ความคิดเห็นที่ 1 ดังนั้น เพื่อที่จะตอบคำถามปริศนาดังกล่าว นักชีววิทยาจึงต้องศึกษาองค์ประกอบที่เป็นหน่วยย่อยเล็กสุดของชีวิตนั่นคือ เซลล์ เซลล์ในความหมายเชิงวัตถุก็คือถุงเมมเบรนที่บรรจุสารตั้งต้นและตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีอยู่ภายใน เซลล์ในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด อย่างน้อยต้องประกอบด้วยเยื่อหุ้มเซลล์(ไขมัน) สารพันธุกรรม(กรดนิวคลีอิก) และเอ็นไซม์(โปรตีน) แต่ทุกคนเคยนึกสงสัยบ้างไหมครับว่าสิ่งต่างๆทั้งหมดนี้มาประกอบรวมกันเองได้อย่างไรเมื่อหลายพันล้านปีก่อน? สำหรับการกำเนิดของโปรตีน โมเลกุลที่เซลล์ใช้ในการทำงานต่างๆนั้น การทดลองของ Stanley Miller เมื่อปีค.ศ. 1953 ได้สร้างสภาวะบรรยากาศจำลองของโลกดึกดำบรรพ์แล้วพบว่า โมเลกุลรูปแบบง่ายๆของโปรตีนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เองในสภาวะดังกล่าว (โปรดดูรายละเอียดใน กำเนิดสิ่งมีชีวิต (Origin of life) -1) อย่างไรก็ดี การกำเนิดของโปรตีนถือเป็นส่วนน้อยมาก สำหรับการตอบปริศนาการกำเนิดสิ่งมีชีวิต จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:49:56

ความคิดเห็นที่ 2 เหนือไปจากโปรตีน คือปัญหาของ Central dogma ผู้ที่เรียนชีววิทยาระดับเซลล์คงจะทราบกันดีว่า Central dogma ถือเป็นหัวใจสำคัญของอณูชีววิทยาศาสตร์ การที่สิ่งมีชีวิตจัดเก็บ นำมาใช้และสืบต่อ “ข้อมูล” ไปยังลูกหลานได้ จำเป็นต้องมีการถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรมอย่างเป็นระบบ เริ่มต้นจาก DNA ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางพันธุกรรม แปลงรหัสเป็น RNA ซึ่งเป็นตัวกลางส่งผ่านข้อมูล และถอดรหัสเป็นโปรตีนซึ่งเป็นโมเลกุลทำงาน ปัญหาคือ Central dogma ดังกล่าวบังเกิดและสมบูรณ์พร้อมในตัวเองได้อย่างไร เพราะการเพิ่มสำเนา DNA “แหล่งเก็บข้อมูล” นั้นจำเป็นต้องอาศัยการทำงานของโปรตีน ในขณะเดียวกัน การถอดรหัสโปรตีนก็ต้องอาศัยข้อมูลจาก DNA “ถ้าทุกสิ่งต่างก็ต้องการสิ่งอื่นๆ แล้วแรกเริ่มเดิมทีชุมชนโมเลกุลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? มันเหมือนกับว่า จู่ๆส่วนผสมทั้งหมดในครัวก็มารวมกัน แล้วอบตัวเองให้กลายเป็นเค้ก”- Paul Devies จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:50:42

ความคิดเห็นที่ 3 Paradox ดังกล่าวอาจถูกไขออกได้ถ้าสมมติว่าสิ่งมีชีวิตในยุคแรกไม่ได้ใช้โปรตีนเป็นโมเลกุลทำงาน และสารพันธุกรรมมีคุณสมบัติจำลองตนเองโดยไม่ต้องพึ่งโมเลกุลชนิดอื่น นักชีววิทยาได้เสนอว่า สารชีวโมเลกุลกรดนิวคลีอิก (กลุ่มของสารพวก DNA และ RNA) ยุคแรกน่าจะมีโครงสร้างคล้าย DNA และใกล้เคียง RNA มาก และตามลำดับแล้ว RNA เกิดก่อน DNA เนื่องจากโครงสร้างที่ยืดหยุ่น หลากหลายและมีความซับซ้อนน้อยกว่า จึงเป็นโมเลกุลที่มีแนวโน้มจะเป็นกรดนิวคลีอิกในยุคแรกมากกว่า DNA (อ่านเพิ่มเติมใน RNA world hypothesis) ในกระบวนการสร้างโปรตีนของเซลล์ในยุคแรกอาจใช้ RNA เป็นแม่พิมพ์ในการสร้าง จนกระทั่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง DNA อาจเข้ามาเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในกระบวนการถอดรหัส แต่ก็เป็นเพียงอีกทางเลือกหนึ่งที่เซลล์ใช้ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่ DNA เข้ามาทำหน้าที่ในการเป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมอย่างเต็มตัว Central dogma จึงสมบูรณ์อย่างเซลล์ในยุคปัจจุบัน จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:51:11

ความคิดเห็นที่ 4 หากแต่คำตอบดังกล่าวก็ยังคงมีปริศนาซ่อนอยู่ นั่นคือแล้วต้นกำเนิดของกรดนิวคลีอิกหรือสารพันธุกรรมเล่า มาจากไหน? กรดนิวคลีอิกมีโครงสร้างประกอบด้วยโมเลกุลน้ำตาลไรโบสที่เรียงตัวกันเป็นโพลีเมอร์สายยาว หมู่ฟอสเฟตสำหรับเชื่อมแต่ละโมเลกุลน้ำตาล และเบสที่เปรียบเสมือนการ “เข้ารหัส” ข้อมูลทางพันธุกรรม (ดูรูปประกอบ) สำหรับเซลล์ในยุคปัจจุบัน จากชุมชนโปรตีน-โมเลกุล “ทำงาน” ที่มีอยู่ในเซลล์และสารตั้งต้นที่มีพร้อม การประกอบกรดนิวคลีอิกดูจะเหมือนจะไม่เป็นปัญหายากเย็น แต่สำหรับยุคแรกเริ่มนั้น เนื่องจากโมเลกุลน้ำตาลไรโบสเป็นของหายาก และมีโครงสร้างที่ไม่เสถียรเอาเสียเลย สารประกอบฟอสเฟตที่ละลายน้ำก็น่าจะมีน้อยมากในโลกยุคแรกที่ปราศจากสิ่งมีชีวิต นอกจากนั้นการที่สารประกอบทั้งสามชนิดจะมารวมตัวกันได้เอง ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะให้โมเลกุลน้ำออกมา ซึ่งมักไม่เกิดขึ้นได้เองในปฏิกิริยาเคมีที่อาศัยน้ำเป็นตัวทำละลาย หากจะเปรียบเทียบก็เหมือนเราต้องการประกอบรถยนต์ขึ้นมาสักคันในสมัยสุโขทัย ที่ไม่มีทั้งเครื่องยนต์ ไม่มีคนประดิษฐ์ ไม่มีโรงงาน แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 00:07:37 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:52:03

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว John Sutherland และคณะจาก University of Manchester ได้ทำการทดลองและเสนอทางเลือกอื่นในการถือกำเนิดนิวคลีโอไทด์ โดยการรวมตัวกันระหว่าง “ชิ้นส่วน” ของน้ำตาลไรโบสและเบสที่ “ไม่สมบูรณ์” แต่มีความเสถียรและพบได้มากกว่าในโลกยุคแรก ประเด็นที่น่าสนใจคือ นิวคลีโอไทด์ ที่ประกอบขึ้นเองนั้นบางส่วนจะมีโครงสร้างที่ไม่ถูกต้อง และมีการจัดเรียงตำแหน่งที่ไม่ตรงกับสารพันธุกรรมในปัจจุบัน แต่เมื่อคณะทดลองได้ฉายแสง UV (เช่นดียวกับรังสี UV ที่ดวงอาทิตย์ส่องมายังโลก) นิวคลีโอไทด์ที่มีโครงสร้างไม่ถูกต้องจะถูกทำลายไป เหลือแต่ส่วนที่มีโครงสร้างถูกต้องเท่านั้น บางที การทดลองดังกล่าวอาจจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อครั้งอดีตกาลก็เป็นไปได้นะครับ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:53:25

ความคิดเห็นที่ 6 เอาล่ะ ในเมื่อการถือกำเนิดนิวคลีโอไทด์ ถูกพิสูจน์ว่าสามารถเกิดขึ้นได้เอง แต่นั่นเพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้น เพราะนิวคลีอิกเป็นเพียงหน่วยย่อยของกรดนิวคลีอิก แล้วกรณีของกรดนิวคลีอิกซึ่งเป็นโมเลกุลสายยาว (โพลีเมอร์) เล่า? สำหรับเซลล์ในยุคปัจจุบัน มีเอ็นไซม์ polymerase รับผิดชอบหน้าที่ต่อสายกรดนิวคลีอิกจากหน่วยย่อยนิวคลีโอไทด์ แต่เรากำลังพูดถึงโลกในยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งกรดนิวคลีอิกและโปรตีนต่างถือกำเนิดแยกจากกันโดยอิสระและมารวมกันเป็นเซลล์ในภายหลัง ในการสร้างพันธะคาร์บอนระหว่างหน่วยย่อยนั้นต้องอาศัยพลังงาน หลายการทดลองพยายามจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเติมสารเคมีบางอย่างเพิ่มลงไปในน้ำ-ตัวทำละลายสำหรับปฏิกิริยาชีวเคมี พบว่าโมเลกุลกรดนิวคลีอิกสายสั้นๆราว 40 นิวคลีโอไทด์สามารถเกิดขึ้นได้เอง การทดลองหนึ่งโดย Jim Ferris และคณะจาก Rensselaer Polytechnic Institute ได้ใช้ดินเหนียวเป็นตัวเร่งกระบวนการต่อสายยาว พบว่าสามารถสร้างกรดนิวคลีอิกที่มีความยาวเกิน 50 นิวคลีโอไทด์ได้ (อย่างไรก็ตาม ยีนโดยทั่วไปมีความยาวหลักพันนิวคลีโอไทด์ขึ้นไปครับ) เนื่องจากคุณสมบัติของแร่ธาตุในดินเหนียว เพิ่มโอกาสที่โมเลกุลนิวคลีโอไทด์เข้ามาอยู่ใกล้กันและต่อกันเป็นสายยาว จากการศึกษาดังกล่าว เป็นผลให้นักชีววิทยาเสนอว่า ชีวิตในยุคแรกน่าจะถือกำเนิดบนดินโคลนเลนใต้น้ำ ซึ่งกำเนิดมาจากน้ำพุร้อน จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:53:46

ความคิดเห็นที่ 7 ผู้อ่านครับ จากตรงนี้ทุกคนคงพอจะเห็นความเป็นไปได้ของชีวิตมากขึ้น เมื่อสารพันธุกรรม แหล่งข้อมูลของสิ่งมีชีวิตนั้นถูกเสนอว่าเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นเองจากสภาพแวดล้อมในโลกยุคดึกดำบรรพ์ สิ่งที่เหลือคือการที่สารพันธุกรรมเหล่านั้นถูกประกอบเข้าไปในเซลล์และคัดลอกสำเนาตัวเองเพื่อเพิ่มจำนวนลูกหลาน อันเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิต สำหรับเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane) หลายการทดลองแสดงให้เห็นว่ากรดไขมันสามารถรวมตัวกันเป็นถุงเมมเบรนที่กักเก็บสารพันธุกรรมไว้ภายในกลายเป็น protocell ได้ (เยื่อหุ้มเซลล์ยุคปัจจุบันมีความซับซ้อนกว่ามาก เนื่องจากประกอบไปด้วยฟอสโฟลิปิด โปรตีน ไกลโคลิปิด และคลอเลสเตอรอล) จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:54:06

ความคิดเห็นที่ 8 แต่สำหรับกระบวนการจำลองตัวเองของสารพันธุกรรมนั้นเป็นปฏิกิริยาที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งสารพันธุกรรมยุคแรกจึงอาจจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมช่วย นักชีววิทยาได้เสนอกลไกที่น่าจะเป็นไปได้คือ protocell ในสภาวะแวดล้อมที่สลับขั้วอุณหภูมิระหว่างร้อนและเย็น ถึงตรงนี้เรามาสมมติกัน protocell ของเราอยู่ในบ่อน้ำที่ด้านหนึ่งเย็นเฉียบจากก้อนน้ำแข็ง ส่วนอีกด้านร้อนมากจากภูเขาไฟ และกระแสน้ำทำให้ protocell เล็กๆของเราเคลื่อนที่ไปมาระหว่างที่เย็นกับที่ร้อนที่ว่า protocell เมื่ออยู่ในด้านที่อุณหภูมิต่ำ สารพันธุกรรมจะสร้างพันธะระหว่างกันเป็น RNA สายคู่ (แน่นอนว่า นักชีววิทยายังคงอ้างอิงทฤษฎี RNA world hypothesis) เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น RNA สายคู่จะคลายออกจากกัน ขณะเดียวกัน protocell ก็รับเอากรดไขมันจากสิ่งแวดล้อมจนมีขนาดใหญ่และแตกเป็น protocell ขนาดเล็กพร้อมกับบังเอิญมีชิ้นส่วนของ RNA สายเดี่ยวอยู่ด้วย protocell ที่ประกอบไปด้วย RNA สายเดี่ยวก็รับเอาหน่วยย่อยนิวคลีโอไทด์จากสิ่งแวดล้อมมาเข้าคู่กับสาย RNA ที่มีอยู่ จากนั้นวงจรใหม่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง (สำหรับผู้อ่านที่เคยทำการทดลอง PCR-polymerase chain reaction อาจคุ้นๆหลักการนี้นะครับ) แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 13:21:49 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:54:40

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงตรงนี้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างประกอบกันขึ้นมาเองเป็นระบบที่จำลองตนเองและส่งต่อไปยังลูกหลานได้ เซลล์ในยุคแรกจึงถือกำเนิดขึ้นโดยมีเยื่อหุ้มเซลล์อย่างง่ายๆและไม่มีคุณสมบัติในการเลือกผ่านมากนัก สารพันธุกรรมที่เซลล์ยุคแรกใช้ก็คือ RNA กระบวนการจำลองตนเองนั้นยังต้องอาศัยปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเข้าช่วย หลังจากนั้น กระบวนการวิวัฒนาการก็เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อมี protocell จำนวนมากมายมหาศาลจากการจำลองตัวเองของสารพันธุกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า การแข่งขันระหว่างสารเคมีจึงเกิดขึ้น RNA ที่มีคุณสมบัติเร่งปฏิกิริยาได้ในการเพิ่มจำนวนด้วยตนเองได้ ย่อมเพิ่มจำนวนเด่นกว่า RNA ที่ต้องอาศัยกลไกจากสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับ RNA ที่สามารถเร่งปฏิกิริยาสร้างพลังงานจากปัจจัยแวดล้อมได้ก็ย่อมเพิ่มจำนวนเด่นขึ้น ผลคือโลกของ RNA ที่มีความหลากหลายสูง และเกิดแข่งขันทางวิวัฒนาการเพื่อให้ตนเองคงอยู่ จากนั้นโปรตีนและ DNA จึงเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของเซลล์อย่างเซลล์ยุคปัจจุบัน จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:55:10

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้อ่านคงเห็นว่าหนทางกว่าที่เซลล์-หน่วยย่อยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิตจะถือกำเนิดขึ้นมานั้นมันไม่ง่ายเลย เคยมีคนกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างทฤษฎีวิวัฒนาการและทฤษฎีการกำเนิดชีวิตไว้ว่า สำหรับทฤษฎีวิวัฒนาการ สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เกิดขึ้นจากการสะสมกันระหว่างความเป็นไปได้อันน้อยนิดเป็นจำนวนมาก (เนื่องจากกลไกที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงอย่างเล็กน้อยซึ่งสะสมกันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่น วิวัฒนาการของดวงตา วิวัฒนาการของปีก) แต่สำหรับทฤษฎีการกำเนิดชีวิต สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ถือกำเนิดมาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆมากมายมหาศาลที่เกื้อหนุนและเหมาะสมแก่เวลา และถึงแม้นักชีววิทยาจะศึกษา เสนอเค้าโครงอันเลือนรางของต้นกำเนิดชีวิตได้อย่างที่เห็น (ข้อจำกัดของทฤษฎีกำเนิดชีวิตที่สำคัญคือ นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำการทดลองเพื่อจำลองเหตุการณ์ที่่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นจนจบ) ก็ยังคงเหลือปริศนาอีกมากมายที่ต้องค้นหาคำตอบ เป็นต้นว่าเซลล์ยูคาริโอตเซลล์แรกถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร? สำหรับเซลล์โปรคาริโอตนั้น เป็นรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุดของชีวิต แต่สำหรับยูคาริโอตนั้นมีความสลับซับซ้อนกว่ามาก ทั้งเยื่อหุ้มนิวเคลียส-แหล่งเก็บสารพันธุกรรมที่มีคุณสมบัติในการเลือกสารผ่านเข้า-ออก การควบคุมการแสดงออกของยีนอย่างเป็นระบบ และออร์แกแนลที่ให้พลังงานซึ่งมีสารพันธุกรรมเป็นของตัวเองอย่างคลอโรพลาสต์และไมโตคอนเดรีย สิ่งต่างๆเหล่านี้มีที่มาอย่างไร? เป็นปริศนาที่ให้นักวิทยาศาสตร์ค้นคว้ากันต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 54 23:59:32 จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:55:45

ความคิดเห็นที่ 12 เรียบเรียงจาก Richardo A, Szostak JW. Origin of Life On Earth. Sci Am. 2009 Sep;301(3):54-61. แนะนำคำค้นหาเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจ RNA world hypothesis คือทฤษฎีที่กล่าวว่าสิ่งมีชีวิตในยุคแรกใช้ RNA เป็นสารพันธุกรรมแทนที่จะเป็น DNA อย่างในปัจจุบัน Panspermia เป็นอีกหนึ่งทฤษฎีกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ฉีกแนวไปเลย เนื่องจากความเป็นไปได้ยากที่สิ่งมีชีวิตจะถือกำเนิดขึ้นมาได้เองบนโลกใบนี้ ดังนั้นทฤษฎีนี้จึงเสนอว่าสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดมาจากนอกโลก Endosymbiotic Theory คือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการกำเนิดเซลล์ยูคาริโอต โดยกล่าวว่าทั้งไมโตคอนเดรียและคลอโรพลาสต์ต่างเคยเป็นเซลล์อิสระมาก่อน จากนั้นจึงเข้าไปอยู่ร่วมกับเซลล์อื่นโดยได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ภาพประกอบเพิ่มเติมจาก http://kimwootae.com.ne.kr/apbiology/chap19.htm http://blogs.nature.com/microscopicmiracles/2010/10/28/the-stuff-of-life http://www.nicksnowden.net/Module_1_pages/nucleic_acids%20and%20protein_synthesis.htm http://www.sticks-and-stones-magazine.co.uk/blog/index.php/evolution-on-your-wall/ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:57:00

ความคิดเห็นที่ 13 ลงชื่อไว้ก่อน จากคุณ : Entitas เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 23:58:57

ความคิดเห็นที่ 14 ยากไม่กลัว กลัวยาว เดี๋ยวกลับมาอ่านครับ จากคุณ : jubjibman เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 00:17:46

ความคิดเห็นที่ 15 ยากไม่กลัว... กลัว Creationist ฮ่าๆ ปล. คุณขลิปตุ้มกลับมาขยันแล้วววว จากคุณ : huMperdinCk เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 00:29:50

ความคิดเห็นที่ 16 ในสารคดีของ National Geographic รู้สึกจะมีเล่าเรื่องนี้อยู่ในตอน Birth of Life แต่ผมฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เพราะเป็นภาษาอังกฤษ แฮ่ะๆ จากคุณ : นกกินเปี้ยว เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 01:04:43

ความคิดเห็นที่ 17 เขียนเก่งมากๆ เข้าใจง่าย  ได้ concept ดี ขอบคุณนะคะ จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 02:46:27

ความคิดเห็นที่ 18 ที่สำคัญคือ  จิตใจ  ความรู้สึกนึกคิดมาจากไหน ที่ขับเคลื่อนร่างกาย เหมือนรถต้องมีคนขับ  (เดี๋ยวพวกบอก ขับอัตโนมัติ....ก็ต้องมีคนทำโปรแกรมอยู่ดี) วิทยาศาสตร์จะตกม้าตายตอนจบ เพราะตอบเรื่องนี้ไม่ได้ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 03:51:54

ความคิดเห็นที่ 19 ขออ่านตอนกลางวันนะครัย ปล. คุณขลิบกลับมาโพสสักทีรอนานมาก เห็นชอบซุ่มอ่านประจำเลยนิ จากคุณ : อนุภาคกลูออน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 06:47:35

ความคิดเห็นที่ 20 ยาวมากเดียวค่อยมาอ่าน จากคุณ : Andy lim เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 07:26:46

ความคิดเห็นที่ 21 ตกม้าตาย แน่ใจรึ? จากคุณ : บ่าวจ่อย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 08:04:29

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ^ ^ ?????? จขกท คะ เย็นๆ จะกลับมาอ่านนะคะ จากคุณ : wasanakv เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 08:53:55

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ อ.คริป ครับ เที่ยวนี้อ่านเข้าใจง่าย ผมเชื่อว่าต่อไปคงไม่ต้องขึ้นหัวกระทู้แล้วว่า ต้องการความรู้ชีวฯ ม.ปลาย เพราะ ป.วช. ก็อ่านเข้าใจได้ จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:14:38

ความคิดเห็นที่ 24 สรุปเนื้อๆ ได้ป่าว? ยาวไปไม่มีเวลา จากคุณ : TheMATABA เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:15:55

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านไปก็ไม่รู้สึกว่ายาวนะครับ กระชับได้ใจความดี เพียงแต่รูปใหญ่อาจจะทำให้ดูเหมือนเนื้อหามาก จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:35:27

ความคิดเห็นที่ 26  ดีครับ  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 09:55:05

ความคิดเห็นที่ 27 เท่าที่ จขกท นำเสนอก็เข้าใจง่ายและเนื้อหาก็กระชับดีอยู่แล้ว ถ้าจะใฝ่ความรู้ก็ต้องลงทุนด้านเวลากันหน่อย จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:00:07

ความคิดเห็นที่ 28 เยี่ยมครับ จากคุณ : @power เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:16:56

ความคิดเห็นที่ 29 #11 นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าไข่เกิดก่อนไก่ครับ --- EDIT: ขอแก้ไข เพิ่งอ่านเจอว่ามีข้อโต้แย้งว่าไก่เกิดก่อนไข่แล้วครับ - -" แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 15:20:49 จากคุณ : ชิวตัวเป็นขน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:31:09

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับ คุ้นๆอิอิ จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:51:58

ความคิดเห็นที่ 31 หายไปนานเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : lnl เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:03:19 A:223.205.239.86 X: TicketID:300933

ความคิดเห็นที่ 32 Life: did it come from outer space? http://www.abc.net.au/science/news/stories/s603155.htm http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.975 จากคุณ : เพ็ญชมพู เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:19:06

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อน: อ่านแล้วเนื้อหาวาโก้ดี ผม: อะไร วาโก้!? เพื่อน: กระชับ ผม: !@#$%^&*? โทษทีไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้- -" จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 11:47:21

ความคิดเห็นที่ 34 มาลงชื่อ และให้กำลังใจ จากคุณ : wippygal25 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:12:02

ความคิดเห็นที่ 35 #32 แล้ว ชีวิตที่ outer space แรกเริ่มมาจากไหน?? จากคุณ : vermillion เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:53:21

ความคิดเห็นที่ 36 อืม ไก่กับไข่ ไก่น่าจะเกิด ก่อนนะ เมื่อก่อนไก่อาจจะไมไ่ด้ออกลูกเป็นไข่ก้อได้  แล้วค่อยเปลี่ยนมาออกเป็นไข่ภายหลัง ? จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 12:57:46

ความคิดเห็นที่ 37 แปะโป้ง..สาระล้วนๆ.. จากคุณ : กล้วยแถก เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:01:05

ความคิดเห็นที่ 38 มาครับ :) จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:05:08

ความคิดเห็นที่ 39 ยินดีต้อนรับกลับบ้าน คห 18 บางที มันอาจขึ้นอยู่กับว่า ถ้าคำตอบทางวิทยาศาสตร์ถ้ามันไม่ตรงกับที่คิดไว้ เราจะยอมรับได้ขนาดไหน จะปฏิเสธ หรือจะศึกษาต่อ บางทีความจริงอาจอยู่ในระดับที่ลึกไปกว่าวิทยาศาสตร์ ณ ปัจจุบัน ก็เป็นได้ ให้ตัวอย่าง สิ่งข้างล่างนี้ไม่ได้อาศัยโปรแกรมใส่ไปในเสี้ยวสมองหนูนี้ แต่มันให้เสี้ยวของชีวิตนี้จัดการตีความหมายและจัดการกับโปรแกรมที่มนุษย์ใส่ให้ พลังของเซลล์นั้น ไม่ธรรมดา จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:07:29

ความคิดเห็นที่ 40 การเกิดได้เองของ DNA RNA และ protein ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่........... จากคุณ : recombination เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:37:07

ความคิดเห็นที่ 41 ลงชื่อเฝ้าระวัง ID ครับ จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 13:58:21

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นภาคต่อ ที่สร้างหลังจากภาคแรกเป็นปี ๆ อย่างกับภาพยนตร์เลยทีเดียวนะครับ การเรียบเรียงยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเคย แต่ผมล่ะกลัวจริง ๆ ... เดี๋ยวคงมี Creationist มาทำให้กระทู้นี้กลายเป็นดราม่าอีกแหง จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 15:12:52

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบภาพประกอบครับ ตั้งแต่หัวกระทู้เลย เข้ามาเจิมก่อนครับแล้วค่อยอ่านคราวหน้า ^^ จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 16:38:53

ความคิดเห็นที่ 44 มาลงชื่อกระทู้คุณ คลิปตอน... จากคุณ : DJ-kornkyoko เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:01:37

ความคิดเห็นที่ 45 มีภาพหัวกระทู้แบบใหญ่ๆมั้ยครับ อยากได้จังเลย ^ ^ เข้ามาฮา #18 ด้วย จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:43:45

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามากรี๊ดคุณขลิปตุ้ม หายไปไหนมาตั้งนาน สุดท้ายแล้ว ทั้งหมดที่กล่าวมายังคงเป็นทฤษฎีอยู่ ความจริงอาจจะพิศดารกว่านี้มากมายก็เป็นได้ ใช่หรือไม่ คงต้องรอให้มนุษย์ สามารถสร้างเซลล์จากสารอนินทรีย์ ได้ก่อน ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจ (การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ หลายครั้งเกิดโดยบังเอิญนิ) จากคุณ : qooqung เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:14:14

ความคิดเห็นที่ 47 เหมือน คห. 45 ครับ อยากได้รูปหัวกระทู้อันใหญ่ๆ น่าจะสวยดี หาจากไหนได้บ้างครับ จากคุณ : แก้วตะวัน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 20:39:27

ความคิดเห็นที่ 48 #45, 47 http://www.sticks-and-stones-magazine.co.uk/blog/index.php/evolution-on-your-wall/ จากคุณ : Cryptomnesia เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:06:40

ความคิดเห็นที่ 49 หืม  หายไปนาน (ล่าสุดก็เรื่อง Free Will กลางปีที่แล้วโน่นมั้ง) ยังไงก็ขอบคุณครับ จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:06:58

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากครับคุณ Cryptomnesia เป็น flash ซะงั้น อดเก็บภาพใหญ่เลย = =" จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:46:47

ความคิดเห็นที่ 51 เขียนได้ดีมาก อ่านง่าย เข้าใจง่าย ไม่ได้จับชีวะตั้งแต่ ม.6 ยังอ่านได้สนุก จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 23:58:55

ความคิดเห็นที่ 52 อยากให้อาจารย์ช่วยเขียนเรื่องพวกนี้ให้คนทั่วไปอ่านเข้าใจบ้างเช่น Gradualism vs Punctuated Equilibrium Species Concepts Biology vs Physics in methology จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 01:25:15

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมาก ๆ จ๊ะ เคาะสนิม..... ขอบคุณ สำหรับภาพหัวกระทู้ภาพใหญ่ด้วย กำลังอยากได้พอดีจ๊ะ ..... จากคุณ : Ultra-Period (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 01:27:37

ความคิดเห็นที่ 54 มายืนยัน คนกำเนิดจากน้ำ จากคุณ : ลมหายใจของดอกไม้ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 01:59:48

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ได้เห็นนาน . . .กระทู้คุณภาพเช่นเคยครับ :D จากคุณ : รักสาว มธ. (NoahComeBack) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 08:59:05

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้ดีคุณภาพ เติมเต็มความรู้ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มาดามชะนี เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 13:54:08

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณที่เขียนครับ ชอบอ่านมากๆ จากคุณ : northpole1990 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 17:39:58

ความคิดเห็นที่ 58 อาจจะเหมือนเรื่อง Tron หรือเปล่า ชีวิตเกิดขึ้นมาเอง เมื่อเจอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แบบ Enzo จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:38:30

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆมีคุณภาพเช่นเคย นะครับนะ จากคุณ : ไม้ไผ่โย่ง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 06:11:24

ความคิดเห็นที่ 60 อะไรก็ไม่รู้ เย็นๆค่อยกลับมาอ่าน ทำไมบางคนเรียก จขกท.ว่าอาจารณ์ขลิบตุ้ม??? จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 12:47:33

ความคิดเห็นที่ 61 ชื่อเล่น ขลิบตุ้ม ชื่อเต็ม ขลิบตุ้มนี้เสีย จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 13:02:31

ความคิดเห็นที่ 62 Vote สาระๆ จากคุณ : -ที่นี้คือที่ไหน- เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 15:37:00

ความคิดเห็นที่ 63 มาลงชื่อชื่นชมกระทู้ดี มีคุณภาพ อีกแล้วครับทั่น จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 19:11:39

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ Cryptomnesia ครับ จาก คห. 5 เขาบอกหรือเปล่าว่าทำไม โมเลกุลที่มัน "wrong" จะถูกทำลายโดย UV แล้ว Nucleotide ทำไมไม่ถูกทำลาย มันเสถียรกว่า? แล้วทำไมถึงเหลือแต่ nucleotide ทั้งที่น่าจะเกิดโมเลกุลแปลกๆแบบอื่นๆที่อาจจะเสถียรพอๆกันหรือมากกว่าก็ได้ หรือเป็นความบังเอิญโดยแท้ที่เหลือแต่ nucleotide ถ้ามันบังเอิญเหลือโมเลกุลอื่น สิ่งมีชีวิตก็อาจจะเป็นแบบอื่นไปแล้วก็ได้เนอะ ขอบคุณที่เอามาเล่าสู่กันฟังครับ น่าสนใจแฮะเรื่องนี้ จากคุณ : alan the lamb เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 19:11:59

ความคิดเห็นที่ 65 #64 ผมเดาว่า โครงสร้างของโมเลกุลที่ "wrong" นั้นอาจเป็นโครงสร้างที่ sensitive กับ UV มากครับ มันเลยถูกทำลายไป เหมือนกับเป็น natural selection ครับ แบบว่ามันก็เกิดของมันเยอะแยะไปหมด แต่บางตัวดันถูกทำลายโดย UV ส่วน discuss นี่จะถูกหรือไม่ก็คงต้องหาดูว่ามีโมเลกุลอะไรมั๊ยที่มัน sensitive กับ UV มากกว่า molecule อื่นๆ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 21:20:18

ความคิดเห็นที่ 66 นอกเรื่อง... มีนิยายอยู่เรื่องนึงใช้พล๊อตเรื่องกำเนิดสิ่งมีชีวิตเป็นตัวดำเนินเรื่อง เป็นเบสท์เซลเลอร์ทั่วโลกอยู่พักนึงด้วย ผู้เขียนเป็นคนญี่ปุ่น เนื้อหาเป็นนิยายแบบ suspense/thriller นะ นึกออกไหม? จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 22:11:12

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับความรู้ดีๆ :) พี่จขกท. เขียนอ่านง่ายดีค่ะ ชอบบ <3 ป.ล.อ่านมากๆ มึนค่ะ เอ๋อกิน เลยทีเดียว 55 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 54 23:31:02 จากคุณ : softii-z เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 22:43:32

ความคิดเห็นที่ 68 เดี๋ยวมาอ่านอีกที จากคุณ : ตอนฉันป.5 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 11:22:29

ความคิดเห็นที่ 69 ซ้ำ... แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 54 18:50:01 จากคุณ : น่านฟ้า พี่สาวน่านน้ำ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 18:47:54

ความคิดเห็นที่ 70 นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณคริปอีกซะแล้ว เห็นหัวข้อรีบเข้ามาเลยค่ะ เพราะรู้ว่าเป็นคุณคริปแน่ ๆ บทความของคุณคริปขอปริ้นท์ไปอ่านที่โรงเรียนนะคะ ขอบคุณสำหรับบทความวิชาการดี ๆค่ะ คห.60 ตอนที่มีรางวัลหว้ากออวาร์ดปีไหนไม่รู้ ที่ท่านประธานบริษัทเป็นพิธีกร แล้วท่านประธานฯเรียกอาจารย์ Cryptomnesia ว่า ขลิปตุ้นนี้เสียน่ะค่ะ (ถอดคำ) แต่ไม่ทราบว่ามีมาก่อนหน้านี้รึเปล่านะ จากคุณ : น่านฟ้า พี่สาวน่านน้ำ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 18:49:39

ความคิดเห็นที่ 71 กระทู้นี้ดีมากเลย แต่ตาปิดไปตั้งกะความเห็นต้นๆ -*-รู้สึกสมองถูกทำร้าย จากคุณ : อยากรู้ว่าเธอคือใคร เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 00:47:47

ความคิดเห็นที่ 72 ลงชื่อด้วยคนจ้า จากคุณ : sAilOvEnOk เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 14:31:23

ความคิดเห็นที่ 73 ถ้าบอกว่าสิ่งมีชีวิตมาจากนอกโลก ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า อุกาบาตที่ตกเข้ามาในโลกแล้วมีร่องรอยของสิ่งมีชีวิต หรือ ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลกนั้น ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากโลก เพราะโลกก็โดนอุกาบาตอยู่เสมอ มันก็อาจเป็นไปได้ที่เศษจากการชนที่หลุดจากแรงโน้มถ่วงไป โคจรกลับเข้ามายังโลก ณ เวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต แต่นั่นก็ไม่ได้ตอบคำถามที่ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดแรกนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรอยู่ดี ถ้าบอกว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นเองบนโลก ตอนนี้ก็คงติดที่ว่า ตัวที่ทำสำเนาอาร์เอ็นเอนั้น เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้หรือไม่ หรือสามารถพัฒนามาจากอะไรได้หรือไม่ เรื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเกิดขึ้นเองธรรมชาติได้หรือไม่ ถ้ามีวัตถุดิบ เช่นสายไฟ ไฟฟ้า สวิทช์ เอาไปให้คนหลายๆคนทำ เราอาจจะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆแบบ ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าเอาให้ลิงทำ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหารย์ถ้าทำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ได้ ทีนี้ถ้าให้เวลาเยอะๆ ลิงมีพัฒนาการ สภาพแวดล้อมที่ทำให้ลิงหมกมุ่น การป้อนกลับที่ดี ลิงก็อาจจะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาได้ก็ได้ อย่าลืมว่าคนก็ใช้เวลาซักพักหนึ่งตั้งแต่รู้จักไฟฟ้ากว่าจะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ธรรมชาติก็มีเวลาหลายพันล้านปีเช่นกัน ในสภาวะที่เพียบพร้อมไปด้วยวัตถุดิบ ส่วนไวรัสจัดเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับว่าเรานิยามคำว่าสิ่งมีชีวิตไว้อย่างไร ถ้าบอกว่าต้องสืบพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง แล้วทำไมพืชดอกต้องอาศัยแมลงหรือลม ทำไมไม่บอกว่าต้องเป็นสภาวะที่เหมาะสมกับการเจริญพันธุ์ ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามสภาวะแวดล้อมของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ จากคุณ : S(2) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 17:26:28 A:192.168.1.116 X:223.204.8.53 TicketID:002670

ความคิดเห็นที่ 74 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 05:09:31