 |
1. ระบบนี้มีข้อดีข้อเสียอะไร อยางไร บ้างครับ - จุดประสงค์หลัก เพื่อรักษาสเถียรภาพของรถครับ เบรคหน้าไม่ทิ่ม เร่งท้ายไม่ยุบ นุ่ม หนึบ (ไม่ได้นุ่มยวบนะครับ) เหมือนนั่งเรือ :-) - เข้าโค้ง ได้ลึกกว่าปกติ เกาะถนน ทรงตัวได้ดี ถ้าได้ตัวที่เป็น Hydractive สามารถปรับช่วงล่างตามสภาพถนน และการขับขี่ได้ครับ - ช่วงล่างเก็บอาการได้ ไม่มีการเต้นเมื่อขึ้นลงตัวหนอนหรือทางขรุขระ กระโดดคอสะพานได้ครับ - ปรับระดับความสูงตามน้ำหนักบรรทุก บรรทุกเท่าไหร่ มันยกขึ้นเท่าเดิม มุมล้อช่วงล่างอยู่ระดับเดิม ส่งผลเรื่องการทรงตัวครับ - ตัวที่เบรคเป็นไฮดรอลิค แรงดันเบรคแปรผันตามน้ำหนักบรรทุกแต่ละล้อครับ เบรคแล้วรถไม่หมุน แรงดันมารอที่ปลายเท้าแล้ว รอเหยียบแป้นเบรคเพื่อเปิดวาว์วเท่านั้น - ข้อเสีย จะเป็นเรื่องราคาค่าดูแล ไม่ได้มากมายเหมือนที่ "เค้า" ว่ากันครับ เท่าที่ใช้มากับเรื่องช่วงล่างไม่ใช่สิ่งที่ต้องดูแลบ่อยเลยครับ 2. ระบบนี้มีการพัฒนามาจนถึงปัจจุบันรึเปล่า - รุ่นใหม่ๆ ที่เป็น C5, C6 ยังใช้อยู่ครับ แต่จะไม่ได้ใช้เต็มระบบเหมือนรุ่นเก่าๆ ที่เป็นทั้งพวงมาลัย และระบบเบรค ด้วยครับ คิดว่าเนื่องจากลดต้นทุนครับ - รุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 95 ขึ้นมา จะมี Anti sink กันยุบครับ จอดแล้วไม่ยุบ สตาร์ตแล้วรอแป็บเดียว ไม่ต้องรอยกนานเหมือนตัวเดิมครับ 3. รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้มีที่ที่ใช้ระบบนี้อยู่ไหมครับ - Citroen C5, C6 มีใช้ช่วงล่างแบบนี้อยู่ครับ ตอนนี้น่าจะเป็น Hydractive 3+ จะไปเน้นเรื่องการควบคุมช่วงล่างด้วยคอมพิวเตอร์ ปรับสูงต่ำได้ตามสถาวะถนน และการขับขี่ครับ - ยี่ห้ออื่น ที่ใช้ เท่าที่ทราบมี BMW series 7 ตัวใหนไม่ทราบ ใช้ล้อคู่หลัง, Benz S class LWB ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูตามนี้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Hydropneumatic_suspension คลิปด้านล่าง ทดสอบ Citroen C6 ครับ ท้ายๆ จะมีเปรียบเทียบกับ BMW series 5 ครับ
จากคุณ |
:
Pearl (Pearl)
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 54 00:50:32
|
|
|
|
 |