 |
จากการค้นพบโดย ดร.ขาว เหมือนวงษ์ พบว่าสุริยุปราคาในครั้งนั้น (30 เมษายน 2231) เป็นสายพันธุ์ (ซารอส) เดียวกันกับที่เกิดขึ้นในสมัย ร.4 วันที่ 18 สิงหาคม 2411 กล่าวคือ 1 ซารอสใช้เวลา 18 ปีเศษ หรือเกิดขึ้นห่างกันมา 10 รอบซารอส หรือ 180 ปีนั่นเอง และนั่นก็เป็นปีสุดท้าย แห่งการครองราชย์ของทั้งสองพระองค์เช่นกัน (ขนลุกจัง)
นั่นไม่ใช่สุริยุปราคาครั้งเดียวในรัชสมัย ตลอดเวลาครองราช 32 ปี พบสุริยุปราคาบางส่วนถึง 11 ครั้ง คือวันที่ 1 มิถุนายน 2201, 16 มกราคม 2208, 5 มกราคม 2209, 2 กรกฎาคม 2209, 30 เมษายน 2212, 11 มิถุนายน 2219, 5 ธันวาคม 2219, 30 มีนาคม 2223, 24 กรกฎาคม 2226, 5 พฤศจิกายน 2230 (หลังเกิดจันทรุปราคาแล้วยังมีสุริยุปราคาที่ไม่ได้สังเกตุหนึ่งครั้ง), และสุดท้าย 30 เมษายน 2231
ในบรรดาที่กล่าวมานั้นยังมีอยู่ครั้งนึงที่น่าสนใจที่สุด นั่นคือครั้งที่เกิดวันที่ 30 เมษายน 2212 มันแปลกดังนี้ 1. เกิดวันที่ 30 เมษายน เหมือนกัน (ก่อนกัน 19 ปี) 2. เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงเหมือนกัน แต่เริ่มขึ้นด้วยแบบวงแหวน แล้วมาเป็นเต็มดวงในระหว่าง และจบลงด้วยแบบวงแหวนอีกครั้ง เรียกว่าแบบวงแหวน-เต็มดวง หรือแบบผสม สุริยุปราคาประเภทนี้โอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก และเส้นแนวคราสยังเล็กมากด้วย 3. แนวคราสพาดผ่านสยามประเทศด้วย โดยส่วนที่พาดผ่านนั้นเป็นแบบเต็มดวง แต่น่าเสียดาย ไม่ผ่านลพบุรีหรืออยุธยา
แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 18:06:39
แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 53 17:49:25
จากคุณ |
:
สมภพ เจ้าเก่า
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ธ.ค. 53 17:43:10
|
|
|
|
 |