ความคิดเห็นที่ 1 เกี่ยวกับการหาเงินด้วยน่ะครับ โดยเฉพาะคนเก่งๆไปเรียนอะไรอย่างนั้นก็ต้องทำงานเมืองนอก เพราะมาเมืองไทยก็ไม่มีอะไรทำ หลานผมทำคอมพิวเตอร์ตอนนี้เงินเดือนหลายแสนอยู่เมืองนอก แต่ดูงานเมืองไทยไม่มีใครจ่ายเงินเดือนให้ครับ จากคุณ : google>รับวิทย์เคมี เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:15:52 A:115.87.234.37 X: TicketID:065895

ความคิดเห็นที่ 2 มันแล้วแต่คนจะชอบเรียนอะไรด้วย เพราะมันหมายถึงอาชีพ และอนาคตในวันข้างหน้าของน้องเขาด้วย อย่าไปชี้นิ้วสั่งการอนาคตเขาเลย จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:16:11

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับจขกท.นะ คือไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์หรอก อาชีพอะไรก็ได้ที่มีเกียรติและเงินดี ซึ่งตอนนี้ประเทศเราก็ไม่พ้น "แพทย์" ถ้าไปสายพัฒนาวิจัยอะไรนี่ คงไส้แห้งนะประเทศไทย (วิศวะซึ่งเมื่อก่อนเคยตีคู่มากับแพทย์ ตอนนี้ก็ซบๆ ไป ชักจะล้นตลาด) สรุปว่า เงินเป็นปัจจัยอันดับหนึ่ง อย่างอื่นเรื่องเล็ก จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:27:47

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็เด็ก ม.6 คนนึงอ่ะ มายืนยันว่า ค่านิยมที่ว่าเด็กที่เก่งต้องเรียนแพทย์ ฝังลึกในหัวสมองผู้ปกครองและครูของเด็กๆสมัยๆมากๆ ที่ร.ร.ผม ยืนยันว่า ครูเกิน80% ใช้จำนวนเด็กที่สอบติดคณะแพทย์/ทันตะ/เภสัช เป็นตัวตัดสินว่า เด็กม.6 ในรุ่นนั้นๆเรียนเก่งแค่ไหน ซึ่ง มันเป็นที่น่าหดหู่มากทีเดียวสำหรับเด็กที่จะเรียนสายอื่นๆตามที่ตัวเองต้องการอ่ะครับ และ คณะยอดฮิตของเด็กผู้ชายสายวิทย์ ก็แน่นอนว่า วิศวะมาวินทุกปี - -" ปล. ส่วนตัวตอนนี้กำลังจะชึ้นปี1 วิทย์-จุลชีวะ ^^" ถือคติที่ว่า เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้เงินน้อยกว่า แต่ก็มีความสุขกว่าได้เงินเยอะแต่ต้องทนทำสิ่งที่ไม่ชอบ ไปตลอดชีวิต จากคุณ : moonlightspirit เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:28:54

ความคิดเห็นที่ 5 วิศวะรวยกว่าหมอนะ แถมทำงานน้อยกว่าอีก จากคุณ : 1111 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:36:47 A:192.168.1.105 X:58.8.201.40 TicketID:307904

ความคิดเห็นที่ 6 คห.5 รวยกว่าจริง งานน้อยกว่าจริง แต่งานหายากกว่าชัวร์ครับ - -" ยิ่งก่อนหน้านี้แห่กันไปเรียนซะขนาดนั้น จากคุณ : moonlightspirit เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 19:59:23

ความคิดเห็นที่ 7 #2 ผมเห็นด้วยครับที่ไม่ควรจะมีใครชี้นิ้วสั่ง และในกรณีนี้ีที่ผมอยากจะบอกคือเหมือนน้องเค้า(และเด็กคนอื่นๆอีกมากมาย)ถูกสังคม และค่านิยมชี้นิ้วสั่งอยู่ไงครับ ปล.ถ้าน้องเค้าอยากเรียนหมอจริงๆผมก็ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : เคยรู้อะไรกะเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:00:40

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้ไม่เกี่ยวกับการศึกษาไทยซะหน่อย เกี่ยวกับค่านิยมของชนเผ่าพื้นเมืองมากกว่า จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:01:27

ความคิดเห็นที่ 9 ก็รากมันฝังลงไปลึกแล้วนี่ครับ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:19:15

ความคิดเห็นที่ 10 มุมมองส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องแพทย์สินะ.. แต่ถ้าจะให้ดีน่าจะถามน้องเค้าว่าอยากเรียนไร จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:27:32

ความคิดเห็นที่ 11 วิศวะ หางานง่ายนะผมว่า เพิ่งผ่านช่วงหางานมาไม่นาน เลือกทำได้เลย แต่...ดูแล้ว คงไม่รวยซักที่ พออยู่ได้ อยากรวย หมอรวยกว่าเยอะ(โดยเฉลี่ย สำหรับเด็กจบใหม่เริ่มทำงาน) จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:36:06

ความคิดเห็นที่ 12 ค่านิยมติดมาจากยุคเก่า - เรียนแพทย์ จบแล้วไม่ต้องหางานทำ บรรจุเลย - นอกเวลา เปิดคลีนิก มีรายได้เพิ่ม - เป็นอาชีพที่ช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละ น่านับถือ จากคุณ : หม่องวิน มอไซ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:38:26

ความคิดเห็นที่ 13 เรียนแพทย์แหละดีแล้ว อย่างน้อยจบออกมา ก็คงทำอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์ ส่งไปเรียน MIT นอกจากจะให้ฝรั่งมันใช้งาน เผลอ ๆ อาจไปอยู่เมืองนอกเลย จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:45:18

ความคิดเห็นที่ 14 ในยุคที่ผมยังใช้ระบบentranceเดิม ผมบอกได้เลยว่าอนาคตของเด็กหัวกะทิ ในประเทศ มีทางเลือกแค่2ทางแพทย์กับวิศวกร ไม่ได้เกี่ยวกับใจรัก เมตตากรุณาอยากเป็นคนดีอะไรหรอก และไม่ได้อยากเสียสละให้ใครด้วย ใครไม่ชอบผ่าศพกลัวผีไปเป็นวิศวกร ใครไม่กลัวผี เป็นผู้หญิงไปเป็นแพทย์ ปล.ผู้หญิงเรียนวิศวะไม่รุ่ง สัดส่วนแพทย์ที่เป็นผู้หญิง และเพศที่3มากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าจะ80%แล้วมั่งเดี๋ยวนี้ จากคุณ : Megrim เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:47:14

ความคิดเห็นที่ 15 ถามแล้วตอบยากเลย  ก็แล้วแต่เขา  อยากเรียนอะไรก็เรียนๆ ไปเถอะ เห็นพวกเก่งๆ ไปทำงานนาซาบ้าง เมกาบ้าง  สุดท้ายกลับมาบอกศาสนาพุทธเจ๋งสุดทุกที จากคุณ : DangDame เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 20:50:35

ความคิดเห็นที่ 16 ค่านิยมครับเป็นสิ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก จนบ่อยครั้งเด็กมักจะเสียใจภายหลังเพราะไม่เคยได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบจริงๆ จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 21:10:11

ความคิดเห็นที่ 17 อนาคตมันไม่แน่หรอกครับ ผมคนนึงล่ะที่จบปริญญามาแล้วทำงานไม่ตรงสาย แถมยังใช้วุฒิ ม.6 สมัครอีก อยู่มันไปอย่างนี้แหละ เกิดอะไรขึ้นมา หลวงก็ยังรับเลี้ยง.....555+ จากคุณ : อะไรเฟี๊ยว เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 21:17:24

ความคิดเห็นที่ 18 ก็เพราะเลือกแต่ความเก่งเท่านั้นจึงเรียนแพทย์  นิสัยเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน  ยกตนข่มท่าน  และนิสัยไม่ดีอื่นๆอีกมากมาย  จึงมีให้พบกับแพทย์ไทยหลายต่อหลายรายค่ะ จากคุณ : usbankusa (แอมเปิ้ล) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 21:20:06

ความคิดเห็นที่ 19 กรณีนี้ไม่อยากคิดแทนคนอื่นเท่าไหร่ ถ้าเขาอยากเรียน แล้วมีปัญญาเรียนได้ ก็ให้เขาเรียนไปสิ ไปหาว่าสังคมชี้นิ้วสั่งให้น้องเขาเรียนแพทย์ แล้วตัวเองก็บ่นอยากชี้นิ้วสั่งน้องให้ไปเรียน MIT มันยังไงชอบกลนะผมว่า แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 22:07:39 จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:03:22

ความคิดเห็นที่ 20 ให้กำลังใจสำหรับคนที่เรียนโรงเรียนไม่ดัง แต่ก็จบมาสร้างความพัฒนาให้แก่ประเทศได้เยอะแยะครับ... จากคุณ : อุ่นหนาวสาวคลั่ง (tkung13) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:20:21

ความคิดเห็นที่ 21 ไว้ พรบ.ที่หมอๆ เค้าต่อต้านออกมาก่อนเถอะครับ แล้วผ่านไปซักช่วง รับรองว่า เด็กเก่งเลือกเรียนหมอน้อยลงแน่ๆ น่าคิดว่าเพราะอะไรและแนวโน้มจะเป็นจริงมั๊ย จากคุณ : gigaboomba เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:30:35

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านจากในข่าว อ่านอีกซักครั้งสิครับ อย่าว่าแต่เข้าแพทย์จุฬาเลย มันเป็นมาตั้งแรงเรียนระดับมัธยมเลยละ โรงเรียนเล่นซื้อตัวกันแบบนี้ นี่มันบอลพรีเมียร์ลีกชัดๆ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:36:29

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่เก่งก็สอบเข้าได้ครับ ^^  ผมเองละครับ เพิ่งสอบติดปีนี้เหมือนกัน  การเรียนผมก็ธรรมดาไม่ได้ระดับหัวกะทิอะไรที่ไหน    ถ้าเป็นค่านิยมมาจากยุคเก่าก่อนก็ถูกนะครับ เพราะที่บ้านผมอากงอาม่าเขาดีใจกันที่หลานสอบติดหมอ  ไปคุยทั่วซอยเลย  หลานคนอื่นติดคณะอื่นยังไม่ดีใจเท่านี้      แต่เท่าที่คุยกับคนที่ติด และตัวผมเองก็มีความตั้งใจอยากจะเรียนแพทย์ตั้งแต่ ขึ้น ม.ปลายกันแล้ว และก็เตรียมตัวกันมาเรื่อยๆ ไม่ใช่อ่านหนังสือ  2-3 เดือนก่อนสอบ     อย่างที่ #12 บอกนั้นละครับ ผมคิดว่าเป็นการชีพที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละ น่านับถือ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 22:44:20 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 54 22:43:26 จากคุณ : คุณหลอกดาว เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 22:38:26

ความคิดเห็นที่ 24 ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเสียดายพรสวรรค์ คือเด็กเก่งอยู่ไทย ไม่รู้เรียนอะไรก็เรียนหมอซะ คนที่จะเป็นหมอไม่จำเป็นว่าควรจะเป็นคนเก่งครับ ควรจะเป็นคนที่มีใจรักมากกว่า (เช่น คห 23 เป็นต้น) ถ้าบ้านเราให้ความสำคัญ,ให้ค่าตอบแทน,ความยกย่องกับอาชีพอื่นมากกว่านี้ก็คงจะดีกว่านี้ครับ คือเด็กจะได้ต่อยอดในสิ่งที่ตัวเองถนัดอะครับ ไม่ต้องกังวลว่าจบมาจะกินแกลบรึปล่าว ปล.18 ผมว่าเรื่องเห็นแก่ตัวนี่ไม่เฉพาะคนเก่งนะที่เป็น ทุกคนมีหมดนะ แล้วแต่ว่าจะแสดงออกในรูปแบบไหน ปล.19 ขอโทษครับ ผมใช้คำพูดผิดไปนิดนึง   ขอแก้ว่า เช่นมีทุนส่งเรียน MIT หรือนู่นนั่นนี่ ที่เค้าถนัดอะครับ จากคุณ : เคยรู้อะไรกะเค้ามั่งมั๊ยเนี่ย เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 23:01:10

ความคิดเห็นที่ 25 เพราะแบบนี้การแพทย์ไทยถึงอยู่ในระดับที่ยอมรับกันทั่วโลกครับ จากคุณ : Phantom thief เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 23:24:06

ความคิดเห็นที่ 26 แพทย์ก็ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้... ตายมาซวย วิศวะ ก็ต้องรับผิดชอบตึกที่ตัวเองออกแบบ... ถล่มมาซวย แม่บ้าน ปัดกวาดเช็ดถู ก็ต้องรับผิดชอบความสะอาด... เจ้าของบ้านไม่พอใจ ก็ซวยเหมือนกัน แต่ละอาชีพมันก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน แต่เรามันเห่อ 2 อาชีพนี้มากกว่า... มีแล้วคุยข่มกันได้... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:01:43

ความคิดเห็นที่ 27 ชีวิต ใครชีวิต มัน ผมว่านะ เรื่องเห็นเเก่ตัว นี่ ผมถามจริงๆ ใครไม่เคยเห็นเเก่ตัวบ้าง ไม่ว่าจะระดับไหน มีเกียรติ ไม่มีเกียรติ  ฉลาด โง่ ถึงคราว มันก็มีสัญชาตญาณ การเอาตัวรอดทั้งนั้น ผมว่าเเค่ไม่มีใครเก็บมาคิดมากกว่า ตอนที่เอาเปรียบชาวบ้าน ประมาณ ว่า ความคนอื่นเท่าภูเขาความผิดเราเท่าเส้นผม จากคุณ : werty_max เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:02:51

ความคิดเห็นที่ 28 คนรู้จักผม มี ญ คนนึง เรียนเก่งมาก เป็นหมอ ขยันทำงานหนัก ไม่มีแฟน เพราะเป็นเด็ก nerd ไม่ค่อยเที่ยว ไม่มีเวลา ต้องใช้ทุน ตอนนี้ 25 แล้ว ยังไม่เคยมีแฟน พ่อแม่กลุ้มใจมาก อีกคนนึงเป็น ช เรียน art กินเหล้า เที่ยว ติด ญ เรียนกลางๆ ทำงานขำๆ ราวได้ก็ขำๆ แต่เพื่อนเยอะ ญ เยอะ เล่นกีตาร์เป็น เฮฮา สนุกสนาน บางคนก้เก่ง เกิดมาเป็นหมอ บางคนก็มนุษสัมพันดี เพื่อนเยอะ บางคนก็วาดรูปเก่ง แต่หลายๆคน จะโง่ ที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน ที่โง่ที่สุด คือให้พ่อแม่จูงจมูกไป โดนที่ไม่รู้เลยว่า เราถนัดด้านไหน จากคุณ : ~มาม่า5บาท~ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:35:55

ความคิดเห็นที่ 29 คิดว่า จขกท หมายถึง การศึกษาไทยควรเปิดแนวทางสนับสนุนให้เด็กเก่งๆ ได้ใช้ความสามารถในการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ เผื่อคนไทยจะได้รางวัลโนเบลกับเค้ามั่ง เด็กไทยเก่งๆ เยอะแยะ แล้วเค้าไปไหนหมด? ไปเรียนแพทย์ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดเพราะเงินดี (ค่านิยมสำหรับคนไทย มันคือ จุดสูงสุด มั่งคงสุด) มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเด็กคนนั้น ณ ประเทศไทย ณ ตอนนี้ แต่ถ้าการศีกษาไทยส่งเสริมทางด้านวิชาการ (ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุน หรือโอกาสอื่นๆ) เด็กคนนั้นอาจเลือกเส้นทางนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติต่อไป จากคุณ : Pammeluff เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 01:54:24

ความคิดเห็นที่ 30               เพราะว่าการศึกษา = การลงทุน และการลงทุน = ผลตอบแทน/และจุดคุ้มทุน เราจึงมีเด็กที่แห่เรียนตามๆๆกันไงครับ ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือปีๆๆนึงเรามีเด็กเก่งเยอะมาก แต่เด็กเหล่านั้นถูกระบบในการทำงานทำลายครับ น่าเศร้าจริงๆๆ                 ลองนึกดูง่ายๆๆครับ แค่เริ่มต้นสมัครงานก็ต้องดูแล้วว่ามหาลัยรัฐชื่อดังรึเปล่า นามสกุลใหญ่พอมั้ย แล้วที่เลวร้ายกว่านั่นคือ ระบบคอร์รับชั่นกับระบบเช้าชามเย็นชาม เมื่อไหรการศึกษาเราจะไม่เป็นการลงทุน เมื่อไม่ใช่การลงทุนก็ไม่ต้องคำนึงผลตอบแทนหรือจุดคุ้มทุน เมื่อไม่มี2อย่างที่ผมว่ามาเด็กก็จะมีอิสระที่เลือกเรียนได้ตามใจคิด จากคุณ : kaiyang (kfckub) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 02:22:21

ความคิดเห็นที่ 31 คุณเป็นใคร ถึงไปสั่งให้ใครเรียนหรือทำงานโน่นนี่ ถ้าคนพวกนี้จะเลิกเรียนไปขายกล้วยทอด หมูปิ้ง ก็เรื่องของเขา ชีวิตใครชีวิตมันสิ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 02:30:27

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่อยของปัจจัยในรร.ด้วยละครับ ตอนนั้นผมไปเรียนวิศวะจุฬาอยู่สั้นๆ แล้วเจอเพื่อนเก่าสมัยม.ต้นมาแบบข่มๆเพราะพี่แกเรียนแพทย์ศิริราช(ทั้งๆที่คะแนนก็มาแบบเฉียดฉิว) ตอนนั้นผมเดือดปุดๆเลยที่แบบเขามาใส่เป็นชุดเลย มีถึงแบบวิศวะจุฬาก็ไม่แย่นะจนผมต้องบอกคะแนนเอนของผมให้ฟังและก็บอกคะแนนเทียบเป็นหมอให้ฟัง พี่แกถึงกับเงียบไปเลย... มีหลายๆคนจริงๆที่เรียนแพทยเพราะหลังจากติดแล้วสละสิทธิไม่ลงเพราะมันพิสูจน์ได้ว่า"เก่ง"แล้วจะได้ไปข่มคนอื่นๆอีก จากคุณ : Haruhi Izumi เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 03:13:38

ความคิดเห็นที่ 33 โตขึ้นต้องทำงาน พ่อเเม่อยากให้ลูกมีงานดี หาได้ง่ายทำกันทั้งนั้นค่ะ อันไหนเรียนเเล้วหางานยาก คงไม่สนับสนุนให้ลูกเรียน จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 06:31:46

ความคิดเห็นที่ 34 ให้คุณไปรักษาหมอ ที่มีจริยธรรม มีใจรัก ดูแลคนไข้อย่างดี แต่โอกาส ผ่าตัด แล้ว ตาย 50%  กับหมอที่เห็นแก่เงิน สนใจแก่เงินเป็นหลัก แต่ โอกาสผ่าตัดแล้วหาย 98 % คุณมีปัญญาจ่ายได้คุณจะเลือกรักษากับหมอคนไหน แต่ละอาชีพก็มีทั้งคนดี และคนไม่ดี มีทั้งคนเก่งและคนไม่เก่ง แม่บ้านห่วยๆ ก็เป็นคนใช้ตามบ้านเงินเดือนเดือนละไม่กี่พัน แม่บ้านไฮคลาส ก็อาจจะขึ้นไป เป็นหลักแสนก็ได้ ขึ้นอยู่กับ ความสามารถและความต้องการของตลาด ส่วนเรื่องเด็กเก่ง เลือกเรียน หมอกับวิศวะ ผมมองว่าเป็นความผิดพลาด ของระบบแนะแนวมากกว่า  เพราะไม่สอนให้เด็กรู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร เด็กก็เลยเลือกหมอกับวิศวะเหมดเพราะหมอกับวิศวะเป็นฐานโอกาสครับ ว่าหางานในเงินเดือนระดับสูงได้ง่าย แต่หมอกับวิศวะ จะรวย ก็ต้อง เก่งและทำงานหนักกันทั้งนั้น ไม่มีใคร ที่นั่งๆ นอนๆ ทำงานวันละ 4 ชั่วโมงแล้วรวยได้หรอกครับ  ถ้าไม่ใช่พ่อรวย แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 08:49:56 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 54 08:49:44 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 08:49:25

ความคิดเห็นที่ 35 หมอ จะรักษาคนไข้ได้ ต้องมีเครื่องมือแพทย์ จะมีเครื่องมือแพทย์ได้ ก็ต้องมีผลิต ออกแบบ ถ้าเป็นเครื่องมือไฮเทคล่ะ ต้องมีิวิศวกร โปรแกรมเมอร์ จะผลิตออกมาได้ ต้องมีฝ่ายบริหารวางแผน จะขายได้ ก็ต้องมีฝ่ายการตลาด จะหาคนทำงานทั้งหมดนั้นได้ ก็ต้องมีฝ่ายทรัพยากรบุคคล แล้วจะทำงานได้ไง ถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดี ไม่ปลอดภัย ก็ต้องมีแม่บ้าน มีจป. แล้วทั้งหมดนั่นจะทำงานได้ต้องมีความรู้ ซึ่งก็มาจากครูอาจารย์ แล้วคนทั้งหมดนี่ล่ะ ก็กินข้าว แล้วใครปลูกข้าว เกษตรกร ทุกคนทุกอาชีพล้วนมีความสำคัญหมดครับ ใช้เงินเดือนและฐานะทางสังคมตัดสินไม่ได้หรอกครับ ว่าใครสำคัญกว่า ลองคิดดูเล่นๆว่า ระหว่างไม่มีข้าวกิน กับไม่มีหมอ อันใหนเสี่ยงต่อชีวิตมากกว่ากัน จากคุณ : dial-up เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 10:19:53

ความคิดเห็นที่ 36 มีเพื่อนจบเตรียมฯ เหรียญทองชีวะระดับชาติ ตอนนี้เรียนวิศวะ ถามมันว่าทำไมไม่เรียนหมอ มันตอบว่า "ชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอดเลย อย่าเอาชีวิตคนอื่นมาฝากกับกรู" แล้วที่เก่งจริงๆของเตรียมอุดมก็ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศในสาขาอื่นที่ไม่ใช่หมอเยอะแยะครับ จากคุณ : mumakai เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 12:21:50

ความคิดเห็นที่ 37 เหมือนกับเคยมีคนบอกว่า เด็กเล็กๆที่มีพรสวรรค์มีอยู่เยอะ แต่พอโตขึ้น สิ่งนั้นก็หายไป เหตุผลที่เปนแบบนั้น ก็ไม่รู้เพราะอะไร แต่หลายคนคงพอเดาได้ จากคุณ : แมวล้า เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 14:29:14

ความคิดเห็นที่ 38 พศินสละสิทธิ์แพทย์แน่นอนค่ะ :) เอาทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งก็คิดว่าคงไปเรียนแนวๆวิศวะค่ะ ที่เขาสนใจก็ MIT ตามที่เจ้าของกระทู้ว่าแหละค่ะ บางทีคนที่สอบหมอติด เขาก็ไม่ได้อยากเรียนหรอกค่ะ แค่เขาเทพ สอบอะไรก็ติด แถมยังบอกว่าไปสอบเล่นๆ อื้ม - -" จากคุณ : gloomie เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 16:25:58

ความคิดเห็นที่ 39 สำหรับ ประเทศด้อยพัฒนา ไม่มีอาชีพอะไรเหมาะสมเท่าอาชีพ หมอ และ ผู้ถือปืน จากคุณ : ชีวิตจะรุ่งอย่ามายุ่งกับผม เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 21:42:30

ความคิดเห็นที่ 40 คำหลายคำสะท้อนค่านิยมไทยได้เลยครับ อย่าง ฝากผีฝากไข้ หรือ เป็นเจ้าคนนายคน คราวหลังอวยพรให้ลูกหลานต้องอวยพรว่า ขอให้เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ ดีกว่าครับ 55 จากคุณ : ไผทพิเชษฐ์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 00:41:01

ความคิดเห็นที่ 41 เด็กศิลป์ภาษาอย่างเรา แอบทำตาปริบๆ มองอยู่เงียบๆ จากคุณ : LedZepp เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 13:07:02

ความคิดเห็นที่ 42 ประเทศกำลังพัฒนา ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อย่างเรา อยากไปเป็นสังคม service ทั้ง ๆ ที่ manufacturing / agriculture ยังไม่แกร่ง สู้คนอื่นไม่ได้ แต่กลับเน้น service industry เป็นหลัก เช่น นวดแผนโบราณ หมอดู หมอเดา ทำเล็บ ทำผม การเป็นหมอย่อมดีกว่าอาชีพอื่นอยู่มาก เพราะมีองค์กรวิชาชีพปกป้องอยู่ และสามารถหากินได้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ยังเข้าถึงบริการสาธารณสุขพื้นฐานไม่ได้ทั่วถ้วน โชคดีที่ตามาร์คไม่บ้าจี้ไปกับ medical hub ด้วยนะ ไม่งั้นเละแน่ ไม่ต่างจากฟิลิปปินส์ที่่ระบบสาธารณสุขล่มสลาย (สำหรับคนในประเทศ) จากคุณ : มั่นใจ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:21:18 A:118.173.97.212 X: TicketID:137537