ความคิดเห็นที่ 1 อัตราเร่งแน่นอนครับ เมื่อความเร็วต่างย่อมมีแรงกระทำ มีแรงกระทำ ก็ย่อมต้องมีอัตราเร่ง เมื่อมีอัตราเร่งเกิดจากความต่าง ความเร็วขอนไม้ จะเข้าใกล้ ความเร็วกระแสน้ำ ในทางคณิตศาตร์ถือว่า น้อยกว่าเสมอ ในทางวิศวกรรม ถือว่าเท่ากันในที่สุด จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:02:18

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าลองปล่อยขอนไม้ กับใบไม้ มันจะลอยไปเร็วเท่ากันรึป้าวครับ จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:16:30

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามีส่วนลอยพ้นน้ำ  ก็ะช้ากว่าได้ เพราะต้านกับอากาศ แต่แรงต้านนั้นจะมากที่สุดได้ก็แค่ทำให้แค่หยุดนิ่ง  ไม่สามารถเกิดแรงที่จะย้อนขึ้นมาได้  ทั้งนี้คิดเฉพาะในแนวแรงเท่านั้น  ไม่รวมกรณีที่ลอยเฉียง ซึ่งอาจมีการแตกแรงทวนกลับมาได้ จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:30:55

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เท่ากันครับ ตราบเท่าที่โลกนี้มีแรงดึงดูด การที่วัตถุจะเคลื่อนที่ได้อยู่ตลอดเวลาบนโลกนั้น จึงต้องมีแรงกระทำอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา เพราะมิเช่นนั้นจะถูกแรงดึงดูดและแรงเสียดทานทำให้มันหยุด และแรงที่กระทำต่อวัตถุเช่นขอนไม้นั้นก็ขึ้นอยู่กับความกว้างที่รับแรงกระทำนั้น เช่น ขอนไม้ที่ลอยตามยาว จะมีผิวหน้าที่ถูกกระทำโดยตรงน้อยกว่าขอนไม้ที่ลอย ตามขวาง แรงที่ผลักขอนไม้ที่ลอยตามขวางจึงมีมากกว่า ขอนไม้ที่ลอยตามยาว อีกทั้งขอนไม้ที่มีน้ำหนักมาก ก็จะถูกแรงดึงดูดกระทำมากกว่า (แรงลงด้านล่าง) ขอนไม้ที่ยิ่งหนัก จึงยิ่งเคลื่อนที่ช้า ส่วนขอนไม้เบาๆ จะเคลื่อนที่เร็วกว่า และไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน อัตราเร่งก็ไม่สามารถไปถึงจุดที่เร็วเท่ากับน้ำแบบ สมบูรณ์ได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัตถุที่มีมวลมากกว่าน้ำ) จากคุณ : Jimmy Walker เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:31:15

ความคิดเห็นที่ 5 ผมคิดว่าเท่านะ โดยไม้ลอยอยู่ในน้ำจริง ๆ (ไม่มีส่วนของไม้ลอยพ้นผิวน้ำ) น้ำที่ไหลก็ต้องมีพื้นผิวเ้รียบที่สุด (ไม่งั้นไม้จะกระทบคลื่นน้ำอีก) และไ่ม่มีวัชพืช เศษดิน เศษหญ้า กระแสน้ำต้านอื่น ๆ มากระทำ จากคุณ : เจ้าชายฤดูฝน เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:54:04

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่าไม่เท่า เพราะ Drag Force ที่เกิดจากส่วนที่พ้นน้ำเหมือนกัน จากคุณ : Marine Red เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:57:02

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าบอกว่าใกล้เคียงความเร็วเฉลี่ยของน้ำ อาจจะเป็นที่ยอมรับมากกว่า จากคุณ : ksk เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:00:36

ความคิดเห็นที่ 8 พื้นที่หน้าตัดของท่อนซุงที่ปะทะกับน้ำด้านหน้า ทำให้เกิดแรงต้าน ทำให้ท่อนซุงช้าลงกว่าแรงจากกระแสน้ำอิสระที่ไหลรอบๆ ท่อนซุงที่มีหน้าตัดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ก้อน่าจะมีแรงต้านมากกว่าท่อนที่หัวแหลมๆ ไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:07:59

ความคิดเห็นที่ 9 ทดลองง่ายๆ ลองเอา ของ 2 สิ่ง ที่ไม่เหมือนกัน ลองลอยดูว่ามันเท่าป่าว เช่น ชาม VS กาละมัง จากคุณ : GM.Ront เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:13:57 A:202.176.95.32 X: TicketID:219519

ความคิดเห็นที่ 10 .. ถ้าผิววัตถุกลมเกลี้ยง 100% น้ำไหลแบบ smooth 100% วัตถุมีขนาดเล็กมากๆๆๆๆๆๆๆๆ วัตถุลอยตามน้ำแบบไม่กลิ้งซ้ายขวา หน้าหลัง อันนี้อาจจะใกล้เคียง  แต่ก็ไม่มีทางเท่ากัน เพราะแม้แต่น้ำในลำน้ำเดียวกัน แม้แต่จุดที่อยู่ใกล้กัน  ไปทางด้านข้าง  ก็มีความเร็วน้ำไม่เท่ากัน จุดที่อยู่ใกล้ท้องน้ำ  ยังมีความเร็วเข้าใกล้ 0 จุดที่อยู่ผิวน้ำบนสุด  มีความเร็ว สูงสุด (ตามทฤษฎี) แต่จะว่าไปแล้วผมก็ยังไม่เชื่อนักว่า บนผิวน้ำจะมีความเร็วสูงสุด เคยได้ยินไหมครับ น้ำนิ่งไหลลึก ผมเคยลงไปลอยคอกลางทะเล รู้สึกได้เลยว่า แรงกระทำที่ขาแรงจนรู้สึกได้ ถึงขนาดทำให้ตัวเอียงเลยด้วยซ้ำ ไอ้ความเร็วน้ำที่ไม่เท่ากันนี่แหละคือ แรงฉุดวัตถุเอาไว้ เป็นเสมือนแรงเฉือนที่กระทำกับวัตถุ แต่ถ้าเกิดวัตถุมันเล็กมากๆๆๆๆๆๆๆ  ขนาดยิ่งกว่าจุดไข่ปลา อันนั้นมันอาจจะเร็วเท่ากระแสน้ำได้ วิธีการทดลองง่ายๆ เอาวัตถุรูปทรงเดียวกันทุกประการ จมในน้ำมิดพอดี ไม่ให้มีส่วนโผล่พ้นน้ำ ทดลองปล่อยลงพร้อมๆ กัน แล้วไปรอรับที่ระยะห่างไปกิโลนึง มันจะถึงพร้อมกันหรือเปล่า หลังจากนั้น เอาหลายๆ รูปทรง หนักต่างๆ กัน ลองปล่อยพร้อมๆ กัน ไปรอรับที่ปลายทางเหมือนเดิม บันทึกผล แค่นี้ก็รู้ผลการทดลองแล้วครับ บางทีเวลาคุยกัน อาจจะต้องระบุกันก่อนว่า "คุณกำลังสนใจเฉพาะ  ตามระดับทฤษฎี" เพราะผมอาจจะกำลังสนใจ  "ตามระดับความเป็นจริง" ซึ่งระดับของความเป็นจริงนั้น  มีเงื่อนไขอื่น มากกว่าทฤษฎี ที่อ้างอิงกับตัวแปรเพียงไม่กี่ตัว พูดถึงมือถือบนกระดาษ คุณสมภพ ลองเอาลูกแก้ววางบนกระดาษแล้วดึงดูซิครับ มันเหมือนกันมั๊ย ถ้าหาลูกแก้วลำบาก ก็ลองเอาปากกาหรือดินสอแท่งกลมๆ ทดลองแทนก็ได้ แต่วางในแนวขวางกับทิศการเคลื่อนที่ของกระดาษนะ ถ้ากระดาษมันสมดุล 100% ผมก็ไม่เถียงหรอกว่า ลูกแก้วมันจะเคลื่อนไปพร้อมกระดาษ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้น โดยเฉพาะ  ถ้าเป็นกระแสน้ำ  มันไม่มีทางที่จะมีอะไรสมบูรณ์ 100% .. แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 18:19:12 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 18:15:08 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 18:13:02 แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 18:11:27 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:29:03

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วอะไรคือ "น้ำใหลล่ะครับ" มวลส่วนใหน ขนาดเท่าไหร่ ทำอย่างไรจะรู้ ถ้าเอาใส่ภาชะ ก็ไม่ได้ เพราะมันจะไม่ใช่ใหลน้ำ เอาของเบาๆ ลอยไว้เพื่อสังเกตุการเคลื่อน ได้หรือเปล่า หรือจะเอาน้ำสีไปเทไว้ เพื่อสังเกตุ แต่ผมว่ามันก็จะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว ต้องถามว่า อะไร คือ "กระแสน้ำใหล"วัดอย่างไร จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:29:39

ความคิดเห็นที่ 12 ....เข้ามาดูและออกไปดู จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 18:01:54

ความคิดเห็นที่ 13 .. ผมจำได้แล้ว ตอนที่ลอยคออยู่กลางทะเล ถ้าปล่อยมือจากเชือกที่มัดอยู่กับตัวเรือ ในขณะที่เรือเองก็เป็นเรือหางยาว  ไม่มีการทิ้งสมอแต่อย่างใด ตัวผมจะลอยห่างจากเรือไปเรื่อยๆ ตอนที่จะว่ายกลับมาหาเรือเนี่ย  แทบตาย .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 18:30:36

ความคิดเห็นที่ 14 มันเหมือนกับ รถบรรทุกน้ำหรือป่าวครับ สมมุติ รถ10ล้อมาบรรทุกน้ำ ขอนไม้ที่ลอยอยู่ในน้ำเหมือนกัน ถนนเปรียบเหมือนลำคลองแม่น้ำ น้ำไหลเปรียบเหมือนรถวิ่ง จากคุณ : GM.Ront เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 19:20:16 A:202.176.95.32 X: TicketID:219519

ความคิดเห็นที่ 15 คิดเหมือนคุณจิมมี่ #4 ครับ เคยพายเรือขุดที่ขุดจากท่อนไม้ทั้งต้น  เรือบางลำก็พายได้เร็วดี (รู้สึกเบา)  แต่บางลำก็พายได้ช้า (รู้สึกหนัก) ทั้งที่ออกแรงเท่ากัน  จึงคิดว่ามวลของเรือมีส่วนครับ  เรือที่มีน้ำหนักมาก โลกจะดูดไว้มาก  ทำให้ไปได้ช้าครับ ขอนไม้ลอยน้ำก็น่าจะเช่นกัน หากขอนมีน้ำหนักมากไป ก็จะโลกดูดจมลงไปถึงดิน แต่ถ้าขอนหนักพอประมาณ ลอยเพียงปริ่มน้ำจะจมมิจมแหล่  น้ำหนักของขอนจะถูกโลกดูดเอาไว้ ทำให้ลอยช้ากว่าน้ำไหลครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 20:36:16

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าในที่สุดขอนไม้จะมีความเร็วเท่ากับความเร็วของน้ำแน่นอนครับ (ถ้าไม่คิดความหนืดและแรงต้านอากาศ) ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่ถึุงจะมีความเร็วเท่ากระแสน้ำก็ขึ้นอยู่กับมวลครับ ถ้ามวลมากก็ต้องนานหน่อย ถ้ามวลน้อยก็แป็บเดียวครับ หมายเหตุ ผมว่าแรงโน้มถ่วงไม่น่าจะมีผลต่อความเร็วนะครับ เพราะแรงโน้มถ่วงจะกระทำในแนวดิ่งไม่ใช่ในแนวราบ และแรงโน้มถ่วงก็จะหักล้างกับแรงลอยตัวไปทำให้วัตถุอยู่นิ่งในแนวระดับได้ครับ จากคุณ : 2002002 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 20:58:33 A:125.25.139.218 X: TicketID:258388

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนแรกขอนไม้คกลงไปในน้ำใหม่ๆ ไม่ได้เคลื่อนไปทันที ต่อมา น้ำจะพัดพาขอนไม้ไป แรงเสียดทาน จะทำให้ขอนไม้เคลื่อนที่ด้วยทิศทางและความเร็วใกล้เคียงกับน้ำ แต่เวลาขอนไม้มีความเร็วใกล้เคียงกับน้ำ แรงเสียดทานของน้ำมีน้อย ความเร็วจะเปลี่ยนช้าลง ใช้เวลานานมากๆ กว่าความเร็วจะเท่ากัน ขอนไม้ลอยน้ำ แสดงว่า น้ำที่มีปริมาตรเท่าขอนไม้ หนักกว่า ขอนไม้ เรือพาย เคลื่อนที่ไปด้วยแรงพาย ไม่ได้ไหลตามน้ำ จึงไม่เกี่ยวกับคำถามของ จขกท. ครับ จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 20:58:53

ความคิดเห็นที่ 18 น้ำในแม่น้ำ ไหลด้วยความเร็วไม่เท่ากันทั้งหมด ตรงกลางๆ จะไหลเร็วกว่าริมฝั่ง ถ้าเอาของหลายชิ้น มาปล่อยให้ลอยไปตามน้ำ คนละจุด มันจะลอยอยู่บนน้ำที่มีความเร็วต่างกัน จึงไม่จำเป็นต้องไปถึงปลายทางพร้อมกัน จากคุณ : ผลึกความคิด เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 21:03:48

ความคิดเห็นที่ 19 ต้องคุยในทฤษฏีสิครับ  ถ้าพูดถึง หลักความจริง ตัวแปรมันควบคุมไม่ได้ เกิดลอยไปเจอหมาเน่ามันก็ช้าลงแล้ว เมื่อเริ่มใหล ท่อนซุงจะช้ากว่า แรงของน้ำจะผลักท่อนซุงไปข้างหน้า โดยไม่มีแรงปะทะ เพราะน้ำข้างก็ใหลไปเหมือนกัน และทำความเร็วขึ้นไปจนเท่าความเร็วน้ำไม่มากไปกว่านั้นเพราะจะโดนแรงต้านจากน้ำหน้าท่อนซุง เรื่องแรงดึงดูดผมว่าไม่เกี่ยวเพราะขอนไม้ลอยน้ำได้ อยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักแล้ว ส่วนที่ต่างกันคือ   น้ำใหลจริงๆ มันมีตัวแปร เยอะมี กระแสแสน้ำ แก่งหินใต้น้ำ  ทำให้ น้ำไม่ได้ใหล ไปโดยสภาพสมบูรณ์ แรงพวกนี้ จึงมากระทำกับขอนใม้ ทำให้ ขอนใม้ ไม่สามารถทำความเ็ร็วเท่ากระแสน้ำได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ขนาดและรูปร่างของขอนไ้ม้ด้วย  หากขอนไม้มีรูปร่างดีลู่ลม ก็จะทำความเร็วเท่าน้ได้ใว แม้จะ โดน ตัวแปรให้สูญเสียแรงไปแต่ เมื่อได้แรงน้ำมาผลักก็จะทำความเร็วเท่าน้ำได้ ผิดกับ ท่อนซุงรูปร่างไม่ดี ก้จะมีผลกับตัวแปรเยอะหน่อย จนอาจทำความเร็วไม่เท่ากระแสน้ำได้เลยครับ ทั้งนี้หาก ว่าตามทฤษฏี เฉพาะแค่น้ำใหลแล้ว ผมว่าเท่ากัน จากคุณ : mangginoon เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 23:37:09

ความคิดเห็นที่ 20 .. ขอบคุณ คห.14 คุณทำให้ผมคิดอุปกรณ์สร้างพลังงานจากการไหลของน้ำในแม่น้ำ ในทะเล โดยไม่ต้องทำเสาได้แล้วครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 23:38:51

ความคิดเห็นที่ 21 หึหึ บางคนยังเอา G เข้ามาเกี่ยว โจทย์นี้มันลอยอยู่บนน้ำ แสดงว่าเกิดแรงยก (แรงลอยตัว) ขนาดเท่ากับ G แต่กระทำในทิศทางตรงกันข้ามกับ G โดยหักล้างกันได้ในแนวดิ่งอย่างสมบูรณ์แล้ว เชื่อเหมือนๆกับ จขกท ครับ ขอนไม้ลอยอยู่ในน้ำ ลอยด้วยความเร็วเท่ากับความแร็วกระแสน้ำ รอบๆขอนไม้นั้น จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 01:26:47

ความคิดเห็นที่ 22 ขออธิบายดังนี้ครับ จากสมการของการเคลื่อนที่ Summation of Force = ความต้านทานเรือ (R) = แรงพัดพาของน้ำ (Current Force) = มวลของเรือ (m) x ความเร่ง (a). ความต้านทานเรือ คือ แรงที่ต้องใช้ลากเรือในน้ำนิ่งด้วยความเร็วคงที่ เท่ากับความเร็วของกระแสน้ำดังกล่าว จากเงื่อนไขขอบเขตเริ่มต้น ขอนไม้ (เรือ) ลอยอิสระ ในน้ำที่ไหลในความเร็ว V ที่วินาทีที่ 0 ขอนไม้มีความเร็วเป็น 0 เทียบกับโลก ที่ เวลา t0 = 0 ความเร็วของเรือ v0 = 0 ความเร็วสัมพัทธ์ของเรือ Vr = Vr0 = V - 0 ค่า R สามารถประมาณโดยใช้หลักการของ William Froude ถ้าทราบ input เป็น Vr และรูปร่างใต้ผิวน้ำของเรือ ในที่นี้สมมติว่า คำนวณได้เป็น R0 และคำนวณ a ได้เป็น a0 ที่เวลา  t1 = t0 + dt โดย dt = ช่วงเวลาสั้นมากๆ ความเร็วของเรือ v1 = v0 + a0 x dt ความเร็วสัมพัทธ์ของเรือ Vr = Vr1 = Vr0 - v1 {< Vr0} คำนวณ R และ a ใหม่อีกครั้ง เป็น R1 {< R0}และ a1 {< a0} ที่เวลา t2 = t1 +dt ความเร็วของเรือ v2 = v0 + a1 x dt ความเร็วสัมพัทธ์ของเรือ Vr = Vr2 = Vr1 - v2 {< Vr1} คำนวณ R และ a ใหม่อีกครั้ง เป็น R2 {< R1} และ a2 {< a1} ทำซ้ำตามระเบียบวิธีข้างบนไปเรื่อยๆ จะพบว่า Vr มีค่าลดลงเข้าใกล้ศูนย์ ในที่สุด สมมติฐานในที่นี้คือ น้ำไม่มีคลื่นแบบในทะเล ไม่มีลมพัด และไม่มีแรงต้านอากาศ หรือมีก็น้อยมากจนไม่มีนัยสำคัญ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 06:22:42 จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 06:20:34

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนคำอธิบายว่า ทำไมในบางกรณีถึงพบเห็นว่า วัตถุต่างกัน ถูกพัดพาไปด้วยความเร็วไม่เท่ากัน ผมพอเรียบเรียงปัจจัยได้ดังนี้ 1. ความต้านทานเรือในน้ำนิ่ง หรือในที่นี้ควรจะเรียกว่า ความต้านทานในการถูกพัดพาของแต่ละวัตถุไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นกับ ความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างน้ำ และวัตถุ, ขนาด รูปร่าง และสัดส่วนใต้น้ำของวัตถุ, และความฝืดของผิวเปียก ความแตกต่างเหล่านี้ ตามที่อธิบายด้านบน จะไม่มีผลเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงจุดหนึ่ง (วัตถุต่างกัน จุดอิ่มตัวก็มักไม่ตรงกัน) ที่ค่าความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างน้ำหมดไป (ไหลไปตามน้ำอย่างสมบูรณ์) ผู้ที่สังเกตอาจจะไม่ได้สังเกตนานจนถึงจุดนี้ 2. ความเร็วของน้ำ ในแต่ละจุดนั้นไม่เท่ากัน ความเร็วที่กลางแม่น้ำ จะสูงกว่าที่ขอบตลิ่ง และก้นแม่น้ำ เนื่องจาก Boundary Effect แต่ถ้าแม่น้ำมีความคดเคี้ยว ความเบี่ยงเบนของความเร็วในจุดต่างๆ ก็จะยิ่งมาก น้ำที่อยู่รัศมีโค้งมากที่สุดจะไหลเร็วที่สุด อันนี้ อธิบายได้ด้วย สมการเบอร์นูลี 3. แรงลม ซึ่งมีขนาดขึ้นกับ รูปร่าง พื้นที่ตั้งฉาก, และความสูงเหนือ ผิวน้ำของวัตถุ นอกจากนี้ยังมีทิศทางการพัด ที่เป็นไปได้รอบ 360 องศา จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 06:45:23

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องวางมือถือบนกระดาษบนโต๊ะ แล้วชักออกมาเร็วๆ ปรากฏว่ามือถือเคลื่อนที่ตามกระดาษช้ากว่า อันนั้นเป็นสภาพที่มีสิ่งแวดล้อมคนละแบบ เอามาเปรียบเทียบกับเรื่องการไหลนี้ไม่ได้ครับ แรงเสียดทานระหว่างพื้นผิวของแข็ง มีพฤติกรรมแตกต่างแบบกับ ความต้านทานในการพัดพาของน้ำโดยสิ้นเชิง เรื่องชักกระดาษ อธิบายได้โดยให้ แรงเสียดทานระหว่างกระดาษกับโต๊ะ = f1 แรงเสียดทานกระดาษกับมือถือ = f2 (< f1) ออกแรง F จากเบาไปมากอย่างช้าๆ จะได้ว่า F<f1 กระดาษไม่ขยับ f1<F<f2 กระดาษขยับ และมือถือติดมาพร้อมกระดาษตามๆ กัน (ไม่มีการไถลกับผิวกระดาษ) F>f2 มือถือไถลกับผิวกระดาษ จนดูเหมือนตามความเร็วของกระดาษไม่ทัน ถ้าเปลี่ยนเป็นออกแรง F>f2 ในทันทีตั้งแต่เริ่ม จะส่งผลให้ ชักกระดาษออกมาได้ โดยที่มือถือยังอยู่ในตำแหน่งเดิมเทียบกับโต๊ะ จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 07:02:13

ความคิดเห็นที่ 25 .. สรุปว่า เราคุยกันที่ระดับทฤษฏีก็แล้วกันนะครับ ถ้าอย่างนั้น เงื่อนไขที่ตั้งโจทย์  ก็จะเป็นการไหลในห้องทดลอง ไร้ลม ท้องน้ำราบเรียบสนิท ระดับน้ำลึกมาก  เพื่อให้ความเร็วที่ปะทะทุกจุดของหน้าตัดขอนไม้เท่ากัน น้ำไหลด้วยความเร็วคงที่ตลอดกาล แม่น้ำตรงดิ่ง โลกหมุนโดยไม่มีการเปลี่ยนมุมเอียง ไม่มีดวงจันทร์มาเกี่ยวข้อง ถ้าแบบนี้ ผมยอมครับ ยอมรับว่า  มันไปเท่ากับความเร็วกระแสน้ำ และไม่มีทางที่จะเกิดการหมุนได้  เพราะแรงจะสมดุล ............... แต่ถ้าสนใจความเป็นจริง ค่อยมาคุยกันใหม่อีกครั้ง เพราะผมดันสนใจความจริง จึงได้ตั้งเงื่อนไขของวัตถุให้ใหญ่ขึ้น  จนเป็นขอนไม้ ไม่งั้นก็เอาแค่ไม้จิ้มฟันลอยน้ำมาคุยกันก็ได้ ไม่ต้องเอาขอนไม้ ไม่ต้องเอาแม่น้ำ เอาแค่ห้องทดลองก็พอ .. แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 08:41:57 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 08:11:49 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 08:11:05

ความคิดเห็นที่ 26 ผมคิดเหมือนจขกท.นะครับว่าอย่าไงถ้าทั้งระบบควบคุมได้ขอนไม้จะไหลเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จนเร็วเท่ากระแสน้ำรอบๆ มันในที่สุด ส่วนเรื่องของคุณไม่เป็นดั่งใจ ตอนอยู่ในทะเล...แล้วรู้สึกว่ามีน้ำมาดัน เพราะคุณยังไม่ได้เร่งจนความเร็วเท่ากับกระแสน้ำ หรืออีกอย่างคือ กระแสน้ำที่ผิวกับข้างใต้มันต่างกันคุณเลยรู้สึกอย่างนั้น แล้วก็เรื่องที่ลงไปดำน้ำเล่น แล้วโดนน้ำพัดไปมากกว่าเรือที่จอดอยู่นั่นก็เพราะ 1.เรืองมันมีความต้านทานน้ำน้อยความคนมาก 2.การต้านทานมีผลทำให้ความเร่งของคุณมากกว่าเรือ 3.ทำให้คุณไปเร็วกว่าเรือในตอนแรกๆ 4.แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเรือมันก็ต้องไปไวเท่าคุณนั่นแหละ แต่ระยะทางคงห่างกันมากแล้ว จากคุณ : saberhaya เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 08:19:17

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่อง ปรากฏการณ์คลื่นบวกกระแสน้ำในทะเลจะซับซ้อนไปครับ แค่กลศาสตร์คลื่นทะเลเฉยๆ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเข้าใจง่ายนัก ลองไปอ่าน ทฤษฎีของ Airy http://en.wikipedia.org/wiki/Airy_wave_theory มันจะมีรูปหนึ่งแสดงแนวการเคลื่อนที่ของเม็ดน้ำในทะเลที่เป็นคลื่น  จะเห็นว่า มันมีลักษณะเป็นวงจรโค้งเต็มรอบ นั่นคือเหตุผลว่า ทำไม คนว่ายน้ำในทะเลบนผิวน้ำพอเจอคลื่นยักษ์ ก็โดนดูดจ๊วบลงไปใต้น้ำ และอาจสำลักน้ำตาย วิธีป้องกันก็คือ รีบดำน้ำ หนีซะเอง  เพราะใต้น้ำจะไม่ปั่นป่วนมากเท่าผิวน้ำ  จากนั้นค่อยโผล่ขึ้นมาหายใจ เรื่องอาการของวัตถุลอยน้ำ ต่างชนิดกันเมื่อเจอกับคลื่น ถึงแม้จะ ชุดเดียวกัน ทิศทาง และเฟสคลื่นเดียวกัน  แต่วัตถุก็จะเคลื่อนที่ตอบสนองกับคลื่นต่างกัน ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เรือใหญ่โคลงยาก เรือเล็กโคลงง่าย จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 08:40:59

ความคิดเห็นที่ 28 .. คห.26 ส่วนเรื่องของคุณไม่เป็นดั่งใจ ตอนอยู่ในทะเล...แล้วรู้สึกว่ามีน้ำมาดัน เพราะคุณยังไม่ได้เร่งจนความเร็วเท่ากับกระแสน้ำ หรืออีกอย่างคือ กระแสน้ำที่ผิวกับข้างใต้มันต่างกันคุณเลยรู้สึกอย่างนั้น ความจริงมันเป็นเพราะประโยคหลัง คือ "กระแสน้ำที่ผิวกับข้างใต้มันต่างกันคุณเลยรู้สึกอย่างนั้น" และมันจะรู้สึกอย่างนี้ไปตลอดกาลที่กระแสน้ำยังไหลอยู่ น้ำทะเลมีการไหลนะครับ ถามว่ามันไหลได้ยังไง  ก็เพราะโลกมันหมุน  มันมีแรงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และที่ความเร็วของน้ำมันไม่เท่ากัน ก็เพราะบนผิวน้ำ มีอากาศเป็นแรงเสียดทานการไหล ทำให้ผิวน้ำ มีความเร็วต่ำกว่า  ต่อให้ไม่มีลมพัดก็ตาม ตราบใดก็ตามที่บนผิวน้ำ  มีอากาศอยู่  มันก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดกาล ไม่มีทางที่น้ำจะมีความเร็วเท่ากันทุกๆ จุด เรือมันจมลงไปน้อย เมื่อเทียบกับตัวคน ความเร็วบนผิวน้ำที่ต่ำกว่า  ก็เท่ากับเรือถูกแรงกระทำน้อยกว่า ตัวคนจมลงไปลึกกว่า ความเร็วใต้น้ำมีมากกว่า  ตัวคนจึงถูกแรงกระทำมากกว่า ดังนั้น  ถ้าให้ระยะเวลายาวนานเข้าใกล้ infinity โลกกว้างเท่าจักรวาล ตัวคนจะลอยหายไปไกล  และเรือจะไม่มีวันมีความเร็วเท่าตัวคนได้ครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 08:58:57

ความคิดเห็นที่ 29 #8 แรงต้านแปลว่าเป็นแรงที่มีทิศทางตรงข้ามการเคลื่อนที่ ในการไหลตามน้ำ แรงต้านคือแรงที่ทิศทวนน้ำ ถ้าน้ำไหลไปในทิศทางเดียวกันหมด ก็ไม่มีแรงต้าน ดังนั้นพื้นที่หน้าตัดใหญ่ไม่เพิ่มแรงต้าน #15 การพายเรือที่ยกตัวอย่างมา เป็นการทำให้เรือเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วแตกต่างจากความเร็วน้ำ ในกรณีนี้จะมีแรงต้านจากน้ำที่อยู่ด้านหน้าเรือตามทิศที่เราพาย จึงนำมาใช้กับกรณีการปล่อยลอยไปตามน้ำไม่ได้ ยิ่งถ้าขอนไม้จมลงไปถึงดิน ก็ไม่ถือว่าลอยน้ำหล่ะครับ เพราะมีแรงเสียดทานกับดินใต้น้ำ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:12:58

ความคิดเห็นที่ 30 #15 การพายเรือ ใหญ่เรือเล็ก มันตรงข้ามกันกันกับการไหลของน้ำนะครับ เหมือนที่เราพายเรือทวนน้ำ เรือยิ่งต้านน้ำเท่าไรยิ่งต้องใช้แรงพายเยอะ เรือที่ต้านน้ำเยอะก็คือเรือที่น้ำหนักเยอะหรือลำใหญ่ เหมือนที่คุณบอกนั่นแหละ แต่กระแสน้ำที่พาวัตถุไป ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนทางเลื่อนที่สะพานลอยข้ามถนนหน้ามาบุญครอง ใครไม่เคยไปดูแค่บันไดเลื่อนตามห้างต่างๆก็ได้ กระแสน้ำจะพาวัตถุไปพร้อมกับตัวมันเอง หมายถึง ตัวกระแสน้ำจะหอบอุ้มวัตถุไปด้วยกัน น้ำก็เปรียบเสมือน บันได้เลื่อน วัตถุก็เหมือนคนบนบันได้เลื่อน ทดลองแบบนี้ก็ได้จะได้เห็นภาพ หาของชิ้นหนึ่งวางไว้บนผ้าผืนใหญ่หน่อยผ้าห่มก็ได้ แล้วเราดึงผ้าวิ่งไปรอบบ้าน ดูว่าของสิ่งนั้นจะวิ่่งไปรอบบ้านตามความเร็วหรือป่าว ผ้าห่มก็เปรียบเป็นกระแสน้ำ จากคุณ : GM.Ront เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:38:56 A:202.176.94.9 X: TicketID:219519

ความคิดเห็นที่ 31 .. ในรูป  สมมุติว่า  ความเร็วน้ำ ตลอดความยาวลำน้ำเท่ากัน ทั้งความยาวและความกว้าง  (ยกเว้นความลึก) เป็นการไหลแบบ laminar flow ลูกศร คือ ทิศของกระแสน้ำ เส้นสีดำ  แทนเวกเตอร์ความเร็วกระแสน้ำ ที่ระดับความลึกต่างๆ คุณคิดว่า  อันไหนจะไปได้เร็วช้ากว่ากัน ระหว่างลูกบอลหลากสี หากแม่น้ำนี้ ตรง ยาวร้อยล้านกิโลเมตร ถามว่า  ในที่สุด ลูกบอลทุกลูกจะมีความเร็วเท่ากันหรือไม่ .. แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 22:40:34 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 09:43:52 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:41:13

ความคิดเห็นที่ 32 .. ลืมรูปครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:42:22

ความคิดเห็นที่ 33 .. ถ้าเปลี่ยนเป็นไม้จิ้มฟันกับท่อนซุง .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:50:52

ความคิดเห็นที่ 34 .. ถามต่อว่า ถ้าพิจารณาท่อนซุงสีเขียว - บนผิวน้ำ ใกล้กับผิวท่อนซุง   น้ำจะไหลด้วยความเร็วเท่าไหร่ - บริเวณ  ผิวท่อนซุงด้านล่าง  น้ำจะไหลด้วยความเร็วเท่าไหร่ ท่อนซุง  ไหลไปพร้อมกับความเร็วน้ำหรือไม่ ตรงไหนคือ ความเร็วของน้ำ (ถ้าตอบว่าไหลเท่ากับความเร็วเฉลี่ยของลำน้ำ  ก็จบครับ ไม่ต้องคุยกันต่อแล้ว ไม่ต้องพิจารณาต่อ  เพราะเอาอะไรไปใช้ไม่ได้ แต่ถ้ามองเห็นว่า  มีน้ำบางส่วนไหลเร็วกว่าขอนไม้  น้ำบางส่วนไหลช้ากว่าขอนไม้ เราจะสามารถเอาความแตกต่างตรงนี้ไปใช้ประโยชน์อะไรได้หรือไม่) .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:57:06

ความคิดเห็นที่ 35 คุยกันไม่จบหรอกครับ คนนึงสมมติว่าเป็นโจทย์ในอุดมคติ น้ำแต่ละจุดไหลเร็วเท่ากัน ขอนไม้ก็เร็วเท่ากับน้ำ อีกคนจะสมมติว่าน้ำแต่ละจุดไหลเร็วไม่เท่ากัน ซึ่งขอนไม้จะได้เร็วไม่เท่ากับน้ำ(ส่วนอื่น) เพราะสมมติมันให้เป็นอย่างนั้นเอง จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 11:14:02

ความคิดเห็นที่ 36 .. ไม่หรอกครับคุณ PUFF ประเด็นก่อนที่จะมาเป็นกระทู้นี้ มาจากข้อสงสัยว่าเรือจะทวนน้ำได้หรือไม่ เราจะยังไม่ตอบว่าได้หรือไม่ แต่เราจะมาดูพื้นฐานกันก่อนว่า ด้วยน้ำไหลแบบธรรมชาติ (หรือแม้แต่ในอุดมคติ) มันจะสามารถหมุนใบพัดที่ติดอยู่บนเรือที่กำลังไหลตามน้ำไปได้หรือไม่ - ถ้าหากว่าหมุนไม่ได้  ก็จบ  ไม่ต้องคิดต่อ - ถ้าหากหมุนได้  ค่อยไปพิจารณาต่อ ว่า  มันจะทวนน้ำได้หรือไม่ ซึ่งผมยืนยันมาตั้งแต่กระทู้โน้น ว่า  "หมุนได้" เนื่องจาก ขอนไม้มันจะไหลช้ากว่ากระแสน้ำในบางจุด และเราจะหยิบเอาตรงนั้นมาใช้ประโยชน์เพื่อ ให้เกิดการหมุนกังหันได้ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 11:27:13

ความคิดเห็นที่ 37 จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 11:32:47

ความคิดเห็นที่ 38 พายเรือกันในอ่างอยู่นี่ ไม่ยอม คำนวนตาม ทฤษฎี อยู่นั่นเอง นั่งนึกเอาเดาเอาแล้วก็โมเมเอาว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้แน่ๆเลย งั้นก็ขออวยพรให้ทดลองแล้วประสบผลดังใจหมายละกัน จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 11:39:05

ความคิดเห็นที่ 39 "ด้วยน้ำไหลแบบธรรมชาติ (หรือแม้แต่ในอุดมคติ) มันจะสามารถหมุนใบพัดที่ติดอยู่บนเรือที่กำลังไหลตามน้ำไปได้หรือไม่ - ถ้าหากว่าหมุนไม่ได้ ก็จบ ไม่ต้องคิดต่อ - ถ้าหากหมุนได้ ค่อยไปพิจารณาต่อ ว่า มันจะทวนน้ำได้หรือไม่ ซึ่งผมยืนยันมาตั้งแต่กระทู้โน้น ว่า "หมุนได้" เนื่องจาก ขอนไม้มันจะไหลช้ากว่ากระแสน้ำในบางจุด และเราจะหยิบเอาตรงนั้นมาใช้ประโยชน์เพื่อ ให้เกิดการหมุนกังหันได้ " มันหนุมได้อย่างไงละครับ ผมละงง การที่จะเอาอัตราการไหลที่ต่างกันมาใช้ประโยชน์ก็คือ ทำให้ตัวเรือไปได้เร็วเท่ากับกระแสน้ำที่เร็วที่สุด เท่านั้นนะครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 11:43:46 A:49.228.3.47 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 40 การพิสูจน์หลักการทางวิทยาศาสตร์บางอย่าง ต้องทำควบคู่กันไปทั้งสองอย่างคือ ทั้งทฤษฎีและการทดลอง เพราะบางครั้ง สถานที่ทดลองก็ไม่สามารถควบคุมปัจจัย ได้ทั้งหมด อันอาจทำให้ผลการทดลองผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ แล้วก็จะมีประเด็นให้หยิบยกถกกันไม่รู้จบ บางครั้งมันจึงต้องมีทั้งการทดลองและทฤษฎีควบคู่กันไป ต้องสอดคล้องกัน อย่างในกรณีนี้ ผมขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้งขอแสดงภาพอธิบายทฤษฎีในแบบของตัวเองอีกสักหน่อย ซึ่งไม่เกี่ยวกับการที่น้ำแต่ละจุดไม่เท่ากันด้วย แต่สามารถใช้ได้ทั่วไป อันดับแรกขอยกตัวอย่างเกี่ยวกับแรงในวัตถุกลางอากาศก่อนแล้วกันนะครับ ถ้าวัตถุ A ลอยมากระทบวัตถุ B ที่อยู่นิ่งอยู่ หรือมีอัตราเร่งน้อยกว่าวัตถุ A (ในกรณีนี้สมมุติ วัตถุไม่ได้อยู่บนพื้น จึงไม่มีแรงเสียดทาน) หลังจากการชน วัตถุทั้งสองจะมีอัตราเร่งเท่ากัน เพราะเป็นของแข็ง แต่สิ่งที่จะลดลงไปคือ อัตราเร่งเดิมที่เคยเป็นความเร็วของ A (แต่ของ B จะเพิ่มขึ้น) อันนี้โอเค วัตถุจะมีอัตราเร่งหลังการชนเท่ากันเสมอ (ถ้าไม่แตกซะก่อน) จากคุณ : Jimmy Walker เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:00:09

ความคิดเห็นที่ 41 แต่ทีนี้ลองมาดูในน้ำกัน สมมุติว่าขอนไม้ไม่มีส่วนใดลอยโผล่ขึ้นมาบนอากาศเลยก็ได้ แต่แรงขับเคลื่อนวัตถุหรือขอนไม้จะเกิดจากผิวหน้าที่วัตถุหรือขอนไม้รับแรง หรือต้านกระแสน้ำ ฉะนั้น วัตถุที่ลอยในแนวขวางกับในแนวยาว จึงมีอัตราเร่งไม่เท่ากัน อีกส่วนหนึ่งก็คือ น้ำไม่ใช่ของแข็ง แรงที่มันเคลื่อนที่มาชนขอนไม้ จึงสามารถกระจายออกด้านข้าง เพื่อที่มันจะได้ไหลไปเร็วๆ ตามปกติได้ต่อไป จึงมีน้ำเฉพาะส่วนตรงกลางที่กระจายแรงยากเท่านั้นที่แรงผลักยังกระทำต่อวัตถุเต็มๆ (แต่ความเร็วลดลง) อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าแรงของน้ำนั้นมีการกระจายตัว ไม่เหมือนของแข็งที่กระจายออกไปในอากาศไม่ได้ แรงกระทำจึงไม่ใช่สมบูรณ์ในอุดมคติ จึงทำให้น้ำด้านข้างของขอนไม้จะเร็วกว่าน้ำตรงด้านหลังเสมอ จากคุณ : Jimmy Walker เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:05:13

ความคิดเห็นที่ 42 ลืมแนบรูปประกอบครับ จากคุณ : Jimmy Walker เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:06:17

ความคิดเห็นที่ 43 ทีนี้มาดูวัตถุสมมุติกันแบบสุดโต่งสักนิดนะครับ สมมุติว่าขอนไม้นี้ใหญ่มาก มีน้ำหนักมา แต่ลอยได้ แต่ผิวหน้าสัมผัสที่รับแรงของมันมีน้อยมาก เล็กนิดเดียว ในขณะที่มันถูกกระทำด้วยแรงถึงดูดด้วย จึงเหมือนมีแรงย้อนกลับเสมอ คุณคิดว่าขอนไม้นี้จะมีโอกาสเคลื่อนที่เร็วเท่าน้ำโดยรอบตัวมันหรือไม่ หรือถ้าได้ มันต้องใช้เวลามากแค่ไหน ฉะนั้น ส่วนตัวผมสรุปว่า วัตถุจะเคลื่อนที่เร็วเท่าน้ำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะและน้ำหนักของวัตถุนั้นด้วย จากคุณ : Jimmy Walker เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:11:11

ความคิดเห็นที่ 44   จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:12:26

ความคิดเห็นที่ 45 .. คห.39 มันหมุนได้อย่างไงละครับ ผมละงง การที่จะเอาอัตราการไหลที่ต่างกันมาใช้ประโยชน์ก็คือ ทำให้ตัวเรือไปได้เร็วเท่ากับกระแสน้ำที่เร็วที่สุด เท่านั้นนะครับ .................... ลองดูแบบจำลอง ปกติความเร็วใกล้ท้องน้ำ จะมีความเร็วน้ำต่ำมาก จุดที่ติดท้องน้ำ  นักวิทยาศาสตร์บอกว่า  สมมุติ มีความเร็วเป็น 0 นั่นแสดงว่า  วัตถุชิ้นนี้จะไหลไปด้วยความเร็วเฉลี่ยค่าหนึ่ง ซึ่งจะช้ากว่า  ความเร็วสูงสุดของน้ำไหล เราออกแบบให้มีใบพัด มีแกนหมุน ที่ทำให้ใบพัดรับแรงจากน้ำตรงจุดที่น้ำมีความเร็วสูงสุด มันจะหมุนได้ไหม .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:42:07

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ Jimmy Walker ทำไมดวงจันทร์จึงไม่โคจรช้าลง และตกใส่โลกในที่สุดครับ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:45:45

ความคิดเห็นที่ 47 #45 มันไม่หมุนครับ ไบพัดมันจะทำหน้าที่เป็น ตัวต้าน แรงน้ำ แล้วพาฐานและ ตัวใบพัด ปลิวไปพร้อมๆกัน ทั้งชุดนั้นเหละครับ โดยจะในที่สุดจะไปได้ความเร็วเป็นค่าคงที่ค่าหนึ่ง ครับ ยกเว้นว่า คุณจะยึดฐานติดกับพื้นไว้ครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:57:38 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 48 .. คห.46 ถ้าคุณเอาดาวดวงอื่นออกไปให้หมด คุณคิดว่ามันจะตกมั๊ยครับ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:59:24

ความคิดเห็นที่ 49 ยกเว้นคุณจะนิยามให้ฐานมีแรงต้านมากๆ แล้วตัวอุปกรณ์นั้นมี ความเร็วตำกว่า ความเร็วน้ำมากๆ ใบพัดถึงจะหมุน แต่ อย่างงั้นก็ไม่ต่างกับเอามันยึดไว้กับพึ้นนะซิครับ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเอามาพูดกัน เพราะใครๆก็รู้ว่ามันหมุนแน่ครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:03:10 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 50 .. #47 วัตถุ มันไหลที่ความเร็วเฉลี่ยของน้ำ   สมมุติตัวเลข 7 m/s ซึ่งต่ำกว่าความเร็วสูงสุด  10 m/s ความแตกต่าง 3 m/s  นั่นแหละ ที่ทำให้สามารถมองได้ว่า เปรียบเสมือนว่าวัตถุหยุดนิ่งอยู่ แล้วจุดที่กระแสน้ำมีความเร็วสูงสุด 3m/s  ไหลผ่านตัววัต:-)่อมทำให้หมุนได้แน่นอน ปัญหามาอยู่ที่ขั้นตอนทำจริง เพราะสภาพแวดล้อมอาจจะไม่เป็นเหมือนตัวเลขที่ผมสมมุติ มันอาจจะมีความแตกต่างความเร็วสูงสุดกับต่ำสุด  ไม่มากพอ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:07:04

ความคิดเห็นที่ 51 .. #49 เอ้า  ก็ที่เราคุยกัน ไม่ใช่ประเด็นของความเร็วที่แตกต่างกันหรอกหรือครับ เราจึงจำลองตัวเลขให้เห็นความเป็นไปได้เสียก่อน แต่ที่แน่ๆ  ที่ระดับใกล้ท้องน้ำ  ความเร็วน้ำต่ำแน่นอน ไม่ว่าจะในทฤษฎี หรือ ในความเป็นจริงตามธรรมชาติ ตรงนั้นนั่นเอง คือ แรงเสียดทานตามธรรมชาติ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:09:19

ความคิดเห็นที่ 52 .. จริงๆ แล้ว  มันจะเอียงไปแบบนี้ .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:16:57

ความคิดเห็นที่ 53 ..... อื่ม มันหมุนครับ มันหมุนแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมก็ทราบครับว่ามันหมุนแน่นอน ถ้าคิดแค่นี้ครับ เอาตามแบบของคุณ แต่เรายังต้องคิดว่ายังมีน้ำที่กระทำต่อใบพัดใบต่อไปในทิศทางของเดียวกับใบพัดใบแรก และน้ำที่ขวางข้างหน้าใบพัดอีกด้วย อีกทั้งยังความฝืดของระบบอีก ในใบพัดแบบอื่นก็ต้องคิดเช่นกัน คำถามคือ มันจะหมุนด้วยความเร็วเท่าไหร่ และเราจะแรงมาเท่าไหร่ แล้วเราจะเอาแรงไปทำอะไรได้มากกว่านะครับ เพราะไอ้เรื่องหมุน นะ ผมว่าใครๆก็รู้ว่ามันหมุนแน่ ถ้าเราจะให้มันหมุน แต่ที่ทุกคนถาม เค้าอยากรู้ว่าคุณจะเอาแรงที่ได้จากการหมุนไปใช้งานได้อย่างไงต่างหากละครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:20:09 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งเห็น #52 มันไม่เป็นแบบนั้นหรอกครับ ถ้ามันจะเป็นแบบนั้น มันจะลอยไปเลยครับ แล้วจะแทบไม่หมุนเลย นะครับ เพราะถ้ามันลอยไปแบบนั้น แสดงว่าความเร็วของฐานกับใบพัด แทบไม่ต่างกันเลยนะครับ จากคุณ : ผมเองเหละ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:25:31 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 55 .. #54 มันอยู่ท่านั้นแหละครับ มันไหลไปทางขวา 7 m/s แบบเอียงๆ แล้วก็หมุนด้วย คุณลองให้เหตุผลสิครับว่า ถ้ามันเอียง แล้วไหลไปด้วยความเร็ว 7 m/s จุดที่น้ำปะทะใบพัดมีความเร็ว 10 m/s อะไรเป็นเหตุให้มันไม่หมุน เอาให้จบกันก่อน  ว่ามันจะหมุนหรือไม่หมุน ส่วนจะเอาไปทำอะไรได้หรือไม่ได้  เอาไว้ทีหลังครับ เพราะผมก็ยังคิดไปไม่ถึงตรงนั้น .. แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 13:37:05 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 13:34:02 จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:33:22

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าบนถนนหรือบนบก เหมือนตัวอย่างที่ผมยกมาเช่น บนผ้าห่ม บนทางเลือนบันไดเลื่อน นั้น ใช้แรงเสียดทานเป็นแรงที่จะพาวัตถุไปด้วยกันกับผ้าห่ม หรือ ทานเลื่อน สายพาน ส่วนในน้ำนั้นใช้ "แรงต้านทาน" เป็นตัวในการพาวัตถุนั้นไปกับกระแสน้ำ วัตถุที่มีแรงต้านทานมากกับน้ำ ก็จะไปกับกระแสน้ำได้อย่างรวดเร็ว (จะตรงข้ามกับการทำให้วัตถุเคลื่อนที่ในน้ำ เช่น เรือ, คนว่ายน้ำำ เพราะถ้ามีแรงต้านมากจะทำให้ช้าลง) ผมนึกถึงชุดว่ายน้ำสมัยใหม่ครับ ซึ่งเค้าทำให้ลดแรงต้านทานของน้ำ เพื่อที่จะให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้น อันนี้คิดในน้ำที่อยู่นิ่ง แล้วคนเป็นคนว่ายเคลื่อนที่ไป แต่ ถ้าคิดในทางกลับกัน ให้น้ำไหลแต่วัตถุอยู่นิ่งกลับที่ ผลมันจะตรงกันข้าม คือ วัตถุที่มีแรงต้านทานของน้ำน้อยจะไหลไปช้ากว่า จากคุณ : GM.Ront เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:35:32 A:202.176.94.9 X: TicketID:219519

ความคิดเห็นที่ 57 #55 อื่มมันหมุนครับ อย่างที่บอกครับว่ามันหมุนได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าที่มันหมุนเพราะคุณสมมุติให้มันหมุนไงครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:46:00 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 58 เอาเป้นไปได้ อะมันหมุนได้ แล้วงัยต่อว่ามา จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:54:39

ความคิดเห็นที่ 59 .. #57 เอาล่ะ  คุณบอกว่า  มันหมุน เพราะผมตั้งสมมุติฐานว่า "หมุน" ภายใต้สภาพแวดล้อมเป็นแบบนี้ คุณลองหักล้างสมมุติฐานของผมสิครับ ว่ามันไม่หมุนเพราะอะไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเดิมนะครับ เพราะคุณเองก็ตั้งสมมุติฐานว่า "มันไม่หมุน" มันไม่หมุนเพราะอะไร แล้วผมก็จะหาทางหักล้างข้อสมมุติฐานของคุณดูบ้าง .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:56:12

ความคิดเห็นที่ 60 #55 แต่เท่าทีผมดูคร่าวๆ แล้ว การสมมุตของคุณ ขัดแย้งกันตั่งแต่แรกแล้ว มันจึงไม่มีทางทำได้จริง เกือบจะแน่นอนครับ เอาง่ายๆ แบบพื้นๆก่อนเลยนะครับ คุณบอกว่าตรงใบพัดของคุณ มีน้ำความเร็ว 10 ฐานมีความเร็ว 1 แต่ ตัวระบบไปด้วยความเร็ว 7 แล้วใบพัดจะหมุน แต่ความจริงแล้ว คุณไม่ได้คิดว่า เมื่อฐ่านคุณมีกระแสน้ำความเร็ว 1 มันจะต้องมีแรงต้าน อย่างมากถ้าระบบคุณจะเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็ว 7 และเมื่อด่านล่างนั้น มีแรงต้าน ด้านบนมีแรงผลัก มันจะล้มครับ เวลา เคลื่อนที่ไปมันไปแบบนอนไปครับ เนื่องจากตัวรับแรงจากการไหลของน้ำคือใบพัด ดังนั้นใบพัดจะลาก ตัวฐานไป ครับ และจะไปด้วยความเร็วกระแสน้ำเท่ากัน แต่ใบพัดก็สามารถ หมุนได้ ถ้าใบพัดมีการออกแบบที่ดีและเบาพอ ครับ แต่มันจะแค่ขยับเท่านั้น ครับ ถ้ามันจะหมุนได้มันจะต้องมีฐานที่หนักมากๆ ซึ่ง ก็จะเหมือนกับเรา ยึดฐานเอาไว้ หรือเราจะต้องมีใบพัดทีมีขนาดใหญ่มากๆ ซึ่ง มันก็จะไม่หมุนอยู่ดีเพราะ มันจำทำหน้าที่เป็นใบเรือ และจำทำให้ระบบไปได้ด้วยความเร็วเท่ากระแสน้ำนั้น สรุป มันเกี่ยวกับความเร็ว ที่ต่างกันของกระแสน้ำ ตรงไหนครับ ผมไม่เห็นมันจะไปเกี่ยวกันตรงไหน หรือผมงงเอง จากคุณ : ผมเองเหละ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:01:34 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 61 ลองไปทดลองเถอะ ขอร้องงงงง จากคุณ : saberhaya เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:05:26

ความคิดเห็นที่ 62 คือถ้าคิดเป็นจุดๆ อย่างที่ท่านว่ามา มันก็จะรับแรงเป็นจุดๆที่มันกระทบครับ ไม่มีการข้ามแรง หรือเวกเตอร์ของแรงปะทะจะกระโดข้ามได้ เช่น ที่น้ำ9.8 m/s มันก็จะปะทะที่ตรงก้าน ที่น้ำ 10m/s มันก็ปะทะที่ ปลายใบ เมื่อปะทะเท่ากันทุกจุดมันก็ ไม่เกิดอะไร นอกจากปลิวไปตามน้ำพร้อมๆกัน จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:10:18

ความคิดเห็นที่ 63 #62 อย่าเพิ่งเล่นประเด็นนี้ซิครับ อย่างงี้ก็จบไวเลยซิครับ เห่อๆ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:32:38 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 64 อ่าว... ขอโทษๆๆ ลืมตัวไป แหะๆ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:36:42

ความคิดเห็นที่ 65 เอ่อ  ต้องขอโทษคุณหน้าไม้นะครับ ว่ากันตามรูป 62 คือสมภพอยู่ฝ่ายที่เชื่อว่ามันหมุนหนะครับ -*- เพราะถ้าจะไม่หมุน  คงต้องเอากังหันนั้นลงจมน้ำทั้งหมด  แล้วก็ตัดความโค้งงอนั้นให้ตรงครับ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 15:19:02

ความคิดเห็นที่ 66 ความคิดเห็นที่ 48     คห.46 ถ้าคุณเอาดาวดวงอื่นออกไปให้หมด  คุณคิดว่ามันจะตกมั๊ยครับ จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ   เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:59:24 ตอบว่า ไม่ตกครับ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 15:22:01

ความคิดเห็นที่ 67 ตอบ #65 คุณสมภพ มันหมุน อยู่แล้วละครับ แต่มันหมุนเพราะระบบยังไม่สมดุล ในตอนเริ่มแรกครับ ถ้าระบบสมดุล แล้วมันจะแทบไม่หมุนเลยครับ เพราะ ถ้ามันหมุน แสดงว่า ระบบมีแรงต้านมากกว่าแรงดันของกระแสน้ำ ทำให้กระแสน้ำ วิ่งผ่านใบพัดไปได้ แต่ถ้ากระแสน้ำวิงผ่านมันไปได้ แสดงว่า ระบบยังไม่สมดุล ยังมีแรง ต้านมากกว่า แรง ฉุด ครับ ในที่สุด ตัวมันก็จะไปได้เร็วเท่ากระแสน้ำในที่สุดครับ ซึ่งระยะเวลาคงไม่นานนักครับที่มันจะหมุน นะครับ เรื่องนี้ก็เหมือน ยุงบนรถ หรือ กระโดดบนรถเมล์ นั่นเหละครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 15:37:30 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 68 ใน #67 อ่านเอง งง เอง เอาใหม่ดีกว่า ตอบ #65 คุณสมภพ มันหมุน อยู่แล้วละครับ แต่มันหมุนเพราะระบบยังไม่สมดุล ในตอนเริ่มแรกครับ ถ้าระบบสมดุล แล้วมันจะแทบไม่หมุนเลยครับ เพราะ ถ้ามันหมุน แสดงว่า ระบบมีแรงต้านมากกว่าแรงดันของกระแสน้ำ ทำให้กระแสน้ำ วิ่งผ่านใบพัดไปได้ แต่ในที่สุดกระแสน้ำ จะส่งแรง โดยมีใบพัดเป็นตัวรับแรง จนในที่สุดตัวมันจะมีความเร็วที่ใกล้เคียงความเร็วของกระแสน้ำ ในที่สุดครับ ซึ่งถึงตอนนี้ ก็จะไม่มีกระแสน้ำมาทำให้ใบพัดหมุนแล้วละครับ หมายเหตุ ในระบบนี้ ถ้าไม่มีการยึดฐานติด และให้ ค่าความเสียดทานเป็น 0 น้ำหนัก=0 เราจะไม่มีตัวสร้างแรงต้าน การเคลื่อนที่ของกระแสน้ำเลย เพราะตัวสร้างแรงต้าน จะทำหน้าที่เป็นตัวรับแรงผลัก ไปในตัวเสมอ และจะสมดุล เมื่อ แรงผลัก = แรงต้าน หรือ ที่ระบบมีความเร็วเท่ากับความเร็วของกระแสน้ำนั่นเอง เรื่องนี้ก็เหมือน ยุงบนรถ หรือ กระโดดบนรถเมล์ นั่นเหละครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 15:53:11 A:182.232.194.50 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 69 โอ๊ย เผ้ค๊าบบบบ เผ้ภพค๊าบบบบ วู้ยยยย งุงิ ประเด็นท่านอยู่ที่ ขอนไม้ลอยเร็วเท่าน้ำ แล้วกลายมาเป็นหมุนไม่หมุนซะง้าน เห้ออ... เอางี๊ท่าน หมุนช้าก็ได้อ๊ะ แต่เหมือนกับที่ # 67 ว่าเมื่อมันสมดุลย์ มันก็หยุด คืองี๊เผ้ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่เอาเป็นว่า แรงทั้งหมดที่กระทำกับ พัดลม นั้นมันจะไปออกจุดเดียวกัน พี่นึกถึงเรื่องของ สแตติดฟิกชั่นดิ่ แรงมันจะออกไปรวมที่ เอ่อ.. ม่าย CG (ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง) ก็ CB (เซนเตอร์ อ๊อฟโบยาชี่) หรือศุนย์กลางกำลังลอย คือแรงทั้งหมดมันจะใหลไปรวมกันตรงนั้น ถ้าภาพไม่ชัด นึกถึงเพดานโค้งๆ ที่แรงกดของ น้ำหนักมันจะใหลไปรวมกันที่ส่วนปลายของหลังคาน่านแหละ แบบเดียวกันแป๊ะ เพียงแต่งานนี้มันทางตั้งมันก็เลยไปออกตรงกลาง ที่นี้ถ้ามันหมุนได้อย่างที่คิด นะเผ้ภพ เรือผมคงตีลังกาไปแล้ว คิดดูดิ่ ทางหัวเรือโหลดไป23 ตัน กลางลำ โบ๋ เพราะซ่อม และท้ายเรือมีเก๋งและห้องเครื่องไม่ต่ำกว่า 2-300 ตัน ไม่เห็นมันจะหมุนติ๊วๆเลย เพราะว่านน. ทั้งหมดมันไปรวมที่ CG และ CB ซักอย่าง นี่แหละจำไม่ได้แล้ว แถมกินน้ำลึกตั้ง 20 ก่าเมตร โอ๊ยเทคโมเมนต์กันมันส์มือ แล้วรูปของท่าน "ไม่เข้าใจเลย"  เอ๊ย "ไม่ได้ดั่งใจ" นี่ท่าน เทคโมเมนต์ ยังงัย ถ้ากังหันหมุนมันต้องมี โมเมนต์สองจุด และจะมีสองจุดได้ ต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งต้องหยุดหรือช้ากว่าส่วนอื่น เช่นส่วนใบพัด ปะทะม๋าเน่า ส่วนล่างก็จะหมุนขึ้นไปหาผิวน้ำ หรือด้านล่าง ชนตอไม้ ใบพัดก็จะหมุน เฮ่ยตกลงผมคิดถูกป่าวหว่า งงแระ อ่าวเฉยทำมัยเล่า ช่วยหน่อยดิ่ งง อ่าวยังเฉยอีกแด๋วโทรหาประธานนักเรียนให้จัดการซะเลยนี่ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 16:02:25 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 15:59:35

ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ ทิดสะดือ ไม่ตรงกัน คำนวณ ก็ไม่ได้ งั้นก็ทดลองไปเลย โลด เอาให้รู้เช่นเห็นชาติกันไปข้างนึง จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:26:17

ความคิดเห็นที่ 71 ^ ^ ^ ^ ป๊าด ท่าน Hum ท่านลองคิดดูแล้วเราจะไปหาพัดลมลอยน้ำได้ จากที่ใหนมาลอง จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:31:00

ความคิดเห็นที่ 72 เหอๅ อ่านความเห็นของ ไม่เป็นดั่งใจ แล้วอนาถใจจัง คุยเรื่องวิศวกรรมมันน่าจะอิงทฤษฎี และการคำนวนเชิงลึก นี่เหมือนเด็กเล่นขายของ ไปค้นมานิดนึง ไปค้นนี่มานิดนึง แล้วเอามาจับแพะชนแกะ พอผู้รู้มาช่วยตอบคำถาม แทนที่จะเกิดปัญญาคิดได้ ก็เปล่าก็ยังอยู่ในกะลาใบเดิมนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเ็ป็นปมด้อยในวัยเด็กรึเปล่า เห็นบอกเมื่อได้เกรด 2 ฟิิสกส์ โตมาเลยพยายามเลี่ยงข้อเท็จจริงทางวิชาการ แล้วไปเอาดีด้านจินตนาการแทน ถ้าคิดว่าทำได้ ก็ถ่ายคลิปมาเลย พอคนอื่นเขาตอบแล้วก็ไม่เชื่อเขาอยู๋ดี แต่คิดว่าคงกล้าหรอก เพราะคงรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นแค่ความจริงในกะลา ขืนทำได้หน้าแหกพอดี จากคุณ : บัวมี4เหล่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:31:18 A:58.9.69.141 X: TicketID:288916

ความคิดเห็นที่ 73 คือ ผมก็อ่านไม่ได้ทุกคำตอบอ่ะนะ ยาวจัด ^ ^ ปล. มีวิธีทำให้ขอนไม้มีความเร็วไม่เท่าความเร็วน้ำไหลแล้ว  แต่ต้องบีบคลอง และขยายคลอง และบีบคลอง  ให้กว้าง แคบ กว้าง แคบ กว้าง แคบ ไปเรื่อยๆ คลองส่วนที่กว้าง กระแสน้ำจะกระจายออกไปเสมอๆกัน ทำให้กระแสน้ำมีความเร็วช้าลง  คลองส่วนที่แคบ  น้ำจะถูกบีบเข้ามา  ทำให้กระแสน้ำมีความเร็วสูงขึ้น (เหมือนบีบสายยาง) ดังนั้น ถ้าท่อนซุงนั้นยาวเกิน 1 ไซเคิล  คือหัวซุงอยู่น้ำส่วนที่ไหลเร็ว ปลายซุงอยู่น้ำส่วนที่ไหลช้า (หรือยาวกว่านั้น) ถ้าซุงยังแข็งแรงพอจะไม่ขาดออกจากกัน  ซุงจะมีความเร็วเฉลี่ยของความเร็วน้ำที่สัมผัสซุงทั้งหมด เช่น คลองส่วนที่ไหลเร็ว 20 m/s  ส่วนที่ไหลช้า 10 m/s  ซุงยาวๆนี้จะมีความเร็ว  15m/s ซุงบางส่วนจะได้สัมผัสน้ำส่วนที่เร็วกว่า 5 m/s  และบางส่วนของซุงจะได้สัมผัสน้ำที่ช้ากว่า 5 m/s  เกิดเป็นความแตกต่าง  มองเห็นกระแสการไหลเกิดขึ้น  ถ้ามีกังหันติดข้างซุง  กังหันย่อมหมุนแน่นอน  เพียงแต่หมุนกลับไปกลับมา แต่การหมุนกลับไปกลับมานั้น  ก็สามารถนำมาทำเป็นพลังงานกลให้หมุนทางเดียวไปตลอดได้ ถามว่า แนวคิดเรือทวนน้ำ เริ่มริบหรี่ขึ้นมาหรือไม่? แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 54 16:35:42 จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:32:03

ความคิดเห็นที่ 74 กราซิบ ลุงหน้าไม้ ดังๆว่า เอาเทคนิกการวิเคราะห์แบบ "ย้ายกรอบผู้สังเกตุ" มาใช้ แล้วจะพบว่า ไม่ต้องคิด อะไร ทั้งนั้น เจ้าพัดลมจมน้ำนี่ก็เหมือนกัน ถามว่า ถ้าน้ำนิ่ง แล้วพื้นวิ่ง (เอาผู้สังเกตุวิ่งไปกับผิวน้ำ) ถามว่า พัดลม จะวิ่งเร้วกว่าพื้นได้ไหม ได้ไหม ได้ไหม ได้ไหม ได้ไหม ใครว่าได้ โผล่ออกมาหน่อย จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:36:18

ความคิดเห็นที่ 75 อ่อ การทำให้กระแสน้ำในคลองมีความเร็วไม่เท่ากันตลอดสาย  อาจไม่จำเป็นต้องบีบคลอง  แต่เป็นการทำให้คลอง ตื้น ลึก ตื้น ลึก ตื้น ลึก สลับกันไปได้  แต่ต้องไม่ตื้นซะจนถึงซุง จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:38:41

ความคิดเห็นที่ 76 น้านเผ้ภพ เอาแหล่วงัย จากแค่พังพัดลม นี่ทั่นจะทรมานคลองหละวา เอางบรังแกคลองประปา มาซื้อน้มันเติมเรือดีมัย แด๋วผมขับให้ เอ่อเพื่อนๆคับอย่าพึ่งเข้าใจผิด แม้ ทฤ. จะขัดกัน แต่ความสัมพันธิ์ยังคงเดิม จิงป่าว...เผ้ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:45:07

ความคิดเห็นที่ 77 ฟ้องป้าดิน ว่าลุงหน้าไม้ แอบมีความสัมพันธ์ที่ต้องซ่อนเล้น กับ ลุงสมป๊อบ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:51:50

ความคิดเห็นที่ 78 ประกาศ ดังๆอีกครั้ง ตราบใดที่เรือลอยอยู่บนน้ำ ไม่ได้วิ่งบนพื้น ใช้ กรอบผู้สังเกตุ แบบ น้ำนิ่ง พื้นวิ่ง แล้ว จะพบว่า เรือ ไม่สามารถ วิ่งเร็วกว่าพื้นได้ ไม่ว่าจะโดยแรงน้ำ หรือแรงลม เพราะฉนั้น เลิกแถ เอ้ย เลิกเถียงได้แล้ว ข้องใจก็ไปทดลองดูได้ XD ปิดมู้ว์ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 16:55:20

ความคิดเห็นที่ 79 อื่ม ถ้าจะเอาแค่ใบพัดหมุนละก็ ทำแบบ ที่คุณสมภพบอกก็ได้ครับ มันหมุนได้เลยเหละครับ แต่มันจะหมุน เพราะแรงเฉื่อยของขอนไม้ และความเปลี่ยนแปลงของความเร็วน้ำ แต่ต้องโดยที่ใบพัดต้อง เบามากและไม่มีแรงเสียดทาน ถ้าจะทำจริง ๆต้อง เอาเรือหนัก 300ตัน มา เอาพัดลมจุ่มน้ำไว้แล้วทำคลองแบบที่ คุณสมภพว่า รับรองว่า ใบพัดลม หมุนฉิว เลยละครับ แต่เราจะเอาแรงมันไปทำอะไรม่ได้เลย เพราะถ้าเราจะให้มันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราก็ต้องเพิ่ม ความเร็วน้ำให้มากขึ้น เพิ่มแรงเฉื่อยของเรือให้มากขั้น ซึ่งมันก็จะทำให้เรา ฉุดเรือให้ทวนน้ำยากขึ้น ต้องใช้แรงมากขึ้น เราก็ต้องทำให้พัดลมเรามีแรงมากขึ้น เราจะทำให้พัดลมมีแรงมากขึ้นเราก็ต้องเพิิ่มความเร็ว เพิ่มแรงเฉี่อยให้มากขึ้น วนกันไปไม่รู้จบ ดังนั้น เราทำได้แค่ให้มันหมุนครับ เอาแรงไปทำไรไม่ได้เลย จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 17:09:39 A:110.164.49.254 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 80 อ่าน #14 แล้วทำให้คิด หรือจะเร็วเท่ากันตามที่คุณสมภพว่า จะเหมือนยุงที่บินอยู่ในรถไหม ยุงถูกรถพาไป ท่อนซุงที่ลอยอยู่ในน้ำก็ถูกน้ำพาไป จะเป็นอย่างนี้ไหมครับ แหะๆ ยอมรับว่าคิดไม่ออก  ใครลองดูแล้วช่วยมาแจ้งข่าวด้วยครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 17:31:02

ความคิดเห็นที่ 81 .. เอาละครับ Design อันนั้น มันอาจจะมีข้อโต้แย้งว่า  มันต้องล้ม ผมออกแบบใหม่  ไม่ให้มันมีทางล้ม และถ้าความเร็วของกระแสน้ำ ยังคงเป็นเหมือนรูปก่อนหน้านี้ แบบนี้มันจะหมุนได้หรือเปล่า .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 17:41:45

ความคิดเห็นที่ 82 เอ่อ  เดี๋ยวขออนุญาตพยายามทำความเข้าใจรูปวาดกังหันของแต่ละท่านนะครับ เหตุใดจึงให้ความเร็วผิดน้ำเป็น 9.8 แต่ใต้น้ำเป็น 10 หละครับ  ทั้งที่ผิวน้ำควรจะ 10 และใต้น้ำเป็น 9.8 และจะส่งผลให้กังหันหมุนตามเข็มได้ จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 18:06:40

ความคิดเห็นที่ 83 ผมว่ามีคนทดลองให้แล้วล่ะครับ ^^ http://www.youtube.com/watch?v=WHL29DoI-qw&feature=player_embedded#at=83 ลองดูคลิปช่วงที่เริ่มปล่อยเรือ นาทีที่ 1.05 => เรือลอยตามน้ำทุกใบพัดไม่หมุน พอเข้าช่วง นาทีที่ 1.12 => เข้าใจว่าเชือกเริ่มตึง => ใบพักก็หมุนทันที จากคุณ : KuMiNi เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 18:29:55

ความคิดเห็นที่ 84 ผมว่าเรื่องขอนไม้เราน่าจะเข้าใจตรงกันแล้วนะครับ ว่ามันลอยบนผิวน้ำ ไปด้วยความเร็วสุดท้ายเท่ากับความเร็วกระแสน้ำ แต่เนื่องจากอยากให้มันต่างกัน เลยต้องไปจับความเร็วกระแสน้ำที่ก้นคลองมาสมมติต่อ ทำไมไม่สมมติว่าเรือมีสมอครูดไปกับพื้นคลองซะเลยล่ะครับ กังหันจะได้หมุนอย่างที่ต้องการ จากคุณ : PUFF เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 18:40:41

ความคิดเห็นที่ 85 ผมขอนอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ ผมว่าบางความเห็นก็มีการเหน็บแนม ดูถูก และอื่นๆ(ในแง่ลบ) มากจนเห็นได้ชัดเลยนะครับ คือผมคิดว่าที่คุณไม่เป็นดั่งใจแสดงความเห็นไว้อย่างนี้ เพราะไม่มีความเห็นใดที่โดนจังๆครับ คือแบบประมาณว่าตอบแบบไม่เคลียร์ เหมือนกับคนที่แสดงความเห็นอธิบายก็ยังไม่เข้าใจแบบแจ่มแจ้งเหมือนกัน (เฉพาะบางความคิดเห็นนะครับ) ผมว่าที่คุณไม่เป็นดั่งใจได้ตอบแต่ละครั้งนี่ก็ตอบแบบในเชิงอภิปรายตลอดเลยนะครับ แต่ทำไมกลับโดนประมาณว่าโดนด่า โดนว่า ต่างๆ คือที่ผมต้องการจะสื่อก็คือทำอย่างนี้มันดูขัดขวางการเรียนรู้ของคนจริงๆอะครับ นี่คือความเห็นส่วนตัวของผม ปล.ความจริงไม่จำเป็นต้องเขียนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวก็ได้ เพราะมันก็มีชื่อคนโพสต์อยู่ละ แต่ผมกลัวว่าเวลามีคนอ่านแล้วจะเพลินแล้วลืมตรงจุดนี้ไป จากคุณ : 2002002 เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 18:55:53 A:125.25.136.246 X: TicketID:258388

ความคิดเห็นที่ 86 คุณไม่เป็นดั่งใจ คงจะคิดว่า ถ้าใบพัดหมุน ไม่ว่าจะหมุนด้วยแรงอะไร จะต้องทำให้เกิดแรงขับเสมอ... กรณีที่ตัวลำ กับใบพัด ความเร็วสัมพัทธ์กับน้ำไม่เท่ากัน ทำให้ใบพัดหมุนได้จริงครับ แต่ใบพัดก็ไม่ได้จ้วงน้ำเพื่อขับเรือให้ทวนน้ำครับ อย่างไรก็เป็นเพียงแค่น้ำนั้นพาให้ใบพัดหมุนเท่านั้น พิจารณากรณีใบพัดหมุนด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้คือ ยึดเรือตรึงแน่น ใบพัดก็ยังมีความเร็วน้อยกว่าน้ำนิดหน่อยเนื่องจากความฝืดที่จุดหมุนอยู่ดี จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 19:32:43

ความคิดเห็นที่ 87 ^ ^ ^ #85 ไม่ใช่เค๊าตอบกันไม่เคลียร์ ตอบเคลียร์คร๊าบแต่คนฟังไม่เข้าใจ จากคุณ : like_that เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 19:38:15

ความคิดเห็นที่ 88 #81 ถ้าจะให้ความเร็วกระแสน้ำต่างกัน อย่างไงก็หมุนครับ แต่ให้น้ำหนักส่วนมากอยู่ที่ฐาน ให้มากพอมันจะทรงตัวตั้งอยู่ได้ แต่มันคงจะจมจะเหมือนกับการยึดฐานเอาไว้อ สุดท้ายถ้าให้ดีคือ ให้น้ำหนักส่วนมากอยู่ที่ฐาน แล้วยอมให้ มัน และถ้า สมมุตให้ความเร็วน้ำคงที่ ตลอด ในทุกความลึก แต่ถ้าให้ระบบมีน้ำหนัก และให้น้ำหนักส่วนมากอยู่ที่ฐาน ให้มากพอมันจะทรงตัวตั้งอยู่ได้ แต่มันคงจะลอยไปแบบเอียงๆ นั่นพูดถึงเรื่องการลอยตัวของฐานอย่างเดียวนะครับ ส่วนเรื่องใบพัดหมุน ก็อย่างที่บอก สุดท้าย มันก็จะไปได้ที่ความเร็วเท่ากับกระแสน้ำ อยู่ดี ถ้ามันจะหมุน สิ่งที่จะทำให่ใบพัดหมุนคือแรงต้านของอากาศครับ แรงน้ำมันไม่หมุนได้หรอกครับ เหมือน ยุงในรถ นั่นเหละครับ พยายามอย่างไงถ้าระบบทั้งหมดเคลือนที่ไปที่ความเร็วค่าหนึ่ง อย่างไงของในระบบก็ต้องมีความเร็วเท่านั้นเท่ากันทั้งระบบครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 19:42:57 A:110.164.49.254 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 89 แก้ๆ อ่านไม่รู้เรื่องเหะ #81 ถ้าจะให้ความเร็วกระแสน้ำต่างกัน อย่างไงก็หมุนครับ แต่ให้น้ำหนักส่วนมากอยู่ที่ฐาน ให้มากพอมันจะทรงตัวตั้งอยู่ได้ แต่มันคงจะจมจะเหมือนกับการยึดฐานเอาไว้อ และถ้า สมมุติให้ความเร็วน้ำคงที่ ตลอด ในทุกความลึก แต่ถ้าให้ระบบมีน้ำหนัก และให้น้ำหนักส่วนมากอยู่ที่ฐาน ให้มากพอมันจะทรงตัวตั้งอยู่ได้ แต่มันคงจะลอยไปแบบเอียงๆ นั่นพูดถึงเรื่องการลอยตัวของฐานอย่างเดียวนะครับ ส่วนเรื่องใบพัดหมุน ก็อย่างที่บอก สุดท้าย มันก็จะไปได้ที่ความเร็วเท่ากับกระแสน้ำ อยู่ดี ถ้ามันจะหมุน สิ่งที่จะทำให่ใบพัดหมุนคือแรงต้านของอากาศครับ แรงน้ำมันไม่หมุนได้หรอกครับ เหมือน ยุงในรถ นั่นเหละครับ พยายามอย่างไงถ้าระบบทั้งหมดเคลือนที่ไปที่ความเร็วค่าหนึ่ง อย่างไงของในระบบก็ต้องมีความเร็วเท่านั้นเท่ากันทั้งระบบครับ จากคุณ : ผมเองเหละ จำไม่ได้เหรอ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 19:45:37 A:110.164.49.254 X: TicketID:206189

ความคิดเห็นที่ 90 .. #82 เหตุใดจึงให้ความเร็วผิวน้ำเป็น 9.8 แต่ใต้น้ำเป็น 10 หละครับ   ........................ เหตุที่ผิวน้ำมีความเร็วต่ำกว่า (ซึ่งผมก็สมมุติตัวเลขมั่วๆ) ก็เพราะว่า ที่ผิวน้ำ เป็นอากาศนิ่ง อากาศและน้ำ จะมีแรงเสียดทาน ในขณะที่ใต้ผิวน้ำลงไปมีความเร็วมากขึ้น จนกระทั่งมากที่สุด แล้วลดลงจนน้อยที่สุดที่ท้องน้ำ ถ้ามองว่าแม่น้ำเป็นเสมือนท่อน้ำหน้าตัดสี่เหลี่ยม พื้นดินใต้แม่น้ำ ก็เป็นเสมือนส่วนที่เป็นท่อด้านล่าง ส่วนรอยต่อระหว่างน้ำกับอากาศ ก็เป็นเสมือนส่วนที่เป็นท่อด้านบน น้ำที่ไหลในท่อ จะมีความเร็วสูงสุด ที่ภายในท่อครับ .. ตกลงตอนนี้ได้ข้อสรุปหรือยังว่า วัตถุ สามารถลอยน้ำที่ความเร็วช้ากว่าน้ำไหล ได้หรือไม่ ผมว่าผมอธิบายไปยาวเหยียดแล้วนะครับ ว่า วัตถุขนาดใหญ่  จะมีความเร็วที่ค่าๆ หนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่าง  ความเร็วต่ำสุด และ ความเร็วสูงสุด  ของน้ำที่กระทบวัตถุ ซึ่งนั่นเอง คือ คำตอบของผม ผมไม่สามารถบอกได้ว่า  สรุปแล้วมันช้ากว่าน้ำ หรือ เร็วกว่าน้ำ เพราะน้ำบางจุด มีความเร็วกระทบต่ำกว่า และน้ำบางจุด มีความเร็วกระทบสูงกว่า .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 21:34:01

ความคิดเห็นที่ 91 ^ ^ ^ มึนเลยคร๊าบบ จากคุณ : like_that เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 22:41:56

ความคิดเห็นที่ 92 นึกว่าจบไปตั้งแต่เผ้ภพ แกไปรังแกคลองประปาแล้วครับ ยัง..ยังไม่จบ อ๊ะเอาใหม่คบ คือเท่าที่ดูๆภาพต้นแบบ มันยังไม่เหมือนกับที่พี่ภพแกคิดไว้นะครับ เพราะว่าของท่านพี่นั้นแกมีระบบต่อ ออกมาชัดเจน คือขยายแรงของน้ำด้วยวิธีการทดเฟือง อย่างไรก็ตามผมยังมองไม่เห็นว่า ถ้าใบจักรไม่หมุนมันจะขยับเขยื่อนอย่างไร ผมว่าเราคงต้องเพิ่มโจทย์กันอีกหน่อยดีมัยครับ จากเดิม ที่เรามี เรือ +กระแสน้ำ มาเป็น เรือ+ กระแสน้ำ+ สิ่งนิ่ง สิ่งนิ่นั้นก็น่าจะเป็นพื้นดิน แบบที่รถทวนน้ำทำได้ คือ พื้นดินจะเป็นตัวเชื่อมระบบ ทำให้เรือวิ่งช้าลง จนทำให้ใบพัดหมุน และกลไกก็จะได้ทำหน้าที่ของมัน เพียงแต่ สิ่งนิ่นี้มันจะเป็นรางยาวๆ แบบรางรถไฟอยู่ใต้น้ำ และต่อแกนขึ้นมาที่เรือครับ คือแทนที่จะเอาเรือมาวิ่งบนบก ก็ให้ไปวิ่งบนรางแทน โดยใช้รางแบบ I (ไอบีม) ส่วนความฝืดที่ทำใหเรือลอยช้ากว่าน้ำ ก็คือกำลังลอยของเรือนั้นเอง คือแทนที่น้ำหนักของเรือจะกดลงที่รางเหมือนกับ รถไฟทั่วๆไป แต่กลายเป็นว่า แรงฝีดจะมาจากกำลังลอยของเรือแทนน คือแรงลอยของเรือจะทำให้ ล้อไต้น้ำจะยกตัวขึ้น แต่รางจะเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ลอย และแทนที่รางด้านบนจะเป็นตัวรับแรงกดจากน้ำหนัก ก็กลายเป็นด้านใต้ของรางที่จะเป็นตัวรับแรงดึงจากกำลังลอยขอเรือ ผมว่าอันนี้น่าจะเป็นไปได้ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 00:20:05 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 00:17:15

ความคิดเห็นที่ 93 ผมรู้สึกเหมือนอ้างมั่วๆ โมเมเหมือนให้ตัวเองดูดีมีหลักการ ทั้งที่อ่านแล้วผมหาประเด็นหลัก + แนวคิดทฤษฏีที่ใช้มาอธิบายไม่ได้เลยอะ เอาเถอะ อยากดูดีก็ตามใจ แต่ผมอ่านไม่เข้าใจ เพราะลักษณะการเขียนก็เหมือนกับพวกนั่งเทียนเขียน เหมือนจะรู้ แต่สรุปจริงๆไม่มีสาระใดๆ จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 03:06:30

ความคิดเห็นที่ 94 #90 อืมม น่าคิด สมมุติให้มันเว่อร์ๆ คือความเร็วน้ำที่ผิวจนถึงความลึกของท้องเรือช้ามาก ใกล้ 0 แต่ที่ระดับความลึกมากกว่านั้น น้ำไหลแรงมาก(น้ำนิ่งไหลลึก) ถ้าเราเอาพลังงานจากความเร็วตรงนั้นมาใช้ ก็น่าจะทำให้เรือทวนน้ำได้เหมือนกัน แต่คงต้องเอา turbine ไปรับน้ำลึก แล้วต่อชุดเกียร์มาขับใบพัดน้ำอีกอันตรงความลึกของน้ำ(เกือบ)นิ่ง คิดว่าใช้ใบพัดแบบ #81 อันเดียว ทำหน้าที่รับพลังงานและขับเรือในเวลาเดียวกันไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 07:17:02 จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 07:16:27

ความคิดเห็นที่ 95 ในเมื่อคนๆ เดียวจะแปลงแปลงความคิด คนหลายๆคนไม่ได้ แนะนำให้ทำโมเดล แล้วก็เอาไปทดลอง ถ่ายคลิปมาให้ดูดีกว่าครับ ดีกว่ามาวาดรูป แล้วก็ถามว่า แบบนั้น นี้ เป็นไปได้มั้ย ออกแบบในอุดมคติ ใครๆก็ออกแบบได้อ่ะครับ จะให้วัตถุใต้น้ำใหญ่และหนัก และลอยด้วย ทุ่นที่จะทำให้ลอย มันก็ต้องใหญ่ตาม พื้นที่สำผัสก็เยอะตาม ยิ่งถ้าใช้เหล็กทำโครงสร้าง ทุ่นลอยจะขนาดไหน แล้วถ้าเป็นตามที่คุณ ไม่เป็นดังใจ บอก มันสามารถหมุนได้จริง สเตป ต่อไป จะเอาแรงหมุนใบพัด ไปทำอะไรต่อครับ ผลิตกระแสไฟฟ้า หรือ ต่อทดระบบเฟือง ขับใบพัดด้านล่าง หรือ ข้อสุดท้าย ให้ชนะคนอื่น ว่ามันต้องหมุนได้จริงๆนะ แค่นั้น หมุนได้แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 09:30:11 A:202.149.127.130 X: TicketID:283347

ความคิดเห็นที่ 96 ก็จริงของคุณหน้าไม้ตาม #76 นะครับ  จะทรมานคลองอย่างงั้นก็ต้องได้ใช้งบประมาณกันอีก แบบว่า ถ้าจะมีงบมาแล้ว  ก็สร้างรางเหนือน้ำซะเลย (น่าจะประหยัดกว่า) ใช่มั้ยครับ มนุษย์เราลงทุนสร้างรางสำหรับยานพาหนะที่กินน้ำมันและไฟฟ้ากันได้  แล้วทำไมจะลงทุนสร้างรางสำหรับยานพาหนะที่ไม่กินน้ำมันและไฟฟ้าได้  ใช่มั้ยครับ ^ ^ แต่เอ  ถ้าทั้งสร้างราง  และถลุงงบมาทำให้คลองแคบลงตลอดสาย  จะทำให้น้ำไหลเร็วขึ้นอีกมากมาย และใบพัดก็จะใกล้เคียงขนาดของคลองมากยิ่งขึ้นไปอีก  ดีมั้ยครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 09:49:42 จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 09:45:00

ความคิดเห็นที่ 97 คุณไม่เป็นดั่งใจครับ, #90 "ที่ผิวน้ำ เป็นอากาศนิ่ง อากาศและน้ำ จะมีแรงเสียดทาน" มีจริงครับไม่เถียง แต่ผลกระทบต่อความเร็วของน้ำที่พื้นผิวน้ำนั้นน้อยจนหานัยสำคัญไม่เลย คุณลองไปศึกษาวิธีคำนวณ Boundary-layer Thickness แล้วคุณควรจะพบว่า Input Velocity Field ในภาพวาดตั้งแต่ 32 ลงมาเนี่ย มันไม่ค่อยเมคเซนซ์เท่าไหร่นัก ส่วนเรื่องกังหันหมุนนั้น หมุนไม่ได้ เอาเป็นว่า ผมคิดว่า มันแค่ขยับได้ดีกว่าเป็นบางเวลา ทีนี้ขอถามว่าคุณคิดว่าเรือกังหันคุณโดนน้ำในแม่น้ำ "ในความเป็นจริง" ซัดไปในระยะทางหนึ่งกิโล ในเวลาหนึ่งชม. กังหันหมุนบ้าง ขยับบ้าง นิ่งบ้าง ตามบุญตามกรรม แต่รวมพลังงานแล้วเอามาปั่นไฟสะสมในแบตเตอรี่ได้ประมาณกี่ Watt ครับ? แล้วขอถามต่อว่า เอาำพลังงานนั้นคายออกมาจากแบตเตอรี่ สามารถทำให้เรือกังหันนี่กลับไปอยู่ที่เดิมไหวไหมครับ? ถ้าไม่ไหวยังงั้นก็เลิกคุยครับ เพราะ ระยะกระจัดสุดท้าย มันไม่ได้ถือว่า ทวนน้ำ ส่วนคุณ Jimmy Walker ครับ, คุณไม่ได้เรียนฟิสิกส์ มากนักใช่ไหมครับ? และคุณไม่เคยเรียนกลศาสตร์ของไหลเลยใช่ไหมครับ? จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 09:53:13

ความคิดเห็นที่ 98 *97 ถูกเลยครับ คิดแบบคุณ Sgt.Oat แต่พิมพ์ไม่ถูก ผมต่อให้ใบพัดหมุนเลยครับ แล้วจะเอาแรงจากใบพัด ไปผ่านวิธีการไหนเพื่อที่จะดันเรือ ให้มาอยู่ที่เดิมได้ ถ้าจะเอาไปเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าก่อน เลิกคุยได้เลย เปลี่ยนกลเป็นไฟฟ้า - และเอาไฟฟ้ามาเปลี่ยนเป็นกล Loss มากมาย ไหนจะเรื่องน้ำหนักอุปกรณ์อีก กลศาสตร์ของไหล ไม่เคยเรียนมาครับ ผมมาทางสายอาชีวะ เรื่อง Loss การแปลงพลังงาน ผมฟันธงมีแน่นอนครับ (เยอะด้วย) ต่อให้ผูกเชือก หรือ ยึดแท่นอยู่กับที่ เพื่อที่จะทำเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จ่ายให้บ้านหลังนึงพอใช้งาน มันจะต้องใหญ่ขนาดไหน ราคาจะเท่าไหร่ คุ้มค่าการลงทุนหรือป่าว จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 11:08:09 A:202.149.127.130 X: TicketID:283347

ความคิดเห็นที่ 99 เดี๋ยวๆ  ถ้าสร้างรางตาม คคห 92 มันก็คือรถทวนน้ำของคุณสมภพนี่นา ไม่ใช่เรือแล้ว ไม่สิ อาจจะเรียกว่า รถรางทวนน้ำ ก็ได้ เงื่อนไขในการใช้จริง -ความเร็วกระแสน้ำ (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ขาขึ้น จะไปได้ด้วยความเร็วน้อยกว่ากระแสน้ำ ขาล่อง จะล่องมาตามน้ำได้ด้วยความเร็วกระแสน้ำ ถ้ากระแสน้ำลดความเร็วลงจนถึงค่าหนึ่ง รถจะทวนน้ำไม่ได้ -ระดับน้ำ หากน้ำลดลงหรือสูงขึ้นกว่าระดับ รถรางนี้จะใช้ไม่ได้   -ทิศทางการไหล ห้ามเปลี่ยน -เมื่อพบคลองหักศอก จะมีปัญหาเรื่องของการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำไหม  ผมเคยเล่นอะไรคล้ายๆ แบบนี้มาก่อนที่รางระบายน้ำในบ้าน พบว่ามันมักจะติดที่โค้งหักศอกตลอด กรณีศึกษาคลองแสนแสบครับ ระดับน้ำขึ้นลงตลอด ไหลไวบ้างช้าบ้าง บางทีมีย้อนศรด้วย เอาๆ ชักสนุกครับ จากคุณ : REFRIG เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 11:49:38

ความคิดเห็นที่ 100 ก็ใช่ครับ เพราะว่ายังไร เรือมันก็ทวนน้ำไม่ได้ เพราะกลไกไม่ทำงาน ก็เลยมาแบบ...เอาหว่า แม้จะรักเพื่อน แต่ก็ต้องถูกด้วย อย่างที่บอกครับว่า หลักการเราตีกัน ความสัมพันธิ์ยังคงเดิม ผมก็เลยมาดูข้อจำกัดของรถ และข้อจำกัดของเรือ บวกขี้เลื่อยในหัว หวยมันก็เลยออกมาอย่างนี้ครับ เรื่องของรถ อันนี้บอกได้เลยว่ามันทำได้จริง หมุนจริง วิ่งจริง แต่มันจะกิน พท. ริมคลองทั้งหมด คนบ้านแถวๆริมคลองจะโดนเวรคืนทั้งหมด อันนี้ไม่ดีแน่นอน แม้ส่วนตัวจะไม่อยากนัก แต่ผมก็ต้องข้าร่วมประท้วงขับไล่ รมต. สมภพ อย่างแน่นอน เรื่องของเรือ ถ้าวางรางเหนือผิวน้ำ อันนี้ก็แย่แน่ๆ คนหาปลาเอย เรือข้ามฟากเอย เค้าต้อง สรรเสริญญาติโยมตั้งแต่ปู่ทวดลงมาเป็นแน่แท้ แถมเรือที่ว่ามันก็หลบไม่ได้ เข้าข่ายเดินหน้าฆ่าลูกเดียว ไม่ดีต่อการจราจรทางน้ำแน่ๆ ผมก็เลยลองคิดๆดูว่าเราจะแก้ปัญหานี้ยังงัย แล้วมันก็ดโป๊ะเชะ มาอีตรง รางใต้น้ำนี่แหละครับ ไม่ต้องเวรคืน คนหาปลาก็มีงานทำ เรือข้ามฟ้ากก็ไม่ต้องหยุดงานประท้วง  เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อมีแกนต่อไปข้างล่างแล้วมันก้จะมีมุมพอสมควร นั้นก็หมายถึงว่า มันเลี้ยวได้มันสามารถอกจากกลางคลอง และเข้าไปเทียบท่าได้ หลบหลีกเรือหาปลา เรือข้ามฟากได้  ด้วยหางเสือ ปัญหาเรือคลองหักศอกก็จะหมดไป นั้นก็แก้ปัญหาขาไปได้แล้ว ส่วนขากลับ เอมันต้องยังงัยหว่าถึงจะกลับได้ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 12:41:00 จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:37:52

ความคิดเห็นที่ 101 เกือบแล้วล่ะ อีกนิดนึง ทุกคนกำลังช่วยให้คนๆนึงได้เข้าใจแล้วค่ะ เค้าเกือบจะเข้าใจแล้วล่ะ ที่จริงเค้าอาจเข้าใจแล้วก็ได้มั้งอาจไม่ทั้งหมด หลักจากนี้เค้าคงมองเห็นคิดคำนวณอะไรได้มากขึ้นนะ เรื่องแบบนี้บางคนที่ไม่เข้าใจฟิสิกอาจต้องใช้เวลามากกว่าสักหน่อย ถ้าเค้ายอมแพ้ไป ไม่เกรียน ก็คงไม่ได้รู้ (คิดแง่บวกสุดๆ) อีกอย่างกระทู้นี้ทำให้ได้อะไรเยอะขึ้นค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบอย่างเราได้เข้าใจชัดเจนมากขึ้นจริงๆนะ ปล. แต่จะดีกว่ามากถ้าเค้าไม่พาออกทะเล จากคุณ : TE เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:49:46 A:119.42.122.30 X: TicketID:235955

ความคิดเห็นที่ 102 คร่าวๆ นะครับ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:51:22

ความคิดเห็นที่ 103 ^ ^ แง่วว มีรางใต้น้ำแบบนี้ มันก็ทำให้วิ่งทวนน้ำได้สิครับคุณ หน้าไม้ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 13:31:42 A:202.149.127.130 X: TicketID:283347

ความคิดเห็นที่ 104 ถ้า "แกน" หรือศูนย์กลางแรงเหวี่ยงของใบพัดที่ว่า มันไม่ได้ "ลอยไปกับน้ำ" แน่นอนว่ามันย่อมเกิดแรงเหวี่ยงใบพัดที่ว่า เพราะอย่างที่คุณว่าแรงน้ำที่อยู่ข้างใต้จะผลักให้ใบพัดหมุน (ยังไม่ต้องแคร์เรื่อง design อะไรนั่น) ปัญหาคือ คุณสามารถทำให้ "แกน" หรือศูนย์กลางแรงเหวี่ยงนั่นเคลื่อนที่ได้ ช้า หรือ เร็ว กว่ากระแสหรือไม่ล่ะ??? ณ ที่นี้ ยังไม่ต้องพูดถึงดีไซน์เรื่องรูปร่างรูปทรงของเรือเลยด้วย ตัดเรื่องการต้านน้ำของเรืออกไปก็ยังได้ เอาแค่ว่า ทำให้ใบพัดหมุน ให้ได้เสียก่อน ตาม จินตนาการ ใบพัดต่างๆ มันหมุนก็เพราะแกนของมันหยุดนิ่งอยู่กับที่ หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่า การเอามือคุณจับแกนใบพัดที่ว่า ไม่วาจะใบพัดสมัยโบราณหรือสมัยใหม่ แล้วจุ่มน้ำที่ไหล ก็แน่นอนว่าใบพัดจะหมุนให้ชื่นใจแน่นอน เพราะแกนมันนิ่ง น้ำที่ไหลจึงสร้างแรงให้ใบพัดหมุนได้ ทีนี้ โดเรม่อนบอก เอ้า ถ้าเอาแกนหมุนของมันลงน้ำไปล่ะ อ้าว มันก็ลอยตามน้ำน่ะสิ แปลว่ามันก็ย่อมไม่มีแรงมาทำให้ใบพัดหมุน ตรงนี้คนละเรื่องกับการทำให้ใบหมุนจากพลังงานอื่นๆ ว่าจะเครื่องยนต์หรือแรงคนนะ เอ้า ถ้าคิดเรื่องแรงที่แตกต่างกันระหว่างผิวน้ำกับใต้น้ำ มันไม่สำคัญ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะ "แกน" ของใบพัดมันก็ยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าเดิม ความเร็วเท่ากระแสน้ำ ทดลองดูเลยครับ ถ้าจะทำให้ใบพัดหมุน ในที่ๆ กระแสน้ำนิ่งๆ เหมือนคลองอะไรนั้น ก็ต้องยึดแกนของใบพัดให้นิ่ง กระแสน้ำจะหมุนใบพัดเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่ตัดเชือก มันก็จะลอยไปกับน้ำทั้งยวง แค่นั้น เพราะน้ำไม่ได้มีแรงผลักใบพัดอีกแล้ว แต่ แต่ แต่ ถ้าเป็นที่ๆ กระแสน้ำกระโชกกระชาก เปลี่ยนแปลง อย่างเช่น มหาสมุทร ทุกวันนี้มีเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานคลื่นแล้ว แต่มันคนละเรื่องกันนะ อย่างโยง จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 13:54:52

ความคิดเห็นที่ 105 ความคิดของผมตรงนั้นมันมีที่มาจากอันนี้ครับ จากคุณ : หน้าไม้ใจเย็นยิ่ง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 14:28:46