับกัน เพราะผลัดกัน รับแดดใช่ป่าวครับ จากคุณ : Hephaestuz เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 00:24:42

ความคิดเห็นที่ 42 คนเก่าแก่มาเองเลยนะครับเนี่ย จากคุณ : zodom-sai เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 00:37:24

ความคิดเห็นที่ 43 คห 41 ประมาณเช่นนั้นครับ ซีกโลกเหนือซีกโลกใต้มันก็สลับข้างกันละครับ ดูอย่างใน คหที่ 2 พื้นที่รับแดดแบบเอียงเข้าและเอียงออก ตอนซีกโลกเหนือเอียงเข้าพื้นที่รับแดดเยอะ ซีกโลกใต้มันก็เอียงออกพื้นที่รับแดดน้อยนั่นละครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 05:11:10

ความคิดเห็นที่ 44 ผมอ่านหัวข้อกระทู้ปุ๊ป เข้าใจนะ...แต่พอมาเจอรายละเอียดเรื่องคำนวนไปไม่เป็น..สงสัยสมองชำรุดไปบางส่วนแล้วขอบคุณความรู้ดีๆครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 05:37:20

ความคิดเห็นที่ 45 ทิศทางกระแสน้ำหลักจากชั้วโลกก็มีผลมากนะครับ แต่สมการยังไม่ได้ดู ยังไม่เห็นด้วยหรือคัดค้าน จากคุณ : 186388 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 09:44:34 A:118.173.75.137 X: TicketID:186388

ความคิดเห็นที่ 46 เด๋วค่อยมาอ่านครับ จากคุณ : zmakqo10 เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:32:02

ความคิดเห็นที่ 47 งงกับเส้นสีเหลืองอะนะ ไปไม่เป็นเลยเรา อิอิ ขอบคุณจ้า จากคุณ : busajula เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:14:46

ความคิดเห็นที่ 48 คือให้สังเกตการประกอบพื้นที่รับแสงอาทิตย์ จะมีรูปทรงตามพื้นที่ๆแรเงา สีเหลือง จะเป็นส่วนของทรงกลม ตัดด้านบนด้านล่างออก คล้ายสี่เหลี่ยมคางหมูน่ะครับ ตรงนี้เป็นรูปทรงฐาน รูปทรงฐานจะมีส่วนของวงรีที่กินขอบเข้ามา และกินขอบออกไป เราก็หาส่วนของวงรีที่ประกอบเข้าหรือกินขอบเข้ามาในรูปทรงพืนฐานสีเหลืองที่คำนวณออกมา ที่เห็นสัญลักษณ์ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพิสูจน์มุม และการใช้ sin cos tan ในการแปลงขนาดของเส้นตามมุมที่กระทำไปสู่ความยาวเส้นที่ต้องการ จุดสำคัญคือการหาเส้นสัมผัสขอบทรงกลมที่เป็นตัวกำหนดขอบเขตที่แสงอาทิตย์จะส่องลงบนโลกน่ะครับ เรขาคณิตล้วนๆน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 22:44:45 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:43:01

ความคิดเห็นที่ 49 อมยิ้มเท่ห์มาก เป็นรูปอะไรอะครับ จากคุณ : Bacardi Boy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 10:40:04

ความคิดเห็นที่ 50 นึกว่าโลกกลมเพราะ พรหมลิขิต   วิ้ววว.... จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:09:08

ความคิดเห็นที่ 51 #49 ทุ่นระเบิด ครับ จากคุณ : Singster เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:15:26

ความคิดเห็นที่ 52 51 ผมล่ะเข้าใจผิดมาตั้งนานนึกว่าโลโก้ช่องเคเบิ้ลทีวี จากคุณ : ถามได้ครับ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 12:26:07

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ถูกโฉลกกับเรขาคณิตกั๊บ ปกติผมหากินกะ Discrete Math - -" ที่ท่านดาร์ธเขียนๆมานี่ ผมคืนพระอาจารย์ไปหมดแล้ว จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 12:42:46

ความคิดเห็นที่ 54 สงสัยต้องไปรื้อความทรงจำเกี่ยวกับ solar energy แล้ว ละเอียดดีครับ จากคุณ : Yugo เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 13:07:19

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณค่ะ เซฟๆๆ จากคุณ : =TURN ON= เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 14:13:43

ความคิดเห็นที่ 56 มึนมึั่ง งงมั่ง เพระา ความรู้ คืน อาจารย์ไปหมด ฮะ - -* จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 18:17:11

ความคิดเห็นที่ 57 ตาบ้านนี่ก็ลงไปทางคอมเต็มตัวแล้วนี่นะ ชื่อเล่นอมยิ้มอะตอมชักเยอะแฮะ เรื่องคืนครูถ้าไม่ใช้มันก็หายจริงๆ ดังนั้นเริ่มจากการขุดตำราตรีโกณมาปัดฝุ่น จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 18:29:00

ความคิดเห็นที่ 58 ยังอ่านไม่จบ แต่อยู่ดีๆก็แว๊บคำนี้ขึ้นมาได้จากชื่อกระทู้... "เพราะรัก ชั้นจึงมีเธอ" เน่าจริง 555++ me/ กลับไปอ่านต่อได้แล้วไป๊!! จากคุณ : ~แป้ง_จินดา~ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 22:47:19

ความคิดเห็นที่ 59 คุณพระ เพิ่งเข้าใจในวันนี้เองว่า ดาราศาสตร์มันเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ได้อย่างไร ขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูง จากคุณ : mamagawa เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 20:46:37 A:118.172.56.203 X: TicketID:235878

ความคิดเห็นที่ 60 แกนโลกเอียงนี่เอง ของป๋มเลยเอียงตาม อิอิ จากคุณ : เอียง23.5 ํ (wipeout) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 11:37:48

ความคิดเห็นที่ 61 heat tranfer .............................. คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว -*- จากคุณ : เอ็นไก่ (เอ็นไก่) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 13:00:22

ความคิดเห็นที่ 62 เอ่อ อ่านๆ ดูพอเข้าใจเรื่องภูมิอากาศ แต่เรื่องฤดูกาลยังงงๆ อยู่ครับ ตอนประถมครูบอกว่าหน้าร้อนโลกอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ หน้าหนาวโลกอยู่ไกลดวงอาทิตย์ เป็นอย่างนั้นไหมครับ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 15:23:04

ความคิดเห็นที่ 63 น่าสนใจ แต่ยากจังค่ะ จากคุณ : abstract เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 20:01:56

ความคิดเห็นที่ 64 ผ่านมางง... จากคุณ : I3oZZ (Boss-sama) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 20:58:22

ความคิดเห็นที่ 65 ฤดูกาล ไม่ได้เกี่ยวกับระยะทางห่างจากดวงอาทิตย์ แต่เป็นพื้นที่รับแสงของดวงอาทิตย์ที่แตกต่างกันครับ แสงอาทิตย์มีความเข้มที่ประมาณ 1400 W/m2 ตามพื้นที่หน้าตัด ถ้าพื้นที่สัมผัสทำมุมเอียง แสงนี้ก็จะต้องเกลี่ยตามมุมเอียง และความเข้มแสงต่อพื้นที่ก็จะน้อยลง ประเด็นของคุณ Nisas ก็ต้องค่อยๆทำความเข้าใจ รูปที่ 2-1 ถึง 2-3 ว่าทำไมผลลัพธ์ความเข้มแสงต่อพื้นที่จึงออกมาตามตารางที่ 1 ใน คห 5 ครับ คงต้องพึ่งเครื่องคิดเลขกันหน่อยละ สังเกตพื้นที่แรเงาของรูปที่ 2-1 ให้ดีๆครับ เงยขึ้นกับกดลง พื้นที่แรเงาไม่เท่ากัน จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:38:57

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นสูตรแล้วต้อแต้มากๆ แต่กระทู้ให้สาระมากๆค่ะ จากคุณ : chemistry_lism เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:17:54

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากค่ะ สงสัยอยู่พอดี  บังเอิญเข้ามาเจอเลย อธิบายละเอียดแจ่มแจ้ง :D จากคุณ : เธอคือเพลงโปรดของฉัน ^^ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 15:48:52

ความคิดเห็นที่ 68 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:27:35

ความคิดเห็นที่ 69 เด็กประถมต้น ครูสอนว่า ฤดูกาลจากโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ หนังสือวิทยาศาสตร์ประถมต้นว่างั้น ถ้าตามกระทู้นี้ มันไม่ใช่ ใช่ไหมคะ จากคุณ : กระบองเพชรยังตาย เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 08:30:42

ความคิดเห็นที่ 70 มันก็เกิดจากโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์จริง เพราะเมื่อโลกเอียง และมุมเอียงนั้นคงที่ เมื่อมันโคจรรอบดวงอาทิตย์ มันก็ทำให้พื้นที่หนึ่งรับแสงมากในช่วงหนึ่ง รับแสงน้อยในอีกช่วงหนึ่งครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 16:12:03

ความคิดเห็นที่ 71 อธิบายเรื่องยากๆให้เข้าใจง่ายๆนี่มันยากนะครับ Keep on the good work ! (เข้ามาให้กำลังใจจขกท.) จากคุณ : sleepless night เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 22:36:07