--การมองเห็นนั้นเป็นกลไกที่ซับซ้อน ไม่ใช่เพียงแค่มีอวัยวะอะไรที่รับคลื่นได้แล้วจะทำให้เห็นเป็นภาพได้
--การรับรู้แสงสีได้ เพราะมี cone cell ในดวงตา
cone cell มีสามชนิด ที่มีเม็ดสีต่างกันสามสีคอยดูดกลืนแสง
จึงทำให้เราแยกแยะสีสันของวัตถุได้ และมองเห็นแม่สีจำนวนสามสี
--การรับความเข้มแสงก็เป็นหน้าที่ของ rod cell ซึ่งเป็นเซลล์รับแสงอีกกลุ่มที่อยู่ในดวงตา
--ที่เราเห็นภาพได้ชัดเจน อ่านหนังสือเป็นตัวๆ ได้
ก็เพราะมีเลนส์ตารวมแสงไปโฟกัสลงที่จอประสาทตาพอดี ไม่งั้นเราก็จะเห็นแค่มืดกับสว่างเท่านั้น ไม่เห็นเป็นภาพ
แล้วไหนยังจะมีส่วนอื่นๆ เช่นกล้ามเนื้อ ม่านตา และต้องทำงานร่วมกับสมองอีก
--จะเห็นได้ว่าการมองเห็นทางดวงตา เป็นกลไกที่ประกอบด้วยอวัยวะอันซับซ้อน
ซึ่งไม่มีอวัยวะอื่นใดนอกจากดวงตาที่มีกลไกดังกล่าว
--แม้แต่การมองเห็นด้วยดวงตายังอาจมีข้อบกพร่อง เช่นสายตาสั้น สายตายาว ตาบอดสี
แล้วนับประสาอะไรกับการมองที่อ้างว่าไม่ใช้ดวงตา
ใช้แค่สมองส่วนกลางและประสาทสัมผัสอื่นๆ แทน
ไม่มีกลไกใดๆ ที่จะแยกแยะสี รับความสว่าง หรือรวมแสงให้เป็นภาพเลย
แต่กลับอ้างว่ามองเห็นตัวอักษร หรือสีสันต่างๆ ได้ชัดเจน
--และการเด็กมีแนวโน้มพยายามจะขยับใบหน้า เงยหน้า หรือเอามือจับผ้าปิดตา
จะอธิบายเป็นอื่นไปได้อย่างไร? นอกจากจะบอกว่าเด็กพยายามแอบมองจริงๆ
ผู้ปกครองไม่เห็นด้วยกับผมตรงไหน หรือไม่เข้าใจตรงไหน คิดว่ามีวิธีอธิบายแบบอื่นได้อีกไหมครับ?