ความคิดเห็นที่ 1 ดูนักการเมืองที่ชาวบ้านเขตที่นั่นเลือกก็พอประเมินได้ครับ จากคุณ : ลุงเต่า เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 23:41:34

ความคิดเห็นที่ 2 ดูแล้วมันน่าคิดว่าทำไมคนไทยหลายส่วนในประเทศถึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มีใครจงใจให้พวกเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ หรือเปล่า เพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ? จากคุณ : tomorrow night เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 54 23:51:08

ความคิดเห็นที่ 3 ศาสนา ก็เข้าไม่ถึงด้วย จากคุณ : แล้วแต่ทางท่านจะเรียกแล้วกันนะ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 00:12:45

ความคิดเห็นที่ 4 คนฉลาด ปกครองยากครับ จากคุณ : เด็กวัดสะพานใหม่ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 00:28:37

ความคิดเห็นที่ 5 วิทยาศาสตร์ไม่ได้อธิบายได้ทุกอย่างครับ หลายอย่างในธรรมชาติยังไม่ถูกค้นพบ (หรืออาจจะไม่เคยถูกค้นพบ) จึงมีช่องว่างสำหรับ ความเชื่อ ครับ จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 00:57:57

ความคิดเห็นที่ 6 ตนเรามองคนละมุม คับ มากคนก้อหลากหลายแง่มุมจะให้มองแต่มุม วิทยา อย่างเดียว ก้อไม่ นุก สิ จำเจ ตาย เรย มากคนก็มากความ ชิมิ จากคุณ : มะแยชิมิ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 00:59:49 A:124.121.74.100 X: TicketID:301600

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นวัฒนธรรมครับ บางคนไป เค้าก็ไม่เชื่อหรอกครับ ไปเอาสนุกๆ งั้นๆเองแหละ จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 01:11:55

ความคิดเห็นที่ 8 บางประเทศที่ดูจะเป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์จ๋า เค้ายังสาบานต่อพระเจ้า เวลาจะทำอะไรที จะรับตำแหน่งที ศาสนา ความเชื่อ ศรัทธาต่อพระเจ้า และสิ่งศักดิสิทธ์ ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์บัณฑิต มหาบัณฑิต  ตั้งหลายคน ที่ยกมือไหว้ ศาลเพียงตาตรงโค้งๆต่าง ที่ผูกผ้าสี จากคุณ : master foo bar เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 01:52:25

ความคิดเห็นที่ 9 เค้าทำไปมีเหตุผลครับ.... ไม่ใช่ชาวบ้านจะโง่นะ... ปอยที่โดนไล่ไปน่ะ มีที่ดินถือครองทั้งนั้น ไล่ไปแล้วก็แบ่งกันจับจองในหมู่คณะ.... ปอบกลับมาทวงที่ไม่ได้ ยึดครองให้ครบกำหนดเวลาก็ได้ที่ดินถูกต้องตามกฏหมาย บ๊ะ... อะไรจะสะดวกโยธินเช่นนี้ จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 02:00:27

ความคิดเห็นที่ 10 โทษนะครับ เห็นห้องนี้ชอบพูด "ความจริง" ขอเอาความจริงในเวอร์ชันของผมบ้างนะ IQ ของแต่ละประเทศ singapore 108 HongKong 108 Korea 106 Japan 105 China 105???? คนโดนปิดกั้นยิ่งกว่าเรา โดนกดยิ่งกว่า แต่คนยังไอคิวศูงและพัฒนาแบบก้าวกระโดด Taiwan 105 Italy 102 Germany 101 Mongolia 101????? ขนาดระบบการศึกษาไม่ดีเท่าเราคนยังไอคิวศูง Vietnam 96 ... ... ... ... Thailand 91 (เหมือนจะสูงนะครับ แต่ตัวเลขนี้ รวมเอาค่าของคนไทยเชื้อสายจีนด้วย ถ้าตัดคนไทยเชื้อสายจีนออกไป ค่าเฉลี่ยคงลดลงเหลือ 80 ต้นๆ สูงกว่าพวกแอฟริกานิดเดียว IQ ขนาดนี้แข่งขันไม่ได้ในทุนนิยมครับ) อย่าไปโทษใครเลยครับ มันอยู่ในยีนส์นี่แหละ เกิดมามีไม่เท่าเค้าแล้วยังไม่พัฒนาตัวเอง งมงายอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ โทษนั่นโทษนี่ คุณภาพคนตกต่ำ ก็อย่าได้เจริญเลยครับ จากคุณ : เห็นชอบความจริงกันน่ะ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 02:02:10 A:139.168.113.92 X: TicketID:271337

ความคิดเห็นที่ 12 #10ไม่เีกี่ยวกับเชื้อสายจีนหรอกครับ เกี่ยวกับการศึกษาและวิธีคิด ผมเคยพูดเรื่องแบบนี้ให้ นศ ที่จังหวัดแห่งนึงฟัง ที่เค้าเชื่อเรื่องบั้งไฟแบบสุดกู่ ว่ามาจากพญานาค เค้าเถียงแบบหัวชนฝา ปกป้องบ้านเกิด ไม่อยากให้คนนอกว่าคนบ้านตัวเองไม่ฉลาด .... แต่กลับทำตัวงี้อะนะ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 05:43:27

ความคิดเห็นที่ 13 ลากไปการเมืองได้ แล้วก็ให้กิ๊ฟกันใหญ่  แล้วประเทศชาติก็เจริญ? จากคุณ : บ่าวจ่อย เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 07:44:17

ความคิดเห็นที่ 14 "คนตายไปหลายคน แทนที่จะส่งพิสูจน์ว่าเพราะอะไร มีโรคระบาดไหม" ที่จริงเมื่อมีคนตายจะต้องแจ้งให้ทางการรู้ภายใน 24 ชั่วโมง  ยิ่งมีตายติดต่อกันหลายศพและตายไม่ทราบสาเหตุ  เข้าใจว่าทางการจะต้องเข้าไปตรวจสอบ  แต่หาสาเหตุไม่ได้ จึงอาจลงความเห็นเป็นหัวใจวายครับ เมื่อคนในหมู่บ้านหัวใจวายไปหลายคน  ผู้คนก็ต้องหวั่นไหว และวิสัยปุถุชนก็ต้องคิดหาวิธีป้องกัน วิธีการณ์แปลกจึงเกิดขึ้นครับ   ดังนั้น จึงมีบางหมู่บ้านอาจทำศิวะลึงค์ทาหัวสีแดงแขวนไว้หน้าประตูบ้าน  หรือบางหมู่บ้านก็ทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่  หรือบางหมู่บ้านก็ทำพิธีไล่ผีจับปอบครับ   เมื่อทำแล้วการตายแบบนี้หายไป คงมีตายเพราะการเจ็บป่วยหรือตามอายุขัยเท่านั้น จึงทำให้ชาวบ้านก็สบายใจครับ คิดว่าที่ชาวบ้านทำอย่างนี้  เพราะมีเหตุการตายเกิดขึ้น หากจะไม่ให้เขางมงาย พอจะมีวิธีใดชี้แนะเขาบ้างครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 07:49:42

ความคิดเห็นที่ 15 ก็เมื่อปัญหามันเกิดขึ้น ไม่มีวิทยาศาสตร์หน้าไหนเสนอตัวไปแก้ให้ เขาก็ต้องแก้กันไปตามมีตามเกิด จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 08:33:45

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ แล้วชาวบ้านเคยเชื่อที่หมอพูดมั่งป่ะ.... เห็นเชื่อแต่หมอผี แล้วเลิกไปหาหมอโรงพยาบาล.... จากคุณ : Mikegelo เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 11:03:54

ความคิดเห็นที่ 17 นับถือผี ไหว้ผี หรือ เชื่อเรื่องผี ยังไม่เท่า โทษผีครับ จากคุณ : polyodon เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 11:39:36

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นประเพณีและความเชื่อครับ เรื่องความเชื่อนี่ มีทุกประเทศแหละครับ ญี่ปุ่นนี่สารพัดผีเลย ให้ใหม่หน่อย สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ก็มี ความเชื่อไม่ใช่สิ่งเสียหาย ถ้าไม่นำมาหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ หรือทำร้ายใคร GT200 ผู้มีการศึกษาทั้งหลายยังเชื่อกันเป็นวรรคเป็นเวร คุณว่าใครโง่กว่ากัน ระหว่าง  คนเชื่อเรื่องแกว่งไม้ไล่ปอบ กับ คนที่บอกว่าGT200 ใช้งานได้จริง จากคุณ : ผู้นอบน้อม เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 12:43:33

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นเค้าว่าเพราะคนไทยเจริญทางจิตใจครับ ไม่รู้จิตใจส่วนไหนนะ จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 14:07:17

ความคิดเห็นที่ 20 ความเชื่อเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมครับ เพราะคนเราเคยกลัวและยำเกรงต่อธรรมชาติในหลายๆ ปรากฏการณ์ที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ดังนั้นคนเราจึงต้องนอบน้อมต่อธรรมชาติ เกิดเป็นพิธีกรรมขึ้นมาในแต่ละพื้นที่ แม้ทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์จะสามารถอธิบายได้หลายปรากฏการณ์แล้วก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องล้มเลิกพิธีกรรมและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมานี่ครับ ยกตัวอย่างเช่น ชาวเขาเผ่าอีก้อมีตำแหน่งแม่หมอประจำเผ่า คนที่เป็นแม่หมอจะแต่งตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ เครื่องแต่งกายนั้นสงวนไว้สำหรับตำแหน่งแม่หมอเท่านั้น ต่อให้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าแม่หมอเป็นของเก๊ เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำลายวัฒนธรรมของเค้านี่ครับ ไม่งั้น ชุดแม่หมอที่เป็นเอกลักษณ์นี้ก็จะสาปสูญไปตลอดกาลสิครับ ถ้าเราจะต้องยอมรับวิทยาศาสตร์แล้วสูญเสียวัฒนธรรมไป ผมว่ามันไม่คุ้มอ่ะครับ เอาเป็นว่าก็ให้อยู่ด้วยกันไปอย่างนี้แหละครับ วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์กันไป ความเชื่อวัฒนธรรมก็อยู่กันไปอย่างนี้แหละ ดูอย่างญี่ปุ่นดิครับ เทคโนล้ำหน้าขนาดนั้น แต่วัฒนธรรมทางความเชื่อเค้าก็เพียบ เพราะประเทศเค้ามีประวัติศาสตร์ยาวนาน จากคุณ : พ่อหมอเผ่าม้ง (Sith Lord Nindle) เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 16:24:10

ความคิดเห็นที่ 21 จาก #10 น่าสนใจเรื่อง IQ เฉลี่ยแต่ละประเทศ ผมลองไป search ดู เห็นข้อมูลจากหนังสือเล่มนึง ที่ใกล้เคียงกัน  เป็นหนังสือปี 2002 (ไม่รู้ปัจจุบันคนไทยจะเหลือไอคิวเท่าไร....) http://en.wikipedia.org/wiki/IQ_and_the_Wealth_of_Nations ข้อสังเกตคือ 5 อันดับแรกเป็นประเทศในแถบเอเชียที่มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากๆในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา ข้อสังเกตอีกอย่างคือ  ประเทศที่มีความแตกต่างของคนในสังคมมากๆ บางประเทศดูเหมือนน่าจะมีไอคิวเฉลี่ยสูง แต่ก็กลับไม่สูงอย่างที่คิด..เพราะประชากรส่วนที่ไอคิวต่ำดึงค่าเฉลี่ยลง จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 16:29:25

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเห็นตอนเด็กๆครับ แถวบ้านนี่แหละ บอกยายว่าเป็นอุปทานหมู่อธิบายได้ทางวิทย์ ก็โดนดุซะงั้น เด็กผู้ชายวัยรุ่นทาเล็บแดงกันทั้งหมู่บ้าน จะมีผมคนเดียวนี่แหละที่ไม่ทา แถมท้าด้วยว่าแน่จริงมาเอาไป ปัจจุบันนี้ก็มีชีวิตแฮปปี้ดี น่าสงสารเพื่อนบางคนในรุ่นเดียวกันเค้าบอกว่าแค่อยากให้ทางบ้านสบายใจ จากคุณ : ผมไม่เกี่ยวผมมาซื้อลูกชิ้น เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 18:29:29

ความคิดเห็นที่ 23 ความเชื่อเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกมานานและมีเหตุมีผล ความเชื่อจะนำไปสู่ความศรัทธา และหากใช้ปัญญาประกอบกับมีสติก็จะส่งผลให้มีชีวิตที่ดีเพราะมีความเชื่อความศรัทธาในทางดี เช่น เชื่อในพระพุทธศาสนา เชื่อในเรื่อง เทพเจ้า เชื่อในเรื่องพระโพธิสัตว์ เป็นต้น ความเชื่อเหล่านี้จะส่งเสริมให้ประกอบแต่กรรมดี ผิดกับความเชื่อที่ขาดปัญญาที่ย่อมจะนำไปสู่ความงมงายและศรัทธาที่มืดบอด ซึ่งการเชื่อโดยขาดสติ จะส่งผลร้ายจนทำให้ชีวิตพินาศ เนื่องจาก ความเชื่อโดยขาดสติ ขาดปัญญา จะนำไปสู่อวิชชา (ความไม่รู้) เพราะความไม่รู้นี่เอง อาจหลงไปประกอบกรรมชั่ว กรรมไม่ดีได้ เช่น เชื่อในเรื่องคุณไสย เชื่อในเรื่องผีสาง นางไม้ เทวดา เป็นต้น อย่างที่ทราบกันดีในหมู่คนที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หรือ ไสยเวทย์มนต์ดำทั้งหลายแหล่ ว่่าจะทำให้คุณให้โทษได้ ซึ่งผู้ที่ประกอบพิธีกรรมเหล่านี้ จะต้องรักษากาย วาจา ใจ ให้มั่นคง เพราะถ้าผิดไปจากข้อตกลงหรือหลักปฏิบัติก็จะส่งผลร้ายให้ชีวิตพังพินาศได้ เช่น บางคนที่ทำพีธีเล่นของจะมีหลักปฏิบัติหลายประการ ถ้าปฏิบัติได้รักษาได้ ก็จะพบแต่สิ่งดี แต่ส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติไม่ได้ จึงกลายเป็นผิดข้อตกลง เสมือนว่าไปยืมของเขามาแล้วไม่เอาคืน เขาจึงให้โทษ เช่น ของเข้าตัว เป็นต้น เพราะฉะนั้น ความเชื่อในเรื่อง ผีสาง เทวดา ต้องบอกว่า มีจริง เพียงแต่เราสัมผัสไม่ได้ และการไปประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้โดยที่เราไม่มีบารมีหรือมีความรู้เพียงพอ จะกลายเป็นโทษได้ เพราะความไม่รู้นั่นเอง เพราะฉะนั้น กรณีผีปอบ ในภาคอีสาน ตามที่ยกมานั้น ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่คนปุถุชนไปยุ่งกับเรื่องเหล่านี้ ไปยุ่งกับผีสางสัมภเวสีซึ่งการอยู่ตามวิบากก็ทรมานพออยู่แล้ว หากเราไปยุ่งก็เท่ากับเอาเวรไปผูก เขาก็ให้โทษได้ เรื่อง ผีปอบ จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ไสยเวทย์อย่างแท้จริง แต่ผีปอบ ในปัจจุบันนั้น ต่างจากในสมัยก่อน เพราะโดยมาก เป็นเรื่องที่กุขึ้นเป็นอุปทานเพราะความเชื่อที่ฝังรากลึก เนื่องจาก สัมภเวสี ถ้าไม่ไปยุ่ง ไปเบียดเบียน เขาก็จะไม่สามารถให้โทษให้คูณแก่เราได้ ยกเว้น จะมีผู้มีวิชาพอที่จะไปกระทำกับเขา ซึ่งปัจจุบัน เห็นว่า คงไม่มี หรือมีน้อยมาก ด้วยเหตุที่คนบางกลุ่มที่มีความเชื่อผิดๆที่ฝังรากลึก โดยที่ไม่รู้ว่า อะไรจริง อะไรหลอก จึงย่อมถูกหลอกเป็นเหยื่อของเหล่ามิฉาชีพได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น พระปลอม หรือ หมอผีปลอม ที่ทำพิธีมั่วๆ ก็ไม่มีทางเรียกวิญญาณ หรือ จะบังคับให้ผีมาให้คุณให้โทษได้ แต่ประกอบพิธีเจตนาเพื่อเรียกเอาทรัพย์ นั่นเอง จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 12:29:24

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ #14           ลองมองในมุมของเขาบ้าง      เราเองก็เถอะเวลากลัว แล้วขาดที่พึ่งพิง จะทำกันยังไง      อีกหน่อยถ้าหากเราแก้ไขปัญหาได้เด็ดขาดแน่นอน        เรื่องแบบนี้ก็อาจกลายเป็นการละเล่นไปแทน จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 21:27:27

ความคิดเห็นที่ 25 เค้าก็อยู่แบบนี้กันมาตั้งแต่เรายังไม่เกิดแล้วนะ ก็ยังอยู่กันได้ ไม่ใช่วัฒนธรรมเหล่านี้หรอกเหรอ ที่ผลิตคนรุ่นใหม่อย่างพวกเราขึ้นมาเนี่ย จากคุณ : Riinola_LOVE_BK เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 22:28:32

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วในเมืองหลวงล่ะ? ปีก่อนนู้น มีคนมาทุบศาลพระพรหม ชาวบ้านแถวนั้นไปรุมกระทืบคนทุบจนตาย ทั้งๆที่การทำลายทรัพย์สินไม่มีโทษถึงตาย เทียบกับการไล่ล่าปอบ ต่างกันตรงไหน? ชาวบ้านไหว้ผีป่า ไหว้เจ้าป่าเจ้่าเขา ขอให้ผลผลิตดี ขอให้ถูกหวย คนเมืองหลวง ไหว้เทพ เทวดา ศาลเจ้าชื่อดัง บนบานศาลกล่าว ขอให้ได้งาน ขอให้สอบติด ขอให้ขายของได้ ฯลฯ มันต่างกันตรงไหน? หรือว่า แค่ความเชื่อ ยังมีแบ่งชนชั้น? จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 16:31:55