ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาติดตาม คำถามน่าสนใจ ปกติเราวิ่ง 20 นาที up ไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องวิ่งนานเท่าไหร่ ไขมันถึงจะถูกนำมาใช้ มิน่า ออกกำลังกายเท่าไหร ไม่เคยผอมเล้ย.. จากคุณ : EREWHON_nowhere เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 20:31:21

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงที่ผมลดน้ำหนักผมไม่เคยวิ่งเกิน 15 นาทีไปกี่มากกี่น้อยเลย ขอให้วิ่งให้ได้ทุกวัน พร้อมการควบคุมอาหารครับ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 20:52:42

ความคิดเห็นที่ 3 ผมรู้แต่ว่า  ตั้งแต่นาทีที่31เป็นต้นไปจนถึงเช้า   ผมจะ "เมื่อยขาchipเป๋งเลย" จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:04:31

ความคิดเห็นที่ 4 เค้าวัดกันที่อัตราการเต้นหัวใจ หรือชีพจรไม่ใช่เหรอ ประมาณ 60-80% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด เป็นเวลา 20-30 นาที จากคุณ : mynameism เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:20:52

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติ ร่างกายจะดึง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนมาใช้สร้างพลังงานตามลำดับครับ จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:34:57

ความคิดเห็นที่ 6 อดอาหารไปวิ่งสิ (วิ่งเสร็จเป็นลม :D) จากคุณ : วันนี้ว่าง เลยมาอ่าน เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:36:05

ความคิดเห็นที่ 7 ที่เราพูดกันถึง การออกกำลังกายแบบ แอโรบิค ให้ต่อเนื่องกัน เกิน กว่า 25-30 นาที (โดยดูจากระดับ การเต้นของชีพจร ประมาณ 60-80% ของ Max HR นั่น) ก็เพื่อให้เป็นการออกกำลังกายที่เซลใช้ อ๊อกซิเจนในการย่อยสลายกลูโคสมาเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ หลงเหลือ พวก แลคติคเอซิดที่ทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อให้น้อยที่สุด) จริงๆแล้ว เวลาเราออกกำลังกาย ร่างกายจะใช้ พลังงานจาก Glycogen ที่สะสมในกล้ามเนื้อ และดึง น้ำตาลในเลือด และ ในเซลไปใช้เรื่อยๆ จนหมด แล้ว จึงเริ่มดึง ไขมัน ที่สะสมไว้ออกมาใช้ ถ้าร่างกายยังขาดแคลนพลังงงาน(อันนี้แม้ว่าหลังจากหยุดการออกกำลังกายไปแล้ว ร่างกาย ก็ยังมีการใช้ และย่อยสลายไขมันออกมาเป็น น้ำตาล และพลังงานให้เซลใช้ (ถ้าเราไม่รีบชิงกิน คืน เข้าไปซะก่อน เพราะว่าหิว) คนที่เพิ่ง เริ่มมาออกกำลังกายใหม่ๆ ระยะแรก หลังออกกำลังกายน้ำตาลในเลือดต่ำลง ไขมันยังถูกดึงออกมาย่อยสลายเป็นน้ำตาลให้ร่างกายใช้ไม่พอ จะรู้สึกหิวโหย อยากหาอะไรกิน จนบางครั้งกินเพลิน น้ำหนักเลยไม่ลงซักที แต่เมื่อ ออกกำลังกายไปเรื่อยๆต่อเนื่องร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้ ทนต่อภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำชั่วคราวหลังออกกำลังกายได้ดีขึ้น และ หิวน้อยลง ซึ่งเมื่อไม่ได้กินมากหลังออกกำลังกาย ร่างกาย ก็จะดึงไขมันออกมาใช้ได้มากขึ้นผอมลงได้ ผมเองสมัยซ้อมวิ่งหนักๆ บางครั้งซ้อมที 20-30 โล ตอนท้ายๆบางครั้งหวิวๆ เจาะน้ำตาลในเลือดเหลือแค่ 40 mg% ต้องลด ความเร็วผ่อนลง และบางทีก็กินพวก Power gel ซึ่งเป็นกลูโคสดูดซึมเร็ว เข้าไปเป็นระยะคร้งล่ะประมาณ 100 Cal เพื่อให้ยืนระยะออกกลังกายต่อได้ (แต่พลังงานที่กินเข้าไป 100 Cal นั่น ยังน้อยกว่า ที่ออกำลังกายต่อเนื่อง อีก ครึ่ง ถึง 1 ชม. ซึ่งจะเบิร์นไปอีก 500 -1000 Cal ได้ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:38:37

ความคิดเห็นที่ 8 เต้นบัลเล่ช่วยลดใขมัน .. จากคุณ : Skolkovo project. เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:56:21

ความคิดเห็นที่ 9 ใช้ตั้งแต่นาทีแรกๆ แล้วครับ แต่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า carb เท่านั้นเอง ยิ่งนาน ยิ่งใช้สัดส่วนของไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : มอนตะทาโร่ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:12:14

ความคิดเห็นที่ 10 ขอความรู้หมอเจหน่อยครับ... แสดงว่าถ้าอยากผอม หลังวิ่งเสร็จ ให้ทนหิวใช่มั๊ยครับ.. ถึงจะผอม... -_-? จากคุณ : เชฟต่าย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:14:36 A:183.89.162.250 X: TicketID:019311

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ปวดเข่าเพราะวิ่ง  ก็เลยอยากจะถามคุณหมอซะหน่อยครับ ว่าต้องหยุดวิ่งประมาณ กี่สัปดาห์ ถึงจะหายแล้วออกไปวิ่งได้ต่อ สาเหตุน่าจะเป็นเพราะวิ่งลงจากยอดเขานะครับ  ปกติวิ่งขึ้นแล้วเดินลง คิดว่าอยู่ตัวแล้วก็เลยวิ่งลงแล้ววิ่งขึ้นอีกรอบ  ที่นี้ก็เจ็บเลยครับ ระยะขึ้นก็ประมาณ 2 กม. จากคุณ : แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:21:51

ความคิดเห็นที่ 12 หลังวิ่งเสร็จ กินโปรตีนได้แต่อย่ากินแป้งครับ จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:39:43

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าหลังวิ่งเสร็จ หาไรทานแค่เบาอย่าหนักเกินครับ แค่พอหายหิว หลังจากฝึกไประยะ เราจะค่อยชินๆขึ้นปรับตัวได้ ส่วนอาการเจ็บเข่าหลังวิ่งโดยเฉพาะลงเขา นี่ คือการบาดเจ็บ แล้ว ครับ คงต้องพัก แล้ว อาจจะค่อยๆ Weight Training กล้ามเนื้อเข่า จนแข็งแรงดีค่อยกลับมาใหม่ ตอนผมวิ่งมากๆ ก็เคยบาดเจ็บเข่าหลังมาราธอน 42 โล ที่ซ้อมไม่พอ จนต้องพักยาวเหมือนกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:56:20

ความคิดเห็นที่ 14 การออกกำลัง  สเตจ แอโรบิค  (หายใจแรงหอบนิดๆ) ต่อเนื่อง  จะเข้าสู่สเตจที่เอาไขมันมาใช้  ก็ประมาณครึ่งชั่วโมง สังเกตจากความรู้สึกคือจะออกกำลังกายต่อไปได้สบายขึ้นจะไม่หอบเหนื่อยมากเหมือนครึ่งชั่วโมงแรก.. ส่วนหลังจากหยุดออกกำลังกายไปแล้ว(ถ้าเกินสเตจแรกเข้าสุ่สเตจที่เผาผลาญไขมันแล้ว) ร่างกายก็ยังเผาผลาญไขมันไปอีกซักระยะ   ถ้าเกิดหยุดออกกำลังแล้วกินทันทีทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น   เล็กน้อยร่างกายจะได้รับสัญญานสั่งหยุดเผาผลาญไขมันทันที....จึงควรรอซักระยะค่อยกิน  ถ้าจะอยากผอมเร็วๆครับ.... ถ้าคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย  เริ่มแล้วหักโหมทันที ไม่มีการวอร์มอัพร่างกาย  ในครึ่งชั่วโมงแรก จะรู้สึกเหนื่กๆอยมา จะท้อและอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการออกกำลังกายอาจจะเลิกออกกำลังกายไป.... หรืออกกำลังกายแค่ 20  นาทีแรก หักโหมเหนื่อยมากแล้วหยุดก็ไม่ผอมซักทีก็ทำให้คนเลิก.... สรุป  คือ อยากผอม  ต้องออกกำลังกาย (ความเหนื่อยพอประมาณพอหอบหน่อยๆ  เหนื่อยมากจะทนไม่ได้หยุดเร็ว  เหนื่อยน้อยเบาไปก็ไม่เผา เผาน้อย)   และให้เข้าสู่เสตจเผาผลาญไขมัน  แล้วออกกำลังกายให้เผาผลาญไปซักอีก ครึ่ง ชัวโมง  1  ชั่วโมง  แล้วแต่  แต่ต้องทำเป็นประจำ  หลังออกกำลังกาย   กินน้อยๆก่อน  หรือ ซักครึ่งครึ่งชั่วโมงค่อยกิน.... โดยประมาณนะครับ... แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 54 23:36:42 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 23:29:21

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องปวดขาเพราะวิ่งนี่ ถ้านาน ๆ วิ่งที ก็ปวดเป็นธรรมดา แต่ถ้าวิ่งไปทุก ๆ วัน ร่างกายปรับตัว เรื่องปวดขานี่ ไม่มีเลยครับ ส่วนเรื่องจะเบิร์นไขมันได้เมื่อไหร่ ก็อยากรู้เหมือนกัน แต่อีกใจ วิ่งให้เป็นกิจวัตร ทำทุกวัน แม้จะผอมช้า แต่สุขภาพแข็งแรงนะครับ อีกเรื่องคืออาหาร เบิร์นเยอะ แต่กินเยอะ มันก็หักล้างกันไป ลด ๆ ของกิน จะช่วยเรื่องคุมน้ำหนักได้อีกทางครับ จากคุณ : I^^ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 23:42:49

ความคิดเห็นที่ 16 ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอครับ การสร้างกล้ามเนื่้อก็ช่วยได้เยอะครับ เป็นผู้ชายอย่ากลัวกล้ามใหญ่ จริงๆ มันก็ใช้จะใหญ่กันง่ายๆ ผู้หญิงก็เช่นกัน อย่าไปกลัวเพราะมันไม่ขึ้นง่ายๆ หรอก สรุปอย่าไปกลัว เล่นเวทไป อยากใหญ่ก็เล่นหนักๆ อยากผมๆ เพรียวๆ ก็เล่นพอไหว จากคุณ : xnone เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:07:38

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ เห็นด้วยเลย กล้ามใหญ่ๆ มันไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ เคยชวนเพื่อน ชวนออกกำลังกาย  เล่นเวทด้วยกัน   มันบอก...ไม่เอา กลัวจะกล้ามใหญ่ เหมือนพวกเพาะกาย  น่ากลัว...?? ( โธ่... ไอ้แห้ง !!! มันไม่ได้ขึ้นกันง่ายๆ สักหน่อย  -*- ) จากคุณ : ton_na_999 เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:21:33

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าตั้งใจออกกำลังกาย  เพื่อลดอ้วน ก็น่าจะตั้งใจ ปรับการทานอาหารด้วย ทำง่ายๆ เพียงตั้งใจทานอาหารเป็นปริมาณที่สม่ำเสมอ (ถ้าปริมาณถูกต้องด้วยยิ่งดี เช่น  เช้าทานมาก  เย็นทานน้อย ) เมื่อทำให้สม่ำเสมอได้แล้ว ก็ลดปริมาณอาหารที่ให้พลังงานลง  เดือนละ 10 % เมื่อน้ำหนักตัว ได้ตามเกณฑ์แล้ว  ก็รักษาปริมาณการทานอาหารตามนั้น จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 00:24:44

ความคิดเห็นที่ 19 กินไป500cal วิ่งยังไงก็ได้ให้มันติดลบครับ ยิ่งติดลบเท่าไร นั้นละครับ ที่ติดลบคือไขมันที่ถูกดึงออกมาใช้ ตีไปวิ่งๆหยุดๆชั่วโมงนึง800cal ก็ติดลบไป300แคล นั่งดูทีวี ลดชั่วโมงละ 50-100 cal แล้วแต่อัตราการเผาผลาญ วันนึง กินข้าว มื้อเช้า กับกลางวันพอ ตอนเย็น จัดหนักด้วยแอปเปิ้ลเขียว เปรี้ยวแต่คุ้มกว่าอื่นเพราะมันกินมากไม่ได้ แค่2เดือน30โลสบายๆ ครับ จากคุณ : hoof เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 01:23:56 A:115.87.189.14 X: TicketID:268973

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกข้อความนะครับ ขอบคุณคุณหมอด้วยครับ ผมเคยหนัก 89 k แล้วก็วิ่งเช้าเย็นรวมวันนึง 7-10 กม. พร้อมงดทานข้าวเย็นและอาหารแป้งทุกชนิด ก็ไม่ได้คำนวณค่าแคลอรี่อะไร น้ำหนักลงไป 68-70 k แต่ก็หยุดไป 1 ปี เพราะไม่มีโอกาสได้วิ่ง น้ำหนักกลับมาหนัก 79 k ตอนนี้มีโอกาสแล้วก็เลยจะกลับ มาวิ่งเหมือนเดิม แต่มันไม่ได้ฟิลลิ่งเดิม (T-T) ก็เลยอยากทราบการทำงานเผาผลาญของร่างกายนะครับ จากคุณ : ozze เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 02:29:15

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามีอายุแล้วผมว่า ขี่จักรยานดีกว่านะครับ ไม่ลงน้ำหนัก ทำให้ข้อเข่าไม่เสียด้วย วิ่งนี่ ถ้าตัวหนัก ยิ่งแย่ครับ จากคุณ : กร เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 10:08:21 A:124.121.171.68 X: TicketID:288791

ความคิดเห็นที่ 22 เอาใจช่วยครับ จากคุณ : พิราบเขียวแห่งที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 12:10:22

ความคิดเห็นที่ 23 จะเอาอะไรไปวัดอ่าครับ ว่าไขมันจะใช้ตอนไหน ยังคิดไม่ออกเลย จากคุณ : BaracuZ เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 17:13:58