ความคิดเห็นที่ 1 ลองเอาแบตเตอรี่ 9 v มาทดสอบเอาลิ้นเลียดูครับ(ทั้งขั้วบวกกับลบพร้อมกัน) รสมันเปรี้ยวจี๊ดเลย จากคุณ : DVB เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 16:58:37

ความคิดเห็นที่ 2 รอคนข้างล่างมาอธิบายเหมือนกันค่ะ จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 17:53:55

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเอาที่มาของข่าวนี้มาให้อ่านครับ http://www.pnas.org/content/early/2010/11/22/1013664107.full.pdf+html เดี๋ยวจะอธิบาย จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 18:08:55

ความคิดเห็นที่ 4 ที่มาและดั้งเดิม        อาหารหรือสารที่ทำให้มีรสเปรี้ยวนั้นจะมีความเป็นกรดอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งพบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการหมักเปรี้ยวและผลไม้ดิบ จากการทดลองในอดีตพบว่าการให้ 1mM HCl (~พีเอชประมาณ 3) จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเปรี้ยวขึ้นได้ ซึ่งเป็นหลักฐานถึงการตอบสนองของตุ่มรับรสเปรี้ยวต่อกรดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังพบว่าการเกิด intracellular acidification (การเกิดกรดภายในเซลล์) ยังกระตุ้นให้เกิดรสเปรี้ยวได้ดีกว่ากรดแก่ๆเสียอีก        การได้รับคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในปากก็ทำให้เกิดการเปรี้ยวได้เช่นกัน เพราะคาร์บอนไดออกไซด์จะไปจับกับน้ำเกิดเป็นกรดคาร์บอนิกซึ่งจะให้โปรตอน (ภายนอกเซลล์)           จากการศึกษาได้พบโมเลกุลต่างๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการรับรู้รสเปรี้ยว เช่น acid-sensing ion channels (ASICs), hyperpolarization activated channels (HCNs), two-pore domain K+ channels และ PKD2L1/PKD1L3 ซึ่งเป็น receptor น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นการเกิดรสเปรี้ยว แต่อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร         (หมายเหตุ - ผู้วิจัยในอดีตคงพบว่าการให้สารพวกกรด มันกระตุ้นการทำงานของ receptor พวกนี้ แต่ไม่รู้ว่ากระต้นอย่างไร - ผมเอง)         นอกจากนี้แล้วการศึกษาในหนูไมซ์พบว่าการมี deletion ของโปรตีน PKD1L3 ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการรับรู้รสเปรี้ยวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (ทั้งการทดสอบเชิงพฤติกรรมและการทดสอบทางนิวโร) ปัญหาคือ           การศึกษารสเปร้ยวนั้นมีปัญหาหลักๆ อยู่สองประการ คือ (1) ตุ่มรับรส (taste bud) นั้นอยู่รวมกับแบบผสมปนเป (ไมาได้อยู่ชนิดเดียวเดี่ยว) และมีแค่ 20% ที่น่าจะเป้นตุ่มรับรสเปรี้ยว และ (2) ion channel (ซึ่งเป็นกลไกอย่างหนึ่งในการสื่อสัญญาณประสาท - ผมเอง) อาจจะถูกยับยั้งหรือถูกกระตุ้นด้วยโปรตอน (ทำให้ก็ไม่รู้อีกว่ามันถูกกระตุ้นได้อย่างไร เพราะ ตัวนึงก็หยุดทำงาน ตัวนึงก็ทำงาน - ผมเอง) แล้วงานวิจัยนี้เขาทำอะไร            เขาจะศึกษาการเหนี่ยวนำสัญญาณประสาท แต่เขาต้อง label เซลล์ที่สนใจด้วยการตัดต่อยีนเสียก่อน การตัดต่อยีนเขาจะทำโดยการเติมยีนที่สร้างโปรตีนที่ชื่อ YFP (Yellow fluorescence protein) ไปแปะกับ promoter ของ PKD2L1 ทำให้ YFP จะแสดงออกที่เดียวคือที่ๆควรจะมี PKD2L1 นั่นก็คือตุ่มรับรสเปรี้ยว          ทำให้ตุ่มรับรสเปรี้ยวที่มี YFP มีการเรืองแสงสีเหลืองภายใต้ยูวี ส่งผลให้สามารถ identify ตุ่มรับรสเปรี้ยวได้ ภายใต้แสงยูวี         แล้วนอกจากนี้เขายังทำ control เพื่อ identify เซลล์ที่เกี่ยวกับการรับรสด้วย โดยนำยีนที่สร้าง GFP (green FP - เขียว) ไปตัดต่อกับ TRPM5 ซึ่งจะแสดงออกที่ตุ่มรับรสหวาน ขมและอูมามิ เท่านั้น           คราวนี้เขาก็จะเปรียบเทียบการเกิดการเหนี่ยวนำกระแสประสาทในเซลล์ที่เรืองแสงสีเหลืองของ YFP (รสเปรี้ยว) และเรืองแสงสีเขียว GFP (รสหวาน ขม อูมามิ) .......เดี๋ยวมาดูผลกัน แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 18:35:21 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 18:33:27 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 18:25:35 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 18:20:16 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 18:16:18

ความคิดเห็นที่ 5 จากภาพนี้เป็นการทดสอบ โดย (A) พบว่าจะมีสีอยู่ 2 สี ใช่ไหมครับ คือสีเขียว ของ YFP และสีเหลือง     สีเหลืองเกิดจากการ merge กันของแสงสีแดง ที่ใช้ label PKD2L1 และสีเขียวของ YFP     นั่นแสดงให้เห็นว่า YFP แสดงออกในเซลล์ที่มี PKD2L1     ซึ่งเป้นไปตามความคาดหมาย (B) พบว่ามีสีอยู่ 2 สี เหมือนกัน คือ เขียวของ YFP และสีแดงของ TRPM5     สังเกตว่าไม่มีบริเวณใดมีสีเหลืองเลยใช่ไหมครับ     แสดงว่าในเซลล์ที่ไม่มี PKD2L1 (ซึ่งไม่ใช่เซลล์ที่รับรสเปร้ยว) จะไม่มีการแสดงออกของ YFP ส่งผลให้เขาสามารถเอาเซลล์พงกนี้ไปศึกษาได้แล้วถูกไหมครับ เพราะ เขา identify เซลล์ได้แล้วว่าเซลล์ไหนคือเซลล์ที่รับรสเปรี้ยว จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 18:42:59

ความคิดเห็นที่ 6 จากนั้นเขาก็ทดลองการกระตุ้นสัญญาณประสาท โดยใช้สารเคมีต่างๆ คือ KCl, กรดที่ pH6 และกรดอะซิติก (HOAc) ก็จะเกิดกราฟของ action potential ในการกระตุ้นเซลล์ประสาทขึ้นมา โดยจะเห็นได้ว่า KCl สามารถกระตุ้นได้ทั้งตัวรับรสที่มี TRPM5 และ PKD2L1 แสดงว่าเป็นตัวกระตุ้นสากล (เพื่อให้เห็นว่าการทดลองนี้ใช้ได้) แต่ pH6 และ HOAc สามารถกระตุ้นเซลล์ TRPM5 ได้น้อยมากๆ น้อยกว่าเซลล์ PKD2L1 อย่างมีนัยสำคัญ (ดูกราฟแท่ง E) นั่นแสดงว่าเซลล์ที่มี PKD2L1 ตอบสนองต่อรสเปรี้ยว (กรด) จามที่ได้เคยมีการศึกษาไว้จริงๆ ในขณะที่เซลล์อื่นๆตอบสนองน้อยมาก โดย ** มี p < 0.01 ส่วน *** มี p < 0.001 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 18:50:19

ความคิดเห็นที่ 7 จากนั้นเขาก็ลองทดสอบการเกิดสัญญาณประสาทต่อ โดยการเกิดการส่งสัญญาณประสาทนั้นจะเกิด action potential ขึ้นซึ้งทำให้เกิด depolarizaton โดยการนำ Na+ เข้าสู่เซลล์ (ชีววิทยา ม.5 ไปอ่านทวนมา) แล้วเขาก็ทดสอบต่อโดยการใช้ NMDG+ และ TEA+ มาแทน Na+ ซึ่ง NMDG+ และ TEA+ นี้ไม่สามารถผ่าน cation channel ใดๆ ได้เลย รวมถึงทำให้ cation channel โดน block ไปด้วย ส่งผลให้ไม่มีไอออนบวกใด ทั้งสิ้นเข้าสู่เซลล์ประสาท ทำให้เกิด depolarization ได้ แต่ปรากฎว่ายังเกิด depolarization ต่อไป ถึงแม้ว่าจะเบาลงหน่อยนึง นั่นหมายถึงว่าการรับรู้ H+ ของเซลล์ที่ตุ่มรับรสเปรี้ยวนั้น ไม่้ได้อาศัย Na+ หรือไอออนบวกอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจจะอาศัยไอออนลบ นั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็น Cl- คราวนี้เขาก็ลองทดสอบต่อ โดยการเพิ่มความเข้มข้นของ Cl- แต่พบว่าความเข้มข้นของ Cl- ก็ไม่มีผลต่อการเกิดสัญญาณประสาทอย่างมีนัยสำคัญเช่นกับไอออนบวก ทำให้ได้ข้อสรุปนึงว่า การรับรู้รสเปรี้ยวนั้น การสื่อสัญญาณประสาทน่าจะขึ้นอยู่กับ ระดับของ H+ เท่านั้น และ ใช้ H+ ในการส่งสัญญาณประสาทด้วย แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 19:06:22 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:01:30

ความคิดเห็นที่ 8 คราวนี้เขาก็ศึกษาผลของ H+ ต่อการรับรู้รสเปรี้ยวต่อโดยการเปลี่ยนแปลงระดับความเข้มข้นของกรด คราวนี้จะเห็นได้ว่า ยิ่งปรับ pH ลดลงเท่าไร (ความเป็นกรดมากขึ้นเท่านั้น) การส่งสัญญาณประสาทมีการส่งสัญญาณแรงขึ้น ดังภาพ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:11:09

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อมา เพื่อเป็นการ confirm ว่า ผลของการเกิด action potential และการสื่อประสาทดังกล่าวนี้ เป็นผลจาก H+ จริงๆ เขาเลยลองยับยั้งการทำงานของ proton channel โดยการใช้สารยับยั้งต่างๆ คือ - amiloride ซึ่งเป็นตัวยับยั่้ง amiloride-sensitive ion channel (ion channel นี้ก่อนหน้านี้เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวกับกลไกการเกิดรสเปรี้ยว และถูกยับยั้งด้วย amiloride) - 1 mM Cd2+ (an inhibitor of proton currents) - 100 μM desipramine (an inhibitor of a proton permeable serotonin transporter) - 200 nM Bafilomycin A1 (an inhibitor of the proton-permeable c subunit of V-ATPase) - ZnCl2 ผลก็ปรากฏดังที่เห็นว่า มีแต่ Zn2+ ที่ block ได้อย่างมีนัยสำคัญซะด้วย เกือบ 100% แน่ (p < 0.001) ส่วนตัวอื่น block ได้น้อยมาก ไม่มีนัยสำคัญ ซึ่ง Zn2+ block proton channel Hv1 .... ทำให้เรารู้กลายๆ แล้วใช่ไหมว่า H+ ในการรับรสเปรี้ยวผ่านช่องไหน แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 53 19:21:58 จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:17:34

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อมาเขาเลยลองทำกับเซลล์ที่รับรสเปรี้ยว (PKD2L1 positive) ที่ถูกบ่มในกรดอะซิติก pH4 และเซลล์หวาน ขม อูมามิ (TRPM5 positive) ที่ถูกบ่มในกรดอะซิติก pH4 (เพื่อป้องกันผลแทรกซ้อนของ H+ ในสิ่งแวดล้อม) ด้วย HCl ที่ pH 5 ผลก็ได้ดังกราฟ พบว่าเซลล์ที่มี PKD2L1 มีการเกิดสัญญาณประสาทด้วย HCl pH5 ในขณะที่เซลล์ TRPM5 ไม่เกิดขึ้น (เกิดน้อยมาก) จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:26:19

ความคิดเห็นที่ 11 จากกราฟ action potential จะเห็นได้ว่า - การเกิดรสเปรี้ยวนั้นไม่เกี่ยวข้องกับระดับของ cation หรือการเกิด depolarization โดย cation (จาก Na+ และ NMDG+) - การเกิดรสเปรี้ยวเกิดผ่านการเหนี่ยวนำโปรตอนที่ channel ที่ sensitive ต่อ Zn2+ นั่นคือ Hv1 channel  ดังนั้นการยับยั้ง Hv1 โดยใช้ Zn2+ ทำให้ไม่เกิด depolarization - ระดับของ H+ รอบๆเซลล์มีผลต่อการเกิดรสเปรี้ยว เห็นได้จากการเติม HEPES buffer ลงไป (และการทดลองก่อนหน้านี้ที่ต้องรักษาระดับ H+ ด้วยการบ่มเซลล์ใน HOAc) จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:33:33

ความคิดเห็นที่ 12 สรุป 1. การเกิดรสเปรี้ยวนั้นเกิดในเซลล์รับรสที่มี PDK2L1 positive 2. การเกิดรสเปรี้ยวนั่น เป้นการส่งสัญญาณประสาทที่ไม่พึ่งพาไอออนบวกอื่นๆ เช่น โซเดียม แคลเซียม รวมทั้งไอออนลบ เช่น คลอไรด์ด้วย 3. การเกิดรสเปรี้ยวนั้น เป็นการจากการไหลและการสื่อประสาทผ่านการเคลื่อนที่ของโปรตอน (H+) เพียงอย่างเดียว 4. H+ Channel ที่มีผลต่อการเกิดรสเปรี้ยวนี้ คือ Zn2+ sensitive channel หรือ proton channel Hv1 จบ ขอบคุณ Rui B. Chang, Hang Waters, and Emily R. Liman Department of Biological Sciences, Section of Neurobiology, University of Southern California, Los Angeles, CA 90089 Edited* by King-Wai Yau, The Johns Hopkins School of Medicine, Baltimore, MD, and approved October 29, 2010 ที่ทำงานวิจัยนี้มา และ PNAS ที่ทำให้มีเอกสารดีๆ และ คณาจารย์วิชา Neurochemistry ของภาควิชาสรีรวิทยา เภสัช จุฬาฯ (โดยเฉพาะ อ.ธงชัย) ที่ผมเคยลงเรียน ตอนป.โท ทำให้ผมอ่าน paper นี้รู้เรื่อง 555+ ถึงแม้ผมจะแอบงีบ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:40:07

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ผ้าขี้ริ้ว52 เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 19:47:04

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนของ คห.1 ผมเข้าใจว่าน่าจะเกิดการแตกตัวของ H2O มากขึ้นครับ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 20:18:31

ความคิดเห็นที่ 15 กีบหมด อดให้กีบ คุณCuSO45H2O เลย ขอบคุณค่ะ อธิบายละเอียด สรุปให้ด้วย  จากคุณ : minute waltz เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 20:24:03

ความคิดเห็นที่ 16 ถามต่อนิดนึงครับ แล้วทำไมเวลาใส่เกลือในน้ำส้มคั้นที่เปรี้ยวๆ ทำให้หายเปรี้ยวได้ จากคุณ : Kemistry เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 20:26:00

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ น่าจะเป็นเพราะคลอไรด์จากเกลือแกงครับ จากผลการทดลองใน คห.7 จะเห็นได้ว่า เมื่อมีระดับของ Cl- ที่สูงขึ้นทำให้การ response ต่อกรดของเซลล์รับรสเปรี้ยวลดลงจากค่าปกติ (ค่าปกติ 120 กว่าๆ แต่เติม high Cl- ไป จะทำให้เหลือ 100 เดียว) จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 20:34:42

ความคิดเห็นที่ 18 เผยกลไกรับรู้รสเปรี้ยวในร่างกาย เพราะลิ้นมีตุ่มรับรส(taste bud) ตุ่มนึงมี 50 เซลรับรส( receptor cells) รสพื้นฐาน 5 รส เปรี้ยว-เค็ม ผ่าน ion channels ส่วนรสหวาน ขม umami (savoury) ผ่าน G protein เกาะ receptor เดิมเชื่อว่าแต่ละส่วนแยกรับรส ปัจจุบันทั้งลิ้นรับทุกรส http://ktwop.wordpress.com/2010/11/26/tasting-sour-add-a-dash-of-protons/ รสเปรี้ยวคือกรด รับรสผ่าน Hydrogen ion channels ตรวจความเข้มข้น hydronium ions ผลรวมของกรดและน้ำ โดยใช้ตัวรับรส PKD2L1 (taste receptor PKD2L1 ) Sourness is acidity, it is a taste sensed using ion channels.Hydrogen ion channels detect the concentration of hydronium ions that are formed from acids and water.Additionally, the taste receptor PKD2L1 has been found to be involved in tasting sour. http://en.wikipedia.org/wiki/Sourness#Functional_structure จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 21:01:23

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ เรียก G protein-coupled receptor เถอะครับ ... เหอะๆ G protein เกาะ receptor มันแปลกๆ จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 53 21:06:33

ความคิดเห็นที่ 20 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 00:49:29

ความคิดเห็นที่ 21 ทั้ง 5 รส เค็ม(Na) เปรี้ยว(H+) หวาน-ขม-Umami จับ receptor กระตุ้น G-protein จากสารเหล่านี้ เกิด Ca2+ เข้าเซล เกิด transmitter ไปกระตุ้น afferent nerve แต่ละรสมี taste receptors ต่างกัน http://www.cardiff.ac.uk/biosi/staffinfo/jacob/teaching/sensory/taste.html จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 09:18:50

ความคิดเห็นที่ 22 # 16 ใส่เกลือในน้ำส้มคั้นที่เปรี้ยวๆ  ทำให้หายเปรี้ยวได้ อาจเพราะรสเค็มเสริมรสเปรี้ยว ให้น่ากินมั้ง ตำราจีนโบราณแบ่งเป็น 5 ธาตุ ทอง น้ำ ไม้ ไฟ ดิน แบ่งเป็น 5 รสชาติ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว ขม หวาน ซึ่งจับคู่กับ 5 ธาตุ ใน 5 ธาตุมีก่อเกิดและทำลาย ทองเกิดน้ำ น้ำเกิดไม้ ไม้เกิดไฟ ไฟเกิดดิน ดินเกิดทอง ทองทำลายไม้  ไม้ทำลายดิน ดินทำลายน้ำ น้ำทำลายไฟ ไฟทำลายทอง เปรียบเทียบกับรสชาติ เผ็ดเสริมเค็ม เค็มเสริมเปรี้ยว เปรี้ยวเสริมขม ขมเสริมหวาน หวานเสริมเผ็ด เผ็ดทำลายเปรี้ยว เปรี้ยวทำลายหวาน หวานทำลายเค็ม เค็มทำลายขม ขมทำลายเผ็ด ใส่เกลือในน้ำส้มคั้นที่เปรี้ยวๆ เค็มเสริมเปรี้ยว ให้น่ากินเพิ่มขึ้น กาแฟใส่น้ำตาล ช็อคโกแลตใส่น้ำตาล ขมเสริมหวาน ให้น่ากินเพิ่มขึ้น มะระขมใส่เกลือ เค็มทำลายขม ลดรสขม อันนี้เป็นตำราจีนโบราณ ไม่แน่ใจว่าจะตรงกับความจริงวิทยาศาสตร์แค่ไหน จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 10:41:30

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากๆครับ กิ๊ฟหมด . . ผมคิดว่า หากเอาขั่วไฟฟ้าของแบตเตอรี่ สัมผัสกับลิ้น จะมีเฉพาะิอิเล็กทรอนที่ไหลผ่านลิ้น และตอนเด็กๆเคยทดลองสูบใบจาก(ไม่ใส่ยาเส้น)แบบกลับหัวกลับหาง(อมส่วนที่ติดไฟให้อยู่ในปาก) ก็รู้สึกว่าเปรี้ยวๆที่ลิ้นด้วย จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 10:51:42

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนเรื่องรสชาติที่เสริมกัน หรือหักล้างกันนั้น เวลาแม่แกงตะลิงปลิงซึ่งมันมีรสเปรี้ยว แม่จะเอามันมาบีบน้ำออกก่อน โดยวางมันที่ละลูกลงบนเขียง แล้วทับมันให้แบนด้วยด้านข้างของมีด แล้วเอาไปแช่น้ำเกลือ แม่บอกว่า ช่วยลดความเปรี้ยว มีครั้งนึงแม่แกงนี้ แต่มันเปรี้ยวมาก แม่บอกว่า แม่ลืมเอาไปแช่น้ำเกลือ และตอนเด็กๆแม่ชงโอเลี้ยง ใส่ถุงเล็กๆมัดปากถุง แช่ช่องแข็ง เอาออกมาดูดกินก็อหร่อยดี มีรส หวาน มัน เค็ม แม่บอกว่าใส่เกลือลงไปด้วยเล็กน้อย ของหวานต้องใส่เกลือ เพื่อขับความหวาน จะได้รสชาติที่กลมกล่อม มากกว่าการเติมน้ำตาลเยอะๆอย่างเดียว และตอนกินส้มตำเผ็ดๆแสบลิ้น ลองอมเกลือแล้วมันหายเผ็ดเร็วกว่าอมน้ำเย็นนะ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 11:04:39