ความคิดเห็นที่ 1 Dianetics นิยายที่กลายมาเป็นทฤษฎีจิตวิทยา!?!? จนในปี 1949 ที่เขาเริ่มเขียนบทความเรื่อง Dianetics (ไดอาเนทิค) ขึ้นมา ฮับบาร์ด เป็นนักอ่านตัวยง เขาสร้าง ไดอาเนทิค ขึ้นมาจากแนวคิดของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ โดยเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการรักษาทางจิตใจ และวิธีการทำ Auditing ที่เป็นการให้คนพูดคุยเจาะลึกลงในจิตใจของคนเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดทางกายภาพที่มนุษย์ถูกโปรแกรมไว้ บทความ Dianetics นี้ได้ลงในวารสาร Astounding Science Fiction ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับนิยายไซไฟ และมีความพยายามจะเอาไปลงยังวารสาร American Medical Association และ the American Journal of Psychiatry แต่ไม่ผ่านการพิจารณา[2] แต่หนังสือ ไดอาเนทิค ก็ยังสามารถขายได้ถึง 150,000 เล่ม ภายในปีแรก โดยที่หนังสือเป็นการเขียนเกี่ยวกับทฤษฏีสุขภาพจิตที่แต่งขึ้นมาโดยตัว ฮับบาร์ดเอง โดยไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มวิชาชีพหรือวิชาการใดๆ มันเป็นหนังสือวิทยาศาสตร์เทียมที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าปกเลียนแบบนิยายวิทยาศาสตร์ (ยอดขาย ไดอาเนทิค ณ ปัจจุบัน ขายได้ถึง 18 ล้านเล่ม ดู http://thai.dianetics.org/index.htm) Ron L. Hubbard ผู้ก่อตั้งลัทธิไซแอนโทโลยี จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:21:28

ความคิดเห็นที่ 2 ศาสนาหลุดโลก ลอร์ด Xenu จักรพรรดิ์ทมิฬและการล้างความทรงจำ ฮับบาร์ดก็ยังไม่หยุดแค่นั้นเขาได้สร้างศาสนา ไซแอนโทโลยี โดยอ้างอิงโครงจากหนังสือ ไดอาเนทิค ที่เขาเขียน หลักการใหญ่ๆของลัทธินี้เป็นการสร้างการสำนึกถึงกลศาสตร์ทั้ง 8 คือการให้ความสำคัญกับ 1. ตัวเอง 2. ความคิดสร้างสรรค์ 3. การอยู่รอดของสังคม 4. การอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ 5. การอยู่รอดในฐานนะสิ่งมีชีวิต 6. การคงอยู่ของจักรวาลที่เป็นรูปธรรม 7. การคงอยู่ของจิต และ 8. การเข้าสู่สภาวะอนันต์ เทียบได้ประมาณนิพพานหรือ Being one with the Force [3] ตรงข้อ 1-6 นั้นคงไม่ใช่ปัญหาเท่าไรแต่มันจะเริ่มมีปัญหาเมื่อพูดถึงสิ่งที่อยู่เลยฟิสิกส์ไปเป็นจิต วิญญาณ โลกเหนือโลก เพราะโดยทางศาสนา จะให้เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ต้องมีนิยายมาประกอบกันสักหน่อย และ นี่เป็นนิยายที่ค่อนข้างน่ากลัวอยู่ไม่น้อยทีเดียว นิยายที่เรียกว่าไซแอนโทโลยีนี้ มีการกล่าวถึงลอร์ด Xenu (เซนู) ผู้ชั่วร้ายที่นำพวกเราซึ่งเป็นนักโทษมาทิ้งลงในปล่องภูเขาไฟของ Teegeeack (ชื่อที่ ฮับบาร์ดบอกว่าเป็นภาษาต่างดาวของโลก) เมื่อ 75,000,000 ปีที่แล้วด้วยยานอวกาศที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเครื่องบิน DC8 (เราสร้างเครื่องบินรุ่นนี้มาเพราะ Engram ที่อยู่ในตัวเรา) ทิ้งระเบิดปรมณูใส่ทำลายร่างเนื้อของเรา และเอาเรามาล้างสมองโปรแกรมใส่ความเชื่อเรื่อง พระเจ้า ปิศาจ นรก สวรรค์ ศาสนา และปล่อยเราทิ้งไว้อย่างนี้ ซึ่ง ลอร์ด Xenu เองก็ถูกปฏิวัติและจับมาขังทิ้งไว้บนโลกนี้เช่นกัน ส่วนพวกเราก็ยังติดกับดักของการล้างสมองและเวียนไปมาระหว่าง โลก -> เครื่องล้างสมอง -> ทิ้งลงทะเลที่โลก -> เข้ามาหาร่างเนื้อของมนุษย์หรือสัตว์ที่กำลังจะเกิด และสาเหตุที่มนุษย์จะมีความรู้สึกพรั่นพรึงแต่ก็ถูกดึงดูดต่อภาพลักษณ์ภูเขาไฟ ก็เนื่องมาจากเหตุการณ์ใน OT III ที่พวกเราถูกกระทำโดยลอร์ด Xenu นี้[2][4] รูปหนังสือ ไดอาเนทิคเวอร์ชั่นภาษาไทย จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:25:08

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วไอ้ที่มาของเรื่องแต่งนี้ ฮับบาร์ดรู้ได้อย่างไรกัน เรื่องราวต่างๆที่เพิ่มขึ้นมานี้ ฮับบาร์ดอ้างว่าเขารับรู้ผ่านกระบวนการ Auditing ซึ่งเขารับรู้ได้เพราะเขาเคลียร์โปรแกรมที่ถูกฝังไว้กับตัวเขา แล้วจึงนำมันมาเขียนเป็นคอร์สการเคลียร์โปรแกรมขายในลัทธิไซแอนโทโลยี การผ่านระดับสูงสุด ของการ Audit เพื่อบำบัด Engram นั้น รอน ฮับบาร์ด ได้อธิบายไว้ว่า "A thetan who is completely rehabilitated and can do everything a thetan should do, such as move MEST and control others from a distance, or create his own universe." [W2] Thetan ที่สามารถผ่านกระบวนการบำบัด (ข้อจำกัดโปรแกรมโดย Xenu) จะสามารถทำทุกสิ่งที่ Thetan ทำได้ เช่น เปลี่ยนแปลง MEST (Mass – Energy – Space – Time) สามารถควบคุมผู้อื่นได้ไม่จำกัดระยะ หรือแม้แต่สร้างจักรวาลส่วนตัว ตรงนี้เอาเข้าจริงมันก็เป็นการอ้างตัวเอง เหมือนกับพวกวิทยาศาสตร์ทางจิต พวกหมอผี หรือกาฝากศาสนาบ้านเราที่อ้างอิทธฤทธิ์ปาฏิหารย์หรือญาณวิเศษที่ถูกเอามาทำให้ดูคล้ายจะเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ข้อกล่าวอ้างของฮับบาร์ดที่ว่ามนุษย์เราสามารถเคลียร์โปรแกรมที่ปลูกฝังปิดกั้นขีดจำกัด Thetans ของเราแล้ว มนุษย์เรามีความสามารถจะควบคุม MEST (Mass – Energy – Space – Time) ได้โดยอิสระ [ ดู http://en.wikipedia.org/wiki/MEST_(Scientology) ] ข้อกล่าวอ้างสิ่งที่ไม่รู้นี้ ในประเทศไทยบางทีคนพูดก็ยังเป็นระดับอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เสียด้วย (ไม่เชื่อดูที่นี่ [5]) การปฏิบัติแบบตัวเองอ้างตัวเองไม่มีหลักฐานทางวัต:-)่อมแยกไม่ได้หรอกระหว่างสิ่งที่รู้จริงกับสิ่งที่เห็นเพราะอาการ Delusion คนเป็นโรคโกหกตัวเองก็เห็นภาพเห็นผีปีศาจเทวดานางไม้ แล้วงั้นจะบอกว่าโรคโกหกตัวเองนั่นละคือเนื้อแท้ของญาณวิเศษที่สุดแสนจะเป็นวิทยาศาสตร์เสียกระนั้น!?!?  การอ้างอิงไปที่ตัวเองแล้วใช้เป็นหลักฐาน มันคือการสร้างข้อสรุปโดยสมมุติฐานมันก็คือเหตุผลวิบัติในลักษณะการจับแพะชนแกะดีๆนี่เอง กระบวนการ Audit ของไซแอนโทโลยี ไม่แตกต่างอะไรกับกระบวนการสะกดจิต เพราะมันต้องดำเนินตามแนวทางที่ ฮับบาร์ด เพ้อ โดยไม่มีหลักฐานอะไรเป็นวัตถุ เอามาเขียนเป็นคอร์ส แล้วต้องเพ้อให้ตรงตามนั้นด้วย กรณีที่ตาฮับบาร์ดละเมอเพ้อได้ขนาดนั้น อาการ Delusion ลักษณะดับกล่าวอาจใกล้เคียงกับกระทู้ที่ยายโอ้ละหนอเขียน ลองอ่านต่อที่ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9995026/X9995026.html และละโดยส่วนตัว ผมว่าตาฮับบาร์ดเข้าข่ายเป็นโรคโกหกตัวเองระดับหนักทีเดียว รูป E-Meter ที่คุณหมูเหมียวเคยเอามาลงไว้นี่ก็ของ ฮับบาร์ด เครื่องนี้เป็นเครื่องวัดความต้านทานไฟฟ้า แล้วเขาไปวัดความต้านทานไฟฟ้าของมะเขือเทศที่กำลังหั่นแล้วสรุปมาว่ามะเขือเทศกรีดร้อง!?!? แค่มีเนื้อเหล็กแทรก หรือการฉีกขาดของตัวนำ ความต้านทานมันก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้วละ ไอ้คุณฮับบาร์ด แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 53 13:31:06 แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 15:48:02 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:28:38

ความคิดเห็นที่ 4 การกอบโกยและอำนาจมืดของลัทธิไซแอนโทโลยี กระบวนการ Audit เพื่อเคลียร์แต่ละครั้งใช้ค่าใช้จ่ายไม่น้อย ในระดับเริ่มต้น มักจะใช้ในรูปของการตั้งบูธบอกเป็นการวัดความเครียดฟรี แต่คอร์สที่ตามๆมา อย่างน้อยที่สุดที่มีอ้างอิงในวิกิพีเดียจะมีค่าใช้จ่ายต่อคอร์สตั้งแต่ 2,000 – 30,000 เหรียญสหรัฐ[w1] เพราะค่าใช้จ่ายคิดเป็นรายชั่วโมง จึงมีความลักลั่นของการสูบเลือดสูบเนื้อของคอร์สดังกล่าว ประมาณการค่าใช้จ่ายจนถึงระดับ OT8 อยู่ที่ 300,000 เหรียญสหรัฐ และมันยังมีถึง 15 ระดับ[w2] Concept ของลัทธินี้มันช่างคล้ายกับลัทธิจานบินที่ใช้เงินซื้อบุญหรือซื้อนิพพานได้เสียจริง นอกจากนี้ เพราะการที่ลัทธิดังกล่าวต่อต้านกระบวนการรักษาโดยองค์ความรู้ทางจิตวิทยารวมไปถึงการแพทย์สมัยปัจจุบัน ผู้ถูกล้างสมองโดยลัทธิไซแอนโทโลยีมีการบังคับคู่สมรส หรือ บุตร-บุตรี ห้ามการเข้าหาการแพทย์สมัยปัจจุบันด้วย บูธเชิญวัดความเครียดฟรีที่ลัทธิไซแอนโทโลยีใช้เป็นก้าวแรกในการดึงดูดความสนใจ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:31:30

ความคิดเห็นที่ 5 กลุ่มสมาคม Sea-Org ลัทธิไซแอนโทโลยีมีการตั้งกลุ่มสมาคม Sea-Org  ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายเป็นทหารส่วนตัวเพื่อปกป้องและรับใช้ลัทธิไซแอนโทโลยี โดยมีการลอกเลียนโครงสร้างของ Galactic Confideracy  ซึ่งครอบครองจักรวาลอยู่ 80,000,000,000,000ปี ในขณะที่อายุของจักรวาลตามการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันระบุไว้ที่ 13,700,000,000 ปี (อาจเป็นนิสัยส่วนตัวของนักแต่งนิยายที่ชอบตัวเลข “0” ตามเยอะๆ) สมาชิกองค์กรดังกล่าวเป็นลูกจ้างและมีหน้าที่รับใช้ลัทธิไซแอนโทโลยี และต่อต้าน ลอร์ด Xenu ตามเนื้อเรื่องหรือนิยายที่ ฮับบาร์ด แต่งขึ้นมา สมาชิกของ Sea-Org จะต้องเซ็นรับรองว่าจะรับใช้ลัทธิ ไซแอนโทโลยี เป็นเวลา 1,000,000,000 ปี แม้ตายไปแล้วก็ต้องกลับมารับใช้ แม้จะดูเหมือนนิยาย และไม่น่าจะมีคนเชื่อ แต่ก็มีหลักฐานจาก LA-Time ปรากฏอยู่ตามรูปด้านล่าง[6] ลูกจ้าง Sea-Org ได้รับค่าจ้างเพียงน้อยนิด ประมาณ 25-75 เหรียญสหรัฐต่อปี และเป็นผู้ดำเนินการตาม Rundown 2-45 (Colt 45 double slide) เพื่อขับไล่ Thetan ที่เป็นปัญหากับลัทธิออกจากร่างเนื้อ [7] ผู้เป็นสมาชิกของ Sea Org จะถูกแนะไม่ให้มีทายาท หรือครอบครัวเพื่อจะอุทิศเวลาให้กับลัทธิฯ ได้เต็มที่ ทั้งนี้ มีการบ่งชี้ว่ามีการบีบให้สมาชิกทำแท้งเพื่อที่จะไม่ถูกส่งลงไปทำงานระดับล่างยิ่งกว่า Sea Org ทั้งๆที่หน้าฉากลัทธิไซแอนโทโลยีต่อต้านการทำแท้ง[w3] อาจดูเป็นเรื่องตลก แต่สัญญาด้านล่างนี่ ลัทธิ Scientology เขาเอาจริง แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 10:34:50 จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:33:55

ความคิดเห็นที่ 6 การต่อต้านลัทธิไซแอนโทโลยี เพราะไซแอนโทโลยีใช้ความงมงายเป็นโครงสร้าง ผู้บริหารของไซแอนโทโลยี ก็งมงายในเรื่องโกหกที่ ฮับบาร์ดสร้างขึ้นมา และมีแนวทางการปฏิบัติที่ก้าวร้าวด้วยเจตนาดีต่อผู้ที่ยังถูกล้างสมองโดย Xenu (พวกเรา – คนศาสนาต่างๆ) ในช่วงหนึ่ง Hollywood ตกอยู่ในการยึดครองของ ไซแอนโทโลยี และคนที่แสดงการต่อต้านจะถูกบีบจากเพื่อนดาราและนายทุนไม่ให้ได้ผุดได้เกิด ความรุนแรงที่แผ่ออกมาภายนอกเมื่ออิ่มตัวก็ได้รับปฏิกิริยาต่อต้านจากทั้งฝั่งศาสนา และกลุ่มคนที่พยายามจะแยกตัวจากลัทธิแต่ถูกต้าน โจมตี ทำร้าย (ทั้งในแง่ร่างกายและจิตใจ เช่นการใช้ข่าวลือ) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการกีดกันทางเพศ ที่แฝงอยู่ในกระบวนการ Audit ในส่วนการ Audit ที่น่ากังขา ผู้สนใจอาจชมวีดีโอตัวอย่าง หรืออ่านจากอ้างอิง[w4] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:35:57

ความคิดเห็นที่ 7 การประท้วงต่อต้านลัทธิไซแอนโทโลยีในสหรัฐ [8] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:36:27

ความคิดเห็นที่ 8 กดเร็วไปนิด ขออภัยครับ การประท้วงต่อต้านลัทธิไซแอนโทโลยีในสหรัฐ [8] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:37:01

ความคิดเห็นที่ 9 ลัทธิไซแอนโทโลยีไม่ได้รับการยอมรับในฐานะศาสนา หรือถูกเหยียบเบรคเมื่อรับรู้ข้อมูลอันตรายของศาสนานี้ และในหลายกรณีถูกบ่งชี้เป็นอันตรายต่อความมั่นคงในประเทศ เบลเยี่ยม แคนาดา ชิลี เดนมาร์ค ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอร์มัน กรีก ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ รัสเซีย สวิส อังกฤษ แต่ก็ยังมีประเทศเช่น ออสเตรเลีย ออสเตรีย บราซิล โครเอเทีย อินโดนีเซีย คาซัคสถาน นิวซีแลนด์ โปรตุเกส สโลเวเนีย อาฟริกาใต้ สเปน สวีเดน ไต้หวัน อเมริกา เวเนซูเอลา ที่ยอมรับลัทธิไซแอนโทโลยีในฐานะศาสนา [w5] กลุ่มผู้นำทางศาสนาของ East Grinstead ในอังกฤษออกข่าวเตือนให้ระวังลัทธิไซแอนโทโลยี[9] จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:38:00

ความคิดเห็นที่ 10 ในประเทศไทย สำหรับในไทย ลัทธินี้เพิ่งเริ่มเข้ามาเผยแพร่ในฐานะองค์กรอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม โดยเริ่มต้นกับกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างภาพพจน์องค์กร ผมขอไม่กล่าวถึงชื่อมหาวิทยาลัยเนื่องจากตรงนี้เป็นพื้นที่เปิดแต่ทุกท่านย่อมสามารถหาข้อมูลได้แค่กดเข้าไปในลิงค์ของลัทธิ ไซแอนโทโลยีในไทย แม้ลัทธิดังกล่าวยังไม่โผล่หางออกมา แต่จากประวัติที่มันทำไว้ในต่างประเทศ เราก็น่าจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งลัทธิอันตรายนี้มิให้แพร่เชื้อความวิบัติในประเทศไทย อย่างน้อย ก็ขอให้เข้าใจโดยทั่วกันว่า ลัทธินี้ไม่ได้อิงหลักวิทยาศาสตร์อันใด มันเป็นแค่ Pseudo Science ไม่ต่างจากพวก น้ำมะเร็ด หรือ พวกปลั๊กประหยัดน้ำมัน หรือ ดุ้นวิทยาศาสตร์จับระเบิด จะให้ดีเรามาร่วมมือกัน. “ทำแท้ง” ลัทธิวิปลาสนี้ก่อนมันจะแข็งแรงเป็นมะเร็งสังคมกันเถิด อ้างอิง [1] http://web.archive.org/web/20080107034943/http://www.latimes.com/la-scientology062490,0,7104164,full.story [2] http://www.solitarytrees.net/pubs/skent/creation.htm?FACTNet#txtref02 [3] http://www.scientology.org/what-is-scientology/basic-principles-of-scientology/eight-dynamics.html [4] http://www.clambake.org/archive/books/mom/Messiah_or_Madman.txt [5] http://www.tnnk-sunday.com/forum/index.php?topic=59.0 [6] http://latimes.image2.trb.com/lanews/media/acrobat/2005-12/21006456.pdf [7] http://www.skeptictank.org/r2-45.htm [8]http://dcist.com/2008/02/11/anonymous_scien.php [9] http://www.lermanet.com/cos/christian.html ลิงค์ในวิกิ [w1]http://en.wikipedia.org/wiki/Scientology_as_a_business [w2]http://en.wikipedia.org/wiki/Operating_Thetan [w3] http://en.wikipedia.org/wiki/Sea_Org [w4] http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Scientology_Security_Checks [w5] http://en.wikipedia.org/wiki/Scientology_status_by_country ลัทธิไซแอนโทโลยีในไทย http://www.thaivm.org/ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:41:56

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วน่ากลัวเกิดมันแพร่ไปในสังคมปิดแต่มีอำนาจอย่างพวกชนชั้นสูงน่ากลัวว่าประเทศจะล่มจมยิ่งกว่าเดิม จากคุณ : devil amature2 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:51:10

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้โห ภาวนาว่าอย่าไปจับมือกับจานบินนะครับ จากคุณ : อ้อมกอด เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 10:56:06

ความคิดเห็นที่ 13 แวะมาแถมครับ การ์ตูน South Park กัด Scientology ใว้อย่างแสบมากๆ ครับ http://www.southparkstudios.com/clips/104274/what-scientologist-actually-believe ลองดูครับ 3 นาที เรื่้องของ Lord Xenu  ฮามากๆ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 11:15:44 จากคุณ : w|N เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:00:29

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ   ถ้าเขามีประท้วงแถวใกล้บ้านจะไปร่วมกับเขาด้วย   น่ากลัวกว่าที่เคยรู้มากเลยค่ะ จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:01:19

ความคิดเห็นที่ 15 เช็คชื่อ ช่วงนี้อยู่ในโหมตวุ่นวาย ขอเก็บข้อมูลอย่างเดียว จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:13:45

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นหนังสือนิยายเหรอค่ะ จากคุณ : - ผ่านมา - เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:19:22 A:115.87.47.210 X: TicketID:192466

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้ามันเป็นนิยายก็คงจะดีละครับ มันเป็นศาสนาที่ในไร้สาระนุกรมฉบับอังกฤษบ่งชี้ไว้ว่า ถ้าคุณคิดว่าที่เราเขียนตลกแล้ว ให้ลองไปอ่านในวิกิพีเดียจะยิ่งตลกกว่า โดยเฉพาะในส่วน Space Opera "Wikipedia has a page on Scientology, but it probably looks the same as this one." ไม่เชื่อสินะครับ กดดูโลด http://uncyclopedia.wikia.com/wiki/Space_Opera_in_Scientology จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:26:59

ความคิดเห็นที่ 18 เราว่า  รอน ฮับบาร์ด เป็นโรคจิตเภท แต่ยังจัดการจิตใจ/สมองได้ดีอยู่ คนแบบนี้เขียนหนังสืออ่านมันส์เลยล่ะ สร้างเรื่องได้ยังกะเคยไปเดินเล่นกะลอร์เซนูมาแล้ว พวกดาราฮอลลีวู้ดที่คลั่งไซแอนโทฯ นี่ก็เยอะเหมือนกันนะ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:05:55

ความคิดเห็นที่ 19 โหวตๆ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:17:00

ความคิดเห็นที่ 20 น่าส่งนาธานไปสู้ เอ ถ้ามันเข้าร่วมกันนี่ไม่......เลยหรือ จากคุณ : kula_beauty เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:19:48

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไง Pastafarian ผมก็เจ๋งกว่าอยู่ดี จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:21:01

ความคิดเห็นที่ 22 น่ากลัวแฮะ เมีย ทอม ครูซ ก็เข้าลัทธินี้ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5_%E0%B9%82%E0%B8%AE%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C http://en.wikipedia.org/wiki/Scientology จากคุณ : ของเล่นใหม่ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:42:51

ความคิดเห็นที่ 23 ลงชื่อร่วมต่อต้านด้วยคนครับ กดเข้าไปดูในเว็บของไทยของมันแล้่วนี่ มาแนวช่วยเหลือสังคมก่อนเลยทีเดียว ไอพวกนี้อีกแล้ว!! จากคุณ : ถุงเท้าข้างเดียว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:08:10

ความคิดเห็นที่ 24 Church of Scientology - -*!!!!! จากคุณ : nutnarukex เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:52:42

ความคิดเห็นที่ 25 ผมยังเป็นพุทธ และเท่าที่ได้ "อ่าน" คำสอนของหลากลัทธิ หลายศาสนา ผมก็ยังเป็น "พุทธมามกะ" ครับ ปล.ขอบคุณที่เอามาเผยแพร่ครับ รายละเอียดดีมากเลย เหมือนๆว่าจะมีเพื่อนสมาชิกเอามาตั้งคำถามได้สักพัก คงมีคำตอบแล้ว น่าเสียดายตรงที่ถ้าเรารู้ แต่พอไปอธิบายให้คนที่เริ่มจะเชื่อฟัง เขาไม่ค่อยจะฟังนี่สิ ยิ่งบ้านเรา คนส่วนมากชอบที่จะเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นไว้ก่อนซะด้วย จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:16:58

ความคิดเห็นที่ 26 ลัทธินี้ดังขนาดไหน  ดาราที่คลั่งลัทธินี้ถึงกับออกทุนสร้างหนังจาก หนังสือของ  รอน แอล ฮับบาร์ด ด้วย    บ้านเรายังเคยเอามาฉายเลย... จากคุณ : ole (trufa) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:34:48

ความคิดเห็นที่ 27 ไปเข้าพาสตาฟาเรียนยังดีซะกว่า จากคุณ : PanJ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:49:50

ความคิดเห็นที่ 28 -*- เว็บของไทย .... http://www.thaivm.org/ อ่านครั้งแรกนึกว่ามันย่อมาจาก ..... Thai Virtual Machine ..... มาแนว เว็บสมาคมคนเขียน จาว่า -*- จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:57:47

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าลัทธิจานบินน่ากลัวกว่าเยอะนะ แถมหยุดไม่อยู่แล้วด้วย จากคุณ : ~Lonely_Fox~ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 15:35:49

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่มีทางจับมือกับจานบินแน่นอน  เพราะเดี๋ยวแย่งลูกค้า  เอ๊ย  ศาสดานุศิษย์กัน จากคุณ : XziBitch เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 15:46:34

ความคิดเห็นที่ 31 Scientology แค่ล้างสมอง รึ จะสู้ นักเทนนิส จากจานบิน ที่สามมารถลอยขึ้นไปแล้วตบจะเบิดทีเดียวไปถึงญี่ปุ่น ได้ การออกแรงตอนปัดระเบิดนั้น มันน่าจะแรงพอที่ทำให้ระเบิดเกิดระเบิดขึ้นทันทีที่ปัด หรือต้องกินมะเขือเทศเขตร้อนแล้วลอยขึ้นไปปัดระเบิดโดยการทำมุมอะซิมุท ช่วยทดลองทีครับ! จากคุณ : อ้อมกอด เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:10:35

ความคิดเห็นที่ 32 โอ้... เคยเห็นไม่คิดว่าหนักขนาดนี่ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:15:23

ความคิดเห็นที่ 33 ฮับบาร์ด อาจมีอาการกระแสประสาทของสมองส่วน Temporal lobe ผิดปกติ เพิ่งอ่านเรื่อง Neurotheology จากกระทู้คุณโอ้ละหนอ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:43:34

ความคิดเห็นที่ 34 จานบินยังเอาไม่อยู่เเล้วไอ้ลัทธินี้เข้ามาอีก สงสารประเทศไทย เราจะหยุดมันยังไงดี ยิ่งคนไทยเชื่ออะไรง่ายๆอยู่ด้วย จากคุณ : BoyZzZyoH เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:56:50

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่อยากดราม่า แต่ใครจะรู้ล่ะว่าบรรดาศาสดาของศาสนาใหญ่ๆ ของโลก หรือลัทธิที่เลื่อนขั้นมาเป็นศาสนาโดย สมบูรณ์ในภายหลัง จะเป็นคนประเภทเดียวกับนาย Hubbard เพียงแต่กาลเวลาขัดเกลาจนทำใ้ห้คำสอนดูแนบเนียน น่าเชื่อ และดูเป็นสัจธรรม ถ้าไม่เชื่อลองไปอ่านคำสอนของ Mormon นิกายหนึ่งในศาสนาคริสต์ (แต่บางคนก็ให้เรียกว่าเป็นศาสนาหนึ่งไปเลย) คุณจะพบว่าไม่ต่างจากเรื่อง Lord Xenu เท่าไหร่ ของไทยก็มีเรื่องแม่ชีปัดระเบิด หรือเครื่องประดับส้มตำไก่ย่าง ของธรรมกาย ถ้าจะให้แก้ปัญหาจริงๆ ผมว่าการแบนแต่ละลัทธิไปเลยเป็นการเลือกปฏิบัติ และแก้ปัญหาปลายเหตุเกินไป สิ่งที่ควรทำ (แต่ผมรู้ว่าไม่มีทางเกิดขึ้นในเมืองพุทธแบบประเทศไทยแน่นอน) คือรัฐปล่อยให้ศาสนา และลัทธิต่างๆ มีเสรีภาพใน การเผยแผ่ แต่ตัวรัฐห้ามยุ่งทั้งสนับสนุน และกีดกัน (เช่น นายกไม่ควรไปเป็นประธานพิธีทางศาสนา ในฐานะนายก รัฐมนตรี ในเวลาราชการ) แล้วให้แต่ละองค์กรศาสนา หรือวัดต้องยื่นแบบภาษีเงินได้เหมือนนิติบุคคลทั่วไป (แม้ สุดท้ายอาจจะไม่ต้องเสียภาษี) รวมทั้งนักบวชด้วย มีการเปิดเผยบัญชีัชัดเจน เราจะได้รู้ว่าเงินที่เราทำบุญ บริจาค ไป เอาไปใช้ทำอะไรบ้าง ถ้าเราพบว่าเงินถูกเอาไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์จริงๆ เช่น คนบริจาคเพื่อสร้างจานบินขนาดสิบสนามฟุตบอล เงินก็ เอาไปใช้ก่อสร้างจริงๆ หรือบริจาคเพื่อสร้างรูปปั้น Hubbard ขนาดตึกสิบชั้น แล้วเอาเงินไปก่อสร้างจริงๆ ก็ ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเอาเงินสร้างจานบินไปซื้อรถเบนซ์ ที่ดินส่วนตัว หรือใช้สนับสนุนพรรคการเมือง นั่นก็ต้องโดน ลงโทษครับ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:57:14

ความคิดเห็นที่ 36 ในเมืองไทย นอกจากจะมี Scientology พยายามแพร่เชื้อของตัวเองเข้ามา ก็ยังมีลัทธิอะไรแปลกๆ ต่างๆ นานา ยั้วเยี้ยเยอะแยะเต็มไปหมด จะเพราะว่าคนไทยเรามีจิตใจที่อ่อนแอ ต้องหาที่พึ่งพิงยึดเหนี่ยว ไม่ว่ามันจะดูงมงายขนาดไหน หรือเพราะว่าการศึกษา และการอบรมบ่มเพาะเสี้ยมสอนให้คนไทยสักแต่ "เชื่อ" กันแน่ จากคุณ : ปลายลมหนาว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:03:00

ความคิดเห็นที่ 37 Raelian อีกอัน จากคุณ : Caroline McAden เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:15:15

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ Geneticist ผมเข้าใจคุณ แต่ประเด็นตรงนั้นเป็นประเด็นความขัดแย้งของเสรีนิยมกับศาสนนิยม ส่วนประเด็นกระทู้นี้จะเน้นไปที่การอ้างความเป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้ลัทธิดังกล่าวเข้าข่ายเป็น วิทยาศาสตร์เทียม เป็นการแอบอ้าง โดยส่วนตัว สำหรับลัทธิจานบินนี่ผมว่าอันตราย แต่มันก็จะยังไม่ละเมิดวิทยาศาสตร์เท่าไร เทียบกับลัทธินี้น่ะครับ ความจริงในเวอร์ชั่น FB ผมมีกัดศาสนาเจ็บกว่านี้ แต่เอาออกเพราะจะเอาให้อยู่แค่ในส่วนการเป็นวิทยาศาสตร์เทียมน่ะครับ ส่วนเรื่องการเกิดศาสดา ผมว่าคุณ Geneticist น่าจะสนใจบทความของแมวดำแน่ๆ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9995026/X9995026.html ตรงนี้จะตรงกับประเด็นที่คุณตั้งข้อสมมุติฐานมากทีเดียว จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:16:04

ความคิดเห็นที่ 39 เอนมา เอนมา ~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:25:52

ความคิดเห็นที่ 40 ชาบู ชาบู ~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:28:21

ความคิดเห็นที่ 41 กระทู้นี้เจ๋งแฮะ จากคุณ : Winter Tear เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:43:51

ความคิดเห็นที่ 42 ตามมาอ่าน เพราะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เลยค่ะ จากคุณ : SaRangHae เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:47:36

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเค้าจับมือกับนาธานแล้วเอามาเป็นพรีเซนเตอร์ล่ะครับ จะเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : airbsutu เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:18:42

ความคิดเห็นที่ 44 ตามความจริง ลัทธินี้ตั้งเป้าที่กลุ่มงมงายวิทยาศาสตร์ จึงเน้นที่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ว่าที่ Presenter ที่สำคัญ ผมเล็งว่าน่าจะเป็น ดร อาจอง หรือ ดร สมิทธิ์ มากกว่า และก็เป็นไปได้ง่ายเสียด้วย เพราะวิทยาศาสตร์ทางจิต มันก็คือการงมงายวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง อะไรก็ตามที่เชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง เชื่อแค่เพราะคนผู้นั้นมีชื่อเสียง ล้วนมีปัญหาทั้งนั้น จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:30:00

ความคิดเห็นที่ 45 . . ยิ่งมนุษย์ขาดความมั่นคงทางด้านจิตใจและต้องการที่พึ่งมากขึ้นเท่าไร ลัทธิเหล่านี้ก็คงจะไม่มีวันตายแน่แน่ค่ะ.. จากคุณ : primjang เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:43:25

ความคิดเห็นที่ 46 คห 44 คิดแล้วห่วงสังคมไทยเรื่อง ดร.อาจอง ชุมสาย สองสามวันนี้เห็นออกทีวีหลายครั้งแล้ว นับเป็นคนไทยต้นแบบของหลายๆ คนเลย.... (แน่นอนว่า ไม่มีใครถามซ้ำในทีวีเรื่องที่ทำนายว่า ทำไมไม่เห็นมีหิมะตกตอนต้นปี 2552 หรือมี storm serge หรือมี....) ผมสงสัยเรื่องโรงเรียนสัตยาไส ที่เค้าตั้งขึ้นมา ออกทีวีแล้วอิมเมจดีมาก มีคนอยากไปเรียนเยอะ ... มันก็ดีถ้าให้เด็กๆ ได้ปลูกฝังธรรมะ แต่ชื่อโรงเรียนที่ตั้งตาม สัตยา ไสยบาบา จอมลวงโลกเนี่ย มันทำให้ผมไม่ไว้ใจ :-( จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 19:17:18

ความคิดเห็นที่ 47 #22  ไม่ใช่แค่เมียทอมครูซนะคะ ทั้งทอมครูซ เมีย  แล้วต่อไปอาจจะเป็นน้องซูริ T T เห็นมีช่วงนึกแกส่งน้องซูริเป็นเข้าคอร์สลัทธินี้ด้วยละ จากคุณ : ฮ่าๆๆComeback (โฮ่งฮับตังเม) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 19:58:05

ความคิดเห็นที่ 48 ...หลาย ๆ คนมีศรัทธาเป็นตัวตั้งที่แรงกล้าครับ... ...มีมากเสียจนกระทั่งทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ "เขาศรัทธาและยึดถือ" ครับ... ...ป.ล.ลัทธิจานบินนี่...จะเน้นพวกคนมีกะตังค์เป็นส่วนใหญ่นะ...เคยไปเป็นเพื่อนดูเยาวชนแต่ละคนเหมือนคัดหน้าตา+ฐานะมาเข้าลัทธิเลย...เห็นแล้วเสียดายอนาคตประเทศ...-*-... จากคุณ : gunpen2010 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:03:54

ความคิดเห็นที่ 49 ศรัทธา = มีความเป็นเหตุผล = แง่บวกต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง งมงาย = ไร้ความเป็นเหตุและผล = แง่ลบต่อสิ่งรอบข้าง น่าเสียดายที่บางครั้งคนเราหลงว่าความงมงายนั้นคือ "ศรัทธา" จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:05:55

ความคิดเห็นที่ 50 ผมว่าควรเชื่อตามหลักกาลามสูตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีกว่าครับ จากคุณ : เต่าเทอร์โบ (udom.t) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:24:48

ความคิดเห็นที่ 51 เคยมีคลิปต่อต้านด้วยครับ   เป็นกลุ่มในเว็บอะไรก็ไม่รู้    แต่ใช้ anonymous คอมมเมนท์ อาจจะเป็นเว็บ 4chan Massage to Scientology ปล.ข้อความในคลิบกล่าวว่า "We are Anonymous We are legion" เป็นหนึ่งใน "Rule of Internet" แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 18:40:38 จากคุณ : SignPost เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:33:35

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้วนึกถึง พวกคริตส์ในสมัยโรมัน มุสลิมที่เผานาลันทา จุดเริ่มก็มาแบบนี้ล่ะ เอ็งผิด ข้าถูก ... แต่พวกเขาก็รอดมา จากคุณ : tzu149 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 20:54:02

ความคิดเห็นที่ 53 เพิ่งรู้ว่า DC-8 คือยานอวกาศ ถ้าอย่างงั้น F-14 ที่ทอม ครูซขับนี่เป็น X-Wing หรือเปล่า? ไม่ใช่อะไร พอดีเห็นโอกาสทางการตลาด อาจจะเปลี่ยนไปขาย DC-8 ค่าคอมน่าจะเยอะอยู่ (- -") แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 21:05:03 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:00:35

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่าเดี๋ยวมันต้องมีดราม่าแน่เลย จากคุณ : parasite13 (parasite13) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 55 คห. 51 ใช่พวกนี้หรือเปล่าคะ ?? http://en.wikipedia.org/wiki/4chan#Links_to_Anonymous_and_Project_Chanology http://en.wikipedia.org/wiki/Anonymous_%28group%29 http://en.wikipedia.org/wiki/Project_Chanology จากคุณ : ปลายลมหนาว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:45:19

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านไม่เข้าใจ สงสัยเราจะโง่ไป ช่วยสรุปสั้นๆให้หน่อยได้มั้ยอะคะ ว่ามันไม่ดียังไง อย่างเทียบกับสำนักจานบินบ้านเราก็เห็นชัดเจนว่ามันบิดเบือน แต่ของอันนี้เขาเหมือนเป็นเนื้อหาใหม่ของเค้าเองทั้งดุ้นน่ะค่ะ หรือเนื้อหาเขามีอะไรที่ไม่ดีเคลือบแฝงคะ เราเองไม่เคยได้ยินว่ามีคนต่อต้านเลยนะช่วงแรกๆ เพิ่งมาเจอเยอะก็หลังๆนี่ เห็นพวกฮอลีวู้ดก็นับถือกันมากมาย จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:47:29

ความคิดเห็นที่ 57 ผมขอเห็นต่างนะ คนไทยไม่นิยมอะไรที่เข้าใจยากอย่างนั้น และมันดูจะไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเองในแง่ของผลประโยชน์ที่วัดได้ นับได้ ได้กันเห็นๆ ที่น่ากลัวตอนนี้คือ พวกที่เล่นเอาที่บนสวรรค์มาขายกันเลยอ่ะ (ยิ่งกว่า real estate ใดๆในสามโลก) คนไทยก็เชื่อกันเข้าไป ว่าทำบุญมากก็จะขึ้นสวรรค์ชั้นสูงๆๆๆ  ยิ่งๆ ขึ้นไป ทำบุญให้มันวิจิตรพิสดารเข้าไว้ ยิ่งรวยยิ่งเข้าใกล้สวรรค์ แบบนี้แหละที่คนไทยเชื่อ ไม่เข้าใจว่าคนที่มีอำนาจในบ้านเมืองกำลังทำอะไรกันอยู่ หรือก็หลงเชื่อไปละว่ามีเงินมากแล้วจะขึ้นสวรรค์ชั้นสูง จึงตั้งหน้าตั้งตาโกงๆๆๆ กันให้มากๆ เพื่อทำบุญกับจานบิน ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์   เฮ้อออ เหนื่อยใจ จากคุณ : NMT@STUT เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:47:34

ความคิดเห็นที่ 58 ^ ^ มาเพิ่มเติมว่าเห็นด้วยกะคุณข้างบนอะค่ะ ย่อหน้าแรกอะ คือเจ้าลัทธิเนี่ย เรายังไม่เห็นว่ามันมีจุดเสียไหนที่เคลือบแฝงมากับสิ่งล่อใจอะไรเลย เทียบกับจานบินน่ะนะ แถมยังเข้าใจยาก ซับซ้อนกว่า คนไทยไม่น่าจะชอบหรอก ยิ่งพวกที่อยู่ในภวะสับสน ต้องการที่พึ่งทางใจ ยิ่งแลล้วใหญ่เลย ลำพังตัวเองก็สับสนพอแล้ว จะมาหันหาอะไรยากๆอีกทำไมกัน จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 21:52:23

ความคิดเห็นที่ 59 อาจจะตีตลาดบ้านเราไม่เข้า มันยังเป็นเหตุและผลมากเกินไป ต้องอย่างข้างบนนี่ จากคุณ : tunaz เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 22:29:19

ความคิดเห็นที่ 60 นึกถึงจานบินเวอร์ชันเนียนวิทย์ จากคุณ : ผมไม่เกี่ยวผมมาซื้อลูกชิ้น เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 22:37:33

ความคิดเห็นที่ 61 แต่จะว่าไปมันก็ไม่ใช่จุดอ่อนซะทีเดียวนะครับ ที่มันสับสนหรือเข้าใจยาก เพราะมันเข้าใจยาก และน่าสับสนเนี่ยแหละ ถึงมีคนเชื่อง่าย เพราะมันดูเหมือนน่าเชื่อถือไง เหมือนกับเอาเรื่องไร้สาระไม่น่าเชื่อ มาให้คนที่เรียนจบสูงๆใช็ศัพท์ยากๆ มันจะดูน่าเชื่อถือขึ้น มีหลักการขึ้นมากเลยนะครับ มันจะสามารถทำให้คนเราเชื่อได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ จากคุณ : moonlightspirit เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 23:02:41

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ เพิ่งรู้เนี่ยแหละว่าเป็นหยั่งงี้ รู้แต่ว่าฮอลลีวูดเขานิยมกัน จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 00:26:27

ความคิดเห็นที่ 63 เคยซื้อหนังสือมาอ่านนานละ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เคยโพสถามหมอ หมอดันบอกว่าเพิ่งซื้อมาอ่านเหมือนกัน ตอนแรกว่าจะลองไป เข้าคอร์ส แต่คิดว่าเสียเงินเสียเวลาเลยไม่เอา ตอนนั้นหาข้อมูลไม่ได้เลย ขอบคุณคุณ DarthPrin จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 00:53:27

ความคิดเห็นที่ 64 #55 ใช่ครับ ที่จริงพวกนี้ก็เกรียนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ หนักกว่าเว็บประมูลบ้านเราอีก แต่เวลาพวก Scientology ออกทีวีจะพูดถึงคนพวกนี้ยังกะเป็นอาชญากรไซเบอร์ เป็นกลุ่ม hacker อะไรประมาณนั้น ที่จริงก็คงมีส่วนบ้าง เพราะคนในเว็บนี้ ทำให้เจ้าของเว็บได้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกของ Times มาแล้ว จากคุณ : wachira2k เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 01:57:48

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าการที่กลุ่มเป้าหมายมันคนละกลุ่มกับความงมงายศาสนานี่แหละที่อันตรายเพราะการแพร่เชื้อบ้ามันจะไม่จำเป็นต้องแข่งขันกัน ฝ่ายหนึ่งก็ดึงคนจากพวกงมงายศาสนา อีฝั่งนี้ก็ดึงจะพวกงมงายวิทยาศาสตร์ช่วยกันทำบ้านเมืองหายนะ ประเด็นอันตรายที่คุณเทเลทับขี้มองไม่เห็น คือเรื่องการเนียนวิทยาศาสตร์โดยที่มันเองไม่ใช่วิทยาศาสตร์ มันคือประเด็นที่หว้ากอต้องเผชิญมาตลอดกับความเชื่อวันสิ้นโลก ที่โดนเป่าหูโดนเคลื่อนไหว หรือเรื่องโลกร้อนที่เอากระแสนำความรู้ พวกนี้เป็นสิ่งที่ต้านความเจริญทางวิทยาศาสตร์ของบ้านเรา ตรงนี้คุณอาจต้องค้นและอ่านตั้งแต่เรื่องหลักกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ผมไม่เน้นบทความที่สรุปง่ายๆสักเท่าไร ผมเน้นเขียนบทความที่จะให้ผู้อ่านสามารถสืบค้นไปหาเอกสารอ้างอิงได้ครับ ถ้าเราเชื่อแค่ที่คนที่น่าเชื่อถือเขียน เชื่อแค่ที่คนสรุปให้ฟังง่ายๆ มันก็ไม่ใช่กระบวนการวิทยาศาสตร์ มันอาจเหมาะจะเขียนบทความลักษณะนี้ที่ห้องอื่น แต่ไม่ใช่ที่หว้ากอ ที่ไม่ว่าคุณจะ Bias อะไร ไม่เป็นกลางอย่างไร คุณต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนสิ่งที่ตนเองเขียนลงไปตามหลักมุมมองที่ไม่เป็นกลางที่ดี (งงมั๊ย กับมุมมองที่ไม่เป็นกลาง) การเขียนสรุปง่ายๆให้เหมือนจะเข้าใจได้ มันจะได้บทสรุปอย่างที่ คห 61 ว่าไว้ คือศัพท์แสงมันขรุขระดี ดูฉลาด ดังนั้นเราเชื่อมันดีกว่า ตรงนี้คือวิธีขายของพวกสินค้า Pseudo Science เลยทีเดียว ผมเชื่อว่าการฟังใครเชื่อใครง่ายๆ คือพื้นฐานปัญหาทางสังคมที่ประเทศไทยประสบอยู่ เราค้นหากันเองไม่เป็น เราไม่พยายามจะหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่เราเชื่อกันให้เพียงพอ เรา Bias เชื่อกันเพราะคนนี้เล่าว่า และบีบคนที่มาเถียงกับเราให้เอาหลักฐานมากองแล้วก็ไม่อ่านอยู่ดี สำหรับผมแล้ว ปัญหาลัทธิเหลืองแดงหรือ จานบิน หรือ ไซแอนโทโลยี หรือน้ำวิเศษ เหรียญวิเศษ FWD Mail ล้างโลก ต่างๆ ล้วนมีรากฐานปัญหาจากที่เดียวกัน จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 08:16:04

ความคิดเห็นที่ 67 ถ้าดาราฮอลลีวูดนิยมลัทธินี้มากขึ้นๆรับรอง มันจะแพร่มาจากทางดาราไทยแน่นอน จับตาให้ดีเถอะ ยิ่งมากับเรื่องคลุมเคลือๆผสมวิทยาศาสตร์ปนๆมั่วๆมากับสิ่งเหนือธรรมชาติ ยิ่งน่าจับต้อง ให้คอยดูได้เลยมาแน่ๆอาจจะแพร่มาทางดาราหรือมาทางรายการโทรทัศน์ก็ได้ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีเครื่องมือ(หน้าตาเหมือน)วิทยาศาสตร์เข้าไปปนๆกับเรื่องๆผีๆอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่นรายการเกี่ยวกับผีหรือจับผี(ที่มีดาราหน้าคล้ายๆผีเป็นพิธีกรเจ้าของรายการ) ยังเคยเห็นมีเครื่องมือหน้าตาคล้ายมิเตอร์เข็มหรือมิเตอร์วัดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าใช้ในรายการด้วยเลยนัยว่าเป็นเครื่องวัดสนามพลังผีซึ่งจะบอกระดับความเข้มข้นของสนามพลังผีด้วยเข็มมิเตอร์กระดิกไปกระดิกมาทำนองนั้น และคนพวกนี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทำอะไรไปทางไหนก็จะมีคนคอยตามอยู่แล้วด้วย ยกตัวอย่างเช่นลัทธิจานบินก็พยายามโฆษณาชวนเชื่อโดยใช้สาวกดาราหรือพิธีกรคนดังกันทั้งนั้นแหละ(นอกจากจะโฆษณากันด้วยแก้วแหวนเงินทองและสวรรค์แล้ว) นอกเรื่องนิดหน่อยลัทธิจานบินเขามีสื่อเต็มรูปแบบ100%ครับ ไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อกระแสหลักเดี๋ยวนี้มีทั้งการ์ตูนหนังละครของช่องเขาเองด้วย หึหึหึ ลูกสาวผมยังชอบอ่านการ์ตูนของเขาเลยเป็นซีดีการ์ตูนก็มีครับเห็นสมาชิก(ห่มเหลือง)ท่านแจกให้เด็กๆตอนเช้าๆประจำเลย หนังสือการ์ตูนของเขาก็เห็นวางในห้องสมุดโรงเรียนลูกผมเต็มไปหมด ผมต้องคอยดูอยู่เรื่อยๆว่าเนื้อหาไปทางไหนบ้าง ยิ่งหลังๆมานี้ลูกสาว(ป.2)มาถามผมเรื่องสวรรค์เรื่องนางฟ้าเรื่องตายแล้วเกิดเรื่องระลึกชาติอยู่บ่อยๆ ผมยิ่งต้องคอยดูมากขึ้นเพราะโรงเรียนนี้(อยู่ที่จ.ปทุมฯ)ผู้บริหารและผู้ปกครองหลายๆคนเขาไปทางลัทธิจานบินกันด้วย เมื่อก่อนจะมีพระอาจารย์มาสอนเด็กๆทุกสัปดาห์แต่เท่าที่สอบถามเด็กๆก็ยังไม่มีอะไรน่าห่วง หึหึหึ ผมละเกรงจริงๆว่าลัทธิวิทยาศาสตร์(เทียม)จะมารูปแบบคล้ายๆลัทธิจานบินจริงๆเพราะมันน่าจับต้องและเต็มไปด้วยอิทธิฤธิ์ปาฏิหารเหนือธรรมชาติ(สำหรับผู้ไม่รู้วิทยาศาสตร์) ได้แต่คอยจับตาและหวังว่าลัทธินี้จะไม่เกิดไปเมืองไทยเลย จากคุณ : คุณพ่อน้องจุ้นฯ (mang+por) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 09:56:14

ความคิดเห็นที่ 68 การใช้ดารา หรือผู้ที่มีชื่อเสียง มันเป็นศาสตร์ของการโฆษณาชวนเชื่อ ที่ใช้ได้ผลมามากนักต่อนักแล้ว ..... คงต้องรอดูต่อไปว่ามันจะไปไกลแค่ไหน... ปล. ผมไม่ได้นับถือศาสนาใดๆ (หรือเป็นพวกนอกศาสนาหว่า) คงจะรอดตัวจากพวกนี้แน่นอน.... จากคุณ : evillcore เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 11:03:57

ความคิดเห็นที่ 69 มาม.เราซะด้วย ลองไปเปิด แต่คนละ วิทยาเขตกัน ส่วนตัวรู้จัก ลัทธินี้เพราะ เคธี่ แล้วก็ ทอม ครูซ นี่แหล่ะค่ะ เมื่อกี้เข้าไปดู ในเวบ และ เฟซบุคมา เสียงตอบรับก็มีมากเหมือนกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 14:32:17 จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 14:27:43

ความคิดเห็นที่ 70 ทอม ครูซ ก็นับถือ เหรอครับ ผมคุ้นๆ ว่าเคยอ่านว่า ทอม ครูซ เค้านับถือ ลัทธิ อะไรซักอย่างที่นับถือ ต้นไม้ ไม่ใช่เหรอครับ รู้สึกมันจะไม่ใช่ ชื่อนี้ จากคุณ : ซอสพริกเผ็ดน้อย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 14:33:20

ความคิดเห็นที่ 71 โชคดีที่วิคตอเรียกับเดวิด เบคแฮม แกไม่เชื่อตามที่ทอมพยายามชักชวน  ไม่งั้นคงระบาดลามมาถึงแฟนบอลด้วย จากคุณ : ศศิวิมล เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 14:39:52

ความคิดเห็นที่ 72 อ้าว เจอคุณหมูหวานน้ำกะทิด้วย วันก่อนยังเจอกันที่ห้องแป้งเลย อิอิ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 15:04:49

ความคิดเห็นที่ 73 ผมก็ว่าแปลกๆตั้งแต่เข้าไปดู link ใน hi5 แล้ว (ช่วงนั้นมันมีให้ set status เป็น Scientology) จากการที่เข้าไปเยี่ยม web page ของมัน ... ก็รู้สึกว่า ไม่เหมือนเป็นการ ''เชื่อในวิทยาศาสตร์ หรือ 'เชื่อในหลักเหตุผล' ตรงไหนเลย หลัก กาลามสูตร ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังดูเป็นวิทยาศาสตร์ (เหตุ-ผล) มากกว่า ขอบคุณ จขกท. ครับ จากคุณ : หลังอาน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 16:39:38

ความคิดเห็นที่ 74 ่่ลัทธินี้เป็น หนึ่งในกลุ่มทางด้านศาสนา ของ  Illuminati    อะไรที่จัดอยู่ในกลุ่มของ องกรณ์ ,ลัทธิ , ศาสนา  ก็หนีไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์ แต่ถ้าในไทยมี  ถ้าเขาช่วยผู้คน เพื่อไม่หวังผลประโยชน์อันใด  ก้อเป็นเรื่องดี  การต่อต้านเพราะความเชื่อ ไม่ว่าจะทางด้านไหน จะศาสนา  หรือ วิทยาศาสตร์  หรือ อื่นๆ สิ่งที่ตามมาด้วย ความขัดแย้ง  ความเกลียดชัง   เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก ไม่ว่าจะด้วยหลักฐานอ้างอิง หรือ อำนาจ เพราะฉะนั้น จึงเหนื่อยเปล่า  ไม่มีใครได้อะไร  ล้วนแต่เป็น เรื่องของโลก วัตถุ ทั้งนั้น ไม่ได้อะไร ไม่เกิดประโยชน์อันใด  ของจริง นั้น  ไม่จำเป็นต้องอยู่ ภายไต้องกรณ์ อะไร   รับรู้  เรียนรู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น  ส่วนความรู้ต่างๆเป็นแค่แนวทาง     การที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ นั้นเป็นเรื่องดี เป็นเกราะป้อง ชั้นแรก  แต่นักวิทย์ที่ดี  ไม่ควรปฏิเสธอะไรทั้งหมดเสียที่เดียว    เพราะมีหลายเรื่องอีกมากมาย พิสูจณ์(หรือยังไปไม่ถึง)  ใน  physical way จากคุณ : perune เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 17:48:14

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่ใช่เรื่องจริง กับไม่ใช่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อย่าสับสนสองประโยคนี้ครับ ถ้าหากลัทธิดังกล่าว ไม่อ้างความเป็นวิทยาศาสตร์ มันก็จะอยู่แค่ห้องศาสนา ไม่รุกล้ำเข้ามาในห้องหว้ากอนี้หรอก กลุ่มเป้าหมายของลัทธินี้เป็นคนละกลุ่มกับลัทธิจานบิน และผมเน้นเรื่องป้องกันการงมงายวิทยาศาสตร์ พวกเชื่อ เพราะไม่รู้ ไม่เชื่อ เพราะไม่รู้ ก็ไล่ตรรกะให้ดู ส่วนพวกงมงายศาสนาก็ให้ห้องศาสนาเขาเคลียร์กันไป มันเป็นคนละส่วนห้องกันอยู่แล้ว จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 21:25:55

ความคิดเห็นที่ 76 เคยมีบูธประชาสัมพันธ์ที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์ก่อนโดนเผาด้วยครับ จำได้อยู่ สงสัยว่าอยู่ในช่วงวางรากฐานล่ะนะครับ แต่อันนี้ผมว่าไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเท่าไหร่ เพราะยังไงถ้าจะแพร่มาเต็มๆคงโดนลัทธิจานบินบีบเอาไม่ให้เข้ามาง่ายๆล่ะนะครับ ใครจะยอมโดนแย่งมาเก็ตแชร์ง่ายๆล่ะ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 21:44:38

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นด้วยกับ คห.35 คุณ Geneticist ครับ ผมเชื่อว่า บรรดาศาสนาต่างๆ ก็มีจุดกำเนิดไม่ต่างจากเรื่องนี้เท่าไหร่ มีเพียงเวลาที่เป็นตัวขัดเกลา อย่าลืมว่า ช่วงนึงก็ เราเคยมียุคล่าแม่มด ซึ่งเป็นความเชื่อของศาสนาหนึ่ง และเวลาก็เป็นตัวลบลอยด่างพร้อยอันนั้นไป จากคุณ : Auveyz เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 01:30:04

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านๆไป ฮาแตกกับคห. 15 เอ้อ...จะว่าไป ไอเรื่องทำบุญวิจิตรพิศดารเนี่ย (เรปไหนซักเรปเนี่ยล่ะ) เราว่า...ไม่ต้องวิจิตรมากหรอก แค่ส้มตำปู-ปลาร้า ช็อคโกแลต ก็พอแล้ว (ฮา) --------------- เข้าเรื่องๆ โดยส่วนตัวแล้ว ศาสนาทั้งหลายก็แค่ความเชื่ออ่ะ อย่าพุทธ บ้านเรา มันดูน่าเชื่อถือ ดูเรียลกว่า เพราะในหลักคำสอนของมันดูจับต้องได้มากกว่า เหมือนเอาสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ มเขียนเป็นข้อๆ ให้เห็นกันชัดเจน แต่อย่าเรื่องพระพุทธเจ้าขึ้นสวรรค์ไปเทศน์ หรือเทศน์ให้พญานาคฟังนี่ก็เกินจริงไปหน่อย ศาสนาคริสต์ มันก็ดี ที่ว่ารักเพื่อนมนุษย์ แต่ไอ้เรื่องที่ตายแล้วฟื้น มีเทวดามาหลั่นล้า ไรงี้ก็เวอร์ไปหน่อยอีกนั่นล่ะ รวมๆแล้ว เราเห็นว่ามันเป็นความเชื่ออ่ะ ถ้าไม่หลุดโลก มีเหตุมีผลในเรื่องของคำสอนนี่ก็โอเค จริงๆแล้วเรามองว่าศาสนามันไม่มีด้วยซ้ำ ของแบบนี้มันเป็นแค่ที่ยึดเหนียวทางจิตใจมากกว่า พระเจ้า ฯลฯ ทั้งหลาย ก็มีไว้ให้ดูแบบว่าน่าชาบู อูราห์มากขึ้นเท่านั้นเอง จากคุณ : เมี้ยว เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 03:44:49 A:118.172.76.253 X: TicketID:167218

ความคิดเห็นที่ 79 ความจริงแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นสิ่งสมมติ หาอะไรที่เป็นจริงแท้ คงอยู่ตลอดไปไม่ได้ ไม่ว่าศาสนา วิทยาศาสตร์ หรือความเชื่ออื่นๆใดทั้งมวล เพียงแต่ จะมีสักกี่คนที่เข้าใจและก้าวล่วงสิ่งเหล่านี้ไปได้ ส่วนมากก็ติดอยู่เพียงรูปแบบ ความเชื่อและศรัทธาเท่านั้น... จากคุณ : tiger18 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 08:23:11

ความคิดเห็นที่ 80 คิดบวกดีไม๊ ให้มันเข้าเมืองไทยมาชนกับลัทธิจานบิน ให้ลัทธิใดลัทธิหนึ่งล่มจมไปก่อน แล้วเราค่อยต่อต้านที่เหลือ ศัตรูของศัตรูย่อมเป็นมิตร? จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 08:32:42

ความคิดเห็นที่ 81 #80 กลัวมันจะมาจับมือกัน - - จานบิน เอาพวกคลั่งชาติหน้าไป ไซแอน เอาพวกคลั่ง(แต่ไม่เคยใช้กระบวนการ) วิทย์ และ เทคโนโลยีไป วายป่วงแน่ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:38:34

ความคิดเห็นที่ 82 ผมว่าแหล่งอ้างอิงที่ [5] ที่เอามาอ้างไม่น่าจะตรงกับสิ่งที่กล่าวถึงในบทความนะครับ เพราะว่าในแหล่งอ้างอิงไม่ ได้กล่าวถึง การที่มนุษย์จะสามารถเปลี่ยนแปลงหรือย้าย MEST ได้  เพียงแต่กล่าวว่าสิ่งต่างๆ สามารถ เปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ และพูดถึงความเกี่ยวข้องระหว่าง พุทธศาสน์ กับ วิทยาศาสตร์ในเชิงประจักษ์ รบกวน ผู้เขียนช่วยพิจารณาอีกทีด้วยนะครับ.... จากคุณ : fujisaki44 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:29:06

ความคิดเห็นที่ 83 เทียบกับลัทธิปิงปิงแล้วอันไหนน่ากลัวกว่ากันครับเนี่ย :P จากคุณ : psbonn เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:08:49

ความคิดเห็นที่ 84 แหล่งอ้างอิง [5] นี่กล่าวถึงนักวิชากวนแบบไทยๆที่บิดเบือนวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ ข้อความที่อ้างถึง ฮับบาร์ดดูที่ [W2] ส่วน MEST ผมไม่ได้ให้ไว้ ก็เอาตรงนี้ไปดู http://en.wikipedia.org/wiki/MEST_(Scientology) ต้องขออภัยจริงๆ บทความตรงช่วงนั้นผมเอาส่วนที่ผมวิจารณ์ศาสนาออกไปจากเวอร์ชั่น Facebook มันเลยอยู่ใกล้กันเกินไปน่ะครับ เลยเห็นเป็นอ้างเข้าหากันซะนี่ ขอบคุณที่ช่วยตรวจทานให้ ดีใจจริงๆที่มีคนกดอ่านตาม Ref เพราะผมเขียนแบบมีอ้างอิงก็กะให้อ่านตามอย่างนี้แหละ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:29:00

ความคิดเห็นที่ 85 #70 คะ tom cruise นี่ตัวคลั่ง scientology ระดับต้นๆของ hollywood อยู่แล้วนะ แบบว่าพูดชื่อลัทธิปุ๊บ หน้าป๋าทอมจะลอยมาเลย ลัทธิต้นไม้ๆ ที่พูดถึง เดาว่าน่าจะเป็น kabbalah; tree of life รึเปล่าเอ่ย อันนั้นจะออกแนวพราห์ม ฮินดูหน่อยๆ เน้นเรื่องจักระ จุดต่างๆค่ะ ถ้าพูดถึง kabbalah ก็ต้องนึกถึงเจ๊ madonna ผูกเชือกแดงที่ข้อมือ จากคุณ : dekhype เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:47:28

ความคิดเห็นที่ 86 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:52:48

ความคิดเห็นที่ 87 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 17:09:13

ความคิดเห็นที่ 88 เอาจริงแล้ว ลัทธิโอมชินริเคียวก็ยังอยู่ แต่ปรับตัวไปในรูปแบบใหม่ คนเรายังต้องการยึดเหนี่ยวจิตใจเสมอ แต่ที่น่ารำคาญคือมารบกันด้วยความคิดว่า ข้าถูกเอ็งผิด แต่ถ้าไม่ทำให้สังคมเดือดร้อนก็ว่าไป เรื่องนี้ผมรณรงค์หลายทีแล้วว่า ระเบียบวิธีคิดด้วยกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่พิการในสังคมไทย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 19:14:59

ความคิดเห็นที่ 89 คงไม่ได้พิการความคิดเฉพาะในประเทศไทยหรอกมั้งคะ ลัทธิงมงายหลายอย่าง ก็แพร่มาจากประเทศตะวันตกนั่นแหละ (คงจะยกเว้นลัทธิจุดธูปไหว้ของแปลก) เราคิดว่าคนที่มีศักยภาพที่จะทำประโยชน์ให้กับวงการวิทยาศาตร์ คงไม่หลงเชื่อ Scientology เป็นอันขาด ส่วนคนที่หลงเชื่อไป ก็ยังคงทำงานการได้ตามปกติ อยางป๋าทอมและเมีย ก็ยังคงแสดงหนังได้เป็นปกติ เราคิดว่า ตราบใดที่คนลัทธินี้ไม่คิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โลก เค้าอยากจะเชื่ออะไร มันก็เป็นสิทธิส่วนตัวของพวกเค้า หรือเปล่าคะ จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 20:44:45

ความคิดเห็นที่ 90 เว็บ official ของ scientology เค้าบอกแล้วครับว่า "ประเทศไทยมี Church of Scientology" เช่นกัน http://www.smi.org/address/thai.htm น่ากลัวจริงๆ กลัวว่าบุคลากรวิทยาศาสตร์เราจะน้อยลงเข้าไปอีก จากคุณ : โซรุจะ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 21:09:51

ความคิดเห็นที่ 91 เอาง่ายๆเลยครับ ศรัทธา=ความเชื่อเป็นจุดเริ่มต้น ไม่มีทางถ้าคุณไม่มีความเชื่อแล้วจะศรัทธายกเว้นลิงหลอกเจ้า งมงาย=ความเชื่อถึงจะมีเหตุผล หรือไม่มีก็แล้วแต่ เหมือนกัน คือบ่อกำเนิดมันมันจากแหล่งเดียวกันคือ "ความเชื่อ"คนเราพยามยกข้ออ้างว่าความคิดตนเหนือคนอื่น แต่คนอื่นงมงายเพราะไม่คิดเหมือนตนหาร้อยเหตุพันผลยกมาเพื่อหักล้างคนอื่นเพื่อจะหาข้ออ้างว่าตัวเรานี่แหละถูก เอ็งนะผิด จะว่าไปผมว่ามันก็ค่อนค้างจะคับแคบในมุมมองนะ โลกสร้างมืดกะสว่างมาคู่กัน ดีกะเลวมาคู่กัน โดยเราเป็นคนนิยามเอาโดยการอนุมานตามความรู้สึกเราเอง ก็เพราะเราคิดกันอย่างนี้แหละทุกวันนี้มันก็เลยฆ่าแกงกัน สรุปเอาง่ายๆเลยตรงไหนล่ะความพอดี คุญ หรือ เขา หาที่ตรงกลางให้กันยืนไม่ได้รึ ใช้สติในการยั้งคิดหน่อยก็ดีนะครับใจเขาใจเรา จากคุณ : wan_p เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 22:22:08

ความคิดเห็นที่ 92 สำหรับเมืองไทย พ.ศ.นี้ จานบินน่ากลัวกว่าเยอะจริง ๆ มี cable tv ส่วนตัว 1 ช่องฉายทั้งวันทั้งคืน เปิดผ่านทีไร เป็นต้องจอดดูแวบนึงด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่แปลกที่โตฝังรากลึกขนาดนี้ ผมคิดว่าเพราะมีแต่สาวกมีระดับทั้งนั้น แย่ที่ไม่มีการบริหารจัดการจากภายนอกใด ๆ เลย วันหนึ่งจะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ในที่สุด จากคุณ : JZS161-V300 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 22:43:26

ความคิดเห็นที่ 93 จุดแบ่งศรัทธาและงมงายไม่ใช่ความเชื่อหรือไม่เชื่อแต่เป็นการรู้ว่านั่นเป็นการเชื่อหรือไม่ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 09:04:49

ความคิดเห็นที่ 94 Tom Cruise นักถือ Scientology มากๆๆๆๆ แล้วตอนหลัง Katie Holmes ถึงเป็นไปด้วย จากคุณ : Pat :o) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 09:43:35

ความคิดเห็นที่ 95 คห 57 ครับ รู้หรือไม่ว่าขนาดอดีตนายกของเราเอง ก็เป็นสาวกของลัทธิธรรมกายเช่นกัน จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 09:56:35

ความคิดเห็นที่ 96 น่าชื่นชมที่มีคนเอามาพูดก่อนจะเข้ามาแพร่ระบาด ผมได้ดูสารคดีแล้วก็เห็นเรื่องนี้มานานมากแล้ว น่ากลัวมากครับ ยังเช่นคลิปนี้ http://www.youtube.com/watch?v=rCGP-0545EU (ชอบ background soundtrack อันเก่ามากกว่า ฮะๆ อันนี้ดูชิลๆ ) ดาราหลายๆคนในต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ ภรรยา ทอม ครูซ นะครับ ตัว ทอม ครูซ เองนี่ก็เป็นตัวตั้งตัวตีหลักๆ ของ sciencetology เลย ในต่างประเทศมีหลายกลุ่มออกมาต่อต้าน หลายกระแสแม้กระทั่งในเนตเอง http://www.youtube.com/watch?v=JCbKv9yiLiQ&feature=related (ดูแล้วขนลุกดีคับ) จากคุณ : Onlyoneshot เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 10:03:52

ความคิดเห็นที่ 97 @ความเห็นที่ 89 ผมเชื่อเหมือนกันครับว่าใครจะเชื่ออะไรเป็นสิทธิของบุคคลนั้นๆ แต่ Sciencetology นี่เล่นแรงครับผมจะยกตัวอย่างง่ายๆ โดยทั่วไป sciencetology นี่เค้าจะสร้าง network ของกลุ่มเค้าเองครับ อย่างคนป่วยก็จะมีหมอของเค้าเอง หลายกรณีมีการไม่เห็นด้วยกับการรักษาของโรงพยาบาลอื่นๆ  และเข้าแทรกแซง อย่างเช่น case ของ Jeremy Perskins ที่มีอาการทางประสาทตั้งแต่เด็กแต่เพราะครอบครัวเป็นครอบครัว sciencetology เลยถูกพาออกจากโรงบาลสุดท้ายในวันเกิดของ L.Ron Hubbard  .. Jeremy เกิดคลั่ง แล้วแทงแม่ตัวเอง 77 แผล ... อยากให้คนไทยได้รับอิทธิพลแบบนี้มั๊ยครับ ? แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 53 10:23:32 จากคุณ : Onlyoneshot เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 10:22:01

ความคิดเห็นที่ 98 http://video.google.com/videoplay?docid=-190410476060429284&hl=de# สำหรับคนที่สนใจว่ามันอันตรายแค่ไหนครับ จากคุณ : Onlyoneshot เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 10:59:37

ความคิดเห็นที่ 99 เอาละเหวย...เดี๋ยวได้เห็น ท่าน หลอดฉี่หนูขี่ DC-8 มายิงกะ แม่ชะรีขี่จานบิน แน่ๆ จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 12:56:01

ความคิดเห็นที่ 100 <P>สงสัยเมืองไทยมีคนเป็นอย่างในเพลงนี้เยอะมั้งครับ</P> <P>http://www.youtube.com/watch?v=j5Zb21uVUDc</P> จากคุณ : หลงลืม เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 13:52:31

ความคิดเห็นที่ 101 จำได้ว่าตอนเคธี่คลอดซูริ มีข่าวออกว่าไซแอนโทโลจีให้คลอดธรรมชาติ ห้ามผ่า ห้ามใช้ยาช่วย เข้าเรียนก็ต้องของมูลนิธินี้ น่ากลัวจริงๆค่ะ ครอบงำทุกขณะของชีวิตเลย จากคุณ : หมูหันตัวอ้วนกลม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 02:12:55

ความคิดเห็นที่ 102 เพราะ"เงิน"อย่างเดียววว จากคุณ : antonio_o เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 11:45:04

ความคิดเห็นที่ 103 ความเชื่อ  ศรัทธา  งมงาย  คงมีเส้นแบ่งอยู่ที่ความพอดี จากคุณ : Artagold เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 15:14:17

ความคิดเห็นที่ 104 ผมค้นพบ   แล้ว VVVVVVV vvvvvvv vvvv vvv v จากคุณ : เอ็มเด็กปลอดสารพิษ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 16:22:37

ความคิดเห็นที่ 105 Tom Cruise นี่ตัวเอ้เลยค่ะ นับถือลัทธินี้มาก่อน พอแต่งงานกับ Katie Holmes ก็เลยต้องมานับถือด้วยกัน ขวดนมที่น้อง Suri ถือ เค้าก็ลือกันว่าไม่ใช่นมด้วย แต่เป็นน้ำอะไรซักอย่างที่ศาสดาให้กิน อีกข่าวก็บอกว่าตอนที่เลิกกับ Nicole Kidman ก็เพราะศาสดาบอกให้เลิก ลัทธินี้เราไม่สนหรอกค่ะ ถ้าสามารถตบปรมาณูให้ได้ไกลกว่า Hiroshima ค่อยมาว่ากันใหม่ ชิส์ เราชอบแนวคิดของ #35 นะคะ แต่คนไทยส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับการศึกษาที่ดีพอ ยังไม่มีพื้นฐานจิตใจที่แข็งแกร่งพอ (สังเกตุได้จากการกราบไหว้อะไรไม่รุต่างๆนาๆ ลัทธิปัดระเบิด เป็นต้น) ถ้าปล่อยเสรีแบบนั้น อีกหน่อยคงได้เห็นลัทธิกราบไหว้อะไรเต็มไปหมด จากคุณ : 100 years เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 17:52:57

ความคิดเห็นที่ 106 คห 104 นี่ยังกะ เป้ อารักษ์ จากคุณ : KhunGong เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 22:57:05

ความคิดเห็นที่ 107 เรายอมรับว่านิกายนี้ และนิกายจานบิน ถ้าจะมีผลเสียกับใครก็คือเด็กที่เกิดมาในนิกายนี้และต้องรับกรรมที่พ่อแม่ยัดเยียดให้ แต่ถ้าเราจงเกลียดจงชังคนที่เชื่ออะไรต่างจากเรา มันก็ประวัิติศาสตร์ซ้ำรอยกับการที่คริสต์และอิสลามเคยทำสงครามครูเสด ยิวกับปาเลสไตน์ ทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุื์ เพราะแค่ความเชื่อ มันยังมีวิธีการที่เราไม่ต้องไปหัวเราะเยาะความเชื่อของคนอื่น และอยู่ตัวยกันอย่างสันติอยู่ไม่ใช่เหรอ ใครจะคิดยังไง ก็คิดไป ตราบใดที่เราไม่ยกพวกตีกัน ไม่ไปตะโกนว่าเค้าว่าโง่ ฯลฯ สงครามก็ไม่เกิด เราไม่อยากเห็น ใครมาพ่นสีให้ใครกลายเป็นปีศาจทั้งนั้น คนพวกนิกาย scientology ถึงเค้าจะคิดอะไรแปลก ๆ เค้าก็มนุษย์เหมือนเรานะ มนุษย์ไม่ใช่ปีศาจ มนุษย์ไม่ได้น่ากลัว  ขอร้องละ่ เราไม่ชอบกระทู้จงเกลียดจงชังเลย จากคุณ : Black-White&Gray เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 01:03:28

ความคิดเห็นที่ 108 คห. 107 ผมคิดว่าถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่คุณพูดจริงๆ คุณก็ต้องยอมรับในการวิพากษ์วิจารณ์ ศาสนาหรือความเชื่ออื่นๆ ในแง่ติเพื่อก่อ ไม่ใช่ว่าพอเห็นมีคนมาติมาต่อว่าแล้วก็รับไม่ได้   อีกอย่าง คุณได้อ่านคห.ต่างๆแล้วศึกษาอะไรใน comment ที่ทุกคนคุย โต้ตอบพร้อมทั้งให้ข้อมูลรึเปล่าครับ ? ว่าทำไมเค้าถึงวิจารณ์กัน ส่วนตัวผมเองเป็น atheist แต่ผมก็ไม่ได้วุ่นวายกับคนที่เขานับถือ ศาสนา คริสต์ หรือ พุทธ หรือ อิสลาม เพราะทุกศาสนาล้วนมีจุดมุ่งหมายที่ดี คือพยายามให้คนอยู่ร่วมกันภายใต้ ข้อบังคับของศาสนา แต่ผมขอถามนิดนึง ถ้ามาความเชื่อๆ ความเชื่อหนึ่งบอกให้คน ฆ่ากันตาย ? หรือสอนให้ corrupt children mind หรือ เกิดกรณีแบบ Jeremy Perskins ที่ผมเอ่ยขึ้นข้างบนแล้ว คุณไม่คิดว่าสมควรจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ แม้แต่เกิดกระแส "ต่อต้าน" หน่อยเหรอครับ โดนส่วนตัวถึงคนพวกนี้จะตายผมก็ไม่สนหรอกครับ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถามว่าผมเห็นด้วยไหมที่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องมารับกรรมจากไอ้ลัทธิพวกนี้ ผมไม่เห็นด้วยครับ อยากทำอะไรก็ทำแต่มันเดือดร้อนคนอื่น อย่างน้อยถ้ามีการพูดถึงก่อนแล้วมีคนได้ฟังก่อนจะตัดสินใจเข้าลัทธินี้ จะได้มีโอกาสได้คิดอีกมุมบ้าง ไม่ใช่การบังคับใคร ปกติผมไม่อะไรกับใครหรอกนะครับ แต่ก่อนจะเป็นคน open mind โปรดจงเข้าใจคำว่า open mind ให้ถูกที่ถูกทาง ไม่ใช่สักแต่จะ drama น้ำเน่าเป็นนางเอกหนังไทยไปเรื่อยครับ ... นิสัยแบบนี้แหละครับ ที่ทำลายสังคมไทย จากคุณ : Onlyoneshot เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 03:51:28

ความคิดเห็นที่ 109 #107 ไม่ชอบไม่เป็นไร แค่รับรู้ไว้ก็พอ ผมไม่เชื่อเรื่องการซึนเดเระ และผมไม่เชื่อเรื่องมุมมองที่เป็นกลาง ผมเชื่อการโต้แย้งอย่างไม่เป็นกลางและเอาหลักฐานทุกอย่างมาฉะกันให้เห็นว่าทำไมจึงเชื่อว่าข้อเ็ท็จจริงมันอยู่ตรงนี้ การแก้ปัญหาไม่ใช่การเอาอารมณ์เกลียดชังใส่กันและในขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่การรอมชอมจับมือๆ การแก้ปัญหาคือการเอาหลักฐานทุกอย่างมาฉะกันและลบล้างกันให้เต็มที่ ทำไมถึงเชื่อว่ามันเลว ทำไมมันชั่ว ทำไมมันใช้ไม่ได้ โดยไม่อาศัยเหตุผลวิบัติแบบการอ้างความน่าสงสารหรืออะไรก็แล้วแต่ ประเด็นการถกนี้ เพราะที่นี่เป็นห้องหว้ากอ การชำแหละจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่ามันเป็นความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานรองรับ หรือการใช้หลักฐานลักษณะการอ้างตัวเอง ซึ่งแสดงว่ามันไม่ใช่ลัทธิอะไรที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ มันเป็นวิทยาศาสตร์เทียมทั้งลัทธิ หลักวิธีปฏิบัติทั้งหมดของลัทธินี้เป็นความเชื่อล้วนๆ ซึ่ง ถ้ามันไม่อ้างความเป็นวิทยาศาสตร์ อันนี้จะเชื่ออะไรก็เชื่อไปเถอะครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 13:43:17

ความคิดเห็นที่ 110 อ้าว...ขึ้นเป็นกระทู้นำแล้ว     ในห้องวิทย์ฯ ก็ขอพูดใน ระดับ นี้ นะ พอเข้าไปศึกษาดูจริงๆแล้ว ก็เห็นด้วยกับคุณ Darth Prin  นะครับ  แบบนี้อันตรายจริงๆ ถึงแม้สมมุติว่าจะไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย ก็ น่าอันตรายอยู่มาก   เพราะผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นแค่ความเชื่อที่เพี้ยนไป  แต่น่าจะรวมไปถึงการทดลองอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสมอง และ การควบคุมตัวเอง โดย เคมี แต่ว่าต่อต้าน กับ กลุ่มของ ผู้กุมอำนาจ  น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย พวกนี้เป็นกลุ่มหนึ่งทางด้านศาสนา ของ Illuminati   อาจจะเหนื่อยเปล่า เพราะกระแสต่อต้าน มีมานานแล้วแต่ลัทธินี้ ยังอยู่ได้มาจนทุกวันนี้   ถ้าเป็นการให้ความรู้ผู้คน ก็น่าเป็นไปได้บ้าง  และคิดว่าน่าจะเป็นลัทธิที่เจาะเฉพาะกลุ่มคน อย่างไรก็ตาม  การตัดสินใจก็คงเป็นเรื่องของคนๆนั้น  ไม่มีใครห้ามใครได้ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 53 15:55:58 จากคุณ : perune เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 15:52:21