ผมเข้าไปแบบใจอคติโคตรๆแต่ไม่แสดงอาการ ผมนั่งกอดอกแน่นตั้งแต่ต้นจนจบแบบของไม่เข้าแน่นอน ฟังไปใจก็คิดเออ:-) motivate กันเข้าไปนะ บ้านรถแล้วไงกูหาได้มีปัญญาบ้านก็ใช่ว่าจน ต่อให้จบก็ไม่มาทำหรอกเพราะความอคติข้างต้น วันนั้นไม่มีอะไรเข้าหูเลยครับ ไม่มีเลย นั่งดูไปงั้น มีคนนู้นคนนี้ขึ้นเวที มีเจ้าของค่ายเพลง จังซี่มันต้องถอน มีพรีเซนเตอร์ของการบินไทย มีใครต่อใครขึ้นไป ผมก็ อ้อ เหรอ แล้วไง ? แผนการตลาดอะไรก็ไม่รู้ เพราะฟังแต่ไมได้คิดตาม เข้าหูแต่ระเหยออกทางผิวหนังก้นเลยทีเดียว วันนั้นก็เป็นวันธรรมดาหนึ่งวันที่มาเป็นเพื่อนพี่ชายนั่งสัมมนา กลับไปหาอะไรอร่อยๆทาน แล้วมันก็จะผ่านไป แต่มันมีจุดที่ทำให้เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเริ่มจะยอมรับเปิดใจนิดๆคือสิ่งที่เคยประสบมากับคราวนี้มันต่างกัน
แต่เดิมมีแต่โดนหลอกไป เข้าไปก็พยายามยัดเยียดอะไรมากมาย จะให้สมัครๆอยู่นั่นแหละ แต่คราวนี้เขาไม่สนใจเลยครับ มาถึงงานมี Upline ของพี่ชายเข้ามาถามพี่ชายผมว่าเพื่อนใหม่หรือ ? พี่ชายผมบอกว่าเปล่านี่น้องชายผม มาเป็นเพื่อนเฉยๆ พี่คนนั้นเขาก็หันมาทักทายแล้วก็ไป ไม่มีพูดอะไรทั้งสิ้น พอหลังเลิกงานผมพยายามปลีกตัวสุดๆ แต่พี่ชายขอให้เป็นเพื่อนอีกหน่อย เขามีนั่งเป็นวงๆกันตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าทำอะไร ก็ไปเจอผู้หญิงคนนึงรู้ทีหลังว่าเป็นพี่สาวของ Founder กลุ่ม เขาก็ถามคำถามเดียวกันพี่ชายผมก็ตอบคำถามเดิม เขาก็ไม่ยุ่งกับผมเลย แบบรู้จักเป็นคนๆนึงธรรมดาๆนี่แหละ แต่ไม่มาถามหรือพูดอะไรให้รำคาญใจเลย จนตอนขาออกจากงานไปเจอ Founder กลุ่ม คำถามเดิม คำตอบเดิม เขาก็บอกยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แล้วก็จากไป
นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกดีมาบ้างว่าเฮ้ย เออแปลกดี มีแบบนี้ด้วยไม่เข้ามายัดอะไรใส่หัว บอกว่าไม่ก็ไม่ ไม่มาตื๊อหรือพยายามยัดเยียดให้สมัครหรือให้ซื้อของ
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 06:26:22
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 06:20:54
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 06:20:38
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 06:20:24