ความคิดเห็นที่ 1 มันคงต้องมีค่าบวกลบ ล่ะครับแต่คงไม่ถึงขั้นขนาดที่วาด ไม่อย่างนั้นรถไฟฟ้าคงเกิดอุบัติเหตุ  ว่าแต่ โยดานี่ เป็นวิศวะกรด้วยเหรอ จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 02:24:41

ความคิดเห็นที่ 2 โยธาครับ พิมพ์ผิด - -* จากคุณ : pathara เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 02:42:55

ความคิดเห็นที่ 3 มันไม่มีทางพอดีหนิ... เค้าจะมีเหล็กไว้ทำรอยต่อ แต่อย่าลืมว่า ยางมะตอยเป็นของเหลวนะ (แค่หนืดมากๆ) ทำให้มันสามารถไหลไปมาได้ อีกอย่างต้องมีรอยต่อ (เหมือนพื้นถนนที่ต้องเซาะร่อง) เพราะว่ามันจะมีการขยายและหดตัว จากความร้อน .. ตอนกลางวัน คอนกรีตและเห็นจะขยาย ตอนกลางคืนจะหา จะว่าไปเหล็กรางรถไฟก็จะต้องไม่ต่อกับพอดี... หมุดที่ยึดก็ต้อง ผ่อนให้เหล็กรางรถไฟสามารถขยายและหดตัวได้... ที่เค้าเอา เกอเด้อ(เรียกถูกป่าวอะ) ไปวางบนเสาเค้าก็ต้องมีแผ่นยางวางรอง เพื่อหลายๆประโยชน์ ... จริงๆ มันเป็นแค่ท่อกลวงๆ ที่้อยสลิงเท่านั้นแหละ จากคุณ : ฟหด เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 03:16:21 A:124.120.227.104 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ อย่างถนน เทพๆ อย่าง autoban เห็นว่ามีการคำหนดระยะพวกนี้ไว้นะ ... มันทำให้วิ่งความเร็วสูงๆ ได้ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 03:17:09 A:124.120.227.104 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 5 ....        อื่มม์.....โยดา คงต้องขอ กว.โยดา กับ สมาชิกสภาเจได                                                                                       ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 03:21:02

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาสงสัย เรื่องเหล็กรางรถไฟ เรียนมาตั้งแต่เด็ก ครูบอกว่า รางรถไฟ จะไม่ต่อกันสนิท เพราะว่าเวลาแดดร้อน เหล็กจะขยายตัว เวลารถไฟวิ่ง ก็จะได้ยินเสียงล้อกระทบกับ รอยต่อของราง เสียงดัง ฉึกฉัก ฉึกฉัก ไปตลอด แต่พอได้มาอยู่เมืองนอกเมืองนา ก็ให้แปลกใจ รางรถไฟเมืองนอก ไม่เห็นต้องมีการเว้นรอยต่อ   เขาจะเชื่อมเหล็กรางแบบสนิทเป็นเส้นเดียวกันเลย รถไฟวิ่ง จะไม่มีเสียง ดังฉึกฉัก ฉึกฉัก เหมือนรถไฟบ้านเรา วิ่งแบบนิ่ม ๆ ร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย สภาพภูมิอากาศของยุโรป ก็โหดร้ายกว่าบ้านเราซะอีก ตอนหนาวเย็น ก็ติดลบ หลายองศา ตอนร้อนจัด ก็ ขึ้นสามสิบกว่าเหมือนบ้านเรา สลับร้อน สลับหนาวกันแบบนี้ ไปตลอดปี เลยสงสัยว่า มันเป็นอย่างไรกันแน่ รางรถไฟ กับ ความร้อน ของแสงแดด จากคุณ : นายบราวน์ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 03:59:23

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นคำว่า โยดา แล้วนึกวา่เล่นมุข จากคุณ : 1812Overtureyoot เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 05:01:09

ความคิดเห็นที่ 8 กรณีรถไฟสายที่สร้างใหม่ คือกำลังสร้างอยู่ ก็ใช้วิธีเชื่อมรางครับ ไม่ได้เว้นรอยต่ออะไรกันแล้ว น่าจะอ่านไฟนอลรีพอร์ตแผนการสร้างกันนะครับ http://www.otp.go.th/th/index.php/project.html จากคุณ : เจ้่าชายกบ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 05:32:37

ความคิดเห็นที่ 9 #5 พอมีประสบการณ์ ก็ต้องสอบเลื่อนเป็น สย.โยดา จัดสอบโดย สภา สอบผ่านจะถูกเรียกว่า มาสเตอร์โยดา จากคุณ : ไฟล์ท B ทีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 06:59:27

ความคิดเห็นที่ 10 เวลาวางบล๊อกทางด่วนเสร็จ ผิวหน้านั้นไม่ใช่ผิวหน้าสำหรับจราจรครับ เราต้องมาเททับหน้าด้วยยางมะตอยคลุกกรวดอีก ตัวนี้หละที่ช่วนชดเชยส่วนที่ไม่ได้ระดับกัน เพราะต้องเทหนาอย่างน้อยก็ 5 เซนต์ ค่าที่รับได้ก้ไม่น่าจะเกิน 3 เซนต์ ในงานก่อสร้างอาคาร ก็ยังมีปูนฉาบ กับยิปซั่ม ไว้ปิดบัง เอ๊ย เก็บงาน อิอิ จากคุณ : บ่าวจ่อย เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 08:25:18

ความคิดเห็นที่ 11 1. มีครับ 2. เขาแก้ไข โดยใช้ plate รองหัวเสาตอม่อครับ 3. ปกติ ต้องใช้กล้องระดับ กำหนด การตั้งเสา หรือเทเสาครับ ก่อนเทเสา ต้อง ส่องกล้องให้ระดับ เมื่อเทเสร็จ ใน  5 นาทีแรก ต้องตั้งกล้องส่องระดับเพื่อ double check อีกครั้งครับ ถ้าระดับเปลี่ยนให้ปรับการเทให้ถูกต้องครับ ช่างไทย กำมะลอ มักจะไม่ double check ครับ สุดท้าย ต้องมาจ่ายเงินค่า plate อีก 4. ถ้าเป็นเสาสำเร็จ จะต้อง ส่องกล้อง ให้ระดับ ตั้งแต่ฐานรากครับ หัวตอม่อ และให้ระดับอ้างอิงไว้ครับ การผิดพลาด ให้เป็นหน่วยมิลลิเมตรครับ งานดีๆ ให้เพียง 1 - 2 มิลเท่านั้นครับ เกินกว่านั้น แก้ไข ได้ แต่ต้องจ่าย แพงขึ้นครับ ถ้าเกิน กว่า 5 มิล บางงานอาจถูก reject ครับ ต้องดูสัญญา ที่ ผรม ทำกับ ผู้ว่าจ้างครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:09:28

ความคิดเห็นที่ 12 ตาม คห11 ครับ ถ้าดูจากสารคดีการสร้าง mega ทั้งหลายก็จะรู้เลยว่า มีการคำนวณวัดก่อนจะก่อสร้างละเอียดแค่ไหน ความผิดพลาด ก็ขึ้นอยู่กับการส่องกล้องนี่แหละ ถ้าเรียนโยธาจริงๆ ก็คงรู้ (ถ้าตอนเรียนไม่เอากล้องไปส่องสาวๆ เล่น) ความผิดพลาดขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ปัจจุบัน ถ้าทันสมัยหน่อย ก็จะเปลี่ยนมาใช้แสงเลเซอร์ช่วยกันแล้ว อย่างการก่อสร้างอุโมงค์ใต้น้ำผ่านช่องแคบอังกฤษ เชื่อม อังกฤษกับฝรั่งเศส มุด ขึ้นลงไปตามชั้นหินปูน จุดบรรจบตรงกลางมีความคลาดเคลื่อนแค่ 1 นิ้วเองนะครับ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:23:44

ความคิดเห็นที่ 13 ที่เขาเชื่อมรางอ่ะครับ จะมีการ กำหนดระยะ ของมันครับ จากนั้นก็จะเป็นแบบนี้  ตรงข้อต่อรางครับ เพื่อให้รางมีการ หดขยายและลดแรงตึงกันรางขาดครับ จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:51:28

ความคิดเห็นที่ 14 กำลืมรูปครับขอโทด จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:51:48

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท เป็นเกย์ครับ จากคุณ : skycreeper เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 10:19:53

ความคิดเห็นที่ 16 #5 , #9 จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 10:39:29

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแต่หัวข้อแล้วทำไมผมอยากตอบว่า ใช้ force ดึงถ้ามันไม่เสมอ = = จากคุณ : Thadias เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 11:22:52

ความคิดเห็นที่ 18 #6 บริเวณที่เป็นรอยต่อไม่สนิท มันเป็น expansion joint ครับ อย่างไรเสียก็ต้องมี ส่วนไอ้ที่เป็น รอยเชื่อมนั้นเกิดมาจาก รางแต่ละท่อนมันสั้นกว่า ระยะกำหนดของ expansion joint เป็นเหตุผลในเรื่องของการขนส่งรางครับ จากคุณ : KuMiNi เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 12:02:26

ความคิดเห็นที่ 19 เดี๋ยวดึกๆ จะเอา รูปจริงมาให้ดูครับ เพิ่งถ่ายมาตอนเที่ยงนี่เอง ยังไม่ได้ล้างฟิล์มครับ (ฮา) จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 12:42:46

ความคิดเห็นที่ 20 ระยะผิดพลาดไม่เกิน 10 มม. ยังพอรับได้แล้วแต่ว่าเป็นโครงสร้างอะไร ตอนผมอยู่บ.รับเหมาสร้างทางด่วน ผิดไป 4 - 5 มม. ก็ยังไม่เป็นไร จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 12:46:22

ความคิดเห็นที่ 21 ดูรูปครับ ตัวซ้าย นั้น ถูกเทปูนรองไว้ครับ เพราะ ระดับ เตี้ยไปนิดหนึ่ง ประมาณ 1 นิ้วครับ ภาพไม่ชัดนัก เพราะถ่ายด้วยมือถือครับ การเทปูนรองนี้ ต้องเป็น CEMENT  แบบ NON-SHRINK GROUT นะครับ คือเทลงไปแล้ว ไม่หดตัวครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:04:12

ความคิดเห็นที่ 22 อีกด้านหนึ่ง เป็น ลูกกลิ้งครับ ใต้ลูกกลิ้ง เป็น plate ใต้ plate นั้น เตี้ยไปอีก ร่วมๆ 10 ซม. ครับ ต้องเทปูน รองขึ้นมาครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:06:34 จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:05:32

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพด้านข้างสะพานครับ คานโตมากครับ สูง เมตรกว่าๆ ครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:10:27

ความคิดเห็นที่ 24 ปลายอีกด้านของสะพานครับ คานยาว สิบกว่าเมตรครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:13:18

ความคิดเห็นที่ 25 ชี้ไปที่#22 เรียนโยธามาเพิ่งเคยเห็น real roller support แล้วมันยึดกับอะไรมั้ยครับลูกกลิ้งนั่นหนะ ขอบคุณครับ จากคุณ : abc เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 22:15:41 A:183.89.235.221 X: TicketID:297585

ความคิดเห็นที่ 26 # 22 roller ตัวนี้ ไม่ยึดกะอะไรเลยครับ เขาเอามาวางนอนไว้อย่างนั้น กว่า 10 ปีแล้วครับ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 - 6 นิ้ว ตัวบน เป็น plate ธรรมดา ตัวล่าง เป็น plate ที่มีขอบสูงขึ้นประมาณ 2 ซม. ครับ กันไม่ให้ roller กลิ้งออกไปนอก plate ครับ อันที่จริง เวลาร้อนๆ คานมันยืดออกไปนิดเดียว ทำให้ต้องใส่ roller ไว้ครับ เอาไว้วันหลัง ผมจะถ่ายภาพ สะพานเหล็ก ที่เป็นสะพานรถไฟ มาให้ดูครับ อยู่ห่างกัน 5 - 600 เมตรเอง น่าจะมี roller แบบเดียวกันครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:24:02

ความคิดเห็นที่ 27 จะตามไปดูครับ ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : abc เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:37:03 A:183.89.235.221 X: TicketID:297585

ความคิดเห็นที่ 28 ในฝั่งตรงข้าม roller ผมเห็นว่ามันก็แค่วางไว้บนคานเสาเฉยๆเลยใช่มั้ยครับ หรือมีการล้วงเหล็กอะไรมั้ยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : abc เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 00:43:31 A:183.89.235.221 X: TicketID:297585

ความคิดเห็นที่ 29 ...         ท่านน้าพร กระทู้นี้เยี่ยมจริงๆ                                                ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 04:26:50

ความคิดเห็นที่ 30 # 28 ครับ  คานไว้วางเฉยๆ ครับ คานโต มาก หน้าตัดน่าจะ 80 ซม. มั้ง หนัก ร่วมๆยี่สิบตันครับ แม้นอยากให้ยก คงจะหาอะไรมายกไม่ได้ หรืออยากให้เคลื่อน ก็คงยากที่จะเคลื่อนเองครับ   ยกเว้น เคลื่อนตัวแบบ ยาวขึ้น เล็กน้อย ผมไม่รู้ ว่า สปส ของคอนกรีตเป็นเท่าใด ไม้งั้นคงคำนวณ ระยะ ยืดตัวได้ไม่ยาก จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 07:43:13

ความคิดเห็นที่ 31 มาแล้วครับ สะพานเหล็กครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:03:08

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วก็ปีนขึ้นไป ดูที่ ฐานของ truss ครับ เป็นแบบนี้ครับ ด้านหนึ่ง ถูกล็อคไว้ อีกด้านหนึ่ง วางบน plate ครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:04:34

ความคิดเห็นที่ 33 ในรูป # 32 ฐานตัวใกล้ เป็น plate ตัวไกล เป็นตัวล็อค ติดกับ ตอม่อครับ ตอม่อโตมาก ฐานของมัน โตกว่า รถปิ๊คอัพครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 34 ดูใกล้ๆ อีกด้านครับ จะเห็นว่ามีรอยเปรอะ ไปหมด รอยเปรอะที่เห็นคือ จาระบีครับ พยายามดูอยู่นานว่า เขาเอาจารบีอัดลงไปได้อย่างไร ก็ไม่เห็นครับ เข้าใจ ว่า คงเป็น น้อต ตัวใด ตัวหนึ่ง ถูกถอดออกมาได้ แล้วสามารถอัดจารบี ลงไปได้ จะเห็นว่า ที่ฐาน มีรอยต่อครับ ตรงนี้ เป็น plate ครับ วางไว้เฉยๆ  พอมันร้อน มันจะขยายตัวยาวขึ้น แล้วเลื่อนออกมาจากฐาน ประมาณ 1 นิ้วครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:08:46

ความคิดเห็นที่ 35 ขา ของ truss ครับ ถูกล้อคให้อยู่ นิ่งๆ แบบนี้ครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:10:00

ความคิดเห็นที่ 36 ก่อนกลับ ก็ลงมา ที่ ฐานตัวแรก ต่อกับ คานตรงครับ แล้วเห็นร่องรอยครับ เป็น รอยกระสุนปืน สมัย สงครามโลกครั้งที่สองครับ อเมริกา ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น แล้ว เอาระเบิดมาทิ้งครับ สมัยนั้น ไม่มีระบบนำร่องครับ ทิ้งอยู่ หลายวัน คนตาย เป็นร้อยครับ แต่ไม่โดนสะพานครับ นี่ดีนะ ไม่มีวัดอยู่ใกล้ๆ ไม่งั้น คนคงลือว่า เป็นเพราะบุญหลวงพ่อแท้ๆ   รูกระสุน + สะเก็ดระเบิดโตประมาณ เท่า 2/3 ของ เหรียญห้าครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:12:58

ความคิดเห็นที่ 37 แล้ว ตรง ที่มีรอยน้ำไหล เห็นเป็นสนิมนั้น เป็น name plate ครับ นับอายุได้ 76 ปี พอดี เขียนว่า ปี 1935  ครับ ลองอ่านดูครับ เป็นเหล็กที่ทำจากญี่ปุ่นครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:14:28

ความคิดเห็นที่ 38 ที่เห็นๆ นี่ ตอม่อ ไม่ได้เตี้ยๆ นะครับ สูงประมาณ ตึก 2 ชั้นครับ ผมปีนขึ้นไป ถ่าย แล้วต้องโหนมือเดียวด้วย เพราะ ระยะ focus ไม่ได้ครับ แม้นตกมา ไม่ตายก็จริง แต่คงหยอดข้ามต้มไปหลายวันครับ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:16:47

ความคิดเห็นที่ 39 การก่อสร้างทำเหมือน จขกท บอกนั้นละคับ แต่จะมีการปรับแก้ค่าระดับตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง เพราะทุกครั้งที่มีการเทคอนกรีต ดึงลวด และเคลื่อน  Form Traveler ค่า่ระดับของSegment จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่เราทำงาน ดั้งนั้นเมื่อเทคอนกรีต ดึงลวด และเคลื่อน  Form Traveler เราต้องเก็บค่าระดับทุก Segmentแล้วนำมาปรับแก้ เวลาเก็บค่าระดับต้องเก็บเวลาที่ไกล้เคียงกัน เพราะมันจะมีผลต่อค่าระดับ เมื่อเราก่อสร้างSegment มาไกล้จะเชื่อมกันมันจะมีระยะห่างระหว่าง Segmentที่จะมาเชื่อมกันประมาณ 2-4 ม. แน่นอนค่าระดับไม่เท่ากันแน่ๆ แต่จะต่างกันไม่เกิน 2 ซม เพราะเรามีการปรับแก้ค่าระดับทุกครั้ง ซึ่งระยะห่างระหว่างSegmentที่จะมาเชื่อมกันประมาณ 2-4 ม. เราก็เลื่อน Form Traveler ประกบ แล้วเราจะยึด Segment ที่ห่างกันด้วยBeamขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันการโยกเคลื่อนที่ของSegment แล้วก็ผูกเหล็กเทคอนกรีต เวลาเทคอนกรีตเราก็จะปรับระดับที่ต่างให้พอดี จากคุณ : อุทโย (อุทโย) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 21:09:30