ความคิดเห็นที่ 2 รู้ว่าทำได้จริงในรถต้นแบบแล้ว แต่มันออกมาเป็น แมสโปรดัก ได้แล้วรึ ผมว่ามันแปลก ๆ นะ 2 หมื่น พอ ๆ กับติดแก๊ส เลย แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 08:04:39 จากคุณ : NeoTokyo เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:04:25

ความคิดเห็นที่ 3 .. จากคุณ : rsco4 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:06:52

ความคิดเห็นที่ 4 รอฟังเฉลย จากคุณ : theount เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:40:28

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งอ่านเจอในหนังสือ Formula คนเขียนเค้าให้ข้อคิดแบบนี้ครับ 1. วิธีที่แยกไฮโดรเจนออกจากน้ำ สามารถทำได้มานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การแยกไฮโดรเจนด้วยไฟฟ้า จะทำให้ต้นทุนสูงมากเมื่อเทียบกับไฮโดรเจนที่ได้ ซึ่งคาดว่าในโฆษณาที่ว่านี้ก็คงแยกด้วยไฟฟ้า 2. สมมุติว่าตัดเรื่องต้นทุนออก ปริมาณไฮโดรเจนที่ได้จากน้ำเพียงพอจะเป็นพลังงาน ได้หรือไม่ ลองคิดดูว่าปริมาณน้ำสมมุติ 5 ลิตร ใช้ไฟฟ้าแยกเอาไฮโดรเจนออกมา ได้ปริมาณเท่าไร จำนวนปริมาณแค่นั้นสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานและช่วยลดการใช้ น้ำมันเชื้อเพลิงได้กี่เปอร์เซ็นต์ 3. ไฮโดรเจนที่ได้มา ไม่ได้ได้มาแบบฟรี ๆ เพราะต้องใช้ไฟฟ้าแยก ไฟฟ้าก็มาจาก แบตเตอร์รี่ ไฟในแบตฯ ก็มาจากไดนาโมที่ปั่นไฟโดยใช้สายพานพ่วงกับหัวเครื่อง หัวเครื่องจะหมุนสายพานไดนาโมได้ก็ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ดี สรุปแล้วพลังงานน้ำมันช่วยประหยัดจริงหรือว่าไปเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ เพิ่มน้ำหนัก รถหรือเปล่า ผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยคับ จากคุณ : SausageBunn เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:43:50

ความคิดเห็นที่ 6 ป.ล. ใช้ NP Faster ไม่ดีกว่าเหรอ ถูกกว่าหลายเท่าตัว ^^ จากคุณ : SausageBunn เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 08:45:10

ความคิดเห็นที่ 7 รอคนมาตอบ ว่าจะถามในรัชดา กลัวโดนโห่ ขอบคุณ rsco4ที่ตั้ง กท จากคุณ : รุ่งสารคาม เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:00:53

ความคิดเห็นที่ 8 หาอ่านกระทู้เก่าๆ ดูนะครับ ถกกันไปหลายรอบแล้ว จากคุณ : vandyman เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:03:25

ความคิดเห็นที่ 9 ตาม #5 เราไม่สามารถสร้างเครื่องจักรที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดเจน มาปั่นไฟเพื่อเอาไปแยกไฮโดเจนออกจากน้ำได้ มองง่ายๆวา่ ถ้ามันดีแบบคุ้มค่าจริงทำไมบริษัทรถยนต์ไม่มียี่ห้อไหนทำออกมาขายเลย (ก็เพราะมันไม่ได้ผลอ่ะดิ) สินค้าพวกนี้เข้าข่ายสินค้าประเภท หากินกับความโลภ และความสิ้นหวังของมนุษย์ ถ้ามันดีจริงคุ้มค่าจริงไม่อุปทาน ก็เอาไปเสนอขายให้บริษัทรถยนต์รายใหญ่ไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าบริษัทรถยนต์ยอมรับว่ามันคือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ก็ได้รวยกันเป็นพันๆล้านแล้ว ไม่ต้องมาหลอกลวงโฆษณาชวนเชื่อหากินเล็กกินน้อยให้เค้าด่าแบบนี้หรอก แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 09:10:41 จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:09:28

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างน้อยรถที่เชื้อเพลิงจากไฮโดรเจน ก็ควรจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จากคุณ : biawiz เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 09:24:45

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าพลังน้ำใช้ได้จริงนะ ประหยัดด้วย แค่ปรับปรุงถนนใหม่ ทำคันกั้นน้ำขึ้นมาให้สูงประมาณ 1 เมตร ปรับปรุงสภาพรถใหม่ให้สามารถกันน้ำได้ เอาเครื่องยนต์เดิมนั่นแหละยกออกมาติดใบพัด (เคยเห็นเรือหางยาวมั้ยประมาณนั้น) 555+ จากคุณ : MFire เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:16:42 A:202.176.95.62 X: TicketID:219519

ความคิดเห็นที่ 12 ณ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ขายเจ้าไหนอธิบายได้ว่า ทำอย่างไรถึงได้พลังงานมาเพิ่ม มากกว่าโหลดที่ใช้ในการแยกไฮโดรเจน เพราะพลังงานไฟฟ้าที่ใช้แยก มันก็กินโหลดเครื่องยนต์ ทำให้กินน้ำมันมากกว่าเดิม และคิดตามประสิทธิภาพการเปลี่ยนแปลงพลังงานแล้ว ยิ่งทำหลายต่อยังไงมันก็ต้องน้อยลงครับ(เปลืองกว่าเดิม) ที่ตปท.เขาทำกัน คือใช้ไฟฟ้าจากภายนอก (ชาร์ทจากที่บ้านเลย) หรืออัดไฮโดรเจนเหลวเข้าถังโดยตรง(แบบ BMW H series) ซึ่งต้นทุนการสร้างไฮโดรเจนจากพลังงานภายนอกจะถูกกว่าการใช้เครื่องกลสันดาปภายใน(เครื่องยนต์รถยนต์)ไปปั่นไฟฟ้าเพื่อแยกโดยตรงครับ (ไฟฟ้าบ้านต้นทุนถูกกว่า) และเครื่องต้นแบบที่ตปท. ก็ต้องมีการดัดแปลงกำลังอัดเครื่องยนต์ด้วย ที่เคยเห็น เพิ่มกำลังอัดอีกสามเท่าตัวด้วยซ้ำ(จากแถวๆ 10:1 ไปเป็น 30:1)ถึงจะใช้ไฮโดรเจนที่เติมไป เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้เต็มที่ ในขณะที่่โฆษณาในบ้านเรา กลับไม่พูดถึงเรื่องเหล่านี้เลย การทดลองที่อ้างว่าทำจริง ก็ขาดตัวแปรควบคุมหลายๆอย่าง ส่วนใหญ่ใช้คำกล่าวอ้างจากความรู้สึกของผู้ใช้ หรือการวัดความสิ้นเปลืองที่ไม่ชัดเจน ตรงนี้แหละทำให้เห็นเลยว่า มันไม่น่าเชื่อถืออย่างไรครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:28:53

ความคิดเห็นที่ 13 ผิดกฏข้อที่ 1 ของ เทอโมไดนามิก ครับ ไม่มีทางเป็นไปได้ จากคุณ : Marine Red เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:30:57

ความคิดเห็นที่ 14 อยากรู้เรื่อง "พลังงาน ไนโตรเจนเหลว" หรือ "ไนโตรเจน อัดแท่ง" บ้างอ่ะ จากคุณ : chontanon538 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:46:20

ความคิดเห็นที่ 15 มีใครเก่งเคมีคำนวณ ช่วยคิดหน่อยครับ ว่าน้ำ ที่เป็นของเหลว 1 ลิตร  จะให้ H2 ได้กี่ลิตร ที่ STP เมื่อแยกด้วยไฟฟ้า จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 10:59:03

ความคิดเห็นที่ 16 http://www.reuters.com/news/video?videoId=84561 จากคุณ : สาธุ (สาธุฯ) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:07:11

ความคิดเห็นที่ 17 คห. 5 อธิบายไว้ถูกต้องแล้ว และโดยวิธีเช่นนั้น ซึ่งเป็นวัฏจักร เป็นไปไม่คุ้ม อยากบอกว่าเธอโมไดนามิกเป็นคำตอบ และเชื่อว่า นี่เป็น GT200 อีกอันหนึ่ง จริง ๆ แล้ว คห. 13 เป็นคำตอบสุดท้าย จากคุณ : swathcu@yahoo.com เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 11:27:43 A:115.67.123.133 X: TicketID:281681

ความคิดเห็นที่ 18 ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับ ว่า เวลา ไดนาโมมันหมุนไป มันเพิ่ม load ของเครื่องยนต์ อย่างไรครับ ก็เห็นสายพานมันก็พา ไดนาโม หมุนอยู่ตลอดเวลาแล้ว จากคุณ : สิบเอกกองหนุน เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 13:02:54 A:58.181.137.130 X: TicketID:136335

ความคิดเห็นที่ 19 เวลามีโหลดไฟฟ้า ไดนาโม มันหนืดขึ้นครับ สมมุติว่ามีโหลด 500 W มือมนุษย์หมุนกันไม่ไปเลยทีเดียว จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 13:21:02

ความคิดเห็นที่ 20 รถยนต์ใช้ alternator เป็น ac generator นะครับ จะหนืดขึ้นมั้ยเวลามี โหลดผมไม่ค่อยแน่ใจ  แต่เวลาต้องการกระแสเพิ่มขึ้นมันจะจ่ายไฟเข้าไปใน rotor มากขึ้นเพื่อเพิ่มความเข้มของสนามแม่เหล็ก ผลให้ได้ไฟฟ้าออกมาจาก stator มากขึ้น แยก H2O มันจะได้ H2 กับ O2 ส่วนมากเราไปคิดกันในส่วนของ H2 ที่ได้มา มันได้มาคุ้มกับพลังงานที่เสียไปหรือเปล่า แต่เราอาจจะลืมมองในส่วนที่ว่า O2 ที่ได้มา มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาไหม้ด้วยเหมือนกัน ช่วยให้จุดระเบิดได้ดีขึ้น เผาไหม้ได้ไวขึ้น หมดจดขึ้น ในเครื่องยนต์สันดาบภายใน เราใช้แรงจากการจุดระเบิดทำให้เกิดแรงอัดเพื่อดันลูกสูบ-ข้อเหวี่ยง-เพลาข้อเหวี่ยงฯลฯ ไปจนหมุนล้อ... ถ้าเราสามารถทำให้เกิดงานเท่ากันได้(เช่นหมุนเพลาได้ 1 รอบ) ในเวลาน้อยลง จากเชื้อเพลิงเดิม เราต้องเพิ่มปริมาณ เชื้อเพลิง. ให้มากขึ้น จึงจะได้งานเท่าเดิม.. แต่ถ้าเราสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง ให้ขึ้น.. สามารถจุดระเบิดได้แรงขึ้น.. ในงานที่เท่ากัน (หมุนเพลา 1 รอบ) เราก็สามารถลดปริมาณเชื้อเพลิงให้น้อยลงได้ ในขณะเดียวกัน ถ้าเราใช้เชื้อเพลิงที่ไร้ประสิทธิภาพมากๆ เช่นเทียนไขทั้งเล่ม ซึ่งน่าจะมีค่าพลังงานความร้อนมากกว่าน้ำมันที่ฉีดเข้าไปในกระบอกสูบ เป็นเชื้อเพลิง พลังงานจากการเผาไหม้เทียนไขนั้น จะถูกดูดซับโดยระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และจะไม่เกิดงานในทาง physics ส่วนในคลิปของ mythbuster ที่เอา H2 เพียวๆมาอัดลงในเครื่องยนต์ คาร์บูเรเตอร์แล้วปรสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลงนั้น คาดว่าน่าจะมาจากการที่เครื่องยนต์ ขาด O2 ในการเผาไหม้เสียมากกว่า แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเป็นแค่ข้อสันนิฐานของผม ที่เอนเอียงไปทาง HHO น่าจะใช้การได้ ไม่มีเอกสารอ้างอิงทางวิชาการใดๆทั้งสิ้น.. ยกเว้นเรื่องเดียวคือพลังงานที่เท่ากับเทียนไขหรือต่อให้เป็นเทียนพรรษาทั้งเล่มถ้าค่อยๆปล่อยพลังงานออกมา ไม่มีทางขับดันเครื่องยนต์สันดาบภายในให้เกิดงานทาง physics ได้แน่ๆ เครื่องยนต์สันดาบภายใน คิดเอาแพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิงอย่างเดียวไม่ได้ พลังงานที่สูญเสียให้ระบบระบายความร้อน เป็นจุดนึงที่ทำให้การคำนวนคลาดเคลื่อนแล้ว. ยิ่งเครื่องยนต์ยิ่งร้อนเมื่อเทียบกับอุณหภูมิภายนอกเท่าไหร่ พลังงานที่เสียไปต่อหน่วยเวลายิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจะใช้วิธีคำนวนแบบที่ใช้ๆหักล้างกันมาแต่เดิมได้นั้นเครื่องยนต์ต้องเป้นเครื่องยนต์ในอุดมคติเท่านั้น ไม่มีการสูญเสียพลังงานให้กับภายนอกเลย พลังงานที่ป้อนเข้าไปสามารถแปรเป้นงานทาง Physics ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้จุดไม้ขีดใส่ในกระบอกสูบ เครื่องยนต์ก็ต้องหมุน.. ถ้ามีเครื่องยนต์แบบนั้น ค่อยเอาวิคิดแบบเดิมมาหักล้างครับ จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 14:48:08

ความคิดเห็นที่ 21 ปล...  ผมตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้จบแล้ว. หลังจากหยุดมาหลายสิบปี ว่าจะเข้ารามปีการศึกษาหน้านี้ล่ะ.. จะกลับไปเป็นเด็กโข่ง...  เศรษฐกิจแบบนี้เรียนหนังสือดีกว่า.. แล้วเดี๋ยวจะมาร่วมคำนวนด้วยนะครับ เรื้อไปนาน จะให้กลับมานั่งคำนวนโชว์ด้วยผมในตอนนี้คงไม่ไหว.. ขอกลับไปทบทวนตำรับ ตำราก่อน.. แต่กฏเทอโมฯ ไม่ได้ถูกแหกในเรื่องนี้แน่ output ไม่ได้ มากกว่า input แค่วิธีคิดที่ผ่านๆมามันยังตก factor บางตัวไปทำให้ผลจากการคำนวนคลาดเคลื่อน จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 14:51:37

ความคิดเห็นที่ 22 โพสให้เองเลย.. ในเครื่องยนต์ คาร์บูเรเตอร์นั้น อัตราส่วนการจ่ายน้ำมันนั้น จะจ่ายค่อนข้างคงที่ในอัตราส่วนไอดี : น้ำมัน มีแนวโน้มไปทางบางขึ้นเรื่อยๆตามรอบเครื่อง แต่ถ้าเป็นเครื่องยนต์หัวฉีด เครื่องยนต์จะปรับอัตราส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิงตามปริมาณความต้องการของเครื่องยนต์ในขณะนั้น โดยถ้าตรวจสอบจากไอเสียแล้วยังมีน้ำมันที่เหลือจากการเผาไหม้มากเกินไป ECU ก็จะสั่งลดอัตราการจ่ายน้ำมันลง ถ้า HHO ช่วยในการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเดิมได้จริง เครื่องยนตหัวฉีดน่าจะเห็นผลความแตกต่างในการใช้น้ำมันได้มากกว่า จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 14:59:28

ความคิดเห็นที่ 24 ถามรายละเอียดหรือยัง ว่าเค้าใช้กระแสจากแบตกี่แอมป์ แล้ว Cell ใช้ได้นานมั๊ย ถ้าเป็น สแตนเลส ต่อให้ใช้เกรด 316L ก็ใช้ได้ไม่นานกร่อนหมด ข้อสงสัยไปดูที่ Link: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10031558/V10031558.html แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 15:48:54 จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 15:47:40

ความคิดเห็นที่ 25 ห้าๆ มีเรื่องใหม่ให้ หว้ากอ เล่นอีกแล้ว จากคุณ : dust su เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:24:33

ความคิดเห็นที่ 26 ชอบสงสัยกันจริงว่าทำไมไม่ไปขายให้บริษัทรถจะได้เงินเยอะๆ เหตุผลนะหรือครับ (อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของทีมงานเองนะครับ ใครคิดอย่างไรก็แชร์กันได้นะครับ) 1. บริษัทรถ มันก็อิงกับบริษัทน้ำมัน ใครจะอยากให้ผลการดำเนินงานลดลงละ ในโลกทุนนิยม ถ้าเอาน้ำไปเป็นส่วนลดของเชื้อเพลิง 20-30% คุณคิดว่าเงินหายไปเท่าไร คิดเฉพาะเมืองไทยแล้วกัน ปีที่แล้วนำเข้าเชื้อเพลิงทุกชนิด (ฟังจากวิทย จส.100) 900,000,000,000 (เก้าแสนล้านบาท) ถ้าหายไป 20% เท่าไร่ คิดดู ขนาดผมเปิดตัวอย่างนี้ ติดตั้งได้ไม่มากเท่าไร เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับรู้ ยังเสียวลูกปืนเลย 2. เมื่อก่อนมีการ Copy จากของฝรั่งมาทำ โดยไม่มีความรู้ลึกซึ้ง เลยต้องออกแนว แชร์ลูกโซ่ ทำให้ชื่อเสียงของ ไฮโดรเจนในรถยนต์ ไม่ดีเอามากๆ 3. บ.รถคงไม่ต้องการให้ลูกค้าต้องมาวุ่นวายกับการใช้ระบบเชื้อเพลิง 2-3 ระบบในรถคันเดียวกัน เพระรถใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิงร่วม ไม่ใช่แค่เติมน้ำแล้วใช้ได้เลยนะ ต้องตรวจดูกระแสที่ใช้งานอีก (ในอนาคตทางเราจะทำให้แค่เติมน้ำไม่ต้องตรวจเช็กกระแส) ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกๆ 5,000-10,000 กม เหล่านี้เจ้าของรถต้องทำเอง เพื่อตัดความยุ่งยาก เพราะผู้ใช้รถส่วนใหญ่ ใช้อย่างเดียว ซ่อมบำรุงไม่เป็น เอาเข้าศูนย์ หรือ อู่ให้ช่างทำให้ 4. ปัญหาใหญ่ที่จะต้องพบคือ คำถามจากลูกค้ารถ ทำไมชั้นวิ่งได้เท่านี้? คนอื่นวิ่งได้เท่านั้น? แล้วใช้งานประหยัดได้ไม่เหมือนกันทุกคัน บางคันได้มาก บางคันได้น้อย อาจจะมือเหตุผลอื่นๆอีก แต่ที่แน่ๆ พวก บ.รถทั้งหลายเค้ารู้ว่ามันใช่ได้แต่เค้าไม่อยากทำ จะไปว่าอะไรเขา จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:28:55

ความคิดเห็นที่ 27 ในนี้เล่นกันมาหลายรอบแล้วไม่มีใครมาลองของจริงซักคน ไปที่ Weekly hobby แล้วด้วย แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 16:36:36 จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:35:55

ความคิดเห็นที่ 28 โบรชัวร์ของ Water Power Car Club ครับ จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:43:28

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้เป็น Honda Accord โฉมใหม่ Trip A วัดก่อนติดตั้ง Trip B วัดหลังติดตั้ง จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 16:50:11

ความคิดเห็นที่ 30 กระแสแค่ Amp. กว่าๆ - 3 Amp. นี่มีผลเลยหรือครับ.. ในเมื่อทำเป็นธุรกิจแล้ว รบกวนเพิ่มงบทดลองและวิจัยหน่อยได้มั้ยครับ หาสาย OBD มาต่อแล้วลองตรวจ Inj. timing ของรถ ในช่วงที่ใช้ HHO กับ ไม่ใช้ให้ดูหน่อยได้มั้ยครับ ผมเองเคยออกแบบการทดสอบไว้แต่ติดตรงที่ ผมไม่ได้มีผลประโยชน์ตรงนี้เลย อยากสงวนเงินเอาไปทำอย่างอื่นมากกว่า ถ้าสนใจจะพิสูจน์กัน โดยมีหลักฐานที่วัดกันได้ จากเครื่องยนต์จริงๆ นี่ติดต่อมาได้นะครับ ผมเองก็อยากรู้ว่ามันจะประหยัดได้จริงแค่ไหนเหมือนกัน   ถ้าตรวจจากเวลาที่หัวฉีดเปิดเพื่อจ่ายน้ำมัน ก็น่าจะพอรู้แล้วล่ะครับว่า ประหยัดไปได้กี่ % สนใจมั้ยครับ ... ถ้ามีผลการทดสอบ ให้เห็นเป็นหลักฐาน นี่ผมว่าลูกค้าน่าจะชอบมากกว่าด้วยนะครับ ผมอยากทดสอบ สมมุติฐานของผมด้วยเหมือนกัน แล้ววันทดสอบ เราเชิญหมอเจ มาร่วมเป็นสักขีพยาน กัน..  ผมจะดันให้หมอเจ เป็น สัญญลักษณ์ ของการพิสูจน์ความจริงด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่ หว้ากอยอมรับ ถึงผลงานจะได้การวิจัยยรับรองจาก สถาบันไหนมาผมก็ว่าสู้ได้รับคำรับรองจากหว้ากอ ไม่ได้หรอกครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 20:56:52 จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 19:35:38

ความคิดเห็นที่ 31 ให้เพื่อนๆ ช่วยกันออกแบบการทดสอบ.. หลายๆคนช่วยกันคิดจะได้ ไม่มีจุดบอด โดยวัดการกินน้ำมันของเครื่องยนต์ ตัวเดียวกันในสภาวะที่ใช้ HHO เป็นตัวช่วย กับไม่มี HHO~เป็นตัวช่วย โดยโหลดที่ผมคิดคร่าวๆ ก็เปิดแอร์สุด เปิดพัดลมสุด เปิดประตูกลางแดด เข้าเกียร์(auto) ดึงเบรคมือ แล้วปล่อยเครื่องที่รอบเดินเบา... วัดโดยการตรวจดู Inj. timing ของหัวฉีด เทียบกันระหว่าง มี กับไม่มีตัวช่วย.. แต่ Load เมื่อกี้ มันแค่ Load เบา ผมอยากได้ Load ที่มันหนักกว่านี้อีกนิด แล้วก็รอบเครื่องที่สูงอีกซักหน่อย เราจะทำยังไงกันดี  นอกจากเอาขึ้น dyno จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 19:39:49

ความคิดเห็นที่ 32 มี 2 ฝั่งแล้ว แบบนี้มีมัน  ดันขึ้นแนะนำดีกว่า จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 33 นี่คือว่าที่กระทู้แนะนำสินะ มารออ่าน จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:08:14 A:10.0.100.141 X:58.9.124.240 TicketID:163756

ความคิดเห็นที่ 34 โหวตค่ะ รออ่านๆ จากคุณ : FrozenICEs เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:18:26

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าจะวัดก็เอาเฉพาะเครื่องมาลองเลย สั้นๆง่ายๆ ไม่ต้องเอาออกถนนให้ยุ่งยาก วิ่งมันบนสายพานนี่แหละ แต่ตามหลัก Thermodynamic ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากว่ากฎมันมีจุดบกพร่อง ถ้าทำได้ก็เอา Noble prize ไปเลย จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:35:01

ความคิดเห็นที่ 36 #35 กฏยังไม่มีจุดบกพร่องหรอกครับ แต่ สมการที่ใช้คำนวน มันยังไม่ครอบคลุมไปถึงทุกองค์ประกอบทุกตัวแปรต่างหาก แล้วโนเบล นี่เค้าให้กันง่ายๆแบบนี้เลยหรือครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 20:43:07 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 20:43:06 จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:42:34

ความคิดเห็นที่ 37 ปล.  ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายไม่เชื่อนะครับ ผมอยู่ฝ่ายเชื่อ ... แต่ผมต้องการ ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างเป็นกลาง เพื่อรองรับความเชื่อของผม ซึ่งถ้าความเชื่อของผมมันผิดผมจะได้เลิกเชื่อ.. เท่านั้นเอง เรียกว่าเชื่อแบบไม่งมงายน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 54 20:47:23 จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:46:51

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าคุณ rakpongjar แน่ใจในผลิตภัณฑ์จริงๆ ผมของเชิญพิสูจน์ด้วยกันครับโดยมีการพิสูจน์ดังนี้ 1) เอารถที่คุณติดตั้งแล้วมาขึ้น Dynotest ที่นี่ http://www.testcar.co.th/thai.prices.php ****ผมออกค่าใช้จ่ายเอง**** การทดสอบโดยการวิ่งบนถนน มีปัจจัยประกอบมากมาย บางครั้งสรุปผลไม่ได้ 2) ใช้เวลาทดสอบ 1 ชม โดยเติมน้ำมันเต็มถัง วิ่งเปิดเครื่อง HHO ครึ่งชม แล้ว เติมน้ำมัน กับวิ่งไม่เปิดเครื่อง HHO ครึ่ง ชม แล้วเติมน้ำมัน จะต้องเติมน้ำมันน้อยกว่ากันคิดเป็นเปอร์เซนต์ตามที่คุณแจ้งไว้ (ความเร็วคงที่ เท่ากันทั้ง 2 รอบ) 3) ถ้ารับที่จะทดสอบ ผมจะขอเชิญสมาชิก หว้ากอ และรัชดา ร่วมสังเกตุการณ์โดยมีการถ่าย VDO เป็นสัขขีพยาน 4) ถ้าประหยัดได้จริง จะเป็นผลประโยชน์กับคุณ เหมือนกับเป็น ใบรังรองอย่างดี โดยไม่ค้องไปเถียงกับใคร 5) ผมอยู่ในแวดวงพลังงานเช่นเดียวกับผู้ประดิษฐ์ครับ และมีวิศวกรทั้งไฟฟ้า และเครื่องกล ใน EGAT หลายท่านที่ยินดีจะร่วมทดสอบด้วย ซึ่งน่าจะพอมีความเข้าใจเพียงพอที่จะไม่ใช่ "คนตาบอดคลำช้าง " นะครับ ถ้ารับผมจะได้ประกาศใน Pantip หาผู้เข้าร่วมครับ จากคุณ : benz124 (benz124) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 20:56:03

ความคิดเห็นที่ 39 "ชอบสงสัยกันจริงว่าทำไมไม่ไปขายให้บริษัทรถจะได้เงินเยอะๆ เหตุผลนะหรือครับ (อันนี้เป็นการวิเคราะห์ของทีมงานเองนะครับ ใครคิดอย่างไรก็แชร์กันได้นะครับ) 1. บริษัทรถ มันก็อิงกับบริษัทน้ำมัน ใครจะอยากให้ผลการดำเนินงานลดลงละ ในโลกทุนนิยม ถ้าเอาน้ำไปเป็นส่วนลดของเชื้อเพลิง 20-30% คุณคิดว่าเงินหายไปเท่าไร คิดเฉพาะเมืองไทยแล้วกัน ปีที่แล้วนำเข้าเชื้อเพลิงทุกชนิด (ฟังจากวิทย จส.100) 900,000,000,000 (เก้าแสนล้านบาท) ถ้าหายไป 20% เท่าไร่ คิดดู ขนาดผมเปิดตัวอย่างนี้ ติดตั้งได้ไม่มากเท่าไร เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับรู้ ยังเสียวลูกปืนเลย " ขอโทษ เถอะครับ คนติด Gas ทำให้บริษัทน้ำมันรายได้หด มากกว่า HHO อีกมากมาย   รถไฮบริต รถไฟฟ้า น้ำมัน E20 อีกเช่นกัน มากกว่าซะด้วย บริษัทรถยังสนับสนุนเลย  มันผูกกันขนาดนั้นเชียวหรือครับ จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 21:02:39

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับ #39 อย่างมาก... แต่ขี้เกียจพิมพ์นอกประเด็น เลยนิ่งเสีย.. ส่วนเหตผลอีกสอง-สาม ข้อที่เค้าให้มายังพอจะฟังขึ้นมากกว่าเยอะเลย โดยเฉพาะเรื่องการดูแลรักษา ดูมีเหตผลกว่าเยอะ.. จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 21:17:09

ความคิดเห็นที่ 41 กล้าๆหน่อยเพ่ ถ้าคิดว่าแน่จริง มีคนท้าแล้ว ปูเสื่อรอล่ะนะ อย่าหนี ขอร้อง จากคุณ : AJ_da_NR เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 22:50:45

ความคิดเห็นที่ 42 ใครชอบลองก็ลอง แล้วก็ไปแจ้งความถ้าถูกหลอก ลองเยอะๆแจ้งความเยอะๆ มันก็หมดไปเอง จากคุณ : pkmea เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 22:52:32

ความคิดเห็นที่ 43 เอ้า ช่วยดัน ว่าที่กระทู้แนะนำ จากคุณ : สายฝนกับลมหนาว เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 23:00:56

ความคิดเห็นที่ 44 ก็ถ้าใครล้มกฎ Thermodynamic ได้ Noble Prize จะหนีไปไหน? หรือผมเขียนไม่เคลียร์? จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 23:23:28

ความคิดเห็นที่ 45 แหม... อย่าท้ากันแบบนี ดิ่ครับ มันดูเหมือนหาเรื่องกันมากเกินไป.. ผมว่า เค้าอาจจะเชื่อว่าสินค้ามันดีจริง. ก็ได้   เราก็แค่ช่วยกันทดสอบอย่างเป็นกลางและ ตรงไปตรงมา.. เพื่อหาข้อสรุปว่ามันช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง จริงหรือไม่ ในงานเท่ากัน ซึ่งผลที่ได้ อาจจะ ไม่ตรงกับที่เราคิดก็ได้ มันอาจจะกลายเป้นว่า.. HHO สามารถช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงหลักได้ จริงก็ได้.. ต้องพิสูจน์กันก่อนแล้วค่อยมาว่ากันครับ.. เพียงแต่อยากให้ทั้งสองฝ่าย มาร่วมกันออกแบบการทดลองร่วมกัน เพื่อที่จะได้ข้อสรุปที่สนับสนุนความเชื่อของแต่ล่ะฝ่าย จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 23:25:22

ความคิดเห็นที่ 46 ก่อนจะทำทดลองก็ควรจะอธิบายทางทฤษฎีมาให้ได้ก่อนว่ามันทำได้ยังไง เพื่อที่จะได้ประเมินได้ว่ามันคุ้มหรือไม่ที่จะทำการทดลอง จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 23:30:36

ความคิดเห็นที่ 47 #44 เพราะผมคิดว่ามันไม่จำเป้นต้องล้มกฏThermodynamic ก็ได้ นี่ครับ บอกแล้วไง factor ประกอบ เช่นความร้อนที่เสียไปให้กับระบบระบายความร้อน หรือ อื่ๆ ที่อาจจะแตกต่างจากกันระหว่างทั้งสองระบบซึ่งอาจจะมี และยังไม่ได้รวมอยุ่ในการคำนวนที่ผ่านๆมา อาจจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ผลการทดลองจริง แตกต่างไปจาก. คำนวนก็ได้ เหมือนน้ำมันหมูสามลิตร... แน่นอนว่ามีค่าพลังงานความร้อนมากกว่า น้ำมันเบนซิล 500 cc. แน่นอน แต่น้ำมันหมู ทั้งสามลิตรนั้นไม่สามารถก่อให้เกิดงาน ทาง physics ในเครื่องยนต์เบนซิลได้แม้แต่น้อย.. ในขณะที่น้ำมันเบนซิล เพียง 500 cc. สามารถสร้างงานได้ตามปรกติ.. ดังนั้นกรณีนี้ถ้าเราไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ในอุดมคติ ที่ไม่มีการสูญเสียพลังงานออกจากระบบเลยแล้ว เราก็ไม่สามารถคิดชุ่ยๆโดยการเอาแค่ค่าพลังงานความร้อนแต่เพียงอย่างเดียวมาสรุปว่ามันใช้ได้หรือไม่ได้ ผมเชื่อในการคำนวนครับ และผมเชื่อด้วยว่าถ้ามีข้อมูลและองค์ประกอบต่างๆในสมการมากพอ อะตอมแค่อะตอมเดียวผ่านไปสามล้านปีจำไปอยู่ตรงไหนทำปฏิกิริยาอะไรกับใครบ้าง เราก็สามารถคำนวนได้ครับ  แต่ต้องมีข้อมูลที่มากพอ.. และสมการต้องถูกต้อง แต่ผมมองการคำนวนที่ผ่านๆมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า. มันขาดอะไรบางอย่างไป... หรือเปล่า.. เลยอยากให้พิสูจน์ด้วยการทดลอง... แทน จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 23:34:51

ความคิดเห็นที่ 48 พลังงานที่ได้ออกมาจากไฮโดรเจนไม่มีทางที่จะเท่ากับพลังงานที่ใช้แยกไฮโดรเจน จากคุณ : หางแหลม เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 00:34:49

ความคิดเห็นที่ 49 ตามรายการ เหรียญสามด้านด่วน จากคุณ : monasa เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 00:45:36

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อสักสองสามปีก่อนตัวผมเองสิงสู่อยู่ห้อง รัชดาเสียส่วนใหญ่ ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่สิ้นหวังกับราคาน้ำมันที่แพงกันขี้ราด และหลังจากได้รู้จักกับพลังงานอย่างไฮโดรเจน นำมาใส่รถ ร่วมกับพลังงานน้ำมัน ในเวลาแรกผมสนใจมันเป็นอย่างมาก แต่ก็กลัวโดนหลอก จึงศึกษาข้อมูลมากมาย จนได้มาเจอข้อมูลมากมายทั้งในห้องหว้ากอและรัชดา ซึ่งข้อมูลทั้งหมด ผลสรุปของมันออกมเาป็นเสียงเดียวกันคือ พลังงานที่ใช้แยกน้ำ มันเยอะกว่าพลังงานที่ได้มาจากไฮโดรเจน -*-  จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 00:52:56

ความคิดเห็นที่ 51 ตอบสั้นๆ ว่า ใช้ได้ไม่จริง ไม่ประหยัดจริงอย่างที่โม้ แล้วไม่ต้องเสียเวลาไปหากระทู้เก่าหรอก  โดนลบไปหมดแล้ว  จากพวกที่ขายอุปกรณ์พวกนี้แหละ กระทู้นี้  อีกไม่นานก็คงโดนลบ ป.ล. ขี้เกียจอธิบายแล้่วครับ จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 01:35:11

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่า จริงๆมันก็ไม่เหลวไหลเท่าไหร่ สำหรับแนวคิด เช่นในโรงไฟฟ้าแบบกังหันแก๊ส  แต่ก่อนก็ประสิทธิภาพต่ำ จนมีการเพิ่มระบบsteam boilerจากแก๊สร้อน เป็นcombine cycle ประสิทธิภาพก็สูงขึ้น นั้นคือเป็นการใช้waste energyให้คุ้มค่า คราวนี้ รถน้ำไฮโดรเจนนี้ใช้ไฟฟ้าจากใหนในการแยกน้ำ  ถ้าใช้จากระบบเดิม หรือเป็นโหลดเพิ่มให้กับน้ำมันเชื้อเพลิงมันก็เป็นการสิ้นเปลืองเปล่าๆ   แต่ถ้าใช้ความร้อนที่เสียไปในรถยนต์มาแยกน้ำ  อันนี้พอเป็นไปได้   วิธีการก็อาจใช้thermocouple แปลงความร้อนจากลูกสูบให้เป็นไฟฟ้า  แต่มันจะทำได้หรือเปล่า ก็อีกเรื่อง แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 02:03:58 จากคุณ : Meredith R. McKay เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 01:47:15

ความคิดเห็นที่ 53 อันนี้สำหรับอ่านคร่าวๆครับ  ว่าทำไมจึงยุ่งยากซับซ้อนมากจนไม่สามารถใช้งบไม่กี่หมื่นได้ http://www.nst.or.th/article/article494/article49415.htm จากคุณ : BLiNDiNG เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 03:10:17

ความคิดเห็นที่ 54 มันไม่เกี่ยวกับค่าพลังงานความร้อน มันอยู่ที่ว่าเราไม่สามารถสร้างพลังงานจากความว่างเปล่าได้ และการเปลี่ยนรูปพลังงานไม่สามารถทำได้ 100% ปกติ น้ำมัน>>พลังงานกล น้ำ น้ำมัน>>ไฟฟ้า>>H2>>พลังงานกล ดูที่ Net ยังไงมันก็ Loss อยู่แล้ว จะมากจะน้อยก็ว่ากันไป มีทางเดียวที่ ระบบ HOO จะช่วยประหยัดน้ำมันคือ เพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปพลังงานของเครื่องยนต์มากกว่าที่ Loss ไปจากการแปรรูปพลังงาน ไฟฟ้า>>H2 จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 03:33:54

ความคิดเห็นที่ 55 ดูจากโฆษณาเห็นบอกว่ากินกระแส 0.5 - 1.2 ถ้ากระแส 1.2 แอม ใน 1วิจะแยก H2 1.2/96485 = 1.24371 * 10-5 mol e- หรือเท่ากับ 0.3109 * 10-5 mol Hydrogen เข้าสูตร pV=nRT จะได้ปริมาตรของ H2 = 7.60 * 10-5 ลิตร 0.0000760 ลิตร / วินาที จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 03:58:04

ความคิดเห็นที่ 56 ผมไม่รู้ว่าการเผาไหม้น้ำมันในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ทุกวันนี้ สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์แล้วหรือยัง คือยังมีส่วนที่ยังเผาไหม้ได้เหลือออกมากับไอเสียหรือไม่ ถ้าสมบูรณ์เรียบร้อยดีอยู่แล้ว เติม H2 กับ O2 เข้าไปไอเสียที่ได้ก็คงไม่พ้น H2O อย่างนี้ถ้าบอกว่าประหยัดน้ำมันก็ผิดกฏเทอร์โมไดนามิกซ์ แต่ถ้าเผาไหม้เดิมไม่สมบูรณ์ มีส่วนที่ยังเผาไหม้ให้พลังงานได้ออกมากับไอเสีย แต่พอเติม H2 กับ O2 ลงไป แล้วทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่เหลือส่วนที่เผาไหม้ให้พลังงาานได้ออกมากับไอเสียอีก อย่างนี้ก็มีโอกาสที่จะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ สุดท้ายถ้าอยากให้แน่ใจต้องทำการทดลองอย่างถูกต้องอย่างเดียวครับ ปล. ผมเชื่อไปทางว่า ณ เทคโนโลยีตอนนี้ มันไม่ได้ช่วยให้เกิดการประหยัดน้ำมันได้ครับ จากคุณ : Alone in the Rain เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 04:15:26

ความคิดเห็นที่ 57 ชิดขวาไว้ จากคุณ : TrainnerGoki เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 07:24:41

ความคิดเห็นที่ 58 เรียนทุกความเห็น   ผมไม่ได้ท้าครับ จะสังเกตุว่าผมใช้คำว่าเชิญ ทุกว้นนี้เรื่องนี้ มันแบ่งเป็น 2 พวก            1 ฝั้งนักทฤษฏี ซึ่งร่ำเรียนมา และแค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ โดยไม่ต้องทดลองอะไร             2 ฝั่งนักปฏิบัติซึ่งลองทำแล้ว พบว่ามันช่วยประหยัดจริง บนเส้นทางทั่วไป ซึ่ง อาจจะจริง หรืออุปทานก็ไม่รู้ เหมือนเครื่องต้านแรงดึงดูด ก็ยังมีบุคคลชื่อดังอุปทานได้เลย              มีกระทู้เถียงกีนเรื่องนี้เป็น พันแล้วได้แต่เถียงกัน  ซึ่งสังเกตุว่ายังไม่มีการทดสอบตามหลักวิชาการเลย ซึ่งถ้าทดสอบตามหลักการแล้ว จะได้เป็นหลักฐาน บรรทัดฐาน ให้สังคมได้รับทราบ ประหยัดได้ก็จะเป็นระบบใหม่ที่น่าจะร่วมพัฒนากันต่อไป   เน้นว่าผมออกค่าใช้จ่ายค่าเช่าเครื่อง dynotest ให้ แต่ผมต้องการรถยนต์ที่ติดตั้งระบบดังกล่าวแล้วมาทดสอบ และต้องการสักขีพยายมาร่วมออกแบบการทดสอบ รวมถึงสังเกตุการณ์ ครับ ถ้าพร้อมเชิญเลยครับ ผมจะคอยเปิดกระทู้นี้อยู่ จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 07:48:46

ความคิดเห็นที่ 59 rakpongjar....disappeared.... จากคุณ : Karakgnut เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 08:12:12

ความคิดเห็นที่ 60 ดูโดยหลักการแล้ว ดูเหมือนจะทำได้ แต่ก็ไม่น่าได้ ที่ว่ากันมันแยกประเด็นคือ - ใช้ ไฮโดรเจนที่แยกได้มา ช่วยได้ผลจริงๆ(หรือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) หรือ - แยกไฮโดรเจนมาใช้ได้จริงหรือเปล่า(หรือแยกไม่ได้เลยติดไว้เฉยๆ) เรื่องระบบเชื้อเพลิงที่ติดตั้งมาเลย ค่ายรถใหญ่ๆ ก็ไม่ทำ เช่น CNG ที่เห็นมีแต่ เชฟฯ กับ ทาทา ที่ติดมาจากโรงงานเลย ทั้งๆที่ เราติดแก๊ส กันมาเป็นสิบๆปีแล้ว แต่ ค่ายรถก็ไม่เอามาติดไว้ เหตุผลเรื่องอะไรก็ไม่ทราบได้ เทคโนโลยี ยังล้าหลังกว่าติดแอร์แบ๊คหลายเท่านัก แต่รถ ไฮบริดจ์ ผมเชื่อนิดนึงว่า ที่ติดมานั้นเป็นเหตุผลเพราะ 1.สร้างภาพลักษณ์ในการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ดูดีขึ้น 2.ได้เงินจากการขายแบตเตอรี่เมื่อมันหมดอายุใช้งาน (กีปีไม่รู้ น่าจะประมาณ 5 ปีมั้ง) ซึ่งแน่นอนว่า แบต ก็ไม่ใช่ลูกละ 3 พันบาท เป็นหลักหมื่นๆ ไม่รวมไปถึงระบบไฟฟ้าและมอเตอร์ทั้งหลายที่จะต้องพึ่งพาศูนย์บริการ ซึ่งอู่ข้างถนนตอนนี้ไม่สามารถซ่อมระบบไฮบริจด์ได้แน่นอน 3.ค่าตัวรถที่แพงขึ้น ค่าอุปกรณ์ที่แพงขึ้น มันเทียบไม่ได้กับค่าน้ำมันที่ประหยัดไปได้เลย เช่น ปรกติขับรถเดือนนึง ค่าน้ำมัน 5 พันบาทปีละ 6 หมื่นบาท 5 ปีเท่ากับ 3 แสนบาท แต่ถ้าใช้รถไฮบริดจ์ ราคาที่แพงกว่า และ เมื่อถึง 5 ปีที่จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหลาย รวมๆแล้วก็ไม่น้อยกว่า 3 แสนบาทแน่ๆ.... มันเป็นของเล่นคนรวยที่เขาทำมาสนองตรงนั้น เพราะถ้าจะให้ โตต้า ฮอนด้า อีสุ ฯลฯ ทำรถติดแก๊สออกมาขายจริงๆ เขาคงไม่ได้อะไรเลย นอกจากลูกค้าจะประหยัดค่าใช้จ่ายลงเท่านั้น เพราะระบบแก๊สเสียก็เข้าอู่ข้างทางได้สบายๆเลย ในช่วงประกันก็วิ่งเข้าศูนย์เป็นรายจ่ายฟรีๆอีก หมดประกันก็วิ่งไปหาอู่นอก บริษัทจะได้อะไร ? นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งๆ ที่เขาไม่อยากจะวิจัยเรื่องระบบนี้มาก มันเท่ากับทุบหม้อข้าวตัวเองชัดๆ..... คงไม่มีมือถือเจ้าไหนทำแบตให้ใส่ร่วมกับเจ้าอื่นได้หรอกครับ เห็นมีแต่แบตเลียนแบบ (แต่แบตมันเป็นเทคโนโลยีระดับล่างๆไม่ได้ซับซ้อนมาก) จริงๆ ถ้าจะคิดค้นวิธีการผลิตไฟฟ้า มาแยก H ออก ผมว่าไม่ได้ยากเกินจะคิดเลย (ถ้าตั้งใจจะทำนะ) แต่เรามักจะคิดเรื่องไฟฟ้าจาก ไดนาโม เท่านั้นไม่ได้คิดว่ามันก็มีแหล่งอื่นๆที่นำมาผลิตไฟฟ้าได้ - แบตแยกต่างหาก ชาร์จไฟจากบ้านตอนกลางคืน เช้าก็ถอดปลั๊กออก ไม่เกี่ยวกับโหลดในรถเลย - พลังงานลมในขณะที่รถวิ่ง ดักลมมาใช้ - พลังงานความร้อนจากเครื่องยนต์ ที่มีมากมาย - พลังงานแสงที่ส่องเข้ามาหาตัวถังรถ (คงไม่มีใครขับรถในอุโมงค์ตลอด) ผมเชื่อโดยส่วนตัวว่า พลังงานจากน้ำมัน 1 ลิตร ใช้ขับเคลื่อนได้แค่ 30เปอร็เซ็นต์ ที่เหลือเสียไปกับระบบหมด เช่น ความร้อน แรงเสียดทาน ฯลฯ ถ้าเราเก็บเกี่ยวพลังงานที่หลุดไปนั้นมาใช้ได้ก็เท่ากับเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบได้อีก แต่ก็อยากให้ทดลองกันชัดเจนไปเลย จากคุณ : 911 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 08:19:50 A:125.26.43.155 X: TicketID:298405

ความคิดเห็นที่ 61 ตอบสั้นๆ ว่า หลอกลวงประชาชน ครับ และก็ไม่ต้องสนใจ login ที่ชื่อ rakpongjar ด้วย ... เป็นคนที่ขายเครื่องนี้ ไอเดียหลอกลวงแบบนี้ที่เมืองนอกพยายามขายกันมานานแล้ว และก็โดนเปิดโปงกันมานานแล้วด้วย ดูข่าวของ NBC ข้างล่างได้ อ้อ... ที่ขำสุดๆ คือ ตาคนแรกที่ขายเครื่องแบบนี้ในไทย ก็คนที่อ้างว่าเป็นนักวิจัยนาซ่า (จริงๆ เป็นวิศวกรดูแลเครื่องบินฝึก) แล้วบอกว่าโลกจะถล่มปี 2012 นาซ่ากำลังทำยานอวกาศอพยพคนไปนอกโลกน่ะแหล่ะ แต่กลับเมื่องไทยมาบอกว่าเป็นคนแรกที่คิดเครื่อง HHO นี้ได้ และก็ยังพยายามจะสอน/ขายเครื่องอีก ... อ้าว ก็โลกจะถล่มแล้วไม่ใช่เหรอ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 08:28:47 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 08:28:07 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 08:27:06

ความคิดเห็นที่ 62 เพชรบูรณ์ก็มีครับ ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้าไปตรวจสอบเลย จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 08:38:59

ความคิดเห็นที่ 63 ผมแกะประเด็นให้ 1 ความหน่วงของไดนาโม(ที่ต้องการไฟมากขึ้นเพื่อไปแยก HO) จะเพิ่มโหลดของเครื่องยนต์ (ซึ่งจะกินน้ำมันมากขึ้น) จนทำให้ไม่คุ้มกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย H2 O2 หรือไม่ นักทฤษฏี บอกว่าใช่ ฝ่ายสนับสนุน บอกว่า ไม่แน่ 2 ตาม คคห 56 หรือเป็นเพราะระบบเดิมเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ พอเติม H2 O2 เข้าไปทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นก็ได้ (แต่ไปจูนเครื่องน่าจะแก้ปัญหาถูกจุดมากกว่าติดเครื่องแยกก๊าซ) 3 หรือจริงๆแล้วมันเหมือนกับการใช้ Wast energy มาช่วยเสริม (ลืม Turbo Charger กันไปหมดแล้ว?) 4 ไม่มีใครเถียงเรื่องกฏเทอโมไดนามิก จบเถอะประเด็นนี้ โนบงโนเบลอะไรนี่ ---------------------------------------------------------------------- น่าจะทดลองกันนะ ผมว่า แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 08:55:25 จากคุณ : ceteris เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 08:50:59

ความคิดเห็นที่ 64 ทดสอบได้ครับ แต่ถ้าจะให้ดี ต้องเป็นรถสภาพเดิมๆ เพื่อจะได้เห็นผลต่าง ขอเป็นปิ๊กอัพดีเซล (เพราะจากการทดสอบโดยติดตั้งใช้งานจริง เครื่องดีเซลได้ความประหยัดมากกว่าเครื่องเบนซินครับ) ผมไม่แน่ใจว่าวิ่งบนไดโนเนี่ย เครื่องมันปั่นล้อโดยที่ยังเป็นเกียร์ว่างอยู่หรือเปล่า (สงสัยครับไม่เคยไปดู) หรือว่าใช้คนขึ้นไปขับ บนล้อ เข้าเกียร์ 1,2,3,4,-5 เพราะผมดูใน Clip ไม่เห็นมีคนขึ้นไปนังขับ แสดงว่า ปั่นเครื่องยนต์ ขณะเกียร์ว่าง ทีนี้ถ้าทดสอบได้ ก็ให้ลองวิ่งสภาพเดิมๆก่อน ลงมาตรวจวัดว่าใช้น้ำมันไปกี่ลิตร แล้วค่อยลงมาติดอุปกรณ์ แล้วขึ้นไปลองวิ่งอีกครั้ง แล้วลงมาตรวจวัดน้ำมัน ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า มันจะได้ผลเหมือนวิ่งบนถนนหรือเปล่า เรื่องค่าทดสอบคงไม่รบกวนสมาชิกหรอกครับ ทางผมคงจ่ายเองได้ แค่มาเป็นสักขีพยาน มาช่วยลุ้น....ก็เป็นพระคุณแล้วครับ ใครมีไอเดียอะไรก็ขอเชิญนะครับ....หรือใครจะเสียสละรถให้ทดสอบก็แจ้งมานะครับ รับรองไม่พังแน่   แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 09:41:30 จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 09:24:54

ความคิดเห็นที่ 65 โดยหลักการ ถ้ามันใช้ได้จริง ไม่ต้องเครื่องรถยนต์หรอกครับ เอาเครื่อง คูโบต้านี่แหละ หัวฉีดเหมือนกัน ติดตั้งง่าย ทดสอบง่าย น้ำมัน 1 ลิตร + ระบบน้ำที่ว่า ติดเครื่องไว้จนกว่าเครื่องจะดับเอง ไม่ต้องต่อโหลดอะไร ดูว่าจะประหยัดกว่าไหม ถ้าประหยัดกว่า ไปรับติดตั้งให้ชาวนา รับรองประเทสไทยรุ่งโรจน์ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 09:42:42

ความคิดเห็นที่ 66 ตอบ คห. 39 บริษัท Gas กับ น้ำมัน มันก็บริษัทเดียวกันนั่นแหละ ขุดเจาะน้ำมัน ก็ได้ Gas เป็นผลพลอยได้ ขุดเจาะ Gas ก็ได้น้ำมันเป็นผลพลอยได้ ดูง่ายๆ ปตท.ไง ขายทั้ง Gas ทั้งน้ำมัน ส่วน ไฮบริด เป็นของเล่นพวกมีตังส์ ที่ทำให้ดูเหมือนว่า ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งๆที่คิดค่าใช้จ่ายในระยะยาวแล้วไม่คุ้ม เติมน้ำมันถูกกว่า แล้วอย่างนี้จะให้ผมคิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 09:49:36

ความคิดเห็นที่ 67 ตามลุ้นครับ จากคุณ : onmine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:14:24

ความคิดเห็นที่ 68 มันเป็นเรื่องของการ เก็บเกี่ยวพลังงานในส่วนที่ไม่ควรจะสูญเสีย พูดแล้วอาจดูคล้ายกับหลักการ Hybrid ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสลับเก็บพลังงานกับเครื่องยนต์ มันอาจช่วยให้ประหยัดได้จริง แต่จะไม่ได้แบบนัยสำคัญ ทดลองจริงอาจได้แค่ 3% ซึ่งถ้าเทียบกับค่าติดตั้ง ค่าบำรุงรักษา ค่าเสี่ยงในการสึกหลอ มันไม่คุ้มหรอก มันเลยเอาไปเสนอขายเทคโนโลยีให้บริษัทรถยนต์ไม่ได้ (ทุกวันนี้เขาก็แข่งขันกันประหยัดน้ำมันแบบเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว) เลยต้องมาหลอกขาย กินเล็กกินน้อย กับคนที่โลภและคาดหวังในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:31:19

ความคิดเห็นที่ 69 รูปที่คุณ  rakpongjar #29 เอามาโชว์ให้ดูว่าได้ Km/L เพิ่มขึ้นนั้น  ใช้ไม่ได้ครับ เพราะไม่ได้บอกความเร็วและระยะทางของทริป A เลย  อีกทั้ง ความเร็วเฉลี่ยของทริป B ยังแค่ 53 Km/h อีกต่างหาก เรียกว่าขับช้าแบบสุดๆ ใครสภาพการใช้งานจริง ใครมันจะวิ่งด้วยความเร็วเท่านี้ครับ สรุปว่ารูปนี้ทำขึ้นมาเพื่อโชว์โดยเฉพาะ ทริป A เหยียบปกติ เพื่อให้ได้ Km/L ที่คนทั่วไปใช้กันอยู่  เทียบกับ ทริป B ที่ปล่อยไหลแบบประหยัดน้ำมันสุดๆ Km/L ที่สูง เอามาแหกตาชาวบ้าน จากคุณ : นักศึกษาโดนรีไทร์น่าเวทนา เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:36:18

ความคิดเห็นที่ 70 ต่อให้มีเครื่องยนต์ที่ไม่มีการสูญเสียพลังงานเลย อย่างมากก็เท่าทุนไม่มีกำไรหรอก จากคุณ : empaza เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:49:12

ความคิดเห็นที่ 71 ที่แสดงนั้นเป็นค่าเฉลี่ย ขณะขับขี่บนถนนครับ ช้าบ้างเร็วบ้างตามสภาพการจราจร คงไม่มีไครขับได้ 53 ตลอดหรอกครับ ส่วน Trip A, Trip B นี่ก็คืออยากจะแสดงให้เห็นว่า จากการใช้งานปกติของลูกค้า (ซึ่งระหว่าง Trip A - B ระยะทางอาจไม่เท่ากันก็ได้ แต่รถก็สามารถหาค่าเฉลี่ยของอัตราการใช้เชื้อเพลิงมาแสดงให้เห็นได้) รูปนี้ผมไม่ได้ทำขึ้นแต่ลูกค้าส่งมาให้ดูครับ คุณอย่าด่วนสรุปแบบนั้นซิครับ เข้าไปดูรูปที่โพสในบอร์ดก็ได้ ตาม Link ที่เคยให้ไว้นะครับ และอีกอย่างถ้าจากการติดตั้งให้ลูกค้า ถ้ามันไม่ได้ผลจริงๆแล้ว มีหรือผมจะเสนอหน้ามาให้พวกคุณด่ากันฟรีๆ สู้งุบงิบทำไปเงียบๆ ไม่ดีกว่าหรือ แต่นี่ผมต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ให้ทุกคนยอมรับ ถึงแม้ว่าการทดสอบอาจจะออกมาไม่ได้ผลตามที่ทางเราคาดหวัง (ใครจะไปรู้) แต่มันคงจะไม่ถึงกับกินน้ำมันเท่าเดิม หรือกินน้ำมันมากกว่าเดิมหรอก จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:55:03

ความคิดเห็นที่ 72 ผมรอฟังสรุปด้วยคนละกัน.... จากคุณ : ptcyber เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 10:55:08

ความคิดเห็นที่ 73 งั้นสงสัยที่พวกผมติดตั้งกันมาหลายสิบคัน นี่ ผีพลักให้กระมัง เห็นได้เพิ่มมาทุกคันเลย สงสัยคาถาแรง...อิ..อิ..คริ..คริ ( อย่าซีเรียด นัก เฮฮากันบ้าง ไม่ต้องเอาเป็นเอาตายกันนัก) จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:05:57

ความคิดเห็นที่ 74 #63 "1 ความหน่วงของไดนาโม(ที่ต้องการไฟมากขึ้นเพื่อไปแยก HO) จะเพิ่มโหลดของเครื่องยนต์ (ซึ่งจะกินน้ำมันมากขึ้น) จนทำให้ไม่คุ้มกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย H2 O2 หรือไม่ นักทฤษฏี บอกว่าใช่ ฝ่ายสนับสนุน บอกว่า ไม่แน่"... ผมไม่ใช่นักทฤษฎีนะครับ ไม่มีพลังงานฟรีหรอกครับ ถ้ามันไม่หนืดขึ้นเมื่อมีโหลด เท่ากับว่าคุณได้พลังงานฟรี ไปลองสตาร์ทเครื่องรถเดินเบา แล้วเปิดไฟหน้าดู ถ้ารถไม่ไฮเทคนัก จะเห็นว่ารอบตกนิดๆให้สังเกตได้ครับ (รถไฮเทคหน่อยจะมีการชดเชยเพื่อรักษารอบเครื่อง) จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:07:13

ความคิดเห็นที่ 75 "ทดสอบได้ครับ แต่ถ้าจะให้ดี ต้องเป็นรถสภาพเดิมๆ เพื่อจะได้เห็นผลต่าง ขอเป็นปิ๊กอัพดีเซล (เพราะจากการทดสอบโดยติดตั้งใช้งานจริง เครื่องดีเซลได้ความประหยัดมากกว่าเครื่องเบนซินครับ) ผมไม่แน่ใจว่าวิ่งบนไดโนเนี่ย เครื่องมันปั่นล้อโดยที่ยังเป็นเกียร์ว่างอยู่หรือเปล่า (สงสัยครับไม่เคยไปดู) หรือว่าใช้คนขึ้นไปขับ บนล้อ เข้าเกียร์ 1,2,3,4,-5 เพราะผมดูใน Clip ไม่เห็นมีคนขึ้นไปนังขับ แสดงว่า ปั่นเครื่องยนต์ ขณะเกียร์ว่าง ทีนี้ถ้าทดสอบได้ ก็ให้ลองวิ่งสภาพเดิมๆก่อน ลงมาตรวจวัดว่าใช้น้ำมันไปกี่ลิตร แล้วค่อยลงมาติดอุปกรณ์ แล้วขึ้นไปลองวิ่งอีกครั้ง แล้วลงมาตรวจวัดน้ำมัน ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า มันจะได้ผลเหมือนวิ่งบนถนนหรือเปล่า เรื่องค่าทดสอบคงไม่รบกวนสมาชิกหรอกครับ ทางผมคงจ่ายเองได้ แค่มาเป็นสักขีพยาน มาช่วยลุ้น....ก็เป็นพระคุณแล้วครับ ใครมีไอเดียอะไรก็ขอเชิญนะครับ....หรือใครจะเสียสละรถให้ทดสอบก็แจ้งมานะครับ รับรองไม่พังแน่   " ตกลงจะทดสอบไหมครับ แต่ต้องรถที่คุณติดไปแล้วนะ ไม่ใช่ไปหารถมาติด แล้วต้องจ่ายเงินค่าติดตั้งคุณอีก จะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน หรือไม่มีรถทดสอบ เอาที่ติดตั้งให้คน EGAT ที่คุณบอกว่าติดให้ก็ได้ บอกชื่อมาเดี๋ยวผมเชิญเอง ที่ต้องเชิญเพราะคุณอ้าง หน่วยงาน EGAT ที่ผมทำงานอยู่ ผู้ที่ประดิษฐ์ก็แจ้งว่าอดีตวิศวกร EGAT ที่อ้างว่าบริษัท รถกับน้ำมันเป็นบริษัทเดียวกัน เรื่อง GAS แล้วรถ ไฮบริต ละออกมาก็ทำให้ขายน้ำมันได้น้อยลง ทำไมยังทำอีก อันนั้นไม่เห็นมีใครกลัวเรื่องการทดสอบเลย องุ่นเปรี้ยวหรือเปล่า         จะทดสอบไหมครับ????         จะทดสอบไหมครับ????         จะทดสอบไหมครับ????         จะทดสอบไหมครับ????   แจ้งมาว่า Yes หรือ No แต่นั้นเองจะอ้อมด้อมทำไม ถ้าประหยัดจริงถึงกับขายได้เงินจะกลัวทำไม แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 11:19:05 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 11:19:05 จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:12:18

ความคิดเห็นที่ 76 รถพลังงานไฮโดรเจน จะคุ้มเมื่อ เอาพลังงานราคาถูกนอกรถมาแยกน้ำ แปลงชนิดพลังงานกันไปเลย ถ้าเอาพลังงานในตัวรถมาผลิตเอง ไม่มีทางประหยัดพลังงาน(ในตัวรถ)ไปได้หรอกครับ จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:13:06

ความคิดเห็นที่ 77 ผมเห็นข่าวนี้ใน kapoook อะครับ http://hilight.kapook.com/view/27982 --ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร เคยเห็นในทีวีว่าเด็กพระจอม ทำมานานแล้วนะครับ อย่างอื่นต้องรอพิสูจน์ครับ จากคุณ : คุณชายจับกัง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:20:56

ความคิดเห็นที่ 78 ลองดูครับ เพื่อถ่ายเมื่อกี๊ เสียงติ๊ก ติ๊ก คือเสียงสวิทช์ปิด เปิดไฟหน้า ตอนใกล้จบ ผมแถมพัดลมแอร์(ปิดคอมแอร์แล้ว) จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:43:40

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้าทำได้จริง มีคนซื้อหลายแสนครับ ไม่ต้องมาขาย 6900 ให้เมื่อยตุ้ม ไม่ต้องมาโฆษณาด้วยผลลัพธ์แบบมั่วหลักวิชาการ เชิญที่นี่ครับ ถกกันมันส์หยด http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?id จากคุณ : Ola เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:46:24 A:27.130.92.40 X: TicketID:251223

ความคิดเห็นที่ 80 ถ้าคนที่เชื่อเรื่องนี้ทุกคน รู้ว่าเราไม่ได้แยกน้ำด้วยการใช้พลังงานฟรี ผมว่าคนเชื่อ เหลือน้อยกว่าครึ่ง... จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:46:36

ความคิดเห็นที่ 81 อีกทีครับ ลิงค์ข้างบนไม่ครบ http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?id=1039 จากคุณ : Ola เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 11:47:35 A:27.130.92.40 X: TicketID:251223

ความคิดเห็นที่ 82 ทดสอบแน่ครับ ภายในเร็ววันนี้ แต่จะทดสอบอย่างไร กับใคร หรือเชิญใครมาเป็นสักขีพยาน ต้องให้เคลียร์ก่อน เดี่ยวมาอ้างกันทีหลังไม่ดี และทางผมต้องคุยกันในกลุ่มด้วยครับ ยังไงผมทำเต็มที่ งานนี้ไม่มีมวยล้ม อีก Link:http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?page=3&id=1659 หน้า 3 คำตอบที่ 72-74 นะครับ ใจจริงผมอยากทดสอบให้มันเสร็จสิ้น รู้แล้วรู้รอดไปเร็วๆ แต่ยังไงมาถึงนี้แล้ว ก็ต้องรอสักหน่อยนะ จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:03:26

ความคิดเห็นที่ 83 เหมือนทุกเจ้าครับ  รอครับเนื่องจากยังไม่พร้อม แล้วขายทำไม สมาชิกพิจารณาเอาเองครับ " ใจจริงผมอยากทดสอบให้มันเสร็จสิ้น รู้แล้วรู้รอดไปเร็วๆ แต่ยังไงมาถึงนี้แล้ว ก็ต้องรอสักหน่อยนะ" แล้ว web นี้หมายถึงอะไรครับ มันเป็น web ฟ้องสินค้าแหกตานี่ครับ เกี่ยวอะไรด้วย http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?page=3&id=1659 รออะไรครับ รออะไรครับ รออะไรครับ รออะไรครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 12:58:10 จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 12:49:25

ความคิดเห็นที่ 84 ผมขอเบอร์คุณ นิรัน โจ้พิมาย หรือรายชื่อคน EGAT ที่ติดตั้งไปแล้วได้ไหม จะได้สอบถาม จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:10:58

ความคิดเห็นที่ 85 มันจะแปลกไปหน่อยไหม ถ้าไม่สนใจทางทฤษฎีว่าเป็นอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ จะเอาแต่ทดสอบอย่างเดียว อย่างงี้ต่อไปมีใครอ้างว่าคิดอะไรใหม่ขึ้นมา ทฤษฎีไม่ต้องดู ทดสอบกันอย่างเดียว จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:20:59

ความคิดเห็นที่ 86 ก็เถียงกันเรื่อง ทฤษฎี แต่พอเถียงไม่ได้ก็ อ้างว่าทำแล้วมันประหยัด ไม่สนว่าทฤษฎีเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นก็ทดสอบเสียดีกว่ามั้ง จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:26:24

ความคิดเห็นที่ 87 คือสงสารชาวหว้ากอน่ะค่ะ พิสูจน์กันมามากมายแล้ว ทดสอบกันไปแล้ว สุดท้ายก็หายเข้ากลีบเมฆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้จะทดสอบกันไปหา ..(อาวุธโบราณ).. อะไร เหมือนโดนหลอกประชาสัมพันธ์ ทำไมประเทศนี้มันถึงได้ไม่สนใจหลักวิชาการอะไรกันเลย พออธิบายหลักวิชาการไม่ได้ ก็ท้าทดสอบอย่างเดียว จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:32:22

ความคิดเห็นที่ 88 ผมว่าทดลองก็ดีน่ะ อย่าลืมครับ บางทฤษฎีก็มาจากการทดลองก่อนครับ  แล้วค่อยหาทฤษฎีมาอธิบายให้สอดคล้อง อย่างทฤษฎีอะตอมของนักวิทย์เก่าๆก็มาจากการทดลองก่อนทั้งสิ้น เชียร์ให้ทดลองทดสอบกันครับ จากคุณ : Meredith R. McKay เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:46:32

ความคิดเห็นที่ 89 ไดโนเทส ที่ใหนเค้าปั่นล้อปล่าวๆครับ rakpongjar คิดได้ไง มันจะมีประโยชอะไรที่ทำแบบนั้น ถ้ารู้เรื่องรถเรื่องเครื่องยนต์จริงๆ คงไม่พูดแบบนี้ ผมรู้งูๆปลาๆ ยังรู้เลยครับ แอ๊ะ หรือเค้าวัดแรงม้าจากการปั่นล้อปล่าวๆด้วยเกียร์ว่างกันนะ ^^ จากคุณ : LoveOnly เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:49:33

ความคิดเห็นที่ 90 ยังไงก็สนับสนุนให้ทดสอบบนเครื่อง ไดโน ครับ เป็นกลางที่สุด ไม่มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละสถานที่ที่รถวิ่งไป แรงลม แรงเสียดทาน ความชัน มาเกี่ยวข้อง ซักนิดเดียว ไม่น่าทดสอบยากนะครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 13:52:56 จากคุณ : LoveOnly เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:52:33

ความคิดเห็นที่ 91 อ้าว...ก็รอว่าจะทดสอบ กับรถใคร ทดสอบอย่างไร เมื่อไร ซิครับ ต้องนัดกันและตกลงกันก่อน ทังทางกลุ่มของผม และผู้มาชม สถานที่ก็ต้องนัดแนะ ต้องเตรียมการ ไม่ใช่ซื้อก๋วยเตี่ยวนะ อยากโทรหาคุณโจ้ ก็ดู คห. 28 เบอร์ก็มีให้อยู่แล้ว อีกอย่างทางคุณโจ้เค้าก็ไม่สนใจ เรื่องใน Web Pantip นี้เท่าไร ก็คุยกับเขาดีๆก็แล้วกัน ส่วนเรื่อง http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?page=3&id=1659 เนี่ย เค้าว่าจะให้ HHO เป็นสินค้าแหกตาอีกอย่าง เลยเข้าไปจะให้เขาทดสอบ แต่เขาไม่อยากทดสอบให้ไป ทดสอบที่สถาบันต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทางเราก็กำลังเตรียมการ อยู่ บางทีเราอาจจะเลือกทดสอบกับสถาบันที่เป็นราชการก็ได้ อันนี้ทางเรากำลังคุยกันอยู่ อาจจะไม่เข้าทาง Pantip ก็ได้ แต่ผมขอรับรองว่า จะมาบอกในนี้ให้ไปเป็นพยานแน่นอน ตามคห.83 ผมไม่ได้เข้ามาขายของในนี้นะ เข้าใจให้ถูกต้องหน่อย ผมเข้ามาชี้แจงและนำเสนอตามหัวข้อที่ จขกท ตั้งขึ้น ในเมื่อผมมั่นใจในสินค้า และระบบของเราก็พร้อม และได้ติดตั้งให้แก่ลูกค้าไปบ้างแล้ว ลูกค้าก็มีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง เท่ากับได้การรับรองจากลูกค้าแล้วบางส่วน แล้วทำไมผมจะขายไม่ได้ หรือคุณมี อคติกับระบบนี้เหลือเกิน หรือลองทำแล้วไม่สำเร็จ ใช่มั๊ยล่ะ หรือไม่เคยลองทำ จำแต่ทฤษฎี มีแต่ทฤษฎี แต่ไม่เคยทดลอง ว่าได้หรือไม่ได้ตามทฤษฎี มันก็ไม่มีประโยชน์อันได สำหรับคุณสาวน้อย ทฤษฏี มีครับ ลองไล่อ่านไปตาม Link ที่ให้ไว้ที่ คห. 24 แต่ถ้าจะให้แสดงรายการคำนวณคงไม่ไหว ตัวแปรมากเหลือเกิน สรุปแล้ว มีทฤษฎี แล้วทำการทดลองโดย จำกัดตัวแปรไปเรื่อยๆ จนได้ผลลัพธ์ สุดท้าย นี่น่าจะเป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องนะ ระบบนี้ทางเราทำการทดลองมากว่า 4 ปี แล้ว กว่าจะได้เป็นแบบทุกวันนี้ คุณน่าจะเห็นใจคนที่เขาทดลองบ้างนะ ไม่ใช่พอแค่อ่านแล้วตัวเองคิดว่าไม่ใช่ ก็สรุปไปตามความคิดของตัวเอง ผมว่ามันไม่ถูก คนไทยก็แบบนี้ แหละ มันถึงเจริญไม่ทันฝรั่งซักที แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 14:29:46 จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:09:43

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านดูแล้วยังไงก็ มวยล้มต้มคนดูแน่ๆ เห็นลีลา วจี ของคนขายสินค้าแล้วก็ไม่ต้องสืบแล้วครับ จากคุณ : maggodji (maggodji) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:11:53

ความคิดเห็นที่ 93 "คนไทยก็แบบนี้ แหละ มันถึงเจริญไม่ทันฝรั่งซักที" แล้วคุณรู้จริงหรอครับ ? วิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ทำไม ทฤษฎี มันแปลกๆ ผมก็อ่านอยู่ห้องหว้ากอมานาน เวลาเค้าจะอธิบายหลักการ เค้าก็จะเอาทั้งหมดมาลง ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็อยู่ที่คนอ่าน ลองไปอ่านห้องการเปิดฝาปีโป้ดูนะครับ แค่การเชื่อมฝาปีโป้เข้ากับตัวแพคเกจ เค้ายังอธิบายละเอียดขนาดใหน อันนี้ไม่เห็นจะอธิบายอะไรได้เลย ? จากคุณ : LoveOnly เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:15:06

ความคิดเห็นที่ 94 ผมโทรไปที่ Test Car แล้วครับ เข้าใจแล้วว่าเทสอย่างไร แต่ที่ผมว่าให้เอารถสภาพเดิมๆ มาวิ่งทดสอบก่อน แล้วลงไปติดอุปกรณ์ แล้วขึ้นมาเทสใหม่ อันนี้น่าจะได้เห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มากกว่าเอารถที่เคยติดแล้วไปทดสอบโดยการปิดระบบ จากคุณ : rakpongjar เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:50:59

ความคิดเห็นที่ 95 "แต่ที่ผมว่าให้เอารถสภาพเดิมๆ มาวิ่งทดสอบก่อน แล้วลงไปติดอุปกรณ์ แล้วขึ้นมาเทสใหม่ อันนี้น่าจะได้เห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มากกว่าเอารถที่เคยติดแล้วไปทดสอบโดยการปิดระบบ" ทำไมต้องอย่างนี้ละครับ ถ้าคุณไปปรับระบบอะไรก็ประหยัดขึ้นใช่ไหมครับ คิดอะไรอยู่ครับ ทำแบบเปิด/ปิด เครื่องในวันเวลาเดียวกัน ไม่ยุติธรรมและเห็นผลจริงมากกว่าหรือ???? "อ้าว...ก็รอว่าจะทดสอบ กับรถใคร ทดสอบอย่างไร เมื่อไร ซิครับ ต้องนัดกันและตกลงกันก่อน ทังทางกลุ่มของผม และผู้มาชม สถานที่ก็ต้องนัดแนะ ต้องเตรียมการ ไม่ใช่ซื้อก๋วยเตี่ยวนะ" แน่นอนครับ ผมก็ไม่ได้ซื้อก๋วยเต๊๋ยว         1) ถ้ารับคำเชิญ         2) หาผู้เข้าร่วม         3) ประชุมกำหนดวันเวลา สถานที่ วิธีการ อุปกรณ์         4) เริ่มการทดสอบ         5) รายงานผล  ก็ต้องทำอยู่แล้ว ไม่ใช่นัดพรุ่งนี้ แล้วจะเอาเลยนี่ครับ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 15:16:19 จากคุณ : benz124 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:05:21

ความคิดเห็นที่ 96 ทฤษฎีล่ะ กาก เอ๊ย... ไม่เอามาให้เทพอ่านหน่อยสิวะ ขอละเอียด ๆ นะเป็นคนเข้าใจอะไรยาก อย่าปลาไหลให้มากนัก น้ำเยอะรำคาญ จากคุณ : yugioh2500 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:14:11

ความคิดเห็นที่ 97 ได้ยินแว่วๆ เหมืนใครเรียก มีอะไรให้รับใช้หรึเปล่า ค่ะ ^+^ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 15:28:48 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 15:26:15 จากคุณ : ดอน ลำลูกกา (ANGKALUNG_TEAM) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:26:01

ความคิดเห็นที่ 98 ผมว่าเอารถที่ติดแล้วแล้วปิดระบบไปทดสอบมันไม่ต่างจากรถที่ไม่ได้ติดตั้งนะ.. แค่คุณปิด reactor ผมขอถามหน่อยว่าระบบการทำงานของรถเปลี่ยนไปจากรถเดิมๆอย่างไร.. นอกจากมีสายไฟ fuse กับ.. reactor เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น.. ผมน่ะอยู่ฝ่ายเชื่อว่า HHO ช่วยได้นะครับ.. แต่ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชื่อ.. ผมเชื่อว่ามันช่วยให้กระบวนการเผาไหม้ดีขึ้นได้ ซึ่งส่งผลให้ประหยัดน้ำมันขึ้นได้ เพียงแต่ reactor ของคุณที่คุณบอกว่ากินกระแสแค่ 1-3 Amp.(@=12Vdc  มีค่าพลังงาน คือ 12-36 Watt ) เนี่ย ผมไม่คิดว่ามันจะเห็นผล หรือว่าคุณวัดแค่เฉพาะตอนรอบเดินเบา.. ซึ่งแรงดันไฟจะต่ำกว่าในรอบการใช้งาน.ปรกติ รถกระบะทุกวันนี้เอาแค่ vigo วัดรอบเดินเบาก็เกือบๆ 14 V แล้วนะครับ จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:33:30

ความคิดเห็นที่ 99 ผมว่าพร้อมกันเมื่อไหร่.. นัดคุยกันทาง video conference ซักรอบสองรอบ ออกแบบการทดลองที่ทุกฝ่ายยอมรับได้แล้วค่อยทดสอบกัน ดีมั้ย เพราะถ้ามีผลการทดลองที่ยังมีคนไม่ยอมรับทดลองไปก็เท่านั้น จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:35:48

ความคิดเห็นที่ 100 ทางทีมงาน อังกะลุง. มาแย้ว.. งานนี้ถ้ามัน work มีโฆษณาออกทีวีฟรีเลยนะครับ มีคลิปไปโพสบน Internet เป็นเรื่องเป็นราวเลยล่ะครับ   คุ้มสุดๆ  คุณ rakpongjar เอามั้ยครับ น่าสนุกออก.. ถ้ามัน work เดียวผมรับติดตั้งให้ด้วยเลย... พอดีทำงานเกี่ยวกับ GPS Tracker ในส่วนของการติดตั้ง-ช่างเทคนิคอยู่แล้วพอดี แหม.. ชักอยากทำ INOX Clone ไปร่วมเล่นด้วยซะแล้ว.. จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:22:25

ความคิดเห็นที่ 101 สวัสดีค่ะ  จากรายการเหรียญ3ด้าน ค่ะ ทางเรายินดี เป็นสื่อกลาง ในการนำเสนอข้อเท็จทุกฝ่าย โดยเป็นกลาง ตรงไปตรงมา พร้อมทั้ง ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการทดลอง พิสูจน์ หากสนใจให้รายการของเราร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบครั้งนี้ กรุณาติดต่อ เบอร์ ใน myflock ได้ค่ะ ขอขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจและความร่วมมืออันดีเสมอมา และ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการพิสูจน์ครั้งนี้ด้วย ^-^ จากคุณ : juju juniperz (ANGKALUNG_TEAM) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:32:17

ความคิดเห็นที่ 102 เบอร์คุณจุ๊รึปล่าวครับ... จากคุณ : dAjOmsOn เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:16:44

ความคิดเห็นที่ 103 เบอร์คุณจุ๊นั่นแหละ.. โทรไปขอ sponsor ได้เลย จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:29:08

ความคิดเห็นที่ 104 . แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 54 09:46:45 จากคุณ : juju juniperz (ANGKALUNG_TEAM) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:31:03

ความคิดเห็นที่ 105 ขอตอบนิดนึง ในฐานะ เคยทดลองมาแล้วครับ เป็นกระบะดีเซล ฟอร์ด เรนเจอร์ 2500 4ประตู ติดตั้งเครื่องแยกไฮโดรเจนที่ว่านี้ ผลที่ได้ มันประหยัดขึ้นจริง แต่...ไม่เยอะครับ ที่นี้มาว่ากันถึงวิธีการของเจ้าเครื่องนี้กัน เอ๊ะ ผมจะพูดถูกไหมนี่ ไม่ใช่นักวิชาการ เอาง่ายๆ มันก็แยก ไฮโดรเจน กับ อ๊อกซิเจน ออกมาจากน้ำ(ไม่ได้บริสุทธิ์นะ มันต้องเติมสารอะไรไม่รู้อีกนิดหน่อย ตรงนี้จะเอาไปพูดถึงในสวนของการตลาด) ผ่านท่อยาง ไปฝังลงตรงหลังกรองอากาศ (ดูๆแล้ว คงเหมือนติดแก๊สระบบ MIX นั่นแล) ทีนี้ ไฮโดรเจนกับอ๊อกซิเจนนี้ ก็จะถูกดูดเข้าไปในกระบอกสูบ รวมกับอากาศ ทำให้เกิดการสันดาป ก็คงจะจบวิธีการเพียงเท่านี้ เรื่องต่อไป คือส่วนของปริมาณ ไฮโดรเจน ที่ได้มา (อันนี้คือคำถามของผมอีกเหมือนกัน) ว่าแค่ไหนมันจะเพียงพอต่อการใช้งาน ...เครื่องรถยนต์นะ ไม่ใช่เครื่องสูบน้ำ มันจะต้องมีการใช้งานหลากหลายยานความเร็ว และอาการผันผวนของรอบเครื่องยนต์จากการกดคันเร่งของเรา ถ้าจะให้พอเพียง ต้องมีการใช้หม้อพักก๊าซแต่ก็แทบจะผลิตไม่ทันอยู่ดี อีกอย่าง ก๊าซไฮโดรเจนนั้น โค-ตะ-ระ ไวไฟครับ เก็บไว้ในถังพัก มีหวังได้เห็นรถระเบิดตูมกันมั่ง ผลที่ได้มันออกมาว่า มันจะต้องใช้ความเร็วที่ประมาณ 80-90 กม./ชม. เจ้าไฮโดรเจนที่ผลิตได้นั้น มันถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน อ้าว...แล้วงานนี้ ถ้าขับรถเร็วๆล่ะมันจะเป็นอย่างไร ตอบง่ายๆเลยก็คือ มันก็แทบจะไม่ช่วยเลยน่ะสิ เอาล่ะ ผมสรุปง่ายๆตอนนี้เลย ไม่ว่ามันจะใช้ไฟฟ้าแค่ไหน แต่ผมรู้ว่ามันน้อยนิด มันจะเพิ่มโหลดให้กับเครื่องยนต์แค่ไหน แต่มันช่วยได้จริง ถ้าขับช้า แต่..มันไม่คุ้มค่ากับราคาที่ติดไป ที่นี่มาเรื่องของทางการตลาด ทำไม เขาไม่ผลิตขายให้บริษัทรถยนต์น่ะเหรอ เพราะว่า น้ำกับสารที่เติม หลังจากใช้ไปได้ซักระยะ(ไม่กี่พันกิโล) มันต้องเปลี่ยน ทีนี้ หากเอาระบบนี้มาติดในรถ ใครจะมาซื้อครับ ไม่กี่พันต้องเปลี่ยนน้ำ เติมสาร อีกแล้ว(บ่อยครั้งกว่าถ่ายน้ำมันเครื่องนัก)รถไฮบริด ยังเติมแต่น้ำมัน รถไฟฟ้ายังแค่เสียบปลั๊ก รถพลังงานร่วม(เชื้อเพลิง+ไฮโดรเจน)ต้องเติมทั้งน้ำมัน และถ่ายน้ำ พี่ๆนักวิจารณ์รถทั้งหลายจะมาซื้อไหมครับ... คงได้คำตอบกันอยู่ในใจอยู่แล้ว สรุปง่ายๆอีกที คงต้องรอให้เทคโนโลยีมันก้าวหน้าไปกว่านี้ ต้นทุนการผลิตลดลงกว่านี้มากๆ ซึ่งถึงตอนนั้นอาจจะได้ใช้ไฮโดรเจนเพียวๆ พลังงานประเภทนี้อาจจะได้รับการยอมรับก็เป็นได้ครับ จากคุณ : mondoval (Mondoval) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:33:21

ความคิดเห็นที่ 106 ปู เสื่อ นั่งกิน HHO รอ ดู การทดสอบ ครับ ขอเอาใจ ช่วย ทุกคน ให้ ทำการ ทดลอง ฉันท์มิตร ไม่ว่าผลทดลองออกมายังไง ก็ ถือ เป็น มิตรภาพ ที่ดีที่ได้ มาพบกัน หวังว่า จะเป็น แนวทาง ในการ พัฒนา เรื่องพลังงาน เพื่อ ส่วนรวม สาธุชน รอชมพร้อม กัันเทอญญ.... จากคุณ : ถ้าช้างอมบ๊วยจะร้องยังไงคะ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:52:33

ความคิดเห็นที่ 107 #104 ผมว่าต้นทุนตอนนี้ก็ไม่ได้แพงมากนะครับถ้าจะทำจริงๆ แต่ขายกันแพงมากกว่า.. ผมสงสัยแค่นิดเดียวไปหาซื้อ Ti มาจากไหนแล้วเค้าขายกันยังไง เผื่อผมจะทำเล่นบ้าง .. น่าสนุกดี อิอิ  ผมชอบการออกแบบๆ INOX gen 4th. ลองหาดูใน youtube นะครับน่าสนใจ โดยเฉพาะแบบที่ใช้สลิง... ถูกและง่ายมากๆ จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:56:17

ความคิดเห็นที่ 108 โดยส่วนตัวยังคิดเลยว่าถ้าใช้สลิงแบบ Gen 4 ของ Inox แ้ล้วเอามาชุบทอง ชุบ Pt มันจะช่วยลดการสึกกร่อนของ Electrode ได้มั้ยถ้าได้ คุ้มค่ามั้ย.. จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:58:52

ความคิดเห็นที่ 109 เหอะๆ รุสึกจะไม่คุ้มนะครับตามกฏเทอโม เด๋ว รอดู หนุกแน่งานนี้ จากคุณ : ผมไม่เกี่ยวผมมาซื้อลูกชิ้น เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 22:40:28

ความคิดเห็นที่ 110 ว้าวๆ เหรียญสามด้านมาแล้ว จากคุณ : SkillFull เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 22:46:27

ความคิดเห็นที่ 111 หลายคนพูดเรื่องตามกฎ Thermodynamics แล้ว ผมก็ยังขอยืนยันคำเดิมแล้วกัน ว่ามันทำได้ แต่มันไม่คุ้มต้นทุนในการทำ แล้วจะทำไปทำให้เปลืองทำไมเปล่าๆ ปล. ไอ้ทริป A ทริป B รถผมก็ไม่ตรงหรอกครับ มันวัดกันแบบนั้นไมได้หรอก โดยเฉลียผมอาจจะขับรถ Trip A ที่ 80 Km/h. ส่วน Trip B ผมอาจจะขับที่ 50 Km/h. ก็ได้ ว่าแต่ ไฮบริดมันไม่ใช่ของเล่นคนรวยหรอกครับ เพราะผมก็ขับอยู่ เครื่อง 2.4 แต่จ่ายน้ำมันในราคาเครื่อง 1.6 อันนี้ผมว่าประหยัดกว่าเห็นๆ ไม่ต้องมาท้าทดสอบด้วยครับ เห็นกันจะๆ เครื่องบ้าบออะไรก็ไม่ต้องติด จากคุณ : เด็กกรุง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:20:44

ความคิดเห็นที่ 112 ลองเปิดใจ เอาเลยๆๆๆๆๆๆ ลองดูๆๆๆๆๆๆๆ แต่ ยังไม่เชื่อหรอกนะ  แหกตา หรือเปล่า อันนี้ ก็แหกตา  ไม่ใช่ของจริง   แต่   แจ่มมม จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:38:12

ความคิดเห็นที่ 113 หลายๆคนชอบพูดถึงกฏ thermo. งั้นผมถามง่ายๆครับ... เวลาคำนวนค่าพลังงานของเชื้อเพลิงแต่ละชนิด เนี่ย...   มีใครคำนวนรวมถึงเวลาที่ใช้ในการเผาไหม้บ้าง ในเครื่องยนต์ตัวเดียวกันถ้าให้เชื้อเพลิงเท่าๆกันต่อหนึ่งรอบการจุดระเบิด ยังให้กำลังออกมาไม่เท่ากันเลยครับ.. ถ้ารูปแบบของเชื้อเพลิงที่เข้าห้องเผาไหม้ไม่เหมือนกัน.. บางคนก็พูดถึงว่าเครื่องยนต์ H2 ของทางค่ายรถใหญ่ๆนั้นต้องพิ่มกำลังอัดถึง 1:30 กว่าจึงจะมีประสิทธิภาพ ก็ใช่น่ะซี่ครับ ยิ่งเพิ่มกำลังอัด.. ประสิทธิภาพยิ่งเพิ่ม.  เพียงแต่เชื้อเพลิงปรกติมันจะชิงจุดก่อนแทนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ เครื่องมันจะน็อกเอา ปัญหาของ HHO ก็คือการที่ผสม HHO เข้าไปในไอดี ของเครื่องยนต์แล้ว. มันช่วยให้การเผาไหม้ดีขึ้นหรือเปล่า.. ถ้ามันช่วยให้เผาไหม้ดีขึ้นแล้ว.. มันส่งผลให้มีพลังงานมาผลักหัวลูกสูบดันก้านเหวี่ยง บริหารระบบ คุ้มค่ากัับ พลังงานที่เสียไปในการแยกก๊าซมั้ย อย่างที่ผมเคยตั้งข้อสงสัยไว้ทุกๆครั้ง ว่า เครื่องยนต์สันดาบภายใน.. พลังงานทั้งหมดไม่ได้ถูกใช้ไปเพื่อขับเคลื่อน วัฒจักร.. ของเครื่องยนต์ แต่ยังสูญเสียให้กับระบบระบายความร้อนและแรงเสียดทาน ถ้าเราสามารถทำให้เชื้อเพลิงเดิมๆ จุดระเบิดได้ในห้องไหม้รุนแรงเท่าไหร่  ยิ่งแปลว่าเราได้พลังงานกล.. มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการจะคิดแค่ค่าพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิงมาเทียบกับ ค่าพลังงานที่ใช้ในการแยกก๊าซโดยตรงมันไม่ได้ เพราะต้องเทียบจากพลังงานกลที่ใช้ไปโดยตรงเลยมากกว่า ว่าใช้แรงกี่ N ในการหมุน Alternator เพิ่มขึ้นมาจากปรกติ มาใช้ในการจ่ายไฟฟ้าเพื่อแยกก๊าซ  แล้วก๊าซ ที่ได้นั้น หลังจากเอาเข้าไปเป็น เชื้อเพลิงร่วมในระบบเผาไหม้แล้ว.. ได้แรงเพิ่มมากี่ N มาขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ถ้าไปมองค่าความร้อน ผมก็ขอย้อนกลับง่ายๆ ว่าใช้น้ำมันปริมาณเท่าๆกันจ่ายให้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน ครั้งนึงฉีดเป็นฝอย ส่วนอีกครั้งนึงเข้าไปเป็นหยดๆ สองครั้งนี้ หลังจากจุดระเบิดแล้ว ครั้งไหนให้พลังงานกล ออกมามากกว่ากัน แล้วอีกกรณีนึง เกี่ยวกับเรื่องกำลังอัด.. ระหว่างอัดเร็วๆ กับค่อยๆอัด (RPM ต่ำ กับ RPM สูง) อันไหนได้กำลังมากกว่ากัน.. ถ้าเชื้อเพลิงเหมือนกันทุกประการ จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 00:01:01

ความคิดเห็นที่ 114 เอาไฟฟ้าไปแยกน้ำเพื่อให้ได้ H2 ยังไงก็ไม่คุ้มหรอกครับ ไฮโดรเจนเหลวที่เอามาเติมๆ กระสวยอวกาศหรือรถยนต์ก็ได้จากปฏิกิริยาเคมีทั้งนั้น -  -  ผมไม่ทำการทดลองให้เมื่อยตุ้มหรอก มีนักวิทยาศาสตร์เค้าคิดไว้ให้แล้ว ถ้าอย่างไรก็วกไปอ่าน #87 สัก 10 รอบหล่ะกัน จากคุณ : กะต่อ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 03:23:16

ความคิดเห็นที่ 115 แล้วก๊าซไฮโดรเจนจำนวน 0.0000760 ลิตร / วินาที (เท่ากับ 0.00475% ของ 1.6 ลิตร) มันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงได้อย่างมีนัยสำคัญ? จริงๆการคำนวนของผมมันผิดไปนิดหน่อยเพราะผมคิดที่ประสิทธิภาพ 100% แต่ในความเป็นจริงกระบวนการ Electrolysis ของน้ำปัจจุบันนี้มีประสิทธิภาพแค่ 50%-80% เท่านั้นเอง จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 03:40:00

ความคิดเห็นที่ 116 ไม่เชี่ยวด้านนี้ แต่รับสมัครคนมุง เอ้ย สักขีพยานมั้ยครับ ถ้าช่วงทดสอบอยู่ไทยพอดีจะขอไปดูด้วย ^_^ จากคุณ : วัวน้อยในไร่หญ้า เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 04:17:57