ความคิดเห็นที่ 1 ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนิวเคลียร์สหรัฐหลายคนออกมาเตือนว่า การที่ญี่ปุ่นใช้วิธีสูบน้ำทะเลเพื่อใช้ในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เจอกับพิษของแผ่นดินไหว เป็นการกระทำที่แสดงถึงความสิ้นหวัง และชี้ว่าเรื่องนี้อาจนำไปสู่เหตุการณ์แบบเดียวกับโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล พวกเขายังทำนายด้วยว่า ไม่ว่าผลของวิกฤติการณ์โรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นจะออกมาอย่างไร เรื่องนี้จะส่งผลเสียหายอย่างหนัก ต่อการกลับมาเป็นที่นิยมของพลังงานนิวเคลียร์อย่างแน่นอน โรเบิร์ต อัลวาเรซ แห่งสถาบันเพื่อนโยบายศึกษา ที่เคยทำงานด้านการจำกัดอาวุธนิวเคลียร์บอกว่า สถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะสิ้นหวังมากเสียจนทางการไม่สามารถสูบน้ำจืดมาทำให้เตาปฏิกรณ์เย็นได้ ก็เลยต้องสูบน้ำทะเลขึ้นมาใช้ ซึ่งเป็นการกระทำที่แสดงถึงความสิ้นหวัง เขาเรียกมาตรการนี้ว่า 'Hail Mary' pass, ซึ่งเป็นศัพท์แสลงในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล สำหรับความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อที่จะชนะเกมการแข่งขันในช่วงที่เวลาใกล้จะหมด ปัญหาที่เกิดกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเรียกว่า station blackout คือการที่ระบบปรับอากาศนอกโรงไฟฟ้าเสีย พร้อมๆกับระบบพลังงานภายในโรงไฟฟ้า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าน้ำมันดีเซล อ้างอิงจาก คมชัดลึก จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 12:56:06

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือนกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่รู้ว่าบ้านผมเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ช่วงนี้มีทั้งฝ่ายคัดค้านเดินล่าลายเซ็นคัดค้าน... ฝ่ายก่อสร้างก็เดินเกมส์เข้าหาผู้นำชุมชน ล๊อบบี้อุตลุต... ผมยังอยากอยู่ที่นี้ อย่างสงบยังไม่อยากนอนหวาดระแวง... และผมว่าเมืองไทยยังไม่พร้อมสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์...ไม่ว่าจะสร้างที่ไหน คนไทยยังมีระเบียบวินัยต่ำ รัฐบาลก็จ้องจะหาผลประโยชน์กันทุกรัฐบาล... สร้างมาก็มีแต่ปัญหาตามมา... จากคุณ : Deerhunter เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:00:35

ความคิดเห็นที่ 3 มุมมองของผม ที่เชอร์โนบิลระเบิดจากแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เข้าใจว่าความขัดข้องของระบบหล่อเย็นและระบบการตัดการทำงานอัตโนมัติ ทำให้แท่งเชื้อเพลิงร้อนจนหลอมละลาย เกิดแรงดันปะทุขึ้น ปลดปล่อยรังสีเป็นจำนวนมาก แต่ที่ฟังข่าวของญี่ปุ่น โครงสร้างของเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ระเบิด เพราะระบบหล่อเย็นมีปัญหา แต่ระบบตัดการทำงานอัติโนมัติของปฏิริยาลูกโซ่ยังคงตัดการทำงานได้ (แต่ต้องใช้เวลานานกว่าเชื้อเพลิงจะเย็นลง ผมว่าน่าจะมีเชื้อเพลิงหลอมละลายแล้วปล่อยสู่บรรยากาศมั่งน่า)ฟังจากข่าวนะเค้าว่าระเบิดจากระบบหล่อเย็นทำให้กำแพงถล่ม ตามนั้น -----------------------------------------------------------------------------------เพิ่มคำว่าโครงสร้างครับ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 13:25:34 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:03:59

ความคิดเห็นที่ 4 ญี่ปุ่น เจอแผ่นดินไหว 9.0 แมกนีจูด(ปรับแล้ว)นะครับ โรงไฟฟ้าที่สร้างมาถึง 40 ปีถึงมีปัญหา ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในแนวแผ่นดินไหวรุนแรง เทคโนโลยีการสร้างก็ใหม่กว่าเขาตั้ง 40 ปี แล้วเราจะกลัวมากกว่าเขาอีกหรือ? วันดีคืนดีพม่าตัดแก็สแล้วจะบ่นกันไม่ทัน :P จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:05:33

ความคิดเห็นที่ 5  การออกแบบระบบ Reactor cooling ต่างกับของรัสเซียโดยสิ้นเชิง ต่างกัน ที่ระบบหล่อเย็นแยกเป็น Close Circiut 2 วงจร เอาความร้อนจาก Reactor ไปต้มน้ำร้อน .... วงจรหนึ่ง Steam ที่เอาไปใช้ปั่น Turbine .... แยกเป็นอีกวงจรหนึ่ง จึงมีรังสีปนเปื้อนต่ำมาก จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:06:12

ความคิดเห็นที่ 6    ภาพเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ในส่วนการทำงาน Reactor และ จุดที่ OverHeat 1..น้ำที่รับความร้อนจาก Reactor (เตาไฟ) D..หม้อต้มน้ำ เป็น Heat Exchager แลกเปลี่ยนความร้อน จาก "น้ำร้อนจาก 1..Steam"   2..Steam จากหม้อต้ม D  สังเกต ไอน้ำไม่สัมผัสกับ "น้ำ-ข้อ1" ออกแบบแยกเป็น 2 ชั้น แยกจากกัน ....(ตรงนี้ ต่างกับของ รัสเซีย ) J .. Cooling Tower หอระบายความร้อนน้ำ 3..ส่วนที่ปล่อยสู่ทะเล .. ไม่มีรังสี (มีต่ำมาก ในระดับที่ยอมรับ)   จะเห็นได้ว่า การออกแบบน้ำส่วนที่โดนรังสี Radiation โดยตรงเป็น Close Circiut จึงโดนรังสี .. น้อย ครับ    (จุดนี้ออกแบบต่างกับของรัสเซีย ที่เกิดอุบัติเหตุ) เครดิต..  (ใครสนใจเข้าไปอ่านเพิ่มเติมที่นี่) http://science.howstuffworks.com/nuclear-power3.htm จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:09:32

ความคิดเห็นที่ 7 'Hail Mary' pass เลยหรอ วาทกรรมลุงแซมนี่ไม่เบาเลยในเรื่องการสร้างอารมณ์ร่วม มันคงไม่ถึงขั้นสิ้นหวังขนาดนั้นมังครับ ผมว่าคนญี่ปุ่นเค้าสู้สุดใจเลยแหละ ------- 'Hail Mary' pass คือ เวลาที่ควอเตอร์แบค(คนปาลูกเปิดเกม) ถูกต้อนเข้าตาจนไม่รู้จะทำยังไงเลยปาลูกออกไปส่งเดช เผื่อฟลุคมีเพื่อนรับได้ ใช้ในเวลาสิ้นหวังแล้วเท่านั้น จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:22:58

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ฮิรุม่า ชอบใช้ครับ อายชีล21 จากคุณ : bas (buzdesign) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:45:59

ความคิดเห็นที่ 9 เชโนบิล สาเหตุเกิดจาก ความผิดพลาดของมนุษย์ ที่ต้องการทดสอบว่ามันสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากแค่ไหน แล้วมันเกิด โอเวอร์ฮีต ผิดพลาดทางเทคนิค จนควบคุมไม่ได้ แล้วก็ ตูม... กลายเป็นโกโก้ครั้น... ส่วนของญี่ปุ่น ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย ยิ่งใกล้กับทะเล มันจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากๆ ถ้ามีการปนเปื้อน ในสัตว์ทะเล มีหวัง ญี่ปุ่นอดกินปลาดิบกันทั้งชาติแน่ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 13:56:13 จากคุณ : Gin_tonic1989 เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 13:54:01

ความคิดเห็นที่ 10 เมกาพูดเหมือนซ้ำเติม ญี่ปุ่นเลยนะ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:04:50

ความคิดเห็นที่ 11 อ้างอิงความเห็นสอง เรื่องการกระทำที่สิ้นหวัง และความเห็นเพื่อนๆในกระทู้ล่างๆ สรุปว่า ญี่ปุ่นเค้าก็แค่สละเตาปฏิกรณ์ ยอมให้มันพัง ดีกว่าควบคุมความร้อนไม่ได้เท่านั้นเองนี่ครับ ถ้าจะสิ้นหวัง ก็คือสิ้นหวังที่จะกู้คืนสภาพเตาปฏิกรณ์เท่านั้นเอง ไม่ใช่สิ้นหวังกับสถานการณ์ที่เกิดจากแผ่นดินไหว จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:13:00

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้ซ้ำเติมหรอกค่ะ เป็นการแสดงความเห็นเชิงวิชาการมากกว่า ถ้าจริงดังที่พูด แสดงว่า ญี่ปุ่นสูบน้ำทะเลไปหล่อเย็นแกนปฏิกรณ์ที่กำลังร้อนจัดและกำลังจะหลอมละลาย แบบนี้ก็แปลว่า น้ำทะเลที่สูบไปฉีดนั้น มีสิทธิ์ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี จากแท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายและรั่วไหลแล้ว น้ำเหล่านี้จะไปไหน มันก็กลับไปสู่ทะเลนั่นแหละค่ะ ซึ่งมันก็อย่างที่ในข่าวบอกคือ เป็นการกระทำที่สิ้นหวังแล้วในตอนนั้น คือแท่งเชื้อเพลิงร้อนจัด เริ่มละลายไปแล้วบาง่ส่วน กำลังจะละลายเพิ่ม ทางการญี่ปุ่นไม่รู้จะยุติเหตุการณ์อย่างไร ก็เลยเสี่ยงดวงครั้งใหญ่ ด้วยการสูบน้ำทะเลฉีดหล่อเลี้ยงเพื่อไม่ให้มันหลอมละลาย ส่วนน้ำที่ฉีด ก็ปนเปื้อนไปเรียบร้อยแล้ว ก็เนืองนองอยู่แถวนั้นและก็ต้องไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในที่สุด ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นจริง ก็ถือว่าญี่ปุ่นเสี่ยงดวงครั้งใหญ่เลยทีเดียว จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:14:54

ความคิดเห็นที่ 13 ที่ฟุกุชิม่า ตอนนี้เป็นอุบัติเหตุ INES Level 4 อยู่ครับ  ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายแห่งในโลก ส่วนที่เชอร์โนบิล เป็นอุบัติเหตุ INES Level 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ที่เกาะทรีไมล์ เป็น INES Level 5 ที่ร้ายแรงกว่า http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_civilian_nuclear_accidents อีกอย่าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิม่านี้ สร้างมานานแล้ว  ใช้เทคโนโลยีเก่าซึ่งปลอดภัยน้อยกว่าโรงไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างไรก็ดี  เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่มนุษยชาติจะได้สะสมองค์ความรู้ เกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้มากขึ้น แล้วค่อยมาประเมินผลดีผลเสียกันอีกที และจัดการออกแบบวิธีการรับมือกับอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งต่อๆ ไป จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:15:09

ความคิดเห็นที่ 14 มีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติท่านไหนเสนอวิธีแก้ไขที่ดีกว่าเข้าไปรึยัง เห็นมีแต่พูดว่า โอย แบบนี้แย่แน่ๆ โอย วิธีนี้คือวิธีแบบสิ้นหวังแล้ว หรือพวกที่รู้วิธีแก้ไม่ได้ออกมาพูด แต่เข้าไปลงมือทำอยู่ เหลือแต่นักวิจารณ์ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 14:20:33 จากคุณ : Redder ครับ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:19:46

ความคิดเห็นที่ 15 ูู^ ^ ^ นึกถึงนักวิจารณ์เเถวบ้านเราเลยนะครับ เเบบนี้น่ะ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 14:22:53

ความคิดเห็นที่ 16 ผมถามง่ายๆ ไอ้ระบบที่ว่ามี safety แล้ว safety มันพัง ทำไง ไม่มีใครรู้ วิธีแก้ไข มีเหรอ คุณให้ safety แก้ไขนี่ แล้วใครจะไปเสนอได้เมื่อมันไม่มีsafety ทุกคนก็ได้แต่ ภาวนา ใช่ไหม (เวลาจะสร้างให้ได้ มั่นใจกันจังว่าsafety ไม่เป็นไร) ที่ว่าโดนรังสีน้อย ไม่ใช่คุณนี่ คนก็ลองไปโดน น้อยหรือมาก จากคุณ : You'll never walk alone เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:01:23

ความคิดเห็นที่ 17 Hail Mary ไม่ใช่การปาส่งเดชนะครับ เป็นการปาในแบบที่ว่า ในช่วงเวลาสุดท้ายของเกมส์ โดยที่หากทำคะแนนได้ จะเป็นฝ่ายชนะ คือ QB ก็จะปาสุดแรง WR ก็จะวิ่งสุดแรงไปยังจุดเป้าหมายที่ได้ซักซ้อมกันไว้ ซึ่งการปาสุดแรง กับวิ่งเต็มที่นั้น ถึงแม้จะซ้อมกันดีแค่ไหน มันก็ต้องมีระยะผิดพลาดอยู่แล้ว วิ่งเฉไปหน่อย ปาแรงน้อยไปหน่อย เพราะฉะนั้น แผนแบบนี้ มันเลยใช้ในเวลาจวนตัวเท่านั้ เพราะความแน่นอนมันต่ำนั้นเอง จากคุณ : หาดอย (ปากดี) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:22:26

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ก็ต้องมีระบบสำรองไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยตรวจเช็คสภาพเป็นระยะ เปลี่ยนอะไหล่เมื่อถึงเวลาเปลี่ยน ถ้าระบบหนึ่งพัง ก็ยังมีระบบสำรองครับ ยิ่งมีระบบสำรองมาก โอกาสที่มันจะเสียพร้อมกันยิ่งน้อย แต่ที่สำคัญคือต้องตรวจสภาพเป็นระยะ เปลี่ยน/ซ่อมตามกำหนดการ preventive maintanance ครับ จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:26:16

ความคิดเห็นที่ 19 คนหนึ่งพยายามดับไฟที่ไหม้บ้าน  แต่อีกพวกดันบอกว่าสิ้นหวังแล้ว  . . . .   สูบน้ำทะเลเพื่อใช้ในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์นี้มันสิ้นหวังอย่างไรครับ ตอนนี้มันมีอะไรที่เอามาใช้ในสถานการณ์นี้ได้ลองเสนอมาซิ  ลองเสนอแนวทางที่มันมีหวังให้หน่อยซิครับท่าน     บางคนบอกเอาน้ำทะเลมาใช้มักก้อไหลกลับลงทะเลปนเปื้อนเข้าไปอีก  เออ . . .หรือว่าเอาน้ำจืดน้ำประปามาหล่อเย็นนี้มันจะไม่ไหลไปปนเปื้อนแหล่งน้ำอื่นหรืองัยกันครับ   ผมว่าเจ้าของบ้านเค้าพยายามรักษาบ้านเค้าดีที่สุดแล้วละครับ จากคุณ : athit1975 เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:38:40

ความคิดเห็นที่ 20 Fukushima 1st nuclear power plant(No1-4 units) of TEPCO(Tokyo Electric Power co) FUKUSHIMA prf.JAPAN ภาพจาก http://www.panoramio.com/photo/46503912 จากคุณ : หนุ่มเมืองใต้ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:57:40

ความคิดเห็นที่ 21 .. ภาพจากhttp://www.panoramio.com/photo/46503912 จากคุณ : หนุ่มเมืองใต้ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:58:20

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพโรงไฟฟ้าเมื่อก่อน จากhttp://www.panoramio.com/photo/23265645 จากคุณ : หนุ่มเมืองใต้ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 15:59:32

ความคิดเห็นที่ 23 ^ เค้าไม่ได้ต่อว่ากันในแนวนั้นหนิครับ แต่เป็นการประเมิน ว่าเพื่อนกำลังลำบาก และดินรนเฮือกสุดท้าย ... บางทีความรู้สึกมากไป? จะว่าไป ถ้าเกิดอะไรขึ้น ที่มีการคาดการณ์ us จะได้รับผลเต็มๆ เพราะสมจะพัดไปทางนั้น แล้ว us ก็เป็นประเทศที่ส่้งผู้เชี่ยวชาญไปช่วย(และเป็นประเทศเดียวที่ญี่ปุ่นยอมรับ) .... ไม่รวมกับข่าวที่ว่ามีการส่งความช่วยเหลือพิเศษจาก us เข้ามา ผมว่าบางทีเค้าก็พูดด้วยความเห็นใจนะครับ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:00:55 A:124.120.226.211 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 24 東電福島第一原子力発電所(TEPCO Fukushima neclear power plant 1) ภาพจากhttp://www.panoramio.com/photo/35244478 จากคุณ : หนุ่มเมืองใต้ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:03:16

ความคิดเห็นที่ 25 ที่สูบน้ำทะเล ผมสงสัยจริงๆ ว่า ถ้าหากมันร้อนจนน้ำ ระเหย ก็จะได้เกลือ (ร่วมกับสารอื่นๆ) ที่เข้มข้นมากๆ .... มันจะช่วยนำความร้อนได้ดีมากๆ มั้ย ไม่รวมกับความสามารถในการกันรังสี? จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:03:30 A:124.120.226.211 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 26 แกนปฏิกรณ์ของ Fukashima ทั้งหมดเป็นแบบ BWR ครับ ซึ่งมีรูปแบบต่างจากรูปที่ แสดงในความเห็นที่ 6 ครับ จากคุณ : Away from Thailand เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 16:27:27

ความคิดเห็นที่ 27 แบบนี้ก็แปลว่า น้ำทะเลที่สูบไปฉีดนั้น มีสิทธิ์ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี จากแท่งเชื้อเพลิงที่หลอมละลายและรั่วไหลแล้ว น้ำเหล่านี้จะไปไหน มันก็กลับไปสู่ทะเลนั่นแหละค่ะ เขาสูบเข้าไปให้ท่วมไม่ใช่เหรอ ถ้าสูบเข้าไปถึงตรง Core แล้วคงไม่ถ่ายออกมาหรอก สูบเข้าไปขนาดนั้นก็เท่ากับว่าจะปิดตายเตาปฎิกรณ์นั่นแบบเอากลับมาใช้ใหม่ไม่ได้แล้วมั้ง ผมเข้าใจว่าตอนแรกๆที่ทำอยู่คือการยื้อเอาไว้เผื่อว่าถ้าทำได้จะสามารถรักษาเตาปฎิกรณ์กลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ตอนนี้มันเริ่มเอาไว้ไม่อยู่ก็เลย Flood มันเสียเลย ซึ่งน่าจะลดอุณหภูมิได้แน่แต่การเอากลับมาใช้ใหม่คงยากมากๆ ถ้ามันยังไม่ได้ผลอีก ก็คงต้อง Seal ทั้งตึกทิ้งไปเลย อันนี้เอากลับมาใช้ไม่ได้แน่ๆ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 17:04:41

ความคิดเห็นที่ 28 สงสัยว่า ถ้าน้ำทะเลเดือดแล้ว เหลือแต่แร่ธาตุ เช่นเกลือ ... เมื่อถึ่งอุณหภูมิ 800c แล้ว เกลือจะหลอมเหลวไปรวมกับแกนมั้ยครับ? จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 17:10:40 A:124.120.226.211 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 29 #27 ถูกต้องครับ เขาสูบน้ำเพื่อให้ท่วมเตาปฎิกรณ์แบบปิดตายเลยครับ แต่อ่านความเห็นบนเหมือนคิดว่าเขาเอาไปฉีดใส่เตาปฎิกรณ์ เหมือนฉีดล้างรถแล้วน้ำมันไหลลงท่อหรือทะเล จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:17:53

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็เข้าใจว่าสิ้นหวังที่ใช้น้ำทะเลในที่นี้คือ มันจะทำให้เตาปฏิกรณ์เสียหายไปเลย จากคุณ : hoheno3 เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:20:03

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่แปลกที่คนให้ข่าวนี้จะพูดแบบนั้นครับ เพราะเขาอยู่ในองค์กรจำพวก anti nuclear จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:42:18

ความคิดเห็นที่ 32 ผู้นำญี่ปุ่นยืนยันเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่เหมือนที่เชอร์โนบิล (สงสัย คงเข้ามาแอบอ่าน หว้ากอแหงม อิอิ) โตเกียว 13 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีนะโอโตะ คัง ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า วิกฤตินิวเคลียร์ที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นแบบเดียวกับหายนะภัยที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนเบิลเมื่อปี 2529 สำนักข่าวจิจิ เพรส อ้างผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า  มีการแผ่รังสีในอากาศ แต่ไม่มีรายงานว่ามีปริมาณมาก  ดังนั้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่มีความแตกต่างโดยพื้นฐานจากอุบัติเหตุที่โรงไฟ ฟ้าเชอร์โนบิล  แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็กำลังดำเนินการเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากแพร่ของ รังสี ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 65 ปีตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2  และว่าอนาคตของญี่ปุ่นจะถูกตัดสินจากการตอบสนองต่อวิกฤติการณ์ในครั้งนี้.- สำนักข่าวไทย http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/180988.html จากคุณ : tzu149 เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 18:56:38

ความคิดเห็นที่ 33 จุดประสงค์ของการสูบน้ำทะเลเข้าไป เพื่อระบายความร้อนแท่งเชื้อเพลิงที่กำลังจะหลอมละลายด้วยค่ะ ถ้าสูบเข้าไปอย่างเดียว แล้วความร้อนจะระบายออกทางไหนล่ะ เอาแช่น้ำไว้อย่างเดียว แกนแท่งเชื้อเพลิง มันก็ยังร้อนและละลายอยู่ดี จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 19:37:26

ความคิดเห็นที่ 34 "การกระทำที่สิ้นหวัง" ของฝรั่ง หมายถึง ตอนนี้กำลังเกิดเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้า มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จึงจำเป็นต้องใช้หนทางสุดท้าย ที่ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนั้น แต่มันก็ต้องยอมแล้ว เพราะหมดสิ้นหนทางอื่นแล้ว จึงจำต้องกระทำ เปรียบเหมือน ไฟกำลังไหม้ตึกอยู่ ท่อน้ำดับเพลิงหลัก ไม่ทำงาน ท่อประปาสำรอง ไม่ทำงาน รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง หมดสิ้นหนทางแล้ว มองไปมองมา เจอคูบ่อน้ำครำอยู่ข้างๆ มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ก็จำต้องยอมสูบน้ำครำไปฉีดเลี้ยงตึกไว้ค่ะ น้ำทะเลที่ฉีดเข้าไป เพื่อระบายความร้อน มันต้องมีการดึงกลับออกมา เพื่อระบายความร้อน แต่เนื่องจากไม่ใช่กรณีปกติ บ่อกักเก็บเพื่อบำบัดสภาพน้ำก่อนปล่อยกลับลงทะเลก็ไม่มี จะปล่อยให้เนืองนองอยู่ก็ใช่ที บางส่วนที่ระเหยเป็นไอ ก็อาจนำพาสารปนเปื่อนระเหยติดไปกับไอน้ำ บางส่วนก็คาดว่าจะทะลักลงทะเล แต่อย่างไรก็ดี มันก็ต้องจำยอมทำเช่นนั้น เพราะไม่งั้นแกนแท่งเชื้อเพลิงละลาย สารกัมมันตรังสีจะรั่วไหลเข้มข้นกว่านี้อีก ตอนนี้เขาจึงยอมขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แล้วค่อยตามไปบำบัดน้ำปนเปื้อนทีหลัง จะเห็นได้ว่า ทางการญี่ป่นสั่งอพยพผู้คนออกไปแล้ว มีการออกคำเตือนเรื่องระบบทางเดินหายใจ และเครียมแจกจ่ายยาต้านรังสีแล้วด้วยค่ะ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 19:57:27

ความคิดเห็นที่ 35 （−＿−；） บ้านเราอยู่ในเขต 200 กิโลที่อาจจะได้รับสารกัมมันตภาพรังสีเต็มๆ( ถ้าโดน )  ตอนนี้แผ่นดินไหวไม่กลัวเท่าสารกัมมันตภาพรังสี( *｀ω´) พรุ่งนี้ที่บ้านก็จะโดนตัดไฟ  มันมีอะไรที่อยากทำยังไม่ได้ทำอีกเยอะ ขอภาวนากับพระเจ้าว่าอย่าได้เกิดอะไรที่ร้ายแรงไปกว่านี้เลย จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 20:27:26

ความคิดเห็นที่ 36 เอามาจากที่ตัวเองตอบข้างบน การเอาน้ำใส่เข้าไปจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อระบายความร้อน แต่เป็นการลดอัตราการเกิดปฎิกิริยาของ Fuel Rod ครับ การใส่ Boron เข้าไปก็เพื่อดูด Neutron โดยตรงครับเป็นวิธีลดปฎิกิริยาที่เร็วกว่า Control Rod ดังนั้นตอนนี้ที่เขาทำคือ Flood ตัวแกนของเตาด้วยน้ำทะเลผสมโบรอน คงไม่ระบายออกมาแล้วครับ ในกรณีนี้ความร้อนน่าจะลดลงได้เร็วเพราะเป็นการลดอัตราการเกิดปฎิกิริยาโดยตรง ตอนแรกที่เขาทำคือพยายามลดอุณหภูมิแต่ไม่ได้ลดอัตราการเกิดปฎิกิริยา(ปล่อยให้มันลดไปเอง) แต่พอมันไม่ได้ผลเขาก็ผนึกเตาเลย ถ้ายังไม่ได้ผลอีกก็ต้องเอาปูนโบกปิดตายล่ะครับ Safety Injection/Standby Liquid Control A nuclear reaction can also be stopped by injecting a liquid which absorbs neutrons directly into the core. In boiling water reactors this usually consists of a solution containing boron (such as boric acid), which can be injected to displace the water in the core. A signature of pressurized water reactors is that they use a boron solution to control the reaction in addition to control rods and so the concentration is simply increased to slow or stop the reaction. http://en.wikipedia.org/wiki/Nuclear_safety_systems#Safety_Injection.2FStandby_Liquid_Control จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 20:36:22

ความคิดเห็นที่ 37 สาร Boron นี่หรือปล่าวที่ญี่ปุ่นขอความช่่วยเหลือจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นสารหล่อเย็น จากคุณ : ไข่ทอดชะอม เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 21:09:03

ความคิดเห็นที่ 38 แกนปฏิกรณ์หยุดการทำงานไปแล้วตั้งแต่หลังเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากการใส่แท่ง ควบคุมอัตโนมัติโดยระบบฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามแม้อันตรกิริยาจะหยุดแล้ว แต่ยังมีความร้อนสะสมอยู่ในแกนปฏิกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชื้อเพลิงอันเนื่องมาจากการสลายตัวของสารรังสีอันเป็นผลพลอย ได้จากกอันตรกิริยาการแตกตัว อย่างไรก็ตามความร้อนส่วนนี้จะลดลงไปตามลำดับ เนื่องจากสารรังสีดังกล่าวจะสลายตัวหมดไป หากแกนปฏิกรณ์ปฏิบัติการที่ 100% กำลังสูงสุดก่อนหยุดการทำงานฉุกเฉิน ภายในชั่วโมงแรกกำลังจะลดลงเหลือประมาณ 10% และจะลดลงในอัตราเอกซ์โปเนเนเชียล ในกรณี Fukushima I หน่วยแรกซึ่ง เป็น BWR ขนาดกำลังสูงสุดประมาณ 400 MW ในทันทีจะลดค่ากำลังเหลือราว 40 MW ซึ่งมากพอจะหลอมละลายเชื้อเพลิงหากไม่มีการระบายความร้อนนี้ออก (จุด หลอมเหลวของเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 2500 K นี่จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องมี ระบบสำรองไฟฉุกเฉินเพื่อป้อนปั๊มระบายความร้อน อย่างไรก็ตามปรากฏว่าเครื่อง ยนต์ดีเซลที่ใช้กำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉินได้รับความเสียหายเนื่องจากสุนามิ คงมีเพียง แบตเตอรีที่ใช้สำรองไฟได้เพียงประมาณ 8 ชั่วโมง หลังระยะเวลาดังกล่าว การ ตรวจพบสารรังสีซีเซียมและไอโอดีนซึ่งไม่ควรมีปรากฏเพราะเป็นผลพลอยได้จาก อันตรกิริยาการแตกตัวที่ควรถูกกักเก็บในหลอดเซอร์โคเนียมที่ใช้บรรจุเม็ดเชื้อเพลิง ย่อมแสดงว่ามีความเสียหายเกิดกับเชื้อเพลิงแล้ว กรณีการเกิดการเผาใหม้ไฮโดรเจนนั้นเป็นเพราะไอน้ำอุณหภูมิสูงสามารถแยกตัว เป็นไฮโดรเจนและออกซิเจนอิสระ ยิ่งเมื่อเซอร์โคเนียมมีอุณหภูมิสูงใกล้จุดหลอมเหลว จะเกิดออกซิเดชันเป็นผลให้เกิดไฮโดรเจนอิสระมากขึ้น เมื่อมีความพยายามลด ความดันในคอนเทนเมนต์โดยการปลดปล่อยไอน้ำออกมา จึงเกิดการสะสมของ ไฮโดรเจนในอาคารบรรจุแกนปฏิกรณ์และนำไปสู่การระเบิดในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทาง TEPCO ยืนยันว่าคอนเทนเมนต์และแกนปฏิกรณ์ที่อยู่ในอาคารไม่ได้รับความเสียหาย แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 21:10:54 จากคุณ : Away from Thailand เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 21:09:52

ความคิดเห็นที่ 39 ในกรณีที่ปั๊มระบายความร้อนฉุกเฉินไม่ทำงาน น้ำที่ีเหลืออยู่ในแกนปฏิกรณ์จะเดือดและ ความดันในแกนปฏิกรณ์จะเพิ่มขึ้นกระทั่งอาจเกิดความเสียหายกับแกนปฏิกรณ์และเชื้อ เพลิงภายใน เพื่อลดความดันจึงระบายไอน้ำปนเปื้อนรังสีออกสู่อาคารภายนอก ปัญหาคือกระบวนการนี้นอกจากอาจทำให้เกิดการสะสมของไฮโดรเจนตามที่บรรยาย แล้ว ยังเป็นการสูญเสียน้ำหล่อเย็นในระบบ คาดว่าขณะนี้น้ำที่เหลืออยู่ไม่พอใช้หมุน เวียนระบายความร้อน จึงจำเป็นต้องใช้น้ำทะเล โบรอนที่ผสมเป็นสารดูดจับนิวตรอน เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่เพิ่มเข้าไปในระบบไม่มีผลหน่วงความเร็ว (ลดพลังงาน, moderate) นิวตรอนกระทั่งแกนปฏิกรณ์กลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตกล่าวคือเริ่มอันตรกิริยาการแตกตัวอีก เนื่องจากน้ำทะเลมีสารปนเปื้อนมากมายทำให้มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนรังสีสูง ขณะที่น้ำบริสุทธิ์เกิดอันตรกิริยากับนิวตรอนน้อยมาก การใช้น้ำทะเลย่อมมีผลให้มี ความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารรังสีซึ่งจะมีผลต่อการทำความสะอาดในภายหลัง อย่างไรก็ตามหากทำได้ น้ำปนเปื้อนสารรังสีเหล่านี้ต้องถูกกักไว้ในอาคาร ไม่ควรถูก ปลดปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมโดยไม่มีการบำบัด แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 21:29:04 จากคุณ : Away from Thailand เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 21:27:48