ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าไทยโดน นิวเคลียร์ ซักเม็ดนึงเหมือนญีุ่ปุ่นสมัยก่อน ก็น่าจะเห็นความแตกต่างในปัจจุบัน หมายเหตุ : คห 3 ผมไม่ได้บอกว่าเหมือน บอกแค่ว่าแตกต่าง -*- แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 01:05:04 จากคุณ : TheCoreZa เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 04:09:03

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเทียบกับญี่ปุ่น ในเรื่องความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ระเบียบวินัย  สปิริต ประเทศใหนในโลกก็คงเทียบยากครับ ขนาดฝรั่งตะวันตก ยังยอมให้เลยครับ คนไทยจริงๆน้ำใจดีครับ แต่เหมือนไม่มีใครมาช่วยจัดระเบียบสังคม ทำให้ต่างคนต่างอยู่ เอาตัวรอด คนรวยก็รวยเอา คนจนก็จนติดดิน เห็นภาพคอนโดหรู อยู่ข้างสลัมทั่วกรุงเทพ จากคุณ : พิซซ่าหน้าปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 04:13:08

ความคิดเห็นที่ 3 เราเห็นต่างจากคห.1นิดนึงค่ะ คือ ถ้าประเทศไทยโดนนิวเคลียร์ แพ้สงคราม หรืออะไรก็ตาม นิสัยคนไทยก็ไม่เหมือนคนญี่ปุ่นหรอกค่ะ เราฟื้นไม่ได้แบบเค้าหรอก ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราก็เคยเป็นเมืองขึ้น พอได้อิสระกลับไม่ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิม เชอร์โนบิลระเบิดคนก็ไม่ได้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้มันขึ้นกับรากฐานที่สั่งสมมาแต่โบราน ปัจจัยเล็กๆน้อยๆมากมายมันค่อยๆสร้างนิสัยประจำชาติคนขึ้นมา จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 04:35:09

ความคิดเห็นที่ 4 จะทำให้ ประเทศเจริญ ทรัพยากรที่สำคัญ ไม่ใช่ เงินทอง ธรรมชาติ หรือ การศึกษา อย่างที่ใครๆเข้าใจ แต่อยู่ที่ ทรัพยากรบุคคล ที่พัฒนามาด้วย วินัย (แน่นอนว่า แม่การศึกาาจะต่ำ ก็ยังเป็นคนที่มีคุณภาพ) การศึกษาสูง แต่ วินัยต่ำ เราเห็นอยู่ในความจริงของสังคม แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 04:47:43 จากคุณ : แล้วแต่ทางท่านจะเรียกแล้วกันนะ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 04:46:37

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงนี้มีกระทู้เกี่ยวเรื่องวินัยของคนญี่ปุ่น แล้วหลายๆคนก็เอามาเปรียบเทียบกับคนไทยเยอะมาก แทนที่จะมาบ่น ต่อว่า ตำหนิ ฯ ดิฉันว่า พวกเราที่ได้รับข่าวสารเรื่องวินัยหรือข้อดีๆต่างๆของญี่ปุ่น   มาเริ่มต้นปรับปรุงตัวเลียนแบบข้อดีๆของพวกเขาดีกว่า เริ่มต้นจากตัวเราเอง แล้วบอกต่อลูกหลาน  คนใกล้ชิด บางครั้งพวกเราอาจยังทำไม่ได้ดีเท่าพวกเขา ก็อย่าเพิ่งตำหนิ ติเตียนกัน   เพราะอย่าลืมว่า พื้นฐานดั้งเดิมของพวกเรานั้นไม่ได้ถูกฝึกมาช้านานอย่างพวกเขา ถ้าทุกคนคาดหวังกันว่า  วันนี้พวกเราจะเริ่มต้นไว้  แล้วพวกเราจะให้คนอีกรุ่นมาสานต่อ ดิฉันก็เชื่อว่า อีกไม่นานพวกเราคนไทยก็ทำได้อย่างคนญี่ปุ่นค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็เริ่มต้นเลียนแบบพวกเขาแล้วนะคะ อาจทำได้ไม่ดีนักแต่ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ และอาจเป็นแค่คนส่วนน้อยที่เริ่ม  แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีคนเริ่มต้นเลย    ช่วยๆกันนะคะ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 05:07:41

ความคิดเห็นที่ 7 ท่านเจ้าของกระทู้ เดาว่าอายุยังน้อย อย่าเพิ่งเสียใจในความไม่เป็นระเบียบของเราเลยครับ เรื่องระเบียบวินัย เช่นเรื่องของการเขาคิว เราดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากครับ เมื่อก่อนไม่มีการเข้าคิวครับ แย่งกันอยู่หน้า เคาเตอร์ครับ เราแย่งกันขึ้นรถเมล์ด้วยครับ รถมันน้อยครับ ความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี ก็ยังมีอยู่ครับ ทุกวันนี้ผมทำกับข้าว ก็จะเอาไปให้ข้างบ้านลองชิมอยู่เลย ข้างบ้านไปเที่ยวมาก็มีของฝากเสมอ ตามต่างจังหวัดก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ครับ ท่านอาจจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมือง คงจะไม่เคยเห็นครับ คนในเมืองใหญ่เขาขี้ระแวงครับ ลองดูก็ได้ครับ เดินไปทักคนที่ไม่รู้จักด้วยประโยคพื้นๆ เช่น สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ สิ่งที่คุณจะได้รับ ก็คือสีหน้าที่ดูระแวงว่า เจ้านี่มันจะมาชวนตูไปฟังขายตรงหรือเปล่าหว่า ก็เลยไม่ค่อยมีใครอยากพูดกับใครครับ ท่านเจ้าของกระทู้ อาจจะโตมาไม่ทัน ยุคของการโยนขยะออกนอกหน้าต่างรถไม่ใช่เรื่องที่ต้องถูกตำหนิ การขนลูกชิ้น ปลาหมึก สารพัดของกิน เข้าไปนั่งโจ้ในโรงหนังเป็นเรื่อง ธรรมดา การส่งเสียงเชียร์พระเอก ก่นด่าตัวร้าย ในโรงหนัง ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดว่าเป็นการรบกวนใคร แน่นอนครับ เราสูบบุหรี่กันในโรงหนังด้วย บนรถประจำทางเหรอครับ เรามีคำเตือนแขวนไว้ว่า ระวังบุหรี่ไหม้เบาะ ผมขอยืนยันว่ามารยาททางสังคมของคนไทยดีขึ้นครับ พอส่งผ่านไปถึงรุ่นลูกของท่าน จขกท มันก็จะดีกว่านี้อีกครับ อย่ากังวลไปเลยครับ จากคุณ : สิบเอกกองหนุน เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 06:05:57 A:118.173.105.163 X: TicketID:136335

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ ว่าทำไมถึงแตกต่าง แต่ว่าถ้าอยากเหมือน ก็ทำสิครับ เริ่มจากตัวเราเอง แล้วก็บอกคนใกล้ตัวไปเรื่อยๆ จากคุณ : ZEROSUM เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 06:06:47

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆหลายๆคนมักจะพูดว่าเริ่มจากตัวเราก่อน ผมก็พยายามทำครับ แต่เวลาที่เห็นคนอื่นทำอะไรเสียๆแล้วมันนึกน้อยใจ จะเดินเข้าไปบอกเค้าตรงๆกลัวจะโดนด่ากลับมา ไม่รู้ว่าเมื่อไรคนไทยจะคิดได้ซักที คงได้แต่พูดว่า มันมีแค่ "ส่วนน้อย" ที่ยังคิดได้ แต่มันก็น้อยจนหาแทบไม่เจอ เพราะทุกวันนี้เิดินไปที่ไหนก็เจอแต่ "ส่วนมาก" จากคุณ : Pikaboy เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 07:19:09

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องต่อคิวของคนไทยเดี๋ยวนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนไทยจะมั่วยิ่งกว่านี้อีก เรื่องคนกดลิฟท์ที่ออกก่อนไม่ยอมออกคนสุดท้าย ผมว่าไม่น่าผิดอะไรนะ เพราะลิฟท์เดี๋ยวนี้ก็มีเซ็นเซอร์อยู่แล้ว ไม่ต้องกดมันก็จะเปิดจนไม่มีอะไรผ่านประตูถึงปิด คนที่เห็นจขกท.กดลิฟท์ไม่อมออกคงมองแบบงงๆเหหมือนกัน จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 07:48:38 A:58.64.64.217 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 11 คุณภาพคนมันต่างกัน จากคุณ : [T]ango[A]lpha เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 07:56:40

ความคิดเห็นที่ 12 อยากให้ gift ท่านความเห็น 7 ที่ชวนมองไปอีกด้านนึงที่อ่านแล้วคิดตาม เออ มันก็มีส่วนจริงบ้างแฮะเพียงแต่มันก็จะเป็นธรรมเนียมแบบที่คนเมืองในชั้นที่มีการศึกษาพอสมควรยึดปฏิบัติ อย่างถ้าคุณเดินบนทางเท้าแถวๆ ที่เป็นย่านตึกออฟฟิซอยู่หนาแน่น คนจะเดินชิดขวา ไม่ค่อยมีมั่วมาเดินซ้ายให้ชนกับคนที่เดินสวนมา แต่บางที่แค่ห่างออกมา 500 เมตรเป็นย่านปกติแค่นี้บางทีก็เริ่มมั่วแล้วครับ เดินสวนกันเปะปะ ระดับการศึกษาน่าจะมีส่วนอย่างมากครับ ส่วน จขกท. ตอบสั้นๆ นะครับ "อย่าไปหวังมารยาทอะไรจากเด็กวัยรุ่นมากครับ" จากคุณ : dragunov เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:14:18

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่มีแม่ชีปัดระเบิด ไทย คงโดน 1 เม็ด แล้ว คนไทย จะเปลี่ยนไป หุๆ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:23:11

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่ถือนะเรื่องอย่างนี้  เจอจนชินเป็นเรื่องปกติเเล้ว ~~ จากคุณ : NON@AT1 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:25:58

ความคิดเห็นที่ 15 ลิฟท์ตัวนั้นมันมีระบบป้องกันหนีบคน จากคุณ : มังกรใจเย็น เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:26:48

ความคิดเห็นที่ 16 ไปอยู่ญี่ปุ่น จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:29:58

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าไทยโดน นิวเคลียร์ ซักเม็ดนึงเหมือนญีุ่ปุ่นสมัยก่อน ก็น่าจะเห็นความแตกต่างในปัจจุบัน จากคุณ : TheCoreZa ***** ถ้าดูจากอดีตแล้ว ตอบได้ทันทีเลยว่า ไม่มีทางครับ เหมือนเดิมนี่แหละ 666 ***** วัฒนธรรมการปกครอง การใช้ชีวิต ต่างกันมาเป็นพันปีแล้ว อย่าไปดูอื่นไกล เอาแค่ในห้องนี้ก็พอ เรื่องการแหกกฏระเบียบที่เจ้าของบ้านตั้งไว้ ถ้านับจากอดีต ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ลดลงเลยซักนิดเดียว 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:34:40

ความคิดเห็นที่ 18 คนไทยรักสนุก ชอบสบาย พอต่อมารับเอาวัฒนธรรมฝรั่งเข้ามาเลือกรับที่ มือใครยาวสาวได้สาวเอา  แข่งขัน เร่งรีบ แต่พอทำงาน ไม่เอาของเขาที่เคร่งครัด ทุ่มเท ยังคงรักสนุก ชอบสบายอยู่ จากคุณ : Roselines เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:50:15

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่ อย่างเช่นการพูดเรื่องมารยาทในสังคมในห้องวิทยาศาสตร์อย่างหว้ากอ จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:56:00

ความคิดเห็นที่ 20 เค้าก็มีอย่างเค้า เราก็มีอย่างเรา เค้าก็มีส่วนดี เราก็มีส่วนดี เค้าก็มีส่วนเสีย เราก็มีส่วนเสีย จะให้เอาข้อดีของทุกชาติมารวมไว้ที่เรามันเป็นไปไม่ได้ ทำตัวของเราให้ดีก่อน ค่อยไปถามหาความดีจากคนอื่น จะดีกว่าไหมครับ จากคุณ : Toh loneliness เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 08:59:11

ความคิดเห็นที่ 21 ที่ไหนในโลกก็มีคนแบบนี้ทั้งนั้นละครับ จากคุณ : Heimdall เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:17:51

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าคุณผ่านไปอนุสาวรีย์ อย่างน้อยคุณจะเห็นคนต่อแถวเพื่อขึ้นรถตู้ เป็นแถวยาว ๆ มาก ๆ จากคุณ : RadXlll เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:25:40

ความคิดเห็นที่ 23 คุณต้องอ่านหนังสือเรื่อง ลูกชาวนา เป็นเรื่องของครูที่ย้ายไปสอนหนังสือในเขตชนบท คุณจะได้เห็นความมีน้ำใจของคนชนบท และความเห็นแก่ตัว  เอารัดเอาเปรียบของพ่อค้าที่ชื่อแปะฮง จากคุณ : นางสเตนเลส เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:44:04

ความคิดเห็นที่ 24 คนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง --> เพราะไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร คนไทยไร้ระเบียบวินัย --> เพราะไม่เคยแพ้สงคราม ตรรกะขั้นเทพ... เวลาเราสอนลูกเราเรื่องระเบียบวินัยและมารยาทสังคม เมื่ออยู่ที่บ้านลูกเชื่อฟังเราเข้าใจและทำตามเป็นอย่างดีเยี่ยม แต่พอไปนอกบ้าน ลูกถูกเด็กคนอื่นแย่งของเล่น แซงคิว ฯลฯ เค้ารู้สึกสับสนไม่มั่นใจในสิ่งที่เราสอน และที่สำคัญคือเจ็บใจ! เราก็ได้แต่ยืนยันกับลูกว่าสิ่งที่เค้าทำ สิ่งที่พ่อแม่สอนน่ะถูำกต้องแล้ว...เฮ่อ รู้สึกสั่นคลอนกับสิ่งที่เราปลูกฝังกับลูกนะ แต่เราจะเก็บลูกไว้แต่ในบ้านไม่ได้ ก็เลยต้องคอยพูดคุยกันถึงสิ่งต่างๆที่เค้าได้เจอทุกๆวัน แล้วสอนเค้าไปตามเหตุการณ์ จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:49:17

ความคิดเห็นที่ 25 ญี่ปุ่นเขาปลูกฝังความมีระเบียบวินัยตั้งแต่เด็กอนุบาลเลยค่ะ กระเป๋านักเรียนต้องถือเอง ต้องหัดช่วยเหลือตัวเอง รู้จักอดทน ส่วนไทยเราจะเน้นทำให้เด็ก โอ๋เด็ก กลัวเด็กลำบาก เพราะคิดว่าเขายังเด็ก ยังไม่โต ทำให้จนเคยตัวค่ะ จากคุณ : bmix เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 09:59:34

ความคิดเห็นที่ 26 เอาเหตุการณ์คนละเหตุการณ์เปรียบเทียบพฤติกรรมคนต่างที่ไม่ได้นะครับ ถ้าหากจะเปรียบเทียบ ก็เปรียบเทียบตอนเิกิดสึนามิในบ้านเรากับที่ญี่ปุ่นดูครับ น่าจะพอเปรียบเทียบได้ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 10:11:38 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:11:11

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ต้องญี่ปุ่นหรอกครับ ผมไปอยู่อังกฤษมา ทุกคนทำตัวเป็นระเบียบมาก ไม่เคยเดินข้ามถนนได้สบายๆอย่างนี้ในไทยเลย รอรถเมล์ก็ยังยืนต่อแถว -.- แถมยังค่อนข้างเป็นมิตรด้วย ผิดกับอิมเมจที่คิดไว้พอสมควร 555 เพิ่งเคยเจอคนเรียกให้แซงคิวเพราะว่าเขาซื้อของเยอะกว่าเราก็ที่นี่เป็นที่แรก คำพูดที่ผมได้ยินบ่อยที่สุดเมื่อออกไปข้างนอกคือ thank you, sorry และ cheer (ตอนแรกตกใจ นึกว่าโดนด่า 555) ไม่ว่าใครจะทำอะไรให้ก็ขอบคุณไปซะหมด รับเงินทอนจากพนักงานก็ขอบคุณ บ๋อยเอาข้าวมาเสริฟก็ขอบคุณ เดินลงจากรถเมล์ก็ขอบคุณคนขับ ตอนนี้กลับไทยมาแล้วก็เลยติดนิสัยขอบคุณดะไปเลย ดังนั้น ถ้ามีใครมาบอกผมว่าคนไทยนิสัยนอบน้อมที่สุดแล้วล่ะก็ ตอนนี้ผมคงจะต้องคิดนานหน่อยแล้วล่ะครับ จากคุณ : angel13th เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:40:32

ความคิดเห็นที่ 28 จะให้เอาข้อดีของทุกชาติมารวมไว้ที่เรามันเป็นไปไม่ได้ ทำตัวของเราให้ดีก่อน ค่อยไปถามหาความดีจากคนอื่น จะดีกว่าไหมครับ จากคุณ : Toh loneliness ***** แต่เอาข้อด้อยของทุกชาติมารวมกัน ทำได้ไม่ยาก ???? จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:44:28

ความคิดเห็นที่ 29 โดน 10 เม็ด  ก็ไม่เปลี่ยนหรอก คนญี่ปุ่น เค้าเป็นอย่างนั้นของเค้ามานานแล้ว ไม่งั้น  จะสร้างกองทัพ เพื่อจะครองโลกได้ไง น้ำมันปาล์ม ยังแย้งกันจะซื้อ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:45:53

ความคิดเห็นที่ 30 อย่าเอาวิถีชีวิตทิ่คุณพบในกรุงเทพมาเหมารรมคนทั้งประเทศไทยเลยครับ จากคุณ : Firecat เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:47:23

ความคิดเห็นที่ 31 เดาทั้งนั้นล่ะครับ ยังไงผมก็เชื่อมั่นในคนไทยครับ ถ้าจะสมมุติ ก็สมมุติว่าคนไทยผ่านไปได้ครับ ไม่คิดว่าเป็นการหลอกตัวเอง ผมว่าการหลอกตัวเองคือ การนั่งด่าคนไทย ด่าประเทศไทย แต่ลืมมองตัวเอง ที่จขกท.เล่ามา ต้องย้อนถามว่า ในชีวิตคนตั้งกระทู้มีมั๊ยครับ ที่ยืนเข้าแถวแล้วไม่มีคนแซงคิว ช่วยบังประตูลิฟท์ หรือช่วยอะไรก็ได้ แล้วไม่มีคนขอบคุณมาตลอดชีวิตคุณ ถ้าเป็นทุกครั้งในชีวิต ค่อยสรุปดีมั๊ยครับ ทุกที่มีดีมีเลวครับ จากคุณ : ง่ายไปเพ่ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:48:15 A:124.120.190.10 X: TicketID:309467

ความคิดเห็นที่ 32 งั้นต้องโทษแม่ชี  ที่ทำให้ประเทศไม่พัฒนา จากคุณ : toro pazzo เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:49:50

ความคิดเห็นที่ 33 จะให้เอาข้อดีของทุกชาติมารวมไว้ที่เรามันเป็นไปไม่ได้ ทำตัวของเราให้ดีก่อน ค่อยไปถามหาความดีจากคนอื่น จะดีกว่าไหมครับ จากคุณ : Toh loneliness ***** แต่เอาข้อด้อยของทุกชาติมารวมกัน ทำได้ไม่ยาก ???? จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 10:56:26

ความคิดเห็นที่ 34 ผมว่าสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตมีส่วน ผมเจอคนญี่ปุ่นจำนวนมากที่มาอยู่ เมืองไทยทั้งมาทำงาน ประกอบธุรกิจ มีเมียเป็นคนไทย เชื่อไหมตอนแรกๆเป็นญี่ปุ่นจ๋า พออยู่ไปโดนวัฒนธรรม การใช้ชีวิต สังคมไทยกลืนกินซะเรียบร้อยโรงเรียนไทย ไอ้ความมีระเบียบวินัย เรียบร้อยหายเกลี้ยง เหมือนคนโดนเก็บกดจากหน้าเป็นหลังมือ ดังนั้นสรุปได้ว่า....ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่สภาพสังคมโดยรวมมากกว่า จากคุณ : /*- เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:14:42 A:58.136.229.131 X: TicketID:307418

ความคิดเห็นที่ 35 เอาง่ายๆคนไทยกินเเมคโดนัลด์เสร็จ ยังไม่เอาถาดไปเททิ้งเลย รอให้พนักงานมาเก็บเอง จากคุณ : เฮียเล้ง เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:16:34

ความคิดเห็นที่ 36 ทฤษฎีผม ตัวการคือ ละครหลังข่าว ! จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:32:36

ความคิดเห็นที่ 37 จิตสำนึกสาธารณะ กับ ความโอบอ้อมอารี มันไม่เหมือนกันครับ เอาง่ายๆ ความโอบอ้อมอารีของคนไทยจะหายไปทันทีเมื่อ มีคำว่า "ผลประโยชน์ส่วนตัว" เข้ามาเกี่ยวข้อง  แต่จิตสาธารณะนั้นคือการยึดถือ "ผลประโยชน์ส่วนรวม หรือ ผลประโยชน์ของชาติ" เป็นใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นสังคมที่ตกผลึกทางความคิดแล้ว ประชาชนก็จะตระหนักโดยไม่รู้ตัวว่า สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ส่วนรวมกับส่วนตัวมันก็เป็นสิ่งเดียวกันนั่นเอง หากส่วนรวมได้ประโยชน์ คนทุกคนก็จะได้ประโยชน์เหมือนกัน จากคุณ : praphrut608 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:41:28

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อวานดูข่าวเกี่ยวกับระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นนี่แหละ เท่าที่จำได้ เค้าบอกว่าตั้งแต่ WW2 เค้าได้ถ่ายทอดและปลูกฝังความเป็นระเบียบวินัยนี้ต่อเป็นรุ่นๆ คนที่ญี่ปุ่นที่เค้ามาอยู่ที่ไทย ให้สัมภาษณ์ว่าทุกวันนี้เค้าก็ปลูกฝังความเป็นระเบียบวินัยนี้ให้กับลูกๆของเค้า ซึ่งตอนนี้ก็อาศัยอยู่ในประเทศไทย จากคุณ : prikwhan83 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 11:56:28

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่าจริงๆแล้ว เราเป็นชาติที่มีระเบียบวินัย ดีมาก่อนนะครับ เพียงแต่เราชอบหา "ข้ออ้าง" เพื่อจะไม่ทำอะไรดี ทุกครั้งที่ขึ้นรถเมล์ รถประจำทาง ผมลุกให้ผู้หญิง เด็ก คนชรา นั่งเสมอ แต่คนรอบข้างบางครั้งมองเป็นเรื่องประหลาด ผมเข้าแถวเป็นปกติ พอมีคนมาขอแทรก ผมไม่ให้ ก็โดนด่า(เป็นปกติ) ผมหยุดรถให้ทางคนข้ามทางม้าลาย ผมโดนรถคันหลังด่า (เป็นปกติ) ผมถูกถามเวลาหยุดให้คนข้ามถนนที่ทางม้าลาย เหมือนเป็นเรื่องประหลาด ผมว่า เราค่อยๆช่วยกัน มาทำเรื่องปกติให้เป็นเรื่องประหลาด แล้วมาทำเรื่องประหลาด ให้เป็นปกติกันก่อนดีกว่านะ จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 12:14:02

ความคิดเห็นที่ 40 เริ่มที่ตนเองนั่นแหล่ะดีแล้ว แล้วอย่าให้คนไร้วินัยมาเอาเปรียบได้ง่ายๆ เดี๋ยวนี้พวกชอบกลับรถเลน 2 ผมอยู่ข้างในจะกั๊กๆ ไม่ให้มันไปได้ครับ พยายามหน่อย ไม่งั้น นิสัยเสีย ไอ้พวกนี้ จากคุณ : กะต่อ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 12:43:18

ความคิดเห็นที่ 41 วินัยสร้างคน คนสร้างชาติ ทุกท่านที่ชื่นชมความมีวินัยของคนญี่ปุ่น เริ่มต้นปลูกฝังลูกหลานเราตั้งแต่วันนี้ครับ จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 13:09:36

ความคิดเห็นที่ 42 #39 ทำให้ผมนึกเรื่องนึงได้ ผมลุกให้คนแก่นั่งบนรถเมล์ แล้วถูกเพื่อนล้อ ว่า ทำเป็นพระเอก หลังจากนั้น เวลากลับกะเพื่อนกลุ่มนี้ ผมไม่ลุกให้ใครนั่งเลย เรื่องนี้ผมสนับสนุนนะครับ การมี ค่านิยมบิดเบือน นี่ส่งผลมาก จากคุณ : แล้วแต่ทางท่านจะเรียกแล้วกันนะ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 13:22:30

ความคิดเห็นที่ 43 -*- จากคุณ : -APEM เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:40:04

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับ คห.39 ครับ หลายๆครั้งการทำสิ่งที่ถูกต้องในสังคมไทย สิ่งที่ได้รับคือการถูกมองเป็นตัวประหลาดหรือเป็นไองั่ง เชื่อว่าทุกคนก็ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแหละครับว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่เมื่อโตขึ้นพอทำสิ่งที่ถูกแล้วกลับถูกมองเป็นตัวประหลาดหลายๆครั้งก็อาจทำให้หลายๆคนเลิกที่จะทำดีไปเองซะงั้น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไทยเราจำเป็นต้องมียุคที่มีคนตั้งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกมากๆ จนค่านิยมในการทำความดีแล้วถูกมองเป็นตัวประหลาดหมดไป แล้วไทยจะเป็นได้อย่างญี่ปุ่นครับ จากคุณ : Shapley เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:48:45

ความคิดเห็นที่ 45 ล่าสุดก็เพิ่งจะเจอลุงคนนึงเซ็งเราตอนจะวางของคิดเงินที่counterของsupermarket ... ก็ได้แต่พูดสะกิดเขาไปว่า ลุงจะรู้สึกยังไง ถ้ามีคนมาแซงลุงเหมือนที่ลุงกำลังแซงผมอยู่ มีระเบียบวินัยบ้างซิคับ จากคุณ : เขียนบน iPhone (TK Jr.) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 17:20:34

ความคิดเห็นที่ 46 ที่หลายๆคนบอกว่าเริ่มต้นที่ตัวเรา ใช่ครับ  แต่ในบางครั้งก็จะรู้สึกได้ว่าเราเป็นส่วนน้อยในสังคม  คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นแบบเดิมๆ  แล้วเราก็จะโดนเอาเปรียบทุกที  พอเราไม่ยอมให้เอาเปรียบ ก็โดนมองด้วยสายตาแปลกๆ  ถูกหาว่าไม่มีน้ำใจบ้างหละ ฯลฯ #24 คิดเหมือนกันครับเรื่องลูก    ผมมักจะสอนให้ลูกมีระเบียบวินัยและมารยาทสังคม  แต่เวลาออกไปนอกบ้าน  เจอลูกคนอื่นที่พ่อแม่อาจจะไม่ได้สั่งสอน  เอาเปรียบ  แซงคิว แย่งของเล่น ฯลฯ แล้วลูกผมก็ดันไม่สู้คนซะอีก หลังๆผมเลยสอนว่าเราไม่ไปแซงคนอื่นไม่ไปเอาเปรียบคนอื่น  แต่ถ้าเราโดนคนอื่นแซง  โดนคนอื่นเอาเปรียบก็อย่ายอม ให้สู้ สังคมไทยมันเป็นสังคมที่ไม่เอื้อให้คนที่ทำตามกรอบตามกฏเกณฑ์ครับ  เพราะคนส่วนใหญ่เป็นพวกไม่เคารพกฏ ชอบเอาเปรียบคนอื่น  ถึงคุณไม่เอาเปรียบใคร  แต่สุดท้ายคุณก็จะโดนเอาเปรียบอยู่วันยันค่ำ เหมือนที่ #39 บอกไว้หละครับ  ผมก็โดนเหมือนกันเด๊ะ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 17:24:46 จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 17:22:21

ความคิดเห็นที่ 47 คิดว่าเป็นเพราะคนในสังคมเราทำให้เป็นตัวอย่างกันเองนะ คนไทยไปอยู่บ้านเมืองอื่นมีวินัยดี คิดและทำเหมือนพลเมืองของประเทศนั้นออกถมเถ คนเมืองอื่นที่ว่าวินัยดี มาไทยชุ่ยตามเราก็เคยเห็น จากประเทศข้างบ้านนี่เอง มาเที่ยวอำเภอหาดใหญ่ ยืนฉี่ใส่ล้อรถซึ่งจอดอยู่ริมถนน แล้วพูดกันเองว่าอยู่เมืองไทยอยากทำอะไรก็ได้ บังเอิ๊ญ เจ้าของรถนั่งโซ้ยข้าวอยู่ตรงฟุตปาทหน้าร้านข้าวต้นข้างรถของตัวเอง กรึ่มพอกันทั้งไทยและเทศ จึงเตะเจ้านั่นเข้าให้  แล้วตอบว่า อยู่เมืองไทยอยากเตะใครก็ได้! จากคุณ : anthurium เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 18:45:26

ความคิดเห็นที่ 48 อย่าว่าวอย่างนู้นอย่างนี้นะ นินทามหาลัยตัวเองหน่อยคณะตัวเองหน่อย คือที่โรงอาหารเนี่ยเค้าจะมีการปลูกผังนะเวลากินเสร็จแล้วเนี่ย กรุณาช่วยเอาไปวางไว้ในที่เก็บจานด้วย เริ่มมีนโยบายนี้มานมนานกาเลแล้ว ก็นะอย่างว่าบางคนนะกินเสร็จแล้วไม่ยอมเก็บละให้คนทำความสะอาดหรือคนร้านข้าวมาเก็บมันยังไงอยู่นะ โรงอาหารคณะตัวเองแท้ๆไม่เก็บ แต่พอไปกินอีกฝั่งหนึ่งหรืออีกอีกคณะคุณเอ๋ยก็เก็บเป็นเรียบร้อยทีเดียว ไม่รู้สิคณะตัวเองไม่ทำแต่คณะอื่นทำ เออแปลกดี จากคุณ : เรียวมาโต เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 19:25:18

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเห็นตรงกันข้ามกับ คคห. 6 เลยครับ ผมมองว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนมุ่งมั่น ทำอะไรไม่ย่อท้อ โดยผมเชื่อว่ามนุษย์แทบทุกคน ไม่ว่าอยู่ประเทศใด ต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีอยู่แล้วครับ ปัญหาของบ้านเราและอีกหลายๆ ประเทศ ก็คือ คนดี มักจะ ย่อท้อ น้อยใจ เมื่อพบว่าทำดีแล้วไม่ได้รับผลดีตอบแทน แต่คนญี่ปุ่นไม่เป็นเช่นนั้นครับ คนที่ทำดี รู้ตัวว่าทำถูก ก็พยายามทำต่อไปโดยไม่ย่อท้อ ที่ญี่ปุ่น ความคิดแบบ จขกท. จะเกิดขึ้นได้ยากกว่าบ้านเรามากครับ เพราะเขาจะทำดี ทำดี ทำดี ทุกวัน ไม่เคยบ่น ไม่เคยเกี่ยง (ไม่ว่า จขกท. นะครับ เพราะผมก็เป็น และเชื่อว่าคนไทยหลายๆ คนเเป็น) เคยเห็นข้าราชการที่โกงกิน หรือคนทำผิดกฎหมายไหมครับ เขาอ้างว่า "ถึงทำดีไปก็ไม่ได้ และอะไรเพราะคนอื่นทำไม่ดีแล้วไม่เป็นไร เขาถึงทำบ้าง" ผมเชื่อว่าสุดท้ายถ้าคนดีทำดีไม่ย่อท้อ ประเทศชาติก็จะดีขึ้นมาเองครับ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 19:25:42

ความคิดเห็นที่ 50 ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา  เราเข้าคิวทุกครั้งเวลาซื้อของหรือขึ้นรถ  และเป็นคนที่ติดปาก ขอโทษและขอบคุณทุกครั้งที่มีคนทำอะไรให้   ใครไม่ทำเราก็มุ่งมั่นจะทำ   ทำดีไปเรื่อย ความดีมันจะถมขึ้นมาเอง   เชื่อว่า ถ้าคนอื่นเค้าเห็นเราทำ เค้าจะละอายเอง  คิดแบบนี้จริง ๆนะ จากคุณ : Tzarina เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 20:01:54

ความคิดเห็นที่ 51 คิดว่าคนไทยหลายคนก็มีระเบียบวินัยดีเหมือนคนญี่ปุ่นนะคะ แต่เมื่ออยู่ในสังคมที่คนหมู่มากไร้ระเบียบ ก็ทำให้คนส่วนน้อยต้องปฏิบัติตามไปด้วย เช่นเดียวกับคนญี่ปุ่นที่ก็มีคนขาดระเบียบวินัยเหมือนกัน แต่เป็นเพราะอยู่ในสังคมที่คนหมู่มากมีระเบียบ พวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามสังคมเช่นกัน อย่างการขับรถในเลนคร่อมกัน ถ้าเป็นชาติที่มีระเบียบวินัย ก็จะผลัดกันไปทีละคัน แต่เราเคยทำที่เมืองไทย พอเราหยุดเพื่อให้คันหนึ่งไปก่อน แต่ปรากฏว่ามีอีกห้าหกคันรีบขับตามต่อท้ายรถคันนั้นไปเรื่อยๆ จนเราไปไม่ได้ แถมยังถูกรถคันหลังเราบีบแตรไล่อีกด้วย ถ้าเราไม่หยุดเสียแต่แรก เราก็กลายเป็นคนในสังคมส่วนใหญ่ อะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากเเปลี่ยนสังคมไทย เริ่มจากเราที่ไม่ทำตามสังคมส่วนใหญ่ค่ะ ต้องยืนหยัดและอดทน เช่นไปซื้อน้ำในฟูดคอร์ต ซึ่งไม่มีแถว เรายืนรออยู่ แล้วก็มีคนเพิ่งเดินมาถึงสั่งซื้อก่อนโดยไม่มองว่าเรามาก่อน พอคนนี้ไป อีกคนมาก็ทำเหมือนกันเป๊ะ เราไม่โกรธ แต่ยืนรอต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม (เหมือนคนโง่นะ) จนหลายคนผ่านไป น้องคนขายคงเห็นยายนี่ยืนนานแล้วมั้ง ก็เลยหันไปบอกคนมาใหม่ว่าจะขายให้เราก่อน  ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกดีและไม่เสียสุขภาพจิตด้วย จริงๆ นะ ไม่เชื่อลองทำดูสิ แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 22:37:46 แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 22:14:34 จากคุณ : นังแต๋น เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 22:12:24

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเซ็งเหมือนเจ้าของกระทู้เหมือนกันนะครับ แ่ผมคิดว่านะครับมันต้องเปลี่ยนความคิดของคนน่ะครับ 1. เป้าหมายของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้คือ ทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินเยอะๆ ไม่ก็ขอให้มีอำนาจ หรือไม่ก็สองอย่างเลย ถ้ามีสองอย่างนี้แลัวจะเป็นคนดี 2. พอทำไงก็ได้ให้ มี เงิน อำนาจ อย่างอื่นไม่ต้องไปสนใจ เลยทำให้เราเห็นแก่ตัวกันไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน 3.ก็ในเมื่อคนที่ทำผิดทีีเห็นๆกันอยู่ไม่เคยโดนลงโทษ แล้ว...ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ทำดีเพื่ออะไร ทำไปแล้วไม่ได้ดีใครจะทำ ทำงานแล้วไม่ได้เงินเดือนใครจะทำ ถึงแม้ว่าทางธรรมบอกว่าทำดีมันก็ดีอยู่แล้วตอนทำ แ่ต่ที่เราทำดีก็เพื่อที่จะเห็นสังคมไทยดีขึ้นไม่ใช่หร๋อครับ ทำอยู่คนเดียวแนวโน้วความเป็นไปได้แทบไม่เห็น......ใครจะทำ 4.ผมเคยไปอยู่ที่ประเทศอื่นมาซักพัก ความเป็นระเบียบวินัยไม่แพ้ญี่ปุ่นเลยครับ พอกลับมาบ้านแถบไม่อยากอยู่เลยครับ(และก็ไม่ได้อยู่จริงๆ) คำว่ากฎระเบียบ ระเบียบวินัยที่ทั่วโลกให้กัน มันเท่ากับคำไทยที่ว่า อลุ่มอล่วย ผ่อนปรน ผ่อนผัน ตกลงกันได้ แล้วมันจะไปเหมือนเค้าได้ยังไงง่ะครับ 5.ความคิดที่ว่า ขับรถแพง รถหรู แต่งตัวดี แล้วจะ้ต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์ สุจริตต้องหายไปจากความคิดคนไทยน่ะครับ กับการที่คิดว่าเปลือกขอลผลไม้สำัคัญกว่ารสชาติและเนื้อข้างใน การศึกษาที่เท่าเที่ยมเป็นทางออกทางเดียวน่ะครับผมว่านะ จากคุณ : ทำใจครับ :) (Dipl-SS) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 15:38:18