จะเอาแบบลึกซึ้งมันก็อธิบายลำบาก
แต่เอาเป็นว่า คนที่เป็นทุกข์เพราะโดนคนอื่นเบียดเบียน นี่ ก็ขอให้ระมัดระวังตัว ให้มีสติให้มาก ๆ อะไรที่โดนไปแล้วก็ขอให้เป็นบทเรียน บางทีมันต้องประสบก่อนถึงจะตระหนักรู้ เรียนรู้ได้ ก็หมั่นฝึกสติของตัวเองบ่อย ๆ
สุดท้ายแล้วถ้าเป็นทุกข์อยู่ เพราะโดนไปแล้ว ต้องให้ปลอบว่า "ให้ทำใจ อะไรที่เป็นอดีตผ่านไปแล้วไม่ต้องไปคิดมัน และสิ่งที่เป็นอนาคตยังมาไม่ถึงก็ไม่ต้องไปคิดมาก ทำจิตใจให้อย่าหดหู่ อย่าเศร้าหมอง มีสติอยู่กับปัจจุบันเข้าไว้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด" นะจ๊ะ ^_^
ที่ว่าให้โทษตัวเองนี่ เค้าหมายถึงว่าให้ดูตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปดูอย่างอื่น คือที่มันเกิดขึ้นมันก็ประกอบไปด้วย ส่วนอื่น ๆ ภายนอกด้วย อย่าไปโทษตัวเองมากเลย
โทษได้นิดหน่อย แล้วเค้าให้ฝึกจิตตัวเองต่างหาก นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
ส่วนกระบวนการทางจิตวิทยา ก็โดยรวม ๆ แล้ว เค้าแค่.... เรียกว่าอะไรอะ กระบวนการปกป้องจิตใจ มั้ง ไม่ให้จิตใจได้รับผลกระทบ กระเทือนมาก เน้นวิธีรักษา แบบต่าง ๆ มันก็มีหลายวิธี
สำหรับมิจฉาชีพ ที่จะเอาหลักทางจิตวิทยา ไปหลอกลวงผู้อื่น ก็มันจะมีวิธีป้องกันง่าย ๆ คือ ไม่ต้องไปฟัง ไม่ต้องไปสุงสิงกับคน เหล่านี้ แล้วก็ ถ้าคนที่ฝึกสติ และ ธรรมมะอย่างดี จะหลงกลพวกนี้ยาก แต่คนหัวอ่อน ๆ หน่อย ก็ต้องให้คนรู้จัก ที่เริ่มระแคะระคาย ให้ดึงเหยื่อออกมาจากวงสังคมนั้น เลิกคบ เลิกติดต่อ แล้วก็หากิจกรรมอื่นๆ ให้เค้าทำ ชวนเค้ามาร่วมทำกิจกรรม
ก็อภิปรายได้เท่านี้แหละครับ
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 20:25:26
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 20:19:54
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 20:10:38
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 20:07:40
พุทธศาสนา กับ จิตวิทยา
... สาระในพุทธศาสนานั้นเป็นเพื่อการดับทุกข์นั่นคือเป็นสาระสำหรับพระเท่านั้นคับ สาระสำหรับคฤหัสถ์นั้นมีน้อยมากๆแทบจะพูดได้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนเรื่องคฤหัสถ์หรือเรื่องโลกอะไรเลยเพราะสำหรับพระสงฆ์แล้วถือว่าเป็นอวิชชาที่ขัดขวางการหลุดพ้นจากความทุกข์