ความคิดเห็นที่ 1 การสอบ มีไว้เพื่อวัดระดับความรู้ของนักเรียนว่ามีเพียงพอที่จะผ่านหรือไม่ อันนี้เราพอเข้าใจได้นะ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไม หลังๆ เนื้อหามันยากขึ้นๆ ทำไมก้าวหน้าพัฒนาเร็วกว่าความเจริญของประเทศเราเยอะเลย เท่าที่ทราบ เลขม.ปลายตอนนี้ กราฟ ไม่ได้มีแค่ 2 แกน คือ x y แล้ว มีเป็น 3 แกน คือ x y z (มีสามมิติ) น่าสงสารเด็กสมัยนี้จริงๆ จากคุณ : ส้มสีส้ม เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:15:06

ความคิดเห็นที่ 2 ระดับมหาวิทยาลัยนี่ไม่น่าเยอะนะครับ แต่ระดับ อาชีวะ หรือระดับ วิทยาลัยราชภัช นี่เยอะ เคสเพื่อนผมเป็นอาจารย์ใหม่ เด็กจะว่าอ่อนทั้งชั้นก็ได้ ผ่านครึ่งแค่ไม่ถึง 30 % ปรับตกค่อนชั้น ถึงขั้น ต้องเรียกอาจารย์พบ ผอ. เลย เพื่อนที่เป็นอาจารย์ ต้องแก้ปัญหา ช่อม เพื่อจะให้ผ่าน (ไม่อยากแก้เกรด) ในช่วงหยุดภาคการศึกษา เด็กก็ไม่ค่อยจะมา เหนื่อยมาก กว่าจะทำให้ผ่านได้แบบไม่ปล่อยเกรด ปัญหา 1 เด็กอ่อนจริง บางสถาบันเป็นแหล่มรวมเด็กอ่อน 2 ครูผู้สอนไม่สามารถ บางทีอาจารย์ใหม่ โดนพิษการเมือง ทำให้งานล้น ไม่มีเวลาเตรียมสอน โดนเบียดเวลา อาจารย์เก่าก็เลือกเวลาลงตามใจตัว ภาคค่ำค่าแรงดีกว่าก็เลือกไป ภาคปกติก็โยนมา อาจารย์ที่แก่พรรษา ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจเท่าไร ตกมาก็ปรับเกรดให้ 3 ระดับการบริหารสถาณศึกษา ไม่อยากให้ติดประเด็นว่า ตกยกชั้น ใครรู้ใครทราบก็ไม่พาเด็กมาสมัครเรียนให้เสียเงินทองเล่น ไม่มั่นใจ...ผู้บริหารก็จะลงมากดดันอาจารย์ผู้สอน อีกเป็นทอดๆ (อารมณ์ มองเงินและผลประกอบการเป็นหลัก) เฮ่อ แก้ตรงใหนดี แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 13:24:23 จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:21:35

ความคิดเห็นที่ 3 ในมหาวิทยาลัยนี่ไม่ค่อยเจอหรอกครับ เพราะมีระบบ ไม่เผา แต่ฝังอยู่ super แต่พักหลังๆ super เริ่มหายไป แต่ในระดับประถมมัธยมนี่เคืองจริงๆ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:29:19 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 4 น่าจะมาตอนรัดทะบานเติ้งอ่ะ ที่สมศักดิ์เป็นรมต. ห้ามตี ห้ามซํ้าชั้น เลยกลายเป็นระบบการศึกษาไทย คือการเสียเวลา 12ปีแบบไม่มีคุณภาพเลย จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:38:32 A:183.89.186.223 X: TicketID:296951

ความคิดเห็นที่ 5 ปัญหาเกิดจากนักการเมืองที่มีโมหะจริต และอวิชชา เข้าไปกำหนดกลไก จากคุณ : ZX เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:41:19 A:61.19.66.118 X: TicketID:259615

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วที่แย่ที่สุดคือมหาลัยโยนให้มัธยม มัธยมโยนให้ประถม ประถมโยนให้ครอบครัว ครอบครัวโยนให้ระบบทั้งระบบ มันควรจะมีอะไรต้องแก้สักอย่างแล้วล่ะครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 13:41:34 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 7 แก้มันทั้งระบบ เด็กที่ทำงานผมจบใหม่ จบนิเทศ น่าจะมีความรู้เรื่องคอมบ้างปรากฏว่าไม่ - -* จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 14:01:54

ความคิดเห็นที่ 8 6-8 ปีที่แล้ว... เท่าที่จำได้... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 14:05:03

ความคิดเห็นที่ 9 เกิดมาจาก ความเป็น "อุดมคตินิยม" ครับ ในเมื่อฝ่ายบริหารเล่นบีบเอาบีบเอา อยากได้ตัวเลขสวยๆ โดยไม่สนใจความเป็นจริง ฝ่ายปฏิบัติก็จัดให้ได้ตามนั้น แม้ครูไม่ได้ทำถูกเสมอ แต่ครูก็ไม่ได้ทำผิดเสมอ นักเรียนก็เหมือนกัน ผิดถูกก็ว่ากันไปตามความเป็นจริง จะบีบเอาแต่ตัวเลขสวยๆ บีบมากก็ได้ขี้เท่านั้นแหละครับ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 14:47:59

ความคิดเห็นที่ 10 สมัยผมเรียนประถม มัธยมก็ไม่เห็นมีสอบตกซ้ำชั้น เจอแตุ่คัดออก ใครเกรดต่ำกว่า 2 ไม่ได้ต่อ ม.ปลาย ต้องไปสอบเข้าโรงเีรียนอื่นหรือเปลี่ยนไปเรียนสายอาชีพ พอมีรัฐมนตรีบางคนตั้งกฏห้ามคัดเด็กออก เด็กอยากเรียนต้องได้เรียน โรงเรียนก็เลยต้องอุ้มเด็กเรียนอ่อนให้จบไปพร้อมๆกับเพื่อน อาการหนักแค่ไหนก็ต้องปล่อยจบ ปล.1 ลูกจ้างคนล่าสุดจบ ป.ตรีสาขาวิทยาการคอมฯ พบว่าเขาไม่รู้ว่าปุ่ม caps lock อยู่ตรงไหนของคีย์บอร์ด และ switch userไม่เป็น (windows) ปล2. เขาเััพิ่งรับปริญญาเมื่ืออาทิตย์ที่แล้ว จากคุณ : jaycee เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:05:50

ความคิดเห็นที่ 11 คำถามนี้ เป็น วิทยาศาสตร์ ตรงไหน จากคุณ : ิอ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:22:39 A:58.8.202.39 X: TicketID:155521

ความคิดเห็นที่ 12 เท่าที่จำได้เลา ๆ ห้ามตี รัฐบาลคุณชวน ห้ามซ้ำชั้นรัฐบาลคุณทักษิณ ส่วนใครเป็น รมต. ศึกษาไปดูเอาครับ ^^ จากคุณ : nutxnut เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:35:11

ความคิดเห็นที่ 13 อุดมคตินิยม คำนี้อธิบายได้ดีที่สุดแล้วครับ ต้องการตัวเลขสวยๆเท่านั้น อย่างอื่นช่างมัน ความผิดพลาดคือสิ่งต้องห้าม ได้คนไร้คุณภาพออกมาก็ช่างแม่ม เป็นปัญหาของผู้ประกอบการไป สถาบันชั้น ต้องการแค่จัดงานวันรับปริญญาถ่ายรูปสวยๆ แค่นั้นแหละพอแล้ว จากคุณ : Sial เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:36:22

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดของการศึกษาไทยเลยล่ะครับ เพราะว่าทำให้คนไม่เก่งจริง ต้องไปอยู่ผิดที่ผิดทางผิดสังคม แทนที่จะได้ไปอยู่ในที่ที่เหมาะกับความสามารถของตนเอง เลยกล่ยเป็นภาระให้ระบบสังคมนั้นๆไป จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:41:10 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 15 ถูกครับ ตัวเลขล้วนๆ ยิ่งสมัยนี้ผมสงสารครู พอเด็กเกรดแย่ พ่อแม่ก็มาโทษครูสอนไม่ดี แต่ครูสมัยนี้แทบไม่ได้อยู่กับนักเรียน เพราะต้องไปปั่นผลงานทางวิชาการ ไม่งั้นไม่มีสิทธิ์เลื่อนวิทยฐานะ ผมละสงสัยจริงๆ รัฐบาลไหนคิดการให้คะแนนครูแบบนี้เนี่ย? ปล.ไม่ซ้ำชั้นก็ดีครับ ไม่งั้นผมไม่จบ ม.6 และคงไม่มี ป.ตรีไว้ดูเล่น ( ให้ตายยังไงผมก็เรียนคณิตศาสตร์ไม่รู้เรื่องครับ ) จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:48:50

ความคิดเห็นที่ 16 เริ่มตั้งแต่ตอนไหน หลาย ๆ ท่านได้ตอบไปแล้ว ผมจำได้ว่าตอนผมอยู่ป.1 เคยเป็นเด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก สมัยนั้นมีการซ้ำชั้น ผมจึงได้รับการเคี่ยวเข็ญให้อ่านหนังสือให้ได้ แล้วก็ผ่านมันมาได้ สามารถจำหลักการในการสะกดคำได้ตั้งแต่ตอนนั้น มันเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนไทยที่พูดอ่านเขียนภาษาไทยเป็นอย่างมาก ในขณะที่สมัยนี้ หลักการสะกดคำตามวิถีดั้งเดิมกลับถูกละเลย เด็กที่ไม่สามารถสะกดคำได้อย่างถูกต้องกลับได้ขึ้นชั้น กลายเป็นว่าเรากลับเจอเด็กที่เรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่สะกดคำผิด ๆ เพราะที่ผ่านมาใช้วิธีการจำ ไม่ได้ใช้หลักการในการสะกด นี่แค่เรื่องภาษา ยังมีวิชาทักษะอีกมากที่เป็นปัญหา เพราะเข็ญกันไปให้ผ่าน ๆ กันไป ผมคิดว่าควรทบทวนนโยบายการให้ซ้ำชั้น และต้องค่อย ๆ ปรับทัศนคติ ว่าการซ้ำชั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่การปล่อยให้ประชากรขาดทักษะพื้นฐาน จะกลายเป็นเรื่องเสียหายกับสังคมมากกว่า จากคุณ : กระเพาะปลาผัดแห้ง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 15:58:17

ความคิดเห็นที่ 17 นั่นดิ ผมเรียนเปอร์เซนต์มา ต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์ คือ ตกซ้ำชั้น ตอนมหาลัย เรื่องติด E ยกภาค เป็นเรื่องปกติ จำได้ว่า ลง เทอร์โมฯ 11 คน ติดหมด อาจารย์เค้าว่า ต่ำกว่าครึ่ง ติด E ไปเลย ไม่ต้องคิดมาก "พวกเธอ ทำให้ได้เกินครึ่งสิ ชั้นจะได้เอาไปตัดเกรดได้" ข้อสอบมา 5 ข้อ รวมหัวกันทำ 3 ข้อ เพื่อช่วยเหลือกัน ไม่ได้หรอก จากคุณ : juti เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:02:55

ความคิดเห็นที่ 18 ที่น่ากลัวกว่านั้น ตอนนี้เราเริ่มมีวิศวกร F ฟิสิกส์ ออกมาทำงานกันแล้ว ผมละเสียววาบ จากคุณ : 186388 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:03:46 A:118.173.78.150 X: TicketID:186388

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วการสอบเข้ามหาวิทยาลััยในปัจจุบันที่เอื้อให้ "คนที่มีความสามารถไม่พอ" สามารถหลุด รอดมาถึงระบบมหาิวิทยาลัยได้ แทนที่จะคัดคนมีความสามารถจริงๆเข้ามหาวิทยาลัย ผมคิดว่าผลเสียของทั้งการยกเลิกเอ็นทรานซ์ระบบเก่า และการยดเลิกการซ้ำชั้น จะเริ่มส่ง ผล ออกมาแล้้วล่ะครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:11:32 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 20 คห.19 ช่วยนิยามหน่อย? " คนที่ความสามารถไม่พอ " หมายถึงยังไง? อย่างผมนี่ยังทัน Entrance ระบบเก่า ( แต่ใช้ GPA 10 หรือ 25% เนี่ยละ จำไม่ได้เพราะไม่เคยไปสอบครับ ) แต่ไม่ได้ไปสอบ มุ่งไปเรียนรามฯ เลยเพราะสอบยังไงก็ไม่ได้ อย่างที่บอกสมัย ม.ปลายผมปล่อยคณิตศาสตร์ตกแล้วไปไล่ซ่อมเอา เพราะเรียนไม่รู้เรื่อง ถามว่าถ้าผมไม่ต้องการเรียนสายที่ใช้สูตรคำนวณเยอะๆ ไม่ว่าจะทางวิศวะ - สถาปัตย์ ,  บัญชี - เศรษฐศาสตร์หรือ IT แต่ต้องการไปเรียนสายอื่นๆ ในระดับมหา'ลัยเหมือนกัน ผมจะเป็น " คนที่ความสามารถไม่พอ " หรือเปล่าครับ? ปล.เคยมีคนบ่นว่าประเทศไทยเพราะมีรามคำแหงกับ มสธ. ทำให้เด็กจบ ป.ตรีกันเกร่อ? จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:33:10

ความคิดเห็นที่ 21 คนที่ความสามารถไม่พอ คือ คนที่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง ครับ อย่างง่ายๆเลย ตัวอย่างเช่นคณะนี้เรียนด้านศิลปะ แต่เข้ามา ไม่มีพื้นฐานด้านการวาดรูป? เข้ามาได้เพราะคะแนนมัธยมปล่อยเกรด สอบข้อสอบมั่วๆมาแล้วดันฟลุคได้เยอะ เลือกเอาก็เพราะเดี๋ยวไม่มีที่เรียน สำรองไว้ ผลก็คือ ลองมองหาเอาตามรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังๆ หลายๆ แห่งตอนนี้ก็น่าจะเห็นแล้วครับ เข้าเรียนสาย งานส่งเลท โดดได้โดดเลย สำมะเลเทเมา กิจกรรมนำหน้า การเรียนมาทีหลัง ตารางเรียนเวลา x โมง อาจารย์ปรับเลื่อนให้เพราะเห็นว่าเช้าไปเป็น +1 แต่นักศึกษามากัน +2 +3 แถมใครมาเช้าโดนเพื่อนว่าบ้าว่าโง่อีก "จะรีบทำไมครูยังไม่มาหรอก" สอบก็ทุจริตเอา หรือทำโปรเจค ก็แปะเพื่อน ให้เพื่อนช่วย ทางหนีทีไล่ เพียบ เจริญเหอะ... แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 16:49:21 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 16:48:43 จากคุณ : Sheryl เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 16:48:07

ความคิดเห็นที่ 22 อย่างงอนสิครับคุณเหมา สงสัยผมต้องนิยามคำว่ามหาลัยปิดกับมหาลัยเปิดให้คุณทราบ แล้วกระมัง ตอนนี้ผมกำลังพูดถึงมหาลัยปิด ประถม และมัธยมครับ ส่วนมหาลัยเปิด หลักการของเขาก็คือ "เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียน"อยู่แล้ว จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 17:00:23 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนผมไปฝึกงาน เมื่อปีที่แล้ว มีคนมาเทสงานคนนึง จบ วิทยาการคอม แต่ ไม่รู้ว่าจะตั้งปุ่ม grave accent ใ้ห้เป็นปุ่มเปลี่ยนภาษา ได้อย่างไร จากคุณ : cpu4core เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 17:02:55

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ จขกท. และ คห. ส่วนใหญ่ เนื้อหา น่าจะง่ายหน่อย แต่วัดจริงจัง แบบนี้เหมือน ทำทีเล่นทีจริง มันจะไปได้อะไร เด็กที่ไหนจะเชื่อถือ ตอบจากประสบการณ์ที่เป็นครู แต่ เราครูผู้น้อย ก็ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : Prof.Sirius เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 17:25:23

ความคิดเห็นที่ 25 หลานผม ม. 6  แต่สะกดคำว่า "Table"   ไม่ได้  -*- จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 18:41:32

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนที่เค้ายกเลิกการตกแล้วซ้ำชั้นนั้นเค้าอ้างว่ามันเป็น  "ความสูญเปล่าทางการศึกษา" แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 19:02:04 จากคุณ : เสื้อเชิ้ต เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:01:11

ความคิดเห็นที่ 27 น้องผม เรียนอยู่ ม.6 มันคูณเลขเศษส่วนไม่ได้เลย T_T อีกคน เรียนอยู่ ม.3 มันยังบวกลบจำนวนเต็มลบไม่ได้ T_T ระบบการศึกษาไทยทำเอาเครียดแทบตายเลยทีเดียว ปล. ว่าที่วิศวกรเกรด F ฟิสิกส์ ก็ผมเนี่ยแหละ เรียนซ้ำรอบที่ 4 แล้ว จากคุณ : คนคลั่งนิยาย เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:06:12

ความคิดเห็นที่ 28 #16 เห็นด้วยครับ เมพขิงๆ เลยครับ จากคุณ : Obram เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:12:16

ความคิดเห็นที่ 29 เด็กจบม. 4 เขียน ฌ ไม่เป็น ฮ่า เจอมาแล้ว จากคุณ : CANDIX เท้ากัดน้ำ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:14:09 A:115.87.231.62 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 30 เเล้วเรียน มหาลัย เมื่อไหร่จะเลิกมีระบบ ทาย เด็กออกซักทีล่ะครับ ??? จากคุณ : คนหน้าตาดี ไม่อยากมีแฟน เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:30:07

ความคิดเห็นที่ 31 ระบบบนโลก ทุกอย่างกลายเป็นระบบ สายพานการผลิต จากคุณ : @VVIEWW เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:30:59 A:58.64.64.206 X: TicketID:173601

ความคิดเห็นที่ 32 #20 ผมว่ามันคือเอกชนกับรัฐบาลภาคพิเศษนะ จากคุณ : Orca เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:32:13 A:124.121.109.9 X: TicketID:237226

ความคิดเห็นที่ 33 ^ หรอคับ เอกชน แล้วไงเหรอคับ จากคุณ : maninbox เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:46:43

ความคิดเห็นที่ 34 อย่างหนึ่งที่ผมสงสัยมากๆคือ ในเมื่อเรารู้ว่าการยกเลิกระบบซ้ำชั้นไป มันสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติมากขนาดนี้ แต่ทุกคนก็ยังเฉยเมยกันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขนาดเรื่องร้ายแรงมากๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อของทหาร งบประมาณการเบิกจ่ายจำนวนมหาศาล เกี่ยวข้องกับชีวิตทหาร อย่าง GT 200 ยังมีอาจารย์เจษฎายังออกมาร้องเรียนจนสะท้านไปทั้งวงการสีเขียวเลย กับเรื่องที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกับงบประมาณก้อนโตอะไรมากนัก(ยังไงกระทรวงศึกษาก็เป็นกระทรวงเกรดรองๆอยู่แล้ว) แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับศักยภาพของอนาคตของชาติ กับไม่มีใครออกมาเรียกร้องให้แก้ไข จริงๆพวกอาจารย์มหาวิทยาลัยน่าจะรับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ก่อนเพื่อนเสียด้วซ้ำ เพราะว่าเป็นปลายน้ำที่จะรองรับนักศึกษาที่มาอยู่กันอย่างผิดที่ผิดทางเหล่านี้ แต่ทำไมไม่มีใครสักคนที่จะลุกขึ้นมา ยกเลิกระบบห้ามตกห้ามซ้ำชั้น หรือเพราะมันไม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณก้อนโต หรือเพราะมันไม่สามารถลากไปโจมตีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้ เลยไม่มีใครสนใจ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับความเป็นไปของอนาคตของชาติแท้ๆ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:46:59 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 35 นี่ตัวอย่างเล็กๆ สำหรับครูมหาวิทยาลัย ดราม่ากันกับครูประถมครับ http://www.kruthai.info/main/board03_/shows.php?Category=newsedu&No=680&page=1 จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 19:54:37 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นเพราะการยึดติดกับเรื่องอายุมากไป จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 20:09:51

ความคิดเห็นที่ 37 ระบบช้ำชั้นไม่เคยแก้ปัญหาของประเทศคับ เพราะปัจจุบันนี้ทุกองค์กรทุกหน่วยงานบริหารงานโดยเด็กที่ไม่ได้เรียนซ้ำชั้น... ปรับระบบการศึกษาให้ซ้ำชั้นได้มันไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรซักอย่างของประเทศหรอกคับนอกจากแก้ปัญหาการเงินของโรงเรียนคือให้เด็กซ้ำชั้นเยอะๆจะไ้ด้เรียนนานๆ ตอนนี้เราก็แยกชนชั้นเด็กเป็นเด็กวิทย์เด็กศิลป์เด็กเรียนเด็กเกเด็กเกียรตินิยมเด็กรีไทร์ไปกันเยอะแล้วถ้ามีระบบซ้ำชั้นมันก็จะมีเด็กจบตามเกณฑ์กับเด็กซ้ำชั้นขึ้นมาเพิ่มอีกสองอย่างแค่นั้น จะว่าเด็กซ้ำชั้นมันไปถ่วงระบบการศึกษาให้มันต่ำลงแล้วประเทศจะไม่พัฒนาได้ยังไงในเมื่อเมื่อเด็กจบมาคุณก็เลือกเด็กเรียนเก่งเกรดดีมาทำงานอยู่แล้ว ต่อให้มีระบบซ้ำชั้นคุณก็เลือกเด็กเรียนเก่งเกรดดีซึ่งมันคือคุณก็เลือกคนเดิมนั่นแหล่ะคุณไม่ได้เลือกคนใหม่เลย แล้วระบบซ้ำชั้นมันจะแก้ปัญหาอะไรได้ยังไงในเมื่อมันไม่ทำให้คุณเลือกคนอื่นได้???... จากคุณ : Catwater เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 20:41:13 A:223.206.40.202 X: TicketID:258544

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่กระมังครับ นักศึกษาหลายท่านเรียนมากกว่าห้าปีเจ็ดปีหรือกระทั่งสิบสามปีก็ยังทำงานในหลายที่ได้ สบายๆ ถึงเขาจะเรียนนานแต่ความรู้เขาก็แน่นจริง(ถ้าจบออกมาได้) พวกวิศวกรนี่ตัวดีเลย ปัญหาคือพวกไม่แน่นจริงแต่หลุดมาทำงานได้นี่แหละครับ เรื่องใหญ่ อีกอย่าง สมมุติว่ามีระบบซ้ำชั้นอยู่ ต่อให้เราเลือกคนที่ไม่เคยซ้ำชั้นไม่เคยเปอร์และคนที่ดีที่สุดเข้ามาทำงานเพียงอย่างเดียว อย่างทีคุณกล่าวจริง แล้วคนที่"คุณไม่เลือก" ซึ่งก็คือคนที่พื้นฐานไม่แน่น เรียนไม่เก่ง ไม่มี ทักษะ เขาจะจบมาทำงานเพื่ออะไรล่ะครับในเมื่อไม่มีงานให้เขาทำ ต่อให้มีที่รับเขาเข้าทำงานจริง สักวันเขาก็โดนเฉดหัวออกอยู่ดี เพราะสร้างงานที่ไม่มี คุณภาพออกมา แล้วพวกเขาเหล่านี้จะไปอยู่ไหนล่ะครับ แล้วต้นทุนที่นำมาใช้เพื่อการศึกษาสำหรับคนที่อยู่ผิดที่ผิดทางเหล่านี้มาจากใครครับ ผมว่าสู้กดดันให้พวกเขาอยู่ในงานในระบบพวกเขามีความสามารถพอที่จะทำ ดีกว่างานหรือระบบที่เกินความสามารถและความรับผิดชอบของเขา จะไม่ดีกว่าหรือครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:01:04 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 39 สมัยประถม ยุคที่มีการซ้ำชั้น มีบางคนเรียนจนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวยังไม่จบ ป 6 เลยก็มี จากคุณ : noomnory เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:17:44

ความคิดเห็นที่ 40 เหอะๆ แล้วจะเอาเกณฑ์อะไรมาแยกละครับ ว่าใครสมควร - ไม่สมควรซ้ำชั้น อย่างผมเองเนี่ย บอกแล้วว่าถ้า่อยู่ระบบเก่า ได้ซ้ำชั้นกันสนุกแหงๆ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:24:12

ความคิดเห็นที่ 41 ผมอาจจะหัวโบราณ คิดว่าการมีมาตรฐานเป็นสิ่งจำเป็น การปล่อยผ่านมาตั้งแต่ชั้นประถม ทำให้มีพื้นฐานไม่พอที่จะไปต่อได้ ผมรู้สึกได้เลยว่า เรียนแบบลูกผม ถ้าในยุคผม ควรจะได้เปอร์เซ็นไทล์ระดับกลางค่อนข้างดี แต่นี่ลูกผมอยู่ในกลุ่มท๊อป อย่าว่าแต่อาจารย์วิศวะที่เคยสอนผม บ่นกึ่งด่านักศึกษาปัจจุบันให้ฟัง เห็นด้วยกับคุณ "สามสิบห้าบาทแน่ะ"ทุกกรณี จากคุณ : 186388 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:54:33 A:124.157.254.109 X: TicketID:186388

ความคิดเห็นที่ 42 ก็เพราะว่าคุณเหมาเกิดไม่ทันยุคซ้ำชั้นน่ะสิครับ ก็เลยไม่รู้ว่าระบบการซ้ำชั้นมันเป็นอย่างไร มันก็สอบเอาเหมือนธรรมดาทั่วๆไปนี่แหละครับ คำถีงมีคำว่า"สอบไล่"ไงครับ เพียงแค่อาจารย์ตัดเกรดเอาตามความเป็นจริงเท่านั้นแหละ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกครับไอ้การเรียนซ้ำชั้นน่ะ สิ่งที่น่ากลัวคือเราหลุดมาเจองานจริงๆแต่เราไม่มีความรู้มากพอที่จะรับผิดชอบงานในด้านนั้นๆ(เพราะเราไม่ตั้งใจเรียน แต่เราก็จบมาได้)มากกว่า ผมคิดว่าปัญหาของการซ้ำชั้นซ้ำซาก มันมีหลักๆแค่ 1.เรียนผิดสาย หาตัวเองไม่เจอ ซึ่งในยุคอินเตอร์เนทครองเมืองขนาดนี้ ผมไม่คิดว่าการหาตัวเองให้เจอมันจะเป็นเรื่องยาก(ไม่ต้องพึ่งครูแนะแนวหรอก) ถ้าไม่นับว่าเป็นพวกดื้อดันทุรัง หรือพ่อแม่บังคับให้เรียนน่ะ อันนี้ก็ไม่ว่ากัน 2.ทัศนคติ บางวิชา เช่นเลข หรืออังกฤษ บางคนมีทัศติไม่มีต่อมันแล้วจะพาลกลัวไปเลย จริงๆแค่เปิดใจนิดหน่อย แค่ตีโพยตีพายน้อยลงสักหน่อย ลองค่อยๆอ่านทบทวนดู ผมคิดว่าเลขประถม เลขมอสามมันไม่ยากมากเกินไปหรอกครับ สำหรับการทำความเข้าใจด้วยตนเอง ยิ่งในยุคที่การเรียนพิเศษมันเฟื่องฟูขนาดนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะผ่าน ผมเคยรู้จักคนคนหนึ่ง เรียนมอปลายเกรดสองจุดหนึ่งก้าว เือกเรียนวิศวะไฟฟ้าด้วยคะแนนเอ็นท์ เลขน้อยกว่าสิบสอง ตอนนี้มันกำลังจะต่อโทคณิตศาสตร์สายตรงครับ ไอ้รุ่นน้องคนนี้มันบอกผมว่า พอเปิดใจทำความรู้จักกับมันจริงๆ ผมเลยรู้ตัวเองว่า"ผมรักคณิตศาสตร์ครับพี่" (จริงๆมันไม่ได้เปิดใจเองหรอกครับ แต่การฆ่าฟันกันในวิศวะไฟฟ้า ในเรื่องคณิตศาสตร์บังคับให้มันต้องสู้ ต้องเปิดใจ ) อีกอย่างหนึ่ง ทัศนคติในการเผชิญกับปัญหานี่ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง คนประเภทที่เจอปัญหา แล้วเอาแต่ตีโพยตีพายฉันทำไม่ได้ๆ ไม่ลองพยายาม ไม่ลองสู้กับมันดู(ที่นักศึกษาปีเปอร์หลายๆคนเคยเจอกับเหตุการณ์นี้มาแล้วทั้งนั้น) เอาแต่โทษนั่นโทษนี่ โทษระบบ โทษรัฐบาลอะไรไปนู่น โทษว่าฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถ้าผมเป็นเมเนเจอร์ผมก็ไม่คิดจะรับมันเข้าทำงานหรอกครับ เพราะถือว่าไม่มีการเรียนรู้ในเรื่องการเผชิญกับปัญหา ยังไงคุณเหมาลองไปหาการ์ตูนนายซ่าท้าเด็กแนวของ nation ดูนะครับ เขาพูดถึงวิธีแก้ทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อวิชาคณิตศาสตร์ได้น่าสนใจมากๆ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:56:04 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 43 คุณเหมาครับ ด้วยความเคารพนะครับ ถ้าคุณยัง มองตัวเองในแง่ลบ โทษตัวเอง โทษสังคม โดยไม่ลองมองในมุมต่าง หรือลองท้าทายสิ่งใหม่ๆ คุณก็คงจะได้อยู่ในอยู่ในกลุ่มคนที่ความสามารถไม่พอ ตามที่คุณได้ปรามาสตัวเองไว้นะแหละครับ จริงอยู่คุณอาจจะเคยเจอเรื่องร้ายๆ หรือล้มเหลวต่อเนื่อง จนทำให้คุณมองโลกแง่ร้าย นะครับ แต่มันไม่มีใครที่จะล้มไปตลอดหรอกครับ ผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ว่า บางสิ่งบางอย่างมันผิดที่ผิดทางจริงๆ โรงเรียนมัธยมที่ผมจบมา ขนาดรุ่นผมว่าร่อแร่แล้ว ปัจจุบันมันกลายเป็นแหล่งผลิต แว้นซ์ สก๊อย ตั้งแต่ ม ต้น แล้วมันเหล่านั้น ก็มา เบียดเบียน เด็กที่พยายาม เด็กที่ตั้งใจ แถมพอพวกเขาหลุดเข้า ม ปลาย หรือ มหาลัย มาได้ พวกเขาก็มักจะใช้ชีวิตแบบสิ่งที่ผมโพสไปแล้วในอีก reply นึง ซึ่งมันเป็นผลร้ายกับระบบสังคมและบุคลากรโดยรวม แม้มันอาจจะดูโหดร้าย ที่เราไปตีค่าคนอื่น แต่ผมก็คิดว่าสมควรแล้ว หากจะจับแยกพวกนั้นออกจากบุคคล ที่ต้องการศึกษาต่อ และมีความสามารถเพียงพอ ที่จะศึกษาต่อ เพื่อนำไปทำประโยชน์ใดๆต่อไป ... ตัวผมเอง ก็ไม่ถนัด คณิตศาสตร์ครับ และผมก็ทิ้งมัน แต่ผมก็อาศัย จบกับมันที่แค่ "พอผ่าน" ทิ้งมันไว้ที่เกรด 1-2 และไปทำวิชาอื่นๆ ที่เราชอบ เราถนัด ให้มันดีๆ ผลที่ออกมา เฉลี่ยรวม ผมเชื่อว่าถ้าทำแบบที่ผมบอก ยังไงก็ไม่ซ้ำชั้น ยกเว้นคุณจะทิ้งมันทุกวิชา แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 22:12:03 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 22:11:41 จากคุณ : Sheryl เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:09:14

ความคิดเห็นที่ 44 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:13:33

ความคิดเห็นที่ 45 อีกอย่างหนึ่ง การตีค่าคนที่เรียนซ้ำชั้น เป็นคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว เพราะหลายครั้งในยุคสมัยมีการซ้ำชั้น คนที่เคยเรียนไม่ผ่านในวิชานั้นๆมา พอลงเรียนอีกครั้งเขากลายเป็นระดับท็อปของ เซคก็เกิดขึ้นได้บ่อยไป คนติดเอฟเทอร์โมไดนามิก กลับพลิกตัวเองให้ได้ท้อปเซคได้เอ ในไม้ที่สองก็มีถมไป ถ้าคุณเป็นเมเนเจอร์ คุณจะตี่ค่าว่าเขาเป็นบัณฑิตที่ไร้ประสิทธิภาพหรือเปล่าครับ สำหรับผม แล้ว คนประเภทนี้ ผมให้คุณค่ามากกว่าคนที่ผ่านเทอร์โมไดนามิกด้วยเกรดสองเรื่อยมาเรียงๆ ไม่สิ ผมให้คุณค่ามากกว่าคนที่ได้เกรดเอ ในไม้เดียวด้วยซ้ำ เพราะคนเก่งประเภทเก่งมาตลอดอยู่แล้ว มีต้นทุนดีมาอยู่แล้ว ถ้าเกิดล้ม หรือเจอปัญหามา คนเคยบินสูงหลายๆคนมักจะเกิดอาการ "การช็อคเพราะพลังงานศักย์โน้มถ่วง" แต่คนที่บินต่ำมาก่อน สร้างตัวเองจากต้นทุนต่ำมาก่อน แล้วฝืนตัวเอง ผลักดันตัวเอง จนบินสูงได้ นี่และแกร่งสุดยอด จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:21:18 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 46 เกิดขึ้นตอน "กระบือขึ้นเป็นใหญ่" นั่นแหละครับ คิดแบบกระบือๆ คนมันโง่ม้นจะให้ผ่านไปได้หรือไงเนี่ย รู้ไม่พอก็ซ้ำชั้นสิครับ จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:32:51

ความคิดเห็นที่ 47 จริงๆเขาก็สนใจจะทำอยู่บ้างนะครับ http://www.kroobannok.com/34172 สพฐ.เล็งทบทวนฟื้นระบบ "สอบตกซ้ำชั้น" ชี้ปล่อยเด็กไปจะเกิดปัญหาสะสม ที่มา ไทยรัฐ 2 มิถุนายน 2553 จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:42:18 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 48 การ "ไม่มีซ้ำชั้น" หรือ "ไม่มีรีไทร์" ก็เท่ากับ "จ่ายครบ จบแน่"   แย่ทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาล ยัน ป.เอก จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:45:12

ความคิดเห็นที่ 49 คห.42 - 43 ผมย้ำอีกรอบว่าผมทิ้งแค่คณิตศาสตร์วิชาเดียวจริงๆ ครับ อย่างอื่นไม่ใช่ปัญหาเท่าไรหรอก ดูอย่างสอบ กพ ภาค ก ที่ผ่านมา ผมผ่านนะ ( รู้สึกว่าเป็นโชคดีที่นานๆ ครั้งจะหลุดมาหาผมบ้าง ) โดยช่วงก่อนสอบ ผมรู้ว่ายังไงคณิตศาสตร์ชั้นสูงผมทำไม่ได้แน่ๆ เลยหันไปเน้นที่แนวข้อสอบจำพวก Logic ทั้งหลายแหล่แทนพร้อมๆ กับวิชาภาษาไทย แน่ละตอนสอบก็เครียด และประเมินไว้ก่อนแล้วว่าถ้าผ่านคงเพราะโชคช่วย เพราะคณิตศาสตร์ 10 ข้อ ผมทำไ้ด้จริงๆ 2 ข้อ เดาอีก 4 มั่วอีก 4 ทีนี้คุณบอกว่าปัญหาคือเด็กไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร แต่อย่าลืมว่าการซ้ำชั้นปรากฏขึ้นตั้งแต่ประถมนะครับ ซึ่งไม่ใช่ช่วงที่เด็กมันจะเลือกวิชาเรียนเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมสงสัยว่ากับเด็กบางคน ( เช่นตัวผมเองเนี่ยละ ) ที่ไม่ได้มุ่งหวังจะไปเรียนทางคำนวณชั้นสูงอยู่แล้ว จะต้องมารับกรรมด้วยหรือ? ในเมื่อผมวางแผนแล้วว่าทิ้งแค่คณิตศาสตร์วิชาเดียวแล้วไปทำอย่างอื่นแทน พอบอกเรื่องการกวดวิชา เชื่อไหมผม Anti การกวดวิชามากๆ เพราะมันทำให้เด็กไม่ได้มีชีวิตวัยรุ่นแบบที่ควรจะเป็น คือเครียดกันมากไปว่างั้นเหอะ สมัย ม.ปลาย ผมก็ไม่ไ่ด้กวดวิชา เอาเวลามาเล่นเน็ตดีกว่า ( อธิบายไว้ก่อน สมัยนั้นผมไม่ได้ติดเกม Online และ Offline นะครับ แต่เล่นเน็ตตอบกระทู้แบบนี้มาตั้งแต่ปี 2544 แล้วครับ หาข่าวหาอะไรอ่านและถกประเด็นต่างๆ กับชาวบ้านเขาไปเรื่อย ก็ได้ความรู้เพิ่มอีก ) ยังไงก็ไม่ได้คิดอยากจะไปเข้าสายที่ต้องคำนวณมากๆ อยู่แล้ว เล่าให้ฟังสนุกๆ นะครับ จะว่าผมอคติกับคณิตศาสตร์ชั้นสูงก็ได้ เพราะผมไม่รู้สึกว่าทุกคนต้องเรียน ต้องใช้แต่อย่างใดเลย คนห้องนี้อาจจะสนุกกับการเรียนวิชาคำนวณที่ยากๆ แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียนได้และรู้เรื่องครับ คนแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกันจริงๆ แล้วถามว่ามันเป็นเคราะห์กรรมอะไรที่เด็กสายศิลป์จะต้องมาเอาเป็นเอาตายเพื่อเรียนคณิตศาสตร์ชั้นสูงให้รู้เรื่องละครับ? จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:53:01

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ซ้ำช้นไม่รีไทร์  อีกหน่อยไม่ต้องสอบ ต่อไปก็ไม่ต้องเรียน ออกไปทำงานในโรงงาน ก็ไม่ต้องตรวจ ไม่ต้อง QA บ้าชัด ๆ การผลติยังต้องมีมาตรฐาน มีตรวจ มี Reject ของเสียก็ตองยอม การเรียนไม่มีตก เด็กไม่ตั้งใจเรียน ยังไงก็ผ่าน จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:00:17

ความคิดเห็นที่ 51 เอ่อ คือถ้าคณิตศาสตร์ไม่เกินมอสาม ผมเรียกมันว่าคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานแล้วครับ เพราะฉะนั้น เด็กสายศิลป์ไม่ต้องเรียนครับ คำว่าพื้นฐานคือทุกคนต้องรู้ครับถ้ารู้มาก ก้ดี ถ้ารู้น้อยก้อาจจะพอผ่าน แต่ถ้าไม่รู้เลยนี่แสดงว่ามีปัญหาแล้วครับ(แต่ผมไม่เชื่อเลยว่าจะมีใครไม่รู้เลย) คุณลองไปเปิดดูแบบเรียนก่อนมอสาม ทั้งหมดสิครับ อาจจะมีเรื่องตรีโกณวัดมุมอะไรมาบ้าง นั้นสำหรับคนที่มีความเป็นช่างอยู่ในตัว อย่างไรก็ได้ใช้ครับ วัดที่ วัดอะไรต่ออะไร เลขก่อนมอสามเป็นแค่พื้นฐานครับ แยกตัวประกอบนี่ก็เกินมาหน่อย แต่มันก้ไม่ได้ยากมากเกินไป ถึงคุณทำไม่ได้คุณก็ได้เกรดสองเกรดหนึ่ง แต่ก็ผ่านอยู่ดี ส่วนการ anti กวดวิชา มันก็เป็นการตัดสินใจของคุณเองที่จะตัดตัวช่วยนั้นออก เมื่อคุณเป็นคนตัดตัวช่วยนั้นออกเอง คุณก็ต้องแบกรับความเสี่ยงนั้นเองครับ เพราะก็ไม่มีกฏหมายใดว่า คุณต้องจบมอสามได้โดยไม่เรียนพิเศษ (แต่บอกตรงๆผมก็แอนตี้การเรียนพิเศษเช่นกัน เดี๋ยวค่อยมาคุยประเด็นนี้ทีหลัง) เอางี้ก็ได้ คุณเหมาลองแตกกระทู้ไปสิครับว่า"ถ้านักเรียนทุกคนสามารถเลือกเรียนเฉพาะ วิชาที่ชอบได้ตั้งแต่ประถม อะไรจะเกิดขึ้น" อยากรู้ต้องลองครับ ปล.แต่ผมก็เห็นด้วยนะ ในส่วนของวิชาสายศิลป์ไม่จำเป็นต้องเรียน คณิตศาสตร์ขั้นสูงอะไรมากมาย แต่ผมเคยเห็นข้อสอบ เอ็นทรานซ์ ของมนุษย์ศาสตร์ ผมยังอุทานว่ามันจะทำได้กันเหรอวะเนี่ย สำหรับผมสายศิลป์ผมคิดว่าถ้าจะได้ใช้เยอะๆคงเป็นสถิติกระมัง จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:23:20 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 52 ***** ไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะ หัวข้อกระทู้ กับเนื้อหากระทู้ คนละเรื่องกันเลย 666 ***** ขอตอบแค่หัวข้อกระทู้ก็แล้วกันนะครับ การเรียนเป็นเปอร์เซนต์ ทุกวิชาแบ่งเป็น 100% คะัแนนเก็บทั้งเทอมมีแค่ 10% สอบกลางเทอม 40% สอบปลายเทอม 50 % และจะเอาทุกวิชามารวมกัน แล้วก็หารจำนวนวิชาทั้งหมด ถ้าเกรดโดยรวมต่ำกว่า 50% ก็จะช้ำชั้น วิธีนี้คนเรียนเก่งแต่ขี้เกียจสบาย ไม่ต้องสนใจเรียนทั้งเทอมเลยก็ได้ ฟัดกับคะแนนสอบแบบเดียวก็ผ่านสบาย วิชาไหนไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนให้มาก ต่ำกว่า 50% ก็ช่าง ไม่มีซ่อม เอาวิชาอื่นที่ได้คะแนนสูง มาถัวเฉลี่ยก็ยังได้ เรียกได้ว่า ระบบนี้ หาคนเรียนซ้ำชั้นยากมาก ระบบนี้คนเรียนเก่งแต่ขี้เกียจสบาย แต่คนขยันแต่เรียนไม่เก่งก็ซวยไป แต่ระบบนี้มีข้อเสียอย่างที่บอกไว้ตอนแรก (อธิบายไว้เผื่อคนเกิดไม่ทันจะไม่เข้าใจระบบนี้) ระบบต่อมาก็เลยเปลี่ยนเป็นเกรดแทน ตกวิชาไหน ก็ซ่อมวิชานั้น (ปัจจุบัน ระบบนี้ไม่ได้แก้ปัญหาเลย ซ้ำยังเพิ่มจุดอ่อนซะอีก เห็นซ่อมกันเกลื่อนเลย) ระบบใหม่ให้คะแนน ความขยันสูงขึ้น คะแนนสอบน้อยลง ถ้าใครทันเรียนแบบ % สมัยประถมละก็ (เกิดปี 2513 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เรียน พร้อมกับปากกาคอแร้ง) จะรู้ได้เลยว่า ความเข้มข้นของเนื้อหาระหว่างระบบการเีรียนเป็น % กับการเรียนเป็นเกรด ต่างกันเยอะมาก อย่างภาษาไทย ต้องเีรียนเรื่อง รามเกียรติ พร้อมท่องศัพท์ (ราชาศัพท์ในเรื่อง) พร้อมคำแปล เป็นหมื่นคำ (ไม่นับบรรดาคำประสมแบบต่างๆ ที่ระดับมัธยมปัจจุบันยังเรียนสู้ไม่ได้เลย) ในขณะที่ระบบใหม่ มาพร้อมกับ ปิติ มานะ มานี ...... 666 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 23:38:03 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:30:57

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเดาว่าคนที่กลัวซ้ำชั้นคือคนที่ไม่เคยซ้ำชั้นเพราะไม่ทัน แต่ผมนี่ระช้ำชั้น ประถม เรียน ปวช.๔ ปี เพราะอะไรครับ เพราะเราไม่ถึงเกฑณ์ที่จะต้องไปเรียนในชั้นสูงขึ้นไงครับ อยากให้ประถม เป็นเรื่องของประถมจริงๆ คือ เรียนเพื่อเป็น พื้นฐาน อ่านให้ออก เขียนให้ได้ เลชประถมนี่เอาแค่บวก ลบ คูณหาร ร้อยละ เศษส่วนที่เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ จึงเห็นคนจบประถมศึกษาสามารถดำรงค์อยู่ได้เป็นเถ้าแก่จบประถม สมัยก่อนเรียนแค่ ป.๔ นี่เก่งกว่า ม.๓ ปัจจุบันอีก เมื่อเราสอบตกซ้ำชั้นเพราะเราไม่ผ่านเกณฑ์แล้วต้องปรับตัว แต่สิ่งที่ต้องทำสำหรับเด็กซ้ำชั้นก็คือชี้ให้เขาเห็นว่า เค้าไม่ได้เรื่องอะไร แต่ส่วนใหญ่หลังจากตกแล้วจะกลายมาเป็น แถวหน้าได้ ส่วน ราม กับ มสธ. คนจบได้นี่นับถือครับเพราะเค้าใช้เกณฑ์ ไม่ถึงเกณฑ์ไม่ให้จบ เรียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบ ถ้าจบแสดงว่า ผู้เรียนมีความสามารถที่จะทำงานในเรื่องนั้นได้ ผมเห็นด้วยกับคุณ สามสิบห้าบาทนะ เพราะผมจะเชื่อใจในปรัญญานั้นว่า ถึงมันจะเรียนนานมันก็เรียนจบ แต่จะย้ำไปว่าตกวิชาไหน แต่จะเห็นว่าคนที่ตกตัวเดิมซ้ำๆเค้าจะชำนาญเรื่องนั้นๆ เหมือนผมเรียน บัญชี๑ ไปสามไม้ พอบัญชีสอง เลยแม่น จนถึงทุกวันนี้ไม่ได้ทำบัญชีแต่ต้องดูแลโปรแกรมบัญชีก็เข้าใจ เพราะมันเจอมาเยอะครับ จากคุณ : นักเรียนโข่ง (นักเรียนโข่ง) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:34:13

ความคิดเห็นที่ 54 คห.51 แค่ถอดรากหรือ Function ก็ไปกันไม่เป็นแล้วครับ ( อย่างที่บอกว่าผมไม่อ่าน ไม่เอาเลย ) เรียนคณิตมาแต่เด็ก ไม่เคยได้เกินเกรด 2 พอขึ้นมัธยม ไม่เกรด 1 ก็ตกตลอด กลับเข้าประเด็น ในความเป็นจริง มันไม่สามารถเลือกเรียนได้ตั้งแต่ประถมสิครับ เพราะเด็กวัยนั้นมันไม่ได้มีเป้าหมายเป็นเรื่องเป็นราวอยู่แล้ว ถึงได้ให้มาเลือกตอนเข้า ม.ปลาย หรือสายอาชีพ ด้วยเหตุนี้ผมถึงไม่ค่อยชอบระบบซ้ำชั้นเท่าไร ( ผมอยู่กับระบบซ่อม และระบบที่คะแนนเก็บเยอะกว่าคะแนนสอบครับ ) เพราะมันจะทำให้เด็กที่ไม่เก่งวิชาที่ยากๆ อย่างคณิตศาสตร์กลายเป็นชนชั้นสองในทันที แบบสมัยก่อนที่พ่อแม่บังคับว่าลูกต้องเข้าคณะพวกแพทย์หรือวิศวะฯ ให้ได้ ทำให้พอเอ็นท์ไม่ติด ฆ่าตัวตายก็เยอะ หรือตอนอ่านหนังสือสอบ ทำกันได้แม้แต่เสพยาบ้าเพื่อให้อ่านได้นานๆ ผมว่าระบบหลังๆ ก็ยุติธรรมกับเด็กดีนะ ให้ทางเลือกไว้หลายทาง แต่เด้กบ้านเราดันคิดไม่เป็นกันเอง ตามเพื่อนบ้างอะไรบ้างมากกว่า จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:39:18

ความคิดเห็นที่ 55 การ "ให้เรียนซ้ำชั้น" หรือ "ให้รีไทร์" ก็เท่ากับ "จ่ายครบ ไม่จบก็ได้" แดกกันทุกสถาบัน ตั้งแต่อนุบาล ยัน ป.เอก (ยิ่งตอนนี้มหาลัยยากจนเปิดหลักสูตรพิเศษรับเด็กมารีไทร์กันถ้วนหน้า...) จากคุณ : Catwater เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:45:25 A:223.206.14.81 X: TicketID:258544

ความคิดเห็นที่ 56 ทางเลือกก็ส่วนทางเลือกมาตรฐานก็ส่วนมาตรฐานครับคุณเหมา จะดีมากถ้าเราได้ระบบที่เด็กมีทางเลือก และระบบนั้นก็สามารถสร้างเด็กที่มีมาตรฐาน(ตามที่ตัวเด็กเลือกออกมา ซึ่งผมหวังเหลือเกินว่าจะมีคนคิดค้นระบบนี้ขึ้นมา) ส่วนเรื่องฆ่าตัวตายหรือเสพยาบ้าอ่านหนังสือ คุณคิดว่า ณปัจุุบันไม่มีหรือครับ ส่วนเรื่องคณิตศาสตร์วิชายากๆ ชนชั้นสอง อะไรนั่น มันเป็นเรื่องของ"ค่านิยม"ครับ มันไม่ใช่เรื่องของ"มาตรฐาน" สิ่งที่ต้องแก้คือค่านิยมครับ อีกอย่างต่อให้คุณอยู่ในระบบซ้ำชั้น คุณก็แค่พยายามให้ได้เกรด"1"คุณก้ไม่ซ้ำชั้นแล้วครับ ซึ่งถ้ายังทำไม่ได้อีก ผมคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาของ"สติปัญญา"แล้วครับ มันเป็นปัญหา ของ"ทัศนคติ" ซึ่งคนมีทัศนคติไม่ดีกับวิชาคณิตศาสตร์อาจจะได้เกรด"4"หรือได้แค่เกรด"1"ก็ได้(คนแบบนี้มีจริง เยอะแยะไป) แต่ที่แน่ๆรัฐบาลเขาไม่ได้เขียนหลักสูตรมาเพื่อวัด"ทัศนคติ"ในวิชาคณิตศาสตร์แน่ๆครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 23:57:50 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 57 ส่วนกรณี "จ่ายครบ ไม่จบก็ได้" หรือถ้าเอาแบบเคลียร์"จ่ายครบ อาจจะจบ หรือไม่จบก็ได้ " การรีไทร์หรือซ้ำชั้น มันก็คือ แรงกระตุ้นให้ "จ่ายครบ ต้องจบ ถ้าไม่จบ เปลืองเงิน เปลืองเวลา เปลืองภาษีประชา" ครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:01:44 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่รู้ตั้งแต่สมัยไหน รู้แต่แม่เป็นครูคณิตศาสตร์ป.6 จะต้องแยกเด็กที่อ่านไม่ออกประมาณซึ่งมีครึ่งห้อง กันไว้อีกด้านเพื่อสอนให้อ่านภาษาไทยออก  ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่สามสิบปีที่แล้ว จนโรงเรียนขยายเปิด ม.3 แม่ผมก็ย้ายมาสอนวิทย์กับคณิตศาสตร์ม.ต้นทั้งหมด และแน่นอนต้องทำเหมือนเดิมครับ ม.ต้นก็มีเด็กที่อ่านไม่ออกอีกเยอะ จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:08:50

ความคิดเห็นที่ 59 คุยกับคุณเหมาอีกนิด ซึ่งคุณเหมา อาจจะจะเป็นคนที่มีทัศนคติไม่ดีกับวิชาคณิตศาสตร์"ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง" แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเหมาจะไม่มีโอกาสได้เกรดสี่วิชาคณิตศาสตร์มอสาม เกรดหนึ่งถึงสี่ในวิชาคณิตศาสตร์มันมาจาก"ความพยายาม"ครับ ทัศนคติมันก็แค่"ตัวช่วยให้ดีขึ้นหรือแย่ลง" อยู่ที่คุณเหมาจะ บาลานซ์ ความพยายามกับ ทัศนคติของคุณ อย่างไรก้เท่านั้นแหละครับ นี่ผมยังไม่พูดถึงคนรักคณิตเกลียดอังกฤษเลยนะครับ วิศวะนี่ตัวดี จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:13:43 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 60 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9966469/X9966469.html จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:15:07 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 61 ^ #57 มีแต่แรงแต่ไม่มีปัจจัยแล้วจะได้ผลอะไร??? กะลังฝันเฟื่องอะไรอยู่รึป่าวว่าถ้าออกกฏบีบคอให้มันไม่เสียตังค์ฟรีแล้วมันจะไปเสกให้เกิดเด็กตั้งใจเรียนขึ้นทั้งประเทศเพื่อที่มันจะไม่เสียตังค์ฟรี??? การคาดหวังผลจากสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดผลหรือเห็นๆอยู่ว่ามันไร้ผลมันเป็นความล้มเหลวทางการศึกษาหรือป่าว???... มันมีประเทศไหนมั่งที่รับเด็กมารีไทร์เหมือนไทย??? ประเทศที่เขาเจริญๆกันนี่อัตราการรีไทร์สูงกว่าไทยเหรอ??? ถ้าไม่มีปัญญาจะคิดก็หัดเหลียวไปดูต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านซะมั่งอย่าเอาแต่หลับหูหลับตาคิดอะไรโง่ๆประเทศไทยไม่ใช่เกาหลีเหนือ! (อ๊ะ... หรือว่าใช่หว่า???...) จากคุณ : Catwater เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:19:25 A:223.206.14.81 X: TicketID:258544

ความคิดเห็นที่ 62 คุยเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่าครับ ขออธิบายยาวๆหน่อย แล้วจะเริ่มแขวะทำไมล่ะครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:27:50 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 63 กลับมาอีกรอบครับ ( เมื่อกี้ไปทะเลาะกับพวกกิเลสนิยมเรื่อง " ทัศนคติว่าด้วยการเป็นชู้ " ใน FB มา ) เหอะๆ ผมเป็นด้านตรงข้ามนะครับ ผมชอบอังกฤษ เกลียดคณิต ผมว่าทำแบบนั้นเด็กจะยิ่งเกลียดด้วยซ้ำไป มี case นึงที่ผมไปเถียงกับพวก pro ปวศ.ไทยกับมวยไทยแถวๆ ห้องสมุดและห้องศุภฯ จะมีบางคนบอกว่าถ้าผมเป็น รมว. จะบังคับให้เด็กไทยต้องเรียนมวยไทยทุกคน เผอิญผมมีอคติกับทั้ง 2 อย่างอยู่แล้ว เพราะไม่ค่อยชอบ ปวศ. บ้านเราในแง่ที่ว่าไม่หลากหลาย หากจะเทียบกับ ปวศ.ชาติอื่นๆ ( ไม่หลากหลายยังไง ผมคิดว่าคนห้องนี้น่าจะรู้ดีอยู่แล้วแต่พูดไม่ได้ เพราะถ้าพูด ระวังกระทู้หาย อมยิ้มถูกจองจำได้ง่ายๆ - -! ) ทีนี้ผมเชื่อว่าถ้ายังบังคับดันทุรังจะเอาให้ได้แบบที่คนพวกนั้นต้องการ เชื่อว่าคงมีคนแบบผมเกิดขึ้้นอีกเยอะ หนักเข้าจะพาลไม่รักชาิติกันจริงๆ แบบที่คนพวกนั้นว่าเอาเสียอีกต่างหาก เช่นเดียวกับคณิตศาสตร์ไล่ตั้งแต่มัธยมขึ้นมา ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ไม่ไ้ด้เรียนสายคำนวณมาโดยตรงคงจะถาม " เรียนแล้วได้ใช้อะไร? " ( เห็นมีกระทู้ล่างๆ แต่ผมไม่ได้อยู่ด้วยเลยไม่ได้ตอบ ) แต่พอมาเจอคนห้องนี้โน้มน้าวสารพัด โน้มน้าวไม่เท่าไร ยังมีบาง คห. เหน็บแนมอีกว่า " เืพื่อคัดคนโง่ออก " ไปๆ มาๆ มันจะยิ่งทำให้คนที่มาอ่านมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคณิตศาสตร์มากขึ้นอีก ( เหมือนกับที่สมัยเด็กๆ ผมถูกกรอกหูตลอดว่า " พวกที่ไปเรียนมวยชาติอื่นเป็นพวกไม่รักชาติ ไม่อนุรักษ์ความเป็นไทย " ) ถ้าเป็นแบบนี้ปัญหาสังคมแน่ๆ เพราะเด็กมันก็จะคิดว่าเรียนไปก็ไม่จบ เพราะวิชาที่ไม่ชอบ หรือหัวไม่ไป ยังไงก็ไม่ผ่าน ( เพราะระบบซ้ำชั้น ไม่ใช่ตกก็ซ่อมแบบที่ผมเคยเรียน ) มันจะพาลให้เกลียดการเรียนทั้งหลักสูตรไปเลยก็มี อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ ยิ่งวัยรุ่นด้วยแล้ว ย่อมมีธรรมชาิติของความเป็น " ขบถ " อยู่ในตัวกันทั้งนั้น แบบนี้ไปกันใหญ่นะครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 00:53:48

ความคิดเห็นที่ 64 อันนี้พูดถึงมอต้นนะะครับ งั้นถ้าเปลี่ยนจากระบบซ้ำชั้น เป็นให้นักเรียนเลือกได้ว่าจะ "ระบบตกก็ซ่อมได้ สำหรับคนที่มุ่งไปศิลป์แหงๆ" "ลงเรียนซ้ำใหม่สำหรับคนยังมุ่งหวังที่จะเป็นสายวิทย์" ล่ะครับคุณเหมา แต่คำว่าซ่อมได้หมายความว่าต้องมี"มาตรฐานเท่ากับคนทีได้เกรดหนึ่งเรียนภาคปรกติ" แบบนี้ผมว่าน่าจะเป็นการพบกันครึ่งทางนะครับ เวลาไม่เกี่ยง ช้าได้เร็วได้ แต่ประเด็นคือ ถ้าติดเงื่อนไข"ตกซ่อมได้"คนกลุ่มนี้ต้องฉีกไปสายศิลป์หรือสายอาชีพจริงๆ นะครับ เพราะว่าความเป็นจริงคือ กลุ่ม"ตกซ่อมได้"ยังไปลอยหน้าลอยตาอยู่ในสายวิทย์กันอยู่ เนืองๆ และก็ผ่านแบบถูๆไถๆไปเรื่อยๆ และก็ไหลกันไปเป็นภาระให้ระดับมหาวิทยาลัย ด้วย ผมว่าแบบนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ คือให้ สายวิทย์มอปลายเป็นพื้นที่ของคนที่จะเข้ามหาลัยในสายวิทย์ไปจริงๆไปเลย ส่วนสายศิลป์ ก็คือแยกกันไปสายศิลป์กันตั้งแต่มอสามไปเลย และอีกประเด็นหนึ่งที่ผมระคายเคืองพอสมควรคือ ทำไมเด็กสายวิทย์ต้องไปเบียดบังสอบ แย่งพื้นที่เด็กสายศิลป์ด้วย อันนี้คือสิ่งที่ผมเคืองมาก คือมอปลายสายวิทย์มันมีทางเลือกกว้างมากไปหน่อย ซึ่งมันลดความสำคัญของมอปลาย สายศิลป์ไป ผมว่าวิธีนี้น่าจะยืดหยุ่นสำหรับคุณเหมามากขึ้นนะครับ หรือถ้าให้ยืดหยุ่นตามค่านิยมแม่ๆแบบไทยๆสุดๆ คือ คือให้ยุบทั้งสองสายให้เป็นวิชาเลือกไปเลย(เพราะวิศวะสอบก็ไม่ได้สอบชีวะครับ555แต่ก็รอดมาแบบถูๆไถๆ) ถ้าน้องคนไหน อยากเรียนสายศิลป์ ก็เลือกเรียนสายศิลป์ ทั้งหมดจ๋าไปเลย ถ้าน้องคนไหน อยากเรียนสายวิทย์ ก็ไม่ต้องเลือกเรียนสายศิลป์ ถ้าน้องคนไหนเทพจัด อยากมีตัวเลือกมากๆ ก็ลงเรียนทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ไปเลย เย้ และที่สำคัญที่สุดคือ ทางมหาวิทยาลัย ต้องไม่มีกรณี เข้าวิศวะได้เพราะอังกฤษทั้งๆที่คณิตศาสตร์ต่ำติดดิน หรือเข้ามนุษย์ eng ได้เพราะ คณิต ทั้งๆที่อังกฤษต่ำติดดิน กรณีนี้มีจริงนะครับ ทำเป็นเล่นไป จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 01:33:37 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 65 แต่มานึกดูดีๆ ถ้าปล่อยไหลแบบปัจจุบัน ผลดีมันก็ตกกับมหาวิทยาลัยนะครับ คือ ก็ให้ปล่อย หลุด มาเรื่อยๆ แต่มหาวิทยาลัยเกณฑ์มาตรฐานต้องแม่นจริงๆ ใครไม่ผ่านมาตรฐาน ไม่ปล่อยจบ เคี่ยวอยู่อย่างงั้นเอาจนได้ ใครเรียนไม่ผ่าน ลงซ้ำได้ไม่ จำกัด ไม่มีรีไทร์ รีรหัสใหม่ได้เรื่อยๆจนกว่าจะผ่าน ค่าเรียนมหาลัยฟันกระจาย แต่ต้องให้อาจารย์ผู้สอนมีอิสระในการตัดเกรดเต็มที่นะครับ ห้ามแทรกแซง(ซึ่งผมพบว่าปัจจุบันแทรกแซงมากๆ) แต่อาจารย์ผู้สอนก็ต้องเหนื่อยรากเลือดที่จะต้องสอนเด็กวิศวะ ที่ถอดรากไม่เป็นไง(มันหลุดมาได้ไงวะ หลุดมาเป็นทอดๆเลย) แต่ถ้ามีคลาสเรียนรองรับเด็กจำพวกนี้อีก ก็อีกเรื่องหนึ่งนะครับ 55555 คลาสเรียนปรับพื้น คณิตศาสตร์มอหนึ่ง สำหรับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อใบปริญญา ไม่เกี่ยงวิธีกันอยู่แล้ว จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 01:44:19 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 66 ที่เจอกับตัว บัณฑิตคณะวิศวะ บางคนจบมา แก้สมการไม่ได้ ย้ายข้างไม่เป็น บัณฑิต สังคม ประวัติศาสตร์ ไม่รู้ว่า 1 เมตรมีกี่เซนต์ ท่องสูตรคูณไม่ได้ ไม่รู้จักจำนวนเฉพาะ อันนี้พอทำเนาเพราะน่าจะได้เรียนตอนประถมและอาจไม่ได้ใช้อีกเลย เฮ้อ.... จากคุณ : foreverpyre เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 01:56:52

ความคิดเห็นที่ 67 เป็นธรรมดาครับ... ผมไม่ชอบคณิตตั้งแต่จำความได้ เคยโดนครูว่าตอน ป.2 เพราะสูตรคูณไม่ได้ เคยเกือบจะตกตอน ม.5 เพราะติดสาว(ตอนนั้นเลิกการใช้ไม้เรียวไปแล้ว) เกือบจะวืดแคลตอนปี 1 เพราะผลพวงจาก ม.ปลายอีกที แต่ผ่านมาได้ เพราะมันจุดถ่วงดุลของมันอยู่... ป.2 ผมกลัวจะซ้ำชั้น จบไม่ทันเพื่อน ม.5 อ.ดุมาก ตามงานมาก ไม่ปล่อยเลย แต่นอก รร ก็เฮฮากันปกติ(บ้านแกเปิดร้านเกม เจอกันบ่อย) แคล เพราะเป็นวิชาบังคับ ตกมางานงอก เพราะค่าเทอมไม่ธรรมดา... (เด็กๆเคยตามไปอยู่กับแม่ที่ทำงาน แล้วเห็นงานวุ่นวายมาก + ได้ไปทำงานเองบ้าง เลยสำนึกได้ว่าเงินมันไม่หาได้ง่ายๆ) ผมอยากให้ตกซ้ำชั้นคืนมานะ ไม้เรียวด้วยจะดีมาก อย่างน้อย ถึงเด็กมันจะไม่สำนึกว่า เสียเงินเท่าไร ใครจ่ายให้... แต่มันก็น่าจะรู้ตัวเอง ว่าถ้ามันยังง๊องแง๊งคาที่อยู่แบบนี้ มันก็ต้องอับอายเพื่อนบ้างล่ะ ยิ้งถึงเวลาที่เพื่อนรับปริญญา ตัวเองยังคาอยู่กับที่ มันจะเริ่มเห็นชัด... ไม่ใช่เอะอะๆ ลูกตูบอบบาง หาว่าครูทำร้ายร่างกายๆ โหดร้าย ป่าเถื่อน... (ถ้าคนมันจะเอาจริงๆ ถึงไม่มีไม้เรียว จะยกโต๊ะมาฟาดแทนก็ยังได้) ไม่โดนซะบ้างชีวิตมันจะไปอดทนอะไรได้... ครูเองก็ต้องทำหน้าที่ ไม่ใช้ทำเอาเงินไปวันๆ มาเช้ากลับเย็น เด็กโง่ช่างมัน ปล่อยผ่านไปให้คนอื่นสอนต่อเอง ผู้ปกครอง ต้องดูแลเด็กบ้าง ไม่ใช้ทิ้งเด็กไว้กับเงิน แล้วก็หายหัวไปทั้งวัน... ปล่อยเด็กทำตามใจ โดยไม่มีคนแนะนำว่าถูกผิดอย่างไร ไม่รู้จะต่ออะไรแล้ว... แต่ปล่อยไว้แบบนี้ แย่!!! จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 02:02:24

ความคิดเห็นที่ 68 เด็กที่อยู่บนยอดปิรามิด คือกลุ่มเด็กที่พร้อม มีความมุ่งมั่นในการศึกษา อันนี้ไม่น่าเป็นห่วง พวกเขามีความรู้สึกจะต้องรับผิดชอบชีวิตของเขา แต่เสียดายที่พวกเขามีจำนวนน้อยมาก ๆ ในทางกลับกัน เด็กที่อยู่ที่ฐานปิรามิด มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินที่ผลักภาระการศึกษาให้เป็นเรื่องของโรงเรียนทั้งหมด เด็กเหล่านี้จะไม่มีความมุ่งมั่น ขาดแรงจูงใจในการศึกษา ยิ่งมาเจอระบบปล่อยผ่านแบบปัจจุบัน ยิ่งทำให้เด็กกลุ่มนี้ขาดทักษะ "พื้นฐาน" ในการใช้ชีวิต และที่หนักกว่าก็คือ ขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเรียนอย่างไร จะเกเร หรือจะไม่สนใจอย่างไร ก็ผ่านอยู่ดี อนาคตเด็กกลุ่มหลังจะกลายเป็นคนส่วนมากในสังคม ที่ทั้งชีวิตเสพติดสิ่งที่ได้มาง่าย ๆ แล้วสังคมจะเป็นอย่างไร ยิ่งประเทศต้องเผชิญกับการแข่งขัน แก่งแย่งทรัพยากร คนส่วนใหญ่ในอนาคต จะมีวุฒิภาวะในการแก้ไขปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน การศึกษาไทยจะยอมรับความจริง หรือจะสร้างภาพว่าเราชนะโอลิมปิกวิชาการ เรามีมหาวิทยาลัยที่มีงานวิจัยระดับโลก แต่เอาปัญหาที่หมักหมมนับสิบ ๆ ปีซุกไว้ใต้พรม จากคุณ : กระเพาะปลาผัดแห้ง เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 06:35:00

ความคิดเห็นที่ 69 มหาวิทยาลัยจริงๆ แล้ว ตกคือตกนะครับ แม้แต่มหาวิทยาลัยเอกชน เค้ายังต้องรักษามาตรฐานเลยครับ แต่ราชภัฎ ผมไม่ทราบนะครับ ไม่ขอออกความเห็น จากคุณ : นายสาระแน เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 07:31:58

ความคิดเห็นที่ 70 #55  "จ่ายครบ ไม่จบก็ได้" มองในด้านหนึ่ง เหมือนว่ามหาวิทยาลัยเอกชน จะเอาเปรียบและหากินกับเด็ก แต่หากมหาวิทยาลัยทำไปเพื่อการรักษามาตรฐาน ผมเชื่อว่าในที่สุดจะดีขึ้นทั้งระบบ เพราะ เด็กจะพบว่า ตนเองไม่เหมาะสมกับสาขาวิชานั้น จะได้ย้ายไปเรียนสาขาอื่นๆ และคนที่สามารถผ่านออกมาได้นั้น ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า เขามีความสามารถจริงๆ ซึ่งผมเชื่อว่า มีศักดิ์ศรีไม่ด้อยไปกว่ามหาวิทยาลัยของรัฐแน่นอน สาเหตุที่ทำให้ปัจจุบัน มีความเหลื่อมล้ำทางศักดิ์ศรีบ้าบอ ก็เพราะการไม่รักษามาตรฐานนั่นเอง จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 08:55:47

ความคิดเห็นที่ 71 ผมว่าผมลากกลับเข้าประเด็นกระทู้ดีกว่า ที่เค้าเอาระบบซ้ำชั้นออกผมปัญหาหลักคือหาเกณฑ์ที่ดีไม่ได้ เนื่องจากมันมีเด็กจำพวกไม่ทำอะไรเลยแล้วคะแนนดี และก็มีเด็กที่ขยันแทบตายแต่ไม่ได้อะไรเลย ผมเองก็ส่วนหนึ่งของเด็กที่ไม่อ่านหนังสือเรียนหลับๆ ไม่ฟังอาจารย์ แต่อ่านหนังสือ ม. ต้น - ปลายแรกๆ นี่แค่ 15 นาทีก็รู้สึกว่าพอแล้วทำได้หมดแล้วกลางภาคปลายภาค ไม่ได้น่าภูมิใจนะครับเพราะนิสัยแบบนี้มันทำให้มหาวิทยาลัยผมเองก็ปรับตัวไม่ทันแย่ไปอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน และมันไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว มันมีเยอะ นี่คือความจริงโลกครับ ปัญหาคือผู้ใหญ่อยากวัดอะไร ถ้าอยากวัดความสามารถคุณก็ต้องยอมรับความจริงโลกว่า คนขยันและพยายามอาจจะไม่ได้มีความสามารถมากพอ ถ้ายังงั้นก็มีคนตกได้ ใครความสามารถไม่ถึงต่อให้จะขยันหรืออะไรยังไงมันก็คือไม่ถึง ให้น่าสงสารยังไงอ่านหนังสือจนตีสองทุกวัน แต่ไม่ถึงมันก็คือไม่ถึงจริงๆ นี่คือความจริงโลกที่ผู้ใหญ่ทุกคนยอมรับ แต่ไม่กล้าบอกเด็ก (ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยกับการบอกตรงๆ เหมือนกันนะครับเพราะมันทำให้เด็กไม่พยายาม) แต่ตอนนี้คือคนใหญ่ในวงการสมัยนี้ อยากให้เด็กที่ขยัน เด็กที่เอาจริงเอาจัง ได้ดีกว่าเด็กทำตัวน่าหมั่นไส้ ความคิดตรงนี้สะท้อนออกมาที่อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งการ Entrance/AnetOnet/Admission ที่นับวันยิ่งเหมือนจะพยายามฆ่า "เด็กฉลาด" แล้วเอาเด็ก GPA ดีๆ ความรู้รอบตัวเยอะๆ (ที่เค้าเชื่อว่าควรรู้) ซึ่งเกณฑ์ที่จะวัดเด็ก "ขยัน" เนี่ย มันก็คือแค่มีงาน แค่มาเข้าเรียน ไม่หลับ ไม่ทำตัวให้อาจารย์หมั่น ก็ผ่านได้แล้ว ดังนั้นระบบใหม่นี้ที่พยายามให้โอกาสเด็กขยันมากขึ้น เด็กฉลาดน้อยลง มันจึงเป็นระบบที่ไม่มีคนตก ซึ่งสุดท้ายพอเข้ามหาวิทยาลัยจริงๆ แล้วมันก็เหมือนฆ่าเด็กทางอ้อมครับ ทั้งเด็กฉลาดและเด็กขยันด้วย เด็กฉลาดขาดโอกาส เด็กขยันความสามารถไม่ถึงแทนที่จะได้ค้นพบตัวเองกลายเป็นว่าเรียนอะไรก็ได้ เพื่อแก้ปํญหาแบบนี้ปกติเมืองนอกเค้ามี Special Class สำหรับคนที่เก่งและอ่อนแยกกันชัดเจน ให้เด็กฉลาดมาแข่งขันกับเด็กธรรมดา มันก็ไม่แปลกที่เค้าจะไม่ขยันไม่ใส่ใจ จะให้เด็กมาคอยตั้งใจฟังอาจารย์ตลอด 4 เดือนในเรื่องที่อ่านหนังสือ 15 นาทีก็เข้าใจเนื้อหาทั้งหมด แล้วหวังให้เค้าตั้งใจฟังตลอดมันเป็นไำปไม่ได้หรอกครับ มันก็แค่คนที่ไม่ชอบเด็กเก่งที่ไปอ่านเองไปเรียนพิเศษเองข้างนอก แต่แก้ปัญหากันผิดวิธีครับ จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 12:03:56

ความคิดเห็นที่ 72 #70 คุณอย่าไปคิดแทนหน่วยงานที่เด็กเรียนห่วยจะไปทำงาน มันทำงานดีทำงานแย่อะไรยังไงเขามีมาตรการรองรับไว้หมดแล้วว่าจะทำยังไงกับเด็กคนนี้โดยที่ไม่ต้องพึ่งระบบรีไทร์ของสถาบันการศึกษาเลยซักนิด ถ้าคิดว่าการบีบให้เด็กเรียนอ่อนรีไทร์เพื่อจะได้ค้นหาตัวเองจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติล่ะก็ฝันเฟื่องอีกคนละ เด็กเรียนเก่งไม่เคยพัฒนาประเทศ มันจบมาไปทำงานอยู่ในหน่วยงานไหนหน่วยงานนั้นๆก็ไม่เคยจะเป็นประเทศ... ส่วนประเด็นกระทู้ผมว่าการปรับตกซ้ำชั้นรีไทร์พยายามรักษามาตรฐานอะไรมันก็ไม่ได้ช่วยให้เด็กมีความรู้ในสาขาที่จะทำงานมากขึ้นหรอก ไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็จะมีเด็กเรียนห่วยอยู่คู่กับระบบการศึกษาอยู่เสมอเช่นเดียวกับที่จะต้องมีเด็กเรียนเก่งอยู่คู่กับระบบการศึกษาเหมือนกัน และของดีมักจะไม่ได้ราคาถูก เด็กเก่งมันก็อยากได้ค่าแรงแพงๆตามเรื่องตามราวของมันส่วนเด็กอ่อนมันถึงจะยอมลดตัวมาทำงานเบ้ๆค่าแรงต่ำๆ ถ้าหน่วยงานคุณมีปัญญารับได้แต่เด็กอ่อน คุณไปแก้ระบบให้ตายยังไงคุณก็จะได้แต่เด็กอ่อนวันยันค่ำ คุณจะไปพัฒนาระบบการศึกษาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเพื่อที่คุณจะได้สบายใจเวลาที่รับเด็กอ่อนๆเข้ามาทำงานไปทำไม? เด็กเก่งๆมันก็มีอยู่แล้วถ้าหน่วยงานคุณเจ๋งพอมันก็เข้ามาทำเอง... จากคุณ : Catwater เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 13:16:35 A:223.205.231.122 X: TicketID:258544

ความคิดเห็นที่ 73 คนเราต้องพัฒนาความสามารถของตัวเองขึ้นมาให้เท่ากับมาตรฐานครับ ไม่ใช่ปรับมาตรฐานให้ต่ำลงเท่ากับความสามารถของคน ถ้าเป็นเช่นนี้ คนที่เรียนจบมาก็จะมีแต่ทำงานเช้าชามเย็นชาม ประเทศชาติขาดการพัฒนาเพราะมาตรฐานต่างๆถูกปรับลงมาให้คนสามารถทำได้อย่างสะดวก ไม่ต้องอดทน ไม่ต้องมีการพัฒนา ประเทศเราก็จะถอยหลังลงคลองเรื่อยๆ ชะเอิงเงย ดังนั้น ผมเห็นด้วยกับ จขกท ครับ จากคุณ : Sith Lord Nindle เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 14:53:06

ความคิดเห็นที่ 74 ไปดูเพื่อนบ้านมานิดๆหน่อยๆครับ จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 16:24:56 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 75 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H9973273/H9973273.html จากคุณ : สามสิบห้าบาทแน่ะ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 16:25:18 A:112.142.163.119 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 76 เข้ามาอ่าน เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าไม่มีซ้ำชั้นแล้วเหรอ เชยจริงๆเรา จากคุณ : redruby เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 18:22:14

ความคิดเห็นที่ 77 เอาการ์ตูนมาฝากครับ เครดิต ก็ตามภาพ http://p-ach.com/blog/ep011.jpg กดดูเอาละกันไม่อยากไดเร็ค เนื้อหาเสียดแทงแต่ตรงดี และมันกำลังจะเป็นความจริง ผมว่าหลายๆคนตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : Sheryl เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 00:06:39

ความคิดเห็นที่ 78  หลายคน บ่นว่า เด็กเรียนอ่อน  แล้ว ไม่คิดบ้างหรอ ว่า ครูอ่อนก็เยอะไป  ถ้าครูเก่งจริง ต้องสอนให้เด็กเก่งให้ได้ครับ  ต้องมีเทคนิคการสอน ให้เด็กสนุกกับวิชาให้ได้ครับ  คือ ผมก็เป็นครู ถึงได้กล้าเถียง อิอิ ผมไม่เคยคิดว่า  เด็กอ่อนเลยนะ คิดว่า ทุกคนเก่ง ไม่งั้นก็สอบเข้าไม่ได้หรอก  แต่เด็กมักขาดกระบวนการเรียนรู้ที่ดี และครูมักทำเฉย สอนแค่ตามตำรา  ครูหลายคน เรียนจบมา ก็เป็นครูเลย ประสบการณ์ ก็ไม่มีกับเค้าหรอก  ก็มาสอนตามทฤษฎีผู้อื่น เป็นการก๊อบปี้ความรู้ เพื่อส่งต่อให้นักศึกษา    หากขาดประสบการณ์ ก็ไม่สามารถอธิบายให้เด็กเห็นภาพได้อย่างชัดเจน  เด็กมันก็เบื่อเป็นนะ ลองคิดถึงตอนเราเรียนซิ หากครูคนไหนมามั่วทฤษฎี  เบื่ออะ น่าเบื่อมาก ๆ เลย มันต้องหาความบันเทิงให้เด็กในวิชาด้วยนะ  อีกทั้ง เรื่องที่สำคัญคือ ต้องมุ่งเน้นคุณธรรม มุ่งเน้นกระบวนการที่ดีครับ จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 00:48:30

ความคิดเห็นที่ 79 อยากเสริมนิดนึงครับ      ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้สัมผัสกับเด็กมัธยมต้น   ก็เลยไม่ทราบว่า  ปัจจุบัน    บางโรงเรียน  เด็กมาบอกผมว่า   อาจารย์ีที่โรงเรียนที่สอนวิชาคณิตศาสตร์   ออกข้อสอบว่า   โรงเรียนตั้งอยู่ตำบลอะไร          ผอ.ชื่อว่าอะไร   ผมถามว่า แล้วทำไมไม่ออกคณิตศาสตร์ล่ะ    เด็กบอกว่า     ออกคณิตฯ เด็กทำไม่ได้  ตกกันยกห้อง  เลยต้องออกข้อสอบแบบนี้       ทำผมอึ้งไปเลย จากคุณ : darkming เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 12:39:13

ความคิดเห็นที่ 80 คห.45 คล้ายๆผมนะ แต่ตอนนั้นโดนอาจารย์อัญเขิญให้ไปดร็อป ตอนนั้นแบบว่าไม่รู้เรื่องเลย พอไปลงอีกที ในอีก 1 ปี ข้างหน้า คราวนี้ได้ A ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ไปดร็อปจริงๆ จากคุณ : ***** เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 12:10:57 A:110.77.145.99 X: TicketID:223134

ความคิดเห็นที่ 81 มีสอบ comprehensive แบบ ป โท ดีปะครับ ใครสอบไม่ผ่าน แสดงว่าความรู้ไม่ถึง ตก ให้สอบเฉพาะวิชาที่จำเป็น พื้นฐานที่พึงควรจะรู้ จากคุณ : locomotion เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 12:53:02

ความคิดเห็นที่ 82 ตัวกติกา การเรียนแบบไม่มีการซ้ำชั้น มันดีและเหมาะสมอยู่แล้วครับเพราะหลักสูตรที่ออกแบบกันมา มันเหมาะกับเด็กบางประเภทเท่านั้น ฉะนั้นเด็กกลุ่มที่ไม่เหมาะกับหลักสูตร ก็คงต้องเรียนซ้ำชั้นไปเรื่อยๆ เขาอาจจะมีความสามารถในทางอื่นก็ได้ ที่ไม่ใช่เชิงวิชาการ เช่น ศิลปะการวาดรูป การแสดง การซ้ำชั้นเหมือนเป็นการลงโทษ ทั้งๆ ที่หลักสูตรที่เรียนเขาไม่ได้เป็นคนเลือก แต่ปัญหา มันอยู่ที่ทัศนคติของผู้ปกครอง ครูอาจารย์และสังคม คนเรียนเก่งจะมีแต่คนสนับสนุน ส่งเสริม  ก็จะเก่งยิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนคนที่เรียนไม่เก่งก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ แล้วเมื่อไหร่คนไม่เก่ง มันจะเก่งขึ้นได้ล่ะครับ สรุปก็คือ สนับสนุนและพัฒนา คนไม่เก่งให้เก่งขึ้นตามศักยภาพของเขา ไม่ใช่กำจัดเขาออกไปจากระบบ จากคุณ : emmy_iemu เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 03:15:45

ความคิดเห็นที่ 83 เพราะ "พ่อก ู ใหญ่ครับ"(ขออภัยที่ไม่สุภาพ) ใครบอกเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง ผมขอเถียงแบบสุดชีวิตเลย ว่ามันซื้อได้แม้กระทั่งชีวิตคน เหอะๆ จากคุณ : kanester เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 11:42:16

ความคิดเห็นที่ 84 ว่าด้วยวิชาคณิตศาสตร์หน่อย ผมว่า วิชานี้ ตั้งแต่ ม 4+ น่าจะให้เลือกเรียนได้นะครับ  = =" เพราะบางคนไม่ถนัดจริงๆก็มี ไม่ใช่ว่าไม่เปิดใจรับนะ คือเปิดใจพยายามเรียนรู้ แต่ไม่ถนัดเลย ได้ 1-1.5-2 ตลอด เฉลี่ยรวมไม่เคยเกิน 2.8 โดนเพื่อนมองว่า โง่ ตลอดเลย เพราะคณิตมันดึงเกรดลงไปเยอะมาก ขนาดมาเรียน มหาลัยแล้วเพื่อนยังถาม เฮ้ย เกรดมหาลัยได้ E กี่ตัว ไอเรารึหัวเราะหึหึ บอก เสียใจ ต่ำสุดที่ได้คือ C+ แล้วคว้า A มาแล้ว 2 ตัว เฉลี่ยรวม 3.4 [สำหรับคนไม่เคยได้เกิน 3 นี่ถือว่าน่าภูมิใจนะครับ] เพราะไม่มีคณิตศาสตร์มาดึงเกรด ปล.วิชาคณิตของ ม4+น่ะ ให้ใช้เครื่องคิดเลขไปเถอะ แล้วเน้นให้นักเรียนรู้วิธีใช้สูตร รู้จักสูตร รู้จักวิธีแก้ก็พอ ให้นักเรียนมานั่งคิดเลขด้วยผมว่าเสียเวลานะ ส่วนตอนประถม1-6 เน้นเรื่อง + - * / และ เศษส่วนอะไรว่าไปให้เยอะๆยังไม่ต้องเน้นสูตรมาก มันจะได้  + - * / แน่นๆ ก่อน แล้วค่อยมาลงสูตรตอนม1-3 จากคุณ : ลูกหมาบนดาวสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 11:49:17

ความคิดเห็นที่ 85 เลิกซ้ำชั้นในระบบโรงเรียน ดีแล้วครับ    สุขภาพจิตของเด็กดีด้วย   ได้จบพร้อมเพื่อนๆ   ส่วนระดับมหาวิทยาลัย  เด็กบางส่วนเขาโตพอจะรับความผิดพลาดได้ จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 53 20:40:52