ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ลองปรึกษา advisor ก่อน ให้ช่วยเลือก Journal ที่เป็นไปได้ที่จะได้ตีพิมพ์ล่ะครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 21:58:15

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบ ท่านมายากลแป่งรัสเซีย  พอดีไปช่วยอาจารย์ทำงานนะคะ..แล้วเล่มนั้นได้ตีพิมพ์ที่ Impact 3.8 แต่ที่นี้งานเรามันลึกกว่า เลยเลือกไปที่ 4.8 เลย (เฉพาะด้านด้วยค่ะ ) โดยรีเจ๊กส์เร็วมากๆ ตอนนี้อาจารย์แกเลือกให้ ตัวที่มันต่ำกว่า แต่กำลังใจมันไม่มียังไงไม่รู้ค่ะ..เฮ้อ.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:10:29

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติถ้าเค้าไม่เอาจริงๆ เค้าจะบ่นเรื่องภาษามากกว่าครับ + ให้คำแนะนำกลับมา งานนี้ท่าทางจะไม่ตรงกับ scope ของ journal จริงๆ แหละครับ ปล ผมเคยโดน reject 1 ครั้งครับ บอกขอให้ทำการทดลองเพิ่มแล้วค่อยส่งมาใหม่ ก็ทำเพิ่มแล้วก็ส่งไปที่อื่นครับ (เพราะจริงๆ อยากลองฟังว่าเค้ามีความเห็นอะไรเพิ่มเติมมั้ย) จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:11:48

ความคิดเห็นที่ 4 เบื่อเหมือนกันครับ ที่ editor หัวโบราณ อ่านคนเดียวแล้ว reject เลย ไม่แม้แต่จะส่งให้ peer review ขอให้กำลังใจ จขกท ครับ ถูก reject ไม่ได้หมายความว่าผลงานของเราไม่ดี แต่ editor คนนั้นไม่มีวาสนาจะได้ตีพิมพ์ผลงานของคุณแค่นั้น เขาอาจจะหาคนมา review งานของเราไม่ได้ก็ได้ครับ ลองส่ง journal อื่นดูครับ ไม่จำเป็นต้อง impact factor แย่กว่าก็ได้นะครับ เลือกระดับเดียวกัน แต่ลองดูว่า journal นั้นเคยตีพิมพ์งานที่เกี่ยวข้อง หรือจะส่งไป journal ที่คุณ cite มาใน reference ของคุณก็ได้ครับ จากคุณ : ped cad เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:44:58

ความคิดเห็นที่ 5 ว่ากันว่าถ้ารายการอ้างอิงท้ายเปเปอร์เราอ้างอิงเปเปอร์ที่ตีพิมพ์ในวารสารนั้นเยอะๆก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะพิจารณามากขึ้นกว่าเดิมติ๊ดนึง แต่ท้ายสุดมันก็ขึ้นกับความน่าสนใจและเนื้อหาตรงกับวารสารนั้นรึเปล่าอ่ะนะ    (-__-') จากคุณ : UdornBoy2 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 23:01:11

ความคิดเห็นที่ 6 #5 คงไม่ได้ช่วยมากครับ เรื่องความใหญ่ของ corresponding author ยังจะมีผลมากกว่าอีก ถ้าอยากให้ง่ายจริง ส่งแบบ fast track ซิครับ (ถ้ามีให้เลือกระหว่าง regular กับ fast track) อันนี้ช่วยละระดับความยากลงได้จริง (จากที่ต้องการงานระดับ A ก็อาจจะเหลือ B ก็ให้ตีแล้ว) เพราะเค้าจะเก็บเงินเรามากขึ้นครับ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 23:14:02

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนเด็กๆกับเพื่อน เคยส่งข้อความไปยังนิตสารชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์(ทางจม.) ไม่เคยได้รับคำตอบกลับมาเลย ตอนนั้นอยู่ป.6 รู้สึกว่าจะเกี่ยวกับปลาทะเล เพื่อนคนต้นคิดเป็นคนส่งไปน่ะ แบบสนุกๆ จากคุณ : วิหคน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 00:43:33

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องนี้ เป็นเรื่องปกติ นะครับ ไม่น่าจะเกี่ยวกับภาษา หรือ Impact สูง เขาเลยไม่เอามา ยิ่ง วารสารดีๆ  การตอบเขาจะชัดเจน มาก อย่างที่น้องทำส่ง ไป     น่าจะไม่ตรงกับ Scrope ของ วารสารเขาจริงๆ นั้นซึ่งหมายความว่า เขาอาจจะไม่ได้เตรียน peer review ที่เหมาะกับงานน้อง เขามี peer ทีเหมาะกับงานอื่น นั้นหมายถึง เขาไม่สามารถ ให้คำตอบกับ งานของเรา ทางวิชาการ ได้ เต็มที่ การ Reject ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนถ้าเปลี่ยนส่ง วารสารขยะ ประเภท จ่ายตังค์ได้ลงแน่  น้องจะได้ ไม่ได้ ความรู้อะไร จาก Comment ที่ดีๆ ของ peer review เลย น้องจะได้แค่ส่ง   และซักวันหนึ่ง อาจจะเสียใจ ที่มีชื่อเรา ปล่อยงาน ไม่ค่อยดีนัก ออกไป พี่แนะนำว่า  ลองอ่าน Scrope ของ วารสารอื่นดูครับ วารสารมีเยอะมาก และ ดู ตัวอย่างงานในแต่ละวารสาร ว่า คล้ายๆ งานของเราบ้างไหม ถ้าคล้ายๆ ก็ส่งไป ที่จริงน้องไม่ต้องคิดมาก เพราะน้องน่าจะอ่าน review งานมา พอควร ก่อน ทำวิจัย น้องอ่าน งานตีพิมพ์ ของ  วารไหน โดนใจ ใช้ มาประยุกต์กับงานเราได้มาก ก็เลือกวารสารนั้นๆ ครับ (มั่นใจได้เลยว่า การที่เขาปฏิเสธ ไม่เกี่ยวกับภาษา เพราะถ้าเกี่ยวกับภาษาเขาจะเขียนมาตรงๆ ว่าให้หา native อ่านมากก่อน) สู้ๆ นะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 01:38:42

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ วารสารขยะ ที่ผมว่า ไม่ใช้ Regular กับ Fast track ของคุณมอนนะครับ วารสารขยะ เป็นประเภท สามวัน รับตีพิมพ์เลยนะ แด๋วนี้มันเยอะ เซ็ง จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 01:41:56

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆ  ควรมีคอมเมนท์ กลับมาแหะ ผมเอง ตีพิมพ์​ไม่ใช่เมืองนอก แต่ก็ใหญ่ในประเทศ  นี้ คอมเมนท์กลับมาเป็นหน้าๆ เลย 555 แก้หลายรอบด้วยกว่าจะผ่าน แบบสู้ตายมากตอนนั้น  ไม่ยอมกันเลยทีเดียวครับ จากคุณ : BIZZARE เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 01:51:19

ความคิดเห็นที่ 11 Scope ของงานไม่ตรง และ หรือ Impact ของงานไม่ถึง มากกว่านะครับ ถึงได้คำตอบแบบนั้น อย่าลืมว่า ยิ่ง IF มาก ยิ่งเขี้ยวลาก อย่าท้อครับ แต่ก็อย่าหวังสูง อย่าลืมว่าในมุมมองเขา "เราเพิ่งเตาะแตะ ทำวิจัย" สู้ๆ ครับ จากคุณ : ผ่านมาแถวนี้ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 04:36:40

ความคิดเห็นที่ 12 Impact ขนาด 3 หรือ 4 กว่านี้ ถ้าไม่ใช่สาขาการแพทย์แล้ว จัดว่าอยู่ในกลุ่ม high impact แล้วน่ะครับ นั้นหมายความว่า - งานเราต้องตรง scope ของ journal - ภาษาต้องดีในระดับหนึ่ง - เนื้องานต้องมีอะไรใหม่ ถ้าไม่เข้าสามอย่างนี้ ส่วนใหญ่ก็ reject ตั้งแต่ editor เลยครับ ไม่ต้องไป peer review ให้เสียเวลา จากคุณ : kanoomtan เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 05:36:21

ความคิดเห็นที่ 13 ของผมโดนไป 3 รอบก่อนเขาจะยอมให้ตีพิมพ์ก็มีครับผม รอบแรก หายไป 2 เดือน มีคอมเมนท์กลับมาเพียบ และบอกว่าไม่รับ แก้แล้วก็ส่งไปใหม่ รอบสองนี่หายไป 3 เดือน มีคอมเมนท์กลับมาบอกว่า ไม่รับ แต่ให้แก้ตามที่ Referee แกติงมาแล้วลองส่งใหม่ รอบสุดท้าย หายไปอีก 2 เดือน Editor บอกว่า OK แล้ว แต่ต้อง Revised อีก 1 รอบ...... รวมๆแล้ว Paper แรกนี่ล่อไปเกือบ 1 ปี หลังจากส่งครั้งแรกครับ ไอ้ที่ส่งไปแล้วตอบมาเร็วๆว่า ไม่รับ เพราะเนื้องานไม่ตรงกับวารสารของเขา หรือว่าเขาไม่อยากได้ (แต่มักจะตอบมาแบบสุภาพว่า ตอนนี้เขามีงานเขียนเยอะแล้ว ให้เราไปส่งที่อื่นดีกว่า) หรือเนื้องานเราไม่ดีพอ Editor เขาไม่ค่อยชอบ ก็ยังดี แต่ไอ้ที่ดองหายไป 6 เดือน แล้วตอบกลับมาว่าไม่รับนี่ แค้นใจนัก หุหุ (เสียเวลาเอาไปส่งที่ใหม่) แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 07:22:26 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 53 07:21:15 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 07:17:08

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกท่านค่ะ... อยากไปลงวารสารที่จ่ายตังค์เหมือนกันค่ะ แต่ อ.แกไม่ยอม.. จะพยายามหาวารสารใหม่.. แล้วก็แก้ส่งไปค่ะ.. กราบขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 09:32:20

ความคิดเห็นที่ 15 #14 จริงๆ หลายๆ journal เค้าจะก็เก็บเงินนะครับ เรียกว่า page charge ถ้าส่งแบบ regular ก็ราคานึง ส่งแบบ fast track ก็อีกราคนึง งานล่าสุดที่ส่งไปนี่ regular คิดหน้าละ 30 US ส่วน fast track คิดหน้าละ 100 US (แพงสามเท่า) แต่ข้อดีคืออาจจะทำให้เค้าใจอ่อนกับเราบ้าง และเดินงานให้เราเร็วครับ ยืนยันเหมือนเดิมครับว่างานคุณคงไม่เข้าข่ายของ journal ครับ ถึงได้ไม่มีความเห็นของ editor กลับมา จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 09:52:47

ความคิดเห็นที่ 16 ผมไม่เคยโดนครับ...เพราะผมไม่เคยส่ง จงอย่าได้ท้อแท้ไปเลยครับ คุณโดนปฏิเสธ เพราะว่าคุณได้ลองพยายามแล้วนะ โลกนี้ยังมีคนที่ไม่แม้แต่จะพยายามด้วยซ้ำไป เชื่อมั่นในตนเองกว่านี้หน่อยครับ จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 11:32:04

ความคิดเห็นที่ 17 เอ งงๆครับ มีแบบเสียตังค์ด้วยหรอครับ ถ้าหน้าไม่เกิน ปกติไม่เสียตังค์นี่ครับ แถมได้ฟรีเล่มนึงด้วย ... The regular papers page length limit is defined at 14 formatted transactions pages, including references and author biographies. Any pages or fraction thereof exceeding this limit are charged $200 per page.(Regular papers may not exceed 18 formatted transactions pages.) ... Copies: Keep in mind that each contributing author will receive 1 complimentary copy of the journal. Additional copies may be ordered at a nominal and prepress fee of $3 per copy. Your order must be received 2 weeks before the issue goes to press. There will be a rate increase for postpress orders. จากคุณ : kiwiboyz เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 11:38:22

ความคิดเห็นที่ 18 #17 บางที่ไม่เสียครับ แต่อย่างที่บอกว่าบางที่ก็เสียครับ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 12:57:49

ความคิดเห็นที่ 19 กำลังนั่งหาวารสารใหม่อยู่ค่ะ ต้องแก้รูปแบบซะเหนื่อยเลย.. ปล,ขอบคุณคุณมอนตะทาโร่มากค่ะ เข้ามาตอบหลายรอบเลย.. ครั้งแรกเนี่ยมันยากจริงๆๆ จริงๆ เรามี Inter con ไปแล้วรอบนึง แล้วอาจารย์เอาชื่อเราลงในวารสารเล่มแรกที่ อ.ได้ตีพิมพ์แล้วค่ะ เป็ชื่อที่สอง (กฏของมหาลัยบอกว่า.. ป.โท ต้องตีพิมพ์อย่างน้อยหนึ่งเล่ม โดยชื่อแรกต้องเป็นชื่อเรา หรือชื่อที่สองก็ได้ แต่ชื่อแรกต้องเป็นอาจารย์ ..) แต่ก็อยาดตีพิมพ์งานของตัวเองบ้าง ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 13:32:21

ความคิดเห็นที่ 20 แบบเสียเงินก็มีครับ มีได้หลากหลายสาเหตุ 1. จำนวนหน้าเกินที่เขากำหนด 2. ทางวารสารนั้น มีนโยบายให้วารสารที่ตีพิมพ์เป็น Open Access ครับ คือใครๆก็เข้าอ่านได้ ทำให้เขาต้องหารายได้จากการให้คนที่ต้องการตีพิมพ์เป็นคนจ่ายแทน (พอจ่ายเงิน Editor กับ Referees ก็เสียงอ่อนลงนิดหน่อยถึงมากๆ) 3. มีหน้าสีหรือภาพสี เราอยากพิมพ์แบบมีสี ก็จ่ายค่าน้ำหมึกสีไป จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 13:54:25

ความคิดเห็นที่ 21 ตาม คห. 11, 12, 13, 20 ครับ... แต่แอบงงนิดนึง คือ งานที่ส่งแล้ว reject นี่ตอนก่อนจะส่งไม่ได้คุยกับ อาจารย์ที่ปรึกษาหรือครับว่าควรส่งที่ไหน? เข้าใจว่าเป็นชื่อแรก แต่ยังไงก็ต้องมีชื่อ อาจารย์ใช่ไหมครับ? ส่วนตัวคิดว่า หัวข้อที่ส่งไม่ตรงกับ scope ของ journal เช่นกันครับ ปล. รอนานๆ หลายเดือนแล้วโดน reject นี่โดนมาสองทีล่ะ... มีอันนึงเป็น co-author (ชื่อหลังๆ ล่ะนะ) ผ่านมาปีกว่าแล้วตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยเลย ตบตีกับ editor ต่อไป (ตัว Prof. อยากลง journal ดีเกิน) จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:53:46

ความคิดเห็นที่ 22 คห. ยี่สิบเอ็ด.. เราก็ปรึกษา แต่แกก็จะดูให้เหมือนกันค่ะ.. แต่เราจะตัดสินใจเองด้วย พอเราโดนรีเจ๊กส์ แกถึงแนะนำ เหมือนแกอยากให้เราลองดูก่อน.. เพราะเล่มแรกมันได้ลงไปแล้ว เราเลยคิดว่า มันน่าจะได้ลงอีกเล่ม (แต่เราดูขอบเขตแล้ว มันน่าจะตรงเหมือนกันค่ะ เพราะมีเปเปอร์แนวนี้ลงมาแล้ว คิดว่างานเราไม่ดีพอ.. ) ตอนนี้เลย อ.ว่าไง ว่าตามกัน.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 16:28:38

ความคิดเห็นที่ 23 พวกวารสารนี่ บางวารสารเขาก็ทำขอบเขตมากว้างเป็นทะเลเหมือนกันครับ เพื่อที่จะได้ต้อนรับบทความวิจัยได้เยอะๆ เอาไว้ให้เขาเลือกอีกทีหนึ่ง บางวารสารตีพิมพ์ปีละ 4 เล่ม (ไม่รวมฉบับย่อยว่า 1 Volume มีกี่ Issue) เล่มหนึ่งก็มีราวๆ 800 หน้า สมมติรับได้ 40-50 บาทความเป็นอย่างมาก แต่เขากลับมีบทความส่งเข้ามาเป็นพันหน่ะครับ เขาก็เลือกเอาไว้บางส่วน บางส่วนอ่านแล้วไม่ชอบก็คืนเจ้าของบทความไป เป็นเรื่องปกติครับ การโดน Reject บางทีก็ไม่ได้แปลว่างานเราไม่ดี เพียงแต่ Editor อาจจะไม่ชอบ หรือไม่ก็เขามีงานคล้ายๆแบบนี้หลายฉบับที่อยู่ในระหว่าง review เขาเลยเลือกออกไปบ้างเพื่อที่เวลาตีพิมพ์จะได้ไม่มีบทความแนวเดียวกันมากเกินไป คนอ่านเขาจะบ่นเอา เป็นต้น จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 17:14:19

ความคิดเห็นที่ 24 ผมอยากเขียนบทความลงต่วยตูนครับ ผมว่ามันเท่ห์กว่า Journal ตั้งแยะ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 19:10:52

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ..สู้ต่อไป.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 21:26:05

ความคิดเห็นที่ 26 โดนreject ไม่ว่า เจอ reviewer คอมเมนท์กลับมาประโยคเดียวแบบ I do not think I found anything new here แล้วอยากขบหัวคนรีวิวมากค่ะ คือจะมี suggestion สักหน่อยก็ไม่ได้ เจอคนที่บอกว่าไม่ดี แต่มีรายละเอียดมาเป็นหน้าๆทุกจุดว่าตรงไหนไม่ดีพอหรือสมควรแก้ยังจะรู้สึกดีซะกว่า อย่างน้อยก็สามารถพิจารณาตัวเองแล้วเอามาปรับปรุงการทำงานต่อไปได้ ตอนเราส่งแล้วโดน reject ก็หมดกำลังใจทำต่อเหมือนกันนะคะ เพราะก็แอบคิบไปเต็มที่แล้วว่างานคงยังไม่ดีพอ เพราะเป็นโปรเจคทำแป๊บเดียวเอง ยังเห็นเส้นทางข้างหน้าที่ต้องทำต่ออีกไกล แต่อ.ก็อยากให้ลองส่งดู ปล. ตอนเราโดนรีเจคเรากับเพื่อนก็ปลงแล้วก็แค่บ่นๆเรื่องคนรีวิวเฉยๆ แต่อ.เราเมลล์กลับไปหา editor เลยว่าคอมเมนท์ของคนรีวิวคนนี้เหมือนอ่านลวกๆ ขอให้กลับไปรีวิวใหม่ (เด็กน้อยตาดำๆไม่ค่อยกล้าหือกันเท่าไหร่...) จากคุณ : shoebox of photographs เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 01:35:02

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาให้กำลังใจ จขกท สำหรับเปเปอร์นั้นก็คงต้องลองส่งไปที่อื่นดู ส่วนตัวเคยโดน วารสารดัง ๆ ในสายงาน (Nature, Science, PRL, ...) รีเจ็คโดยไม่มีคอมเม้นต์ ใด ๆ ในตัวบทความ  (วารสารพวกนี้เขามี standard rejection letter อยู่แล้ว) มีหลายครั้งที่บทความที่ถูกรีเจ็ค แล้วส่งไปวารสารอื่น แล้วเขาตอบรับทันที (อาจไม่ต้องแก้ไขเลย หรือ อาจแก้ไขเล็กน้อย) ดังนั้นผมเชื่อว่า ยังไงก็ดีที่หวังสูงไว้ก่อน จริง ๆ ปัจจุบันตัวผมเองก็มีปัญหากับ Editor เหมือนกัน คือ บางครั้งก็เดาใจเขาไม่ถูกว่า เขาสนใจจะเอางานเราลงหรือไม่ เพราะบางที คิดว่า งานนั้นดีและตรงกับวารสาร แต่เขาเห็นว่า ไม่น่าสนใจ ตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือเอางานไปส่ง PRL (IF 7.3) แล้วเขาก็รีเจ็ค แต่พอไปส่งอีกที่ (IF 10) เขาดันรับ!!! ด้วยแค่ minor revision ตอนนี้กระผมก็เลยเริ่มงงกับระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันนี่จริง ๆ จากคุณ : nonlocality เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 14:38:37

ความคิดเห็นที่ 28 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 17:18:47

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง กำลังจะเขียนและส่งไปใหม่... สู้ต่อไปอยู่แล้ว.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 02:55:26

ความคิดเห็นที่ 30 IF 10 นี่ Nano Letters หรือเปล่าครับ? เดาเอา... จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 10:47:25

ความคิดเห็นที่ 31 กำลังแก้และส่งไปใหม่อีกสองที.. จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 01:14:24