ความคิดเห็นที่ 1 ***      เครื่องมือดังกล่าวนั้นทางคนสร้างน่าจะไ้ด้ไอเดียส่วนหนึ่งมาจากภาพยนตร์เรื่อง "The Matrix" ที่มีการฝัง "ความทรงจำและประสบการณ์เทียม" เข้าไปในสมองของมนุษย์ด้วยข้อมูลดิจิตอล  โดยที่เห็นชัดคือฉากในคลิปด้านล่างที่ "นีโอ" ถูก "แฮ็งค์" ดาวน์โหลดโปรแกรมฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงเข้าไปในสมอง       ซึ่งจุดนี้ถ้าเราสังเกตุดีๆจะพบว่าความสามารถต่างๆที่เหล่า "แฮคเกอร์" ในยานเรียนรู้ผ่านการดาวน์โหลด เช่นวิชาศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธประเภทต่างๆ การขับขี่ยวดยานพาหนะ การมีพลังเหนือกว่ามนุษย์ปรกติในโลกเมทริกซ์ (เช่นการวิ่งเร็ว และกระโดดข้ามตึก)  ล้วนไม่สามารถนำออกมาใช้ในโลกแห่งความจริงซึ่งมนุษย์๋ใน "ไซออน" กำลังทำสงครามกับหุ่นยนตร์อยู่ได้      ประเด็นนี้ทำให้ผมคิดว่าการฝังความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆนั้นอาจจะทำได้จริงในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีก้าวไปไกลแล้ว  แต่การจะนำสิ่งเหล่านั้นออกมาใช้งานโดยทันทีอาจจะเป็นไปไม่ได้จริงๆ  เพราะการกระทำและตอบสนองในเรื่องต่างๆของมนุษย์ล้วนต้องอาศัยความเคยชินที่ผ่านการกระทำเรื่องดังกล่าวมาก่อนหน้า  หรือต้องมีการฝึกฝนอย่างซ้ำๆกันเป็นเวลายาวนานและต่อเนื่อง      ทำให้ถึงแม้ต่อไปจะสามารถดาวน์โหลดพื้นฐานของ "วิชากังฟู" หรือ "การขับเครื่องบินขับไล่" เข้าไปในสมองมนุษย์ได้โดยตรง  แต่ถ้ามนุษย์คนดังกล่้าวไม่ผ่านการกระทำสิ่งนั้นด้วยตนเองจนชำนาญแล้ว  ยังไงๆก็ไม่มีทางจะทำเรื่องต่างๆได้ทันทีแบบในภาพยนตร์อย่างแน่นอนครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:07:50

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ผมคิดว่าไม่ได้แฮ๊คสมอง แต่น่าจะแฮ๊คเมตริกซ์มากกว่า เหมือนเวลาใช้พวก Action replay, Trainer เล่นเกมส์ พอไม่ได้เข้าสมองก็เลยใช้ในโลกจริงไม่ได้ จากคุณ : rx-93 (RX-93) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:16:21

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อ 1 ความเห็นผม คิดว่าทำไม่ได้และไม่มีวันทำได้ สาเหตุเพราะ - อย่าง HDD จะเก็บข้อมูลโดยการจัดเรียงผงแม่เหล็ก - แล้วเวลาคอมพิวเตอร์จะสั่งให้ HDD เขียนหรืออ่านข้อมูล คอมจะส่งคำสั่งไปตามสายแพ - เมื่อ HDD ได้รับคำสั่งก็จะจัดการตามคำสั่งนั้น ถ้าให้เขียนก็จะจัดเรียงผงแม่เหล็ก ถ้าให้อ่านก็จะส่งข้อมูลกลับไปตามสาย - สรุปคือ คอมพิวเตอร์ไม่ได้อ่านข้อมูลจากผงแม่เหล็กด้วยตัวเอง - และถ้า HDD พัง(วงจรควบคุมพังแต่ข้อมูลไม่ได้เสียหาย) - ไม่มีวิธีใดจะอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ HDD ได้โดยที่ไม่แงะเอาจานออกมา - สมองของคนก็คล้ายๆกันมีส่วนที่ใช้ในการจัดการข้อมูลอ่านเขียน(แต่ยังไม่มีใครทราบวิธีการ) - สมองไม่มีพอร์ตแบบสายแพเหมือน HDD - พอร์ตของสมองมีอย่างน้อย 5 พอร์ต (5 สัมผัส) - การจัดการข้อมูลในสมองใช้เวลานานและเป็นระบบที่ซับซ้อน - ไม่ใช่คิดจะลบก็ลบคิดจะเขียนก็เขียน - ถ้าคิดจะจัดการข้อมูลในสมอง จะหมายถึงการจัดการกับผงแม่เหล็กบน HDD จากภายนอก - ต้องใช้นาโนเทคแบบสุดยิด ลงไปจัดการเปลี่ยนข้อมูลในระดับเซลเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 54 14:27:01 จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:19:44

ความคิดเห็นที่ 4 อาจจะทำได้ในอนาคต แต่อีกนานคงไม่ใช่ในช่วงชีวิตของเราแน่ๆ จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:28:16

ความคิดเห็นที่ 5 ูู^ ^ ^ ถึงคุณความคิดเห็นที่3 -_-" เมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ไม่มีมนุษย์คนไหนเชื่อว่าต่อไปคนเราจะไปกิน ขรี้ ปรี้ นอน อยู่บนท้องฟ้าได้  และใครที่พยายามทำให้เห็นว่ามนุษย์จะบินได้ก็จะโดนหาว่าเป็นคนบ้าสติไม่สมประกอบด้วยซ้ำ  แต่ลองมาดูในยุคสมัยปัจจุบันที่เรามีเครื่องบินแล้วสิครับ  หรือมาใกล้กว่านั้นหน่อยไม่ถึง100ปีนับถอยหลังไป  แนวคิดการที่มนุษย์จะออกไปนอกโลกนั้นมีอยู่เพียงแต่ในนวนิยายเท่านั้น  แต่ทว่าเมื่อมาดูในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปมากแล้วสิครับ? (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 14:34:48

ความคิดเห็นที่ 6 อย่างเรื่อง Matrix ที่ทำพอร์ตที่ท้ายทอย แล้วเสียบสายเพื่อถ่ายโอนข้อมูลเข้าสมองในทันที สามารถโอนประสบการณ์ การขับเครื่องบิน คาราเต้ ลงใส่หัว ทำให้คนๆนั้นชำนาญได้ในทันที ส่วนตัวผมว่าไม่มีทางทำได้ การทำจุดเชื่อมต่อระบบประสาท เป็นไปได้ แบบส่งข้อมูลภาพไปที่สมอง กลิ่น รส สัมผัส อันนี้เป็นไปได้ (แต่คงยากสุดๆ) ซึ่งจะทำให้เรามีประสบการณ์เข้าไปสัมผัสโลกเสมือนจริงได้แบบในหนัง แต่การส่งข้อมูลเข้าสมองแบบ หนังสือทั้งเล่ม ทักษะและประสบการณ์สิบๆปี อันนี้ผมว่าทำไม่ได้ด้วยวิธีนี้ ระบบการจัดการข้อมูลภายในสมอง ไม่ได้ออกแบบมาแบบนั้น วัสดุที่ใช้ทำโครงสร้าง ไม่เหมือนดิจิตอล เหมือนการสร้างตึก หรือแก้ไขโครงสร้างอาคาร ไม่มีทางเร่งผู้รับเหมาให้ทำได้ใน 1 นาที ปูนจะไม่แห้ง แต่ถ้าผู้รับเหมาและคนงานทุกคนสามารถเหาะได้สื่อสารกันได้ทันที ก็อาจจะสามารถใช้คน 1000 ช่วยกันรุมสร้างตึกหรือแก้ไขอาคารให้เสร็จในเวลาไม่นาน ดังนั้นถ้าจะแก้ไขข้อมูลในสมอง คงต้องเข้าใจระบบการทำงานอย่างถ่องแท้ แล้วใช้นาโนบอทนับล้านๆตัว เข้าไปจัดการสมองถึงระดับเซล จะพอเป็นไปได้ จากคุณ : (-_-") เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 15:31:32

ความคิดเห็นที่ 7 -------------------------------------------------------------------------------------- ซึ่งจุดนี้ถ้าเราสังเกตุดีๆจะพบว่าความสามารถต่างๆที่เหล่า "แฮคเกอร์" ในยานเรียนรู้ผ่านการดาวน์โหลด เช่นวิชาศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธประเภทต่างๆ การขับขี่ยวดยานพาหนะ การมีพลังเหนือกว่ามนุษย์ปรกติในโลกเมทริกซ์ (เช่นการวิ่งเร็ว และกระโดดข้ามตึก)  ล้วนไม่สามารถนำออกมาใช้ในโลกแห่งความจริงซึ่งมนุษย์๋ใน "ไซออน" กำลังทำสงครามกับหุ่นยนตร์อยู่ได้ --------------------------------------------------------------------------------------- ข้อนี้ คุณ เจไดหนุ่มต้องกลับไปดู matrix ใหม่แล้วนะครับ การวิ่งเร็ว และ การกระโดดข้ามตึกไม่ใช่ ความสามารถในการเรียนรู้ครับ ไม่งั้น มอเฟียส และ ทรินิติ้ ต้องหลบกระสุนกันได้หมดแล้ว การวิ่งเร็วและการกระโดดข้ามตึก คือการก้าวข้ามจิตใต้สำนึก(subliminal)ครับ ในบทนี้ว่าถึงการปลูกฝังความกลัว โดยการปลูกฝังให้เชื่อว่าโลกเทียมมีแรงดึงดูดตกลงมาแล้วตาย ปลูกฝังความเชื่อว่า โดนปืนยิงแล้วต้องตาย ซึ่งในจุดนี้ ตอนสุดท้ายของภาค 1 นีโอ ได้ก้าวข้ามจิตใต้สำนึกได้ จึงรู้ว่าโลก matrix คือความฝัน จึงบังคับฝันได้ครับ กรณี การเรียนศิลปะการต่อสู้ และการขับเครื่องบิน เป้นจุดอ่อนของหนั่งที่ไม่ได้สร้างบทบู้ ในโลกความเป็นจริง(ไซออน)  ผู้ดูภาพยนต์ไม่ควรที่จะสรุปว่า นีโอ ขับเครื่องบิน หรือ ต่อสู้ในโลกภายนอกไม่ได้ครับ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 15:45:50

ความคิดเห็นที่ 8 ^ น่าจะขับได้ครับ เพราะมีตอนหนึ่งที่ เด็ก อายุ 15-18 สามารถขับหุ่นต่อสู้ได้ ผมว่าพ่อแม่เขายังเห็นเป็นเด็กคงไม่ให้ขับหรอกครับเด็กต้องไปหาโหลดบิตเอา จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 19:00:19

ความคิดเห็นที่ 9   ในหนังเรื่อง The Island ที่พระเอกและนางเองเป็นตัวโคลนนิ่ง มีตอนหนึ่งพอนำออกมาแล้วจะต้องปลูกฝังความทรงจำใหม่ โดยการฉายภาพซ้ำๆกันวนเวียนๆอยู่นาน จนสมองคิดว่านั้นคือชีวิตจริง....เป็นไปได้ไหมว่า เราจะรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆแล้วล้างสมองในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้สมองได้รับรู้ ได้โดยผ่านการฉายซ้ำๆอย่างรวดเร็ว เช่น กว่าเราจะเรียนจบในด้าน วิศวะ เราต้องใช้เวลาราว 10-15 ปี เพือเริ่มเรียนตั้งแต่ เลขพื้นฐาน ไปจนถึงวิศวะกรรม แต่เรานำความรู้ทั้งหมดฉายให้คนๆหนึ่งมองทั้งวันทั้งคืน ในเวลาหลับก็เปิดให้ฟังเป็นเวลา 1 เดือน เราจะสามารถทำให้คนๆนั้นสามารถเข้าใจและเรียนรู้ความรู้ทั้งหมดที่รวบรวมมา 10 ปี ในเวลาอันสั้นได้หรือไม่ ไม่ได้หมายถึงว่า พอฉายจบ เดินออกมาเก่งเลย แต่องค์ความรู้เหล่านั้นจะถูกบันทึกไว้ในสมอง แต่ก็ต้องมีการกระตุ้นความทรงจำในส่วนนั้นๆ อีก จะทำได้หรือไม่อ่ะ ปล.ยังไม่มีใครตอบคำถามที่สองของผมเลย จากคุณ : Fairylight เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 22:50:06

ความคิดเห็นที่ 10 ในเรื่อง The Island ไม่ได้ปลูกฝังความรู้นะครับ แค่ปลูกฝังจิตใต้สำนึกครับ อะไรคือความแตกต่างน่ะเหรอ ความรู้ต้องมีการคิดตามไปด้วย ความซับซ้อนมันสูงกว่าครับ ในเรื่อง The Island แค่พยายามทำให้ clone ทุกตัวมีความทรงจำพื้นฐาน ครับไม่ได้ใส่ความรู้ลงไปในนั้นครับ สังเกตุจาก clone รุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเกิดต้องไป เรียนทักษะพื้นฐานทั้งการเดินการใช้มือ การกิน ส่วน ข้อ 2 ผมคิดว่าตอนนี้ยังหาคนตอบไม่ได้จนกว่าเราจะรู้ว่า ยีนของคนที่ส่งผลต่อ การเป็นมนุษย์มีอะไรบ้าง และจนกว่าเราจะสามารถที่จะตัดต่อยีนมนุษย์ได้แบบแตกฉาน ลองคิดถึงคู่หรือสิ่งที่คุณคิดว่าเอ๋อ หรือยีนด้อยยีนเด่นดูสิ คุณคิดว่ามีกี่อย่างให้เลือก 1. ผิวสี มีกี่ระดับสีผิว 2. ความไวต่อสิ่งเร้าของผิว 3. จมูก โด่งหรือยุบ หรือว่า ขนาดจมูกเป็นเช่นไร 4. สีผมมีกี่แบบ ลักษณะเส้นผมมีกี่แบบ 5. โครงสร้างกระดูก โค้ง หรือตรง 6. ระดับสมอง (เอ๋อ,ปกติ,อัจฉริยะ) 7 8 . . . ผมคิดว่ายาวนะครับสิ่งที่เราไม่รู้ และเราไม่รู้ว่าอะไรจะจับคู่กับอะไร จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 54 23:13:53

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ WindMaster ครับขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ  แต่คือผมสงสัยตรงที่ว่า จะใช้มนุษย์ชายหญิงเท่าไหร่ในจำนวนที่น้อยที่สุดที่จะก่อให้เกิดสังคมได้ เช่นเกิดไวรัสล้างโลกขึ้นจนเหลือ มนุษย์ ชาย 1 หญิง 1 แน่นอนว่า ชายหญิงคู่นั้นจะต้องมีลูก ถูกไหมครับ สมมุติเลยว่า มีลูก 1 คน เป็นชาย โลกนี้จะเหลือมนุษย์อยู่ 3 คน พ่อ-แม่-ลูกชาย ในกรณีถ้าแม่ผสมกะลูกชาย ออกมาเป็นลูกสาว (ผมพูดแบบนี้ผมไม่นำจริยธรรมหรือศิลธรรมหรือมโนธรรมเข้ามาเป็นปัจจัยนะครับ)  เปอร์เซนต์ของคนที่ออกมา ก็จะมีเปอร์เซนต์การถ่ายทอดยีนส์ด้อยสูงมาก  เพราะผสมกันในครอบครัว ทีนี้ผมถามว่า การจะตั้งสังคมหนึ่งขึ้นมาได้โดยใช้มนุษย์ชายหญิงให้น้อยที่สุด ต้องใช้จำนวนเท่าใด จากคุณ : Fairylight เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 00:25:05

ความคิดเห็นที่ 12 ในส่วนของคำถามนี้ ผมเข้าใจครับ คุณ Fairylight แต่ไม่มีใครบอกได้ว่า คนที่นำขึ้นไปจะมีโอกาสเอ๋อ กี่ % น่ะสิครับ จะให้มั่วว่าสัก 100 คนก็ยังไม่แน่ใจเลย จุดนี้ผมต้องแยกเป็น 2 ทฤษฏี 1. ทฤษฏี มนุษย์ 2 คน. กรณี นี้ สมมุติให้ มนุษย์ ทั้ง 2 คนมี perfect gene. แต่ขณะที่มีการผสมพันธุ์กัน เกิดการกลายพันธุ์แต่เป็นส่วนน้อย ในบรรดา คู่ gene 1000 ตัว อาจจะมี 1 ตัวที่ เสื่อมไปซะเฉยๆ ส่งผลให้ ทายาทมนุษย์ยุคหลังๆ มีโอกาสที่ gene ด้อย จะจับตัวกันมากขึ้น. 2. ทฤษฏี มนุษย์ 6 คน. มีความเชื่ออีกแบบหนึ่งว่า มีมนุษย์ 3 เผ่า อยู่คนละส่วนของโลก (คอเคซอยด์ มองโกลอยด์ นิกรอยด์) ถ้า สามารถเลือกพันธุ์แท้จาก 3 เผ่านี้ได้ โอกาส ที่จะเอ๋อก็ต่ำมากครับ และต้องใช้กรรมวิธี กำจัดจุดอ่อนด้วยครับ คือการปล่อยยีนด้อยตาย ห้ามสงสาร แต่ถ้าปัจจุบัน มนุษย์ผสมกันจนเราแทบไม่รู้ว่าใครคนไหนมี gene ด้อยแบบไหนอยู่กับตัวบ้างครับ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 11:27:57

ความคิดเห็นที่ 13 อ่อเข้าใจแระครับ ขอบคุณมากครับคุณ WindMaster จากคุณ : Fairylight เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:24:05