ความคิดเห็นที่ 1 ฆ่าเชื้อโรคมันง่ายครับ แต่ฆ่าอย่างไรให้ผู้ป่วยปลอดภัยไม่ง่ายครับ เชื้อต่างๆมันอาศัยเซลล์มันไม่ได้อยู่แบบอิสระโดดเดี่ยว จากคุณ : ย้ง เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 10:57:38 A:61.90.36.85 X: TicketID:236524

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นครับ ไม่ใช่ว่าไม่ตระหนักถึงความสำคัญ แต่มันเป็นเรื่องยากจริงๆ เพียงแต่ว่าคุณไม่เข้าใจเท่านั้นเอง แนะนำให้ลองอ่านเพิ่มเติมก่อนครับ มีข้อสงสัยก็หลังไมค์มาถามได้ครับ หรือจะตั้งกระทู้ก็ได้ครับ คนอื่นจะได้อ่านด้วย ที่ไม่ตอบทันทีเพราะมันยาวมากครับ แนะนำให้ศึกษาด้วยตัวเองในระดับนึงก่อนครับ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:02:25

ความคิดเห็นที่ 3 การวิจัยในเรื่องนี้ ทำกันอย่างจริงจังมาก และก็พัฒนาไปมากแล้ว เมื่อคำนึงถึงข้อจำกัดมากมาย จนถึงขั้นที่ว่า มะเร็ง ถ้าไม่ใช่ระยะ ท้ายๆ โอกาสหายสูงมาก hiv คนเป็นถ้ารักษาสม่ำเสมอ ดูแลตัวเองดีดี จะเหมือนไม่เป็นกันเลยที่เดียว จากคุณ : ฮูยัน เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:08:59

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้แล้ว แต่อาจจะมีเหตุผลอื่น ที่เดาๆ ไว้ 1. HIV ช่วยจัดการพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ให้ไล่ปล้ำ ผิดลูกผิดเมียคนอื่น อย่างน่าชื่นตาบาน หรือ เหตุผลอื่นๆ 2. HIV คือเหตุผลทางธุรกิจ-ขายยา-ขายถุงยาง-นู้นนี่นั่น/NGO/ข้ออ้าง/ชื่อเสียงและหน้าตา 3. ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ส่วนมากตายเพราะโรคแทรกซ้อนอื่นๆ มากกว่า อาจจะก่อนการเข้าสู่ภาวะ เอดส์ด้วยซ้ำ แต่ขอเท็จจริงผมลองหาข้อมูลอ่านอีกที จากคุณ : อ้อมกอด เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:13:45

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าเรื่องธุรกิจนี้เป็นสิ่งสำคัญหลักในปัจจุบันนี้เลยแหละ ถ้าเชื้อโรคติดง่ายแพร่ง่ายป่านี้คงหายาแก้โรคเป็นหน้าเป็นหลังกันแล้ว จากคุณ : mokeboy (mokeboy) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:25:43

ความคิดเห็นที่ 6 HIV หมอจากเยอรมันรักษาได้แล้วครับ แต่ตอนนี้ยังมีผลข้างเคียงเพียบ แถมแต่ละอย่างนี่ร้ายแรงทั้งนั้น ต้องรอพัฒนาสักพักก่อนหล่ะถึงจะเอามา่ใช้จริงได้ จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:31:28

ความคิดเห็นที่ 7 แพทย์ทางเลือกแผนโบราณของไทยรักษาได้ครับ (แบบของจริงๆ ไม่นับพวกแอบอ้างเข้าทรงลงคาถา ฯลฯ) เคยคุยกับคนที่คร่ำหวอดกับวงการสมุนไพร ลุงแกบอกว่า หมอฝรั่ง เก่งโรคเฉียบพลัน แต่รักษาโรคเรื้อรังไม่หาย ไม่ชำนาญ หมอไทย เก่งโรคเรื้อรัง แต่ถ้าจะผ่าตัด ไปหาหมอฝรั่งโน่น จากคุณ : 801s เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 11:42:45

ความคิดเห็นที่ 8 การรักษาให้หาย เท่าที่ทราบก็ตาม #6 อย่างไรก็ตาม จากที่เคยอ่านกระทู้แนะนำสวนลุม http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9990186/L9990186.html ทำให้ทราบว่า ยาในปัจจุบันก็ดีมากพอสมควร เพราะช่วยให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตได้ตามปกติ โดยที่คนทั่วไปไม่รู้เลยว่า เป็นเอดส์ อ่านกระทู้นั้นแล้วจะอยากใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ จากคุณ : LNL เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:04:36 A:223.205.237.218 X: TicketID:300933

ความคิดเห็นที่ 9 #4 ไม่มี conspiracy พวกนั้นหรอกครับ 1. บริษัทยาไม่ใช่วัด นักวิจัยไม่ใช่พระ และผมถามจริงๆเหอะ ถ้าคุณเป็นนักวิจัยคนนั้นผลิตยาแก้เอดส์ได้ คุณไม่รู้สึกผิดเลยหรือ ที่เห็นคนเจ็บป่วยตกตายโดยไม่ช่วย(เหตุผลแง่ดี) / ไม่สนใจลาภยศชื่อเสียงมหาศาลจากการได้รับยกย่องว่าพบยาต้านเอดส์คนแรก(แง่ปุถุชน) และ บริษัทยา จะยอมจ้างนักวิจัยคนนี้ต่อไหม? กับการทำงานที่ไม่มีผลงาน? 2. คิดว่ายา HIV ขายได้ Dose ละเท่าไหร่ครับ? ถ้าคุณขายรายแรก บอกว่ายาตัวนี้กินแล้วหายขาด คุณขายราคาสิบเท่าของราคายาคู่แข่งก็ขายได้ คู่แข่งตายเรียบ ยึดตลาดยา เลยทีเดียว จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:11:40

ความคิดเห็นที่ 10 #8  ผมพาลไม่อยากมีไปเลยครับ.. เพราะถุงยางมันก็ใช่ว่าจะกันได้ร้อย %  เกิดน้องๆตอนงั่มๆ ไข่เราแล้ว ทำมันเป็นแผลขึ้นมา.. ริ้วรอยนิดๆ เราไม่รู้สึกหรอกครับ กำลังมันส์อยู่น่ะ ขโยก กันไป ขย่มกันมา.. น้ำไหลเต็มตัก..  เฮ้อ.. จากคุณ : ephedrine เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:14:53

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้จริงๆแล้ว ผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV สามารถมีลูกได้ปกติเลยด้วยซ้ำ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของหมออย่างเคร่งครัด จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:30:38

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้มีแต่มนุษย์ที่พัฒนานี่คะ ไวรัสเองก็พัฒนาเหมือนกัน จากคุณ : ENNUI เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:46:20

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วยตัวเองต่อไป จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 12:48:51

ความคิดเห็นที่ 14 คุณก็มีส่วนช่วยได้ ที่นี่ครับ http://www.worldcommunitygrid.org/ หลายๆโปรเจคน่าสนใจครับ ตอนนี้ที่ผมเปิดคอมช่วยทำอยู่ก็ โรคมะเร็ง ครับ ใครชอบเปิดเครื่องทิ้งไว้โหลดบิต ลงทิ้งไว้ในเครื่องก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ช่วยให้โลกพัฒนาเร็วขึ้นอีกนิด แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 54 13:05:11 จากคุณ : a1255 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 13:02:39

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าว แล้วกินฉี่นี่ไม่หายเหรอ-*- จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 13:44:39

ความคิดเห็นที่ 16 กลายเป็นว่าส่วนใหญ่จะเน้นการพูดถึงโรคเอดส์ซะมากกว่าน่ะครับ ผมก็ลืมนึกไปการมีเทคโนโลยีมันคือเพิ่มความสุข มันง่ายกว่าการที่ร่างกายติดโรคร้ายให้กลายเป็นร่างกายปรกติ จากคุณ : mokeboy (mokeboy) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 13:49:16

ความคิดเห็นที่ 17 การรักษาโรคติดเชื้อจากไวรัสคือการใช้ยาบรรเทาอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นเท่านั้นครับ จะฆ่าไวรัสก็ต้องฆ่าเจ้าบ้านด้วยครับ ขนาดไวรัสหวัดธรรมดาๆ นี่ล่ะครับ เทคโนโลยีขั้น advanced ก็ยังหายารักษามันไม่ได้ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 15:28:10

ความคิดเห็นที่ 18 เอดส์ไม่ฆ่าเราโดยตรง แต่เป็นโรคแทรกซ้อนที่ฆ่าเรา จากคุณ : zombieman เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 15:29:19

ความคิดเห็นที่ 19 ชื่อlogin อ่านว่าอะไรครับ จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 15:57:36

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าส่วนนึงคือ ปัจจุบันมี CL ยาด้วย ทำให้บริษัทเองก็ไม่อยากพัฒนายาที่จะโดนอ้างเรื่องสิทธิ์มนุษยธรรมให้โดยยึดสูตรยาไปดื้อๆนะครับ อย่างที่บางท่านว่า บริษัทยาไม่ใช่วัด นักวิจัยไม่ใช่พระ เขาก็ต้องกินต้องใช้ แต่เอาความอยากได้ความเห็นแก่ตัวไปยึดสูตรเขาดื้อๆ เค้าก็ไปวิจัยยาอื่นที่ไม่โดน CL ดีกว่าสิครับ ลองไม่มี CL ยาสิ ผมว่าคงมีทรัพยากรมาลงตรงนี้เพิ่มอีกเยอะเลย จากคุณ : leo_attack เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:18:02

ความคิดเห็นที่ 21 จริงๆ โรคภัยส่วนใหญ่ก็ยังไม่มียาแก้ทั้งนั้นแหละครับ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มียาแก้รักษา ให้หายขาดทันทีทันใด ในขณะที่ส่วนใหญ่เป็นยา "บรรเทาอาการ" ครับ เช่นเวลาเป็นหวัด ยาที่มีอยู่บนโลกทั้งหมดไม่ได้ทำให้หวัดหาย แค่ทำให้อาการบรรเทาลง ส่วนจะหายเร็วหรือช้า ขึ้นกับภูมิคุ้มกันร่างกาย ท้องเสียก็เหมือนกัน หรือโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ยาทั้งหลายก็มีหน้าที่แค่คุมอาการเท่านั้น ไม่สามารถทำให้หายได้ เมื่อหยุดยา ก็จะกลับเป็นใหม่ได้ครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 18:34:33

ความคิดเห็นที่ 22 สงสัยว่า CL ยา คืออะไร ใน ความเห็นที่ #20 ไปลองเซิชมาอ่านดู เครียดเลยครับ เป็นปัญหาใหญ่อย่างนึงที่ไม่รู้จะแก้ยังไงจริงๆ แก้ทางไหนก็มีแต่คนลำบากไปหมด จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 18:36:45

ความคิดเห็นที่ 23 #19 น่ะครับ อ่าน mo-ke-boy เหมือน po-ke-mon น่ะครับ กลายเป็นกระทู้เรื่องเทคโนโลยียาไปซะแล้วแต่ผมก็ชอบของความเห็นของหลายๆท่านน่ะครับสามารถเอามาสร้างและเปรียบเทียบโครงร่างทางความคิดได้ดีทั้งในเรื่องยา การรักษา และจรรยาบรรณ จากคุณ : mokeboy (mokeboy) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 21:37:07

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกวันนี้มีโรคอีกไม่น้อยที่การรักษาไม่ได้ทำให้หายขาด เช่น เบาหวาน ความดัน ดังนั้นจุดมุ่งหมายสูงสุดในการรักษาโรคเหล่านั้นคือ คุณภาพชีวิต (Quality of Life) ซึ่งหมายถึงการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างใกล้เคียงปกติที่สุด การพัฒนายาที่วิธีกินง่ายขึ้น เช่น จากกินวันละสามครั้งเป็นวันละครั้ง ก็ถือเป็นการพัฒนาอย่างหนึ่ง เพราะผู้ป่วยใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 00:04:29