ความคิดเห็นที่ 1 ที่สวีเดนเปิดกันเยอะแยะ แถมนิยมกันมาก เพราะฝรั่งไม่ชอบกินยาที่ใช้สารเคมี เค้าใช้วิธีเอาเข็มจิ้มลงไปตรงเส้นประสาท แล้วใช้ไฟกระตุ้นเอา แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 21:19:53 จากคุณ : สักวันเราคงจะรู้จักกัน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:17:57

ความคิดเห็นที่ 2 ศาสตร์จีนที่ สืบทอดกันมายาวนานกว่า 4000 ปี มันเป็นเรื่องของการเปิดจุดชี่ พลังลมปราณ ที่มีการศึกษา มีงานวิจัยรองรับ แต่ การได้ผลมันคงขึ้นกับการวินิจฉัยโรค และความชำนาญ ของแต่ละบุคคล ตัดคำพูดออกแล้วนะคะ ขอโทษค่ะถ้าใช้คำผิด แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 22:14:00 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 22:12:33 จากคุณ : tarkul เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:27:23

ความคิดเห็นที่ 3 ู^ ^ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่อีกแล้ว จากคุณ : Shineokung เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:31:19

ความคิดเห็นที่ 4 คห.2ครับ ไม่เชื่อต้อง พิสูจน์สิครับ ของเค้าของจริงนิ จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:33:33

ความคิดเห็นที่ 5 เราเคยฝังเข็มสี่ครั้งค่ะ ป่วยเป็นลมชักตั้งแต่เด็กไม่หายซักที จำได้ว่าเกลียดช่วงปิดเทอมมาก พ่อกับแม่จะพาไปฝังเข็มตลอด ทานยาโรงพยาบาลควบคู่ไปด้วย หมอจะจิ้มเข็มบน หัวเรามากกว่าสิบเข็ม จากนั้นก็จะหมุนๆๆ ทีละเข็มๆ เสร็จจากหัวจะเปลี่ยนเป็นฝ่าเท้าอีก เป็นสิบ เจ็บแล้วก็ทรมานมากจนน้ำตาไหลเลย หมอบอกกระตุ้นปลายประสาท หลอด เลือด มีคนเป็นอัมพฤกษ์มารักษา เห็นชัดเลยมาพร้อมๆเราแต่อาการเค้าดีขึ้นมากทุกๆ ครั้งที่มาเลยค่ะ ส่วนเราอาการไม่หายขาดแต่อาการรุนแรงลดลงมาก ไม่รู้ว่าเพราะยาหมอหรือเพราะการ ฝังเข็ม แต่เท่าที่ดูข่าววิชาฝังเข็มก็เป็นหนึ่งในแพทย์ทางเลือกนะคะ อย่าลืมดูคลีนิกที่เค้ามีใบ ประกาศนียบัตรรับรองด้วยนะคะ จากคุณ : ไข่ต้มไข่ตุ๋น เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:36:15

ความคิดเห็นที่ 6 #2 แหม เอาคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่มาเล่น เดี๋ยวคนแถวนี้ก็เคีองสายตานะ เข้าเรื่องเลย ผมไม่มีความรู้ แต่มีประสบการณ์โดนฝังมา พอจะเล่าให้ฟังได้ ผมมีอาการปวดฝ่าเท้า ทุกเช้าหลังตื่นนอน ไปพบหมอแพทย์แผนจีน หมอตรวจด้วยการจับชีพจร ให้ยาจีนกินสองถึงสามอาทิตย์เพื่อปรับสภาพ จากนั้นฝังอีกสิบห้าครั้ง ประมาณสองเดือน ปัจจุบันหายขาดเลย หมอบอกว่าชี่ผมเดินไม่สะดวก ลองไปศึกษาดูนะครับเรื่องชี่ (Qi) ส่วนรักษาโรคอื่น แม้กระทั่งลดความอ้วนก็เคยได้ยิน แต่ยังไม่เคยลอง จะไปฝังก็ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพด้วยนะครับ บางคนก็เป็นครูพักลักจำ ไม่มีใบประกอบฯ อาจจะอันตรายได้ครับ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 21:39:21

ความคิดเห็นที่ 7 นั่นสิ ผมเป็นคนเชื่ออะไรยากหากไม่มีคำอธิบาย วันนี้ไปดูเพื่อนที่ฝังเข็มรักษาโรคนอนไม่หลับ ฝังไว้ตรงหัวด้วย แถมแถวหัวเข่าอีก สยองมาก เลยไม่ค่อยกล้า แถมพอถามเรืท่องที่เพื่อนผมปวด ก็อธิบายมาเป็นเรื่องชี่ ซึ่งผมยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอะไร แต่เพื่อนผมบอกว่าจะอะไรก็ช่างเถอะ รักษาให้หายได้พอแล้ว ทีนี้เลยนึกถึง จีทีสองร้อยชอบกล ใครมีคำอธิบายที่เป็นวิทยาศาสตร์หน่อยมั้ย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 22:02:39

ความคิดเห็นที่ 8 #7 บางทีวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ก็ไม่สามารถตอบได้ทุกเรื่องนะครับ แต่ฝังเข็มนี่เค้าทำกันมานานจนเป็นตำราการแพทย์สอนกันในมหาวิทยาลัย ดังนั้นมันพิสูจน์ว่าทำซ้ำได้ ไม่ใช่ pseudo science แบบจีที200 แน่ ผมเคยไปประชุมวิชาการเกี่ยวกับอะไรพวกนี้เคย มี ศ.ที่เป็น keynote speaker จากจีนเคยอธิบายไว้ แต่ผมก็ยังไม่กระจ่างชัดนักในแง่ของการอธิบายในแง่กับวิทยาศาสตร์ปัจจุบันและผมก็ทำไฟล์หายไปแล้ว ขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถตอบ จขกท. ได้ ปล. อีกที ผมว่าแพทย์แผนไทยก็น่าสนใจนะ ว่ามันมีกลไกในการรักษาอย่างไร และมีตั้งหลายอย่างที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรอนุรักษ์ไว้ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 22:15:28

ความคิดเห็นที่ 9 สาธารณะสุข ของประเทศไทยก็ยอมรับ ครับ :D แพทย์แผนตะวันตก ก็เห็นไปเรียนต่อได้ครับ  มีไปเรียนเหมือนกัน เมื่อไม่นาน ก็ มีได้ข่าวมีการ ผ่าตัดโดยไม่ใช่ยาสลบ แต่เป็นการ ฝังเข็มแทนครับ  (เห็นว่ายังมีข้อเสียบ้าง แต่ก็น่าสนใจ ) เวลาถาม ว่ามีคำอธิบายทางวิทยาศาตร์ ถ้าหมายถึง อธิบายว่าทำไม มันถึงหายเพราะอะไร อย่างไร มันตอบตรงนั้นไม่ได้  เพราะ เค้าใช้รากฐานคำอธิบาย หรือมุมที่แตกต่างกัน แต่สามารถตอบโจทย์ ตอนปลายทางได้ พูดแบบชาวบ้าน คือ รู้ว่าทำแล้วหายแค่นั้น   อย่างดีวิทยาศาสตร์ก็จะเข้าไปตอบโจทย์ได้ประเด็นของการติดเชื้อ หรือไม่ จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 22:51:33

ความคิดเห็นที่ 10 มันเป็นศาสตร์อยู่เหมือนกันการฝังเข็ม และก็ไม่ใช่ไสยสาสตร์ด้วยนะ จริงๆวิทยาศาสตร์ยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่โดยกระบวนการเกี่ยวกับการไปกระตุ้นเส้นประสาท http://www.healthy.net/scr/article.aspx?Id=1817 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 23:10:05 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 53 23:09:50 จากคุณ : b_b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 23:01:01

ความคิดเห็นที่ 11 ลดความอ้วนแค่กินให้น้อยลงก็ลดแล้ว อดอาหารเซฟค่าข้าว เงินเหลือมากขึ้น :)   ไปฝังเข็มเสียทั้งค่าหมอค่าเครื่องบิน :( จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 23:10:21

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ คิดว่าถ้ามันง่ายพวกคลีนิกลดความอ้วนคงไม่มีเกลื่อนหรอก ผมผอมนะแต่อยากอ้วน จากคุณ : I'am stillwater เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 23:20:53

ความคิดเห็นที่ 13 ขอแชร์ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการฝังเข็มรักษาโรค...ในเมืองไทย นะครับ...พอดีมีญาติเป็น หมอฝังเข็มอยู่ท่านหนึ่ง..................... อย่างที่หลายท่านให้ความเห็นไว้...ว่าการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มนั้น....มีมานานกว่า 4000 ปีแ้ล้วในเมืองจีน.....และในปี พ.ศ. 2538 WHO ก็ได้ให้การรับรอง การรักษานี้ กับ 57 โรค........ ส่วนในเมืองไทยนั้น...ก็ได้รับการรับรองจาก...กระทรวงสาธารณสุข เช่นกัน......ในปี พ.ศ. 2541 ได้เริ่มมีการเปิดอบรม บุคลากรแพทย์....โดยการร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้..... ปัจจุบัน มีการเปิดสอนเต็มหลักสูตร ระยะเวลาเรียน 6 ปี...ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียว บางนา-ตราด ใครสนใจลองไปสอบถามข้อมูลดู...นะครับ จากคุณ : Mr. การรักษาโรคด้วยการฝังเข็ม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 23:23:40 A:110.4.31.120 X: TicketID:285494

ความคิดเห็นที่ 14 ฟังแล้วก็ยังงงๆว่าทำไมถึงไม่มีคำอธิบายให้ชัดเจนว่ามันมีกระบวนการรักษาอย่างไร จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 53 23:45:13 A:58.8.91.178 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 15 ผมไม่ิอ้วนนักหรอกนะ แค่มีพุง ซึ่งลดยากมาก ออกกำลังกายอยู่ แต่ก็ยังกินเยอะเพราะกินจุ แล้วก็อยู่จีนอยู่แล้ว อยากลองฝังเข็มดู เห็นคนฮ่องกงบอกว่าช่วยลดไขมันเฉพาะุจุดได้เลยอยากลอง แต่ว่าไปก็อยากรู้ว่าเพราะอะไร อยากรู้ว่า ห้าสิบเจ็ดโรคนั่นโรคอะไรบ้างอะครับ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 00:20:38

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านในการ์ตูนหมอแต่ง แบล็คแจค เขาบอกว่าเป็นหลักการเดียวกะการที่เรานวด กด แล้วรู้สึกสบาย ฝังเข็มคือการนวดแบบแอดวานซ์ เขาคงสังเกตกันว่ายิ่งกดนวดลึก ถูกจุด เอาของเล็กๆมากด มานวด ยิ่งสบาย โฟกัสมันเป็นจุดเล็กๆเข็มจิ้มเข้าที่จุดซะเลย คนคิดค้นช่างสังเกตมากเลย นึกไม่ถึง จริงเท็จเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่เหตุผลน่าสนใจดี จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 00:36:12 A:116.58.231.242 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นศาสตร์ระดับสูงที่อธิบายได้ยากครับ แต่มันเป็นของจริง อันนี้ยอมรับเลย จากคุณ : PromZero เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 00:54:28

ความคิดเห็นที่ 18 วันนี้ก็พาย่าไปฝังมาค่ะ ทั้งๆที่ก็ยังคลางแคลงใจในศาสตร์การรักษาแบบนี้อยู่ แต่ว่า ย่าเป็นคนที่อยากไป ไม่พาไปก็งอแงอีก คุยกับหมอก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง หมอพูกม่ายชัก- - แถมไม่กล้ามองตอนฝังเข็มอีกต่างหาก น่ากลัวมากๆสำหรับเรา  ข้อบ่งชี้ในการฝังเข็มองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ประกาศรับรองการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มตั้งแต่ปี 1979 ทั้งหมด 43 โรคหรือกลุ่มอาการ ต่อมาในปี 1995 WHO ได้รับรองการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มเพิ่มเติมอีกเป็นทั้งหมด 57 โรคหรือกลุ่มอาการ ดังต่อไปนี้ ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน, คออักเสบเฉียบพลัน และ กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน (Acute tonsillitis,pharyngitis and laryngitis)  เสพติดเหล้า, สุรา (Alcohol Addiction)  เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis)  กลุ่มอาการบาดเจ็บจากการฝึกหรือเล่นกีฬา (Athletics syndrome)  พยาธิในถุงน้ำดี (Biliary ascariasis)  ปวดจากนิ่วในถุงน้ำดี (Biliary Colic)  ถุงน้ำดีไม่เคลื่อนไหว (Biliary Dyskinesia)  หอบหืด (Bronchial Asthma)  โรคประสาท (Cardiac Neurosis)  การอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นระดับคอ (Cervical myofascitis)  การอักเสบของกระดูกสันหลังระดับคอ (Cervical spondylitis)  ปวดเรื้อรังของระบบเคลื่อนไหว (Chronic pains of the locomotor system)  ท้องผูก (Constipation)  ปรับท่าทารกในครรภ์ (Correction of abnormal fetal position)  ซึมเศร้า (Depression)  ท้องเสีย (Diarrhea)  ติดยาเสพติด (Drug Addiction)  ปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea)  ปัสสาวะไม่รู้ตัว (Enuresis)  โรค Tennis Elbow (Epicondylitis)  มีบุตรยากในสตรี (Female infertility)  นิ่วในถุงน้ำดี (Gall stone)  กระเพาะอาหารหย่อน (Gastroptosis)  ปวดศีรษะ (Headache)  อัมพฤกษ์ อัมพาตครึ่งซีก (Hemiplegia and other postapoplectic sequelae)  งูสวัด (Herpes zoster)  สะอึก (Hiccup)  ความดันโลหิตสูง (Hypertension)  ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension)  เสื่อมสมรรถภาพทางเพศในชาย (Impotence)  ปัสสาวะขัด (Incontinence of urine)  กระตุ้นให้เกิดการคลอด (Induction of labour)  Irritable bowel syndrome  จำนวนอสุจิน้อย (Leucopenia male sterility)  Meniere's syndrome  ไมเกรน (Migraine)  แพ้ท้อง (Morning sickness)  ปวดกล้ามเนื้อ (Myalgia)  การอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Myofascitis)  สายตาสั้นในเด็ก (Myopia in children)  คลื่นไส้-อาเจียน (Nausea and vomiting)  โรคอ้วนแบบปฐมภูมิ (Obesity, simple)  ปวดภายหลังการผ่าตัดต่อมทอนซิล (Pain after tonsillectomy)  ปวดภายหลังถอนฟัน (Pain after tooth extraction or pulp devitalization)  ปวดระหว่างคลอดบุตร (Pain during childbirth)  ไหล่ติด (Periarthritis humeroscapularis - frozen shoulder)  ปวดภายหลังการผ่าตัด (Postoperative pain)  Radicular pain syndrome  ปวดจากนิ่วในไต (Renal Colic)  ปัสสาวะคั่งค้างในกระเพาะปัสสาวะ (Retention of urine)  ข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)  ปวดหลัง (ร้าวไปขา) (Sciatica, lumbar pain)  Sprain and contusion  ข้อที่ขากรรไกรทำงานไม่ปกติ (Temporomandibular joint dysfunction)  ปวดศีรษะแบบ Tension headache  ติดบุหรี่ (Tobacco addiction)  ปวดประสาท Trigeminal (Trigeminal neuralgia) เครดิต : คุณหน่อย เภสัช เว็บ 212cafe จากคุณ : ~*นิกายแมวเหมียว*~ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 01:24:41

ความคิดเห็นที่ 19 เราเคยไปฝังเพราะมีอาการปวดหลังเวลานอนเรื้อรังเป็นปี หาสาเหตุไม่เจอ ไปนวดบ่อยมากก็ไม่เคยหาย ตอนไม่นอนไม่ปวด มันปวดๆจุกๆ ตรงหลัง จนนอนไม่ได้เลย พอเราไปฝังเข็ม มันก็หายไปเลย จนเราเชื่อว่ามันวิเศษมาก ถึงขั้นไปฝังเข็ม ครอบแก้ว จัดกระดูก (หมอจะหักคอเราดัวกร่อบๆ เสียงสยองมาก แต่ไม่เจ็บนะ ) อาทิตย์ละครั้งเลย ทำแบบนี้ประมาณ เกือบ 10 สัปดาห์ รู้สึกดีมาก หลับสบาย ถึงหลังจะเป็นจ้ำๆม่วงจากรอยครอบแก้ว มาถึงบางอ้อว่า การทำแบบนี้มันทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก เท่านั้นเอง ทำให้เรารู้สึกสบาย อยู่มาวันนึง แฟนเราปวดท้องโรคกะเพราะกำเริบ ปวดมาก เราก็ไปหาอ่านว่าจริงๆแล้วเค้ามีอาการปวดท้องแบบนี้มันน่าจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง เริ่มจากอ่านเรื่องโรคกระเพราะ แล้ว แล้ว แล้ว แล้ว เราก็อ่านเจออาการกรดไหลย้อน!!!! ทำให้เกิดอาการปวดหลัง...... เราก็เลยลองไปซื้อยาโรคกระเพราะมาทาน จริงๆไม่เคยปวดท้องเรื่องกระเพราะมาก่อนแต่อยากลองดู เพราะอาการของโรคมันเหมือนจะตรงๆของเราบ้าง เผื่อหายปวดหลัง ครั้งแรกได้ sanosec มา แพ้รุนแรงแขกตี้กันทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่รู้ตัวว่าแพ้ยา ยังกินต่อไปอีกสองวัน ทีนี้เอาหมอนไปนอนในห้องน้ำเลย T.T มาทุก 30 วินาที เราก็เลิกกินไปแต่แฟนเราไม่แพ้ยาตัวนี้ กินแล้วกลับหายปวดท้องด้วย เราก็เลยไปลองหายาตัวอื่นมาลองอีก (โรคจิตอยากรู้อยากเห็น) ทีนี้เราก็บอกเภสัชว่ามีอาการนี้ๆๆนะ แต่เราแพ้ sanosec เค้ากำลังจะคว้าขึ้นมาให้เลยหล่ะ พอเค้าได้ยินว่าแพ้ เค้าเลยเปลี่ยนเป็น dioxzye ให้แทนเป็นยาลดแก๊สในกระเพราะ เรากินสองเม็ดก่อนนอนทุกคืน อาการปวดแบบจุกหลังไม่เคยมาอีกเลย แผงละ 20 บาทมี10 เม็ดกินวันละ 2 เม็ด ตกวันละ 4 บาท หายปวดหลับสบายอีกต่างหาก ฝังเข็มครอบแก้วครั้งละ 350 พอหยุดไปซักสองอาทิตย์ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่ได้บอกว่าฝังเข็มมันไม่ดีนะ แต่ไม่พูดดีกว่า แหะๆ แล้วแต่คนละมั้ง ก็ทุกคนไม่ได้เป็นโรคเดียวกันหมดนี่นา จากคุณ : ynwtf เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 01:56:58

ความคิดเห็นที่ 20 บางทีวิทยาศาสตร์ปัจจุบันอาจจะอธิบายเรื่องเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนไม่ได้ครับ แต่ผลการรักษาสำหรับการฝังเข็มนั้น เท่าที่ผมและแม่เคยไปลองมา ถือว่าเห็นผลดีมาก ดีกว่าไปหาหมอตามคลีนิคกินยาอีกครับ คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน ลองไปถามคุณ yangtaiping ที่ห้องจีนศึกษา หรือว่าเข้าบล็อคนี้ http://aunlamun.exteen.com/ ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ได้ครับ ผมว่าถึงจะพิสูจน์ อธิบายไม่ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าผลการรักษาออกมาดี มันก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับ แหะ ๆ ^^ ---------- มาเพิ่มเติมครับ http://aunlamun.exteen.com/20090511/entry เอนทรี่นั้นคุณหมอเค้ามีเขียนเกี่ยวกับการฝังเข็มลดความอ้วนด้วยครับ เผื่อคุณ จขกท. สนใจ อิอิ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 02:05:16 จากคุณ : ระวังแตก เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 01:57:58

ความคิดเห็นที่ 21 1.โดยอ้อมคือ เข็มแทงลงไปตามร่างกาย ถูกจุดสำคัญ ถูกเส้นประสาท   ทำให้ร่างกายหลั่งสารที่ปกติสมองหลั่งน้อย หรือไม่ค่อยจะหลั่ง ออกมามากขึ้น เพราะได้รับการกระตุ้น เพื่อส่งให้ร่างกายเอาไปใช้บรรเทาอาการ 2.โดยตรงคือ เข็มแทงลงไปตามร่างกาย ถูกจุดสำคัญ ถูกเส้นประสาท ทำให้ร่างกายบริเวณนั้น ที่เราเจ็บปวด ปวดเมื่อยอยู่หาย เพราะร่างกายเห็นเข็มเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกายจึงหลั่งสารเคมีสำคัญ เอาไปรุมตรงจุดที่เข็มจิ้ม  จุดนั้นเลยได้ประโยชน์ในการบรรเทาอาการด้วย จากคุณ : Sakuder เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 04:45:21

ความคิดเห็นที่ 22 ความดันผมเคยถึง160/110 ไปฝังเข็มที่ ร.พ.ปิ่นเกล้า ฝังอยู่ปีกว่า ปัจจุบันเหลือ130/80ครับ ยืนยันด้วยอีกเสียง.. จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 05:10:08

ความคิดเห็นที่ 23 ฝังเข็มมันวิทยศาสตร์การแพทย์นิครับ ไสยสาสตร์ตรงไหน จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 06:28:39

ความคิดเห็นที่ 24 ก็เพราะฝังเสาเข็มนี่แหละ ภรรยาเลยท้อง จ้าาา แต่ก้อยู่ที่ขนาดเข็มด้วยนะ จากคุณ : ดีสโก้ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 09:01:27 A:202.12.118.61 X: TicketID:280158

ความคิดเห็นที่ 25 ฝังเข็มเป็นวิทยาศาสตร์คครับ เพียงแต่เป็นวิทยาศาสตร์ฝั่งตะวันออก ที่ศึกษาค้นคว้ากันนานเป็นพันปีละมั้ง.... ความไม่น่าเชื่อถือของมันก็มีเพียงแค่....  วิทยาศาสตร์ตะวันตก ยังไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ทั้งหมด  แค่นั้นเองครับ  ^__^ จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 11:27:17

ความคิดเห็นที่ 26 แม่เราปวดส้นเท้ามากๆ หมอที่โรงพยาบาลของรัฐก็รักษาด้วยการฝังเข็มนะ ตอนนี้ก็หายสนิทดี ....เคยอ่านบทความเกี่ยวกับแพทย์แผนจีน มีประโยคนึงบอกว่า  คล่อง...ไม่ปวด   ปวด...ไม่คล่อง   หมายความว่าถ้าเลือดลมไหลเวียนคล่องดีไม่ติดขัด ก็จะไม่ปวดหรือเจ็บป่วย แต่ถ้าติดขัด ก็จะทำให้มีอาการปวดหรือเจ็บป่วยได้ เราคิดว่าการฝังเข็มก็อาจจะไปช่วยทำให้เลือลมไหลเวียนดีเลยหายเจ็บป่วย จากคุณ : เต่าพันปี เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 13:06:40

ความคิดเห็นที่ 27 ฮาๆๆ #6  ขำเจ้าอั่งม้อ โดนปักเข็มเต็มตัวเลยไม่กล้าโดดตึกหนีไฟ ไม่รู้เรื่องฝังเข็มนะครับ แต่จะเล่าเรื่องคนไข้ไปหาหมอฝังเข็มให้ฟัง หลังจากท่องเที่ยวมาโชกโชน เจ้าหนุ่มก็สังเกตุเห็นบักจู๋ตัวเองบวมเป่ง มีหนองไหลเยิ้ม เจ็บปวดเป็นกำลัง จึงไปโรงพยาบาล พอหมอวินิฉัยเสร็จ ก็บอกต้องตัดบักจู๋ทิ้ง รักษาไม่ได้เพราะโรคลามไปมากแล้ว  เจ้าหนุ่มตกใจสุดขีด อ้ำอึ้งลังเล ขอกลับไปคิดดูก่อน ออกจากโรงบาลได้ก็ตรงลิ่วไปหาหมอจีน ซึ่งเก่งทางสมุนไพรและฝังเข็ม พอหมอจีนวินิฉัยเสร็จ ก็บอกเขาเป็นกามโรคและร้ายแรงด้วย  เจ้าหนุ่มจึงเล่าเรื่องที่หมอโรงพยาบาลจะตัดบักจู๋ให้หมอฟัง หมอจีนฟังแล้วทำหน้าเคร่ง พลางเอ่ยขึ้นมา หมอจีน : แพทย์แผงปักจุบังก็เปงยางงี้แหละ ชอบวินิกฉายผิกๆ เอะอะก็มีแต่จะตักลูกเลียว เจ้าหนุ่ม : ฟังแล้วตาลุกด้วยความหวัง พลางระล่ำระลักถามหมอว่า ของผมไม่ต้องตัดใช่ไหมหมอ รักษาได้ใช่ไหมครับ หมอจีน : พยักหน้าตอบ ช่าย ไม่ต้องตัก กิงยาปาย ทายาปาย เหลี่ยวมังเน่าก็หลุกออกเอง จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 15:11:52

ความคิดเห็นที่ 28 ผมเคยเป็นแบบ #6 ครับ แต่ไปหาหมอให้ยามากินไก็ไม่หาย หมอก็เลยฉีดยาให้หายเลยครับ เข็มเดียวครั้งเดียวด้วย หมอบอกว่าเป็นเส้นเอ็นอักเสบ จากคุณ : ตกลงตามนี้นะ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 15:32:15

ความคิดเห็นที่ 29 ชาวเอเซีย ค้นพบความเป็นมนุษย์มานาน จนกลายเป็นเรื่องปรกติ ความคิดวิทยาศาสตร์ แบบพุทธศาสนา ความรู้ด้านจิตวิญญาณ ความรู้ด้านการแพทย์ ความรู้ด้านสาธารณสุข ความรู้ด้านสังคม ฝรั่งเข้ามา ลดความเชื่อถือ เพื่อขายยาของตัวเอง เรารู้ทันกันหรือยัง ยาฝรั่ง ต้องกินก่อนอาหาร หลังอาหาร ก่อนนอน มีฤทธิ์เป็นกรด เป็นด่างเสมอ ผลข้างเคียงเยอะ ยาไทย ยาจีน กินได้ทั้งวัน กินให้อิ่มยังได้  ไม่มีฤทธิ มีแต่สรรพคุณ ใครฉลาดกว่าใคร ?  กันแน่ จากคุณ : labor_pu เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 15:58:22

ความคิดเห็นที่ 30 #28 ผมไม่ได้เป็นเส้นเอ็นอักเสบ หรือรองช้ำครับ เพราะก่อนจะกินยาหรือฝังเข็ม มีขั้นตอนซักอาการและรวมถึงมีการเอ๊กซ์เรย์ด้วย เผื่อว่าเป็นเกี่ยวกับกระดูกหรือหินปูน จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 17:13:24

ความคิดเห็นที่ 31 มันเป็นศาสตร์คนละแขนงกับตะวันตกครับ เอาตะวันตกมาอธิบายไม่ได้เพราะเป็นคนละอย่างกัน คำอธิบายเรื่องชี่มันถูกต้องอยู่แล้วเพราะมันอธิบายได้ ทำตามได้ ปัญหาคือต้องเปิดใจเรียนรู้ทฤษฎีอีกด้านบ้าง อยากหาข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำไปดูเวบhttp://thaiyinyang.com/ จากคุณ : donutpla2 เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 17:52:15

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เจ็บหรอกครับ ดูหมอโฮจุนมาเขาบอกว่ามันเป็นเข็มตัน ไม่ใช่เข็มกลวงแบบเข็มฉีดยา คงเจ็บไม่เท่า... จากคุณ : อุ่นหนาวสาวคลั่ง (tkung13) เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 19:46:59

ความคิดเห็นที่ 33 พ่อผมเคยปวดหลังบ่อย หนักมากนี่จะเดินไม่ไหวเลย ไปหาหมอแผนปัจจุบันเขาว่าต้องผ่าตัด และมีคนแนะนำให้หาหมอจีนดู ก็ฝังเข็ม กินยาีจีน เดี๋ยวนี้พ่อผมไม่ปวดหลังแล้วครับ แต่ผมเองเริ่มปวดหลังบ่อย - -" จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 19:49:58

ความคิดเห็นที่ 34 น่าจะเป็นการกระตุ้นปลายประสาท แทงอย่างเดียวบ้าง ปักจุดด้วยก้อนธูปบ้าง บางเจ้าซัดด้วยไฟฟ้า ยังดีที่ไม่พัฒนาต่อแบบไปจี้คนเป็นอัมพาตให้เดินได้โดยให้คอมควบคุมกล้ามเนื้อโดยส่งไฟฟ้าไปเลย - - จากคุณ : ceteris เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 21:38:32

ความคิดเห็นที่ 35 อ่าน คห สิบเก้า แล้วคิดตามได้ว่า หมอแผนปัจจุบันรักษาที่ต้นเหตุของโรคด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมอแผนจีน จะรักษาด้วยการให้เลือดลมหมุนเวียนดี โดยเน้นไปจุดที่มีอาการ แล้วร่างกายจะรักษาตัวมันเอง ทำให้การรักษาหายขาดในบางเรื่องก็สู้แผนปัจจุบันไม่ได้ ผมคิดว่างี้นะ คิดว่าไงบ้างครับ แต่ที่นี่ฝังเข็มทีละไม่ถึงร้อยบาท เพื่อนบอกอยู่ไทยฝังทีเท่านี้หลายร้อย ไว้ลองดูแล้วจะมาเล่าให้ฟัง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 22:46:25

ความคิดเห็นที่ 36 รู้ไหมครับว่ายาจำนวนมาก กระทั่งพาราเซตามอล เรายังไม่รู้กลไกการออกฤทธิ์ที่แน่นอนเลย :) จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 00:44:04

ความคิดเห็นที่ 37 #29 ไม่ใช่ครับ  ยาสมุนไพร ก็ไม่ใช้แบบนั้นไม่ได้ บางตัวอันตรายมาก ทีกินได้มากหน่อยก็พวกกึ่งผัก กึ่งสมุนไพร แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะกินได้ทุกวันหรือเยอะๆ ต่อเนื่องกัน มีผลร้ายแน่นอนครับ จากคุณ : Panda-baker เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 53 13:32:03