ความคิดเห็นที่ 1 ...       ติดไว้ฝั่งเดียวกันใกล้ช่อง Return Air(ช่องลมกลับ) เนื่องจาก Air จะ ดึงอากาศภายในห้องกลับเข้ามาเพื่อทำความเย็นอีกครั้ง ถ้าติดพัดลมดูด อากาศไว้ใกล้ช่อง Return Air จะทำให้การไหลของอากาศมีทิศทางเดียว กันอากาศไหลออกจากห้องได้ง่ายและเป็นอากาศที่มีความเย็นน้อยทำให้ สิ้นเปลืองพลังงานน้อยลง        ในกรณีที่ไม่สามารถติดไว้ใกล้กับแอร์ได้ ก็ให้ติดบริเวณที่อับลมที่สุด ในห้อง       ไม่ควรติดไว้ฝั่งตรงข้ามกับแอร์ตรงๆ เนื่องจากอากาศที่ทำความเย็น มาใหม่ๆ จะถูกดูดออกทิ้งไปทันที ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และ การนำ อากาศกลับมาทำความเย็นอีกครั้งของ Return Air จะไม่สามารถดึงลม จากทั้งห้องกลับมาได้ ทำให้การถ่ายเทความเย็นไม่ทั่วถึง                                                                                                         ++ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 06:37:58 จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 06:16:57

ความคิดเห็นที่ 2 ...     ตำแหน่งช่องลมกลับ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 06:47:29

ความคิดเห็นที่ 3 นับว่าเป็ความรู้ครับ..คุณสองนิ้วชี้ ผมขอถามซักข้อครับ แล้วบ้านผมมีแอร์ แต่ไม่มีพัดลมดูดอากาศเป็นไรป่าวครับ จะเจาะรูอีกมันก็ยุ่งยากนะครับ จากคุณ : ... (ไทรโยคซาวด์) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 06:49:32

ความคิดเห็นที่ 4 ...          เรียนท่าน ไทรโยคซาวด์ คือข้อนี้ผมไม่กล้าตอบจริงๆ ครับ ลองอ่านการ ทดลองของผมแล้วพิจารณาดูเองครับ ว่าจะติดหรือไม่ติด . Air&Ventilation      ตามจริงมันก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อนนะครับ ผมเองก็เรียน Air&Ventilation แต่ไม่กล้าให้ความเห็นออกสู่สาธารณะชนครับ       ท่าน log in ลูกจ้างดีเด่น ก็เคยขอให้คนที่เรียนมาออกมาพูดเรื่อง นี้ ผมเองก็ดูหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่กล้าออกความเห็น ต้องขอโทษจริงๆ      เพราะหลักการทาง Air&Ventilation กับ กลศาสตร์ของการหายใจ มันไม่สอดคล้องกันครับ ตอนเรียนก็ทำคะแนนให้มันจบๆไป เพราะเคย เถียงกับอาจารย์และก็หลายคนแล้ว การทำความเย็นต้องเผื่อความร้อน ของ fresh air  10-15% ที่เข้ามา ก็หมายความว่าต้องมีการระบายอากาศ แต่ในการใช้ อ๊อกซิเจนของคนที่นอนมันได้มากขนาดนั้น           มาดูกลศาสตร์ของการหายใจบ้างดีกว่า      การระบายอากาศเข้าออกต่อนาทีเรียกว่า ปริมาตรหายใจต่อนาที (minute respiratory volume) มีหน่วยเป็นลิตร = ปริมาตร หายใจเข้าหรือ ออกต่อครั้ง x อัตราหายใจ = 500x 12 = 6  ลิตร/นาที       นั่นคือการหายใจโดยดูจากปริมาณลม แต่จริงๆแล้ว เราหายใจเข้าไป ก็ไม่ได้ใช้ อ๊อกซิเจนทั้งหมด (ไม่อย่างนั้นเราจะผายปอดช่วยคนจมน้ำได้ อย่างไร) ดังนั้น ต้องดูที่อัตราการใช้ อ๊อกซิเจนจริงๆ       ในคนปกติอากาศถุงลมจะให้ออกซิเจนแก่เลือด  250 ลูกบาศก์ เซนติเมตร/นาที        และก็อย่าลืมว่า เราต้องคาย คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ออกมาด้วย คาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากเลือด อัตรา 200 ลูกบาศก์เซนติเมตร/นาที        ถ้าสมมุติว่าห้องนอนมีขนาด 3mx3mx2m ละก็ จะมีอากาศ       = 18 (cu. meters) = 18 000 000 cu. centimeters แต่ในอากาศมี อ๊อกซิเจนเพียง 20.9% ดังนั้น        =18 000 000 * (20.9%) = 3 762 000 cu. centimeters แต่เราต้องใช่ อ๊อกซิเจน ต่อ 8 ชั่วโมงของการนอน        = 250 * 60 * 8 = 120 000 cu. centimeters และคาย คาร์บอนได้ออกไซด์ ต่อ 8 ชั่วโมงของการนอน        = 200 * 60 * 8 = 96 000 cu. centimeters ดังนั้น จะเห็นได้ว่า จนถึงเช้าถ้าไม่ fresh air  เข้ามาเลย เราก็ยังเหลือ อ๊อกซิเจนเพียงพอ        3 762 000 - 120 000 - 96 000 = 3 546 000 cu. centimeters        สำหรับ effect อื่นๆ เช่น อากาศไม่หมุนเวียน ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะ แอร์จะดึงอากาศภายในห้อง กลับไปที่เข้า Return Air อีกเพื่อทำความเย็น ดังนั้น การหมุนเวียนอากาศภายในห้องก็มี     สำหรับ ท่านที่นอนกับพื้น และ คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ซึ่งหนักกว่าจะตก ลงกับพื้นใกล้ที่นอน แล้วหายใจกลับเข้าไป ก็ไม่เกี่ยว เพราะอากาศมีการ หมุนวน ก็ไม่เกี่ยว     สรุปว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่า จะต้องติดพัดลมระบายอากาศ หรือไม่    สำหรับความเห็นส่วนตัว จากการทดลองจริง โดยติดพัดลม 5นิ้ว(พัดลม ดูดแบบ 6 ใบ) 1 ตัวบริเวณหัวนอน และใช้ Timer ควบคุมให้ทำงาน ทุกๆ 1 ชั่วโมง ทำงาน 15 นาที    สรุปผลการทดลอง รู้สีกนอนเต็มอิ่มสดชื่นดี กว่า ไม่เปิดตัวระบาย        Uncertainty  คือ อุปทาน                                                                                                         ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 07:09:43

ความคิดเห็นที่ 5 ...       ที่ห้องนี้ เคยมีช่างไฟฟ้าท่านหนึ่งคุยกับผมครับ ท่านมีเครื่อง Oxygen Sensor สามารถวัดจำนวนอ๊อกซิเจนได้ครับ       หลังจากที่ผมรายงานผลการทดลองตามข้างบนไปแล้ว ท่านก็เลยให้ความสนใจ ครับ เข้ามาคุยและก็เลยทำการทดลองคืนหนึ่ง โดยการนอนปิดห้องสนิทและเปิด เครื่อง Oxygen Sensor เครื่องก็จะทำการบันทึกค่าและPlot กราฟออกมาครับ โดย ก่อนนอนนั้นท่านถ่ายภาพตัวเลขอ๊อกซิเจนจากเครื่องมือแล้วก็นำมาลงให้ดูครับ        พอวันรุ่งขึ้นท่านก็ถ่ายภาพตัวเลขจำนวนอ๊อกซิเจนที่เครื่องอีกครั้ง แล้วนำเอา มาลงให้ดู พอเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้ว จำนวนอ๊อกซิเจนที่ใช้ไปต่อคืนหนึ่ง มันใกล้กันกับคำนวนมากเลยครับ เสียดายกระทู้นั้นครับ เพราะท่านเอากราฟต่างๆ ที่ทดลองได้เอามาลงเยอะมากเลยครับ พอเข้าไปค้นในคลังกระทู้ ก็หาไม่เจอ และ ท่านที่ทดลองนั้น เป็นใครก็จำไม่ได้แล้วครับ รู้แต่ว่าเป็นช่างไฟฟ้า จบจากอังกฤษ หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ อัธยาศัยดีมากๆครับ และดูจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้ามากๆ                                                                                                            ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 07:26:40

ความคิดเห็นที่ 6 ^__^ จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 08:06:30

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ความรู้มากๆ ถ้าหากผมทำบ้านจะขอรบกวน คุณสองนิ้วชี้ มาติดตั้งให้ได้มั้ยครับ จากคุณ : BaracuZ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 09:35:43

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเราหาเครื่องดูดก๊าซ CO2 มาติดในห้อง จะหายอึดอัดไม๊เนี่ย จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 10:58:58

ความคิดเห็นที่ 9 ...       ขอบคุณครับ คงรับงานนอกไม่ได้ครับ แต่ส่งแบบมาให้ดูได้ครับ เขียนแบบ ด้วยมือเปล่าคราวๆก็ได้ครับ บอกทิศตะวันขึ้นและหน้าต่างประตู เดี๋ยวคำนวนขนาด แอร์แล้วบอกตำแหน่งให้ครับ        นั้นผมบอกเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ นำไปพิจารณาเพิ่มเติมนะครับ        สำหรับยี่ห้อแอร์ ถามมาได้ครับว่าจะใช้ยี่ห้อไหนดี ส่วนการเดินท่อนั้น คงต้อง ให้ร้านตัดสินใจให้ครับ ท่อสั้นที่สุด(หรือเรียกว่าหน้าชนหลัง) ดีที่สุดครับ แต่ต้องดูด้วยว่า ทิศทางระบายอากาศของ คอลย์ร้อน(CDU) นั้นระบายได้ดีหรือไม่ เพราะน้ำยาต้องกลั่นตัวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 45 องศาC ลงมาครับ ถ้าลมระบายไม่ดี ร้อนเกินไป น้ำยาไม่กลั่นตัวกลับมาเป็นของเหลวอีกก็ทำความเย็นไม่ได้        สำหรับถ้าจะประกอบแอร์เอง (เหมือนประกอบคอมพิวเตอร์) ก็สามารถทำได้ ครับ ก็เลือกเองอย่าง คอมเพรสเซอร์ เราก็เลือกแบบเบอร์ 5 หรือสูงกว่าก็มีครับ จากนั้นก็มาเลือก Fan coil unit (ต้องทำ Matching Curve ก่อน) ก็เอาจำนวนครีบ ต่อความยาว 1 นิ้ว มากกว่า 14 ครีบก็ได้ครับ จะได้แลกเปลี่ยนความร้อนได้ดี และก็ติด Thermostat กันแอร์เป็นน้ำแข็ง จากนั้นก็เลือก Cab tube ตามขนาดของแอร์ สำหรับ Thermostat อีกตัวหนึ่งที่สำหรับควบคุมอุณหภูมิห้อง ก็ใช้ของ Honeywell และติด ไว้ใกล้กลับบริเวณที่เรานอน(ถ้าเป็นห้องนอน) จะทำให้ควบคุมอุณหภูมิที่มาถึงตัวเรา ได้อย่างแท้จริง ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป เหมือนกับ I fell control อะไรประมาณนั้น ครับ และก็มาเลือก คอลย์ร้อน หากบ้านอยู่ริมแม่น้ำ ก็เลือก คอลย์เปลือยไปเลย ไม่ ต้องมีพัดลมเป่า แล้วจุ่มคอลย์ลงในแม่น้ำเลยครับ ทั้งประหยัดไฟและก็ไม่มีเสียง เพราะน้ำในแม่น้ำอย่างไรคงไม่เกิน 45 องศาC แน่นอนครับ และก็เลือกอุปกรณ์ต่างๆ อย่าง Pressure Vale, High-Low preaasure เองครับ เพื่อป้องกัน Overload และ บำรุงรักษาง่ายครับ แล้วก็ให้ช่างรับเหมาที่จะมาติดตั้งให้ ประกอบให้เสร็จพร้อมติดตั้ง ค่าประกอบแอร์อยู่ที่ 500 บาทครับ ช่างเก่งๆประกอบก็ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครับ ค่าติดตั้ง ต่างหากขึ้นอยู่กับระยะท่อ ก็จะอยู่ราวๆ 2500 บาทขึ้นไปครับ แต่สิ่งที่ได้ก็คือ เราได้ ของดีหมดเลยครับ และราคาถูกกว่ากันเท่าตัว ในกรณีที่เลือกเองนะครับ และอุปกรณ์ ทุกตัวมีขายที่ถนนหลานหลวงก่อนถึงอนุเสาวรีประชาฯ ครับ         ส่วนระบบระบายอากาศ ก็เลือกเองดีที่สุดครับ มีในแคตตาล๊อก แต่อย่างลืมว่า พัดลมดูดต้องมีใบมากว่า 4 ใบขึ้นไปนะครับ และก็ไม่ต้องเปิดตลอดคืน ใช้ Timer ควบคุมให้ระบายทุกชั่วโมง ชั่วโมงละ 10 นาที(ขึ้นอยู่กับขนาดห้องและจำนวนผู้ อยู่อาศัย)        ก็มีประมาณนี้ครับ                                                                                                                  ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 11:31:10

ความคิดเห็นที่ 10 ...        เรียนท่าน FreeWing ครับ แนะนำเครื่องฟอกอากาศครับ แต่จะมีผลกับ คนที่เป็นภูมิแพ้ เช่นคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม บ่อยๆ นะครับ ถ้าคนแข็งแรง ปรกติ เครื่องฟอกอากาศ ไม่ได้ให้ความรู้ที่แตกต่างเลยครับ แต่คนเป็นภูมิแพ้ นี่เห็นผลชัดๆเลยครับ เคยมีลูกค้าเป็นภูมิแพ้ครับ ก็เลยลองให้ใช้ บางท่านก็ ตั้งไว้สองที่คือ ปลายเท้ากับ หัวนอนเลยครับ แต่เป็นตัวเล็กๆสองตัว ก็บอกว่า จมูกโล่งทั้งคืนครับ สำหรับลูกค้าที่มีกะตังค์ สั่งซื้อของ Denso มาตั้งไว้ในรถ เลยครับ ตัวขนาดเท่ากับกระบอกน้ำ ใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่                                                                                                        ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 11:39:49

ความคิดเห็นที่ 11 ....    กระทู้นี้ ที่จริง ตั้งที่ห้อง "ชายคา" จะดีที่สุดครับ เพราะเกี่ยวกับการก่อสร้าง บ้านพักที่อยู่อาศัยโดยตรงครับ แต่ชื่อห้องน่าเปลี่ยนหน่อยก็ดี ผู้หญิงไม่ค่อย กล้าเข้าไป                                                                                                           ++ จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 11:50:20

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณ คุณสองนิ้วชี้ มากค่ะ ได้ความรู้มากมายเลย ส่วนเรื่องตั้งผิดห้องต้องขออภัยจริงๆพึ่งมาเล่นพันทิปได้ไม่นาน จากคุณ : beansprouts.m เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 14:46:59

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ ... ไทรโยคซาวด์ จากคุณ : ... (ไทรโยคซาวด์) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 20:53:31