ความคิดเห็นที่ 1 เป็นเหมือนกัน คันที่รอบเอว เหมือนไขมัน มันสั่นๆ จากคุณ : civic coupe (punkskate208) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 10:38:05

ความคิดเห็นที่ 2 น่าจะเป็นเหงื่อที่ไหลออกมาซึ่งมีฤทธิื์์เป็นกรด เมื่อสัมผัสกับเนื้อหนัง ก็จะทำให้รู้สึกคัน ปล.เมื่อก่อนสมัยเด็กๆวิ่งแทบตายก็ไม่คัน แต่พอเลยวัยรุ่นไป ก็รู้สึกคันเหมือนจขกท.เหมือนกัน จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:00:12

ความคิดเห็นที่ 3 เคยเป็นเหมือนกัน สมัยที่ร้างการออกกำลังไปกว่า 10 ปี พอมาวิ่งวันแรกเป็นเลย แต่พอออกกำลังต่อเนื่องซักระยะหลายๆ วัน อาการก็หายไป ไม่น่าใช่เหงื่อ เพราะตอนนั้นเหงื่อยังไม่ออกเลย วิ่งไปแค่ 200 เมตรเอง จากคุณ : ascertain เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:09:10

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนเคยบอกว่า เพราะไขมันละลาย... ไม่น่าใช่ น่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อกำลังปรับตัวมั้งครับ จากคุณ : workbench เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:17:20

ความคิดเห็นที่ 5 จากประสบการณ์เคยมีอาการแบบนี้เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย 555 ก่อนจะ discuss สาเหตุ ขอเล่าอาการก่อนละกัน อาการมักเกิดตอนที่กล้ามเนื้อหรือผิวหนัง "ถูกสั่น" หรือมีการ "กระแทก patern คล้ายกับการสั่น" เช่น เครื่องออกกำลังกายที่มีสายมาคล้องเอวแล้วเปิดเครื่องมันจะสั่น โหย... แป๊บเดียวเองนะ คันเอวมากๆๆๆ (นานมาแล้ว) บางทีปั่นจักรยานบนทางขรุขระ (ไม่เรียบ) ก็ยังคันๆบริเวณแขนเลย หรือกระทั่งตอนวิ่งเหยาะๆ ก็ยังคันต้นขาเลย ผมน่ะสงสัยมาตั้งนานแล้ว เคยได้ยินเหมือนกันที่บอกว่า "ไขมันละลาย" แต่ก็ยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ (กาลามสูตร - อย่า"เพิ่ง"เชื่อ... ทุกคนควรพกติดสติ) แล้วก็ลืมไปแล้วด้วย มาเห็นกระทู้นี้เลยได้โอกาสลองค้นหาความรู้เอา จากที่ลองหาข้อมูลใน internet (10 นาที) ส่วนใหญ่ก็ discuss กันบน webboard นี่แหละ ยังหาที่อ้างอิงเป็นหลักเป็นแหล่งไม่ได้เลย บางคนบอกเคยอ่านเจอจาก textbook dermatology แต่เนื่องจากผมไม่ได้อ่านเองเลยไม่ขออ้างอิงถึง (สิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ ก็อย่าเพิ่งเชื่อตั้งแต่แรกอ่านนะ) จากที่พอจะสรุปได้ก็คือ (ถ้าไม่นับการคันที่เกิดจากการระคายเคืองผิวหนัง เหงื่อ ผิวแห้ง ซึ่งไม่น่าจะใช่สิ่งที่ จขกท หมายความถึง รวมถึงผมด้วย) เมื่อเกิดการสั่นกับกล้ามเนื้อหรือผิวหนัง ไม่ว่าการสั่นนั้นจะมาจากเครื่องสั่นไขมัน 555 หรือการวิ่ง ปั่นจักรยาน ฯลฯ จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสาร "histamine" (excess histamine คือหลั่งออกมามากเกิน) ซึ่งทำให้เกิดการคัน (histamine รู้จักกันดีเกี่ยวกับภูมิแพ้) การที่ histamine ถูกหลั่งมากนี้เท่าที่ผมหาอ่านดูก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร บางคนก็บอกว่าเกี่ยวกับ mast cell degeneration (vibration induced) ซึ่งผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังไม่มีเหตุผลที่หนักแน่นมารองรับ บางคนก็แนะนำว่าให้ทาน anti-histamine 30 นาทีก่อนออกกำลังกาย (อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยมั๊ย) นอกจากนี้ (ก็จากที่อ่านอีกนั่นแหละ) บางคนก็บอกว่า อาการคันอาจเกี่ยวกับ blood flow, body temperature ที่สูงขึ้นตอนออกกำลังกาย แต่ก็มีบางคนมาแย้ง, อาการคันดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ถ้าออกกำลังกายบนเครื่องออกกำลังกายที่ลดการกระแทก (แปลจากคำว่า elliptical) สำหรับผมแล้วคิดว่า histamine น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการคันที่กล่าวมา แต่ pathogenesis และ pathophysiology นั้นยังไม่แน่ชัด ใครทราบสาเหตุหรือมีข้อมูลอื่นก็มาร่วมกันอภิปรายนะครับ สิ่งที่ผมกล่าวมาอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็ได้ แค่มา share สิ่งที่ได้หาอ่านมาด้วยเวลาที่ไม่มากนัก (นั่งตอบกระทู้นานกว่าอีก) จากคุณ : นานๆ มาที เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 12:13:56 A:124.120.94.162 X: TicketID:097959

ความคิดเห็นที่ 6 ให้หัวใจ คห.5 หนึ่งดวงแทนกิฟครับ ^^b ว่าแต่ anti-histamine มันไม่ใ่ช่ยาจำพวกยาแก้แพ้/ลดน้ำมูกหรอกเหรอ - -a กินดีคอลเจนตัวยาสามชั้นก่อนออกกำลังกายเนี่ยนะ จากคุณ : workbench เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 12:21:25

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ workbench #6 ครับ ผมเข้า pantip มานาน แต่ไม่ได้สมัครเป็นตัวเป็นตนซะที เพราะนานๆ มา(ตอบ)ที ตามชื่อ anti-histamine ที่อ่านเจอ (จากที่ใครก็ไม่รู้บอก อยู่มุมไหนของโลกก็ไม่รู้) เค้าบอกว่า เช่น Zyrtec (Cetirizine - 2nd gen anti-histamine, fast onset, ไม่ง่วง) คุณสมบัติหรือข้อบ่งใช้ไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่สันทัด (ถ้าเภสัชหรือหมอมาเองจะดีกว่า) จาก #5 เพิ่มเติมนิดนึง สำหรับตัวผมเองนั้น เมื่อออกกำลังกายไปสักระยะ (หมายถึงหลายวันเป็นประจำ นานๆ ถี่ 555) อาการคันก็จะดีขึ้นและหายไป ซึ่งการที่อาการดีขึ้นนี้ผมยังไม่ได้หาอ่านว่ามันเกิดจากอะไร มีกลไกอย่างไร ใครมีข้อมูลก็ร่วมอภิปรายละกัน ส่วนอาการคันแบบที่ผม #5 กล่าวนั้น จากที่หาอ่านใน internet มีคนเป็นกันเยอะเหมือนกัน (หรือเพราะคนเข้ามาตอบมีแต่คนที่เคยคันหว่า 555) คนที่เข้ามาตอบไม่น้อยก็บอกว่าอาจเกี่ยวกับ เหงื่อ เสื้อผ้า แพ้อาหารที่ทานมาก่อนหน้า แพ้สบู่ ฯลฯ ซึ่งผมมองว่าอาจเป็นไปได้สำหรับอาการคัน แต่ไม่น่าจะใช่สำหรับอาการคันที่ผมกล่าวถึง บางคนก็บอกว่าแต่ละคนจะ sensitive ต่ออาการคันไม่เท่ากัน บางคนคันน้อย บางคนคันมาก (severe เลยก็มี ไม่รู้เวอร์ไปป่ะ 555) จากคุณ : นานๆ มาที เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 12:35:23 A:124.120.89.164 X: TicketID:097959

ความคิดเห็นที่ 8 อาการคันยิบๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกาย เกิดจากกรดแลกติกที่กล้ามเนื้อสร้างขึ้น กรดแลกติกเกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อเผาผลาญกลูโคสเป็นพลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจน เนื่องจากในการออกกำลังกายมีการใช้แรงอย่างกระทันหัน ต้องใช้พลังงานมาก การเผาผลาญโดยใช้ออกซิเจนแบบปกติให้พลังงานไม่เพียงพอ กรดแลกติกที่สะสมทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า แต่กรดแลกติกจะค่อยๆ  สลายไปเมื่อหยุดใช้กล้ามเนื้อและได้รับออกซิเจนเพียงพอ และในคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เซลล์กล้ามเนื้อจะค่อนข้างไวต่อกรดแลกติกมากกว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กรดแลกติกจึงทำให้ระคายเคืองเกิดเป็นความรู้สึกคันยิบๆ จากข้างใน นอกจากนี้เซลล์กล้ามเนื้อคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายยังกำจัดกรดแลกติกได้ช้ากว่า จึงทำให้เมื่อนานๆ ทีออกกำลังกายร่างกายจึงปวดเมื่อยไปหลายวันครับ จากคุณ : Entitas เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:01:40

ความคิดเห็นที่ 9 โดน #8 ตัดหน้า กำลังจะมาบอกว่าเพราะกรดแลคติคพอดี 555 จากคุณ : เทาทองวอร์ริเออร์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:06:34

ความคิดเห็นที่ 10 เครื่องที่สั่นๆเอว หรือสั่นๆที่ขา ยังไม่ทันออกกำลังไรเลย คันมากๆ แล้วก็เคยไปอยู่ใต้น้ำตกซัดแถวๆเอวนานๆก็คันขึ้นมาเลย ไม่น่าใช่แลตติคนะครับ เพราะเวลาออกกำลังแบบยกเวทแลคติคออกแน่ๆเพราะยกหนักในเวลาสั้นๆไม่เคยคันเลย แล้วก็ออกกำลังกายแบบวิ่งเยาะๆแลกติคไม่ค่อยออกด้วย เพราะไม่ได้ออกแรงมากในระยะเวลาสั้นๆ ใช้อ๊อกซิเจนซะมากกว่า จากคุณ : billgate เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 01:30:56

ความคิดเห็นที่ 11 คันมากๆค่ะ เพิ่งเคยเจอคนเป็นแบบเรา จากคุณ : piekai เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 02:52:32

ความคิดเห็นที่ 12 เราก็เป็น ตอนนี้เดาเอาว่าน่าจะเกี่ยวกับระบบปลายประสาทตามผิวหนัง จากคุณ : auny (auny) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 13:00:05